“ไม่เป็นไรครับ แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับที่เดินชน”
ลมหนาวกล่าวขอโทษกลับไป แล้วเมื่อได้เห็นหน้าคนที่เพิ่งเดินชน ก็ตกใจจนตาโต แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้
ใช่เขาเพิ่งจะชนเข้ากับพี่ซัน โลกกลมอะไรขนาดนี้
“เราอีกแล้วเหรอ เดินไม่ระวังเลย เจ็บตรงไหนไหม”
“ไม่เจ็บครับ แล้วก็ขอโทษนะครับที่เดินชนพี่อีกแล้ว”
“ไม่เป็นไร คิดมากน่ะ วันหน้าก็เดินระวัง ๆ หน่อย”
“ครับ งั้นผมขอตัวนะครับ” ลมหนาวทำท่าจะเดินจากไป
“เดี๋ยวก่อน แล้วเราชื่ออะไร เจอกันวันหน้าจะได้เรียกถูก”
พี่ซันเรียกผมไว้ พี่ซันอยากรู้ชื่อของผม
“ผมชื่อล...”
ดึงดึ่งดึ้ง ๆ ดึงดึ่งดึ้ง ๆ ผมยังไม่ทันได้พูดชื่อของตัวเองออกมา เสียงโทรศัพท์ของพี่ซันก็ดังขึ้น คนตัวสูงกดรับสาย แล้วก็พูดกับคนที่โทรมา ท่าทางเหมือนจะมีเรื่อง ผมมองพี่ซันคุยโทรศัพท์จนเขากดวางสาย พี่ซันหันมามองผม ผมพอจะรู้ว่าพี่เขาจะพูดอะไร
“พี่คงต้องไปแล้ว แล้วเจอกันนะ”
“ครับ” ผมพูดได้แค่นั้น พี่เขาก็เดินไปแล้ว แต่ผมยังยืนอยู่ที่เดิม น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงข้างแก้ม ผมใช้มือปาดน้ำตาออกอย่างลวก ๆ
‘อุปสรรคเยอะจริง ๆ แค่บอกชื่อกับคนที่แอบชอบยังยากเลย ครั้งที่สองแล้วนะ ไอ้ลมหนาว’
“ทำไมไปนานจัง กูก็นึกว่าเกิดเรื่อง กำลังจะโทรหาเลย” ตังบ่นให้เพื่อนเพราะเห็นหายไปนาน
“เราเจอคนรู้จักน่ะ ก็เลยอยู่คุยด้วยแป๊บหนึ่ง”
“เออ กูก็นึกว่ามีเรื่อง เมื่อกี้โต๊ะมุมโน้นก็มีเรื่องกัน” ลมหนาวพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป
“เอ้าชนหน่อยเพื่อน นั่งนิ่งไม่ดื่มเลยมึงอะ” เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งชูแก้วเหล้าขอชนด้วย
“อะ ชน ๆ” ลมหนาวยกแก้วชนเพื่อน ๆ รอบโต๊ะ ทุกคนเฮฮาสนุกสนาน แต่ลมหนาวก็ยังคงคิดถึง คนที่เพิ่งเจอเมื่อกี้อยู่ดี พยายามมองหาว่าพี่เขานั่งอยู่โต๊ะไหน แต่ก็หาไม่เจอเพราะร้านค่อนข้างมืด
‘คงกลับไปแล้วมั้ง’
มีคนอื่นเข้ามาขอชนแก้วกับลมหนาวบ้าง ทั้งหญิงและชาย เห็นแบบนี้เขาก็เนื้อหอมพอตัวนะ
“ทุกคน นี่ก็ดึกมากแล้ว เราขอกลับก่อนนะ” ผมเอ่ยขอตัวกลับก่อน
“มึงจะรีบกลับไปไหนวะ” ตังเอ่ยถามเพื่อน
“เรามีธุระนิดหน่อยว่ะ ไปล่ะทุกคน บาย” ผมโบกมือลาเพื่อน ๆ ที่โต๊ะ
“ขับรถดี ๆ นะมึง ระวัง ๆ ด้วย” เพื่อนในกลุ่มตะโกนบอกด้วยความเป็นห่วง
ระยะทางจากร้านถึงคอนโดไม่ไกลมาก แต่ผมก็เลือกที่จะขับรถช้า ๆ เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศของค่ำคืนนี้
เหงา แต่เขากลับนึกถึงใครอีกคนในห้วงความคิด เจ้าของร่างสูงโปร่ง ผิวขาว คิ้วเข้มเรียงตัวสวย ริมฝีปากหยัก ดวงตาคมสวยมีเสน่ห์ หากเผลอไปมองหรือจ้องตา คงต้องตกเข้าไปในแรงดึงดูดนั้นแน่ ๆ และหนึ่งในนั้นก็คือตัวเขาเอง ที่หลงเข้าไปในแรงดึงดูดนั้น
จนยากจะถอนตัว
ลมหนาวคิดว่า ถ้าวันหนึ่งตัวเองพร้อม และมีความกล้ามากกว่านี้ ลมหนาวอาจจะบอกซันก็ได้ ว่าตัวเองแอบชอบพี่เขา และบอกว่าตัวเขาคนนี้คือ วิน คนที่ส่งรูปถ่ายโพลารอยด์ให้ตลอดมา
ทุก ๆ วัน ลมหนาวจะแอบส่องไอเจ และวีโฟร์พี่เขาตลอด พี่เขาไม่ค่อยจะอัปเดตอะไร ส่วนมากมีแต่คนแท็กพี่เขามา แต่แค่นั้นก็ทำให้คนที่ได้เห็นมีความสุข และกดบันทึกรูปของคนที่ตัวเองชอบไว้มากมาย
ลมหนาวกลับมาถึงห้องตอนเกือบ ๆ ตีหนึ่ง ร่างบางเดินมาทิ้งตัวลงที่โซฟา สายตาเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย ในหัวตอนนี้คิดถึงแต่หน้าพี่ซัน
ลมหนาวคิดว่าทำไมตัวเอง ถึงได้ชอบรุ่นพี่คนนี้ได้มากมายขนาดนี้ เขาทำอะไรให้ชอบมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ คิด ๆ ดูแล้ว ก็เปล่าเลย
พี่เขาแค่ แค่ทำให้หัวใจดวงนี้เต้นระรัวทุกครั้ง ที่ได้เจอหน้า
ก็แค่นั้น
มหาวิทยาลัย K
วันนี้ลมหนาวเลิกเรียนแล้ว เลยหาที่นั่งทำการบ้านที่อาจารย์สั่ง กลุ่มของลมหนาวได้สถานที่ประจำ นั่นก็คือข้างสนามฟุตบอล ที่นี่บรรยากาศดีร่มรื่น และคนไม่ค่อยเยอะ ลมหนาวและเพื่อน ๆ ก็เลยเลือกมานั่งที่นี่ประจำ นั่งทำการบ้านไปสักพักก็เริ่มง่วง ก็เลยพักสายตาแป๊บหนึ่ง
สักพักพอลมหนาวตื่น ก็นั่งแหย่เพื่อน ๆ เห็นทุกคนตั้งใจมากไม่อยากให้เครียด เมื่อแกล้งเพื่อนนิด ๆ หน่อย ๆ ลมหนาวก็เริ่มกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณที่ชายหนุ่มกับเพื่อน ๆ นั่งทำรายงานอยู่ ตาสวยมองเห็นร่างที่คุ้นตา นั่งหันข้างมาทางเขา
คนในใจของเขา นั่งถัดออกไปหนึ่งโต๊ะ จากที่เขานั่งอยู่
เวลาตั้งใจทำงานโคตรเท่เลย ลมหนาวมองพี่ซันนั่งทำรายงานอยู่นาน มองการขยับตัว มองเวลาพี่เขาพูดคุยกับเพื่อน ลมหนาวมองอยู่แบบนั้นจนไม่ได้ทำรายงานตัวเองเลย
“เฮ้ย หนาวมองอะไรโต๊ะนู้นวะ เห็นมองตั้งนานละ” ตังเพื่อนสนิทของลมหนาวถามด้วยความสงสัย
“ก็มองไปเรื่อย ๆ แหละไม่มีอะไร” ลมหนาวเฉไฉทันที เพราะกลัวเพื่อนจับได้
“จริงเปล่า แอบเหล่ใครในโต๊ะนั้นหรือเปล่า แต่สาว ๆ โต๊ะนั้นก็น่ารักดีนะ” ตังพูดแซวเพื่อน และยืดคอมองคนที่นั่งอยู่โต๊ะนั้น ลมหนาวได้แต่ส่ายหัว
“เราก็มองไปทั่วแหละ สงสัยจัง” ลมหนาวพูดเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อน
คนกลัวจับได้ก้มหน้าทำรายงานแป๊บหนึ่ง รู้สึกปวดตาก็เลยเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ ที่แผ่ขยายปกคลุมให้ความร่มรื่นไปทั่วบริเวณนี้ ลมหนาวล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า แล้วหยิบกล้องโพลารอยด์ออกมา ยกกล้องขึ้นถ่ายภาพที่เห็นตรงหน้าทันที
“ถ่ายรูปอะไรวะ ดูมั่งดิ” ตังเห็นเพื่อนถ่ายรูป ก็เลยขอดู
“รูปทั่ว ๆ ไปแหละ ไม่มีอะไรหรอก” ลมหนาวบอกปัด
“ถ่ายรูปเรามั่งดิ” เพื่อนเริ่มงอแง
“เดี๋ยวตอนไหนมีอารมณ์จะถ่ายให้ รอหน่อยละกัน”
“ไรวะ ต้องรอมีอารมณ์ด้วย” ตังเบ้ปากงอนเพื่อน
ผมเป็นพวกที่ ถ้าไม่มีอารมณ์ หรือแรงบันดาลใจแล้ว จะไม่ค่อยอยากถ่ายรูปเท่าไหร่ เพราะมันทำให้ผมไม่มีความกระตือรือร้นที่จะถ่าย แล้วรูปที่ถ่ายออกมามันไม่ดี ผมจะต้องมีความรู้สึกร่วมกับมันด้วย นั่นจะทำให้ผมมีความสุขในการถ่ายรูป คุณภาพของงานก็จะออกมาดีนั่นเอง อันนี้คือความรู้สึกนึกคิดของผมนะครับ ถึงแม้ว่าหลาย ๆ ครั้ง ผมจะแหกกฎที่ตัวเองตั้งมาก็ตาม
***************
อดีต พฤษภาคม ลมหนาวอยู่ ปี 1ผมส่งของไปให้พี่ซัน โดยใช้ชื่อวิน วินที่แปลว่าลม ตลอดระยะเวลาเกือบเจ็ดเดือน ที่ผมไม่เคยไปแสดงตัวต่อหน้าพี่ซันเลย จนวันหนึ่งร้านส่งรักโทรมาบอกว่า พี่ซันต้องการนัดเจอกับผม ผมตอบตกลงไปในทันที เพราะคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้ว ที่ผมต้องกล้าที่จะเจอกับพี่ซันวันที่พี่ซันนัดเจอผม เป็นวันหลังจากสอบเสร็จ ก่อนปิดเทอมที่ผมจะเลื่อนไปชั้นปีที่ 2 ส่วนพี่ซันก็จะเลื่อนไปชั้นปีที่ 3วันนี้ผมตั้งใจแต่งตัวพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะผมกำลังจะออกไปเจอพี่ซันตามนัด จึงอยากทำให้พี่ซันประทับใจ ผมยืนมองตัวเองในกระจก หมุนซ้ายหมุนขวาดูความเรียบร้อยของตัวเอง ตอนนี้ยอมรับเลยว่าผมโคตรตื่นเต้นเลย ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ หวังว่าตอนเจอหน้าพี่ซันผมจะไม่ทำอะไรแปลก ๆ ออกไปผมเดินทางออกจากคอนโด ตอนเก้าโมงกว่า ๆ เพราะร้านที่นัดอยู่ไม่ไกลจากคอนโดที่ผมพักอยู่เท่าไหร่ ผมจึงเลือกเดินไปแทนนั่งรถ เพราะคิดว่ามันสะดวกกว่าผมเดินมาใกล้กับร้านกาแฟที่พี่ซันนัดเจอ เห็นร้านอยู่ตรงหน้าแล้ว แค่ผมข้ามถนนเส้นนี้ไปก็ถึงแล้ว‘พี่ซันครับ รอผมก่อนนะ วันนี้ผมจะสารภาพกับพี่ทุกอย่างเลย’‘ผมจะเลิกแอบชอบพี่แล้ว แต่จะชอบอย่า
“มันดึกแล้ว ไม่เสียเวลาหรอก” ตังยังคงยืนยันที่จะไปส่งเพื่อน“เราจะแวะหน้ามอหาอะไรกินด้วย งั้นส่งเราลงตรงนั้นก็ได้”“อือ ปะไปกัน” ตังเดินนำลมหนาว และสองสาวเตยกับมินต์ ไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล จากจุดที่นั่งทำรายงานเมื่อตังจอดรถ ให้ลมหนาวลงที่หน้ามหาวิทยาลัย ลมหนาวก็เดินดูของกินไปเรื่อย ๆ เพราะตั้งแต่เย็นกินแค่นมไปกล่องเดียวเท่านั้นหน้ามหาวิทยาลัยตอนนี้ คนเยอะพอสมควร เพราะมีนักศึกษาที่เพิ่งออกจากมหาวิทยาลัยมา คงทำรายงานดึกไม่ต่างจากเขา แล้วก็ยังมีกลุ่มวัยรุ่นแถว ๆ นี้ ที่พากันออกมาหาอะไรกินตอนดึกลมหนาวเดินซื้อของกินสองสามอย่าง เพื่อนำกลับไปกินที่ห้อง แล้วก็ซื้อน้ำแดงโซดากินด้วย เพื่อเพิ่มความสดชื่น เพราะคิดว่ากลับไปก็ต้องนั่งทำรายงานวิชาอื่นอีก คงได้นอนดึกอีกแน่ลมหนาวกำลังเดินออกจากร้านน้ำที่เพิ่งซื้อ คนค่อนข้างต่อคิวยาวจึงมีการเบียดเสียดกัน ลมหนาวเดินออกมาผ่านร้านขนมโตเกียวที่คนเยอะ จึงขอทางแทรกผ่านไป อยู่ ๆ ก็มีคนมาชนเข้าที่ด้านหลังของเขา ทำให้เกิดการเสียหลัก ตัวเขาก็พุ่งไปชนคนที่เดินอยู่ด้านหน้าอย่างจัง แก้วน้ำแดงโซดาที่เพิ่งซื้อมา ดูดไปแค่สองครั้ง ตอนนี้น้ำก็หก
อดีต พฤศจิกายน ซันอยู่ปี 2วันนี้เป็นอีกหนึ่งวัน ที่ยังคงวนอยู่ซ้ำ ๆ เดิม ๆ น่าเบื่อ แต่ผมก็ยังเลือกที่จะทำแบบนี้อยู่เรื่อย เรียน กลับคอนโด เที่ยว แต่ก็ยังเหมือนเดิม ชีวิตเหมือนขาดอะไรสักอย่าง หลายปีแล้วแต่ผมก็ยังตามหาไม่เจอ ผมคิดว่าถ้ามีแฟนความรู้สึกนี้อาจจะหายไป แต่เปล่าเลย มันยังคงอยู่ และมันทำให้ผมเลิกรากับแฟนหลายต่อหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วผมก็เป็นคนบอกเลิกกับเขา และเดินจากมา จนมีข่าวลือว่า ซันบริหารเป็นพวกเบื่อง่าย คบใครนาน ๆ ไม่เป็น จนตอนนี้ผมเลือกที่จะอยู่คนเดียว และคิดว่าสักวันหนึ่ง ผมอาจจะเจอสิ่งที่กำลังตามหา“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามีคนชื่อ ซัน ทิวากร บริหารปี 2 ไหมครับ พอดีมีของมาส่งครับ” พนักงานส่งของเรียกชื่อ คนที่มีชื่อตามใบส่งของ“ผมเองครับ” ซันเงยหน้าขึ้นจากชีทเรียน เมื่อมีคนเรียกชื่อตัวเองพนักงานส่งของ ยื่นถุงกระดาษใบหนึ่งให้ และให้ซันเซ็นรับของ แล้วก็จากไป ชายหนุ่มมองถุงกระดาษที่มีคนส่งมาให้อย่างแปลกใจ“ใครส่งอะไรมาให้น่ะ สาว ๆ อีกหรือเปล่ามึง เนื้อหอมจังวะ” เมฆเพื่อนสนิทของซันเอ่ยขึ้น และพยายามชะเง้อคอมองของในถุงกระดาษ อย่างอ
ร้าน Sky Barอดีต ธันวาคม ซันอยู่ ปี 2ซันมาถึงร้านที่นัดกับเพื่อน ๆ ไว้ ก็เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว ชายหนุ่มเดินเข้าไปข้างในร้าน บรรยากาศยังคงสนุกสนานครึกครื้นเหมือนเดิม ขายาวเดินมาที่โต๊ะประจำที่เพื่อน ๆ ชอบนั่งกัน“โห มาแล้วเหรอไอ้หล่อ เหล้าหมดไปจะสองกลมละ มาเลยนั่ง ๆ”ซีซี เพื่อนจากคณะวิศวะ เขารู้จักกับมันตั้งแต่ตอนมัธยมปลาย จึงค่อนข้างสนิทกัน“โทษทีว่ะ กูทำรายงานเพลินไปหน่อย แต่กูก็มาแล้วนี่ไง”“เออ ๆ มาชนแก้วหน่อย เอ้าทุกคนชนแก้ว” เมฆยกแก้วเหล้าขึ้นชู และชวนทุกคนที่โต๊ะชนแก้ว“ไอ้เฟิสต์ ไปไหนวะ กูดื่มหลายแก้วละ ไม่ยักเห็นมัน” ซันถามหาเพื่อนที่เพิ่งเลิกกับแฟน“มันไปจีบสาวโต๊ะนู้นนานแล้ว สงสัยจะได้แฟนใหม่ก็วันนี้แหละ ไปตั้งนานไม่กลับโต๊ะ” ซีซีหันมาบอกกับซัน แต่สายตาก็ยังคงเหล่สาวโต๊ะนั้นที โต๊ะนี้ที“เออกูจะได้ไม่ต้องห่วงมัน เห็นมันทำใจได้กูก็สบายใจแล้ว” ชายหนุ่มพูดถึงสิ่งที่กังวล และขอตัวไปเข้าห้องน้ำระหว่างที่เดินไปห้องน้ำ ชายหนุ่มชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง“เอ่อ ขอโทษครับ เป็นอะไรมากไหมครับ” ซันถามคนตรงหน้าที่เดินมาชนทำไมหน้าคุ้น ๆ วะซันมองคนตรงหน้า และพยายามนึ
“เฮ้ย ไอ้ซัน วันนี้ไปถนนคนเดินกันป้ะ หาอะไรกินด้วย” เมฆเอ่ยชวนซันหลังจากเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จแล้ว“ไอ้เมฆ มึงนี่หาเรื่องไปเลาะได้ตลอด ไม่กลับห้องไปอ่านหนังสือหรือไง” ซันบ่นอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่ เพราะรู้ว่าเพื่อนนั้นถึงแม้จะไปเที่ยวบ่อยแค่ไหน มันก็ยังคงไม่ทิ้งการเรียน“กูเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ อะ ไปเดินเที่ยวแป๊บเดียว ผ่อนคลายสมองมั่ง มึงไปกับกูนะ คนอื่นแม่งไม่ไป กูไม่มีเพื่อน นะ นะ นะ”“เออ ๆ กูไปกับมึงก็ได้ ไม่ต้องอ้อนขนาดนั้น กูขนลุก” ซันว่าอย่างตลก เพราะส่วนมากจะเห็นแต่เมฆอ้อนสาว ๆ ที่ตามจีบ ตอนนี้มันหันมาอ้อนเขาแบบนี้ รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเลยถนนคนเดินเมื่อมาถึงถนนคนเดิน ซันกับเมฆก็เดินดูของกันไปเรื่อย ๆ แวะซื้ออะไรกินบ้างตามทาง ถนนคนเดินที่นี่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่ซันเรียนอยู่ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะมีนักศึกษามาเดินที่นี่กันเสียส่วนใหญ่บางทีเดิน ๆ ไปก็เจอคนรู้จัก อย่างเช่นวันนี้ซันก็เจอคนรู้จัก แต่เพราะไม่ได้คุยกันนานแล้ว ซันก็เลยไม่กล้าเข้าไปทัก เพราะไม่ได้สนิทกันมาก ได้แต่เดินสวนกันไป แต่ถ้าคนคนนั้นทักซันขึ้นมา ซันก็จะหยุดคุยด้วยทันที แต่พอเดินผ่านมาแล้ว คนคนน
ถึงคุณดวงอาทิตย์ผมรู้ว่าคุณเศร้าแต่ผมอยากให้คุณเข้มแข็งไว้ไม่ว่าเจออะไรอยากให้คุณทอแสงเป็นพระอาทิตย์อันอบอุ่นในวันอันแสนหนาววินเมื่อซันได้อ่านข้อความที่วินเขียนให้ เขาก็เกิดความอบอุ่นขึ้นภายในใจที่แสนบอบช้ำนี้ ชายหนุ่มขอบคุณวิน คนที่ไม่เคยเจอคนนี้ ที่คอยห่วงใยกันเสมอมาหลังจากนั้นวินก็ส่งคำให้กำลังใจผ่านรูปถ่ายต่าง ๆ มาให้ ทำให้ซันรู้สึกดีกับวินมาก ๆ มันคงถึงเวลาแล้วที่ชายหนุ่มจะนัดเจอกับวิน บุคคลปริศนาคนนี้ซันติดต่อไปที่ร้านส่งรัก เพื่อที่จะนัดเจอกับวิน ทางร้านรับเรื่องไว้แล้วจะแจ้งกลับมาที่ซันอีกรอบเมื่อร้านแจ้งว่าได้รับการตอบตกลงจากวิน ซันดีใจมาก จึงแจ้งวันที่จะนัดเจอพร้อมสถานที่ และเบอร์โทรไว้เพื่อให้ร้านแจ้งกับวินอดีต พฤษภาคม ซันอยู่ปี 2ซันนัดเจอกับวินที่กาแฟร้านหนึ่งใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย นัดเจอกันตอนสิบโมงตรง ซันรู้สึกตื่นเต้นนิด ๆ ที่จะได้เจอวิน คนที่ส่งของและรูปถ่ายสวย ๆ ให้เขาตลอดเจ็ดเดือนที่ผ่านมา เวลาเขาเศร้า ไม่สบายใจ ก็มีวินที่คอยส่งกำลังใจให้เขาเสมอ จนเขาตัดสินใจนัดวินออกมาเจอ เขาอยากเจอคนคนนี้ อยากขอบคุณในหลาย ๆ เรื่องสายตาของซันคอยมองเว
“ผมยังไม่มีแฟนครับ แต่...” ลมหนาวเว้นไว้ ไม่กล้าพูดต่อ เพราะสถานะตัวเขากับพี่วาริชในตอนนี้นั้น แทบจะเรียกว่าแฟนก็ยังได้เลย“แต่ มีคนคุยแล้วใช่ไหม” ซันต่อคำพูดของรุ่นน้องให้จบ“ครับ ผมมีคนคุยแล้ว” ลมหนาวพยักหน้ายอมรับ แล้วก้มหน้าลงไม่กล้าสู้หน้ารุ่นพี่ เพราะในใจกำลังรู้สึกผิดอยู่เต็มประดา“ตอนนั้นเราจำพี่ยังไม่ได้ใช่ไหม” ซันเมื่อได้ฟังสิ่งที่รุ่นน้องอธิบาย ความไม่เข้าใจในหลาย ๆ เรื่องก็กระจ่างทันที เขาไม่อาจโทษอีกฝ่ายแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ได้“เอ่อ ครับ ใช่ครับ” ลมหนาวตอบรับ“แล้วตอนนี้จำพี่ได้แล้ว ยังรู้สึกกับพี่แบบเดิมไหม” ซันเดินเข้าไปใกล้กับคนตัวเล็กกว่า ที่ไม่ยอมเงยหน้ามามองเขาเลยลมหนาวเงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามาใกล้ตัวเอง ตาสวยยังคงเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา คำถามที่คนตัวสูงถามมานั้น เขาก็มีคำตอบในใจแล้วเหมือนกันไม่อาจโกหกตัวเองได้“ผม...ยังชอบพี่เหมือนเดิมครับ” ลมหนาวตอบกลับไปด้วยเสียงเบาหวิว แต่ภายในห้องเงียบ ผู้ฟังจึงได้ยินอย่างชัดเจน“ชอบเหมือนเดิม แต่เป็นเหมือนเดิมไม่ได้ใช่ไหม” ซันเอ่ยถามออกไป ลึก ๆ เขาอยากให้รุ่นน้องตอบกลับว่ายังเหมือนเดิม แต่เขารู้ว่าเรื่องนี้ไ
“วันนี้พี่เหนื่อยแล้ว ไว้เราค่อยนัดฉลองที่ได้รางวัลถ่ายรูปกันนะ” วาริชเปลี่ยนเรื่องที่กำลังคุยอยู่ทันที แล้วลุกเดินออกจากร้านไปลมหนาววิ่งตามมาที่ด้านหลัง“พี่วา อย่าทำแบบนี้เลย” ลมหนาวรู้ว่าชายหนุ่มกำลังไม่ยอมรับเรื่องที่เขากำลังจะบอก เลยเดินออกมาจากร้านดื้อ ๆ แบบนี้วาริชได้ยินทุกอย่าง แต่เขาไม่อยากรับรู้อะไรในตอนนี้เลย ชายหนุ่มหันไปมองคนน้องแล้วยิ้มให้ เหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องอะไรทำให้ไม่สบายใจ“พี่กลับก่อนนะ หนาวกลับเองได้ใช่ไหม แล้วเราค่อยเจอกัน” วาริชเดินไปขึ้นรถยนต์ที่จอดไว้ แล้วสตาร์ตเครื่องขับออกไปทันทีลมหนาวได้แต่มองตาม เขาคงต้องให้เวลาชายหนุ่มหน่อยร้าน Blue Barวันนี้ลมหนาวตอบตกลงมากับตัง ที่ร้านเหล้าเปิดใหม่ แถวย่านท่องเที่ยวของคนชอบท่องราตรี อาจเพราะมีเรื่องให้คิดมากมาย และลมหนาวเองก็อยากผ่อนคลาย อยากลืมเรื่องที่กำลังคิดอยู่เพียงชั่วคราว จึงมาสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนเก่า“มา ๆ นั่งนิ่งไม่ยกเลย นาน ๆ เจอกันที มานั่งทำหน้าเครียด ยกเลยยก” ป้อง เพื่อนจากมัธยมปลาย ที่ตอนนี้เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย A ยกแก้วแล้วชนกับลมหนาว เพื่อเป็นสัญญาณให้ลม
โรงเรียนมัธยมศึกษา WTNวันนี้ลมหนาวต้องรีบตื่นแต่เช้า เพื่อไปเข้าเรียน ที่โรงเรียนมัธยมปลายเป็นวันแรก เด็กหนุ่มต้องนั่งรถเมล์ไปลงที่หน้าโรงเรียน ระยะทางจากบ้านถึงโรงเรียน ก็ห่างกันหลายกิโลเมตรเลย มีโรงเรียนที่ใกล้บ้านกว่านี้ แต่ลมหนาวก็ไม่ได้เลือกเรียน เพราะตั้งใจจะมาเข้าเรียนที่นี่ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะเป็นโรงเรียนที่ใหญ่ และมีชื่อเสียงมากในแถบนี้ การเรียนการสอนก็ดี กว่าเขาจะสอบติดที่นี่ก็ลุ้นจนตัวโก่งวันแรกที่เข้าเรียนเขาก็ได้เจอกับตัง เพราะตังหาห้องเรียนไม่เจอ จึงได้เดินมาถามลมหนาว ที่อยู่แถว ๆ นั้นพอดี นั่นจึงทำให้ทั้งสองรู้ว่าพวกเขาเรียนห้องเดียวกัน จึงพากันเดินสอบถาม จนเจอห้องที่จะเข้าเรียน ทำให้พวกเขาทั้งสอง นั่งเรียนด้วยกัน และกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุดเพื่อนในกลุ่มของลมหนาวและตัง มีอีก 5 คน คือป้อง หนุ่มแว่นเนิร์ด ๆ ที่แต่งตัวเนี้ยบภู หนุ่มขี้เล่น กวนตีนคนอื่นไปทั่วก้อง สายฮา สายปาร์ตี้ฮลัน หนุ่มหล่อโคตร ๆ เดินไปไหนสาว ๆ มองตามเป็นแถวบาส หนุ่มหล่อ หน้านิ่ง นักกีฬาโรงเรียนพวกเขาทั้ง 7 คนเริ่มสนิทกันมากขึ้น เมื่อขึ้นเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี
หลังจากที่ลมหนาวออกมาจากวัด ก็ตรงมาขึ้นรถที่โฮมสเตย์จอดรอรับอยู่ หลังจากที่ได้พูดคุยกับหลวงพ่อ ทำให้ลมหนาวคิดอะไรได้หลาย ๆ อย่างเลย เขาไม่ควรจมอยู่แต่กับความผิดพลาด หรือความรู้สึกผิดในอดีต ชีวิตต้องเดินต่อไปข้างหน้าลมหนาวกลับมาถึงที่โฮมสเตย์ในตอนเกือบเที่ยง ชายหนุ่มมองไปที่โฮมสเตย์หลังข้าง ๆ แขกที่มาพักอยู่เมื่อวานน่าจะเช็กเอาต์ออกไปแล้ว เพราะเห็นแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด ลมหนาวมองเพียงเท่านั้นก็ไม่ได้สนใจอีกชายหนุ่มกดเข้าไปเช็กโซเชียลที่แอปไอเจ เห็นเพื่อน ๆ หลายคนถ่ายรูปอวดที่เที่ยวต่าง ๆ เขากดเข้าไปดูไอเจของพี่ซัน แต่ก็ยังคงไม่มีอะไรอัปเดต เข้าไปเช็กที่แอปวีโฟร์ ก็ไม่มีอะไรอัปเดตเหมือนกัน‘ทักไปหาจะดีไหมนะ’ ลมหนาวคิดกับตัวเอง แล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง“แต่เราบอกพี่ซันว่าจำพี่เขาไม่ได้หนิ จะอธิบายยังไงดีล่ะ” ลมหนาวรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที“เลิกคิด ๆ เรามาเที่ยวนะ ต้องมีความสุขสิ ไม่ใช่มานั่งเครียด ไปหาอะไรกินดีกว่า”ลมหนาวพูดบอกตัวเอง แล้วก็ออกไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารของโฮมสเตย์ และกะว่าจะไปเดินเที่ยวในหมู่บ้านใกล้ ๆ ด้วยเพราะพนักงานที่โฮมสเตย์บ
ตังทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนจมปลัก อยู่กับความรู้สึกผิดนี้ จึงต้องพูดให้ได้สติเมื่อลมหนาวได้ฟังก็น้ำตาไหล นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้น ไม่ได้พูดอะไรตังเมื่อเห็นเพื่อนร้องไห้ ก็รีบเข้ามากอดปลอบ “หนาวกูขอโทษ ต่อไปกูจะไม่พูดแบบนี้แล้ว มึงอย่าร้องเลย กูขอโทษนะ”ลมหนาวส่ายหน้า “ไม่ ไม่ใช่ความผิดตังหรอก” ดวงตาเศร้าหันไปสบตากับเพื่อน “เราแค่ยังให้อภัยตัวเองตอนนี้ไม่ได้เท่านั้น ขอเวลาเราหน่อย”“อือ อือ กูฟังมึง ไม่ร้องนะ เช็ดซะ” ตังยื่นทิชชูให้เพื่อนเช็ดหน้า“ปะ เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าวมึงเอง อยากกินอะไรบอก เต็มที่เลยเพื่อน” ตังชวนเพื่อนไปกินข้าว ถือเป็นการไถ่โทษที่ทำให้เพื่อนร้องไห้ด้วยใกล้ถึงวันสิ้นปีแล้ว มหาวิทยาลัยก็หยุดหลายวัน เพื่อน ๆ แต่ละคนต่างก็วางแผนจะไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ“ซัน ปีใหม่ไปเที่ยวทะเลทางใต้ด้วยกันไหม เพื่อนไปกันหลายคนเลย” เมฆถามเพื่อน“โทษทีว่ะ กูคงไม่ได้ไปด้วย” ซันบอกเพื่อนออกไป“มึงจะไปตามน้องลมหนาวเหรอวะ” เมฆที่รู้เรื่องราวก็ทำให้พลอยเครียดกับเพื่อนไปด้วย เพราะกว่าซันจะเจอคนที่ถูกใจจริง ๆ ก็มีแต่อุปสรรคเหลือเกิน“อือ กูให้คนสืบอยู
ซันหลังจากที่รู้ว่าลมหนาวเข้าโรงพยาบาล ก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที แต่เมื่อมาถึงแล้วกลับพบว่า คนที่เขาจะมาเยี่ยม ได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วซันยกโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรหาหมายเลขคนที่ตนกำลังเป็นห่วงอยู่ทันที แต่โทรเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถติดต่อปลายทางได้ ยิ่งทำให้ซันยิ่งเป็นห่วงลมหนาวมากขึ้น“ปิดเครื่องเหรอ ทำไมโทรไม่ติด” ซันตัดสินใจขับรถไปที่คอนโดของลมหนาวทันทีคอนโด SSKก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีวี่แววใครมาเปิดประตู จนคนตัวสูงต้องกลับไปที่คอนโดตัวเองก่อน“พรุ่งนี้ค่อยเจอที่มอก็ได้” ซันกลับไปด้วยความผิดหวังทันที ทำไมเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เขาจึงไม่ใช่คนแรก ๆ ที่ลมหนาวจะติดต่อหานะมหาวิทยาลัย Kวันนี้ซันตั้งใจมารอลมหนาวที่หน้าคณะ หลังจากวันนั้นที่ลมหนาวเข้าโรงพยาบาล นี่ก็ผ่านมา 3 วันแล้ว ที่เขามาดักรอลมหนาว แต่ก็ไม่มีวี่แววของคนที่เขาคอยเลย โทรไปก็ติดต่อไม่ได้ ไปหาที่คอนโดก็ไม่อยู่ ถามจากเพื่อนสนิทของลมหนาวก็ไม่ยอมบอกอะไรมันเกิดอะไรขึ้นกันนะ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ในขณะที่ซันกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็ปรากฏร่างของใครคนหนึ่ง คนที่ซันกำลังคิดถึง และเป็นห่ว
“หมอเสียใจด้วยครับ” หมอที่ผ่านการรักษามาหลายครั้ง เมื่อเจอกรณีแบบนี้ ก็อดที่จะเศร้าและเสียใจตามไม่ได้ แต่หมอก็รักษาจนสุดความสามารถแล้ว หวังเพียงให้คนที่อยู่ข้างหลังทำใจให้ได้“ไม่จริง ไม่จริง ฮือ ฮือ ไม่จริง พี่วายังไม่ตาย เขายังอยู่ ม่ายยยย” ลมหนาวร้องไห้จนเป็นลมไป หมอก็เข้ามาช่วยปฐมพยาบาล แล้วพาลมหนาวกลับห้องพักในห้วงฝันของลมหนาว วาริชเดินเข้ามาหาลมหนาว ที่กำลังกดชัตเตอร์ถ่ายรูปอยู่ริมทะเล“ถ่ายแต่รูปวิว ไม่ถ่ายรูปพี่บ้างเลย” วาริชเอ่ยบอกอย่างแง่งอน“หือ อย่างอนสิครับ ผมก็แค่ถ่ายไปเรื่อย เก็บไว้เป็นความทรงจำ ว่าได้มาเที่ยวทะเลที่สวย ๆ แบบนี้” ลมหนาวหันหน้ามาตอบด้วยรอยยิ้ม“ส่วนพี่น่ะ มานี่เลย ผมจะถ่ายให้เมมเต็มเลย” ลมหนาวจับมือพาวาริช ไปยืนในจุดที่เหมาะจะถ่ายรูปเมื่อทั้งสองถ่ายรูปเสร็จ ก็พากันมานั่งอยู่ริมทะเล มองดูคลื่นน้ำที่สาดซัดเข้าฝั่งไม่มีจบสิ้น“มีความสุขไหมครับ” วาริชหันหน้าถามคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ“มีสิครับ ที่นี่สวยมาก ขอบคุณที่พามานะครับ” ลมหนาวหันไปฉีกยิ้มจนตาปิดให้กับวาริชวาริชยิ้มน้อย ๆ “พี่หมายถึงอยู่กับพี่ แล้วมีความสุขไหม”ลมหนาวอึ้งไปแป๊บหนึ่
แสงแดดในตอนเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง บ่งบอกว่าถึงเวลาของเช้าวันใหม่แล้ว ลมหนาวลืมตาตื่น แล้วมองหาคนที่อยู่ด้วยกันเมื่อคืนนี้‘พี่ซันไปไหนนะ’ร่างบนเตียงลุกไปเข้าห้องน้ำ เมื่อทำธุระเสร็จแล้ว ก็เดินออกไปนอกห้อง ลมหนาวได้ยินเสียงดังจากในครัว เมื่อเดินเข้าไปดูก็เจอเข้ากับคนที่ตามหา“ทำอะไรแต่เช้าครับ” ลมหนาวเดินเข้าไป เอาคางเกยที่ไหล่ของคนตัวสูงอย่างออดอ้อนซันหันมามองคนที่เพิ่งตื่น แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน“ก็ตื่นมาทำอาหารให้คุณแฟนไงครับ หิวรึยัง ฮึ”“หิวนิดหน่อยครับ มีอะไรให้หนาวช่วยไหมครับ” ลมหนาวเสนอตัวช่วยทันที“งั้นหนาวล้างจานก็ได้ พี่ทำข้าวต้มเกือบเสร็จแล้ว เหลือแค่ปรุงรสนิดหน่อย”“ได้ครับ”เมื่อข้าวต้มเสร็จแล้ว ทั้งสองก็มานั่งกินมื้อเช้าที่โต๊ะอาหาร“อร่อยไหม” ซันถามลมหนาว ที่ก้มหน้าก้มตากินไม่พูดเลย“อร่อยครับ” ลมหนาวเงยหน้ามาบอก แล้วก็ก้มหน้ากินข้าวต้มต่อซันยิ้มให้ลมหนาว แล้วก็ลงมือทานข้าวต้มในชามของตัวเองมหาวิทยาลัย Kครืด ๆ ครืด ๆ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น ลมหนาวเลยหยิบออกมาดูว่าใครโทรมาพี่วา ลมหนาวชั่งใจอยู่แป๊บหนึ่ง ก่อนที่จะกดรับโทรศัพท์“ฮัลโห
“อย่าบอกนะว่า คนนี้อะ” เมฆพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น ก็จะไม่ให้เจ้าตัวตื่นเต้นได้ยังไง อยู่ ๆ ก็หายไป พอหาเจอก็เปิดตัวเลย“อือ คนนี้แหละ กูหาเขาเจอแล้ว” ซันพยักหน้าให้เมฆ“เหลือเชื่อ” เมฆยังอุทานไม่หาย“มีสตอรีนี่หว่า ไอ้เมฆมึงเล่ามา” กล้า คาดคั้นให้เมฆเล่าให้ฟัง“ก็ตามนั้นแหละที่ซันมันเล่า กูก็รู้แค่นี้” เมฆบอกกล้าไป หากเขาเล่าให้คนอื่นฟัง มีหวังซันได้มาบีบคอตนแน่ สู้บอกไม่รู้ดีกว่า ให้ไปถามเจ้าตัวเอง“เออ พวกมึงปิดเทอมนี้ไปเที่ยวไหนกันบ้างวะ” ซันชวนเพื่อนเปลี่ยนเรื่องคุย“กูคงไปกับที่บ้านแหละ เขาพาไปไหน ก็ไปกับเขาอะ” เฟิสต์บอกซัน“ส่วนกูก็คงไปเที่ยวทะเลมั้ง อยากไปดูสาว ๆ สวย ๆ เที่ยวทะเล” พีชบอกซันแล้วทั้งกลุ่มก็คุยกันเรื่องไปเที่ยวช่วงปิดเทอมกัน ลมหนาวก็โดนดึงเข้าไปในบทสนทนาด้วย ทำให้เจ้าตัวดูเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ไม่อึดอัดยิ่งดึกบรรยากาศในร้านก็ดูสนุกสนาน เพื่อน ๆ ของซันลุกไปเต้นบ้าง ไปจีบสาวบ้าง เพราะต่างคนต่างก็เริ่มเมาแล้ว รวมถึงลมหนาวด้วย ทั้งที่คิดว่าตัวเองดื่มไปไม่มาก แต่อาการก็เริ่มออกแล้ว คออ่อนจริง ๆ“เมาแล้วเหรอ กลับเลยไหม” ซันถามคนในอ้อมแขนตัวเอง“ผมไม่เ
ร่างสูงเดินไปตามทางเดินที่ปูด้วยอิฐมอญอย่างช้า ๆ จนมาหยุดอยู่ที่ป้ายหลุมศพ ของใครคนหนึ่ง ที่ได้จากไปก่อนเวลาอันควรมือแกร่งวางช่อดอกกุหลาบสีขาวอมชมพู ลงที่ป้ายหน้าหลุมศพนั้นอย่างเบามือ ใบหน้าหล่อจ้องมองรูปบนป้ายหลุมศพอยู่สักพักยิ่งมองยิ่งนึกถึง“ตอนนี้นายกำลังสมน้ำหน้าฉันอยู่หรือเปล่า ดิน” เจ้าของร่างสูงยิ้มเยาะให้ตัวเอง“ตอนนี้ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับนายในตอนนั้นเลย นายสะใจหรือเปล่า ที่เห็นฉันเป็นแบบนี้ หัวเราะเยาะฉันอยู่ใช่ไหม” วาริชพูดกับคนในรูป ทำเหมือนว่าเขาอาจกำลังรับฟังเรื่องที่ตนกำลังพูดอยู่ แต่ก็ไร้เสียงตอบรับใด ๆ จากสิ่งมีชีวิต ทุกอย่างเงียบกริบ แต่เจ้าของร่างสูงก็ยังคงพูดต่อไปเรื่อย ๆ ว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา เขาผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง ให้คนที่นอนหลับใหลอยู่ในหลุมศพฟัง“นายรู้ไหม ฉันเจอใครคนหนึ่งที่ทำให้ฉันใจเต้นแรงมาก ๆ เลยล่ะ ฉันขอจีบเขา เราสองคนกำลังจะเป็นแฟนกันอยู่แล้ว แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นซะก่อน ตอนนี้เขาไม่เลือกฉันแล้ว นายดีใจใช่ไหม ที่ฉันได้เจอความรู้สึกแบบนี้ แบบที่นายเจอ”วาริชเดินไปนั่งลงที่ป้ายหลุมศพ ใช้มือเกลี่ยใบหน้าของคนในรูปอย่างเบามือ“ฉันเข้าใจความร
‘แล้วพี่ล่ะ หนาวเอาพี่ไปไว้ไหน รู้หรือเปล่าว่าพี่จะรู้สึกยังไง’คำพูดที่เจ็บปวดของรุ่นพี่ ยังคงก้องอยู่ในความคิดของลมหนาว เขาทำร้ายคนที่ดีอย่างพี่วาริชไปแล้ว เขามันช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกินหลังจากวันนั้นอีกหลายวัน ลมหนาวก็ติดต่อหาวาริชไม่ได้เลย เหมือนเจ้าตัวปิดเครื่องมือสื่อสารไปเสียอย่างนั้น“หนาว วันนี้ไปเดินเล่นถนนคนเดินกันไหม” ซันชวนคนน้องที่เขาเพิ่งรับมาจากมหาวิทยาลัย“ได้ครับ” ลมหนาวพยักหน้าตกลงถนนคนเดินทั้งสองเดินเที่ยว และซื้อของกินไปตลอดเส้นทางของตลาด เข้าซอยโน้นออกซอยนี้ เหมือนเป็นการสร้างความทรงจำต่าง ๆ เพิ่มให้กันมากขึ้น จนซันพาลมหนาวเดินมาที่โซนต้นไม้ ชายหนุ่มเดินเข้าไปดูต้นกระบองเพชรสายพันธุ์ต่าง ๆ ภายในร้านร้านหนึ่ง“โฮชิมีเพื่อนหรือยัง” ซันถามคนที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ ดูต้นไม้อยู่“โฮชิ อ๋อ มีแต่ต้นกุหลาบครับที่เป็นเพื่อน ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนได้หรือเปล่า”แรก ๆ ลมหนาวก็งงอยู่ ว่าโฮชิคือใคร แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่า คือเจ้าแคคตัสรูปดาว ที่ระเบียงคอนโดนั่นเอง“ซื้อไปเลี้ยงอีกไหม” ซันหยิบต้นนั้นต้นนี้ขึ้นมาดู“อย่าเลยครับ ผมปลูกต้นอะไร ไม่ค่อยรอดหรอ