ฟู่หานชวนบอกว่าอยากกินไข่สกอตช์เพราะตั้งใจจะให้ป้าหวังโทรไปหาเจียงหว่านเยวี่ยเขายอมหาทางลงให้เจียงหว่านเยวี่ยแล้ว“คุณนายบอกว่าเธอจะไม่กลับมาแล้วค่ะ”“แค่กๆๆ!”ฟู่หานชวนสำลักกาแฟจนไอออกมาไม่ยอมหยุดป้าหวังสังเกตเห็นความผิดปกติ “คุณท่านกับคุณนายทะเลาะกันหรือคะ?”“ไม่มีอะไร!”ชายหนุ่มเอ่ยเสียงต่ำ บรรยากาศภายในห้องอาหารลดฮวบภายในเสี้ยวพริบตาป้าหวังพยายามทำตัวเล็ก ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีกฟู่หานชวนบีบแก้วกาแฟในมือแน่น เจียงหว่านเยวี่ยจะไม่ยอมกลับมาได้อย่างไร?ตอนนี้เธอน่าจะกำลังเตรียมอาหารอยู่ เดี๋ยวตอนเที่ยงก็คงเอาข้าวกล่องแห่งรักไปส่งที่บริษัทก่อนหน้านี้ถ้าเจียงหว่านเยวี่ยทำให้เขาไม่พอใจ เธอจะทำข้าวเที่ยงไปส่งให้เขาถึงที่บริษัทเพื่อขอคืนดี*โจวโจวนั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว เมื่อเห็นอาหารเช้าก็ตาเป็นประกายทันที “ว้าว! โจ๊กไก่ใส่ไข่เยี่ยวม้า!”โจวโจวชอบกินโจ๊กไก่ใส่ไข่เยี่ยวม้า แต่ว่าตูตูแค่เห็นไข่เยี่ยวม้าก็อยากจะอ้วกแล้วที่บ้านตระกูลฟู่ เจียงหว่านเยวี่ยไม่ค่อยได้ต้มโจ๊กเพราะฟู่หานชวนกับตูตูไม่ชอบกินแม่สามีเคยบอกกับเธอว่าของพวกนี้เป็นอาหารของพวกคนจน เพราะคนจนมีข้าวไม่มากพอเ
ปลายสายอีกฝั่งหนึ่ง ถูกชายหนุ่มกดวางสายไปตั้งนานแล้วเจียงหว่านเยวี่ยนั่งอยู่ในรถ เท้าของเธอเหยียบคันเร่ง รถยนต์จึงพุ่งทะยานออกจากจุดเดิมเธอไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีรถสปอร์ตสีดำคันหนึ่งแอบขับตามเธอเงียบๆ เหมือนเงาตามติด*ภาพวิวสองข้างทางเลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว รถวอลโว่สีเงินแล่นผ่านถนนลาดยางราวกับแสงวาบผ่านนัยน์ตาดำขลับของเจียงหว่านเยวี่ยมองตรงไปด้านหน้า เธอไม่ได้ขับรถด้วยความเร็วขนาดนี้นานแล้ว อะดรีนาลีนของเธอพลุ่งพล่านตามเข็มบนมาตรวัดความเร็วเธอขับแซงรถสปอร์ตสีสันฉูดฉาดไปสามคันติดๆ คนบนรถสปอร์ตถึงกับอุทานว่า“แม่เจ้า! ใครวะนั่น?”คนบนรถสปอร์ตอีกคันสั่งผ่านหูฟังบลูทูธว่า “สืบป้ายทะเบียนรถคันนั้นให้ฉันที”รถสปอร์ตแต่งคันแล้วคันเล่าถูกเจียงหว่านเยวี่ยขับแซงจนรั้งท้าย ขนาดทางโค้งเจียงหว่านเยวี่ยก็ไม่คิดจะเหยียบเบรกแม้แต่น้อยมีเสียงดังผ่านหูฟังบลูทูธของบรรดาไฮโซทั้งหลาย“ฉันสืบได้แล้ว รถคันนั้นเป็นของตระกูลเจียง!”มีคนถามด้วยความสงสัย “ตระกูลเจียง? อย่าบอกนะว่าคนที่ขับคือเจียงหนานเซิง?”“เจียงหนานเซิงฝีมือเจ๋งขนาดนี้เลยเหรอ? ก่อนหน้านี้เธอแข่งกับพวกเราแบบออมมือเอาไว้เหรอ?”
เจียงหนานเซิงถือถุงกระดาษลงมาจากรถมอเตอร์ไซที่ถูกดัดแปลงรปภ.ที่เห็นผู้หญิงสวมกางเกงโยคะรัดรูปลงมาจากรถก็ถึงกับตาเหลือกเจียงหนานเซิงสะบัดผมยาวของตัวเองอย่างไม่ใส่ใจ เอ่ยทักทายรปภ.ที่เฝ้าหน้าทางเข้าเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลเธอสืบมาเรียบร้อยแล้วว่าตูตูเรียนอยู่ชั้นไหน พอเห็นครูประจำชั้น เจียงหนานเซิงก็เดินเข้าไปหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“สวัสดีค่ะ ฉันเอาขนมไขขี้ผึ้งมาส่งให้ฟู่กุยตู้ ได้ยินมาว่าเด็กๆ ชอบขนมไขขี้ผึ้งที่เขาเอามาแจกมากเลย”ครูประจำชั้นมองสำรวจเจียงหนานเซิง “คุณเป็นคนบอกให้ฟู่กุยตู้เอาขนมไขขี้ผึ้งมาโรงเรียนเหรอคะ?”เจียงหนานเซิงสีหน้าเบิกบาน “ใช่ค่ะ เพื่อนฉันเป็นคนทำขนมไขขี้ผึ้งพวกนี้เอง ใช้ขี้ผึ้งชั้นดีมาทำเลยนะคะ...”“ที่แท้ก็เธอนี่เอง ที่เป็นตัวการทำลูกชายฉันเกือบขนมติดคอตาย!!”เสียงเดือดจัดดังมาจากด้านหลังของเจียงหนานเซิง ตอนที่เธอหันไปก็มีเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าอย่างหนักหน่วงดังขึ้นข้างแก้มของเธอเจียงหนานเซิงถึงกับตาพร่ามัวไปชั่วขณะ“แกตบฉันทำไมเนี่ย?!”“เพราะแกเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดไง!!”เจียงหนานเซิงเป็นพวกที่ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใครหน้าไหน เธอ
สมองของเจียงหว่านเยวี่ยขาวโพลนไปหมด ราวกับมีคลื่นลูกยักษ์ซัดเข้ามาฉีกร่างของเธอเป็นชิ้นๆ กระตุ้นความอับอายและโกรธเคืองของเธอเธอยื่นมือออกไปหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยเจียงหนานเซิงตาเป็นประกาย สายตาของเธอฉายแววเยาะเย้ยชัดเจนฟู่หานชวนเอนตัวพิงโซฟาแล้วเบนสายตาออกไปทางอื่น เจียงหว่านเยวี่ยก็เหมือนสุนัขตัวหนึ่ง วินาทีก่อนเพิ่งจะเมินเฉยใส่เธอไป วินาทีต่อมาแค่เขากระดิกนิ้วเรียก เธอก็พร้อมจะกระดิกหางเข้ามาหาแล้วเจียงหว่านเยวี่ยใช้นิ้วเกี่ยวสร้อยที่อยู่บนคอของเจียงหนานเซิงเธอเอาสร้อยทั้งสองเส้นมาวางเทียบกัน“หนานเซิง สร้อยที่เธอสวมอยู่เหมือนจะสีสดกว่านะ ฉันขอแลกกับของเธอก็แล้วกัน ได้ไหมล่ะ?”หากเธอเปิดโปงว่ามันเป็นของปลอมแบบโต้งๆ เจียงหนานเซิงก็จะหาข้ออ้างสารพัดมาปัดความผิดให้พ้นตัวเธอต้องการให้เจียงหนานเซิงกล้ำกลืนความอัปยศสร้อยคอเส้นเรียวเล็กถูกดึงจากรัดคอด้านหลังของเจียงหนานเซิงเจียงหนานเซิงหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด ตอนแรกเธอคิดว่าจะได้เห็นเจียงหว่านเยวี่ยสวมสร้อยคอของปลอมออกไปให้คนหัวเราะเยาะแต่เจียงหว่านเยวี่ยมองปราดเดียวก็แยกแยะมูลค่าของสร้อยทั้งสองเส้นได้แ
เจียงหว่านเยวี่ยยื่นปากกาให้เขาเจียงหนานเซิงเบิกตากว้างด้วยความคาดหวังเห็นฟู่หานชวนเซ็นชื่อในหนังสือสัญญาหย่า เจียงหนานเซิงแอบยิ้มดีใจ“พี่หว่านเยวี่ย พี่จะดัดจริตเกินไปแล้วนะ ถ้าฉันมีสามีแบบหานชวนคงดีใจจนละเมอขำตอนนอนแล้ว!!”เจียงหว่านเยวี่ยยิ้มเยาะมองเจียงหนานเซิง “อยากได้มากจนเก็บอาการไม่อยู่เลยนะ”ฟู่หานชวนโยนหนังสือสัญญาหย่าที่เซ็นชื่อแล้วให้เจียงหว่านเยวี่ย“ทะเลาะกันแค่สองคนแท้ๆ เธอจะพาลหาเรื่องหนานเซิงทำไม!”เขาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเจียงหว่านเยวี่ย จึงพูดกับโจวโจวด้วยเสียงเบาว่า “ถ้าหนูอยากกลับบ้าน โทรหาพ่อได้ตลอดเวลาเลยนะ”โจวโจวเงยหน้ามองฟู่หานชวน เธอไม่พูดอะไร เพียงแต่กำมือเจียงหว่านเยวี่ยแน่นขึ้นชายหนุ่มมองเจียงหว่านเยวี่ยด้วยสายตาเย็นชา“โจวโจวเป็นลูกสาวฉัน เธอกลับมาที่บ้านหลังนี้ได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าอนาคตเธออยากจะกลับมา... คงไม่ง่ายแล้วล่ะ!”ฟู่หานชวนนั่งด้วยท่าทางสง่าราวเทพบนสวรรค์ ก้มมองลงมาที่เธอด้วยสายตาเหยียดหยามเขากำลังเตือนเจียงหว่านเยวี่ยอ้อมๆ ว่านี่เป็นการเดินหมากที่ผิดพลาด! เจียงหว่านเยวี่ยจะต้องชดใช้อย่างแสนสาหัส!เจียงหว่านเยวี่ยยิ้ม “หลังจากอ
คำพูดของเจียงหนานเซิงช่างยั่วยวนใจ จนตูตูเกิดความลังเล“แต่ว่า งานประดิษฐ์ง่ายๆ แบบนี้ คงไม่ได้ดอกไม้แดงหรอกครับ”“ฉันจะสั่งซื้อดอกไม้แดงทางออนไลน์แล้วเอามาให้เธอเยอะๆ เลย! แค่นี้เธอก็จะมีดอกไม้แดงเยอะสมใจแล้ว!”ตูตูมองเจียงหนานเซิงเหมือนมองคนโง่“พี่เซิง พี่ใส่ของปลอมออกจากบ้านทุกวันเหรอครับ?”เจียงหนานเซิงปฏิเสธทันที “ฉันไม่เคยใส่ของปลอมนะ!”ตูตูเอ่ยเสียงสูง “พี่จะให้ผมเอาดอกไม้แดงที่พี่ซื้อให้ไปโรงเรียนอนุบาล อยากให้เพื่อนๆ คนอื่นหัวเราะเยาะผมเหรอ? มีแต่ดอกไม้แดงที่คุณครูให้เท่านั้น ที่เป็นดอกไม้แดงของจริง!”“พี่เคยฟังนิทานเรื่องอาภรณ์ตัวใหม่ของจักรพรรดิไหมครับ?”ตูตูแค่นเสียงเย็นชาด้วยความโกรธ “มันเป็นการหลอกตัวเอง!”เมื่อถูกเด็กห้าขวบปรามาส เจียงหนานเซิงก็รู้สึกหน้าม้านอย่างแรง “โอเคๆ! พี่จะช่วยเธอสร้างยานอวกาศให้เสร็จเอง”ในเมื่อเจียงหว่านเยวี่ยใช้หลอดพลาสติกสร้างยานอวกาศได้ ทำไมเธอจะทำไม่ได้ล่ะสิบนาทีต่อมา เสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาของตูตูก็ดังขึ้น ยานอวกาศที่สร้างไปได้ 90% แล้ว ถูกเจียงหนานเซิงเผลอทับพังหมดเลยตูตูนั่งอยู่บนพื้น เขาตัวแข็งทื่อ“พี่ พี่ พี่... คื
โจวโจวไม่ยอม เธอเถียงว่า “ยานอวกาศนั่นหม่ามี๊อดหลับอดนอนเพื่อทำให้เธอนะ!”“ยานอวกาศที่หม่ามี๊ทำน่ะไม่ได้เรื่องสักนิด แตะนิดหน่อยก็พังแล้ว! ยานอวกาศที่พี่เซิงทำให้ผมใหม่ต่างหากที่เจ๋งสุดยอด”ตูตูคุยโวโอ้อวด ขณะที่โจวโจวกำหมัดแน่นทั้งเธอและตูตูต่างก็เห็นหม่ามี๊อดหลับอดนอนทำการบ้านให้ ทำไมตูตูถึงกล้าดูถูกความตั้งใจของหม่ามี๊แบบนี้?ความจริงแล้วเจียงหว่านเยวี่ยก็ไม่อยากลำบากขนาดนี้เหมือนกันเธอจ่ายเงินจ้างคนรับใช้ในบ้านให้ช่วยทำการบ้านของตูตูและโจวโจว แต่คนรับใช้กลับเอาเรื่องไปฟ้องแม่สามี“ฉันให้ลูกชายแต่งงานกับนักศึกษาอัจฉริยะที่จบจากม.หัวจง ก็เพื่อให้เธอทุ่มเทเลี้ยงดูทายาทตระกูลฟู่ไม่ใช่หรือไง”“หว่านเยวี่ย อนาคตของตูตูคือภารกิจในชีวิตของเธอ เธอจะให้คนรับใช้ทำการบ้านแทนตูตูได้ยังไง?”คนรับใช้เลิกงานตรงเวลาได้ แต่เธอในฐานะแม่ ต้องอยู่ช่วยลูกทำการบ้านให้เสร็จโจวโจวจูงมือเจียงหว่านเยวี่ยเดินจากไป เจียงหว่านเยวี่ยเดินผ่านตูตูไปโดยไม่มองเขาแม้แต่น้อยตูตูยืดคอมองไปสุดสายตา พึมพำว่า “ยานอวกาศของฉัน ทำไมยังไม่มาสักทีล่ะ?!”ตูตูมองผู้ปกครองพาเด็กๆ เดินเข้าไปในโรงเรียน มีเด็กบางคนแวะ
ช่างทำโมเดลยานอวกาศที่เจียงหนานเซิงจ้างเอาไว้ กำชับกับเธอว่าเมื่อแกะกล่องออกมาแล้ว ยานอวกาศขนาดใหญ่แบบนี้จะแตกหักง่ายมาก เขาจึงกำชับให้เจียงหนานเซิงดูแลกล่องกระดาษนี้อย่างดี หากเกิดความเสียหาย เธอต้องรับผิดชอบเอาเองตูตูพยักหน้า เขาเชื่อใจเจียงหนานเซิงมากครูโจวพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "คุณเจียงคะ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้! งานฝีมือของฟู่กุยตู้ยังไม่ได้เปิดเผยและยังไม่ได้รับการคัดเลือก การได้สิทธิ์ขึ้นเวทีเลยมันไม่ยุติธรรมกับเด็กคนอื่น!"เจียงหนานเซิงยิ้มโดยไม่ใส่ใจ "คุณรู้ไหมว่าคุณย่าของฟู่กุยตู้เป็นผู้บริหารของโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้? คุณรู้ไหมว่าพ่อของฟู่กุยตู้จะมาฟังเขากล่าวสุนทรพจน์ที่หอประชุมวันนี้?"ดวงตาของตูตูเป็นประกายทันที "พ่อผมจะมาโรงเรียนอนุบาลเหรอ?!"โจวโจวนั่งอยู่ที่โต๊ะของตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงของตูตู หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้น ดวงตาของเธอก็ส่องประกายเช่นกัน"พ่องานยุ่งขนาดนั้น เขาจะมาโรงเรียนอนุบาลได้ยังไง?" ตูตูถามอย่างไม่อยากจะเชื่อเจียงหนานเซิงโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจ "พี่บอกให้เขามา เขากล้าไม่มาเหรอ?""พี่เซิง พี่เจ๋งสุดๆ ไปเลย!" ตูตูมองเจียงหนานเซิงด้วยความนับถือเจีย
เจียงหว่านเยวี่ยรีบหันหลังเดินออกไปทันทีเวลาไม่เคยรอใคร เธอต้องรีบหาสถานที่ที่มีเน็ตและไฟฟ้า เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์ออนไลน์เจียงหว่านเยวี่ยไปร้านกาแฟใกล้ๆ แต่กลับพบว่าร้านกาแฟไม่มีสัญญาณเช่นกันเจียงหว่านเยวี่ยกดปุ่มโทรออกฉุกเฉิน เธอโทรหาลู่ฟ่าง“พี่ใหญ่ ฉันขอไปใช้เน็ตที่ฟิตเนสของคุณได้ไหม ที่นี่ไม่มีสัญญาณเน็ตเลย”เสียงของลู่ฟ่างดังมา “ขอโทษด้วย หว่านเยวี่ย ตอนนี้ฟิตเนสปิดเพราะเหตุไฟ้ไหม้น่ะ”“พี่ว่าไงนะ?!”มันจะบังเอิญขนาดนี้เชียว?ลู่ฟ่างก็รู้สึกแปลก ๆ “ห้องเช่าของฉันก็โดนตัดไฟวันนี้เหมือนกัน ฉันจะโทรถามการไฟฟ้าดู”“ไม่ต้องแล้ว” เจียงหว่านเยวี่ยพูด “พี่ ฉันทำให้พี่เดือดร้อนแล้ว”ลู่ฟ่างรู้ทันทีว่าทำไมเจียงหว่านเยวี่ยถึงรู้สึกผิดกับเขาสีหน้าของลู่ฟ่างเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ฟู่หานชวนเป็นคนทำงั้นเหรอ? เขาบล็อกสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่บ้านเธอ?”“พี่ ฉันมีเรื่องสำคัญต้องทำ ฉันเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น!”เจียงหว่านเยวี่ยไม่มีเวลาคุยกับลู่ฟ่างมาก เธอวางสายกอดโน้ตบุ้คเอาไว้แล้วเดินฝ่าสายฝนสายฝนเบาบางโปรยปรายลงมาบนตัวเจียงหว่านเยวี่ย เธอใช้เสื้อโค้ทของตัวเองห่อหุ้มโ
ฟู่หานชวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณยังอยากจะเอาชนะเด็กอีกเหรอ? ตอนนี้ตูตูมีอาการคอบวม อันตรายมาก”“คุณฟู่ แค่โอนเงินห้าล้านบาท ใช้เวลาแค่สามวินาทีเอง”ลมหายใจเย็นยะเยือกพุ่งออกจากจมูกของฟู่หานชวน เขาเกลียดความรู้สึกที่ถูกควบคุมแบบนี้“เจียงหว่านเยวี่ย! คุณใจร้ายมาก! คุณไม่คู่ควรจะเป็นแม่คน!”ขณะที่พูด ฟู่หานชวนก็กดโอนเงินห้าล้านให้เจียงหว่านเยวี่ยหลังจากได้รับการแจ้งเตือนว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว เจียงหว่านเยวี่ยก็โทรคุยกับหมอ แจ้งประวัติการแพ้ของตูตูให้ทางโรงพยาบาลทราบ“ฟู่หานชวน”เสียงของเจียงหว่านเยวี่ยดังมาจากโทรศัพท์ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเหยียดหยาม “ว่าไง พอได้เงินห้าล้านไปแล้วเกิดเปลี่ยนใจงั้นเหรอ?”“ช่างเถอะ ทีแรกว่าจะเตือนคุณสักหน่อย แต่คิดว่าไม่จำเป็นแล้วล่ะ” เจียงหว่านเยวี่ยตัดสายทิ้งทันทีเธอตั้งใจจะบอกฟู่หานชวนว่าตูตูนอนหลับยาก ถ้าเข้าโรงพยาบาลแล้วต้องนอนพักฟื้น ต้องใช้หมอน ผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวมและชุดนอนของที่บ้านเท่านั้นก่อนหน้านี้เธอเป็นคนเตรียมทุกอย่าง เธอขับรถพาตูตูไปโรงพยาบาล คนรับใช้ที่บ้านไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลยคิดว่าฟู่หานชวนคงไม่รู้เรื่องพวกนี้แน่ๆเจียงห
ฟู่หานชวนพุ่งเข้าไปในห้องเด็ก เห็นตูตูนอนนิ่งอยู่บนเตียง มีผื่นแดงขึ้นเต็มตัว เขาแพ้อาหารอีกแล้ว!“โทรหาหมอประจำบ้าน” ฟู่หานชวนขมวดคิ้วแต่คนรับใช้รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะ “อาการของคุณชายน้อยแย่มาก! อาจจะรอหมอไม่ไหวค่ะ!”ฟู่หานชวนอุ้มตูตูตรงไปที่โรงจอดรถเมื่อฟู่หานชวนอุ้มตูตูลงจากรถ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็พาหมอเด็กมารออยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาลแล้ว“คุณฟู่!” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้ความเคารพฟู่หานชวนอย่างมากฟู่หานชวนวางตูตูลงบนเตียงเคลื่อนที่ พยาบาลเข็นเตียงเข้าไปในลิฟต์ หมอเปิดเสื้อตูตูเพื่อตรวจชีพจร“คุณชายน้อยแพ้อะไรไหมครับ?” หมอถามฟู่หานชวนมองไปที่ป้าหวังป้าหวัง “ฉันไม่รู้ค่ะ!”ป้าหวังก้มหน้าพูดเบาๆ “มีคุณนายคนเดียวที่รู้”ฟู่หานชวนสั่ง “โทรหาเจียงหว่านเยวี่ย”ป้าหวังมีสีหน้าลำบากใจ “คุณนายบล็อกเบอร์ฉันไปแล้วค่ะ”ฟู่หานชวนพูดกับพยาบาลคนหนึ่ง “เอาโทรศัพท์มือถือมาให้ฉัน”ฟู่หานชวนถามป้าหวัง “เบอร์เจียงหว่านเยวี่ยเบอร์อะไร?”พยาบาลเบิกตากว้าง ผู้ชายคนนี้จำเบอร์โทรศัพท์ภรรยาตัวเองไม่ได้งั้นเหรอ?ป้าหวังบอกเบอร์ ฟู่หานชวนกดเลขแล้วโทรออกไม่นานก็มีเสียงผู้หญิงเรียบราบไร
“เย้! พี่เซิง ผมจะรอพี่นะครับ!”ตูตูวางสายด้วยความดีใจเจียงหนานเซิงมองฟู่หานชวนด้วยสายตาภาคภูมิใจ “เป็นไงล่ะ~ฉันเก่งใช่ไหมล่ะ? ลูกชายนายตอนนี้เชื่อฟังฉันทุกอย่างเลย!”ฟู่หานชวนกำชับ “อย่าพาเขาไปทำอะไรอันตรายล่ะ”“รู้แล้วน่า! ฉันรู้จักขอบเขตตัวเองดี! ตูตูต้องอยู่กับฉัน ถึงจะได้เป็นลูกผู้ชายตัวจริง!”*เจียงหว่านเยวี่ยกลับมาที่สนามมวย ครูฝึกมวยช่วยโจวโจวฝึกซ้อมไปแล้วครึ่งชั่วโมงกว่าโจวโจวสวมนวมสีชมพู ถักเปียสองข้างน่ารักเธอชกกระสอบทรายเป็นจังหวะ ส่วนครูฝึกที่จับกระสอบทรายต้องรับแรงกระแทกจากโจวโจวครั้งแล้วครั้งเล่าครูฝึกเหงื่อท่วมตัว เหมือนคนเพิ่งขึ้นมาจากน้ำเขาหอบขณะเอ่ยถาม “หนูไหวไหม? จะพักก่อนก็ได้นะ”ผิวของโจวโจวขาวใส ไม่มีเหงื่อเลยสักหยด “หนูยังชกได้อีกหนึ่งร้อยครั้ง! หนึ่ง สอง สาม!”เสียงตะโกนของโจวโจวเต็มไปด้วยพลังหนึ่งชั่วโมงต่อมา ครูฝึกก็กอดกระสอบทราย นอนแผ่หมดสภาพอยู่บนพื้นเจียงหว่านเยวี่ยเดินเข้ามาจะถามโจวโจวว่าเป็นยังไงบ้าง แต่คำพูดที่ออกมาคือ “ครูฝึกคะ ครูฝึกเป็นอะไรรึเปล่าคะ?”ดวงตาของครูฝึกดูว่างเปล่าไร้วิญญาณ “ปกติคุณให้ลูกสาวกินอะไรเนี่ย? แอบกินเวย์โ
“ชิ” ฟู่หานชวนวางโทรศัพท์ลงด้วยความไม่พอใจ เจียงหว่านเยวี่ยยังไม่เลิกทะเลาะกับเขาสักที“โอ๊ย! อย่าไปกังวลเรื่องพี่หว่านเยวี่ยเลยน่า!”เจียงหนานเซิงโอบคอฟู่หานชวน ตบลงบนอกเขาสองสามทีอย่างไม่ถือสาฟู่หานชวนไม่ได้ขัดขืนการกระทำของเธอเจียงหนานเซิงก็เลยเกาะฟู่หานชวนแบบนั้น แล้วกลับไปที่ห้องส่วนตัวด้วยกันเหล่าคนรวยในห้องส่วนตัวกำลังคุยกันเรื่องหุ้นหลายตัวที่ปรับตัวสูงขึ้นในตลาดหุ้นวันนี้“ฉันได้ยินมาว่าเมื่อสองวันก่อนตระกูลฟู่ลงทุนไปสามร้อยล้านที่บริษัทหลักทรัพย์หัวไท่”พวกคุณชายคุณหนูเหล่านี้รู้ข่าวสารไว การซื้อขายหลักร้อยล้านระหว่างเจียงหว่านเยวี่ยกับบริษัทหลักทรัพย์หัวไท่ ไม่มีทางเล็ดรอดหูตาของพวกเขาไปได้สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปที่ฟู่หานชวนฟู่หานชวนนิ่งไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าเจียงหว่านเยวี่ยแค่โชคดีเท่านั้นฟู่หานชวนนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ พูดอย่างไม่ใส่ใจ “ภรรยาผมแค่ดวงดีเท่านั้นเอง”เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าเจียงหว่านเยวี่ยได้ยินข่าววงในเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ตอนที่เข้าไปในห้องทำงานของเขาหรือเปล่าไม่งั้นเธอจะมีความกล้าถึงขนาดที่เอาเงินทั้งหมดไปลงทุนในตลาดหุ้นได
เธอชูแขนขึ้น เจียงหว่านเยวี่ยกำลังจะเตือนโจวโจวให้เบาแรงหน่อย แต่โจวโจวดันปล่อยหมัดออกไปแล้วครูฝึกมวยโดนต่อยกระเด็นเสียหลักล้มลงกับพื้น สมองขาวโพลนไปหมด“โค้ชคะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ” โจวโจวิ่งไปหาครูฝึกทันทีครูฝึกรู้สึกว่าตัวเองโดนแรงมหาศาลยกขึ้นมาเขากุมอกไอไม่หยุด โจวโจวตบหลังเขาเบาๆ“แหวะ!”อาหารเช้าที่ยังย่อยไม่หมดพุ่งออกมาจากปากครูฝึก เลอะเทอะไปทั่วพื้น“ชิ!” ลู่ฟ่างสบถออกมาอย่างรังเกียจเจียงหว่านเยวี่ยรีบไปหยิบไม้ถูพื้นมาช่วยทำความสะอาดไม่ไกลนัก มีคนแอบถ่ายเจียงหว่านเยวี่ยด้วยโทรศัพท์มือถือเขาส่งวิดีโอไปให้เจียงหนานเซิง“เนี่ยเหรอพี่สาวไม่ได้เรื่องของแก?”เจียงหนานเซิงจ้องวิดีโอในมือถืออยู่นาน ก่อนจะหัวเราะออกมาเธอหันหลังเดินเข้าไปในห้องส่วนตัว เสียงประตูกระแทกกำแพงทำให้ผู้ชายสิบกว่าคนที่อยู่ในห้องหันมามองวันนี้เจียงหนานเซิงใส่เสื้อคลุมออกกำลังกายสีดำรัดรูป กางเกงเลกกิ้งรัดรูปเน้นให้เห็นช่วงขาเรียวยาวเธอสะบัดผมสีดำสนิท ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างฟู่หานชวน“หานชวน ช่วยพูดกับพี่หว่านเยวี่ยหน่อยสิ เธอไปทำงานเป็นคนทำความสะอาดที่ฟิตเนส!”เจียงหนานเซิงเปิดวิดีโอที่เจี
ลู่ฟ่างเห็นเสิ่นอั้นอุ้มโจวโจว เขาจึงผลักประตูรถลงมาลู่ฟ่างสูงเกือบหนึ่งเมตรเก้าสิบเซน ร่างกายกำยำล่ำสัน เสื้อยืดแขนสั้นสีดำที่เขาสวมใส่ถูกดันจนเห็นรูปร่างของกล้ามเนื้อที่ชัดเจน“ส่งเธอมาให้ฉัน”ลู่ฟ่างยื่นมือไปหาเสิ่นอั้น กล้ามเนื้อที่แขนเป็นมัดๆเสิ่นอั้นจึงยื่นโจวโจวให้ลู่ฟ่างลู่ฟ่างอุ้มโจวโจวด้วยมืข้างเดียว หันไปบอกเจียงหว่านเยวี่ยว่า “ไปกันเถอะ”เจียงหว่านเยวี่ยกล่าวลาเสิ่นอั้น แล้วขึ้นรถของลู่ฟ่างลู่ฟ่างวางโจวโจวไว้ที่เบาะหลัง ปิดประตูรถ แล้วเดินไปที่เบาะคนขับ สายตาเย็นชาของเขากวาดมองเสิ่นอั้นเสิ่นอั้นไม่สนใจลู่ฟ่าง มองเจียงหว่านเยวี่ยด้วยสายตาที่อ่อนโยน “เดินทางปลอดภัยนะ”เขายิ้มมุมปาก รอยยิ้มไม่ได้ดูสนิทสนมจนเกินไป หนำซ้ำยังดูห่างเหินเล็กน้อยเสิ่นอั้นมองรถออฟโรดขับออกไปลู่ฟ่างเหลือบมองกระจกหลัง “เมื่อกี้ใครน่ะ?”“ลูกชายของศาสตราจารย์เสิ่น เสิ่นอั้น”ลู่ฟ่างครุ่นคิด “ฉันเคยเห็นเขาที่มหาลัยของเธอ”เจียงหว่านเยวี่ยไม่ได้คิดอะไร “เขาอาจจะมาหาพ่อเขามั้ง”เท่าที่เจียงหว่านเยวี่ยรู้ เสิ่นอั้นไม่ใช่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยปักกิ่งลู่ฟ่างนึกถึงตอนที่เขาไปมหาวิทยาลัยข
“หวังว่าจะได้ประลองฝีมือกับรุ่นพี่ในสนามแข่งนะ!”“ถ้าได้ที่โหล่ คงสนุกพิลึก” ชายหนุ่มที่สวมแว่นกรอบดำพูดเยาะเย้ย“การแข่งขันคณิตศาสตร์ ALI ไม่ได้จำกัดเฉพาะนักศึกษา มีคนส่งกระดาษเปล่าเยอะแยะ ในรายชื่อผู้เข้าแข่งขันทุกปี มีคนได้ศูนย์คะแนนเพียบเลย แถมยังประกาศชื่อและสถานะของผู้เข้าแข่งขันด้วย”“รุ่นพี่เตรียมใจไว้ให้ดีเถอะ!”เจียงหว่านเยวี่ยยังคงยิ้มแย้ม “ถ้าฉันได้อันดับสูงกว่านาย นายต้องใส่เสื้อยืดสกรีนข้อความว่า 'ฉันได้อันดับในการแข่งขัน ALI ต่ำกว่าเจียงหว่านเยวี่ย xx อันดับ' เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ คิดว่าไง?”นี่ถือเป็นการดูถูกเหยียดหยามนักศึกษาหัวกะทิที่อยู่ในหอคอยงาช้างอย่างร้ายกาจเพราะเขาก็ต้องใส่เสื้อยืดแบบนั้น เดินไปเดินมาในมหาวิทยาลัยปักกิ่งชายหนุ่มที่สวมแว่นกรอบดำถูกเจียงหว่านเยวี่ยยั่วโมโห “ได้เลย! จะบอกอะไรให้นะ ฉันไม่ได้ต้องการให้อันดับเธอต่ำกว่าฉัน ขอแค่อันดับเธอต่ำกว่าสองร้อย เธอก็ไม่มีสิทธิ์มาเรียนที่บ้านอาจารย์เสิ่นกับพวกเราแล้ว!”“เหวยอัน เธอแก้โจทย์ในกระดาษคำถามได้แค่สามข้อภายในหนึ่งชั่วโมง...”มีนักศึกษาคนอื่นๆ กำลังจะห้ามปรามเขา“แค่ทำข้อสอบได้แล้วไง? การแข่งข
นักศึกษาของอาจารย์เสิ่นถงหัวต่างพากันมามุงดู หลายคนมีสีหน้าเหมือนกำลังรอชมละครสนุกๆ“เชอะ! ดูลายมือที่เธอเขียนสิ…” นักศึกษาชายที่สวมแว่นกรอบดำเริ่มวิพากษ์วิจารณ์สูตรที่อยู่ใต้โจทย์ทีละบรรทัดแต่เมื่อเขาอ่านคร่าวๆ จบแล้ว คำพูดที่กำลังจะเอ่ยกลับติดอยู่ในลำคอ“เธอ…แก้โจทย์ได้แล้ว!!”การแก้โจทย์ของเจียงหว่านเยวี่ยเข้าใจง่ายกว่าที่เขาเขียนมาก นักศึกษาชายแทบอยากจะตบหัวตัวเอง ทำไมเขาถึงคิดวิธีนี้ไม่ออกนะ?!“เป็นไปไม่ได้! เธอเขียนคำตอบแล้วมันจะถูกต้องได้ยังไง?”นักศึกษาอีกคนแย่งกระดาษคำตอบจากมือของเขา คนอื่นๆ ต่างยืดคอออกมา พวกเขามองการแก้โจทย์ทีละขั้นตอนของเจียงหว่านเยวี่ย ไม่มีใครพูดอะไรออกมาพักใหญ่บ้าน่า เธอไม่เพียงแต่เขียนคำตอบได้เร็วเท่านั้น แต่ยังสามารถแก้โจทย์ที่อาจารย์เสิ่นถงหัวตั้งได้ทั้งหมด!นักศึกษาชายหลายคนมองไปที่เจียงหว่านเยวี่ย สายตาของพวกเขาเปลี่ยนไป“รุ่น...รุ่นพี่ครับ พี่แก้โจทย์เร็วมากเลยนะครับ!”“ข้อสอบชุดนี้ ผมทำมาสองวันแล้วยังทำโจทย์ได้ไม่เท่าที่พี่ทำในหนึ่งชั่วโมงเลย”พวกเขารู้สึกเหลือเชื่อ เจียงหว่านเยวี่ยพูดว่า “ในเมื่อมันเป็นข้อสอบโอลิมปิกคณิตศาสตร์ ก็ต้อง