เจียงหว่านเยวี่ยหันไปมองฟู่หานชวน สายตาของเธอแข็งค้างพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแน่ๆ ก่อนหน้านี้เธอเคยพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่หลายครั้ง ขอให้ฟู่หานชวนมาโรงเรียนอนุบาลเพื่อร่วมกิจกรรมพ่อแม่ลูกฟู่หานชวนมักจะบอกว่าไม่ว่างแม่สามีก็เคยสั่งสอนเธอว่าอย่าเอาเรื่องกิจกรรมที่โรงเรียนไปรบกวนการทำงานของฟู่หานชวนการอบรมสั่งสอนลูกรวมถึงเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับลูก เป็นหน้าที่ของเจียงหว่านเยวี่ยในฐานะภรรยาของฟู่หานชวนไม่นานนัก เจียงหนานเซิงและฟู่หานชวนก็เดินมาถึงตรงที่เจียงหว่านเยวี่ยนั่งอยู่"พี่หว่านเยวี่ย ฉันพาหานชวนมาแล้ว~"เมื่อเห็นสายตาของเจียงหว่านเยวี่ยที่มองมาทางเขาอย่างเลื่อนลอย ชายหนุ่มก็อดขำไม่ได้เจียงหว่านเยวี่ยจะหมดรักเขาได้ยังไง?สายตาที่เธอมองเขามันยังคงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอยังรักเขาอยู่!ฟู่หานชวนนั่งลงข้างๆ เจียงหว่านเยวี่ย ส่วนเจียงหนานเซิงนั่งลงข้างๆ ฟู่หานชวนบรรดาภรรยาเศรษฐีที่อยู่ในงานต่างก็หันมามองทางพวกเขา บางคนก็เริ่มเม้ามอยกันอย่างออกรสออกชาติ"เดี๋ยวตูตูจะโชว์ผลงานการประดิษฐ์ของเขาแล้ว รับรองว่าต้องทำให้พี่ตะลึงแน่ๆ!"เจียงหนานเซิงหันไปพูดกับฟู่หานชวนเสีย
“ตูตู รีบเอายานอวกาศออกมาโชว์สิ!”เจียงหนานเซิงยื่นมือออกไป ตูตูรีบปิดกล่องกระดาษทันที เขาส่ายหน้าให้เจียงหนานเซิงด้วยท่าทางตื่นตระหนก“ไม่ได้! จะเอาออกมาไม่ได้นะ”“เอาออกมาโชว์สิ!” เจียงหนานเซิงพูดเสียงต่ำ “กว่าฉันจะช่วยทำยานอวกาศจนเสร็จได้ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ เธอมัวแต่อึกๆ อักๆ แบบนี้มันขายหน้าคนอื่นรู้ไหม!”ตูตูใช้ตัวเองบังกล่องกระดาษ ไม่ยอมให้เจียงหนานเซิงเปิดกล่องเจียงหนานเซิงพยายามดึงตูตูออก แต่ตูตูกอดกล่องไว้แน่นทันใดนั้น กล่องกระดาษก็เกิดพลิกคว่ำหลอดพลาสติกที่อยู่ข้างในร่วงกระจายออกมาทั้งหมดสิ่งที่ร่วงออกมาพร้อมกับหลอดพลาสติก คือกระดาษโน้ตสีชมพูแผ่นหนึ่งตัวหนังสือบนกระดาษโน้ต ถูกถ่ายทอดขึ้นจอขนาดใหญ่ผ่านกล้องวิดีโอบนนั้นเขียนว่า ‘จ้างแค่ 1440 บาท จะให้คนอดหลับอดนอนทำยานอวกาศให้เธอ ไปแดกขี้เถอะ!ตูตูทรุดตัวลงนั่งกับพื้น มองหลอดพลาสติกมากมายกลิ้งไปตามเวทีครูโจวที่ยืนอยู่ด้านล่างเวทีถามด้วยความตกใจ “ตูตู หนูไม่ได้ทำการบ้านวิชางานประดิษฐ์เลยเหรอ?”“ไม่ใช่นะ ผมทำแล้ว!”ปากเล็กๆ ของตูตูสั่นระริก น้ำตาคลอหน่วยครูโจวหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมา ถามเขาว่า “แล้วกระดาษแผ่นนี้
เจียงหนานเซิงรีบเอามือปิดปากตูตู“เรียกหาแม่แล้วมันได้อะไรขึ้นมา? แม่จะช่วยให้เธอได้ที่หนึ่งงั้นเหรอ?”ตูตูสะอึกสะอื้น มองไปทางโจวโจวทั้งน้ำตางานประดิษฐ์ของโจวโจวได้รับการเสนอให้เป็นผลงานยอดเยี่ยม เธอกำลังต่อแถวอยู่ข้างเวที รอเวลาขึ้นไปพูดสุนทรพจน์“หม่ามี๊ต้องทำให้โจวโจวได้ที่หนึ่งแน่!”เจียงหนานเซิงหัวเราะเยาะ “โจวโจวไม่ได้ที่หนึ่งหรอก”ตูตูมองเจียงหนานเซิงด้วยสายตาเลื่อนลอย“ไม่เชื่อเหรอ?”เจียงหนานเซิงบีบไหล่ตูตูเบาๆ “ดูนี่นะ!”ข้างๆ โจวโจวมีถุงพลาสติกใบใหญ่วางอยู่ ข้างในบรรจุงานประดิษฐ์ของเธอเอาไว้เจียงหนานเซิงเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอแกล้งทำเป็นเผลอเหยียบถุงพลาสติกใบนั้น!โจวโจวเหลือบไปเห็นเจียงหนานเซิง เธอเตี้ยกว่าเจียงหนานเซิงมาก โจวโจวก็เลยคว้าข้อเท้าเจียงหนานเซิงไว้ได้อย่างรวดเร็วก่อนจะออกแรงเหวี่ยงเจียงหนานเซิงจนล้มหงายลงไปทั้งตัว“กรี๊ด!!” เจียงหนานเซิงล้มลงกับพื้นขณะร้องเสียงหลง เธอโกรธจัด “ฟู่ชิงโจว เธอผลักฉันเหรอ?”โจวโจวพูดว่า “เธอเกือบเหยียบงานประดิษฐ์ของฉันแล้ว!”เจียงหนานเซิงนั่งอยู่บนพื้น มือกุมข้อศอกที่กระแทกพื้นจนเจ็บ “เธอเอาตาข้างไหนมอ
“ได้ๆๆ ตามใจเธอ~” เจียงหนานเซิงไม่ใส่ใจคำพูดของโจวโจวเลยสักนิดการแข่งขันในโรงเรียนอนุบาลของเหล่าไฮโซนั้นดุเดือดมาก มีเด็กๆ ที่ทำงานฝีมือได้ดีกว่าและเขียนสุนทรพจน์ได้ดีกว่าโจวโจวอีกเยอะเจียงหนานเซิงได้ดูผลงานของเด็กคนอื่นๆ ที่ได้เป็นผลงานยอดเยี่ยมแล้วรอบหนึ่งเธอรู้สึกว่าโอกาสที่โจวโจวจะได้ที่หนึ่งนั้นมีน้อยมากโจวโจวนำผลงานของตัวเองขึ้นไปบนเวทีเธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กระโปรงลายสก็อตสีแดง ซึ่งเป็นชุดเครื่องแบบนักเรียน และมีผมมวยกลมๆ สองข้างบนหัวโจวโจวมีใบหน้าที่น่ารักสดใส ขนตาเป็นแพยาว ทำให้ดวงตาของเธอดูคมเข้มมากขึ้นแต่พอโจวโจวขึ้นไปบนเวที ก็มีผู้ปกครองบางคนกระซิบกระซาบกันเบาๆ ว่า “คุณหนูบ้านตระกูลฟู่คนนี้ ดูอวบขึ้นรึเปล่า?”มีคนเยาะเย้ยเบาๆ ว่า “แบบนี้ยังเรียกว่าอวบอีกเหรอ?”ผู้ปกครองสองคนมองตากัน แล้วแอบหัวเราะเหล่าภรรยาเศรษฐีต่างเลี้ยงดูลูกสาวของตัวเองอย่างประณีตบรรจง ทุกคนมีรูปร่างเพรียวบาง แต่โจวโจวกลับดูแข็งแรงบึกบึน ท่ามกลางบรรดานักเรียนหญิงในโรงเรียนเดียวกัน เธอถือเป็นคนแปลกแยกจากพวกโจวโจวโชว์ผลงานของเธอให้ผู้ปกครองและคณะกรรมการที่อยู่ด้านล่างเวทีเห็นมันค
การแสดงสุนทรพจน์ของเด็กๆ จบลง โจวโจวท่องจำบทพูดได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องอ่านสคริปต์ จึงคว้าอันดับหนึ่งไปครองอย่างไร้ข้อกังขาครูใหญ่ติดดอกไม้สีแดงเล็กๆ ให้โจวโจวด้วยตัวเองตูตูยืนอยู่ข้างล่าง มองเด็กๆ ที่ขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีตาละห้อยนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา ที่ไม่ได้รับรางวัลอะไรเลยในการแข่งขันของโรงเรียนอนุบาล แถมยังถูกหัวเราะเยาะเหมือนเป็นตัวตลกอีกด้วยเด็กชายน้ำตาคลอเบ้า ตูตูมองหาเจียงหว่านเยวี่ยท่ามกลางฝูงชน“หลานรักของย่า!” คุณนายใหญ่ฟู่เดินเข้ามาแล้วกอดตูตูไว้ในอ้อมแขน“ย่าครับ!” ตูตูร้องไห้คร่ำครวญคุณนายใหญ่ฟู่ปลอบเบาๆ “หลานย่าไม่ต้องร้องไห้! สำหรับย่า หนูคือที่หนึ่งเสมอ!”ตูตูสูดน้ำมูก “แต่โจวโจวได้ดอกไม้สีแดง… ย่าครับ ให้แม่กลับมาทำการบ้านให้ผมเถอะ! ไม่งั้นผมจะไปกับแม่ ไม่อยู่บ้านหลังนี้แล้ว!”เขารู้ดีว่าคุณย่ารักและเข้าข้างเขาขนาดไหน การขู่แบบนี้ได้ผลเสมอเสียงของคุณนายใหญ่ฟู่เคร่งขรึมขึ้นทันที “ถ้าหนูออกจากบ้าน หนูก็จะไม่ได้รับรางวัลดาวเด่นประจำโรงเรียนแล้วนะ!”คุณนายใหญ่ฟู่หยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดหน้าให้ตูตูตั้งแต่เข้าเรียนชั้นอนุบาล รางวัลเกียรติยศสูงสุดของโรงเ
“ย่า! โจวโจวตีผมอีกแล้ว!”ตูตูร้องไห้สะอึกสะอื้น โจวโจวลดแขนลงแล้วกำมือแน่นเธอเกิดมาแรงเยอะ ตอนเด็กๆ ควบคุมแรงไม่ค่อยได้จึงเผลอทำตูตูเจ็บตัวไปหลายครั้ง ตั้งแต่นั้นมา คุณย่าก็คอยจับตาดูโจวโจวตลอดตูตูที่เห็นแบบนั้นก็ชอบวิ่งไปฟ้องคุณย่า เพราะคุณย่ามักจะเข้าข้างเขาตลอดคุณย่าทำหน้าบึ้งเดินเข้ามา หยิบดอกไม้สีแดงที่ติดอยู่บนเสื้อโจวโจวออก“ฟู่ชิงโจว เธอทำร้ายเด็กคนอื่นในโรงเรียนอนุบาล เธอไม่คู่ควรกับดอกไม้สีแดงนี้! ฉันจะไปบอกครูให้ตัดสิทธิ์การรับรางวัลของเธอทั้งปีเลย!”ตูตูยังคงแกล้งร้องไห้อยู่บนตักคุณย่า เขาเอามือปิดหน้าแล้วแอบหันไปมองโจวโจวโจวโจวยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น น้ำตาเริ่มเอ่อคลอน้ำตาเริ่มไหลลงมา เธอไม่อยากร้องไห้ แต่ก็กลั้นไม่อยู่หอกระเรียนเหลืองที่เจียงหว่านเยวี่ยช่วยเธอต่อพังจนหมดรูป ไม่สามารถซ่อมกลับมาได้อีกแล้วโจวโจวน้ำตาไหลพราก เธอรู้สึกเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดีทันใดนั้น ก็มีร่างเพรียวบางมาบังเธอไว้ข้างหลังเป็นคุณแม่“ท่านประธานเยี่ย ฟู่กุยตู้เป็นคนทำลายหอกระเรียนเหลืองก่อน ชิงโจวแค่ผลักเขาเบาๆ เองนะคะ”คุณนายใหญ่ฟู่ชี้นิ้วไปท
ผู้ปกครองคนอื่นๆ ในหอประชุมต่างเห็นกระแสที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์จากโทรศัพท์มือถือของพวกเขา“โรงเรียนเราดังใหญ่แล้ว!”“ตัวตนของประธานเยี่ยถูกเปิดโปงเร็วมากเลย!”“สายตาชาวเน็ตช่างเฉียบแหลมจริงๆ พวกเขาไม่รู้ว่าประธานฟู่หย่าแล้ว แต่ก็ดูออกว่าเจียงหนานเซิงเป็นเมียน้อย”“ฉันก็ไม่ชอบเจียงหนานเซิงเหมือนกัน ชอบมาคลอเคลียยุ่มย่ามกับสามีฉันตลอด”“เมื่อคืนก่อนฉันไปรับสามีที่ดื่มจนเมา ฉันเห็นเจียงหนานเซิงนั่งตักคุณชายเผย แล้วยังถอดเสื้อชั้นในตัวเองมาคล้องคอคุณชายสวีอีก สามีฉันบอกว่าพวกเขาแค่หยอกเล่นกันขำๆ”เหล่าผู้ปกครองต่างซุบซิบนินทากันยกใหญ่ คุณนายใหญ่ฟู่จึงตวาดผู้กำกับจากสถานีโทรทัศน์ประจำจังหวัด“ปิดการถ่ายทอดสดเดี๋ยวนี้! ถ้าชื่อเสียงของตระกูลฟู่เสียหาย ฉันจะฟ้องพวกคุณ!”ผู้กำกับจากสถานีโทรทัศน์ถึงกับเหงื่อตก “คุณเยี่ย ผมปิดการถ่ายทอดสดแล้วครับ”สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทำให้ผู้กำกับตั้งตัวไม่ทันพอตั้งสติได้ เขารีบบอกตากล้องให้ปิดการถ่ายทอดสด แต่คำพูดของคุณนายใหญ่ฟู่ที่ต้องการไล่โจวโจวได้หลุดออกไปแล้วโทรศัพท์ของครูใหญ่ถูกกระหน่ำโทรสายแทบไหม้ เขาจึงเดินเข้ามาไกล่เกลี่ย “ผมว่าเรื่
คุณนายใหญ่ฟู่หัวเราะเยาะหลานสาวตัวเองที่ดูไร้เดียงสา “ถ้าไปอยู่กับแม่ หนูอาจจะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมด้วยซ้ำ!”เธอรู้ว่าโจวโจวยังเด็กเกินกว่าจะคาดเดาได้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไรบ้างในอนาคตสายตาที่คุณนายใหญ่ฟู่มองเจียงหว่านเยวี่ย เต็มไปด้วยความเคียดแค้น“ฉันจะรอดูว่าคนที่เรียนจบแค่ปริญญาตรีอย่างแก จะเลี้ยงดูโจวโจวได้ยังไง!”“ตอนนี้โจวโจวยังไม่รู้หรอกว่าชีวิตของเธอกำลังตกต่ำลง เธอกับตูตูถูกกั้นด้วยเหวลึกที่ไม่อาจก้าวข้ามได้แล้ว!”“ไม่ว่าแกจะพยายามแค่ไหน โจวโจวก็ไม่มีทางไปถึงระดับเดียวกับตูตูได้หรอก!”เจียงหว่านเยวี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ลูกทั้งสองคนของฉันคลอดออกมาจากท้องเดียวกัน สิ่งที่ตูตูมี โจวโจวก็ต้องมี”“ในเมื่อตระกูลฟู่ไม่สามารถมอบความยุติธรรมให้ได้ ฉันก็จะพาโจวโจวไปเอง จะช่วยให้เธอเติบโตในแบบที่เธอต้องการ!”เจียงหว่านเยวี่ยกำลังจะพาโจวโจวออกไป ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งถือกระเป๋าเอกสารเดินเข้ามาในหอประชุมชายวัยกลางคนที่เดินนำหน้า สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวราคาถูกกับกางเกงสแล็คสีดำ เจียงหว่านเยวี่ยหรี่ตาลง บังเอิญได้เจอคนรู้จักซะแล้ว“ผู้…ผู้อำนวยการ?” เสียงอาจารย์ใหญ่ดังขึ้นด้วยความตก
ฟู่หานชวนเอาแต่ใจตัวเอง ทุกคนต้องทำตามกฎของเขา"แบล็คโฮล บูกัตติ ลา วัวตูร์ นัวร์และแอสตัน มาร์ติน วัลคีรี่"เจียงหว่านเยวี่ยพูดชื่อรถที่เธอต้องการเป็นภาษาอังกฤษ นี่คือรถสามคันที่แพงที่สุดในโรงรถของฟู่หานชวนพริบตานั้น สายตาของชายหนุ่มเปลี่ยนไปทอประกายคมกริบ ราวกับจะทะลุหมวกกันน็อคที่สวมอยู่บนใบหน้าของเจียงหว่านเยวี่ย"เธอรู้ได้ยังไงว่าในโรงรถของฉันมีบูกัตติ ลา วัวตูร์ นัวร์และแอสตัน มาร์ติน วัลคีรี่!"บรรยากาศรอบตัวฟู่หานชวนช่างกดดัน ถ้าเป็นคนอื่นคงกลัวจนขาสั่นไปแล้วเจียงหว่านเยวี่ยอยู่กับเขามานาน บรรยากาศกดดันของเขาไม่มีผลกับเธออีกต่อไป"ในเมื่อประธานฟู่สามารถสร้างรถแข่งที่สมบูรณ์แบบอย่าง แบล็คโฮลได้ ก็ต้องเป็นคนรักรถแน่นอน ฉันเดาว่ารถสปอร์ตสมรรถนะสูงสองคันนี้ต้องอยู่ในโรงรถของคุณ ประธานฟู่ ยอมยกให้ฉันไหมคะ"คำอธิบายของลูน่าก็ฟังดูสมเหตุสมผล ในฐานะนักแข่งรถมืออาชีพ เธอสามารถเดาได้ว่าในโรงรถของฟู่หานชวนมีรถสปอร์ตอะไรบ้างอย่างไรก็ตาม สายตาลึกล้ำของชายหนุ่มจับจ้องที่ลูน่า "เธอรู้จักฉันดีนะ"เขารู้สึกประหลาดใจว่าเขากับลูน่าเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อนฟู่หานชวนอยากถอดหมวกกันน็อค
เจียงหนานเซิงขี่มอเตอร์ไซค์มาหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงความอ่อนด้อยและความห่างชั้น!เธอกับลูน่าไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลยนี่คือการถล่มและบดขยี้เจียงหนานเซิงฝ่ายเดียวจากลูน่าตูตูมองดูลูน่าอยู่นาน ก่อนจะสังเกตเห็นเจียงหนานเซิง เขากอดอกพองแก้มพูดอย่างไม่พอใจ"พี่เซิงขี่ช้าจัง! อืดพอๆ กับเต่าเลย!"ฟู่หานชวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขายังคงสวมชุดแข่งอยู่ ช่วงบนชุดแข่งถูกรูดซิปเปิดออก เผยให้เห็นหน้าอกที่แข็งแรงเคลื่อนไหวตามจังหวะการหายใจสายตาลึกล้ำของเขาจับจ้องไปที่เงาร่างของลูน่าไม่เคยมีใครดึงดูดความสนใจของเขาได้ขนาดนี้ บางทีนี่อาจเป็นเสน่ห์ของกีฬาเอ็กซ์ตรีม ที่ทำให้คนไม่อาจละสายตาไปได้เจียงหว่านเยวี่ยวิ่งครบสามรอบเป็นคนแรก เธอหยุดที่เส้นชัยและส่งสัญญาณให้เสิ่นอั้นเสิ่นอั้นสั่งให้คนไปติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำห้องควบคุมเสียงของเจ้าหน้าที่ดังขึ้นข้างหูเจียงหนานเซิง "คุณเจียง คุณลูน่าเสร็จสิ้นการแข่งขันแล้ว กรุณาลงจากรถและวิ่งไปที่เส้นชัยตามข้อตกลงด้วยครับ"เจียงหนานเซิงตามหลังเจียงหว่านเยวี่ยถึงหนึ่งรอบครึ่ง นั่นหมายความว่าเธอต้องวิ่งเกือบห้ากิโลเมตร!แต่เจียงหนานเซิงไม่
สาวนักแข่งอันดับหนึ่งของประเทศจีนอย่างลูน่า ก็มีดีแค่นี้เองเหรอคืนนี้ เธอจะเอาชนะลูน่าให้ได้พรุ่งนี้ ชื่อเสียงของเธอจะต้องโด่งดังแน่นอน!โค้งแรกกำลังจะมาถึง"ฟิ้ว!"มอเตอร์ไซค์สีดำคันหนึ่งพุ่งผ่านเจียงหนานเซิงไปอย่างง่ายดาย ทิ้งห่างไปไกลลิบเจียงหนานเซิงถึงกับงงทำไมชั่วพริบตาเดียวลูน่าถึงได้นำหน้าเธอไปแล้วล่ะ?เจียงหนานเซิงเร่งความเร็วสุดกำลัง พยายามไล่ตาม แต่เมื่อผ่านโค้งต่อๆ มา ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ!"โอ้โห! ลูน่าเข้าโค้งโดยไม่ลดความเร็วเลย!""เจ๋งมาก! ทั้งที่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอวิ่งในสนามนี้ ยังไม่ได้วอร์มอัพด้วยซ้ำ!""นี่แหละฝีมือของนักแข่งหญิงอันดับหนึ่งของประเทศจีน น่ากลัวจริงๆ!"เจียงหนานเซิงกัดฟันกรอด เมื่อไล่ตามเจียงหว่านเยวี่ยไม่ทัน เธอจึงต้องพึ่งความช่วยเหลือจากเพื่อนๆบนอัฒจันทร์ ขวดน้ำดื่มถูกโยนลงมาบนสนามแข่งในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง แม้แต่ก้อนหินเล็กๆ บนถนนก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้มอเตอร์ไซค์คันใหญ่พุ่งผ่านมา ผู้ชมยังไม่ทันตั้งตัว ทุกคนคิดว่ารถของเจียงหว่านเยวี่ยจะต้องขับเหยียบขวดน้ำใบนั้น และจะต้องเกิดอุบัติเหตุอย่างแน่นอ
เมื่อได้ยินคำพูดของตูตู เจียงหนานเซิงก็หัวเราะเบาๆ อย่างไม่ใส่ใจ ฟู่หานชวนก็ไม่ได้สนใจคำพูดของลูกชายเช่นกันตูตูมองตามเงาร่างของลูน่าอย่างงงงวย นี่ต้องเป็นความเข้าใจผิดของเขาแน่ๆ!การเข้าใจผิดว่าลูน่าเป็นแม่ที่จุกจิกเรื่องมากของเขานั้น ถือเป็นการดูถูกลูน่า!!เมื่อเหล่าลูกคนรวยได้ยินว่าเจียงหนานเซิงจะแข่งรถบิ๊กไบค์กับลูน่า พวกเขาต่างก็เสนอรถของตัวเองให้ลูน่า"ลูน่า ขี่รถฉันสิ!""ลูน่า ขี่ของฉัน ขี่ของฉัน!"กลุ่มลูกคนรวยที่ล้อมรอบเธออยู่นี้ เจียงหว่านเยวี่ยรู้จักหน้าทุกคน หากเธอถอดหมวกกันน็อคออก คนพวกนี้คงไม่กระตือรือร้นกับเธอขนาดนี้พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทของเจียงหนานเซิง ตอนที่เจียงหว่านเยวี่ยกลับมาบ้านตระกูลเจียงตอนอายุ 18 ปี เพื่อนๆ ของเจียงหนานเซิงต่างก็เป็นศัตรูกับเธอหลังจากนั้น เธอก็กลายเป็นคุณนายฟู่ ตามหลักแล้วพวกเขาควรจะเกรงใจฟู่หานชวนและไม่รังแกเจียงหว่านเยวี่ยมากนัก แต่ท่าทีของฟู่หานชวนเป็นตัวกำหนดท่าทีของลูกหลานตระกูลใหญ่เหล่านี้ที่มีต่อเจียงหว่านเยวี่ยเจียงหนานเซิงเข็นรถคู่ใจของตัวเองออกมา เมื่อเห็นเพื่อนสนิทในอดีตล้อมรอบลูน่าอยู่ สายตาที่เธอมองไปยังลูน่าก็มีแต่ความเ
คุณชายน้อยที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างดีจากตระกูลฟู่ ซึ่งเคยพบเจอผู้ใหญ่และสถานการณ์สำคัญมามากมาย แต่เมื่อเขายืนอยู่ข้างประตูรถ โซลาร์ คราวน์และกล่าวทักทายลูน่า หัวใจของตูตูกลับเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นอย่างไรก็ตาม คนที่นั่งอยู่ในรถก็ไม่ได้ตอบสนอง"ลูน่า?"ตูตูเขย่งปลายเท้า เงยหน้าขึ้น มองเข้าไปในรถด้วยความอยากรู้เจียงหนานเซิงลงมาจากรถ เมื่อเห็นสองพ่อลูกตระกูลฟู่ยืนอยู่ข้างประตูรถโซลาร์ คราวน์ หัวใจของเธอก็รู้สึกถึงภัยคุกคามทันทีเจียงหนานเซิงเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว "ลูน่าใช่ไหม ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานาน ได้ยินว่าคุณขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เป็นด้วย ฉันก็เป็นนักบิดเหมือนกัน เราลองประลองฝีมือกันแบบตัวต่อตัวดูไหม?"ฟู่หานชวนแพ้ลูน่า เจียงหนานเซิงจึงอยากช่วยเขาเอาชนะอีกฝ่ายลูน่าเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ เจียงหนานเซิงรู้ว่าเธอขี่มอเตอร์ไซค์เป็นแต่คิดว่าทักษะการขี่มอเตอร์ไซค์ของลูน่าคงไม่ถึงระดับมืออาชีพและหลังจากการแข่งออฟโรด พลังงานของลูน่าถูกใช้ไปมาก ถ้าเธอมาแข่งกับตัวเองอีกรอบ เจียงหนานเซิงคิดว่าโอกาสที่จะชนะลูน่ามีสูงหญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถยังคงไม่ตอบสนองเจียงหนานเซิงพูดอย่างไ
เมื่อโซลาร์ คราวน์มาถึงเส้นชัย เจียงหว่านเยวี่ยยังรู้สึกงุนงงอยู่เธอจับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้าง ยังไม่ได้สติกลับมา"ลูน่า! คุณชนะแล้ว!!"เจียงหว่านเยวี่ยหันหน้าไปมองอย่างตกตะลึง เธอเห็นเสิ่นอั้นถอดหมวกกันน็อคออก ดวงตาคมเฉี่ยวของเขาเปล่งประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวเขายื่นมือมาถอดหมวกกันน็อคของเจียงหว่านเยวี่ยออก ผมดำสลวยของหญิงสาวสยายลงมาดั่งผ้าไหมเจียงหว่านเยวี่ยพยายามสงบลมหายใจที่รุนแรงจนอกกระเพื่อม จากการเล่นกีฬาพาดโผนขั้นสุดเมื่อครู่นี้เธอเงยหน้าขึ้น เห็นในดวงตาสีคริสตัลของเสิ่นอั้นสะท้อนภาพเพียงเธอคนเดียว"ลูน่า ยินดีต้อนรับกลับมาครับ!" ในสายตาของเสิ่นอั้น เธอคือสมบัติล้ำค่า"คุณคือแชมป์ในใจผมเสมอ!" น้ำเสียงของเสิ่นอั้นฟังดูมั่นใจ เขายังไม่หายจากความรู้สึกตื่นเต้นของการขับรถอันโฉบเฉี่ยว หน้าอกของเขายังคงขยับขึ้นลง อุณหภูมิในรถเริ่มสูงขึ้นเจียงหว่านเยวี่ยจ้องมองเขา เอ่ยถามอย่างจริงจัง "ตั้งแต่ฉันเห็นโซลาร์ คราวน์ ฉันก็สงสัยมาตลอด คุณเสิ่นรู้ได้ยังไงคะว่าฉันคือลูน่า?"ก่อนที่เจียงหว่านเยวี่ยจะได้กลับมาเป็นคนตระกูลเจียง เธอใช้ชื่อลู่หว่านเยวี่ย ใบขับขี่แข่งรถของเธอก็ใ
เสิ่นอั้นทบทวนเส้นทางออฟโรดทั้งหมดในหัว เขายิ้มมุมปาก แววตาเป็นประกายวาววับ"เส้นทางข้างหน้าเป็นทางเรียบ ลูน่า คุณเหยียบให้มิดเลย!"โซลาร์ คราวน์ ที่ไม่ได้เปิดไฟหน้าพุ่งทะยานในความมืด เธอเชื่อใจเสิ่นอั้นอย่างสมบูรณ์ จนในที่สุดก็ทะลุผ่านความมืดออกมาเห็นแสงสว่างเสียงรถแข่งดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผู้คนที่รออยู่ที่เส้นชัยต่างพยายามชะเง้อคอมองหลังจากรถแข่งเข้าสู่เขตแบล็กเอาต์แล้ว จอภาพใหญ่ด้านหลังอัฒจันทร์ก็มืดสนิทสิ่งนี้สร้างความระทึกให้กับทุกคนไม่มีใครรู้ว่ารถคันไหนจะเป็นคันแรกที่พุ่งออกมาจากเขตแบล็กเอาต์ กลับเข้าสู่เส้นทางปกติตูตูยืนเกาะราวกั้น จ้องมองไปยังที่ไกลๆ ท่ามกลางสายลมหนาวทันใดนั้น รถแข่งสีดำคันหนึ่งก็ปรากฏในสายตาของทุกคน จอภาพใหญ่สว่างขึ้นพร้อมกัน เสียงเชียร์และกรีดร้องดังกึกก้องจากอัฒจันทร์เป็นรถโซลาร์ คราวน์!โซลาร์ คราวน์พุ่งออกมาจากเขตแบล็กเอาต์ในตำแหน่งที่หนึ่งและคันที่ขับตามหลังรถโซลาร์ คราวน์มาติดๆ ก็คือแบล็คโฮลที่ขับโดยฟู่หานชวน"ลูน่า! พ่อ!!"ตูตูตะโกนสุดเสียงด้วยความตื่นเต้น เขาพนมมือสวดภาวนาในใจหวังว่าทั้งพ่อและลูน่าจะได้ที่หนึ่ง!แสงสว่างสะท้อนใ
"เหยียบเต็มสปีด เลี้ยวซ้าย""เลี้ยวขวาสามครั้ง ทางลาดลงเขาข้างหน้า ลดความเร็วลง!"แม้เจียงหว่านเยวี่ยจะพยายามจดจำเส้นทางออฟโรดผ่านแผนที่นำทางให้ได้มากที่สุด แต่ในฐานะนักแข่ง เธอไม่มีเวลามาคิดอะไรมากขณะที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วระดับนี้ในตอนนี้ เสิ่นอั้นคือสมองของเธอเสิ่นอั้นออกคำสั่งสั้นกระชับ สร้างแบบจำลองสามมิติของเส้นทางออฟโรดอันซับซ้อนบนภูเขาจงซิ่วในสมองของเขาเขาเหมือนผู้ควบคุมที่มองเห็นภาพรวมทั้งหมดบนกระดานหมากรุก คอยชี้นำทิศทางให้เจียงหว่านเยวี่ย"หานชวน! สู้ๆ!"เจียงหนานเซิงสังเกตเห็นว่าฟู่หานชวนเร่งความเร็วขึ้น เธอตะโกนด้วยความตื่นเต้นแผนที่นำทางที่ผู้นำทางใช้ เธอลืมไปนานแล้วว่าทิ้งไว้ที่ไหนเธอนั่งที่เบาะข้างคนขับ ทำหน้าที่เพียงเป็นเพื่อนร่วมทางของฟู่หานชวนเท่านั้นฟู่หานชวนก็ไม่ต้องการให้เจียงหนานเซิงเป็นผู้นำทางให้เขา เขาเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเองเสมอสนามแข่งรถบนภูเขาจงซิ่ว ฟู่หานชวนก็มีส่วนร่วมในการวางแผนและออกแบบ เขารู้สภาพเส้นทางที่ซับซ้อนในสนามดีกว่าใครแบล็กโฮลวิ่งคู่ขนานกับรถแข่งคันอื่นๆ รถในกลุ่มที่สองถูกโซลาร์ คราวน์ทิ้งห่างไว้ข้างหลังโซลาร์ คร
เจียงหนานเซิงนั่งอยู่ในรถของฟู่หานชวน เธอยิ้มมุมปากอย่างสงบนิ่ง มองไปยังรถแข่งสองคันที่กำลังไล่ตามโซลาร์ คราวน์เหล่าคุณชายลูกเศรษฐีที่เข้าร่วมการแข่งขัน พวกเขาก็มีกลยุทธ์ร่วมกันในเมื่อมีคนเข้าร่วมแข่งขันมากมาย หากต้องการชัยชนะ รถบางคันก็ต้องเสียสละภายใต้หมวกกันน็อคหนักอึ้ง ดวงตาอันแจ่มชัดของเจียงหว่านเยวี่ยปราศจากความกังวลและความกลัวเธอเปลี่ยนเกียร์อย่างคล่องแคล่ว ล้อด้านขวายกลอยขึ้นจากพื้น!เสิ่นอั้นรู้สึกได้ว่าระดับสายตาของตนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว!เขาเบิกตากว้าง หัวใจเต้นรัวในอกดังก้องกังวานนี่คือ การตะแคงขับ!ล้อหน้าและหลังด้านขวาของรถแข่งลอยพ้นจากพื้นโดยสิ้นเชิง รถทั้งคันพุ่งไปข้างหน้าด้วยมุมเอียง 45 องศาคนขับรถที่ตั้งใจจะบีบ โซลาร์ คราวน์ เริ่มรู้สึกถึงเงาดำที่ทอดคลุมเหนือตัวเขาคุณชายที่นั่งเบาะข้างคนขับหันหน้าไปมอง เห็นช่วงล่างสีดำของรถที่ข้างหน้าต่าง!ราวกับสัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวในหนองน้ำ กำลังอ้าปากกว้างใส่พวกเขา!ยางสีดำหมุนอยู่เหนือหลังคารถของพวกเขา ดั่งดาบที่แขวนอยู่เหนือศีรษะพวกเขาตกอยู่ในปากเสือแล้ว ล้อของรถกับหลังคารถของพวกเขาอาจชนกันได้ทุกเมื่อ!"เชี