แชร์

การเผชิญหน้าที่ดูแปลกไป

   

ทั้งสองถูกส่งแค่หน้าลิฟต์ โดยเหม่ยหลินเดินนำเข้าไปก่อน จากนั้นถิงถิงก็ถูกผ่ายมือเชิญจากลูกน้องให้ตามเข้าไป โดยไม่มีใครอื่นตามมายืนประกบอีก ทำให้ถิงถิงเก็บความสงสัยไว้ กระนั้นในใจลึก ๆ เธอก็อดประหม่าไม่ได้ เมื่อต้องอยู่สองต่อสองกับผู้หญิงหน้าเดียว!

และอาการที่เก็บไม่มิดจนเผลอพ่นลมหายใจออกมา เหมือนอยากระบายความอึดอัด ซึ่งเหม่ยหลินเห็นอย่างไม่ตั้งใจ ก่อนจะรีบผันหน้าไปทางอื่น เพื่อกันความรู้สึกให้อีกคน...

เหม่ยหลินรอจนกระทั่งประตูลิฟต์ปิด จึงยื่นมือไปกดหมายเลขชั้น แล้วทุกอย่างก็กลับไปอยู่ในความเงียบอีกครั้ง มีเพียงลมหายใจและขนตางอนที่ขยับปรือเป็นครั้งคราว ทำให้รู้ว่าต่างคนต่างยังมีชีวิตอยู่

ลิฟต์ขึ้นไปหยุดนิ่งอยู่ที่ชั้นสี่สิบแปดแล้วเสียงดังเตือน ประตูก็เปิดกว้าง และเห็นเพียงประตูห้องตรงหน้า

ถิงถิงหายแปลกใจว่าเหตุใดเหม่ยหลินจึงไม่ให้บอดี้การ์ดตามขึ้นมา เพราะชั้นสี่สิบแปดเป็นเพียงห้องพักห้องเดียว ซึ่งคนนอกไม่สามารถรอดสายตาผ่านมาได้ นอกจากใช้ลิฟต์เพียงตัวเดียวที่พวกเธอใช้ขึ้นมาเท่านั้น...

หลังจากที่หายสงสัยถิงถิงก็ได้เวลาถาม

          “พาขึ้นมาทำไมคะ” เพราะมันไม่มีอะไรนอกจากห้องที่เหมือนเป็นห้องพักส่วนตัว

          “กินข้าว”

          “หะ? ข้าวอะไรของคุณคะ” ถิงถิงถามเพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า

          “ข้าวเที่ยงไง” น้ำเสียงราบเรียบไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนแขกที่ยืนจ้องหน้าตาถลนใส่เธอ

          “เที่ยง?...” แม้จะได้ยินเต็มสองหูก็อดไม่ได้ “แต่นี่จะบ่ายสามแล้วนะคะ”

ถิงถิงไม่คิดว่าจะเป็นความจริง เมื่อคนอย่างเหม่ยหลินจริงจังกับชีวิต ทุกอย่างต้องเป๊ะ แล้วนี่อะไรปล่อยให้ร่างกายขาดสารอาหาร... แต่ก็นะ คนอย่างหยางเหม่ยหลิน ทนถึก หลายครั้งที่เธอแอบเห็นเหม่ยหลินเข้าร่วมฝึกศิลปะการป้องกันตัวร่วมกับบอดี้การ์ดผู้ชายจากเช้าถึงบ่าย กระนั้นหล่อนก็ไม่เคยแสดงออกถึงความล้า...

          “จริง นี่แหละเวลาข้าวเที่ยงของพี่” แล้วเท้าเรียวก็เดินไปข้างหน้า ก่อนจะกดรหัสผ่านบนประตูแล้วอ้าค้างไว้ เหมือนรอให้แขกเข้าไปก่อน

หากถิงถิงลังเล เหม่ยหลินจึงพูดขึ้น “เข้าไปสิ...”

ตาสบตา ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดชะงัก เมื่อมีเสียงหวานนุ่มดังแทรกเข้ามา

“คุณหยกกลับมาแล้วหรือคะ” เสียงหวานพร้อมกับร่างบางที่มีใบหน้าหวานละมุนโผล่มายืนอยู่ตรงหน้า

“อ้าวนลิน ไหนบอกว่าลาไงคะ”

เหม่ยหลินอดแปลกใจไม่ได้ เมื่อคนขอลาหยุด แต่กลับมาปรากฏตัวอยู่ในห้องได้

คนถูกถามไม่ตอบ แต่มองผู้หญิงคนใหม่ตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง...

ถิงถิงกลืนน้ำลายลงคอ หน้าชา คอแข็งไปชั่วขณะ กับละครตัวใหม่ที่โผล่มาแบบไม่ให้รู้ล่วงหน้า อีกทั้งการเรียกขานกันบอกถึงความสนิทสนม ทั้งชื่อที่น้อยคนนักจะรู้ว่าเหม่ยหลินชื่อ ‘หยก’ นอกจากคนในครอบครัว

...แล้วผู้หญิงคนนี้คือใคร ทำไมเธอไม่เคยรู้ และไม่เคยมีใครเอ่ยถึง หาใช่คนครอบครัวในไทยใช่ไหม?

ถิงถิงพยายามคิด หากแต่ใจของเธอกลับต่อต้าน ด้วยการเต้นผิดจังหวะ จนปวดแปลบไปทั้งหน้าอกข้างซ้าย

ถิงถิงถอยหลังหนึ่งก้าว เหม่ยหลินตะหวัดมองและเห็นสายตาไม่ไว้วางใจเด่นชัด  จึงรีบแนะนำให้ทั้งคู่รู้จัก “นี่นลิน ลูกสาวนายแพทย์เกรียงประจำตระกูลหยางแต่ก่อนไง... นลินนี่คุณหนูถิงถิง คิดว่าคงจำคุณหนูถิงถิงได้นะ”

คนในห้องยิ้มกว้างตาเปล่งประกายแล้วตอบเสียงใส

“จำได้สิคะ เพราะคุณหนูถิงถิงเลยยอมกลับมาทำงานเพื่อต้อนรับโดยเฉพาะ... เชิญเข้ามาค่ะ นลินเตรียมกับข้าวไว้รอแล้ว” พูดจบเธอก็ขยับออกไป เพื่อให้แขกและเจ้าของห้องเดินผ่านเข้าไปได้สะดวกขึ้น

คำตอบของนลินทำให้ถิงถิงเกิดความสงสัย ว่าเหตุใดคนนอกอย่างนลินถึงรู้ว่าเธอมา หรือเป็นเพราะไม่มีอะไรเป็นความลับระหว่างเหม่ยหลินกับยายนลินคนนี้

เถอะ! มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันจังเลยนะ... ถิงถิงจากที่ไม่เคยใส่ใจคนนอก หากตอนนี้กลายเป็นคนคิดมาก และยังเผลอออกอาการหมั่นไส้ชักสีหน้าใส่คนทั้งสอง ก่อนจะเดินหน้าเชิดเข้าไปในห้อง

ระหว่างที่เดินเข้ามาในห้องพัก ถิงถิงก็ใช้สายตาสำรวจภายในไปด้วย ห้องพักขนาดใหญ่กว่าห้องสวิทที่เธอเคยพัก ดีไซน์ภายในห้องทันสมัยและลงตัว เน้นความสะดวกสบายและปลอดโปร่ง ด้วยกระจกบานใหญ่ถึง 3 บาน มองเห็นบรรยากาศด้านนอกเด่นชัด ที่สำคัญได้รับแสงธรรมชาติตลอดวัน หากเป็นกลางคืนคงได้เห็นบรรยากาศของแสงระยิบระยับทั่วกรุงเทพ คิดแล้วใจของถิงถิงก็ลืมอาการขุ่นเคือง

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status