หลินเซียงกลั้นขำไม่ไหวไปชั่วขณะ พอถ่ายวิดีโอเสร็จ เธอโทรแจ้งหมายเลขหนึ่งสองศูนย์ รถพยาบาลมาถึงอย่างรวดเร็ว บนรถพยาบาล เธอโทรไปตามหมายเลขโทรศัพท์ที่เขียนไว้บนกระดาษหลังจากได้ยินข่าวว่าคุณย่าลู่หายตัวไปและได้รับบาดเจ็บ คู่สนทนาก็พูดขึ้นทันทีว่า “รบกวนคุณแล้ว เราจะไปถึงที่นั่นในเร็วๆ นี้ ช่วยอยู่ดูแลคุณท่านให้ก่อนนะคะ”หลินเซียงรับปากพอวางสายจากเธอ คุณนายลู่ก็โทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล”เสียงเย็นชาของลู่สือเยี่ยนดังมาจากโทรศัพท์คุณนายลู่รีบพูด “สือเยี่ยน คุณย่าของเธอหายตัวไป ตอนนี้กำลังรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล เธออยู่ใกล้ รีบไปดูคุณย่าหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วฉันจะรีบตามไป”ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นครับ?”คุณนายลู่ตอบกลับ “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอรีบไปเถอะ”“ครับ ผมทราบแล้ว”ลู่สือเยี่ยนวางสาย ลุกขึ้นแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลในโรงพยาบาลขาของคุณย่าลู่ได้รับการตรวจวินิจฉัยแล้ว มีอาการกระดูกเคลื่อนเล็กน้อย ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสักระยะหนึ่งคุณย่าลู่จับมือหลินเซียงไว้แน่น ใบหน้าเหี่ยวย่นปรากฏความน้อยใจ “หลานสะใภ้ ฉันเจ็บจังเลย”หลินเซียงรู้สึกจนปัญญา “คุณย่า
เธอจะไปรู้ได้ยังไง!หลินเซียงกำลังจะอธิบาย แต่เมื่อเห็นความเย็นชาในดวงตาหงส์ของเขา เธอก็รู้สึกตัวทันทีว่า ไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร เขาก็ไม่เชื่ออยู่ดีเธอรู้สึกว่ามันไร้สาระแค่ความทรงจำกลับคืนมา คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้เลยเหรอ?หรือว่าลู่สือเยี่ยนที่เธอรู้จักก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขา“คุณทำฉันเจ็บ!”หลินเซียงรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ คิ้วขมวดแน่นลู่สือเยี่ยนปล่อยมือเธอแทบจะในทันทีตามสัญชาตญาณผิวของเธอขาวซีด แค่ออกแรงบีบเล็กน้อยก็ทิ้งรอยไว้ได้ ข้อมือของเธอจึงมีรอยนิ้วมือหลายรอย ที่จริงรอยนิ้วมือแบบเดียวกันนี้ เมื่อก่อนมักจะปรากฏบนเอวของเธอดวงตาของลู่สือเยี่ยนยิ่งมืดมนลงไปอีก“หลินเซียง ผมเห็นแก่ความสัมพันธ์หนึ่งปีที่ผ่านมาของเรา ถึงไม่เคยลงมือกับคุณ แต่อย่าบังคับให้ผมต้องทำ”“คุณจะทำอะไรมิทราบ?”หลินเซียงมองดวงตาที่วาววับของเขา “ฆ่าฉันเหรอ? ถ้ากล้าก็ทำเลยสิ!”เมื่อสบตากับดวงตาที่ปริ่มด้วยน้ำตา และความดื้อรั้นในแววตาของเธอ หัวใจของลู่สือเยี่ยนก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที!หน้าห้องผู้ป่วย บรรยากาศตึงเครียด!หลินเซียงยิ้ม “ลู่สือเยี่ยน ฉันไม่หย่ากับคุณแน่ ยิ่
ลู่สือเยี่ยนยังไม่ทันได้พูดอะไร คุณย่าลู่ก็ระเบิดเสียงขึ้นก่อน“หย่าเหรอ? ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด! หลานสะใภ้แสนดีขนาดนี้ ห้ามหย่านะ!”เธอคว้ามือลู่สือเยี่ยน ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยความน้อยใจ “หลานรัก ถ้าเธอหย่ากับหลานสะใภ้ ฉันจะร้องไห้ ฉันจะร้องไห้จริง ๆ นะ…”พูดจบ คุณย่าลู่ก็ร้องไห้จริง ๆ!เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทุกคนต่างตั้งตัวไม่ทันดวงตาของลู่สือเยี่ยนเต็มไปด้วยความตกใจ เมื่อเห็นคุณย่าลู่ร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็กลัวว่าเธอจะสะเทือนใจจนร่างกายแย่ลงจึงรีบพูดว่า “คุณย่า ไม่หย่าครับ ไม่หย่าแล้ว”เสียงร้องไห้ของคุณย่าลู่หยุดชะงักลงทันที “จริงหรือเปล่า?”ลู่สือเยี่ยน “จริงครับ”คุณย่าลู่พูดต่อ “ถ้าอย่างนั้น คืนนี้พาหลานสะใภ้กลับบ้านด้วยกันนะ แนะนำให้คนในตระกูลลู่รู้จักหลานสะใภ้!”ลู่สือเยี่ยนพูดไม่ออก “...”คุณย่าลู่ยังคงเกลี้ยกล่อม “ถ้าเธอไม่ตกลง ฉันจะร้องไห้ต่อหน้าเธอเดี๋ยวนี้แหละ!”อวิ๋นหลานยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ “ดูเหมือนคุณย่าจะชอบหลินเซียงมากเลยนะคะ สือเยี่ยน ฉันว่าเธอควรพิจารณาให้ดี ๆ การแต่งงานถือเป็นเรื่องใหญ่”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเข้าหากันเป็นเส
“ลงมา”เขาพูดสั้นๆอย่างเย็นชา พูดจบก็วางสายไปหลินเซียงยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ มองโทรศัพท์ที่หน้าจอดำสนิท แล้วขบฟันเขี้ยวเคี้ยวฟัน!น่ารังเกียจจริง ๆ!ไม่เห็นน่ารักเหมือนตอนที่ความจำเสื่อมเลยสักนิดเธอลงบันไดมา แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องลงมาบนร่างของเธอ แสงสีส้มอ่อน ๆ โอบล้อมเธอไว้ เส้นผมของเธอราวกับเปล่งประกายแสงในตัวเองได้แต่เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างรถไม่ใช่ลู่สือเยี่ยน รอยยิ้มบนริมฝีปากของหลินเซียงก็หายไป“ลู่สือเยี่ยนอยู่ไหน?”เธอเดินเข้าไปถามซ่งจั่วตอบกลับ “ประธานลู่มีธุระอื่น ให้ผมมารับคุณไปที่คฤหาสน์ตระกูลลู่แทนครับ”จู่ ๆ หัวใจของเธอก็จมดิ่งลงไปอย่างหนักหน่วงมีธุระอะไรที่สำคัญกว่าการพาเธอไปพบผู้ใหญ่อีก?เธอเม้มริมฝีปากแล้วก้าวขึ้นรถเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลู่สือเยี่ยน แต่เขากลับไม่รับสาย!ผู้ชายสารเลวเอ๊ย!หลินเซียงกำโทรศัพท์ไว้ มองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลาไม่นานนัก ทิวทัศน์โดยรอบก็เริ่มเผยให้เห็นความสวยงาม คฤหาสน์ตระกูลลู่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอวิ๋นเฉิง ล้อมรอบด้วยภูเขา อยู่ติดกับแม่น้ำ เป็นทำเลที่ตั้งที่ยอดเยี่ยมมากรถแล่นเข้าไปในประตูรั้วสีดำทอง แล้วจ
อวิ๋นหลานยิ้ม “หว่านหว่าน มาแล้วเหรอ? รถไม่ติดใช่ไหม?”เซี่ยหว่านสวมชุดเดรสสีขาว ผมยาวสีดำสลวยพาดลงมาที่ไหล่ อุปนิสัยดูเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังและอ่อนโยน “คุณป้า รถไม่ติดเลยค่ะ ต้องขอบคุณทักษะการขับรถของสือเยี่ยนที่ดีมาก ๆ ไม่ทันรู้ตัวก็มาถึงแล้ว”ลู่เจิ้งหรงพูดขึ้น “มาถึงแล้วก็เตรียมล้างมือ จะได้ทานข้าวกัน”ท่าทีของเขาช่างอ่อนโยนไม่เหมือนกับที่ปฏิบัติต่อหลินเซียงอย่างเย็นชาใบหน้าของคนรับใช้ทุกคนต่างก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มมากกว่าก่อนหน้านี้ “คุณหนูเซี่ยคะ พอรู้ว่าคุณจะมาวันนี้ พ่อครัวเลยทำอาหารที่คุณชอบไว้เยอะเลยค่ะ”บรรยากาศที่ตึงเครียดก่อนหน้านี้ ผ่อนคลายลงทันทีเมื่อเซี่ยหว่านปรากฏตัวหลินเซียงยืนอยู่ด้านข้าง มองดูฉากนี้อย่างตกตะลึงคนในตระกูลลู่ไม่ชอบเธอแต่พวกเขาทุกคนชอบเซี่ยหว่านทันใดนั้นเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอยู่ดี ๆ ลู่สือเยี่ยนถึงยอมตกลงพาเธอมาที่คฤหาสน์ตระกูลลู่เขาทำแบบนี้เพื่อบอกเธอทางอ้อมว่าคนในตระกูลลู่ไม่ชอบเธอ และไม่ต้อนรับเธอ!ฆ่าคนให้ตายทั้งเป็น เป็นเช่นนี้เองน่าขันสิ้นดีที่เธออุตส่าห์แต่งตัวอย่างพิถีพิถัน แถมยังฝันว่าคนในตระกูลลู่จะยอมรับและชอบเธออีกหลิน
“อะไรกัน? แค่กินข้าว ต้องให้คนมาตามสามสี่ครั้งเลยเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของลู่สือเยี่ยนดังขึ้นจากด้านหลังหลินเซียงลืมตาขึ้น มองไปที่เขา “ลู่สือเยี่ยน ฉันไม่เคยทำอะไรที่ทำให้คุณต้องเจ็บแค้นใจใช่ไหม?”ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว “คุณจะพูดอะไร?”หลินเซียงยิ้มเศร้า “แล้วทำไมตอนนี้คุณถึงไม่ยอมแม้แต่จะยิ้มให้ฉันล่ะ?”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรงหลินเซียงเดินเข้าไปหาเขา “หรือแค่เพราะฉันไม่ยอมหย่ากับคุณ แต่เรื่องแค่นี้ก็ไม่น่าถือเป็นความแค้นที่ร้ายแรงอะไรไม่ใช่เหรอ?”ดวงตาของเธอเป็นประกาย จ้องมองดวงตาสีดำสนิทของเขา พยายามเพ่งมองเงาตัวเองในนั้นเธอเห็นแล้ว แต่ดวงตาของเขาไม่หลงเหลือความอ่อนโยนอีกต่อไป มีเพียงความเย็นชาเขาต้องรับผิดชอบต่อเซี่ยหว่านส่วนการเสียสละของเธอตลอดหนึ่งปี ความดีงามเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้น กลับกลายเป็นเพียงเรื่องตลกลู่สือเยี่ยนมองดูแสงในดวงตาของเธอที่ค่อยๆ ดับลง จากนั้นก็ได้ยินเธอพูดว่า “ได้ ฉันยอมหย่า”ลู่สือเยี่ยนเป็นแบบนี้ ต่อให้เธอยื้อไว้ก็ไม่มีความหมายอะไรเธอชอบแค่เขาในรูปแบบที่อ่อนโยน เอาใจใส่ และมีแค่เธออยู่ในสายตาเท่านั้นแต่เมื่ออาเยี่
ขณะที่ร่างของเธอลอยขึ้นไปในอากาศ หลินเซียงผวาโอบเขาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาสีน้ำตาลใสฉายแววประหลาดใจเขา… หมายความว่ายังไง?ลู่สือเยี่ยนไม่สนใจสายตาของเธอ อุ้มเธอขึ้นรถ แล้วหยิบกล่องปฐมพยาบาลแบบพกพาออกมา เปิดฝาออกแล้วหยิบอุปกรณ์มาทำแผลที่เท้าของเธอหลินเซียงมองดูการกระทำของเขาด้วยสีหน้ามึนงงพร่ามัว ราวกับเธอเห็นอาเยี่ยนอยู่ตรงหน้าเขาคืออาเยี่ยน“อาเยี่ยน…”“อย่าคิดฟุ้งซ่าน” เสียงทุ้มต่ำของลู่สือเยี่ยนขัดจังหวะคำพูดของเธอ “ผมแค่กลัวตัวเองจะเสียใจที่เราหย่ากันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง”ราวกับน้ำเย็นราดรดใส่หัวเธอ ทำลายจินตนาการในหัวใจไปจนสิ้นอย่างนี้นี่เองเขากลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจหึ!เธอชักเท้ากลับทันที “วางใจได้ ฉันพูดอะไรออกไปแล้วไม่มีทางกลับคำ”แต่ข้อเท้าอันบอบบาง กลับถูกนิ้วมือเย็นเฉียบของชายหนุ่มจับไว้ ทำให้เธอขยับไปไหนไม่ได้เมื่อเธอขัดขืน ชายกระโปรงก็ยิ่งถลกขึ้นสูง เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนทั้งหมด เหลือเพียงนิดเดียว แต่เพราะนิดเดียวนี้กลับเพิ่มความยั่วยวนอย่างเลือนรางสายตาของลู่สือเยี่ยนกวาดไปที่ขาของเธอ จากมุมมองของเขา สามารถมองเห็นทิวทัศน์วับแวมบางส่วนได้เป็นอย่างดี
ลมหายใจของลู่สือเยี่ยนหนักขึ้น ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองเธอ อารมณ์ในนั้นช่างยากจะหยั่งถึง หลินเซียงหันหลังกลับ หยิบรองเท้าของตัวเองขึ้นมา แล้วเดินก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว“ขึ้นรถ”เสียงต่ำทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นอีกครั้งจากด้านหลัง ดวงตาของหลินเซียงฉายแววขมขื่น “คุณคงไม่ใช่ว่าไม่อยากหย่าแล้วหรอกนะ?”ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาคงจะทำผิดต่อเซี่ยหว่านที่ต้องเสียสละขาของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตเขาไว้“ที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลลู่ ถ้ามีคนเห็นคุณเดินกะเผลกออกไปจากที่นี่ ชื่อเสียงของตระกูลลู่จะเสียหาย”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา ขนตายาวของหลินเซียงสั่นไหวเล็กน้อย ตลกจริง ๆ เธอคิดไปได้ยังไงว่าเขาไม่อยากหย่า“หลินเซียง คุณพูดเองนี่ว่าระหว่างเราไม่ได้มีความแค้นที่ร้ายแรงอะไรต่อกัน”เขาย้อนคำพูดของเธอซ้ำให้ฟังคำต่อคำ หลินเซียงกำมือแน่นขึ้น จากนั้นก็หันกลับมาแล้วขึ้นรถเมื่อเห็นว่าเธอยอมเดินกลับมา ไม่รู้ทำไม หัวใจของเขารู้สึกโล่งขึ้นอย่างฉับพลันอารมณ์ของเขาสงบลง แล้วก็ก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่นั่งคนขับจากกระจกมองหลัง เขาเห็นเธอที่นั่งอยู่เบาะหลังเงียบ ๆ ราวกับสูญเสียความมีชีวิตชีวาไปในพริบตา“มานั่ง