แชร์

เจอดี

ระหว่างที่เดินเข้ามาในห้องพัก ถิงถิงก็ใช้สายตาสำรวจภายในไปด้วย ห้องพักขนาดใหญ่กว่าห้องสวิทที่เธอเคยพัก ดีไซน์ภายในห้องทันสมัยและลงตัว เน้นความสะดวกสบายและปลอดโปร่ง ด้วยกระจกบานใหญ่ถึง 3 บาน มองเห็นบรรยากาศด้านนอกเด่นชัด ที่สำคัญได้รับแสงธรรมชาติตลอดวัน หากเป็นกลางคืนคงได้เห็นบรรยากาศของแสงระยิบระยับทั่วกรุงเทพ คิดแล้วใจของถิงถิงก็ลืมอาการขุ่นเคือง กับของคนด้านหลังไปชั่วขณะ  โดยเธอยังสำรวจเหมือนแมวน้อยแปลกถิ่น จากนั้นเบนสายตาเข้ามาด้านในและเห็นว่าภายในห้องมีห้องแยกเป็นสองห้องนอน มีลานกว้างตรงกลางไว้สำหรับนั่งเล่นเป็นสัดส่วน  ส่วนมุมหนึ่งแยกเป็นห้องครัวขนาดขนาดพอเหมาะ พร้อมโต๊ะไว้สำหรับนั่งกินข้าว ซึ่งมันดูเหมือนบ้านหนึ่งหลังที่ตั้งอยู่บนยอดเขาก็ว่าได้

“ชมพอหรือยัง...” เสียงนุ่มเรียบเอ่ยทำลายความเงียบ

ถิงถิงหน้าเห่อร้อน เมื่อเผลอแสดงอาการเหมือนแมวตื่น จึงเลิกสนใจบรรยากาศภายในห้องแล้วหันกลับมามองอีกสองคนที่ตอนนี้มองเธออยู่แล้ว

“ก็เห็นมันสวยดี...” เธอบอกแก้เก้อ

“ขอบคุณ...” เหม่ยหลินถือว่านี่คือคำชมครั้งแรกของถิงถิง เลยพูดต่อ “เลือกได้เลยนะว่าจะพักห้องไหน”

มุมปากสวยกระตุกขึ้นเพียงนิด “วิวของกรุงเทพสวยดี...นี่หากกลางคืนเห็นแสงไฟชัด คงสวยน่ามองไปอีกแบบเนอะ”

เหม่ยหลินถอนหายใจ กับคำตอบในประโยคที่เธอถาม และถือว่าเป็นการหักหน้า ที่คิดว่าเป็นความตั้งใจของถิงถิง

“กินข้าวเถอะ” ใบหน้าฉาบเรียบเอ่ยตัดจบ และเดินไปยังโต๊ะอาหาร ที่มีเก้าอี้วางอยู่ทุกมุม ส่วนนลินรีบเดินตามเหม่ยหลินและรออำนวยความสะดวกอยู่เงียบ ๆ

ถิงถิงแบะปาก… สุดท้ายเธอก็ยังทำอะไรคนหน้าเดียวไม่ได้!

“คุณถิงถิงมากินด้วยกันค่ะ”

นลินเป็นคนชวน ส่วนเหม่ยหลินเริ่มตักข้าวของวันคำแรกเข้าปาก และดูเธอจะเลิกสนใจแขกในห้องที่ยืนหน้าเชิดมือกอดอกมองมาด้วยสายตาขุ่น

อยากเล่นเขา แต่กลับโดนเล่นกลับสะเอง...

“มาสิคะ อาหารไทยแท้ ต้มยำกุ้ง ไข่เจียวทอดชะอม น้ำพริกผักสดใหม่ ๆ จากส่วนหลังบ้านของพ่อนลินเองเลยนะคะ”

แม้ไม่เห็นหน้าตาแต่เมนูที่ถูกกล่าวถึง เป็นของโปรดที่แม่อิงฟ้าซึ่งเป็นภรรยาชาวไทยของคุณพ่อหยางไห่หลงทำให้กินบ่อย ๆ  จนต้องกลืนน้ำลายลงคอ และเริ่มได้กลิ่นหอมของกับข้าวลอยมาปะทะจมูก

กลิ่นกะปิ กลิ่นชะอม กลิ่นความเปรี้ยวของมะนาว ผสมกับความเผ็ดร้อนของพริกสด...

โอ๊ย... ถิงถิงครวญ แล้วกลืนน้ำลายดังเฮือก!

ในขณะที่ถิงถิงไม่อยากเสียฟอร์ม แต่เหม่ยหลินรู้สึกผิดปกติกับรสชาติอาหาร เขาวางช้อนลงจนเกิดเสียง

“มีอะไรหรือคะ” นลินถามด้วยความแปลกใจ

“ไม่มีอะไร...”

“กับข้าวของนลินรสชาติแปลกไปละสิ...” เจ้าตัวเอ่ยอย่างรู้ดี

หากเหม่ยหลินช้อนตามองคนที่ตัวเองไว้ใจมาหลายปีด้วยสายตาใคร่รู้

“คือแบบนี้นะคะ พอรู้ว่าคุณหนูถิงถิงมาหาคุณหยก นลินไม่รู้ว่าต้องทำอาหารรสชาติแบบไหนถึงจะถูกปากคุณหนูถิงถิง เลยได้รสชาติแปลก ๆ ที่คุณหยกอาจไม่ถูกปาก...” เธออธิบาย

เหม่ยหลินอยู่วงการธุรกิจที่ต้องแข่งขัน จึงใช้เล่ห์เหลี่ยมและประสบการณ์ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในวงการค้า ซึ่งเธอพบมาหลายรูปแบบ จนไม่กล้าไว้ใจใคร แม้คนใกล้ชิดและกระทั่งคนในครอบครัวเอง

“ถิงถิงหลบออกไป” เธอบอกเสียงเด็ดขาดโดยไม่ได้หันไปมองเจ้าของชื่อ

แต่เหม่ยหลินเริ่มชาปลายมือปลายเท้า แต่ก่อนที่ร่างกายของเธอจะอ่อนแรง ก็กัดฟันสู้ปลดเอาอาวุธคู่กายออกมาแล้วเล็งไปยังเป้าหมาย แต่อีกฝ่ายก็ถูกฝึกมาอย่างดีกระโดดหลบโดนของกระเด็นกระจายเสียงดัง

เหม่ยหลินกัดฟันเล็งเป้าหมายใหม่อย่างรวดเร็ว ในขณะที่คนร้ายหลบอยู่

“ใครส่งมึงมา” เหม่ยหลินถามเสียงกร้าว หากอีกฝ่ายหลบเงียบ

ถิงถิงที่หลบอยู่หลังโซฟาเริ่มเข้าใจสถานการณ์ และเห็นอาการของเหม่ยหลินที่เริ่มสั่นหน้าซีดก็ไม่อยากเอาตัวรอดเพียงลำพัง จึงคิดหาวิธีช่วยเหลือ ก่อนจะหันไปเห็นแจกันขนาดเหมาะมือจึงตัดสินหยิบมาแล้วขว้างออกไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด

เพล้ง!

เสียงแตกของแจกันที่หล่นกระทบพื้น ทำให้คนที่นั่งหลบอยู่ตกใจจนเผลอขยับ เพียงนิดเดียวและเสี่ยวนาทีก็ทำให้เหม่ยหลินมีจังหวะปล่อยกระสุนไปยังเป้าหมาย

ในวินาทีถัดมาเสียงเสียดสีของอนุภาพร้ายแรงดังออกไป โดนไหล่จนอีกฝ่ายเซเสียหลัก ซึ่งเป็นจังหวะเหมาะ ที่จะไม่ให้พลาดซ้ำกับเวลาที่มีจำกัด เหม่ยหลินตัดสินใจกระโดดข้ามโต๊ะเพื่อเล็งเป้าใหม่อีกครั้ง จากนั้นเสียงพิฆาตครั้งสุดท้ายถูกส่งออกไปตัดขั้วหัวใจของคนตรงหน้าในระยะเผาขน ส่งผลให้ร่างบางลงไปนอนดิ้นสิ้นชีพอยู่บนพื้น ในมือยังกำอาวุธไว้แน่น หากไม่มีโอกาสได้ใช้มันอีกต่อไป แน่นอนหากมีการโต้กลับ ทุกอย่างจะชุลมุนกว่านี้...

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status