Share

บทที่ 431

Author: จิ้งซิง
อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้จะทำอาหารที่เรือนน้องสาวเขาหรือ?

เวินจื่อเฉินตั้งตัวไม่ติดไปชั่วขณะ

เขาหันขวับมองน้องสาวตัวเองทันที

กลับเห็นเวินซื่อพยักหน้าอย่างใจเย็น “ดีสิ เช่นนั้นคงต้องลำบากท่านอ๋องแล้ว”

เป่ยเฉินหยวนยิ้มทันใด รับตะกร้าของป่ามาจากมือเวินซื่อ “เช่นนั้นท่านไปพักสักครู่ ข้าจะเอาวัตถุดิบเข้าไปจัดการเอง”

พูดถึงจัดการ ความจริงก็เป็นแค่วัตถุดิบสดใหม่อย่างเห็ดป่า เยื่อไผ่ หน่อไม้เป็นต้น

เขาทำท่าคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี อีกทั้งยังนำวัตถุดิบเข้าไปในห้องครัวเล็กของเวินซื่ออย่างเป็นธรรมชาติ

เวินซื่อหันหลังแล้วนั่งลงในลานบ้าน

เวินจื่อเฉินกลับยืนอยู่ด้านข้างด้วยความประหม่าเล็กน้อย หันมองทางห้องครัวเป็นระยะ

“น้อง...อู๋โยว จะให้ท่านอ๋องไปทำอาหารจริงหรือ? คงจะไม่ค่อย...” ไม่ค่อยเหมาะสม

เดิมทีเวินจื่อเฉินต้องการพูดอย่างนั้น แต่เมื่อหันไปเห็นใบหน้าใจเย็นของเวินซื่อ

“มีสิ่งใดไม่เหมาะสมหรือ?”

เวินซื่อเหลือบมองเขาอย่างเรียบเฉย “ที่นี่เป็นดินแดนบริสุทธิ์ของพุทธองค์ ส่วนข้าเป็นผู้ออกบวช ไม่มีสิ่งวุ่นวายมากมายขนาดนั้น”

หากเป็นเมื่อก่อน เวินซื่ออาจจะใส่ใจอยู่บ้าง

เพราะเรื่องอย่าง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 432

    เวินจื่อเฉินบอกเล่าสิ่งที่ค้นพบทั้งหมด ในห้องหนังสือของเวินเฉวียนเซิ่งให้เวินซื่อฟังเมื่อได้ยินว่าสมุดบัญชีเล่มนั้นเกี่ยวข้องกับกิจการของสกุลหลาน แววตาของเวินซื่อเยือกเย็นทันทีนางรู้อยู่แล้วว่าเรื่องในตอนนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดานึกไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงนิ่งดูดายอะไรกัน เกรงว่าที่สกุลหลานต้องล่มสลาย ภายในนั้นคงมีฝีมือของบิดาตัวดีของนางซ่อนอยู่ด้วยเวินซื่อหลุบตาลง เก็บรวบความเย็นชาในแววตา“ตอนนี้สมุดบัญชีเล่มนั้นอยู่ที่ใด?”เวินซื่อเอ่ยถามเวินจื่อเฉินกล่าวอย่างละอายใจ “ตอนนั้นไม่ทันระวังจึงถูกพบเข้า ทำใหข้าไม่ทันได้นำสมุดบัญชีเล่มนั้นออกมาด้วย ตอนนี้น่าจะยังอยู่ในห้องหนังสือของท่านพ่อ”แต่เมื่อพูดสิ่งเหล่านี้จบ เวินจื่อเฉินรีบเอ่ยต่อ “เจ้าห้ามกลับไปเอาเด็ดขาด ความเคลื่อนไหวสองครั้งที่ผ่านมาของข้า เป็นที่จับตามองของท่านพ่อแล้ว ตอนนี้เกรงว่าห้องหนังสือของท่านคงไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ง่ายๆ ดังนั้นให้ข้าคิดหาวิธีดีกว่า เจ้าวางใจ ข้าต้องเอาสมุดบัญชีเล่มนั้นมาให้ได้”เวินซื่อได้ยินดังนั้นจึงมองเขา “ท่านคิดจะไปเอาเองหรือ?”เวินจื่อเฉินพยักหน้าเรื่องนี้เขาย่อมต้องไปอยู่แล้ว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 433

    เวินซื่อเม้มริมฝีปากแน่น น้ำเสียงยังคงราบเรียบ “ดูเขาทำไม ข้าไม่เป็นห่วงหรอกว่าเขาจะเป็นอย่างไร”เป่ยเฉินหยวนหัวเราะพร้อมปลอบ “เอาละ ท่านไม่ได้เป็นห่วง ข้าเป็นห่วงเอง”“ตอนนี้ข้าอยากเห็นเหลือเกิน ว่าสีหน้าของเจิ้นกั๋วกงผู้นั้นจะน่าอัศจรรย์เพียงใด”ความลับที่ซุกซ่อนมาหลายปี นึกไม่ถึงว่าจะถูกลูกชายสองคนเปิดโปงหนึ่งในนั้นยังเป็นผู้สืบทอดที่เขาบ่มเพาะมาด้วยตัวเองหากบอกว่าไม่ทำอะไรเวินฉางอวิ้น เกรงว่าจะเป็นการโกหกด้วยความอำมหิตของเวินเฉวียนเซิ่ง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ทำสิ่งใดเลยต้องดูว่าเขาจะใจร้ายกับลูกชายคนโตมากเพียงใด“สองวันนี้ข้าสะสางงานในมือพอสมควรแล้ว เตรียมตัวให้ดี ถึงเวลาข้าจะมาสอนท่านฝึกวรยุทธ์แล้วนะ”ทั้งสองคนตกลงกันตั้งแต่แรก เพียงแต่การเดินทางไปลู่โจวทำให้เสียเวลาไปมาก หลังกลับมาเป่ยเฉินหยวนมีงานมากมายต้องจัดการ ดังนั้นจึงไม่มีเวลาว่างแต่ตอนนี้ดีขึ้นมาก เป่ยเฉินหยวนจึงตรึกตรองเรื่องเวลา“ได้ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนวางใจเถอะ ข้าเตรียมพร้อมนานแล้ว”เวินซื่อยิ้มจางๆหลังจากทั้งสองเรียกจู๋เยวี่ยกับเสี่ยวหานมากินอาหารพร้อมกัน เป่ยเฉินหยวนจึงกลับไปคืนนี้เวินซื

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 434

    ตอนเช้าหลังจากเรียนเสร็จแล้ว ม่อโฉวซือไท่ให้เวินซื่อเข้าไปในเมือง“หากอยากเรียนสิบสามเข็มประตูผี ต้องเตรียมเข็มพิเศษก่อนหนึ่งชุด ไปหาช่างหลี่ทางตะวันออกของเมือง เจ้าบอกเขาว่ามาจากอารามสุ่ยเยว่ เขาจะรู้เองว่าควรทำสิ่งใดให้เจ้า”“เจ้าค่ะ”จากนั้นหลังเวินซื่อกินอาหารกลางวันเสร็จ พาเสี่ยวหานลงเขาไปพร้อมกันทั้งสองอาศัยเกวียนของพวกชาวบ้าน หลังผ่านไปสองชั่วยามจึงถึงเมืองหลวงหลังเข้าเมือง เวินซื่อกับเสี่ยวหานมุ่งหน้าไปทางตะวันออก หาร้านของช่างหลี่จนพบบ้านของช่างหลี่ไม่ใช่ร้านตีเหล็กทั่วไป ภายในยังมีงานฝีมือประณีต อย่างเงินกับทอง หยกก็มี กลับกลายเป็นงานเหล็กที่มีน้อยที่สุดหลังเวินซื่อเดินเข้าไป มองเห็นช่างหลี่ทันทีเพราะภายในร้านมีเขาแค่คนเดียว“ขอถามหน่อย ใช่ช่างหลี่ ประสกหลี่หรือไม่?”ฉางเสี่ยวหานเอ่ยถามแทนเวินซื่อเมื่อได้ยินคนเรียกชื่อตัวเอง ช่างหลี่ที่เดิมทีกำลังงีบหลับ รีบลืมตาตื่นขึ้นมาทันที“อ้อ ใช่ใช่ ข้าก็คือช่างหลี่ ท่านทั้งสองต้องการซื้อสิ่งใดหรือ?”เมื่อช่างหลี่พูดจบก็สังเกตเห็นชุดสีฟ้าทะเลบนตัวเวินซื่อหลังประหลาดใจเขาชะงักเล็กน้อย “หรืออาจารย์น้อยท่านนี้เป็นคนขอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 435

    “สมัยนี้แม้แต่แม่ชีก็ยังชอบแต่งตัวแล้วสินะ แต่น่าเสียดายไม่รู้จักดูน้ำหน้าตัวเอง ของที่นี่เจ้าก็คู่ควรซื้อหรือ?”หญิงสาวชุดเหลืองที่เบียดเวินซื่อจนกระเด็น หลังจากก้าวเข้าไปแล้ว หันกลับมามองเวินซื่อแวบหนึ่ง พร้อมทำหน้ารังเกียจแล้วเอ่ยขึ้น“เหอะ เจ้าพูดอะไรของเจ้า? ธิดา...คุณหนูของข้าไม่คู่ควรอย่างไรหรือ?!”ฉางเสี่ยวหานรีบพุ่งไปข้างหน้า ปกป้องเวินซื่อไปด้วย พลางจ้องหญิงสาวชุดเหลืองไปด้วย“คุณหนูอย่างข้ากำลังพูด บ่าวอย่างเจ้าพูดแทรกได้หรือ?”หญิงสาวชุดเหลืองกล่าวอย่างโมโห “หมอมอ ตบปากนางเดี๋ยวนี้!”“เจ้าค่ะ คุณหนูดูให้ดีนะเจ้าคะ!”หญิงวัยกลางคนด้านหลังหญิงสาวรีบถลกแขนเสื้อขึ้น ง้างมือตบมาหาเสี่ยวหาน“เสี่ยวหาน ตบกลับไป”เวินซื่อทำหน้าเย็นชา แล้วพูดออกไปเสี่ยวหานที่เดิมทียังลังเล เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาลุกวาว เบี่ยงตัวหลบฝ่ามือหญิงวัยกลางคน จากนั้นกระโดดแล้วง้างมือตบกลับไปหนึ่งฉาดเพียะ !เสียงฝ่ามือดังชัดเจนหน้าทางเข้าร้านเฟิ่งอวิ๋นตบไปบนใบหน้าหญิงวัยกลางคน พร้อมทั้งหักหน้าหญิงสาวชุดเหลืองด้วย“เจ้า! นางบ่าวชั่ว พวกเจ้ากล้าตบตีคนของข้าหรือ พวกเจ้าทั้งสองคนคงเบื่อโลกแล้วสิน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 436

    “เกิดอะไรขึ้น? ใครมาเอะอะโวยวายที่ร้านเฟิ่งอวิ๋นขนาดนี้?”ขณะนี้เอง ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนผู้ดูแลร้านเดินออกมาจากชั้นบนพอออกมาก็เห็นอันหมิงจูตรงทางเข้าพอดี ผู้ดูแลเลิกคิ้วทันใด “ที่แท้เป็นคุณหนูใหญ่อันให้เกียรติมาเยือน เหตุใดจึงไม่ขึ้นไปดูชั้นบน? หรือว่าพนักงานในร้านของพวกเราต้อนรับได้ไม่ดี?”เหล่าพนักงานที่อยู่ตรงโถงชั้นหนึ่งต่างก้มหน้าลง ไม่มีใครพูดสิ่งใดอันหมิงจูกล่าวอย่างดูแคลน “ก็คนของพวกเจ้านะสิที่จัดการได้ไม่ดี แต่ละคนทำอย่างกับคนตาบอด คนอะไรก็ปล่อยให้เข้ามาหมด”ระหว่างที่นางพูดเช่นนี้ จงใจใช้สายตาดูแคลนกวาดมองเวินซื่อแวบหนึ่งผู้ดูแลหวังมองไปตามสายตาของนาง ถึงได้มองเห็นเวินซื่อที่ถูกอันหมิงจูบดบังไปเกือบครึ่งร่างผู้ดูแลหวังขมวดคิ้วทันใด จากนั้นสั่งการโดยไม่สนใจสิ่งใด “ยังยืนบื้ออยู่ทำไม? ยังไม่รีบไปเชิญคนคนนั้นออกจากร้านอีก ร้านเฟิ่งอวิ๋นของพวกเราไม่ต้อนรับแม่ชีหรอกนะ”เหล่าพนักงานหันมองหน้ากัน ลังเลอยู่สักครู่ ต่อมาจึงมีคนเดินเข้าไปบอก “อาจารย์น้อยท่านนี้ ขออภัยด้วย ท่านลองไปดูที่อื่นเถอะ”เวินซื่อมองพนักงานตรงหน้าอย่างเรียบเฉย จากนั้นหันมองพนักงานคนอื่นในห้องโถงท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 437

    ผู้ดูแลหวังที่รู้สึกถูกเหยียดหยามโกรธจนถลึงตา “เจ้าแม่ชีน้อยกล้ากำเริบเสิบสานที่นี่หรือ หากเจ้ายังไม่ไปอีก เชื่อหรือไม่ข้าจะให้คนมาตีเจ้าออกจากร้านทันที?”“ไม่เชื่อ”เวินซื่อตอบเขาทันทีผู้ดูแลหวังโมโหจนตะโกนเสียงดัง “เจ้าพวกโง่พวกนี้ยังยืนบื้ออยู่ทำไม? ลืมไปแล้วหรือยามปกติข้าสอนพวกเจ้าไว้อย่างไร? ยังไม่รีบไปเอาอาวุธมาอีก รีบตีนางเดี๋ยวนี้!”“กล้าหรือ!”ฉางเสี่ยวหานพุ่งมาตรงหน้าเวินซื่อ ใบหน้าดวงน้อยจ้องพวกเขาอย่างเอาเรื่องเวินซื่อยกมือลูบหัวของนาง “เสี่ยวหาน ไม่ต้องกลัว ถอยไปเถอะ”ได้ยินดังนั้น เสี่ยวหานเก็บฟันขาวของตัวเองที่แยกใส่ทันที แล้วถอยไปอยู่หลังเวินซื่อ แต่ก็ยังจ้องมองพวกเขาอย่างระแวงผู้ดูแลหวังนึกว่าคำสั่งของเขาเพียงคำเดียว เหล่าพนักงานจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาด้วยความจำยอมเหมือนที่ผ่านมาแต่เขานึกไม่ถึง เหล่าพนักงานในห้องโถงมีครึ่งหนึ่งที่ไม่ขยับ ส่วนอีกครั้งหนึ่งกลับลังเล แม้จะหยิบอาวุธไว้ในมือแล้ว แต่ไม่มีใครลงมือผู้ดูแลหวังโกรธจนด่าทอเสียงดัง “ดี ดี ดีมาก พวกคนเนรคุณอย่างพวกเจ้า ลืมไปแล้วหรือว่ายามปกติข้าทำอย่างไรกับพวกเจ้า? ตอนนี้ข้ายังไม่จากไปนะ เชื่อหรือ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 438

    อันหมิงจูที่คิดจะหลบหนีออกไปเงียบๆ ตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมทันทีเวินซื่อช้อนตาขึ้น กวาดมองไปอย่างเรียบเฉยเมื่อสบเข้ากับสายตาของนาง อันหมิงจูตกใจจนเหมือนนกกระทา หดหัวแล้วยืนอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าตอบโต้น่าเสียดายตอนนี้เวินซื่อไม่คิดจะปล่อยนางไป น้ำเสียงของนางราบเรียบ ถามขึ้นอีกครั้ง “ทำไม? ตอนนี้คุณหนูใหญ่อันกลายเป็นใบ้แล้วหรือ? แม้แต่พูดตอบก็ยังไม่เป็นหรือ?”วินาทีนั้น อันหมิงจูรู้สึกย้อนกลับไปเมื่อก่อน เหมือนทุกครั้งที่เวินซื่อไปช่วยหนุนหลังอันหลันซินที่บ้านของนาง เมื่อสายตาเช่นนั้นกวาดมอง ทั้งที่ไม่ได้พูดจาข่มขู่ แต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ทำให้อันหมิงจูไม่กล้าหายใจแรงแม้แต่ครั้งเดียวตอนนี้ก็เหมือนกันสีหน้าอันหมิงจูแข็งทื่อ ใบหน้าฝืนฉีกยิ้มออกมา “...ใช่ คุณหนูห้าสกุลเวินพูดถูก”เมื่อนางเอ่ยปาก เผลอเรียกเวินซื่อเหมือนเมื่อก่อนหลังจากพูดจบถึงได้รู้สึกตัว จากนั้นตกใจจนรีบกลับลำ “ไม่ๆ ๆ ไม่ใช่ ไม่ใช่ ต้องเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดถูกแล้ว!”ท่าทางของนาง เหมือนกลัวเวินซื่อจะกินนางเข้าไป เพียงเพราะนางใช้สรรพนามผิดสุดท้ายเวินซื่อเพียงเหลือบมองนางอย่างเฉยชา“ดูท่าคงพูดจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 439

    “แล้วพ่อบ้านหลานสั่งการว่าอย่างไร? แล้วผู้ดูแลหวังนี่มันเรื่องอะไรกัน?”เมื่อได้ยินเวินซื่อเอ่ยถึงเขา ผู้ดูแลหวังรีบคุกเข่าก้มต่ำกว่าเดิมพนักงานเก่าแก่กล่าว “แรกเริ่มพ่อบ้านหลานทดสอบพวกเราก่อน จากนั้นเลิกจ้างพวกที่เจ้าเล่ห์ขี้ขโมย แล้วรับสมัครพนักงานใหม่บางส่วนเข้ามา ส่วนผู้ดูแลหวัง...”พนักงานเก่าแก่หันมองผู้ดูแลหวังอย่างระวังแวบหนึ่ง คล้ายไม่กล้าพูดบางอย่าง“เสี่ยวหาน”“เสี่ยวหานอยู่เจ้าค่ะ!”เมื่อเวินซื่อเรียก เสี่ยวหานตอบรับทันที“เชิญผู้ดูแลหวังออกไปข้างนอก ดูเขาให้ดี อย่าให้หนีไปเสียละ”ช่วงที่ผ่านมาฉางเสี่ยวหานฝึกวิชากับจู๋เยวี่ยมาไม่น้อยพอไม่เรียนก็ไม่รู้ พอได้เรียนถึงได้ตกใจก่อนนี้คิดว่าฉางเสี่ยวหานเป็นพวกมีตัวตนต่ำแต่กำเนิด นึกไม่ถึงว่าพละกำลังของนางไม่ใช่แข็งแกร่งอย่างธรรมดาก่อนหน้านี้ไม่เด่นชัด ดังนั้นตอนแรกจู๋เยวี่ยคิดจะสอนวิชาลอบสังหารให้นางบ้าง บวกกับการมีตัวตนของนางแต่สุดท้ายนึกไม่ถึงว่าเมื่อได้ฝึกปรือ สามวันถ้วยแตก ห้าวันไม้แตก เจ็ดวันหินแตก...แต่ละวันพละกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้เวินซื่ออิจฉาอย่างมากเด็กคนนี้เรียกได้ว่าเหมาะกับการฝึกยุทธ์แต่กำเนิด

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status