Share

บทที่ 14

“อะไรกัน? แค่กินข้าว ต้องให้คนมาตามสามสี่ครั้งเลยเหรอ?”

เสียงทุ้มต่ำของลู่สือเยี่ยนดังขึ้นจากด้านหลัง

หลินเซียงลืมตาขึ้น มองไปที่เขา “ลู่สือเยี่ยน ฉันไม่เคยทำอะไรที่ทำให้คุณต้องเจ็บแค้นใจใช่ไหม?”

ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว “คุณจะพูดอะไร?”

หลินเซียงยิ้มเศร้า “แล้วทำไมตอนนี้คุณถึงไม่ยอมแม้แต่จะยิ้มให้ฉันล่ะ?”

ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง

หลินเซียงเดินเข้าไปหาเขา “หรือแค่เพราะฉันไม่ยอมหย่ากับคุณ แต่เรื่องแค่นี้ก็ไม่น่าถือเป็นความแค้นที่ร้ายแรงอะไรไม่ใช่เหรอ?”

ดวงตาของเธอเป็นประกาย จ้องมองดวงตาสีดำสนิทของเขา พยายามเพ่งมองเงาตัวเองในนั้น

เธอเห็นแล้ว แต่ดวงตาของเขาไม่หลงเหลือความอ่อนโยนอีกต่อไป มีเพียงความเย็นชา

เขาต้องรับผิดชอบต่อเซี่ยหว่าน

ส่วนการเสียสละของเธอตลอดหนึ่งปี ความดีงามเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้น กลับกลายเป็นเพียงเรื่องตลก

ลู่สือเยี่ยนมองดูแสงในดวงตาของเธอที่ค่อยๆ ดับลง จากนั้นก็ได้ยินเธอพูดว่า “ได้ ฉันยอมหย่า”

ลู่สือเยี่ยนเป็นแบบนี้ ต่อให้เธอยื้อไว้ก็ไม่มีความหมายอะไร

เธอชอบแค่เขาในรูปแบบที่อ่อนโยน เอาใจใส่ และมีแค่เธออยู่ในสายตาเท่านั้น

แต่เมื่ออาเยี่ยนฟื้นความทรงจำแล้ว เขาก็กลายเป็นลู่สือเยี่ยน

ไม่ใช่อาเยี่ยนของเธออีกต่อไป

หลินเซียงเดินผ่านหน้าเขาไป ลู่สือเยี่ยนคว้าข้อมือเธอไว้

หลินเซียงหายใจติดขัด ขนตางอนยาวสั่นเทา “อะไรอีก?”

ลู่สือเยี่ยนขยับริมฝีปากเล็กน้อย ครู่หนึ่งจึงถามว่า “คุณพูดจริงเหรอ?”

หลินเซียงหลับตาลง ดวงตาฉายแววเศร้า “ตลกจริง ๆ แม้แต่ความเชื่อใจฉันสักนิดคุณก็ไม่มีให้”

พูดจบ เธอก็ชักมือตัวเองกลับ เดินออกจากห้องน้ำไปทันที

เธอเดินไปคุยอะไรกับอวิ๋นหลานสองสามคำ ก่อนจะจากไปเดี๋ยวนั้น

อวิ๋นหลานรู้สึกแปลกใจ “เป็นอะไรไปนะ? สีหน้าเธอดูไม่ค่อยดีเลย”

ลู่เจิ้งหรงพูดเสริม “เธอดูนิสัยขี้ขลาด ไม่เหมาะกับตระกูลลู่ของเราหรอก”

ดวงตาของเซี่ยหว่านเป็นประกาย แต่ไม่พูดอะไรออกมา

เธอหันไปมองลู่สือเยี่ยน เห็นว่าเขาขมวดคิ้ว บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเย็นชา

“สือเยี่ยน มากินข้าวกันเถอะ”

เซี่ยหว่านเรียกเขาน้ำเสียงอ่อนโยน

“อืม”

ลู่สือเยี่ยนตอบรับ แล้วเดินไปนั่งข้างเซี่ยหว่าน

เซี่ยหว่านตักอาหารให้เขา “เมนูโปรดของคุณค่ะ”

“ขอบคุณ”

ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงแผ่ว หยิบตะเกียบขึ้นมาเตรียมกินข้าว

แต่ในวินาทีถัดมา ภาพหนึ่งก็แล่นผ่านในหัวเขา

หลินเซียงจับมือเขา สอนวิธีใช้ตะเกียบ ใบหน้าขาวเนียนของเธอเต็มไปด้วยความจริงจัง เมื่อเห็นว่าเขาจับตะเกียบไม่เป็นสักที เธอก็โกรธจนตีมือเขา

“หน้าตาคุณก็ดูฉลาดออก ทำไมถึงได้หัวทึบแบบนี้นะ? ฉันจะสอนครั้งสุดท้าย ดูให้ดี”

จากนั้นเธอก็เพียรสอนเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดก็สอนจนเขาจับเป็น

ลู่สือเยี่ยนรีบหลับตาลง

เซี่ยหว่านรีบถาม “สือเยี่ยน เป็นอะไรหรือเปล่า?”

ลู่สือเยี่ยนวางตะเกียบลงแล้วลุกขึ้น “ผมมีธุระ ขอตัวก่อน พวกคุณทานกันไปเลย”

จากนั้นเขาก็ก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว

……

หลินเซียงออกจากคฤหาสน์ตระกูลลู่ เดินไปตามถนนที่ว่างเปล่า หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพราะต้องการเรียกรถ แต่ที่นี่อยู่ไกลจากตัวเมืองเกินไป ทำให้ไม่มีคนขับกดรับงาน

เพื่อให้เข้ากับชุดเดรส เธอจึงเลือกสวมรองเท้าส้นเข็ม หลังจากเดินมาไกลขนาดนี้ ท้ายที่สุดรองเท้าก็เสียดสีเท้าจนเป็นแผล

เธอถอดรองเท้าส้นสูงออกแล้วถือไว้ในมือ ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด

ทันใดนั้น เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นจากด้านหลัง เธอหันขวับกลับมาเพราะคิดว่าเป็นแท็กซี่ แต่เห็นว่าเป็นลู่สือเยี่ยนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับ

โชคร้ายอะไรอย่างนี้!

เธอถอนสายตาทันที ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

แต่รถกลับจอดลงตรงหน้าเธอ ลู่สือเยี่ยนลงจากรถ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ จ้องมองเธอด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

หลินเซียงผงะถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว “ตามมาทำไม? จะมาเอาเรื่องฉันเหรอ?”

วินาทีต่อมา ร่างของเธอก็ถูกเขาอุ้มลอยขึ้นจากพื้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status