“สามีที่ดีงั้นเหรอ?”
คนใจร้ายทวนคำด้วยสีหน้าเหยียดหยัน ดวงตาคมจัดที่เธอเคยหลงใหลมาตลอดกวาดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของคนที่กำลังเรียกร้องสิทธิ์ในฐานะภรรยาที่เขาไม่ต้องการอย่างเลือดเย็น จนคนถูกมองใจหาย รู้สึกหนาวยะเยือกในอก
“ใช่ค่ะ เป็นสามีที่ดี พี่ทำเป็นไหม” คนถูกถามแค่นยิ้มเหี้ยม พลางใช้ลิ้นเดาะกระพุ้งแก้มตัวเองแบบกวนๆ
“ก็คงทำเป็นมั้ง ถ้าเมียของฉันเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ”
หญิงสาวหน้าเสีย ความขมขื่นแล่นขึ้นมาจุกที่คอหอย
“เสียใจด้วยนะ ที่มันใช่ ไม่ว่าพี่จะคิดยังไง แต่ปูนก็เป็นเมียพี่...”
“หึ ก็แค่เมียในนามไหม ไม่พอใจก็หย่ากันเลยก็ได้นะ” คำท้านั่นทำเอาคนฟังสะอึก หัวใจราวกับถูกกระชากออกจากอก
“หย่ากันซะให้จบๆ ทางใครทางมันไปเลย”
“คำก็หย่า สองคำก็หย่า พี่อยากหย่ากับปูนขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“เธอก็รู้ดีแก่ใจนี่ จะถามให้มันได้อะไรขึ้นมา ถ้าไม่พอใจก็หย่าซะสิ”
ปรียากรแค่นยิ้ม หัวใจปวดร้าวจนแทบจะทนไม่ไหว
“ไม่ค่ะ ปูนไม่หย่า ใครที่รอแย่งผัวคนอื่น อยากรอก็รอไปแล้วกัน เพราะปูนไม่หย่า...”
“เอาเถอะ ถ้าเธอเสี้ยนอยากเป็นเมียฉันมากขนาดนั้น งั้นฉันก็จะลองกลั้นใจหลับหูหลับตา ‘เอา’ อีกสักครั้งก็ได้”
ฉัตรินกดรอยยิ้มที่มุมปาก ดวงตามองเรือนร่างเพรียวระหงด้วยทรวดทรงที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันอยากมี ก่อนที่จะหยุดมองที่เนินอกอวบอิ่มที่ผลิพุ่งเย้ายวนตาภายใต้ชุดเดรสสีฟ้าแสนหวาน และเลื่อนลงต่ำมาเรื่อยๆ จนถึงจุดใจกลางเรือนร่างที่ซุกซ่อนดอกไม้งามไว้
เขาไม่ปฏิเสธหรอกว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านั้นสวยมีเสน่ห์มากชนิดหาตัวจับยาก หากไม่ใช่สำหรับเขา
“พี่ซีมองอะไรน่ะ”
ปรียากรกลืนน้ำลายฝืดคอ เมื่อเห็นสายตาอันตรายของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายจ้องมองมาราวกับกำลังจับเธอเปลื้องผ้าอย่างหยาบคาย
“ก็เธออยากให้ฉันทำหน้าที่สามีไม่ใช่เหรอ” เขากดยิ้มมุมปากอย่างสะใจเมื่อเห็นความกลัวที่ฉายชัดออกมาจากดวงตาอวดดีคู่นั้น มือเรียวเลื่อนไปกระชากเนคไทออกจากคอก่อนปาใส่ใบหน้าสวยๆ ไม่แรงมากแต่ก็ทำให้เธอผงะ ถอยกรูดไปด้านหลังหลายก้าว
ปรียากรกัดฟันแน่น ยอมรับว่าลึกๆ แล้วเธอแอบกลัวคนตรงหน้าไม่น้อย แม้เธอเคยจินตนาการฉากเลิฟซีนแสนหวานชื่นระหว่างตัวเองและผู้ชายตรงหน้ามา แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ฉัตรินพี่ชายใจดีและเป็นสุภาพบุรุษที่ทำให้เธอหลงใหลเฝ้าฝันถึงมาตลอดหลายปี
ต้องไม่ใช่แบบนี้
“พะ...พี่ซี” หญิงสาวเรียกชื่อเขาหวังเรียกสติ ตามองมือของอีกฝ่ายที่เริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองทีละเม็ดๆ จนเผยให้เห็นแผ่นอกกว้างน่าซบและกล้ามเนื้อของบุรุษที่แข็งแกร่งที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรง เขาค่อยๆ ย่างสามขุมเข้ามาหาเธอราวกับเสือที่จ้องจะตะครุบเหยื่ออันโอชะ
“กลัวเหรอ ผู้หญิงหน้าด้านอย่างเธอรู้จักกลัวกับเขาด้วยเหรอ”
“พี่ซี! พี่บ้าไปแล้วเหรอ”
“เออ...ฉันมันบ้า! บ้าเพราะผู้หญิงไร้ยางอายอย่างเธอไง จำไว้นะปูน ถ้าฉันไม่มีความสุข เธอก็อย่าหวังเลยว่าจะมี ถ้าไม่ยอมหย่าให้ ก็ต้องทนอยู่ไปแบบนี้...”
พอขาดคำ มือใหญ่ก็คว้าตัวเธอกระชากเข้ามาปะทะอกแกร่ง ที่ผ่านมาใครๆ ก็บอกว่าเขานั้นเป็นสุภาพบุรุษ แต่วันนี้ชายหนุ่มขอสวมบทตัวร้ายในนิยายตบจูบสักวัน เพื่อสั่งสอนให้ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้ได้รู้ว่าการทำให้คนอย่างเขาโกรธมันมีโทษยังไง
ปรียากรกัดฟันแน่น พยายามดิ้นรนหนีเงื้อมมือที่ดึงรั้งชุดสวยให้ออกจากร่างสวยอย่างไร้ปรานี เมื่อก่อนเธอหลงรักเขาได้ยังไงนะ คนที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่พี่ชายที่แสนใจดี อบอุ่นคนนั้น แต่ตอนนี้กลายเป็นปีศาจใจร้ายที่เกลียดเธอเข้าไส้
“ในเมื่อร่านอยากเป็นเมียฉันนัก ก็ทำหน้าที่ของเธอซะปูน ต่อไปนี้ฉันจะเอาเธอเป็นเมียให้หนำใจ เอา...จนเธอต้องร้องขอชีวิต
////////////////
ปรียากรคิดมาตลอดว่าความผูกพันและความใกล้ชิดสามารถเปลี่ยนหัวใจคนให้รักกันได้ แต่ทว่า...
เธอคิดผิด!
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็สุดจะรู้ กว่าที่เสียงห้าวลึกที่ครางหนักๆ ออกมาเมื่อพบกับความสุขสมในครั้งแล้วครั้งเล่าจะค่อยๆ เงียบสงบลง พร้อมกับที่เขารั้งสะโพกของเธอเข้าหาความแข็งแกร่งที่กำลังถูกตอดรัดอย่างรุนแรงจากภายในช่องทางรักอันชุ่มโชกด้วยหยาดน้ำค้างความสาวที่ถูกขับออกมาจนทะลักทลาย
ปรียากรฟุบหน้าลงกับหมอนพร้อมสลบไสลไปอีกครั้งอย่างอ่อนแรง ใจกลางความสาวยังคงเกร็งกระตุกตอดรัดสิ่งแปลกปลอมที่นอนแช่นิ่งภายในตัวเธอถี่ยิบซึ่งเป็นผลมาจากการเสร็จสมอย่างรุนแรงในครั้งสุดท้าย
แต่ที่น่าโมโหคือตัวเธอเองที่ใจไม่แข็งพอ จึงคล้อยตามบทเพลงรักอันดุดันเร่าร้อนที่เขามอบให้ แม้สมองจะสั่งการให้ขัดขืน แต่หัวใจเธอกลับยินยอมพร้อมเป็นของเขาอย่างไม่มีข้อแม้ และปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ฉัตรินทำให้นั้นใช่ว่าจะทำให้เจ็บปวดอย่างเดียว หากทว่ามันมีความสุขลึกล้ำเจืออยู่ในบทรักร้อนฉ่าที่เธอรอคอยจากเขามานานกว่าสองปีที่แต่งงานกันครั้งนี้ด้วย
ฉัตรินทำอย่างที่เขาประกาศไว้จริงๆ
‘...ต่อไปนี้ฉันจะเอาเธอเป็นเมียให้หนำใจ เอา...จนเธอต้องร้องขอชีวิต!’
ตอนนี้เธอไม่มีกระทั่งเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านหรือร้องขอชีวิตจากเขาด้วยซ้ำ แต่ถึงมี ถ้าเขาไม่ยินยอม เธอคงไม่มีปัญญาไปห้ามเขาได้ และจะไม่ห้ามด้วยตราบใดที่เป็นเขาคนนี้ที่เธอแสนรัก
แม้จะหยุดการเคลื่อนไหวไปแล้วพักใหญ่ แต่ฉัตรินก็ยังคงไม่ยอมปล่อยมือจากเรือนร่างงดงามตรงหน้าให้เป็นอิสระ ยอมรับว่าอีกฝ่ายสวยจริง ทั้งสวยทั้งหวานไปทั้งตัวจนน่าหงุดหงิดทีแรกเขาก็แค่อยากจะขู่ให้อีกฝ่ายกลัว หรือต่อต้านสักครั้งจะได้เข็ดหลาบ แต่เป็นเขาเองที่พอได้เริ่มแล้วกลับไม่อาจหยุดตัวเองได้ปรียากรคือดอกไม้สีสวยที่ล่อให้แมลงหน้าโง่อย่างเขาเผลอหลวมตัวจนถลำลึก ยิ่งได้ชิมความหอมหวานจากกายคนที่ได้ชื่อว่าเมียแต่งที่เขาแสนจะชังน้ำหน้า และแม้ไม่อยากจะยอมรับ แต่ฉัตรินก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอทำให้เขารู้สึกสุขสมอย่างรุนแรงและถึงใจชนิดที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนในชีวิตตัวอันตราย!นอกจากจะเอาแต่ใจ ร้ายกาจ หน้าด้าน ไร้ยางอาย ผู้หญิงคนนี้ยังซ่อนความอันตรายไว้รอบตัว และดูเหมือนตอนนี้เขาจะโดนพิษสงของเธอเล่นงานจนหัวปั่นเข้าเสียแล้ว“อื้อ...”เสียงหวานประท้วงทั้งๆ ที่ยังหลับสนิท เมื่อถูกรั้งสะโพกเข้าหาความแข็งแกร่งที่ยังค้างคาภายในกุหลาบแสนหวาน ความคับแคบและแน่นหนึบของเธอกำลังป่วนประสาทเขาอย่างหนักหน่วง“ยัยตัวแสบ!”ชายหนุ่มกัดฟันคำราม พลางแกล้งกัดที่หัวไหล่มนหนักๆ หวังให้เจ้าตัวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมารับผิดชอบท
ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลหรูใจกลางเมืองแห่งหนึ่งมีผู้คนเข้ามาใช้บริการกันมากมายเพราะเป็นช่วงพักเที่ยง หญิงสาวร่างเพรียวระหงในชุดเดรสกระโปรงสีฟ้าดูอ่อนหวานเปิดประตูเข้ามาในนั้น เธอยืนเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกำลังหาใครสักคน จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียก“ปูน! ทางนี้...”ปูน หรือ ปรียากร หันไปตามเสียงเรียกก็พบกับเพื่อนรักกำลังกวักมือหยอยๆ จึงเดินตรงเข้าไปหาทันที“ขอโทษทีนะจิน รอเรานานหรือเปล่า รถติดมากวันนี้”จิน หรือ จนิตา ส่ายหน้าไปมา“ไม่นานหรอกแก เราทำงานที่นี่อยู่แล้วก็เลยมาไวเป็นธรรมดา”“แล้ววันนี้งานไม่ยุ่งเหรอ เลยมีเวลาให้เราได้”ปรียากรมองคุณหมอสาวด้วยรอยยิ้ม จนิตาทำงานเป็นแพทย์ด้านสูตินรีเวชมานานหลายปี แต่เธอก็เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่มัธยม รวมถึงสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกันแม้จะคนละคณะในขณะที่จนิตาเลือกคณะแพทย์ ปรียากรกลับเลือกเรียนบริหารเพื่อหวังจะช่วยงานธุรกิจของที่บ้าน จนกระทั่งต่างคนต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก มีแต่ส่งข้อความหากันบ้างตามแต่จะสะดวก“ยุ่งสิ ถ้าไม่ใช่แก ฉันคงไม่ออกมารับเอง แล้วนี่ผัวแกไปไหน ทำไมให้แกมาคนเดียวล่ะ”ปรียากรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อ
“ท...ท้องงั้นเหรอ!”“ใช่ ผู้หญิงคนนั้นท้องได้แปดสัปดาห์แล้วแก”ในขณะที่เธอต้องการมีลูกกับเขาจนต้องมาตรวจสุขภาพ มาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการมีบุตร ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าสิ่งที่ทำมันไร้ค่า ในเมื่อสามีสุดที่รักที่แต่งงานกันมาเกือบสองปีไม่เคยเหลียวแล หรืออยากแตะต้องตัวเธอเลยสักครั้ง แล้วจะให้เธอท้องยังไงได้ แต่กับผู้หญิงคนนั้นที่กลายเป็นแฟนเก่าและหายไปจากชีวิตเขานานพอๆ กับที่เธอแต่งงานมากลับตั้งครรภ์ถึงแปดสัปดาห์นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันจิน” น้ำเสียงสั่นเครือพึมพำ น้ำตาที่พยายามสะกดกลั้นไว้ล้นออกจากตาจนเจ้าตัวต้องรีบปาดทิ้ง สองมือกำแน่นจนปลายเล็บจิกเข้าไปในเนื้อเจ็บจี๊ด แต่ยังไม่เท่าความปวดร้าวที่หัวใจต่อให้ไม่รักกันก็ช่าง แต่การที่เขาแอบทรยศนอกใจกันกลับไปหาแฟนเก่าจนตั้งครรภ์ลับหลังเธอนี่มันคืออะไรกันจนิตาไม่รู้จะปลอบเพื่อนรักอย่างไรดี ได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างเห็นใจ เรื่องราวความรักหรือเรื่องในครอบครัวของอีกฝ่ายเธอเองก็พอรู้มาบ้าง แต่ก็ไม่อาจเข้าไปก้าวก่ายได้ ทว่ามันก็บังเอิญเกินไปไหมที่สามีเพื่อนกับแฟนเก่าต้องเจาะจงมาฝากครรภ์วันเดียวกับที่เพื่อนเธอตั้งใจมาตรวจสุขภาพเพราะ
“บอกปูนมานะ เด็กในท้องพี่รัญเป็นลูกใคร ใช่ลูกพี่หรือเปล่า” คำถามนั่นทำให้คนถูกถามหันมาทำหน้าเย็นชาใส่ ก่อนจะเดินหนีเข้าบ้านไม่อยากเสวนาด้วย“พี่อย่าเดินหนีนะ กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ” หญิงสาวรีบคว้าแขนเขาไว้อย่างลืมตัวด้วยโทสะที่เก็บมาตลอดทาง เพราะคนได้ชื่อว่าสามีไม่ยอมอธิบายให้กระจ่าง ต่อให้เธอพยายามใจเย็นแค่ไหน ใครจะไม่ตะบะแตก“ถ้าฉันบอกว่าใช่แล้วไงล่ะ เธอจะทำยังไงเหรอ หรือว่า...” ฉัตรินแกล้งทอดเสียงยั่วโมโห “จะยอมหย่า”คำนั้นทำเอาคนฟังสะอึกอึ้งไปชั่วขณะ รู้ดีแก่ใจว่าเขาพร้อมจะทำอย่างที่พูดได้ทุกเมื่อ แต่เรื่องอะไรเธอต้องยอมทำแบบนั้นให้เขาสมใจ“ฝันไปเถอะ ทำไมปูนต้องยอมหย่าให้พี่ไปสมหวังกับชู้รักเก่าด้วย”“ปูน!”“ปูนไม่หย่า ถ้าพี่อยากให้ลูกของพี่รัญเกิดมาเป็นลูกนอกสมรสก็ตามใจสิ แต่ปูนไม่หย่าแน่”“เมื่อไหร่เธอจะออกไปจากชีวิตฉันสักทีปูน”เสียงคำรามก้องผสมผสานด้วยความโกรธเกลียดชิงชัง ไม่ได้ทำให้หญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยหยาดเยิ้มสะดุ้งสะเทือน หวาดผวา หรือว่าตกใจกลัวแต่อย่างใด เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนอีกฝ่ายสาดคำใจร้ายพวกนี้ใส่หน้า ปรียากรยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ มุมปากของเธอแต้มร
แม้จะหยุดการเคลื่อนไหวไปแล้วพักใหญ่ แต่ฉัตรินก็ยังคงไม่ยอมปล่อยมือจากเรือนร่างงดงามตรงหน้าให้เป็นอิสระ ยอมรับว่าอีกฝ่ายสวยจริง ทั้งสวยทั้งหวานไปทั้งตัวจนน่าหงุดหงิดทีแรกเขาก็แค่อยากจะขู่ให้อีกฝ่ายกลัว หรือต่อต้านสักครั้งจะได้เข็ดหลาบ แต่เป็นเขาเองที่พอได้เริ่มแล้วกลับไม่อาจหยุดตัวเองได้ปรียากรคือดอกไม้สีสวยที่ล่อให้แมลงหน้าโง่อย่างเขาเผลอหลวมตัวจนถลำลึก ยิ่งได้ชิมความหอมหวานจากกายคนที่ได้ชื่อว่าเมียแต่งที่เขาแสนจะชังน้ำหน้า และแม้ไม่อยากจะยอมรับ แต่ฉัตรินก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอทำให้เขารู้สึกสุขสมอย่างรุนแรงและถึงใจชนิดที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนในชีวิตตัวอันตราย!นอกจากจะเอาแต่ใจ ร้ายกาจ หน้าด้าน ไร้ยางอาย ผู้หญิงคนนี้ยังซ่อนความอันตรายไว้รอบตัว และดูเหมือนตอนนี้เขาจะโดนพิษสงของเธอเล่นงานจนหัวปั่นเข้าเสียแล้ว“อื้อ...”เสียงหวานประท้วงทั้งๆ ที่ยังหลับสนิท เมื่อถูกรั้งสะโพกเข้าหาความแข็งแกร่งที่ยังค้างคาภายในกุหลาบแสนหวาน ความคับแคบและแน่นหนึบของเธอกำลังป่วนประสาทเขาอย่างหนักหน่วง“ยัยตัวแสบ!”ชายหนุ่มกัดฟันคำราม พลางแกล้งกัดที่หัวไหล่มนหนักๆ หวังให้เจ้าตัวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมารับผิดชอบท
“สามีที่ดีงั้นเหรอ?”คนใจร้ายทวนคำด้วยสีหน้าเหยียดหยัน ดวงตาคมจัดที่เธอเคยหลงใหลมาตลอดกวาดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของคนที่กำลังเรียกร้องสิทธิ์ในฐานะภรรยาที่เขาไม่ต้องการอย่างเลือดเย็น จนคนถูกมองใจหาย รู้สึกหนาวยะเยือกในอก“ใช่ค่ะ เป็นสามีที่ดี พี่ทำเป็นไหม” คนถูกถามแค่นยิ้มเหี้ยม พลางใช้ลิ้นเดาะกระพุ้งแก้มตัวเองแบบกวนๆ“ก็คงทำเป็นมั้ง ถ้าเมียของฉันเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ”หญิงสาวหน้าเสีย ความขมขื่นแล่นขึ้นมาจุกที่คอหอย“เสียใจด้วยนะ ที่มันใช่ ไม่ว่าพี่จะคิดยังไง แต่ปูนก็เป็นเมียพี่...”“หึ ก็แค่เมียในนามไหม ไม่พอใจก็หย่ากันเลยก็ได้นะ” คำท้านั่นทำเอาคนฟังสะอึก หัวใจราวกับถูกกระชากออกจากอก“หย่ากันซะให้จบๆ ทางใครทางมันไปเลย”“คำก็หย่า สองคำก็หย่า พี่อยากหย่ากับปูนขนาดนั้นเลยเหรอคะ”“เธอก็รู้ดีแก่ใจนี่ จะถามให้มันได้อะไรขึ้นมา ถ้าไม่พอใจก็หย่าซะสิ”ปรียากรแค่นยิ้ม หัวใจปวดร้าวจนแทบจะทนไม่ไหว“ไม่ค่ะ ปูนไม่หย่า ใครที่รอแย่งผัวคนอื่น อยากรอก็รอไปแล้วกัน เพราะปูนไม่หย่า...”“เอาเถอะ ถ้าเธอเสี้ยนอยากเป็นเมียฉันมากขนาดนั้น งั้นฉันก็จะลองกลั้นใจหลับหูหลับตา ‘เอา’ อีกสักครั้งก็ได้”ฉัตรินกดรอย
“บอกปูนมานะ เด็กในท้องพี่รัญเป็นลูกใคร ใช่ลูกพี่หรือเปล่า” คำถามนั่นทำให้คนถูกถามหันมาทำหน้าเย็นชาใส่ ก่อนจะเดินหนีเข้าบ้านไม่อยากเสวนาด้วย“พี่อย่าเดินหนีนะ กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ” หญิงสาวรีบคว้าแขนเขาไว้อย่างลืมตัวด้วยโทสะที่เก็บมาตลอดทาง เพราะคนได้ชื่อว่าสามีไม่ยอมอธิบายให้กระจ่าง ต่อให้เธอพยายามใจเย็นแค่ไหน ใครจะไม่ตะบะแตก“ถ้าฉันบอกว่าใช่แล้วไงล่ะ เธอจะทำยังไงเหรอ หรือว่า...” ฉัตรินแกล้งทอดเสียงยั่วโมโห “จะยอมหย่า”คำนั้นทำเอาคนฟังสะอึกอึ้งไปชั่วขณะ รู้ดีแก่ใจว่าเขาพร้อมจะทำอย่างที่พูดได้ทุกเมื่อ แต่เรื่องอะไรเธอต้องยอมทำแบบนั้นให้เขาสมใจ“ฝันไปเถอะ ทำไมปูนต้องยอมหย่าให้พี่ไปสมหวังกับชู้รักเก่าด้วย”“ปูน!”“ปูนไม่หย่า ถ้าพี่อยากให้ลูกของพี่รัญเกิดมาเป็นลูกนอกสมรสก็ตามใจสิ แต่ปูนไม่หย่าแน่”“เมื่อไหร่เธอจะออกไปจากชีวิตฉันสักทีปูน”เสียงคำรามก้องผสมผสานด้วยความโกรธเกลียดชิงชัง ไม่ได้ทำให้หญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยหยาดเยิ้มสะดุ้งสะเทือน หวาดผวา หรือว่าตกใจกลัวแต่อย่างใด เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนอีกฝ่ายสาดคำใจร้ายพวกนี้ใส่หน้า ปรียากรยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ มุมปากของเธอแต้มร
“ท...ท้องงั้นเหรอ!”“ใช่ ผู้หญิงคนนั้นท้องได้แปดสัปดาห์แล้วแก”ในขณะที่เธอต้องการมีลูกกับเขาจนต้องมาตรวจสุขภาพ มาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการมีบุตร ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าสิ่งที่ทำมันไร้ค่า ในเมื่อสามีสุดที่รักที่แต่งงานกันมาเกือบสองปีไม่เคยเหลียวแล หรืออยากแตะต้องตัวเธอเลยสักครั้ง แล้วจะให้เธอท้องยังไงได้ แต่กับผู้หญิงคนนั้นที่กลายเป็นแฟนเก่าและหายไปจากชีวิตเขานานพอๆ กับที่เธอแต่งงานมากลับตั้งครรภ์ถึงแปดสัปดาห์นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันจิน” น้ำเสียงสั่นเครือพึมพำ น้ำตาที่พยายามสะกดกลั้นไว้ล้นออกจากตาจนเจ้าตัวต้องรีบปาดทิ้ง สองมือกำแน่นจนปลายเล็บจิกเข้าไปในเนื้อเจ็บจี๊ด แต่ยังไม่เท่าความปวดร้าวที่หัวใจต่อให้ไม่รักกันก็ช่าง แต่การที่เขาแอบทรยศนอกใจกันกลับไปหาแฟนเก่าจนตั้งครรภ์ลับหลังเธอนี่มันคืออะไรกันจนิตาไม่รู้จะปลอบเพื่อนรักอย่างไรดี ได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างเห็นใจ เรื่องราวความรักหรือเรื่องในครอบครัวของอีกฝ่ายเธอเองก็พอรู้มาบ้าง แต่ก็ไม่อาจเข้าไปก้าวก่ายได้ ทว่ามันก็บังเอิญเกินไปไหมที่สามีเพื่อนกับแฟนเก่าต้องเจาะจงมาฝากครรภ์วันเดียวกับที่เพื่อนเธอตั้งใจมาตรวจสุขภาพเพราะ
ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลหรูใจกลางเมืองแห่งหนึ่งมีผู้คนเข้ามาใช้บริการกันมากมายเพราะเป็นช่วงพักเที่ยง หญิงสาวร่างเพรียวระหงในชุดเดรสกระโปรงสีฟ้าดูอ่อนหวานเปิดประตูเข้ามาในนั้น เธอยืนเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกำลังหาใครสักคน จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียก“ปูน! ทางนี้...”ปูน หรือ ปรียากร หันไปตามเสียงเรียกก็พบกับเพื่อนรักกำลังกวักมือหยอยๆ จึงเดินตรงเข้าไปหาทันที“ขอโทษทีนะจิน รอเรานานหรือเปล่า รถติดมากวันนี้”จิน หรือ จนิตา ส่ายหน้าไปมา“ไม่นานหรอกแก เราทำงานที่นี่อยู่แล้วก็เลยมาไวเป็นธรรมดา”“แล้ววันนี้งานไม่ยุ่งเหรอ เลยมีเวลาให้เราได้”ปรียากรมองคุณหมอสาวด้วยรอยยิ้ม จนิตาทำงานเป็นแพทย์ด้านสูตินรีเวชมานานหลายปี แต่เธอก็เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่มัธยม รวมถึงสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกันแม้จะคนละคณะในขณะที่จนิตาเลือกคณะแพทย์ ปรียากรกลับเลือกเรียนบริหารเพื่อหวังจะช่วยงานธุรกิจของที่บ้าน จนกระทั่งต่างคนต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวก็ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก มีแต่ส่งข้อความหากันบ้างตามแต่จะสะดวก“ยุ่งสิ ถ้าไม่ใช่แก ฉันคงไม่ออกมารับเอง แล้วนี่ผัวแกไปไหน ทำไมให้แกมาคนเดียวล่ะ”ปรียากรถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อ