Share

บทที่ 12

“ลงมา”

เขาพูดสั้นๆอย่างเย็นชา พูดจบก็วางสายไป

หลินเซียงยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ มองโทรศัพท์ที่หน้าจอดำสนิท แล้วขบฟันเขี้ยวเคี้ยวฟัน!

น่ารังเกียจจริง ๆ!

ไม่เห็นน่ารักเหมือนตอนที่ความจำเสื่อมเลยสักนิด

เธอลงบันไดมา แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องลงมาบนร่างของเธอ แสงสีส้มอ่อน ๆ โอบล้อมเธอไว้ เส้นผมของเธอราวกับเปล่งประกายแสงในตัวเองได้

แต่เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างรถไม่ใช่ลู่สือเยี่ยน รอยยิ้มบนริมฝีปากของหลินเซียงก็หายไป

“ลู่สือเยี่ยนอยู่ไหน?”

เธอเดินเข้าไปถาม

ซ่งจั่วตอบกลับ “ประธานลู่มีธุระอื่น ให้ผมมารับคุณไปที่คฤหาสน์ตระกูลลู่แทนครับ”

จู่ ๆ หัวใจของเธอก็จมดิ่งลงไปอย่างหนักหน่วง

มีธุระอะไรที่สำคัญกว่าการพาเธอไปพบผู้ใหญ่อีก?

เธอเม้มริมฝีปากแล้วก้าวขึ้นรถ

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลู่สือเยี่ยน แต่เขากลับไม่รับสาย!

ผู้ชายสารเลวเอ๊ย!

หลินเซียงกำโทรศัพท์ไว้ มองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลา

ไม่นานนัก ทิวทัศน์โดยรอบก็เริ่มเผยให้เห็นความสวยงาม คฤหาสน์ตระกูลลู่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองอวิ๋นเฉิง ล้อมรอบด้วยภูเขา อยู่ติดกับแม่น้ำ เป็นทำเลที่ตั้งที่ยอดเยี่ยมมาก

รถแล่นเข้าไปในประตูรั้วสีดำทอง แล้วจอดตรงหน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง คนรับใช้เดินเข้ามาเปิดประตูรถอย่างสุภาพและมีมารยาท

หลินเซียงลงจากรถ ดวงตาของเธอฉายแววตกใจ

ความร่ำรวยมหาศาลนี้!

เธอเคยได้ยินแต่ชื่อของตระกูลลู่ ไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเองมาก่อน ตอนนี้เมื่อได้เห็นแล้ว ถึงได้รู้ว่าตัวเธอเองกับตระกูลลู่นั้นเป็นคนละโลกกันโดยสิ้นเชิง!

“คุณหลิน เชิญข้างในค่ะ”

คนรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ เตือนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ดวงตาฉายแววดูถูก

หลินเซียงขมวดคิ้ว “ฉันเป็นภรรยาของลู่สือเยี่ยน ต้องเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงลู่สิ!”

แต่คนรับใช้กลับหันหลังเดินจากไปเลย

หลินเซียงถึงจะซื่อเพียงใดกว่า แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงท่าทีดูถูกของคนรับใช้ที่มีต่อเธอ

เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปในบ้าน

สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยทำให้เธอรู้สึกกระสับกระส่ายไปหมด เมื่อเข้าไปจนถึงโถงทางเดินก็พบกับห้องรับแขกขนาดเล็ก

คนรับใช้บอกว่า “คุณรออยู่ตรงนี้สักครู่นะคะ คุณชายสามจะกลับมาเร็ว ๆ นี้”

พูดจบก็เดินจากไปทันที

หลินเซียงนั่งลงบนโซฟาทันที วางมือไว้บนเข่าอย่างเรียบร้อย ข่มอารมณ์ตัวเองให้สงบลง

ไม่มีอะไรหรอก แค่คนรับใช้คนเดียว ไม่ได้หมายความว่าท่าทีของสมาชิกตระกูลลู่จะเป็นอย่างนี้กันทุกคนเสียหน่อย

ขณะนั้นก็มีคนเดินเข้ามาอีกหลายคน หนึ่งในนั้นคืออวิ๋นหลาน

เมื่อเห็นหลินเซียง อวิ๋นหลานก็ส่งยิ้มให้ “หลินเซียง มาแล้วเหรอ ทำไมถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ? ไปเร็ว เข้าไปข้างในพร้อมฉันนี่แหละ”

หลินเซียงลุกขึ้นยืน ทักทายด้วยความสุภาพและอ่อนน้อม “สวัสดีค่ะคุณป้า”

อวิ๋นหลานยิ้มแล้วแนะนำ “นี่คุณพ่อของสือเยี่ยน”

หลินเซียงมองไปที่ชายวัยกลางคนผู้มีสีหน้าเคร่งขรึมข้างกายอวิ๋นหลาน ชายคนนั้นเพียงแค่เหลือบมอง เธอก็สัมผ้สได้ถึงแรงกดดันมหาศาล

“เซี่ยหว่านยังไม่มาอีกเหรอ?” ลู่เจิ้งหรงถาม

อวิ๋นหลานตอบกลับ “สือเยี่ยนกำลังออกไปรับค่ะ”

“อืม”

ลู่เจิ้งหรงตอบรับแผ่วเบา แล้วเดินเข้าไปในห้องรับแขกใหญ่ทันที

อวิ๋นหลานมองไปที่หลินเซียง “มาเถอะ ไปรอที่ห้องรับแขกด้านในดีกว่า ตรงนี้เป็นที่พักของคนรับใช้น่ะ”

ดวงตาของหลินเซียงฉายแววอับอาย

คนรับใช้คนนั้นบังเอิญหรือตั้งใจกันแน่?

เมื่อเข้าไปในห้องรับแขกใหญ่ เห็นโคมไฟระย้าคริสตัลหรูหราแขวนอยู่บนโดม แสดงถึงความหรูหราคลาสสิกในทุก ๆ ที่

อวิ๋นหลานพูดขึ้นว่า “นั่งตรงไหนก็ได้นะ รอสักเดี๋ยว สือเยี่ยนน่าจะใกล้ถึงแล้วล่ะ”

หลินเซียงจำชื่อหญิงสาวที่พวกเขาถามถึงเมื่อครู่นี้ได้ ผู้หญิงที่ลู่สือเยี่ยนไปรับด้วยตัวเอง ใช่เธอคนนั้นหรือเปล่า?

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีเสียงดังขึ้นจากทางประตู ตามด้วยคนสองคนที่เดินเข้ามา

ลู่สือเยี่ยนเดินนำหน้า ส่วนคนที่ตามเขามาคือหญิงสาวที่หลินเซียงเคยเห็นในห้องอาหารส่วนตัว

เธอคือเซี่ยหว่าน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status