พาร์ทดิน
ผมกำลังเดินลงจากตึกอธิการยังไม่ทันจะพ้นชายคาตึกเลยอยู่ๆต้องมาตกใจตอนที่ยัยน้ำมนต์ เดินเข้ามาดักทางและยืนขว้างหน้าผมพอดีเลย แต่ดีนะที่ผมหยุดเดินทันไม่งั้นมีชนและล้มกันอีกและมันมาช๊อตฟิลก็ตรงประโยคนั้นหละแต่...
@บทสนทนาก่อนหน้า
"ดิน..! แกเอาเกียร์ใครมาให้เรา 👈
"รู้แล้วเหรอ .." ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงตามสไตล์เขาก่อนจะเป็นหน้านิ่งๆ
"อร๊ายอะไรยังไงรู้แล้ว ..." เธอไม่เข้าใจโว๊ย..!
"โตแล้วกลับไปคิดเอง " แล้วก็เดินจากไปให้คนอีกยิ่งงงอยู่ตึกนั้นแระ
__________________
หึ เรื่องอะไรจะตอบอยากรู้ก็ไปสืบไปคิดเอาเองแต่อย่าหวังที่ได้รู้ความจริงถ้าผมไม่ยอมรับ...
"พู่" ชายหนุ่มถอนหายใจแรงหนึ่งหลังจากเดินออกมาห่างมากแล้ว
"เกือบไปแล้วปะหล่ะ ผ่านมาตั้งสามปีใครวะปากมอม"
"ใครปากมอมอะ พี่ดิน" วายุที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล้พี่ชายคนที่สามของเขาเลย
"เห้ย เชี้ยยุ"
เขาไม่รู้จะตกใจอะไรก่อนกันได้น้องชายจอมแสบโผล่หน้าได้ไงนั้น
พาร์ทวายุ
ผมนั่งอยู่ดีที่โต๊ะหน้าคณะอยู่ๆก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของพี่ชายก็เลยถามไถ่..
"เรียกน้องดีๆบ้างเฮียนี่น้องเฮียนะคร๊าบ"
"น้องแล้วไงไม่ใช่ป๊าสักหน่อย.."
"อ้าว..."
"แล้วมานั่งหน้าเสล่ออะไรตรงนี้เนี่ย"
"เลิกคลาสแล้วคร๊าบลวกเพ่.."
"เลิกคลาสแล้วทำไมไม่กลับบ้านหล่ะ"
"เอ้า มีรวมตัวที่หอประชุมตอนบ่ายสามนะเฮียเผื่อลืม"
ผมลืมไปเลยว่าไอ้ยุ (วายุ) น้องชายของผมมันเรียนวิศวะและมันก็อยู่ปีหนึ่งด้วยเช่นกัน..
"อ๋อ..ลืม แล้วเพื่อนๆไปไหนหมด"
"ไปตามหลีสาวที่คณะนิเทศกันเกือบหมดแล้ว"
"แล้ว...ไม่ไปอะ" คณะของผมยิ่งเป็นพวกที่เรียนเกี่ยวกับเทคนิคทุกอย่างจะไม่ค่อยมีผู้หญิงร่วมคณะเลยไอ้เพื่อนไอ้รุ่นน้องส่วนมากชอบไปส่องสาวคณะบริหารหรือไม่ก็คณะนิเทศศาสตร์ที่ตึกไม่ห่างจากคณะพวกผมสักเท่าไหร่
"ไม่อ่ะเสียเวลาเล่นเกมส์" ผมแลหางตามองดูไอ้ยุ ที่ตามันใจจดใจจ่ออยู่กับเกมส์ play
"ติดเกมส์หรือติดคนในเกมส์"
"หือ..เอาไรมาพูดคร๊าบ" ชายหนุ่มแลตามองพี่ชายก่อนจะหันไปจดจ่อกับจอเช่นเดิม
"แค่ถามไหม ตื่นตัวทำไม"
"ผมว่าเฮียกวนแล้วหล่ะ" ตอบโดนไม่มองหน้าแล้วหนึ่ง
"แล้วอย่าลืมเข้ากิจกรรมด้วยล่ะไปช้าก็โดนต่อให้เป็นน้องเฮียก็ตาม"
"ขู่เก่ง ขู่ได้แค่น้องหล่ะนะกะพี่น้ำมนต์นี้อย่าให้พูด"..
"เ-สื -อ-ก ครับไอ้น้อง" ผมก็ไม่รู้อะไรเหมือนกันว่าทำไมกับน้ำมนต์ผมต้องรู้สึกขนาดนั้น รู้สึกเกินเพื่อนมานานแต่กลัวเสียเพื่อนไปถ้าเปิดใจ เห็นมันกรี๊ดพี่ครามผมว่าตัวผมเองก็หล่อนะ
"เฮ้ย..ไอ้ดินทำไรนั้น" ไอ้ทายกับไอ้ลมเพื่อนสนิทของผมอีกเช่นกันแล้วเป็นบ้าอะไนตะโกนแบบนั้น
"ตาไม่ดีหามีแววไม่" หันไปตอบพวกมันก็นั่งอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไรยังจะถามมาได้นะ
"กวนตีน" พร้อมพากันนั่งลงข้างเพื่อน
"เอ่อตะกี้ น้ำมนถามหาเองเจอกันป่ะ" เพทายเปิดประเด็น
"แปลว่า พวกมึงบอกว่ากูอยู่ไหนว่างั้น" หันมามองเพื่อนสนิทเพื่อให้ได้คำตอบ..
@ย้อนกลับไปก่อน หน้านั้นหนึ่งชั่วโมง
หน้าตึกคณะเทคนิคยานยนต์ ในขณะที่สองหนุ่มนั่งรอเพื่อนเพราะเห็นพี่ชายเพื่อนวานมันเอาเอกสารไปที่ตึกอธิการ
" ทายเห็นไอ้ชิน เอ่ยดินไหม" น้ำมนต์เดินตรงมาที่เพื่อนสนิทของเพื่อนสนิทเธอ
"น้ำมนต์คนสวยถามหา เพื่อนดินมีอะไรไหมเอ่ย"
"ตอบเรามา เรามีเวลานิดเดียวต้องเข้าเรียนอีก"
"มันไปตึกอธิการอะ เฮียคิววานมันไปนะ"
พอได้คำตอบเธอเดินออกมาอย่างเร็วแต่นึกขึ้นได้เลยหันกลับไปขอบคุณ "ใจนะทาย ลมด้วย" พร้อมกับก้าวขายาวไปยังตึกอธิการ..
พาร์ทเพทาย & ปราณนต์
"อืม เห็นหน้าตื่นเดินมาหาเราแล้วคะยั้นคะยอให้เราบอก"
"พวกแกทะเลาะอะไรกันวะ" เพทายถามเพื่อนสนิท
"ใครจะกล้าทะเลาะกับหมาบ้าอย่างมันน่ะ"
"ว่าน้ำมนต์ซะเสียน้ำมนต์ออกจากนิสัยดีน่ารักจะตายไป" ลมพูดในสิ่งเขาสัมผัสได้จากการพูดคุยกับน้ำมนต?
"เอาความน่ารักมาจากไหนพูดมากูเป็นเพื่อนมันมาจะยี่สิบเอ็ด (รู้จักกันมาแตั้งแต่เกิด)ละกูยังไม่เห็นความน่ารักของมันเลย" เขาแค่ปากเสียเพื่อกลบเกลื่อนความใจแระเนอะ
พาร์ทน้ำมนต์
หลังจากที่ข้าวปุ้นเดินมาส่งเธอที่ห้องพยาบาลเธอก็ขยั้นขยอให้เพื่อนสาวเข้าเรียนให้ได้เราจดเลคเชอร์มาให้เธอด้วยส่วนตัวนั้นถูกอาจารย์ประจำห้องพยาบาลให้นั่งพัก..
"วันนี้มันยังไม่เจ็บแต่พรุ่งนี้เดินลำบากเลยล่ะ"
"แล้วหนูต้องทานยาอะไรบ้างคะ"
"เดี๋ยวอาจารย์จะให้ยาแก้อักเสบไปแต่ว่าไปถึงบ้านตอนเย็นทานเลยนะคะข้างหลังอาหารทันทีถ้าดูอาการพรุ่งนี้แล้วเดินแบบไม่ปกติอาจารย์แนะนำให้หยุดเรียนหนึ่งวัน"
"ใกล้สอบแล้วค่ะอาจารย์" "...."
"แค่พูดเผื่อไว้ค่ะถ้าเดินไม่ไหวจริงๆไม่อยากให้มาเดี๋ยวจะเป็นหนักกว่าเดิม"
"เห้อ..."
"อาจารย์เข้าใจแต่ว่าห่วงสุขภาพก่อนนะ ต้องมนตรา"
"หนูก็แค่ คิดว่าจะทำยังให้ไม่ต้องเจ็บตัวไปกว่านี้"
"เรื่องของอุบัติเหตุเราห้ามไม่ได้หรอกไม่มีใครรู้อนาคตได้แค่ถ้าระวังตัวเองก็จะดีค่ะ"
" เกือบสาธุแล้วอ่า"
"เดี่ยวเหอะยัยต้องมนตรานี้"
พาร์ทคิว (เหนือเมฆ)
ชายหนุ่มเดินเกือบจะถึงห้องที่ต้องทำการสอนเพียงไม่กี่ก้าวเองแต่อยู่ก็มีคนวิ่งมาชนเขาเข้าอย่างจังตัวชายหนุ่มมีหรือจะสะเทือนแต่ร่างบางที่วิ่งชนเขานั้นแระหงายเงิบจะช่วยก็ช่วยไม่ทันในมือมีเอกสารที่หอบมาบางส่วนทำให้คู่กรณี ล้มลงไปจับกบไม่รู้จะดุยังไงดีไม่ใช่เด็กน้อยแล้วนะนั้นอาคารเรียนไม่ใช่สนามวิ่งเล่น พอเห็นหน้าปุ๊ปดุไม่ลงอีกเพื่อนสนิทเมียตัวเองซะงั้น
เขาเลยให้ข้าวปุ้นพาไปพักที่ห้องพยาบาลทันทีเพื่อจะกระดงกนะดูกจะหักยิ่งบอบบางเสียยิ่งกระไรอยู่นั้น
พอจบคลาสผมเลยเอ่ยทักนักศึกษาทันที "ข้าวปุ้นเพื่อนเราเป็นไงบ้าง"
"บ่นตามภาษานางหล่ะค่ะพี่คิว" (หลังจากเลิกเรียนผมจะบอกให้น้องๆที่เป็นเพื่อนสนิทของภรรยาเรียกผมเหมือนปกติ)
"งั้นเราไปรับน้ำมนต์กันเถอะ"
"โทษทีพี่ข้าวต้องกลับไปข่วยม้าที่โรงอาหารค่าฝากสมุดเลคเชอร์ให้ยัยมนต์จอมเคี่ยวหน่อยคะ"
ผมรู้ปัญหาของข้าวปุ้นดีข้าวปุ้นเป็นเด็กดีมากแต่เรียนอ่อนมากเช่นกันคนที่ผลักดันข้าวปุ้นมาถึงปีสาม ได้ก็คือน้ำมนต์กับภรรยาของผมเช่นกัน..
"เพื่อนเขาหวังดีกับข้าวนะครับเชื่อพี่ทนอีกปีหนึ่งแต่ปีหน้าฝึกงานไปฝึกงานที่บริษัทป๊าพี่ละกัน"
"หนูยังไม่ได้กรอกเลยอ่ะ แต่ว่าคุณลุงดุไหมคะพี่คิว"
"ถ้ากับพนักงานต้องทำตัวให้เป็นที่เกรงขามเราจะตีสนิทกับพนักงานจริงๆไม่ได้เข้าใจป๊าพี่นะ"
ตัวเธอดูเวลา "หนูฝากน้ำมนต์ด้วยนะคะ"
"น้ำมนต์เป็นน้องพี่เดี่ยวดูแลเองครับ"
"ฝากบอกไอด้าด้วยนะคะว่าคิดถึง"
"อันนี้ก็รับฝากครับแต่ถ้าว่างแวะไปไอด้าได้เลยนะ"
"หนูจะหาเวลาไปเที่ยวหานะคะแล้วหลานหนูจะคลอดเมื่อไหร่ล่ะคะ"
"ปิดเทอมนี้ครับอีกสามเดือนดูเทอมหน้าไตรเทพจะกลับมาสอนแล้วนะครับ"
"แปลว่าเทอมหน้าพวกหนูก็ไม่เจออาจารย์สุดหล่อแล้วสิคะ"
"เจอที่บริษัทครับเดี๋ยวพี่เข้าไปช่วยงานป๊าแล้ว"
"หูย.. เจอท่านประธานสุดหล่อว่างั้น"
"ไหนว่าจะรีบไปช่วยแม่ไงไปได้แล้ว"
"ไหว้ย่อค่ะอาจารย์ขา" สาวน้อยร่างท้วมไม่น้อยแล้วแหละยกมือลาผมแล้วก็วิ่งออกไปทันทีผมได้แต่ส่ายหน้าในความแสบสันต์ของแก๊งภรรยาของผมไอด้าก็ไม่ได้ธรรมดาโคตรดื้อเลย
@ห้องพยาบาล
ร่างสูงของชายหนุ่มในวัยยี่สิบหกปีเดินตรงมายังห้องพยาบาลเพื่อมารับน้องสาวเพื่อนสนิทของภรรยาที่บอกไปว่าเลิกเรียนแล้วจะมารับกลับบ้าน.. ก๊อกๆๆ
'ขออนุญาตครับสวัสดีครับอาจารย์แม่"
"สวัสดีค่ะอาจารย์คิว"
"อาจารย์เรียกผมคิวเหมือนเดิมก็ได้ครับ" (อาจารย์นฤมลเป็นอาจารย์วิชาพื้นฐานของคณะวิศวะและพ่วงตำแหน่งเป็นฝ่ายดูแลห้องพยาบาลประจำคณะด้วย
"เป็นไงมาไงครับรับตัวแสบเหรอ"
เจ็บตัวแต่เริ่มเลยคนสวยขา📌
พาร์ทอาจาร์ยนฤมล...ตอนนี้เธออายุย่างห้าสิบห้าปีหน้ากะว่าจะ Erie ตัวเองออกไปอยู่บ้านอยากพักผ่อนแล้วอายุราชการของเธอจะสามสิบปีได้แล้วมั้งเธออยู่กับขนาดนี้มาตั้งแต่เป็นคุณครูที่พึ่งบรรจุใหม่ไม่ว่ารุ่นไหนก็ผ่านการสอนจากเธอมาหมดแล้ว เหนือเมฆเป็นลูกศิษย์ทีี่เธอภูมิมากเป็นเก่งคนเรียนดี ตอนเรียนเป็นถึงเดือนคณะและเดินมหาลัยแถมยังเป็นประธานรุ่นที่น้องๆต่างเกรงขามพอสมควร... วิศวะขึ้นชื่อ โหด เลว ดี แต่สำหรับศิษย์รักของเธอได้ฉายา หล่อ ดี และดีมาก...(แต่หน้าไม่ได้บ่งบอกว่าสุภาพชนหน้าตาออกไปทางผู้ชายสายแพรวพราวซะมากกว่า)"ว่าไงมารับเด็กแสบเหรอคิว""เง้อ..จารย์ว่ามนต์แสบได้ไง มนต์ออกจะเรียบร้อยจะตายไปคะ" "...""เรียบร้อยมากครับวิ่งบนอาคารเรียนครับอาจารย์ผมต้องทำยังไงดี " พร้อมอมยิ้ม..."หือ...พี่คิวอ่า" "....""คุณต้องมนตราคะ ใครสั่งใครสอนให้วิ่งบนอาคารเรียน รู้ไหมว่าอาคารเรียนไม่ใช่สนามเด็กเล่นแล้วหนูตอนนี้อายุยี่สิบเอ็ดปีแล้วนะคะ" เธอขอดุลูกศิษย์ที่ยังทำตัวเป็นเด็กนิดหนึ่ง.."เง้อ..หนูขอโทษค่ะพอดีหนูติดธุระนิดนึงแล้วเวลามันจวนเจียนก็เลยต้องสปีดนิดนึงค่ะ" ^_^ จ๋อยเลยครัชงานนี้ "นิดนึงแล้วน
พาร์ทต่อผมก็ไม่เข้าใจผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้วไงถามป๊าก็ไม่ได้คำตอบอะไรแน่ชัดแต่คิดว่าผู้ใหญ่คงมีเหตุและผลหล่ะหนอ ผมผลักประตูเข้าไปเจอแต่ความว่างเปล่า... "ไปไหนของของมันนี้ " วางอาหารแล้วเดินขึ้นไปตามหาแต่ประตูห้องมันแง้มอยู่แล้วไหม กวาดสายตามองหาร่างบาง "เอ้าในห้องก็ไม่อยู่" ผมหันตัวกลับกำลังจะออกไป แก๊ก..เสียงเปิดประตูในห้องน้ำผมหันกลับมาเจอยัยนั้นเดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวที่สั้นมากแทบจะเห็นด้านร่างล่างเลยข้างบนก็ล้นออกมา เลือดกำเดาผมจะพุ่ง"กรี๊ดไอ้บ้าดินเข้ามาได้ไง ปิดตาเดี๋ยวนี้นะ" น้ำมนต์ทานยาหลังทานข้าวเสร็จก็หลับไปตื่นขึ้นมามันรู้สึกร้อนตัวเลยอาบน้ำก่อนที่ป้านีจะเอาอาหารกลางวันมาให้แต่ทว่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอเพื่อนชายยืนมองเธออยู่และพึ่งนึกได้ว่าตัวเองพันแค่ผ้าเช็ดตัว.."หึ..ปิดทำไมไม่มีอะไรให้ดู""ม่ะ ไม่มีแล้วมายืนจ้องทำห่าไร""ก็ดูผีดาดา (โครงกระดูก)ผอมก็ผอมนมก็ไม่มีจะกรี๊ดทำไม (ตรงกันข้ามหมด)ถ้าไม่ติดว่าปวดก้นกบนะจะกระโดดถืบเลยกล้ามากมาว่าเธอเป็นผีดาดาหุ่นเธอใครเห็นยังทึ่้งแต่ไอ้บ้าดินตาต่ำมาก.. "ออกไป๋" "คนเขาอุตส่าห์เอาข้าวมาส่งแต่งตัวซะเดียวพาไปกิน""ไม่ต้องยุ่ง " เ
หลังจากปิดแชทที่คุยกับพวกกวนประสาทผมเลยเดินมาดูว่าน้ำมนต์หลับไปหรือยัง (ก็ต้องหลับดิให้ยาแก้แพ้ แก้อักเสบแก้ปวด สรรพคุณคือทำให้ง่วงทุกตัว)ชายหนุ่มเดินเปิดประตูเข้ามาได้เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเพื่อนสาวเดินเข้าไปยืนมองอยู่นาน..."ขนาดหลับยังน่ารักเลยเมื่อไหร่จะคุยกับดินดีๆบางครับน้ำมนต์" ผมไม่รู้ว่านานหรือยังที่เราทั้งคู่ฟาดฟันกันด้วยวาจาผมพูดเพราะปิดบังความรู้สึกที่มีให้เพื่อนแต่กับน้ำมนต์พูดเพราะอะไรกันแน่.. ย่อตัวลงนั่งข้างเตียงมือหนาลูบใบหน้าหวานของคนที่เขารักสุดหัวใจ ก้มลงไปจูบปากเรียวบางเบาๆประทับตีตราจอง... ^_^ (ลักจุ๊บเขา)ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปทันทีดูเหมือนว่าเสียงรถของป๊าแล่นมาจอดหน้าบ้านพอดีเลยพาร์ท รตีตั้งแต่วันที่สามีเสียไปเธอก็ไม่เคยเข้าบริษัทอีกเลยพอเข้ามารับรู้ปัญหามันเยอะมากแทบจะรุมเร้าพอสมควรแต่ยังดีมีแพรวพรรณ (แพรว เพื่อนสนิทของเธอนั่นแหละภรรยาพี่ธานินทร์) นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ"รตี อย่าเคลียดเรารู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่วันนี้ที่ให้มาเพราะผู้ถือหุ้นอยากเห็นรตีแค่นั้นเอง""แพรวเรา..." ."..."ตั้งแต่สามีเสียไปเธอแทบจะอยากสิ้นลมตามไปด้วยเลยแต่..ตอนนั้นน้ำมนต์
@มหาวิทยาลัยJKณ..ม้าหินอ่อนด้านหน้าตึกวิศวะเอกวิทย์คอมกับสองเพือนซี้ที่ไม่รู้ว่าไปผูกรักผูกชะตากันมาแค่ชาติปางไหน."งานเยอะมากอะ เป็นท้ออะ" "..." ข้าวปุ้นสาวร่างท้วมแค่ท้วมแระไม่อ้วนเลยซักนิด.. ^__^ บ่นขึ้นมาแบบว่าก็เธอเรียนไม่เก่งเลยถ้าเทียบกับเพื่อนรักของเธอจริงๆอยากจะซิ่วทุกปีแต่อีนางเพื่อนคนดีย์ของเธอนี้ก็เข็นเธอกลับมาได้ทุกครั้งไป.."ข้าวจะบ่นทุกรอบที่งานเยอะเลยหรือไงนี้ " น้ำมนต์สาวสวยหุ่นดีมากเกือบได้เป็นดาวคณะแต่เธอปฎิเสธเพราอะไรนั้นเธอไม่บอกไว้ถึงสาเหตุใดๆเลย...ได้แต่ส่ายหน้าระอาให้เพื่อนตัวดีย์ของเธอเช่นกัน "หึก็มนต์เรียนเก่งอ่า" ( >ตัดมาที่เราดิถ้ามนต์ไม่เข็นเราไม่มาถึงปีสามหรอกนะนี้""ยัยบ๊อง..!! มันเป็นความฝันของข้าวไม่ใช่เหรอ" ก็ตอนมัธยมแม่นางนี่แหละที่อยากจะเรียนวิศวะคอม พูดกรอกหูทุกวันตอนเรียนมอปลายจนเอาไปฝันเลย..."ก็ช่ายแระ อย่าดุจิ..! เสียใจแล้วนะนี้" ตอบเสียงยานมากและเงยหน้ามองเพื่อนสาวคนสวยที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามเหมือนจะตัดพ้อ แต่ทว่าสังเกตเห็นอะไรที่รู้สึกแปลกตา..."เอ๊ะ..น้ำมนต์แกเอาเกียร์ใครมาแขวนอะ" 0_0"หึจะบ้าหรือไงกันมันก็เกียร์ของเราดิเราจะ
หลังจากปิดแชทที่คุยกับพวกกวนประสาทผมเลยเดินมาดูว่าน้ำมนต์หลับไปหรือยัง (ก็ต้องหลับดิให้ยาแก้แพ้ แก้อักเสบแก้ปวด สรรพคุณคือทำให้ง่วงทุกตัว)ชายหนุ่มเดินเปิดประตูเข้ามาได้เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเพื่อนสาวเดินเข้าไปยืนมองอยู่นาน..."ขนาดหลับยังน่ารักเลยเมื่อไหร่จะคุยกับดินดีๆบางครับน้ำมนต์" ผมไม่รู้ว่านานหรือยังที่เราทั้งคู่ฟาดฟันกันด้วยวาจาผมพูดเพราะปิดบังความรู้สึกที่มีให้เพื่อนแต่กับน้ำมนต์พูดเพราะอะไรกันแน่.. ย่อตัวลงนั่งข้างเตียงมือหนาลูบใบหน้าหวานของคนที่เขารักสุดหัวใจ ก้มลงไปจูบปากเรียวบางเบาๆประทับตีตราจอง... ^_^ (ลักจุ๊บเขา)ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปทันทีดูเหมือนว่าเสียงรถของป๊าแล่นมาจอดหน้าบ้านพอดีเลยพาร์ท รตีตั้งแต่วันที่สามีเสียไปเธอก็ไม่เคยเข้าบริษัทอีกเลยพอเข้ามารับรู้ปัญหามันเยอะมากแทบจะรุมเร้าพอสมควรแต่ยังดีมีแพรวพรรณ (แพรว เพื่อนสนิทของเธอนั่นแหละภรรยาพี่ธานินทร์) นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ"รตี อย่าเคลียดเรารู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่วันนี้ที่ให้มาเพราะผู้ถือหุ้นอยากเห็นรตีแค่นั้นเอง""แพรวเรา..." ."..."ตั้งแต่สามีเสียไปเธอแทบจะอยากสิ้นลมตามไปด้วยเลยแต่..ตอนนั้นน้ำมนต์
พาร์ทต่อผมก็ไม่เข้าใจผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้วไงถามป๊าก็ไม่ได้คำตอบอะไรแน่ชัดแต่คิดว่าผู้ใหญ่คงมีเหตุและผลหล่ะหนอ ผมผลักประตูเข้าไปเจอแต่ความว่างเปล่า... "ไปไหนของของมันนี้ " วางอาหารแล้วเดินขึ้นไปตามหาแต่ประตูห้องมันแง้มอยู่แล้วไหม กวาดสายตามองหาร่างบาง "เอ้าในห้องก็ไม่อยู่" ผมหันตัวกลับกำลังจะออกไป แก๊ก..เสียงเปิดประตูในห้องน้ำผมหันกลับมาเจอยัยนั้นเดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวที่สั้นมากแทบจะเห็นด้านร่างล่างเลยข้างบนก็ล้นออกมา เลือดกำเดาผมจะพุ่ง"กรี๊ดไอ้บ้าดินเข้ามาได้ไง ปิดตาเดี๋ยวนี้นะ" น้ำมนต์ทานยาหลังทานข้าวเสร็จก็หลับไปตื่นขึ้นมามันรู้สึกร้อนตัวเลยอาบน้ำก่อนที่ป้านีจะเอาอาหารกลางวันมาให้แต่ทว่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอเพื่อนชายยืนมองเธออยู่และพึ่งนึกได้ว่าตัวเองพันแค่ผ้าเช็ดตัว.."หึ..ปิดทำไมไม่มีอะไรให้ดู""ม่ะ ไม่มีแล้วมายืนจ้องทำห่าไร""ก็ดูผีดาดา (โครงกระดูก)ผอมก็ผอมนมก็ไม่มีจะกรี๊ดทำไม (ตรงกันข้ามหมด)ถ้าไม่ติดว่าปวดก้นกบนะจะกระโดดถืบเลยกล้ามากมาว่าเธอเป็นผีดาดาหุ่นเธอใครเห็นยังทึ่้งแต่ไอ้บ้าดินตาต่ำมาก.. "ออกไป๋" "คนเขาอุตส่าห์เอาข้าวมาส่งแต่งตัวซะเดียวพาไปกิน""ไม่ต้องยุ่ง " เ
พาร์ทอาจาร์ยนฤมล...ตอนนี้เธออายุย่างห้าสิบห้าปีหน้ากะว่าจะ Erie ตัวเองออกไปอยู่บ้านอยากพักผ่อนแล้วอายุราชการของเธอจะสามสิบปีได้แล้วมั้งเธออยู่กับขนาดนี้มาตั้งแต่เป็นคุณครูที่พึ่งบรรจุใหม่ไม่ว่ารุ่นไหนก็ผ่านการสอนจากเธอมาหมดแล้ว เหนือเมฆเป็นลูกศิษย์ทีี่เธอภูมิมากเป็นเก่งคนเรียนดี ตอนเรียนเป็นถึงเดือนคณะและเดินมหาลัยแถมยังเป็นประธานรุ่นที่น้องๆต่างเกรงขามพอสมควร... วิศวะขึ้นชื่อ โหด เลว ดี แต่สำหรับศิษย์รักของเธอได้ฉายา หล่อ ดี และดีมาก...(แต่หน้าไม่ได้บ่งบอกว่าสุภาพชนหน้าตาออกไปทางผู้ชายสายแพรวพราวซะมากกว่า)"ว่าไงมารับเด็กแสบเหรอคิว""เง้อ..จารย์ว่ามนต์แสบได้ไง มนต์ออกจะเรียบร้อยจะตายไปคะ" "...""เรียบร้อยมากครับวิ่งบนอาคารเรียนครับอาจารย์ผมต้องทำยังไงดี " พร้อมอมยิ้ม..."หือ...พี่คิวอ่า" "....""คุณต้องมนตราคะ ใครสั่งใครสอนให้วิ่งบนอาคารเรียน รู้ไหมว่าอาคารเรียนไม่ใช่สนามเด็กเล่นแล้วหนูตอนนี้อายุยี่สิบเอ็ดปีแล้วนะคะ" เธอขอดุลูกศิษย์ที่ยังทำตัวเป็นเด็กนิดหนึ่ง.."เง้อ..หนูขอโทษค่ะพอดีหนูติดธุระนิดนึงแล้วเวลามันจวนเจียนก็เลยต้องสปีดนิดนึงค่ะ" ^_^ จ๋อยเลยครัชงานนี้ "นิดนึงแล้วน
พาร์ทดินผมกำลังเดินลงจากตึกอธิการยังไม่ทันจะพ้นชายคาตึกเลยอยู่ๆต้องมาตกใจตอนที่ยัยน้ำมนต์ เดินเข้ามาดักทางและยืนขว้างหน้าผมพอดีเลย แต่ดีนะที่ผมหยุดเดินทันไม่งั้นมีชนและล้มกันอีกและมันมาช๊อตฟิลก็ตรงประโยคนั้นหละแต่...@บทสนทนาก่อนหน้า"ดิน..! แกเอาเกียร์ใครมาให้เรา 👈"รู้แล้วเหรอ .." ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงตามสไตล์เขาก่อนจะเป็นหน้านิ่งๆ"อร๊ายอะไรยังไงรู้แล้ว ..." เธอไม่เข้าใจโว๊ย..!"โตแล้วกลับไปคิดเอง " แล้วก็เดินจากไปให้คนอีกยิ่งงงอยู่ตึกนั้นแระ__________________หึ เรื่องอะไรจะตอบอยากรู้ก็ไปสืบไปคิดเอาเองแต่อย่าหวังที่ได้รู้ความจริงถ้าผมไม่ยอมรับ..."พู่" ชายหนุ่มถอนหายใจแรงหนึ่งหลังจากเดินออกมาห่างมากแล้ว"เกือบไปแล้วปะหล่ะ ผ่านมาตั้งสามปีใครวะปากมอม" "ใครปากมอมอะ พี่ดิน" วายุที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล้พี่ชายคนที่สามของเขาเลย"เห้ย เชี้ยยุ"เขาไม่รู้จะตกใจอะไรก่อนกันได้น้องชายจอมแสบโผล่หน้าได้ไงนั้นพาร์ทวายุผมนั่งอยู่ดีที่โต๊ะหน้าคณะอยู่ๆก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของพี่ชายก็เลยถามไถ่.."เรียกน้องดีๆบ้างเฮียนี่น้องเฮียนะคร๊าบ""น้องแล้วไงไม่ใช่ป๊าสักหน่อย..""อ้าว...""แล้วมานั่งหน้าเส
@มหาวิทยาลัยJKณ..ม้าหินอ่อนด้านหน้าตึกวิศวะเอกวิทย์คอมกับสองเพือนซี้ที่ไม่รู้ว่าไปผูกรักผูกชะตากันมาแค่ชาติปางไหน."งานเยอะมากอะ เป็นท้ออะ" "..." ข้าวปุ้นสาวร่างท้วมแค่ท้วมแระไม่อ้วนเลยซักนิด.. ^__^ บ่นขึ้นมาแบบว่าก็เธอเรียนไม่เก่งเลยถ้าเทียบกับเพื่อนรักของเธอจริงๆอยากจะซิ่วทุกปีแต่อีนางเพื่อนคนดีย์ของเธอนี้ก็เข็นเธอกลับมาได้ทุกครั้งไป.."ข้าวจะบ่นทุกรอบที่งานเยอะเลยหรือไงนี้ " น้ำมนต์สาวสวยหุ่นดีมากเกือบได้เป็นดาวคณะแต่เธอปฎิเสธเพราอะไรนั้นเธอไม่บอกไว้ถึงสาเหตุใดๆเลย...ได้แต่ส่ายหน้าระอาให้เพื่อนตัวดีย์ของเธอเช่นกัน "หึก็มนต์เรียนเก่งอ่า" ( >ตัดมาที่เราดิถ้ามนต์ไม่เข็นเราไม่มาถึงปีสามหรอกนะนี้""ยัยบ๊อง..!! มันเป็นความฝันของข้าวไม่ใช่เหรอ" ก็ตอนมัธยมแม่นางนี่แหละที่อยากจะเรียนวิศวะคอม พูดกรอกหูทุกวันตอนเรียนมอปลายจนเอาไปฝันเลย..."ก็ช่ายแระ อย่าดุจิ..! เสียใจแล้วนะนี้" ตอบเสียงยานมากและเงยหน้ามองเพื่อนสาวคนสวยที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามเหมือนจะตัดพ้อ แต่ทว่าสังเกตเห็นอะไรที่รู้สึกแปลกตา..."เอ๊ะ..น้ำมนต์แกเอาเกียร์ใครมาแขวนอะ" 0_0"หึจะบ้าหรือไงกันมันก็เกียร์ของเราดิเราจะ