Share

บทที่ 533

Penulis: จิ้งซิง
เวินซื่ออดยิ้มไม่ได้ “ดี ถ้าเช่นนั้นคงต้องรบกวนรองแม่ทัพเกา ช่วยนำคำขอบคุณของข้าไปบอกท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนด้วย”

หลังจากเกาเย่าจากไป เวินซื่อก็นำจดหมายและป้ายคำสั่งอันนั้นกลับมาที่เรือนเล็กอย่างรวดเร็ว

“ใครเป็นคนส่งจดหมายมากัน? เหตุใดสีหน้าของเจ้าถึงดูแปลกๆ?”

หลินเนี่ยนฉือเอ่ยถามด้วยความสงสัย ในขณะที่รินน้ำชาอุ่นๆ ให้ใหม่

“เป็นจดหมายจากท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน”

เวินซื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้หลินเนี่ยนฉือฟังหนึ่งรอบ

หลินเนี่ยนฉือพอฟังจบก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง “ไม่สิ เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าท่าทีของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่มีต่อเจ้าดูเหมือนจะไม่ธรรมดาเลยนะ? เขาเป็นคนมีน้ำใจถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ทำไมข้าจำได้ว่าเหมือนเคยมีคนพูดว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้เกลียดชังสตรีอย่างยิ่งมิใช่หรือ?”

เวินซื่อครุ่นคิด จากนั้นเอ่ยขึ้น “อาจเป็นเพราะพวกเราเป็นสหายกันกระมัง”

“สหาย?”

หลินเนี่ยนฉือรู้สึกสงสัยและไม่เข้าใจ

เวินซื่ออธิบายอย่างคลุมเครือ “เพราะว่าก่อนหน้านี้ข้าก็เคยช่วยเหลือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนอยู่บ้าง ดังนั้น ความสัมพันธ์ก็เลยดีขึ้นมาน่ะสิ หลังจากนั้นก
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 534

    “ส่งคนไปลากพวกนางออกมาเดี๋ยวนี้!”เวินเฉวียนเซิ่งออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงโมโห เหล่าองครักษ์ที่ติดตามมาด้านหลังก็พากันก้าวออกไปข้างหน้าแต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้เข้าใกล้ฝูงชน รอบด้านก็พลันมีเหล่าองครักษ์ที่สวมชุดเครื่องแบบของแต่ละตระกูลหลายกลุ่มพุ่งเข้ามา ขวางอยู่ด้านหน้าคนของจวนเจิ้นกั๋วกงทั้งหมด“หยุดนะ ห้ามเข้าใกล้ฮูหยินของพวกเรา!”“ผู้ใดกล้าก้าวมาข้างหน้าแม้เพียงก้าวเดียว ก็อย่าหาว่าคมดาบของจวนแม่ทัพของพวกเราไร้ปรานี!”“ใครกันบังอาจเข้าใกล้คุณหนูของข้า!”องครักษ์ของจวนเจิ้นกั๋วกงมองดู ไหนจะฮูหยินจากจวนเสนาบดี คุณหนูจากจวนแม่ทัพ พี่สะใภ้ของตระกูลผู้บัญชาการทหารประจำเมือง น้องสาวของท่านขุนนางผู้ตรวจการ... และอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนเป็นสมาชิกครอบครัวของเหล่าขุนนางในราชสำนักทั้งสิ้นแบบนี้พวกเขาจะลงมือได้อย่างไร?เวลานี้ เวินเฉวียนเซิ่งที่นึกออกแล้ว สีหน้าก็พลันมืดมนลงยิ่งกว่าเดิมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขามองเห็นร่างหนึ่งที่คุ้นตาอย่างยิ่งท่ามกลางฝูงชน เขาก็พลันตวาดเสียงดังลั่น“เวินหย่าลี่!”เวินหย่าลี่ซึ่งเดิมทีใช้ผ้าคลุมหน้าปิดบังใบหน้าอยู่ พอได้ยินเสียงตวาดที่นางคุ้นเคยอย่างย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 535

    แต่คาดไม่ถึงว่า ยังไม่ทันเริ่มก็ถูกพี่ใหญ่ของนางจับได้คาหนังคาเขาเสียแล้วและต่อจากนี้ อาจจะถึงขั้นใช้งานนางให้คอยวิ่งเต้นให้อีกเวินเฉวียนเซิ่งข่มความโกรธไว้พลางกล่าวว่า “ช่างเถอะ ตอนนี้ข้าขี้เกียจจะมาต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าเรื่องพวกนี้แล้ว ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่ ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกเยวี่ยเอ๋อร์มา ให้เจ้าไปนั่นแหละ”“หา? ข้าไปทำอะไรหรือ?”เวินหย่าลี่ใช้นิ้วชี้มาที่ตัวเอง สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยเห็นได้ชัดว่ายังไม่เข้าใจสถานการณ์เวินเฉวียนเซิ่งกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าคิดว่าให้ไปทำอะไร? แน่นอนว่าต้องให้เจ้ารีบเบียดเสียดไปด้านหน้า เคาะประตูใหญ่ของอารามสุ่ยเยว่ให้เปิด จากนั้นก็เข้าไปข้างในเพื่อขัดขวางเวินซื่อ ห้ามปล่อยให้นางเอาบัวหิมะดอกนั้นไปทำเสียของเป็นอันขาด!”เวินหย่าลี่ก็พลันเบิกตากว้าง “เดี๋ยวนะ? เช่นนั้นเมื่อครู่พี่ใหญ่ท่านเรียกข้าออกมาทำไมกัน ทั้งๆ ที่ข้าเบียดเข้าไปถึงข้างหน้าได้แล้ว ตอนนี้ข้าก็ต้องกลับไปเบียดใหม่อีก!”พอนางหันกลับไปมองดูภาพผู้คนหลายร้อยคนที่กำลังเบียดเสียดกันแน่นขนัด ก็แทบอยากจะเปิดศึกกับพี่ใหญ่ของนางสักตั้งไม่บอกให้เร็วกว่านี้!เวินเฉวียนเซิ่ง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 536

    เดิมทีคิดว่าคนที่ออกมาจะเป็นซือไท่บางท่านของอารามสุ่ยเยว่ หรือไม่ก็เป็นอาจารย์น้อยบางท่าน แต่เหล่าฮูหยินและคุณหนูที่อยู่ด้านนอกกลับคาดไม่ถึงเลยว่า คนที่เดินออกมานั้นจะเป็นเวินซื่อเองหยางฮูหยินที่อยู่หน้าสุดกับเวินหย่าลี่ที่อยู่ด้านหลังต่างชะงักไปครู่หนึ่งแต่หยางฮูหยินได้สติเร็วที่สุด ดวงตาเป็นประกาย รีบย่อตัวคารวะพลางเอ่ยขึ้น “คารวะท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์!”พอเสียงของหยางฮูหยินดังขึ้น เหล่าฮูหยินและคุณหนูที่อยู่ด้านหลังก็ค่อยๆ ทยอยได้สติกัน พากันคารวะตาม “คารวะท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์!”ในชั่วพริบตา ภาพเหตุการณ์ที่เมื่อครู่ยังอึกทึกครึกโครมอย่างยิ่งก็พลันเงียบสงบลงสายตาของเวินซื่อกวาดมองผ่านเวินหย่าลี่เป็นคนแรก แม้นางจะสวมผ้าคลุมหน้า แต่แววตาละอายใจก็เผยออกมาให้เห็น จากนั้นจึงเอ่ยกับหยางฮูหยินและคนอื่นๆ ว่า “ทุกท่านตามสบายเถิด วันนี้ข้าลงมือปรุงน้ำแกงด้วยตนเอง ได้รับบัวหิมะพระราชทานจากฝ่าบาท อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสาธุชนทุกท่าน จึงได้ตัดสินใจว่าห้าสิบท่านแรกจะได้รับน้ำแกงบัวหิมะบำรุงผิวพรรณไปหนึ่งถ้วย”“ส่วนสาธุชนที่มาทีหลังและไม่ทันก็มิต้องกังวล ท่านอาจารย์ของข้าก็ได้เตรียมน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 537

    “เจ้าไปทำธุระของเจ้าเถอะ ที่นี่อาจารย์จะจัดการเอง”ม่อโฉวซือไท่ย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าช่วงนี้เวินซื่อกำลังทำสิ่งใดอยู่ นางยกมือขึ้นตบไหล่ของเวินซื่อเบาๆ หางตาเหลือบไปมองคนผู้หนึ่งที่อยู่รอบนอกสุดของฝูงชน จากนั้นจึงแค่นเสียงเย็นเสียงหนึ่ง“รู้จักใช้ประโยชน์ให้มากขึ้นหน่อย อย่าทำตัวซื่อบื้อนัก เมื่อก่อนรากฐานของสกุลหลานนั้นลึกล้ำมั่นคงอย่างยิ่ง”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาทันที “ศิษย์เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านอาจารย์”จากนั้นเวินซื่อก็หันกลับเตรียมจะไปหาเวินหย่าลี่ แต่พลันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางจึงหันกลับไปอีกครั้ง แล้วกระซิบกระซาบสองสามประโยคที่ข้างหูของม่อโฉวซือไท่และม่อโฉวซือไท่ก็ไม่รู้ว่าได้ยินเรื่องอันใดที่น่าสนใจเข้า ใบหน้าที่เคร่งขรึมกลับปรากฏสีหน้าที่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีขึ้นมาแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “ได้ ให้อาจารย์จัดการเถอะ”......หลังจากที่เวินหย่าลี่พุ่งพรวดเข้าไปในอารามสุ่ยเยว่ได้แล้ว ร่างกายก็พลันปราดเปรียวว่องไวผิดปกติ หลบหลีกการขัดขวางของซือไท่ท่านอื่นได้ จากนั้นก็ตามหาห้องครัวไปทั่วทั้งอารามสุ่ยเยว่ผลปรากฏว่าพอไปถึงห้องคร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 538

    พอความคิดนี้ผุดขึ้นมา เวินหย่าลี่ก็รู้สึกตื่นเต้นจนดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายในทันทีนางยื่นมือไปหยิบชามและทัพพีตักน้ำแกงในครัวเล็กของเวินซื่อโดยแทบจะไม่ลังเลเลยสักนิดตักครั้งแล้วครั้งเล่า ตักให้ตัวเองจนเต็มถ้วยใหญ่ จากนั้นก็ยกขึ้นมาดื่มทันทีก็ไม่รู้ว่าในน้ำแกงนั้นใส่อะไรลงไปบ้าง แต่รสชาติช่างตุ๋นได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ดื่มไปชามหนึ่งยังไม่พอ จึงต่อด้วยชามที่สอง ชามที่สาม พอดื่มไปครบห้าชามเต็มๆ เวินหย่าลี่ก็รู้สึกว่าท้องตึงใกล้จะแตกแล้ว นางถึงได้ยอมวางชามลงในที่สุดแต่ในเวลานี้ พลันมีเสียงความเคลื่อนไหวมาจากด้านนอก“สาธุชนทุกท่านโปรดรอที่นี่สักครู่ น้ำแกงบัวหิมะบำรุงผิวพรรณที่ปรุงเสร็จแล้วอยู่ในครัวเล็กของข้า ข้าจะไปยกมาให้ทุกท่าน”“อุ๊ย จะให้ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์ยกน้ำแกงมาให้หม่อมฉันได้อย่างไร ให้หม่อมฉันไปยกเองดีกว่า”“ใช่แล้วๆ พวกเราไปเอง”ขณะที่พูดคุยกัน คนเหล่านั้นก็มาถึงหน้าประตูห้องครัวเล็กแล้ว จากนั้นแต่ละคนก็เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็เห็นเวินหย่าลี่ซึ่งทั้งไม่ได้ปิดประตู และหลบไม่ทัน กำลังยืนถือชามแอบดื่มน้ำแกงอยู่หน้าเตาเวินซื่อที่เห็นฉากนี้เข้าพอดี ก็เกือบจะกลั้นหัวเราะไว้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 539

    คิดว่าทำเช่นนี้จะสามารถปิดปากหยางฮูหยินพวกนางได้แต่เวินซื่อที่อยู่ข้างๆ มีหรือจะปล่อยให้นางสมหวัง?เวินซื่อยิ้มเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าฮูหยินจงหย่วนโหวจะอายุมากขึ้น ความจำก็ไม่ค่อยดีเท่าไรแล้ว ข้ากับจวนเจิ้นกั๋วกงตัดขาดความสัมพันธ์กันไปนานแล้ว กับฮูหยินจงหย่วนโหว ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบอาหลานกันอีกต่อไป อีกอย่าง ข้าก็ไม่เคยอนุญาตให้ท่านเข้ามาในที่พักของข้า”“ได้ยินหรือไม่ ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับท่านเลยนะ”พี่สะใภ้ของผู้บัญชาการทหารประจำเมืองแค่นเสียงหัวเราะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “เช่นนั้นแล้วฮูหยินจงหย่วนโหวท่านรู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมของท่านในตอนนี้คืออะไร?”“นี่คือการบุกรุกเข้ามาในที่พักของท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์เพื่อกระทำการลักขโมย หากจะให้บรรยายง่ายๆ ด้วยสี่คำคือ ลัก เล็ก ขโมย น้อย”“หุบปาก หุบปาก! ท่านหุบปากเสีย!”เวินหย่าลี่แทบจะคลั่งตายด้วยความโมโห นางขว้างชามในมือลงพื้นตรงหน้าเท้าของพี่สะใภ้ของผู้บัญชาการทหารประจำเมืองเสียงดัง “เพล้ง” ก่อนจะตวาดด้วยความโมโห “ใครลักเล็กขโมยน้อย? ท่านว่าใครลักเล็กขโมยน้อย! อธิบายให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้! ข้าก็แค่กระหายน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 540

    เวินซื่อไม่ได้บอกให้ไปเรียกเหล่าซือไท่มาช่วยหามคน แต่เลือกที่จะให้ไปแจ้งแก่ทางจวนจงหย่งโหวหรือไม่ก็จวนเจิ้นกั๋วกงโดยตรง ให้พวกเขาส่งคนของตนเข้ามา ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนบางคนมากล่าวหาใส่ความนางกลับระหว่างที่เหล่าคุณหนูทั้งสามออกไปแจ้งข่าวนั้น เวินซื่อก็ไม่ได้อยู่ว่างๆนางลงมือเก็บกวาดเศษชามที่แตกอยู่บนพื้นด้วยตนเอง จากนั้นก็นำน้ำแกงหม้อใหญ่นั้นไปเททิ้งโดยตรงเมื่อเห็นการกระทำของนาง หยางฮูหยินและพี่สะใภ้ของผู้บัญชาการทหารประจำเมืองก็ตกใจขึ้นมาทันที“อ๊ะ! ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์เหตุใดจึงเทน้ำแกงบัวหิมะบำรุงผิวพรรณนี้ทิ้งไปเล่า หม้อใหญ่ขนาดนี้ น่าเสียดายเกินไปแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้น ก็พลันหัวเราะครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “แต่ว่า นี่ไม่ใช่น้ำแกงบัวหิมะบำรุงผิวพรรณนะ”“เอ๊ะ?”หยางฮูหยินและพี่สะใภ้ของผู้บัญชาการทหารประจำเมืองผู้นั้นต่างชะงักไป“เป็นไปได้อย่างไรว่าไม่ใช่น้ำแกงบัวหิมะบำรุงผิวพรรณ เมื่อครู่ท่านก็กล่าวว่า...”พี่สะใภ้ของผู้บัญชาการทหารประจำเมืองกำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างโดยไม่รู้ตัว แต่คำพูดกลับพลันหยุดชะงักลงกลางคันเดี๋ยวก่อน ดูเหมือนว่าท่านธิดาศั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 541

    หลังจากเวินซื่อพูดประโยคนี้ออกไป การแสดงออกบนใบหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งก็มืดมนลงทันใดเวินจื่อเยวี่ยยกมือขึ้นทุบประตูพระจันทร์อย่างรุนแรงดัง “ปัง” จ้องมองเวินซื่อด้วยแววตาที่อำมหิตเป็นอย่างยิ่ง “เมื่อครู่เจ้า…ว่าไงนะ? เก่งจริงก็พูดให้ข้าฟังอีกรอบสิ!”เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่ดูเหมือนกันยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของสองพ่อลูก เวินซื่อก็อดยิ้มเยาะในใจไม่ได้สมกับที่เป็นบุตรในสายเลือดจริง ๆนึกไม่ถึงว่านางจะมีสายเลือดที่น่าขยะแขยงเช่นนี้ น่ารังเกียจเป็นที่สุดเวินซื่อเผยอเปลือกตาขึ้นอย่างเฉยชา “หากเจิ้นกั๋วกงอายุมากแล้ว หูไม่ดีแล้วล่ะก็ ข้าก็ไม่ขัดข้องที่จะพูดซ้ำอีกรอบ”เวินซื่อไม่ได้เอ่ยถึงเวินจื่อเยวี่ยด้วยซ้ำ พุ่งเป้าไปที่เวินเฉวียนเซิ่งโดยตรงท่าทางที่ไม่เห็นเวินจื่อเยวี่ยอยู่ในสายตา เกือบทำให้ไฟโทสะในก้นบึ้งหัวใจของเวินจื่อเยวี่ยทวีขึ้นสองเท่าอย่างฉับพลันอีกครั้ง…“เวินซื่อ! นี่เจ้าคิดจะรนหาที่ตายอย่างนั้นหรือ?!”เวินจื่อเยวี่ยเผยกริชของเขาออกมาโดยสัญชาตญาณ แต่ในวินาทีถัดมา ไอสังหารอันเย็นเยียบก็พุ่งลงมาจากที่สูงเวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยมีประสาทสัมผัสว่องไว ทันทีที่เงยหน้า

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status