@มหาวิทยาลัยJK
ณ..ม้าหินอ่อนด้านหน้าตึกวิศวะเอกวิทย์คอมกับสองเพือนซี้ที่ไม่รู้ว่าไปผูกรักผูกชะตากันมาแค่ชาติปางไหน.
"งานเยอะมากอะ เป็นท้ออะ"
"..." ข้าวปุ้นสาวร่างท้วมแค่ท้วมแระไม่อ้วนเลยซักนิด.. ^__^
บ่นขึ้นมาแบบว่าก็เธอเรียนไม่เก่งเลยถ้าเทียบกับเพื่อนรักของเธอจริงๆอยากจะซิ่วทุกปีแต่อีนางเพื่อนคนดีย์ของเธอนี้ก็เข็นเธอกลับมาได้ทุกครั้งไป..
"ข้าวจะบ่นทุกรอบที่งานเยอะเลยหรือไงนี้ " น้ำมนต์สาวสวยหุ่นดีมากเกือบได้เป็นดาวคณะแต่เธอปฎิเสธเพราอะไรนั้นเธอไม่บอกไว้ถึงสาเหตุใดๆเลย...
ได้แต่ส่ายหน้าระอาให้เพื่อนตัวดีย์ของเธอเช่นกัน
"หึก็มนต์เรียนเก่งอ่า" ( >< __ >< ) " ตัดมาที่เราดิถ้ามนต์ไม่เข็นเราไม่มาถึงปีสามหรอกนะนี้"
"ยัยบ๊อง..!! มันเป็นความฝันของข้าวไม่ใช่เหรอ" ก็ตอนมัธยมแม่นางนี่แหละที่อยากจะเรียนวิศวะคอม พูดกรอกหูทุกวันตอนเรียนมอปลายจนเอาไปฝันเลย...
"ก็ช่ายแระ อย่าดุจิ..! เสียใจแล้วนะนี้" ตอบเสียงยานมากและเงยหน้ามองเพื่อนสาวคนสวยที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามเหมือนจะตัดพ้อ แต่ทว่าสังเกตเห็นอะไรที่รู้สึกแปลกตา...
"เอ๊ะ..น้ำมนต์แกเอาเกียร์ใครมาแขวนอะ" 0_0
"หึจะบ้าหรือไงกันมันก็เกียร์ของเราดิเราจะเอาของใครแขวนล่ะ ข้าว" เธอเถียงสุดใจเธอไม่ได้เอาของใครมาตั้งได้มาก็เอาสร้อยที่ซื้อคู่กับเพื่อนสาวนั้นมาแขวนใส่ไว้ตลอดแค่ถอดตอนอาบน้ำ...
"แต่มันไม่เหมือนของเราเลยดูดิ" ข้าวปุ้นโชว์เกียร์ของคณะวิทย์คอมให้เพื่ิอนดู
"แล้วมันต่างกันตรงไหน " เธอไม่เคยสนใจเลยว่าเกียร์แต่ละคณะมันต่างกันไหมพอได้มาเธอก็ใส่แขวนคอมากจนถึงทุกวันนี้
"ต่างดี้ เกียร์ทุกอันจะมีรหัสของเจ้าตัวและคณะที่เรียนแต่นี่ของมนต์ไม่ใช่ของคณะด้วยสารภาพมานะเอาของใครมาแขวน"
"จะบ้าหรือยัยบ้อง เรียนหนังสือมาด้วยกันจะยี่สิบเอ็ดปี (รู้จักกันมาแตั้งแต่เกิด) เคยเห็นฉันมีแฟนตอนไหนก่อนคะๆๆ" แต่ตอนมัธยมปลายเธอแอบชอบพี่ชายของเพื่อนสนิทชื่อพี่ครามแต่ทำได้แค่มอง...
"แกก็หลงแต่เบ้าหน้าพี่หมอครามอยู่นั้นหล่ะนะ" เธอรู้เธอเห็นทุกอย่างเพราะว่าช่วงหนึ่งแม่นางคลั่งรักถึงขั้นหั่นผมสั้นเพียงเพราะได้ยินว่า ( พี่ชอบผู้หญิงผมสั้นมันน่ารักดี )....
"จุ้น..!!" โดนเพื่อนพูดแทงใจไปไม่เป็นเลย..
"ไม่พูดก็ได้ แทงจายก็งี้หล่ะ"
"พูดอีกจะเลิกคบทันที" แอบมองค้อนให้หนึ่งกรุป
"แต่เรายืนยันนะว่าที่เกียร์ที่แกสวมอะไม่ใช่ของคณะเราเอาไปเทียบเพื่อนในคณะได้เลยมนต์" ยืนยันนอนยันแบบมุ่งมั่นมาก..
ตัวเธอเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเริ่มประมวลผลว่าเกียร์ของเธออยู่ที่ไหนเพราะตอนนี้คือสวมของใครอยู่..
พาร์ทดิน
กำลังจบคลาสนักศึกษาวิศวะยานยนต์ทุกคนทยอยกันออกจากห้องรามทั้งเขากลับเพื่อนเช่นกันแต่ทว่า....
"นายพสุธาอาจารย์วานทีเอาเอกสารไปตึกอธิการให้หน่อยนะ " อาจารย์หนุ่มรุ่นพี่...( พี่ชายเขานี้แระไอ้พี่คิว )
"ได้ขอรับอาจารย์..." ถ้ามันไม่กุมความลับบอกเลยอย่างได้ใช้เขา
"เจอกันที่บ้านนะไอ้น้องชาย"
"กลับหล่ะ"
"อืม..ลูกเมียรออยู่ แต่ติดสอนอีกคลาส วานทีนะ"
"ขิงตลอด เห็นเป็นพี่หรอกนะถึงช่วย" ผมเดินออกจากห้องเรียนคณะตรงไปที่ตึกอธิการทันที...
"ผมชื่อดิน นายพสุธา รุ่งเรีองไพรกิจศาลอายุ 21 ปี นศคณะวิศวะฯสาขาเทคนิคยานยนต์ ปี3 หล่อพ่อรวยมากและ...เป็นลูกชายคนที่3 ของเจ้าสัวธานินท์ รุ่งเรีองไพรกิจศาลกับคุณนายแพรวพรรณ รุ่งเรีองไพรกิจศาล"
@หน้าตึกอธิการ
"เราแค่อยากรู้ มึงทำแบบนี้ทำได้ไงว่ะไอ้ชิน"
"ทำไร. ! " ชายหนุ่มที่กำลังเดินลงมาจากตึกอธิการพอดีดันเจอน้ำมนต์ (ยัยน้ำเน่า) เดินเข้ามาหาแถมพ่นวาจาไม่น่ารักให้ฟัง..
"สัสชิน ให้พูดจบก่อนเด้..!"
"จะพูดอะไรก็พูดมายัยน้ำเน่า"
"กูชื่อน้ำมนต์"
"กูก็ชื่อดิน .."
ต่างคนต่างมองหน้าสายตาประสานกันจ้องแบบว่า... น้ำมนต์เธอแค่ต้องการรู้ความจริงแต่อีกคนก็กวนบาทาชิบ... 😮💨
"ดิน..! แกเอาเกียร์ใครมาให้เรา 👈
"รู้แล้วเหรอ .." ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงตามสไตล์เขาก่อนจะเป็นหน้านิ่งๆ
"อร๊ายอะไรยังไงรู้แล้ว ..." เธอไม่เข้าใจโว๊ย..!
"โตแล้วกลับไปคิดเอง " แล้วก็เดินจากไปให้คนอีกคนยืนงงและไม่ได้คำตอบอะไรเลย...
พาร์ทน้ำมนต์
ไม่ได้คำตอบแถมยังโดนกวนโอ๊ยตามประสานิสัยของมันคือรู้สึกหงุดหงิดเอามากๆไม่รู้จะงัดปากคนอย่างมันได้ไงแต่...
"ชื่อน้ำมนต์ค่ะ นางสาวต้องมนตรา มหาวานิชกุล.. อายุ21 ปี นศคณะวิศวะฯ สาขาวิศวะคอม ปี3 ลูกสาวคนสวยของคุณเนตรรตี มหาวานิชกุลเศรษฐีนีคนดัง..."
ตอนนี้มันใกล้เข้าเรียนวิชาของพี่คิวแล้วเธอต้องรีบเลยถึงจะเป็นพี่ชายคนสนิทแถมยังเป็นสามีไอด้าเพื่อนรักของเธอ เธอจะทำให้ดูแย่ไม่ได้...
"ไว้ค่อยมาซักมันใหม่หล่ะกันไอ้บ้าดิน..." ( ตะโกนตามหลังแต่มันเดินไปไกลแล้วนั้น )
เธอหันหลังและก้าวเท้ายาวราวกับวิ่งไปยังตึกเรียนเพื่อให้ทันวิ่งไม่สนใจใครในระหว่างทางก่อนจะถึงประตูห้องเรียนชนคนเข้าอย่างจังจะชนใครหล่ะ...
ก็พี่คิวนั้นแระ.. ( อาจารย์เหนือเมฆ รับสอนพิเศษแทนเพื่อนสนิทที่อุบัติเหตุกะทันหัน )
ถึงตัวเธอจะออกทรงเหมือนสาวห้าวก็ตามผู้หญิงก็ต้องบอบบางกว่าเพศผู้เสมอน้ำมนต์ถึงกับหงายหลังทันทีและดูเหมือนว่ามือหนาของคนต้องข้ามกำลังจะคว้าแต่คว้าไม่ทันเลย.. "โอ๊ย...เจ็บอะขอโทษนะคะหนูไม่ได้มองทางเลย" ยกมือขอไหว้ขอโทษพร้อม..
"...."
"แล้วเราจะรีบอะไรนักหนาครับน้ำมนต์" ไม่รู้จะตกใจอะไรก่อนคนที่วิ่งชนดันเป็นอาจารย์พี่คิว 0__0
"อ่า...อาจารย์พี่คิว " ปวดก้นกบจังเพราะกระแทกพื้นซีเมนต์นี้..
"...."
"ลุกเดินได้ไหมนั้น มาครับพี่ช่วย" ชายหนุ่มรุ่นพี่ ( อาจารย์ )หันรีหันขว้างเพื่อจะเอาเอกสารวาง ( ใช่เขาหอบเอกสารอยู่เลยช่วยเหลือน้องที่เป็นเพื่อนกับสนิทภรรยาเขาไม่ทัน )
"หึย..มนต์ เป็นไรอ่ะ" ข้าวปุ้นเดินออกมาตามเพื่อนเพราะดูนาฬิกาแล้วมันใกล้เวลาอาจารย์เข้าสอนแต่เพื่อนสาวไม่รู้ว่าหายไปไหนอยู่ๆก็ลุกพรวดออกไปไม่พูดไม่จาอะไรเลยเดินออกมาเห็นเพื่อนนั่งตีกบอยู่ตรงหน้าอาจารย์พอดี..
"รีบมาเข้าคลาสดิ ไม่ดูทางชนพี่คิวจังๆเลยอะ"
"มาเราช่วย" ข้าวปุ้นเดินผ่านอาจารย์หนุ่มมาพยุงเพื่อน
"วนิศรา อาจารย์ว่าพาเพื่อนไปห้องพยาบาลดีกว่า"
"มะ..ไม่เป็นไรค่ะ"
"ล้มลงแรงซะขนาดนั้นไปให้อาจารย์นฤมลเขาตรวจหน่อยก็ดี"
"เง้อ..พี่คิวอ่า"
"เชื่อพี่ครับเป็นเยอะเดี่ยวหนูด้าบ่นพี่อีก"
" ชอบเอาด้าขู่หนูอ่ะ" "..." ( ไอด้าเป็นเพื่อนสนิทของเธอกับข้าวปุ้นจริงๆคุยกันว่าจะเรียนต่อที่นี้แต่เผอิญว่ามีเหตุการณ์หนึ่งที่ ไอด้าต้องตัดสินใจบินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศฉับพลัน..
"เราว่าชื่ออาจารย์พี่คิวเถอะ" ข้าวปุ้นบอกเพื่อนสนิทของเธอ
"แต่..."
"ไม่มีแต่" เหมือนว่าเพื่อนและอาจารย์หนุ่มพร้อมเพียงประสานเสียงกัน
"ก็ได้.." ทำหน้าจ๋อยก่อนเลย
"รอพี่ที่ห้องพยาบาลนะเดี๋ยวพี่เลิกคลาสนี้แล้วกลับพร้อมพี่เลยละกัน
"ค่ะ..."
@ในระหว่างเดินทางไปห้องพยาบาล
ข้าวปุ้นที่มีความสูงเพียงแค่ร้อยห้าสิบนิดๆ แต่เพื่อนสาวเธอสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบอัพทำเอาเธอพยุงแสนลำบาญ
"ไหวไหมนั่นน่ะ"
"ไหวดิตัวเองแค่สูงไม่หนักเลย" ^_^
"เอาที่สบายใจเลยส่งเราแล้วก็ไปเรียนเถอะ"
"แล้วมนต์ไปไหนมา"
"ไปตามหาสาเหตุดิแต่ไม่เจอว่ะเดี๋ยวขอไปคิดก่อน
"เรื่องเกียร์น่ะเหรอ "
"อืม..."
มาดูกันว่าน้ำมนต์จะง้างปากไอ้เพื่อนดินได้ยังไง....
พาร์ทดินผมกำลังเดินลงจากตึกอธิการยังไม่ทันจะพ้นชายคาตึกเลยอยู่ๆต้องมาตกใจตอนที่ยัยน้ำมนต์ เดินเข้ามาดักทางและยืนขว้างหน้าผมพอดีเลย แต่ดีนะที่ผมหยุดเดินทันไม่งั้นมีชนและล้มกันอีกและมันมาช๊อตฟิลก็ตรงประโยคนั้นหละแต่...@บทสนทนาก่อนหน้า"ดิน..! แกเอาเกียร์ใครมาให้เรา 👈"รู้แล้วเหรอ .." ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงตามสไตล์เขาก่อนจะเป็นหน้านิ่งๆ"อร๊ายอะไรยังไงรู้แล้ว ..." เธอไม่เข้าใจโว๊ย..!"โตแล้วกลับไปคิดเอง " แล้วก็เดินจากไปให้คนอีกยิ่งงงอยู่ตึกนั้นแระ__________________หึ เรื่องอะไรจะตอบอยากรู้ก็ไปสืบไปคิดเอาเองแต่อย่าหวังที่ได้รู้ความจริงถ้าผมไม่ยอมรับ..."พู่" ชายหนุ่มถอนหายใจแรงหนึ่งหลังจากเดินออกมาห่างมากแล้ว"เกือบไปแล้วปะหล่ะ ผ่านมาตั้งสามปีใครวะปากมอม" "ใครปากมอมอะ พี่ดิน" วายุที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล้พี่ชายคนที่สามของเขาเลย"เห้ย เชี้ยยุ"เขาไม่รู้จะตกใจอะไรก่อนกันได้น้องชายจอมแสบโผล่หน้าได้ไงนั้นพาร์ทวายุผมนั่งอยู่ดีที่โต๊ะหน้าคณะอยู่ๆก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของพี่ชายก็เลยถามไถ่.."เรียกน้องดีๆบ้างเฮียนี่น้องเฮียนะคร๊าบ""น้องแล้วไงไม่ใช่ป๊าสักหน่อย..""อ้าว...""แล้วมานั่งหน้าเส
พาร์ทอาจาร์ยนฤมล...ตอนนี้เธออายุย่างห้าสิบห้าปีหน้ากะว่าจะ Erie ตัวเองออกไปอยู่บ้านอยากพักผ่อนแล้วอายุราชการของเธอจะสามสิบปีได้แล้วมั้งเธออยู่กับขนาดนี้มาตั้งแต่เป็นคุณครูที่พึ่งบรรจุใหม่ไม่ว่ารุ่นไหนก็ผ่านการสอนจากเธอมาหมดแล้ว เหนือเมฆเป็นลูกศิษย์ทีี่เธอภูมิมากเป็นเก่งคนเรียนดี ตอนเรียนเป็นถึงเดือนคณะและเดินมหาลัยแถมยังเป็นประธานรุ่นที่น้องๆต่างเกรงขามพอสมควร... วิศวะขึ้นชื่อ โหด เลว ดี แต่สำหรับศิษย์รักของเธอได้ฉายา หล่อ ดี และดีมาก...(แต่หน้าไม่ได้บ่งบอกว่าสุภาพชนหน้าตาออกไปทางผู้ชายสายแพรวพราวซะมากกว่า)"ว่าไงมารับเด็กแสบเหรอคิว""เง้อ..จารย์ว่ามนต์แสบได้ไง มนต์ออกจะเรียบร้อยจะตายไปคะ" "...""เรียบร้อยมากครับวิ่งบนอาคารเรียนครับอาจารย์ผมต้องทำยังไงดี " พร้อมอมยิ้ม..."หือ...พี่คิวอ่า" "....""คุณต้องมนตราคะ ใครสั่งใครสอนให้วิ่งบนอาคารเรียน รู้ไหมว่าอาคารเรียนไม่ใช่สนามเด็กเล่นแล้วหนูตอนนี้อายุยี่สิบเอ็ดปีแล้วนะคะ" เธอขอดุลูกศิษย์ที่ยังทำตัวเป็นเด็กนิดหนึ่ง.."เง้อ..หนูขอโทษค่ะพอดีหนูติดธุระนิดนึงแล้วเวลามันจวนเจียนก็เลยต้องสปีดนิดนึงค่ะ" ^_^ จ๋อยเลยครัชงานนี้ "นิดนึงแล้วน
พาร์ทต่อผมก็ไม่เข้าใจผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้วไงถามป๊าก็ไม่ได้คำตอบอะไรแน่ชัดแต่คิดว่าผู้ใหญ่คงมีเหตุและผลหล่ะหนอ ผมผลักประตูเข้าไปเจอแต่ความว่างเปล่า... "ไปไหนของของมันนี้ " วางอาหารแล้วเดินขึ้นไปตามหาแต่ประตูห้องมันแง้มอยู่แล้วไหม กวาดสายตามองหาร่างบาง "เอ้าในห้องก็ไม่อยู่" ผมหันตัวกลับกำลังจะออกไป แก๊ก..เสียงเปิดประตูในห้องน้ำผมหันกลับมาเจอยัยนั้นเดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวที่สั้นมากแทบจะเห็นด้านร่างล่างเลยข้างบนก็ล้นออกมา เลือดกำเดาผมจะพุ่ง"กรี๊ดไอ้บ้าดินเข้ามาได้ไง ปิดตาเดี๋ยวนี้นะ" น้ำมนต์ทานยาหลังทานข้าวเสร็จก็หลับไปตื่นขึ้นมามันรู้สึกร้อนตัวเลยอาบน้ำก่อนที่ป้านีจะเอาอาหารกลางวันมาให้แต่ทว่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอเพื่อนชายยืนมองเธออยู่และพึ่งนึกได้ว่าตัวเองพันแค่ผ้าเช็ดตัว.."หึ..ปิดทำไมไม่มีอะไรให้ดู""ม่ะ ไม่มีแล้วมายืนจ้องทำห่าไร""ก็ดูผีดาดา (โครงกระดูก)ผอมก็ผอมนมก็ไม่มีจะกรี๊ดทำไม (ตรงกันข้ามหมด)ถ้าไม่ติดว่าปวดก้นกบนะจะกระโดดถืบเลยกล้ามากมาว่าเธอเป็นผีดาดาหุ่นเธอใครเห็นยังทึ่้งแต่ไอ้บ้าดินตาต่ำมาก.. "ออกไป๋" "คนเขาอุตส่าห์เอาข้าวมาส่งแต่งตัวซะเดียวพาไปกิน""ไม่ต้องยุ่ง " เ
หลังจากปิดแชทที่คุยกับพวกกวนประสาทผมเลยเดินมาดูว่าน้ำมนต์หลับไปหรือยัง (ก็ต้องหลับดิให้ยาแก้แพ้ แก้อักเสบแก้ปวด สรรพคุณคือทำให้ง่วงทุกตัว)ชายหนุ่มเดินเปิดประตูเข้ามาได้เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเพื่อนสาวเดินเข้าไปยืนมองอยู่นาน..."ขนาดหลับยังน่ารักเลยเมื่อไหร่จะคุยกับดินดีๆบางครับน้ำมนต์" ผมไม่รู้ว่านานหรือยังที่เราทั้งคู่ฟาดฟันกันด้วยวาจาผมพูดเพราะปิดบังความรู้สึกที่มีให้เพื่อนแต่กับน้ำมนต์พูดเพราะอะไรกันแน่.. ย่อตัวลงนั่งข้างเตียงมือหนาลูบใบหน้าหวานของคนที่เขารักสุดหัวใจ ก้มลงไปจูบปากเรียวบางเบาๆประทับตีตราจอง... ^_^ (ลักจุ๊บเขา)ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปทันทีดูเหมือนว่าเสียงรถของป๊าแล่นมาจอดหน้าบ้านพอดีเลยพาร์ท รตีตั้งแต่วันที่สามีเสียไปเธอก็ไม่เคยเข้าบริษัทอีกเลยพอเข้ามารับรู้ปัญหามันเยอะมากแทบจะรุมเร้าพอสมควรแต่ยังดีมีแพรวพรรณ (แพรว เพื่อนสนิทของเธอนั่นแหละภรรยาพี่ธานินทร์) นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ"รตี อย่าเคลียดเรารู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่วันนี้ที่ให้มาเพราะผู้ถือหุ้นอยากเห็นรตีแค่นั้นเอง""แพรวเรา..." ."..."ตั้งแต่สามีเสียไปเธอแทบจะอยากสิ้นลมตามไปด้วยเลยแต่..ตอนนั้นน้ำมนต์
หลังจากปิดแชทที่คุยกับพวกกวนประสาทผมเลยเดินมาดูว่าน้ำมนต์หลับไปหรือยัง (ก็ต้องหลับดิให้ยาแก้แพ้ แก้อักเสบแก้ปวด สรรพคุณคือทำให้ง่วงทุกตัว)ชายหนุ่มเดินเปิดประตูเข้ามาได้เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเพื่อนสาวเดินเข้าไปยืนมองอยู่นาน..."ขนาดหลับยังน่ารักเลยเมื่อไหร่จะคุยกับดินดีๆบางครับน้ำมนต์" ผมไม่รู้ว่านานหรือยังที่เราทั้งคู่ฟาดฟันกันด้วยวาจาผมพูดเพราะปิดบังความรู้สึกที่มีให้เพื่อนแต่กับน้ำมนต์พูดเพราะอะไรกันแน่.. ย่อตัวลงนั่งข้างเตียงมือหนาลูบใบหน้าหวานของคนที่เขารักสุดหัวใจ ก้มลงไปจูบปากเรียวบางเบาๆประทับตีตราจอง... ^_^ (ลักจุ๊บเขา)ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปทันทีดูเหมือนว่าเสียงรถของป๊าแล่นมาจอดหน้าบ้านพอดีเลยพาร์ท รตีตั้งแต่วันที่สามีเสียไปเธอก็ไม่เคยเข้าบริษัทอีกเลยพอเข้ามารับรู้ปัญหามันเยอะมากแทบจะรุมเร้าพอสมควรแต่ยังดีมีแพรวพรรณ (แพรว เพื่อนสนิทของเธอนั่นแหละภรรยาพี่ธานินทร์) นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ"รตี อย่าเคลียดเรารู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่วันนี้ที่ให้มาเพราะผู้ถือหุ้นอยากเห็นรตีแค่นั้นเอง""แพรวเรา..." ."..."ตั้งแต่สามีเสียไปเธอแทบจะอยากสิ้นลมตามไปด้วยเลยแต่..ตอนนั้นน้ำมนต์
พาร์ทต่อผมก็ไม่เข้าใจผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้วไงถามป๊าก็ไม่ได้คำตอบอะไรแน่ชัดแต่คิดว่าผู้ใหญ่คงมีเหตุและผลหล่ะหนอ ผมผลักประตูเข้าไปเจอแต่ความว่างเปล่า... "ไปไหนของของมันนี้ " วางอาหารแล้วเดินขึ้นไปตามหาแต่ประตูห้องมันแง้มอยู่แล้วไหม กวาดสายตามองหาร่างบาง "เอ้าในห้องก็ไม่อยู่" ผมหันตัวกลับกำลังจะออกไป แก๊ก..เสียงเปิดประตูในห้องน้ำผมหันกลับมาเจอยัยนั้นเดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวที่สั้นมากแทบจะเห็นด้านร่างล่างเลยข้างบนก็ล้นออกมา เลือดกำเดาผมจะพุ่ง"กรี๊ดไอ้บ้าดินเข้ามาได้ไง ปิดตาเดี๋ยวนี้นะ" น้ำมนต์ทานยาหลังทานข้าวเสร็จก็หลับไปตื่นขึ้นมามันรู้สึกร้อนตัวเลยอาบน้ำก่อนที่ป้านีจะเอาอาหารกลางวันมาให้แต่ทว่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอเพื่อนชายยืนมองเธออยู่และพึ่งนึกได้ว่าตัวเองพันแค่ผ้าเช็ดตัว.."หึ..ปิดทำไมไม่มีอะไรให้ดู""ม่ะ ไม่มีแล้วมายืนจ้องทำห่าไร""ก็ดูผีดาดา (โครงกระดูก)ผอมก็ผอมนมก็ไม่มีจะกรี๊ดทำไม (ตรงกันข้ามหมด)ถ้าไม่ติดว่าปวดก้นกบนะจะกระโดดถืบเลยกล้ามากมาว่าเธอเป็นผีดาดาหุ่นเธอใครเห็นยังทึ่้งแต่ไอ้บ้าดินตาต่ำมาก.. "ออกไป๋" "คนเขาอุตส่าห์เอาข้าวมาส่งแต่งตัวซะเดียวพาไปกิน""ไม่ต้องยุ่ง " เ
พาร์ทอาจาร์ยนฤมล...ตอนนี้เธออายุย่างห้าสิบห้าปีหน้ากะว่าจะ Erie ตัวเองออกไปอยู่บ้านอยากพักผ่อนแล้วอายุราชการของเธอจะสามสิบปีได้แล้วมั้งเธออยู่กับขนาดนี้มาตั้งแต่เป็นคุณครูที่พึ่งบรรจุใหม่ไม่ว่ารุ่นไหนก็ผ่านการสอนจากเธอมาหมดแล้ว เหนือเมฆเป็นลูกศิษย์ทีี่เธอภูมิมากเป็นเก่งคนเรียนดี ตอนเรียนเป็นถึงเดือนคณะและเดินมหาลัยแถมยังเป็นประธานรุ่นที่น้องๆต่างเกรงขามพอสมควร... วิศวะขึ้นชื่อ โหด เลว ดี แต่สำหรับศิษย์รักของเธอได้ฉายา หล่อ ดี และดีมาก...(แต่หน้าไม่ได้บ่งบอกว่าสุภาพชนหน้าตาออกไปทางผู้ชายสายแพรวพราวซะมากกว่า)"ว่าไงมารับเด็กแสบเหรอคิว""เง้อ..จารย์ว่ามนต์แสบได้ไง มนต์ออกจะเรียบร้อยจะตายไปคะ" "...""เรียบร้อยมากครับวิ่งบนอาคารเรียนครับอาจารย์ผมต้องทำยังไงดี " พร้อมอมยิ้ม..."หือ...พี่คิวอ่า" "....""คุณต้องมนตราคะ ใครสั่งใครสอนให้วิ่งบนอาคารเรียน รู้ไหมว่าอาคารเรียนไม่ใช่สนามเด็กเล่นแล้วหนูตอนนี้อายุยี่สิบเอ็ดปีแล้วนะคะ" เธอขอดุลูกศิษย์ที่ยังทำตัวเป็นเด็กนิดหนึ่ง.."เง้อ..หนูขอโทษค่ะพอดีหนูติดธุระนิดนึงแล้วเวลามันจวนเจียนก็เลยต้องสปีดนิดนึงค่ะ" ^_^ จ๋อยเลยครัชงานนี้ "นิดนึงแล้วน
พาร์ทดินผมกำลังเดินลงจากตึกอธิการยังไม่ทันจะพ้นชายคาตึกเลยอยู่ๆต้องมาตกใจตอนที่ยัยน้ำมนต์ เดินเข้ามาดักทางและยืนขว้างหน้าผมพอดีเลย แต่ดีนะที่ผมหยุดเดินทันไม่งั้นมีชนและล้มกันอีกและมันมาช๊อตฟิลก็ตรงประโยคนั้นหละแต่...@บทสนทนาก่อนหน้า"ดิน..! แกเอาเกียร์ใครมาให้เรา 👈"รู้แล้วเหรอ .." ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงตามสไตล์เขาก่อนจะเป็นหน้านิ่งๆ"อร๊ายอะไรยังไงรู้แล้ว ..." เธอไม่เข้าใจโว๊ย..!"โตแล้วกลับไปคิดเอง " แล้วก็เดินจากไปให้คนอีกยิ่งงงอยู่ตึกนั้นแระ__________________หึ เรื่องอะไรจะตอบอยากรู้ก็ไปสืบไปคิดเอาเองแต่อย่าหวังที่ได้รู้ความจริงถ้าผมไม่ยอมรับ..."พู่" ชายหนุ่มถอนหายใจแรงหนึ่งหลังจากเดินออกมาห่างมากแล้ว"เกือบไปแล้วปะหล่ะ ผ่านมาตั้งสามปีใครวะปากมอม" "ใครปากมอมอะ พี่ดิน" วายุที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล้พี่ชายคนที่สามของเขาเลย"เห้ย เชี้ยยุ"เขาไม่รู้จะตกใจอะไรก่อนกันได้น้องชายจอมแสบโผล่หน้าได้ไงนั้นพาร์ทวายุผมนั่งอยู่ดีที่โต๊ะหน้าคณะอยู่ๆก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของพี่ชายก็เลยถามไถ่.."เรียกน้องดีๆบ้างเฮียนี่น้องเฮียนะคร๊าบ""น้องแล้วไงไม่ใช่ป๊าสักหน่อย..""อ้าว...""แล้วมานั่งหน้าเส
@มหาวิทยาลัยJKณ..ม้าหินอ่อนด้านหน้าตึกวิศวะเอกวิทย์คอมกับสองเพือนซี้ที่ไม่รู้ว่าไปผูกรักผูกชะตากันมาแค่ชาติปางไหน."งานเยอะมากอะ เป็นท้ออะ" "..." ข้าวปุ้นสาวร่างท้วมแค่ท้วมแระไม่อ้วนเลยซักนิด.. ^__^ บ่นขึ้นมาแบบว่าก็เธอเรียนไม่เก่งเลยถ้าเทียบกับเพื่อนรักของเธอจริงๆอยากจะซิ่วทุกปีแต่อีนางเพื่อนคนดีย์ของเธอนี้ก็เข็นเธอกลับมาได้ทุกครั้งไป.."ข้าวจะบ่นทุกรอบที่งานเยอะเลยหรือไงนี้ " น้ำมนต์สาวสวยหุ่นดีมากเกือบได้เป็นดาวคณะแต่เธอปฎิเสธเพราอะไรนั้นเธอไม่บอกไว้ถึงสาเหตุใดๆเลย...ได้แต่ส่ายหน้าระอาให้เพื่อนตัวดีย์ของเธอเช่นกัน "หึก็มนต์เรียนเก่งอ่า" ( >ตัดมาที่เราดิถ้ามนต์ไม่เข็นเราไม่มาถึงปีสามหรอกนะนี้""ยัยบ๊อง..!! มันเป็นความฝันของข้าวไม่ใช่เหรอ" ก็ตอนมัธยมแม่นางนี่แหละที่อยากจะเรียนวิศวะคอม พูดกรอกหูทุกวันตอนเรียนมอปลายจนเอาไปฝันเลย..."ก็ช่ายแระ อย่าดุจิ..! เสียใจแล้วนะนี้" ตอบเสียงยานมากและเงยหน้ามองเพื่อนสาวคนสวยที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามเหมือนจะตัดพ้อ แต่ทว่าสังเกตเห็นอะไรที่รู้สึกแปลกตา..."เอ๊ะ..น้ำมนต์แกเอาเกียร์ใครมาแขวนอะ" 0_0"หึจะบ้าหรือไงกันมันก็เกียร์ของเราดิเราจะ