แชร์

คนเคยระแวง

เหม่ยหลินถอนหายใจ และพยายามเก็บอารมณ์เพราะตอนนี้เธอมีเรื่องให้หนักใจเยอะเกินพอ เลยไม่อยากผิดใจกับ   ถิงถิงอีกคน

“ขอพักหน่อยเถอะ” เธอบอกแล้วทิ้งแผ่นหลังไปบนเก้าอี้หลับตาลง

“หากอยู่แล้วทำให้หนักใจเพิ่มงั้นไปก็ได้” แล้วสาวเท้าเตรียมเดินออกไป แต่ถูกรั้งไว้ด้วยคำถามเสียก่อน

“จะไปไหน”

“ไปให้พ้น ๆ ไง” ประชด

“อย่าทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาสิ”

ถิงถิงจิกตามองคนอายุมากกว่าด้วยสายตาตัดพ้อ ใช่เธอเป็นเด็กมีปัญหามาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วนี่...

สีหน้าและน้ำเสียงของถิงถิง หากเหม่ยหลินไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เธอคิดว่านั้นเป็นประโยคที่กลั่นออกมาจากความรู้สึกน้อยใจซึ่งเธอไม่เคยเห็นมุมนี้ของถิงถิง หรือเพราะถิงถิงไม่เคยอยู่ในสายตามาก่อนกันแน่!

เหม่ยหลินเริ่มสับสน กระนั้นเธอก็ไม่ปล่อยให้ความรับผิดชอบนี้ ต้องมาสร้างปัญหาให้เธอเพิ่ม...

ด้วยความอยากเอาชนะถิงถิงไม่ฟัง เธอเดินตรงไปยังประตูทางออก แต่เมื่อเปิดประตู สายตาสิบคู่พร้อมใจกันมองมาที่เธอเป็นตาเดียวกัน เธอจิกตามองกราด แต่กำแพงมนุษย์นั่น ไม่หวั่นไหวกับสีหน้าและอาการของเธอแม้แต่น้อย

“หลีก!” เธอสั่งเสียงห้วน ขัดหูขัดตามองหน้าใครก็เป็นหน้าของเหม่ยหลิน คนที่ปากบอกกับใคร ๆ ว่าไม่อยากเข้าใกล้ที่สุด แต่กลับไม่มีใครเชื่อ แม้แต่ผู้ให้กำเนิดทั้งสองของเธอ!

ชายทั้งห้าพร้อมใจกันก้มหน้ามองพื้น แต่เท้ากดแน่นไม่ขยับ

ถิงถิงกำหมัดง้างขึ้น อยากปาใส่หน้าคนพวกนั้นคนละทีสองที แต่ยังไม่ได้ขยับไปใกล้ ก็โดนขัดขึ้น

“คำสั่งอยู่ที่พี่ พี่ว่าเธอกลับมานั่งเถอะ เพราะถึงดื้อไป ก็รั้งแต่ให้คนพวกนั้นลำบากใจเปล่า ๆ ...”

ถิงถิงทิ้งหมัดลงข้างลำตัว นับ 1-10 ตวัดสายตากลับไปมองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในท่านั่งไขว้ขา สองมือวางทับอยู่บนหน้าตัก สายตาแน่วแน่...

“พี่จะส่งนลินไปรักษา...” ‘เพื่อจะจัดการเธอได้เต็มที่’ ประโยคหลังไม่ได้พูดดังให้ใครได้ยิน แม้แต่คนตรงหน้า...

“จะไปเฝ้าดูแลด้วยเลยไหมคะ” ถิงถิงย้อนถาม ในขณะที่เธอเดินไปกระแทกก้นลงนั่งบนเก้าอี้บุนวม

เหม่ยหลินหรี่ตามอง สายตาอ่อนใจ ไม่เข้าใจว่าถิงถิงกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ทำไมถึงคิดแต่จะประชดประชันกับเรื่องนลินไม่หยุด ทั้งที่อีกคนบาดเจ็บ หรือว่านี่เป็นนิสัยอีกอย่างที่เธอเพิ่งรู้...

หากเป็นคนอื่นแม้จะไม่ใช่คนที่รู้จัก แต่บังเอิญเห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บ ก็ต้องรู้สึกเห็นใจและสงสารไม่ใช่เหรอ...แต่นี่เล่นตั้งแง่ใส่...

เหม่ยหลินยกมือขึ้นกดไปที่กระบอกตาข้างหนึ่งอย่างคนคิดไม่ตกและพูดขึ้น

“หิวไหม เราออกไปหาอะไรกินกันเถอะ”

ถิงถิงแอบย่นจมูกใส่ เมื่อเข้าใจว่าเหม่ยหลินจงใจเปลี่ยนเรื่อง “ทิ้งได้เหรอ” แล้วมองไปยังเตียง ที่มีคนนอนหลับอยู่

“ไม่นาน... อีกอย่างเป็นการฆ่าเวลา รอข่าวคุณเกรียงด้วย”

ฆ่าเวลา...อ้อนี่ที่ชวนไป เพราะอยากฆ่าเวลา เถอะ!

“ถามหน่อยเถอะ คนเจ็บขนาดนี่จะรออะไรอีก”

“หากยังติดต่อคุณเกรียงไม่ได้จริง ๆ พี่ก็จะจัดการเรื่องนี้โดยไม่ต้องรออนุญาตจากใคร แต่นี่...”

แล้วมองไปที่คนหลับที่ตอนนี้ได้ทำแผลและได้รับการรักษาเบื้องต้นไป

“อำนาจเด็ดขาดอยู่ที่คุณไม่ใช่เหรอ แล้วดูท่าคุณต้องรับผิดชอบเขาทั้งชีวิตแล้วนี่ คุณเกรียงคงไม่สิทธิ์ตัดสินอะไรแล้วมั่ง”

คำพูดของถิงถิงทำให้เหม่ยหลินนึกได้ ...เธอไม่ควรรอคำใครอีก ในเมื่อต้องรับผิดชอบชีวิตที่เหลือของนลิน

“หยางซิง!” จากนั้นเธอก็ผลุนผลันลุกขึ้นเรียกหามือขวา ซึ่งหนานซิงก็เปิดประตูโผล่หน้าเข้ามาในทันทีเช่นกัน

“ครับคุณหนูใหญ่ ”

“เตรียมย้ายคุณนลินไปรักษาตัวที่แอลเอ”

หนานซิงชะงักเพียงนิด “ครับ”

นั่นเท่ากับว่าต้องใช้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว และไม่มีใครเข้าถึงตัวนลินได้อีก จนกว่าเธอจะหายเป็นปกติ และมีอะไรที่ดีกว่าเดิมแน่นอน...

ถิงถิงนั่งมองคนอื่นที่กำลังวุ่นวาย ประหนึ่งเธอเป็นอากาศ ที่ไม่มีใครมองเห็น...จนกระทั่งเธอลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และเดินไปหาเหม่ยหลิน ที่นั่งกล่อมนลินอยู่บนเตียง

“เธอควรรับไว้นะ” ถิงถิงเอ่ยขึ้น

แม้ไม่เห็นหน้าคนพูด แต่นลินผันหน้าหาต้นเสียงได้ทันทีแล้วตอบกลับไป “รักษาที่ไทยก็ได้ โรงฯบาลดี ๆ มีเยอะแยะค่ะ”

“แต่หากเป็นฉัน ฉันเชื่อมือหมอศัลกรรมที่นู่นนะ” ถิงถิงเสริมต่อ

“ใช่ เธอไม่ต้องกลัวว่าไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนนะนลิน...” เหม่ยหลินพูดขึ้นบ้าง

“มีใครจะอยู่เป็นเพื่อนนลินหรือคะ” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหม่าถามด้วยความอยากรู้

ซึ่งคำถามของนลินทำให้ถิงถิงเองก็อยากรู้ ...อาจจะทั้งอยากรู้และกลัวไปในคราเดียวกัน

“นลินยังจำเหม่ยจูได้ไหม”

คำพูดของเหม่ยหลิน ทำให้คนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ รู้สึกโล่ง แต่แอบเก็บอาการ...

“คุ คุณเหม่ยจูนะหรือคะ จำได้สิ... ก็เป็นน้องสาวคุณหยกนี่คะ...” คำตอบบอกว่าเธอยังจำได้ดี เหม่ยหลินก็โล่งใจ

“เธอเหมือนคุณหยกมากนะคะ ไม่ว่า... นิสัย และความสามารถ”

...แม้จะไม่ได้เจอกันหลายปี เช่นเดียวกับถิงถิง ที่ต่างคนต่างไม่ลืม แต่ก็ไม่อยากพูดถึง

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status