พาร์ทอาจาร์ยนฤมล...
ตอนนี้เธออายุย่างห้าสิบห้าปีหน้ากะว่าจะ Erie ตัวเองออกไปอยู่บ้านอยากพักผ่อนแล้วอายุราชการของเธอจะสามสิบปีได้แล้วมั้งเธออยู่กับขนาดนี้มาตั้งแต่เป็นคุณครูที่พึ่งบรรจุใหม่ไม่ว่ารุ่นไหนก็ผ่านการสอนจากเธอมาหมดแล้ว
เหนือเมฆเป็นลูกศิษย์ทีี่เธอภูมิมากเป็นเก่งคนเรียนดี ตอนเรียนเป็นถึงเดือนคณะและเดินมหาลัยแถมยังเป็นประธานรุ่นที่น้องๆต่างเกรงขามพอสมควร...
วิศวะขึ้นชื่อ โหด เลว ดี แต่สำหรับศิษย์รักของเธอได้ฉายา หล่อ ดี และดีมาก...(แต่หน้าไม่ได้บ่งบอกว่าสุภาพชนหน้าตาออกไปทางผู้ชายสายแพรวพราวซะมากกว่า)
"ว่าไงมารับเด็กแสบเหรอคิว"
"เง้อ..จารย์ว่ามนต์แสบได้ไง มนต์ออกจะเรียบร้อยจะตายไปคะ"
"..."
"เรียบร้อยมากครับวิ่งบนอาคารเรียนครับอาจารย์ผมต้องทำยังไงดี " พร้อมอมยิ้ม...
"หือ...พี่คิวอ่า"
"...."
"คุณต้องมนตราคะ ใครสั่งใครสอนให้วิ่งบนอาคารเรียน รู้ไหมว่าอาคารเรียนไม่ใช่สนามเด็กเล่นแล้วหนูตอนนี้อายุยี่สิบเอ็ดปีแล้วนะคะ" เธอขอดุลูกศิษย์ที่ยังทำตัวเป็นเด็กนิดหนึ่ง..
"เง้อ..หนูขอโทษค่ะพอดีหนูติดธุระนิดนึงแล้วเวลามันจวนเจียนก็เลยต้องสปีดนิดนึงค่ะ" ^_^ จ๋อยเลยครัชงานนี้
"นิดนึงแล้วนั่งจับกบเลยใช่ไหมคะ" อดแซวไม่ได้..
"โห้พี่คิวอ่ะ ว่าซะเสียเลย" ตอนนี้รู้สึกอายมาก..
"อืมน้ำมนต์หนูไหว้ลาอาจารย์ซะตอนนี้เลยครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งหนูกลับบ้าน"
"แล้วอย่าลืมทานยาด้วยล่ะต้องมนตรา ถ้าไม่ดีขึ้นพรุ่งนี้หยุดเลยนะอาจารย์กลัวกล้ามเนื้ออักเสบค่ะ" อาจารย์สาววัยใกล้เกษียณกล่าวด้วยความห่วงใย
"ค่ะ" จ๋อยเลยแต่ฉันต้องเอาคืนไอ้คนที่ทำเธอเสียเวลา..
"ผมลาแล้วครับอาจารย์ ,หนูลาเช่นกันค่ะ"
อาจารย์หนุ่มรุ่นพี่กับนักศึกษาสาวรุ่นน้อง (เพื่อนเมียด้วย) พากันเดินออกจากห้องพยาบาลและลงจากตึกแล้วเดินผ่านห้องกิจกรรมของคณะ แต่เผอิญเจอแก็งค์ของดินที่กำลังจะเดินเข้าห้องประชุมเพื่อร่วมกิจกรรม..
"อ้าว เฮียกับยัยน้ำเน่ามาด้วยกันได้ไงนี้"
"นั่นปากหรือดิน ว่าเพื่อนน้ำเน่าระวังเหอะ" ผมรู้ว่าเจ้าดินน้องชายผมชอบน้องน้ำมนต์แต่ปากคอมันนี้นะร้ายกาจที่สุดแต่ก็เทียบใอ้ครามไม่ได้เลย...
"พาร์ทดิน
ในช่วงเวลาบ่ายสามถึงสี่โมงผมในฐานะประธานรุ่นต้องเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องเป็นอะไรที่ไม่อยากไปด้วยซ้ำเลยในขณะที่เดินเข้าห้องประชุมเห็นเฮียเดินมากับน้ำมนต์ก็เลยเข้าไปทัก
"ผมก็เรียกของผมปกติเฮียอย่ามาร้อนรนอะไรแทนยายน้ำเน่าล่ะ"
"จะมาร้อนจะมารนอะไรแค่เตือนไว้ว่าผู้หญิงเขาไม่ชอบหรอกนะแค่เรื่องแบบนี้"
"มันไม่เห็นบอกผมเลยว่าไม่ชอบ"
"แล้วมายืนเป็นจระเข้ขว้างคลองทำไมเนี่ยจะกลับบ้านแล้ว"
"ผมแค่ทักถามเฉยๆแต่เป็นอะไรเนี่ยต้องพยุงเนี่ย"
"จุ้น..เป็นคนสวยดิถามแปลก "
"ถามจริง มีใครบอกไหมว่ามึงสวยอะ"
"แต่กูว่าสวยนะนั่นมนต์สวยมากด้วย" เพทายยืนฟังอยู่นานเลยสวนกับไป
"ทายพูดแบบนี้คิดอะไรกับเราปะเนี่ย" แซวเพื่อนร่วมคณะ
"เราไม่กล้าหรอกเดี๋ยวหมาบ้ามันจะกัดเอา"
พวกเขาทุกคนรู้ใจไอ้ดินหมดแหละแต่มันนั่นแหละที่ไม่รู้ใจตัวเองแถมปากแม่งหมาอีกต่างหาก
"หมาบ้ามหาลัยเรามีหมาบ้าด้วยเหรอแล้วทำไมหมาบ้าถึงกัดทายอะ" อันนี้เธอไม่รู้จริงๆว่าเพื่อนสนิทแอบชอบเธอ
"จะเข้าร่วมกิจกรรมก็ไปน้องเขารออยู่เฮียจะพาน้ำมนต์กลับไปบ้านเพราะเมื่อกี้วิ่งชนกันเลยนั่งจับกบไปแล้วหนึ่ง" ชายหนุ่มรุ่นพี่ต้องการตัดบทจบเขารีบ..
"ไม่สวยแล้วยังซุ่มซ่ามอีกนะแกเนี่ย" (ในใจอยากเข้าไปประคบประหงมมากแต่ปากเห้อ..ไอ้ดิน
พาร์ทลม
ผมต้องรีบห้ามศึกคู่นี้เจอกันบรรลัยทุกรอบแต่ผมไม่เข้าใจมันเลยชอบเขาแต่ปากนี้แบบว่า และผมกับไอ้ทายก็ไม่เคยเห็นมันตอแยผู้หญิงคนไหนนอกจากน้ำมน ตอนน้ำมนต์ตัดผมสั้นก็บ่นอยู่ได้สอง - สามวัน พอน้ำมนต์ไปย้อมผมเทา
มันก็ไปทำตามเขามันผมน้ำเงินทำเทาต้องล้างสีออกกี่รอบฟอกอีกดีหนังหัวไม่ถลอก จากดูหล่อเข้มยอมเทาดูเท่ห์เลยเพื่อนผม แปลกใจครอบครัวนี้ย้อมผมเทากันหมด..
"ไปเหอะดินน้องๆรอท่านประธานเฮ็ดว๊ากสุดหล่อแล้วแหละ"
ผมจำต้องตัดใจจริงห่วงมันแต่นิสัยเสียของผมแก้ยากมาสำหรับมันเลย เดินหันหลังให้เฮียโดยไม่ลา
"ไอ้นี้จะไปก็ไม่พูดอะไรเลย" ลมบ่นเพื่อน "ลาครับเฮียคิว" หันไปหาเพื่อนสาวคณะเดียวกันแต่ต่างสาขา "ไปหาหมอดูก็ดีนะน้ำมนต์
" อย่าพูดแบบนี้สิลมเราไม่อยากไปอ่า"
"..."
"พี่ตั้งใจจะพาเราไปหาหมอนะเนี่ยบอกไอด้าไปแล้วเนี่ย"
"พี่คิวอย่าเอาด้ามมาขู่มนต์นะ"
"จะดูแชทไหมครับ"
"เราว่าไปเถอะเชื่อพี่คิวผมไปก่อนนะครับพี่คิว"
"ค่ะ ขู่น้องเก่งสุด ฟ้องด้าค่อยดู" ยกมือกอดอก
"พี่ทำตามคำสั่งของไอด้าครับ"
พาร์ทดิน
ผมรู้สึกเป็นห่วงยัยเด้อด้าเอามากแต่ปากผม..เห้อทำไงได้หล่ะ เจอหน้าก็แทบจะคุยดีกันไม่ได้เอาความปากหมากลบความเขิน..
"ชอบเขามาตั้งนานแต่ปากมึงนี่สุดตีนจริงๆไอ้ดิน"
"ผีเจาะปากคำพูดหรือไง" ผมหันไปมองค้อนให้ใอ้ทายมันนี้อ่านใจผมได้ขนาดนั้น
"ดินชอบน้ำมนต์หรือ " ลมเดินตามมาเขาเองสงสัยมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสถาม
"มึงโง่หรือเปล่าไอ้ลม สังเกตดูไอ้ดินมันเคยเข้าใกล้ใครมากยัยน้ำมนต์อีกว่ะ "
"กูไม่ได้โง่ไอ้ฟายทาย กูเห็นกูถึงถามนี้ ชอบเขาแต่ปากดีย์แท้ " ก็ตอนที่เดินลงจากตึกมาพวกเราสวนทางกับยัยข้าวปุ้นก็ถามหาน้ำมนต์ตามสไตล์มัน
@เหตุการณ์ก่อนหน้าราวชั่วโมงครึ่ง
พวกผมเลิกคลาสตั้งนานแล้วแต่รอเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพอว่าเห็นข้าวปุ้นเดินมาคนเดียวไอ้ดินมันก็เลยถาม
"ข้าวทำไมเดินมาคนเดียวนะ"
"มนต์บาดเจ็บอะตอนนี้พี่คิวก็เลยไปรับกลับ"
"ซุ่มซ่ามอะไรนั่น"
"เราไม่รู้ตอนแรกนั่งคุยอยู่กันดีๆก็ลุกไปไหนก็ไม่รู้พอถึงวิชาเรียนคงรีบแหละชนกับพี่คิวเลยเจ็บตัวเรียบร้อย" ผมยืนคิดถึงตอนที่อยู่ๆมันมายืนดักหน้าผมก็คงเป็นช่วงเวลานั้นละมั้ง
"จะไปช่วยแม่เหรอ"ผมเห็นข้าวปุ้นจะเดินไปทางโรงอาหารพอดีก็เลยถาม"
"อืมเราไปก่อนนะเดี๋ยวแม่บ่นอีก"
ผมปล่อยให้ข้าวปุ้นเดินทางไปแต่ใจผมตอนนี้เดินไปถึงห้องพยาบาลแล้วแต่ด้วยความที่ว่ากูจะไปทำเหี้ยอะไรวะพี่ชายกูก็อยู่นั่งรออยู่ตรงนี้ทักถามไม่ดีกว่าเหรอจริงๆแล้วมันถึงเวลาที่พวกผมต้องเข้าไปหอประชุมผมเลยใอ้ลมเดินเข้าไปก่อนส่วนผมนั้นนั่งเสนอหน้ารอเจอ (ไม่ได้บังเอิญหรอกแต่ต้องใจรอ)
พาร์ทคิว
ผมพาน้องที่เป็นเพื่อนกับภรรยาไปหาหมอเพื่อให้ตรวจดูอาการสุดท้ายหมอเขาให้แค่ยาแก้อักเสบดูอาการวันพรุ่งนี้ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องหยุด
"พรุ่งนี้ถ้าเป็นอะไรเดี๋ยวไม่สะดวกเรียกพี่นะ
"พี่คิวเอาเวลาไปดูแลด้าเถอะท้องแก่แล้ว"
"ที่บ้านพี่เขามีแม่บ้านแต่นี่ถ้าพรุ่งนี้เป็นอะไรหนักให้ทักบอกพี่ด้วยนะพี่เป็นห่วง"
"หนูรู้สึกอิจฉาด้ายังไงไม่รู้และไม่รู้ว่าด้าทำบุญมาด้วยอะไรฉันได้สามีที่แสนดีอย่างนี้"
"เชื่อพี่สิคนดีอย่างมนต์ก็ต้องเจอคนดีเช่นกัน"
"สาธุ..."
ผมขับรถมาจอดเทียบหน้าบ้านของน้องที่อยู่ตรงกันข้ามบ้านของผมนี่แหละ
"ขอบคุณที่เทคแคร์นะคะบาย"
"เราอ่ะทานข้าวแล้วก็ทานยาเลยนะพี่บอกคุณแม่เราไปแล้ว"
"พี่คิวออกม้าทำไมอ่ะก็เป็นห่วงอีกหรอก"
"เอาเถอะถ้าพี่ไม่บอกด้าก็บอกเองเหมือนเดิม"
"ทุกวันนี้มนต์คิดว่ามนต์มีแม่สองคนซะอีก"
"มนต์รู้จักด้ามาตั้งนานละน่าจะรู้ดีว่าด้าชอบห่วงคนอื่นขนาดไหน"
"พูดถึงด้าหนูคิดถึงจันทร์เจ้าจังเลย"
แล้วจันทร์เจ้าเป็นใครอ่ะ...
พาร์ทต่อผมก็ไม่เข้าใจผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้วไงถามป๊าก็ไม่ได้คำตอบอะไรแน่ชัดแต่คิดว่าผู้ใหญ่คงมีเหตุและผลหล่ะหนอ ผมผลักประตูเข้าไปเจอแต่ความว่างเปล่า... "ไปไหนของของมันนี้ " วางอาหารแล้วเดินขึ้นไปตามหาแต่ประตูห้องมันแง้มอยู่แล้วไหม กวาดสายตามองหาร่างบาง "เอ้าในห้องก็ไม่อยู่" ผมหันตัวกลับกำลังจะออกไป แก๊ก..เสียงเปิดประตูในห้องน้ำผมหันกลับมาเจอยัยนั้นเดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวที่สั้นมากแทบจะเห็นด้านร่างล่างเลยข้างบนก็ล้นออกมา เลือดกำเดาผมจะพุ่ง"กรี๊ดไอ้บ้าดินเข้ามาได้ไง ปิดตาเดี๋ยวนี้นะ" น้ำมนต์ทานยาหลังทานข้าวเสร็จก็หลับไปตื่นขึ้นมามันรู้สึกร้อนตัวเลยอาบน้ำก่อนที่ป้านีจะเอาอาหารกลางวันมาให้แต่ทว่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอเพื่อนชายยืนมองเธออยู่และพึ่งนึกได้ว่าตัวเองพันแค่ผ้าเช็ดตัว.."หึ..ปิดทำไมไม่มีอะไรให้ดู""ม่ะ ไม่มีแล้วมายืนจ้องทำห่าไร""ก็ดูผีดาดา (โครงกระดูก)ผอมก็ผอมนมก็ไม่มีจะกรี๊ดทำไม (ตรงกันข้ามหมด)ถ้าไม่ติดว่าปวดก้นกบนะจะกระโดดถืบเลยกล้ามากมาว่าเธอเป็นผีดาดาหุ่นเธอใครเห็นยังทึ่้งแต่ไอ้บ้าดินตาต่ำมาก.. "ออกไป๋" "คนเขาอุตส่าห์เอาข้าวมาส่งแต่งตัวซะเดียวพาไปกิน""ไม่ต้องยุ่ง " เ
หลังจากปิดแชทที่คุยกับพวกกวนประสาทผมเลยเดินมาดูว่าน้ำมนต์หลับไปหรือยัง (ก็ต้องหลับดิให้ยาแก้แพ้ แก้อักเสบแก้ปวด สรรพคุณคือทำให้ง่วงทุกตัว)ชายหนุ่มเดินเปิดประตูเข้ามาได้เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเพื่อนสาวเดินเข้าไปยืนมองอยู่นาน..."ขนาดหลับยังน่ารักเลยเมื่อไหร่จะคุยกับดินดีๆบางครับน้ำมนต์" ผมไม่รู้ว่านานหรือยังที่เราทั้งคู่ฟาดฟันกันด้วยวาจาผมพูดเพราะปิดบังความรู้สึกที่มีให้เพื่อนแต่กับน้ำมนต์พูดเพราะอะไรกันแน่.. ย่อตัวลงนั่งข้างเตียงมือหนาลูบใบหน้าหวานของคนที่เขารักสุดหัวใจ ก้มลงไปจูบปากเรียวบางเบาๆประทับตีตราจอง... ^_^ (ลักจุ๊บเขา)ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปทันทีดูเหมือนว่าเสียงรถของป๊าแล่นมาจอดหน้าบ้านพอดีเลยพาร์ท รตีตั้งแต่วันที่สามีเสียไปเธอก็ไม่เคยเข้าบริษัทอีกเลยพอเข้ามารับรู้ปัญหามันเยอะมากแทบจะรุมเร้าพอสมควรแต่ยังดีมีแพรวพรรณ (แพรว เพื่อนสนิทของเธอนั่นแหละภรรยาพี่ธานินทร์) นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ"รตี อย่าเคลียดเรารู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่วันนี้ที่ให้มาเพราะผู้ถือหุ้นอยากเห็นรตีแค่นั้นเอง""แพรวเรา..." ."..."ตั้งแต่สามีเสียไปเธอแทบจะอยากสิ้นลมตามไปด้วยเลยแต่..ตอนนั้นน้ำมนต์
@มหาวิทยาลัยJKณ..ม้าหินอ่อนด้านหน้าตึกวิศวะเอกวิทย์คอมกับสองเพือนซี้ที่ไม่รู้ว่าไปผูกรักผูกชะตากันมาแค่ชาติปางไหน."งานเยอะมากอะ เป็นท้ออะ" "..." ข้าวปุ้นสาวร่างท้วมแค่ท้วมแระไม่อ้วนเลยซักนิด.. ^__^ บ่นขึ้นมาแบบว่าก็เธอเรียนไม่เก่งเลยถ้าเทียบกับเพื่อนรักของเธอจริงๆอยากจะซิ่วทุกปีแต่อีนางเพื่อนคนดีย์ของเธอนี้ก็เข็นเธอกลับมาได้ทุกครั้งไป.."ข้าวจะบ่นทุกรอบที่งานเยอะเลยหรือไงนี้ " น้ำมนต์สาวสวยหุ่นดีมากเกือบได้เป็นดาวคณะแต่เธอปฎิเสธเพราอะไรนั้นเธอไม่บอกไว้ถึงสาเหตุใดๆเลย...ได้แต่ส่ายหน้าระอาให้เพื่อนตัวดีย์ของเธอเช่นกัน "หึก็มนต์เรียนเก่งอ่า" ( >ตัดมาที่เราดิถ้ามนต์ไม่เข็นเราไม่มาถึงปีสามหรอกนะนี้""ยัยบ๊อง..!! มันเป็นความฝันของข้าวไม่ใช่เหรอ" ก็ตอนมัธยมแม่นางนี่แหละที่อยากจะเรียนวิศวะคอม พูดกรอกหูทุกวันตอนเรียนมอปลายจนเอาไปฝันเลย..."ก็ช่ายแระ อย่าดุจิ..! เสียใจแล้วนะนี้" ตอบเสียงยานมากและเงยหน้ามองเพื่อนสาวคนสวยที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามเหมือนจะตัดพ้อ แต่ทว่าสังเกตเห็นอะไรที่รู้สึกแปลกตา..."เอ๊ะ..น้ำมนต์แกเอาเกียร์ใครมาแขวนอะ" 0_0"หึจะบ้าหรือไงกันมันก็เกียร์ของเราดิเราจะ
พาร์ทดินผมกำลังเดินลงจากตึกอธิการยังไม่ทันจะพ้นชายคาตึกเลยอยู่ๆต้องมาตกใจตอนที่ยัยน้ำมนต์ เดินเข้ามาดักทางและยืนขว้างหน้าผมพอดีเลย แต่ดีนะที่ผมหยุดเดินทันไม่งั้นมีชนและล้มกันอีกและมันมาช๊อตฟิลก็ตรงประโยคนั้นหละแต่...@บทสนทนาก่อนหน้า"ดิน..! แกเอาเกียร์ใครมาให้เรา 👈"รู้แล้วเหรอ .." ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงตามสไตล์เขาก่อนจะเป็นหน้านิ่งๆ"อร๊ายอะไรยังไงรู้แล้ว ..." เธอไม่เข้าใจโว๊ย..!"โตแล้วกลับไปคิดเอง " แล้วก็เดินจากไปให้คนอีกยิ่งงงอยู่ตึกนั้นแระ__________________หึ เรื่องอะไรจะตอบอยากรู้ก็ไปสืบไปคิดเอาเองแต่อย่าหวังที่ได้รู้ความจริงถ้าผมไม่ยอมรับ..."พู่" ชายหนุ่มถอนหายใจแรงหนึ่งหลังจากเดินออกมาห่างมากแล้ว"เกือบไปแล้วปะหล่ะ ผ่านมาตั้งสามปีใครวะปากมอม" "ใครปากมอมอะ พี่ดิน" วายุที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล้พี่ชายคนที่สามของเขาเลย"เห้ย เชี้ยยุ"เขาไม่รู้จะตกใจอะไรก่อนกันได้น้องชายจอมแสบโผล่หน้าได้ไงนั้นพาร์ทวายุผมนั่งอยู่ดีที่โต๊ะหน้าคณะอยู่ๆก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของพี่ชายก็เลยถามไถ่.."เรียกน้องดีๆบ้างเฮียนี่น้องเฮียนะคร๊าบ""น้องแล้วไงไม่ใช่ป๊าสักหน่อย..""อ้าว...""แล้วมานั่งหน้าเส
หลังจากปิดแชทที่คุยกับพวกกวนประสาทผมเลยเดินมาดูว่าน้ำมนต์หลับไปหรือยัง (ก็ต้องหลับดิให้ยาแก้แพ้ แก้อักเสบแก้ปวด สรรพคุณคือทำให้ง่วงทุกตัว)ชายหนุ่มเดินเปิดประตูเข้ามาได้เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเพื่อนสาวเดินเข้าไปยืนมองอยู่นาน..."ขนาดหลับยังน่ารักเลยเมื่อไหร่จะคุยกับดินดีๆบางครับน้ำมนต์" ผมไม่รู้ว่านานหรือยังที่เราทั้งคู่ฟาดฟันกันด้วยวาจาผมพูดเพราะปิดบังความรู้สึกที่มีให้เพื่อนแต่กับน้ำมนต์พูดเพราะอะไรกันแน่.. ย่อตัวลงนั่งข้างเตียงมือหนาลูบใบหน้าหวานของคนที่เขารักสุดหัวใจ ก้มลงไปจูบปากเรียวบางเบาๆประทับตีตราจอง... ^_^ (ลักจุ๊บเขา)ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปทันทีดูเหมือนว่าเสียงรถของป๊าแล่นมาจอดหน้าบ้านพอดีเลยพาร์ท รตีตั้งแต่วันที่สามีเสียไปเธอก็ไม่เคยเข้าบริษัทอีกเลยพอเข้ามารับรู้ปัญหามันเยอะมากแทบจะรุมเร้าพอสมควรแต่ยังดีมีแพรวพรรณ (แพรว เพื่อนสนิทของเธอนั่นแหละภรรยาพี่ธานินทร์) นั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ"รตี อย่าเคลียดเรารู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่วันนี้ที่ให้มาเพราะผู้ถือหุ้นอยากเห็นรตีแค่นั้นเอง""แพรวเรา..." ."..."ตั้งแต่สามีเสียไปเธอแทบจะอยากสิ้นลมตามไปด้วยเลยแต่..ตอนนั้นน้ำมนต์
พาร์ทต่อผมก็ไม่เข้าใจผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้วไงถามป๊าก็ไม่ได้คำตอบอะไรแน่ชัดแต่คิดว่าผู้ใหญ่คงมีเหตุและผลหล่ะหนอ ผมผลักประตูเข้าไปเจอแต่ความว่างเปล่า... "ไปไหนของของมันนี้ " วางอาหารแล้วเดินขึ้นไปตามหาแต่ประตูห้องมันแง้มอยู่แล้วไหม กวาดสายตามองหาร่างบาง "เอ้าในห้องก็ไม่อยู่" ผมหันตัวกลับกำลังจะออกไป แก๊ก..เสียงเปิดประตูในห้องน้ำผมหันกลับมาเจอยัยนั้นเดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวที่สั้นมากแทบจะเห็นด้านร่างล่างเลยข้างบนก็ล้นออกมา เลือดกำเดาผมจะพุ่ง"กรี๊ดไอ้บ้าดินเข้ามาได้ไง ปิดตาเดี๋ยวนี้นะ" น้ำมนต์ทานยาหลังทานข้าวเสร็จก็หลับไปตื่นขึ้นมามันรู้สึกร้อนตัวเลยอาบน้ำก่อนที่ป้านีจะเอาอาหารกลางวันมาให้แต่ทว่าเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอเพื่อนชายยืนมองเธออยู่และพึ่งนึกได้ว่าตัวเองพันแค่ผ้าเช็ดตัว.."หึ..ปิดทำไมไม่มีอะไรให้ดู""ม่ะ ไม่มีแล้วมายืนจ้องทำห่าไร""ก็ดูผีดาดา (โครงกระดูก)ผอมก็ผอมนมก็ไม่มีจะกรี๊ดทำไม (ตรงกันข้ามหมด)ถ้าไม่ติดว่าปวดก้นกบนะจะกระโดดถืบเลยกล้ามากมาว่าเธอเป็นผีดาดาหุ่นเธอใครเห็นยังทึ่้งแต่ไอ้บ้าดินตาต่ำมาก.. "ออกไป๋" "คนเขาอุตส่าห์เอาข้าวมาส่งแต่งตัวซะเดียวพาไปกิน""ไม่ต้องยุ่ง " เ
พาร์ทอาจาร์ยนฤมล...ตอนนี้เธออายุย่างห้าสิบห้าปีหน้ากะว่าจะ Erie ตัวเองออกไปอยู่บ้านอยากพักผ่อนแล้วอายุราชการของเธอจะสามสิบปีได้แล้วมั้งเธออยู่กับขนาดนี้มาตั้งแต่เป็นคุณครูที่พึ่งบรรจุใหม่ไม่ว่ารุ่นไหนก็ผ่านการสอนจากเธอมาหมดแล้ว เหนือเมฆเป็นลูกศิษย์ทีี่เธอภูมิมากเป็นเก่งคนเรียนดี ตอนเรียนเป็นถึงเดือนคณะและเดินมหาลัยแถมยังเป็นประธานรุ่นที่น้องๆต่างเกรงขามพอสมควร... วิศวะขึ้นชื่อ โหด เลว ดี แต่สำหรับศิษย์รักของเธอได้ฉายา หล่อ ดี และดีมาก...(แต่หน้าไม่ได้บ่งบอกว่าสุภาพชนหน้าตาออกไปทางผู้ชายสายแพรวพราวซะมากกว่า)"ว่าไงมารับเด็กแสบเหรอคิว""เง้อ..จารย์ว่ามนต์แสบได้ไง มนต์ออกจะเรียบร้อยจะตายไปคะ" "...""เรียบร้อยมากครับวิ่งบนอาคารเรียนครับอาจารย์ผมต้องทำยังไงดี " พร้อมอมยิ้ม..."หือ...พี่คิวอ่า" "....""คุณต้องมนตราคะ ใครสั่งใครสอนให้วิ่งบนอาคารเรียน รู้ไหมว่าอาคารเรียนไม่ใช่สนามเด็กเล่นแล้วหนูตอนนี้อายุยี่สิบเอ็ดปีแล้วนะคะ" เธอขอดุลูกศิษย์ที่ยังทำตัวเป็นเด็กนิดหนึ่ง.."เง้อ..หนูขอโทษค่ะพอดีหนูติดธุระนิดนึงแล้วเวลามันจวนเจียนก็เลยต้องสปีดนิดนึงค่ะ" ^_^ จ๋อยเลยครัชงานนี้ "นิดนึงแล้วน
พาร์ทดินผมกำลังเดินลงจากตึกอธิการยังไม่ทันจะพ้นชายคาตึกเลยอยู่ๆต้องมาตกใจตอนที่ยัยน้ำมนต์ เดินเข้ามาดักทางและยืนขว้างหน้าผมพอดีเลย แต่ดีนะที่ผมหยุดเดินทันไม่งั้นมีชนและล้มกันอีกและมันมาช๊อตฟิลก็ตรงประโยคนั้นหละแต่...@บทสนทนาก่อนหน้า"ดิน..! แกเอาเกียร์ใครมาให้เรา 👈"รู้แล้วเหรอ .." ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงตามสไตล์เขาก่อนจะเป็นหน้านิ่งๆ"อร๊ายอะไรยังไงรู้แล้ว ..." เธอไม่เข้าใจโว๊ย..!"โตแล้วกลับไปคิดเอง " แล้วก็เดินจากไปให้คนอีกยิ่งงงอยู่ตึกนั้นแระ__________________หึ เรื่องอะไรจะตอบอยากรู้ก็ไปสืบไปคิดเอาเองแต่อย่าหวังที่ได้รู้ความจริงถ้าผมไม่ยอมรับ..."พู่" ชายหนุ่มถอนหายใจแรงหนึ่งหลังจากเดินออกมาห่างมากแล้ว"เกือบไปแล้วปะหล่ะ ผ่านมาตั้งสามปีใครวะปากมอม" "ใครปากมอมอะ พี่ดิน" วายุที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล้พี่ชายคนที่สามของเขาเลย"เห้ย เชี้ยยุ"เขาไม่รู้จะตกใจอะไรก่อนกันได้น้องชายจอมแสบโผล่หน้าได้ไงนั้นพาร์ทวายุผมนั่งอยู่ดีที่โต๊ะหน้าคณะอยู่ๆก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของพี่ชายก็เลยถามไถ่.."เรียกน้องดีๆบ้างเฮียนี่น้องเฮียนะคร๊าบ""น้องแล้วไงไม่ใช่ป๊าสักหน่อย..""อ้าว...""แล้วมานั่งหน้าเส
@มหาวิทยาลัยJKณ..ม้าหินอ่อนด้านหน้าตึกวิศวะเอกวิทย์คอมกับสองเพือนซี้ที่ไม่รู้ว่าไปผูกรักผูกชะตากันมาแค่ชาติปางไหน."งานเยอะมากอะ เป็นท้ออะ" "..." ข้าวปุ้นสาวร่างท้วมแค่ท้วมแระไม่อ้วนเลยซักนิด.. ^__^ บ่นขึ้นมาแบบว่าก็เธอเรียนไม่เก่งเลยถ้าเทียบกับเพื่อนรักของเธอจริงๆอยากจะซิ่วทุกปีแต่อีนางเพื่อนคนดีย์ของเธอนี้ก็เข็นเธอกลับมาได้ทุกครั้งไป.."ข้าวจะบ่นทุกรอบที่งานเยอะเลยหรือไงนี้ " น้ำมนต์สาวสวยหุ่นดีมากเกือบได้เป็นดาวคณะแต่เธอปฎิเสธเพราอะไรนั้นเธอไม่บอกไว้ถึงสาเหตุใดๆเลย...ได้แต่ส่ายหน้าระอาให้เพื่อนตัวดีย์ของเธอเช่นกัน "หึก็มนต์เรียนเก่งอ่า" ( >ตัดมาที่เราดิถ้ามนต์ไม่เข็นเราไม่มาถึงปีสามหรอกนะนี้""ยัยบ๊อง..!! มันเป็นความฝันของข้าวไม่ใช่เหรอ" ก็ตอนมัธยมแม่นางนี่แหละที่อยากจะเรียนวิศวะคอม พูดกรอกหูทุกวันตอนเรียนมอปลายจนเอาไปฝันเลย..."ก็ช่ายแระ อย่าดุจิ..! เสียใจแล้วนะนี้" ตอบเสียงยานมากและเงยหน้ามองเพื่อนสาวคนสวยที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามเหมือนจะตัดพ้อ แต่ทว่าสังเกตเห็นอะไรที่รู้สึกแปลกตา..."เอ๊ะ..น้ำมนต์แกเอาเกียร์ใครมาแขวนอะ" 0_0"หึจะบ้าหรือไงกันมันก็เกียร์ของเราดิเราจะ