ลมหายใจของลู่สือเยี่ยนหนักขึ้น ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองเธอ อารมณ์ในนั้นช่างยากจะหยั่งถึง หลินเซียงหันหลังกลับ หยิบรองเท้าของตัวเองขึ้นมา แล้วเดินก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว“ขึ้นรถ”เสียงต่ำทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นอีกครั้งจากด้านหลัง ดวงตาของหลินเซียงฉายแววขมขื่น “คุณคงไม่ใช่ว่าไม่อยากหย่าแล้วหรอกนะ?”ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาคงจะทำผิดต่อเซี่ยหว่านที่ต้องเสียสละขาของตัวเองเพื่อช่วยชีวิตเขาไว้“ที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลลู่ ถ้ามีคนเห็นคุณเดินกะเผลกออกไปจากที่นี่ ชื่อเสียงของตระกูลลู่จะเสียหาย”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา ขนตายาวของหลินเซียงสั่นไหวเล็กน้อย ตลกจริง ๆ เธอคิดไปได้ยังไงว่าเขาไม่อยากหย่า“หลินเซียง คุณพูดเองนี่ว่าระหว่างเราไม่ได้มีความแค้นที่ร้ายแรงอะไรต่อกัน”เขาย้อนคำพูดของเธอซ้ำให้ฟังคำต่อคำ หลินเซียงกำมือแน่นขึ้น จากนั้นก็หันกลับมาแล้วขึ้นรถเมื่อเห็นว่าเธอยอมเดินกลับมา ไม่รู้ทำไม หัวใจของเขารู้สึกโล่งขึ้นอย่างฉับพลันอารมณ์ของเขาสงบลง แล้วก็ก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่นั่งคนขับจากกระจกมองหลัง เขาเห็นเธอที่นั่งอยู่เบาะหลังเงียบ ๆ ราวกับสูญเสียความมีชีวิตชีวาไปในพริบตา“มานั่ง
วันรุ่งขึ้นเวลาสิบโมงเช้าเสียงโทรศัพท์ของหลินเซียงดังครั้งแล้วครั้งเล่า เธอเหลือบมองแล้วก็เมินเฉยไปหัวหน้าของเธอที่อยู่หน้าไซต์งานก่อสร้างกำลังบอกเล่าสถานการณ์ปัจจุบันกับเธอ เธอตั้งใจจดบันทึกทั้งหมดจนกระทั่งเที่ยงวัน เธอถึงมีเวลาว่างได้นั่งพักสักหน่อย หยิบน้ำขึ้นมาจิบหนึ่งอึก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูมีสายที่ไม่ได้รับสิบแปดสายทั้งหมดมาจากลู่สือเยี่ยนหึ!เธอหัวเราะเบา ๆ กำลังจะโทรกลับ แต่แล้วสายที่สิบเก้าก็โทรเข้ามาเสียก่อน“สวัสดี?”“หลินเซียง คุณล้อผมเล่นเหรอ?”พอรับสาย เสียงที่เย็นชาและมืดมนก็ดังขึ้น ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจที่อัดอั้นของเขาถ้าตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าเธอ คงพุ่งเข้ามาฉีกร่างเธอเป็นชิ้น ๆ แล้วหลินเซียงพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “ลู่สือเยี่ยน รู้สึกยังไงบ้างเวลาโดนคนอื่นหลอก?”เขาฟื้นความทรงจำแล้ว กลับมาพูดได้เหมือนคนปกติ แต่กลับปิดบังไว้จากเธอมาตลอด แล้วยังแกล้งทำเป็นเหมือนเดิมต่อหน้าเธอถ้าเธอไม่ค้นพบความจริงด้วยตัวเอง เขาจะเสแสร้งแกล้งทำไปอีกนานแค่ไหน?เห็นเธอทำท่าโง่ ๆ ใช้ภาษามือกับเขา ในใจลึก ๆ ของเขากำลังเยาะเย้ยเธออยู่หรือเปล่า?เขาทำเรื่อ
‘แปลกจัง ช่วงพักเที่ยงแบบนี้ ทำไมถึงไม่มีใครอยู่เลย?’หลินเซียงรู้สึกกระวนกระวายใจ สีหน้าตึงเครียดสุดขีด“หยุดนะ!”“ฉันเห็นบัตรพนักงานของผู้หญิงคนนั้นแล้ว เธอต้องเป็นคนของดีเคกรุ๊ปแน่!”“จับเธอไว้! เราต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้ได้!”ผู้คนจำนวนมากวิ่งไล่ตามเธอมาอย่างดุเดือดหลินเซียงยิ่งร้อนรน วิ่งหนีไปทิศทางหนึ่ง แต่แล้วเท้าก็พลิกลง เธอเสียหลักล้มคะมำไปข้างหน้า พอกลับมาทรงตัวได้อย่างทุลักทุเล แต่วิ่งหนีต่อไปไม่ได้แล้วคนกลุ่มนั้นมีกันสิบกว่าคน กรูเข้ามาขวางทางหลินเซียงด้วยท่าทางก้าวร้าว“พวกคุณเป็นใคร?”หลินเซียงพยายามตั้งสติ ดวงตาอัลมอนด์คู่งามจ้องมองพวกเขาชายไว้หนวดเคราพูดว่า “หวังปิน น้องชายของฉันทำงานที่นี่ เกิดอุบัติเหตุทำให้เขาขาหัก ฉันเห็นเธอเป็นพนักงานของดีเคกรุ๊ป ดังนั้นไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องให้คำอธิบายเรื่องนี้กับเรา!” หลินเซียงขมวดคิ้ว “น้องชายคุณบาดเจ็บ ฉันเข้าใจว่าคุณไม่พอใจ แต่เรื่องแบบนี้ควรมีคนจากทางบริษัทมาเจรจากับพวกคุณด้วยตัวเองสิ”หวังเฉียงโบกมือ “เจรจาอะไรกัน ไอ้หมอนั่นมาคนเดียว หน้าตาไม่รับแขก ควักเงินจ่ายค่าชดเชยให้ฉันไม่กี่แสน น้องชายฉันขาหักเลยนะ!
ดวงตาสีดำขลับของลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออยู่นาน ก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง “ตอนแรกผมก็คิดจะทำแบบนั้น แต่พอเห็นคุณเป็นแบบนี้แล้ว ผมไม่ชอบรังแกคนป่วย”หลินเซียงกระตุกริมฝีปาก “ขอบคุณคุณลู่ที่อุตส่าห์มีน้ำใจ”คำขอบคุณจอมปลอมบทสนทนาจอมปลอมระหว่างคนทั้งสองเหมือนมีกำแพงใส ๆ กั้นอยู่ มองเห็นกันได้ จับต้องกันได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีความรู้สึกเหมือนก่อนหน้านี้ต่อไปอีกแล้วก่อนเมื่อวาน มันไม่เคยเป็นแบบนี้เลยทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เธอเป็นฝ่ายพูดเรื่องหย่าออกมาก่อนอารมณ์ของลู่สือเยี่ยนหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ยื่นมือไปขยับคลายปกเสื้อแล้วพูดว่า “ช่วงนี้ก็พักผ่อนให้เต็มที่ ให้คนอื่นมารับผิดชอบเรื่องโปรเจ็กต์แทนก่อน”หลินเซียงถาม “แบบนี้ถือว่าฉันได้รับบาดเจ็บในระหว่างการทำงานหรือเปล่า?”ลู่สือเยี่ยนมองเธอ ไม่ได้พูดอะไรหลินเซียงพูดต่อ “ถ้าได้รับบาดเจ็บจากการทำงานก็ต้องได้รับเงินค่าชดเชย ฉันไม่รังเกียจเงินไม่กี่แสนหรอกนะ คุณลู่คงรู้หมายเลขบัญชีของฉันดีอยู่แล้ว โอนเข้าบัญชีฉันได้เลยค่ะ”ลู่สือเยี่ยน “...”ผู้หญิงคนนี้หลังเสนอหย่า ก็กลายเป็นคนหมกมุ่นเรื่องเงินไปแล้วเหรอ?ก่อนหน้านี้เธ
หลินเซียงหลับตาลง ปวดหัวรุนแรงจนทนไม่ไหวข้างนอกฟ้ามืดแล้ว เธอหันไปมองนอกหน้าต่าง สายตาค่อย ๆ ว่างเปล่าความจริงแล้วมันไม่มีอะไรน่าสนใจเลยทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู ดวงตาของเธอสว่างขึ้นทันที“ซ่งซ่ง!”“เฮ้! ว่าไงเพื่อนรัก ทายสิว่าฉันอยู่ที่ไหน?”ในโทรศัพท์ เสียงของหญิงสาวที่แหลมสูงเล็กน้อยดังเล็ดลอดออกมาหลินเซียง “อวิ๋นเฉิงเหรอ?”“ตอบถูกแล้วล่ะ ฉันอยู่ข้างล่างตึกเธอแล้ว รีบออกมาต้อนรับฉันเร็ว” ซ่งซ่งหัวเราะหลินเซียงพูดว่า “โถ่ เจ้าหญิงของฉัน คงไม่ได้หรอก ฉันบาดเจ็บในเวลางาน ตอนนี้แอดมิดอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ”ซ่งซ่ง “ส่งที่อยู่มาเดี๋ยวนี้เลย เร็วเข้า!”เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่จริงจังของเธอ หลินเซียงก็อดขำไม่ได้ “เอาสิ”หลังจากส่งที่อยู่ไป ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดเข้ามา หญิงสาวหน้าเก๋สวยสะดุดตาคนหนึ่งรีบร้อนเดินเข้ามา“เซียงเซียง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงบาดเจ็บในระหว่างทำงานล่ะ? แล้วทำไมเธอถึงอยู่คนเดียว? สามีใบ้ของเธอไปไหนแล้ว?”ซ่งซ่งถามคำถามรัว ๆหลินเซียงรีบเอามือกุมศีรษะตัวเอง “โอ๊ย ค่อย ๆ ถามสิ ถามทีละหลาย ๆ อย่างแบบนี้ ฉันปวดหัว
ริมฝีปากของหลินเซียงเม้มเข้าหากัน เธอกดโทรหาซ่งซ่ง แต่ไม่มีใครรับสายพวกเธอเพิ่งแยกกันได้ไม่นาน อีกฝ่ายจะไปโผล่ที่อาคารเยว่ปินได้ยังไง?เมื่อนึกถึงคำพูดเมื่อคืน หลินเซียงก็เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง ไปแก้แค้นลู่สือเยี่ยน คนแบบเธอสามารถทำได้จริง ๆเธอไม่กล้าใช้เวลาคิดฟุ้งซ่านอะไรไปมากกว่านี้ รีบออกไปเรียกรถแท็กซี่ตรงไปที่อาคารเยว่ปินทันทีเธอเร่งฝีเท้าเดินเข้าไป เห็นว่าโถงทางเข้ารกไปหมด เศษแก้วกระจัดกระจายไปทั่ว เหมือนกับที่นี่เพิ่งถูกโจรบุกปล้น“ซ่งซ่งอยู่ที่ไหน?”หลินเซียงคว้าตัวพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งมาถามอย่างใจร้อนพนักงานเสิร์ฟชี้ไปที่ห้องส่วนตัวในโถงทางเดิน “อยู่ที่นั่นค่ะ”หลินเซียงรีบจ้ำอ้าวไปเปิดประตูห้องส่วนตัว เห็นซ่งซ่งถูกการ์ดสองคนจับตัวไว้ ใบหน้าที่สวยงามเต็มไปด้วยความโกรธ“ปล่อยฉันนะ!”เธอยังคงดิ้นรนไม่หยุดบนโซฟา สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเข้มขรึม เสื้อเชิ้ตสีขาวเปื้อนเลือด ดวงตาดำขลับกำลังจ้อมเขม็งมองซ่งซ่งเหมือนมองคนตายแขนเสื้อข้างขวาของเขาพับทบขึ้นไปถึงข้อศอก มีรอยบาดแผลที่แขน เซี่ยหว่านนั่งอยู่ข้าง ๆ กำลังทำแผลให้เขารูม่านตาของหลินเซียงหดลงทันที รีบเดินเข้าไปผลักก
“ซ่งซ่งเป็นคนใจร้อน ถ้าเธอไปทำอะไรที่ทำให้คุณเจ็บช้ำ ฉันหวังว่าคุณจะไม่ถือสา รับรองได้ว่าหลังจากนี้เธอจะไม่ทำอีก”ดวงตาของซ่งซ่งแดงก่ำทันที “เซียงเซียง เธอจะไปขอโทษทำไม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอเสียซะหน่อย!”แต่หลินเซียงไม่สนใจเธอ หันไปมองลู่สือเยี่ยน “ตอนนี้พอใจหรือยัง?”ใบหน้าของเธอซีดลงเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายวาววับเขากำลังบีบให้เธอยอมจำนนไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้เธอทำตามความปรารถนาของเขาแล้วนี่ ยังไม่พออีกเหรอ?เธอนี่ตามืดบอดจริง ๆ เลยทำไมตอนนั้นถึงไม่ฟังคำเตือนของซ่งซ่งนะผลที่ได้จากการกระทำของตัวเองนั้นไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลยลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยดวงตาลึกล้ำ ในใจรู้สึกหงุดหงิด เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเธอกันเล่า?ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในเวลานี้เซี่ยหว่านพูดขึ้น “ฉันไม่เป็นไรค่ะ สือเยี่ยนต่างหากที่ได้รับบาดเจ็บ ฉันรู้ว่าคุณซ่งโกรธ แต่การทำร้ายร่างกายคนอื่นถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หวังว่าวันข้างหน้าคุณซ่งจะไม่ทำแบบนี้อีก”เธอมองไปที่บอดี้การ์ดทั้งสอง “ปล่อยคุณซ่งเถอะ”บอดี้การ์ดทั้งสองปล่อยมือจากซ่งซ่งทันที“เซียงเซียง…”ซ่งซ่งมองไปที่หลินเซียงหลินเซียงพูดว่า “
ซ่งซ่งสะอึก “ฉันแค่เจ็บใจ”หลินเซียงพูดอย่างเศร้าโศก “แต่การระบายความเจ็บใจของเธออาจทำให้เราทั้งคู่ต้องเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น”ซ่งซ่งพูดไม่ออก ใบหน้าสะสวยของเธอฉายแววแห่งความรู้สึกผิด “ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด”“เอาเถอะ เราไม่ได้นัดกันว่าจะไปกินหม้อไฟหรอกเหรอ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง” หลินเซียงพูด“ไม่มีปัญหา!”ซ่งซ่งตอบตกลงอย่างรวดเร็ว จับมือเธอเดินไปที่ริมถนนกว่าสองสาวจะกินข้าวเสร็จก็ดึกแล้วซ่งซ่งอยากกลับบ้านไปอยู่กับหลินเซียง แต่หลินเซียงปฏิเสธ“เธออยู่ดูแลฉันที่โรงพยาบาลมาหลายวันแล้ว กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ อดนอนมากไปจะไม่สวยเอานะ” หลินเซียงพูดซ่งซ่งรีบปิดหน้าตัวเอง “จริงเหรอ? ฉันไม่สวยแล้วเหรอ? ไม่ได้การ ฉันต้องกลับไปดูแลตัวเองให้ดี เซียงเซียงเพื่อนรัก ฉันไปก่อนนะ”เมื่อมองตามแผ่นหลังที่กำลังเดินห่างออกไปของเธอ หลินเซียงก็ยิ้มอย่างจนปัญญาเธอตรงกลับไปที่หัวฝู่โดยตรง พอขึ้นไปชั้นบน ไม่รู้ว่าไฟทางเดินที่ชั้นนี้หลอดเสียตั้งแต่เมื่อไหร่ ความมืดมิดแผ่ปกคลุมไปทั่วเธอหยิบกุญแจมาไขเปิดประตู เข้าไปได้ก็หันกลับมาปิดประตู แต่แรงอันมหาศาลกลับขัดขวางเธอไว้“ใคร?”หลินเซียงร้องเสียงหลง
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?