รถพยาบาลมาถึงอย่างรวดเร็วหลินเซียงขึ้นรถไปโรงพยาบาลด้วยไม่ไกลจากประตูหมู่บ้านเฟิ่งหลินหย่วน หญิงสาวสวมหมวกเบสบอลสีดำ หน้ากากอนามัยสีดำ จ้องมองรถพยาบาลที่ขับออกไป แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก“คุณนายคะ เขาถูกวางยาพิษค่ะ”…โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินหลังจากตรวจสอบและทดสอบแล้ว เขาถูกวางยา และพิษกำลังแพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินผลลัพธ์ หลินเซียงถึงกับอึ้งไปถูกวางยาเหรอ?ทำไมถึงถูกวางยาได้?ตอนนี้หลินเซียงสับสน ใบหน้าซีดเผือด มือและเท้าสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นพยาบาลกำลังจะเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เธอก็รีบวิ่งเข้าไปคว้ามือพยาบาลไว้ แล้วถามว่า “ล้างท้องทันไหมคะ?”พยาบาลกล่าว “ฉันไม่ทราบค่ะ ต้องถามคุณหมอ”พูดจบเธอก็ผลักหลินเซียงออก แล้วเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินไฟสีแดงฉานบนห้องฉุกเฉินส่องอยู่เหนือหัวของหลินเซียง เธอมองไปข้างหน้าอย่างงุนงง ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเธอบีบแขนตัวเองอย่างแรง ความเจ็บปวดทำให้กลับมาเธอมีสติและใจเย็นลงจากนั้นเธอก็รีบโทรแจ้งตำรวจ “ฉันขอแจ้งความค่ะ มีคนวางยาพิษในอาหาร…”หลังจากนั้นเธอต้องกลับบ้าน พาตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ น
หลินเซียงลดสายตาลงเล็กน้อย รู้สึกไม่สบายใจในใจทันทีที่อวิ๋นหลานมาถึง เธอก็ชี้นิ้วมาที่เธอทันทีเมื่อนึกถึงสิ่งที่อวิ๋นหลานเคยทำก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่อธิบายไม่ได้ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ“เฮ้ย ทำอะไร?”ในขณะนี้ เสียงของฟู่จิ่นซิ่วก็ดังขึ้นหลินเซียงมองตามเสียง ก็เห็นซ่งซ่งปล่อยมือจากเขา เดินไปหาเธอ จับมือเธอแล้วพูดด้วยความกังวล "เซียงเซียง ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยดี"แม้ว่าเธอจะแอบด่าลู่สือเยี่ยนอยู่เสมอแต่เธอรู้ว่าหลินเซียงรักลู่สือเยี่ยนมากแม้ว่าตอนนี้ฉันจะอยากหย่าเต็มทนก็ตามแต่คนที่เคยรักกันอย่างลึกซึ้ง จะเปลี่ยนใจเป็นไม่รักง่าย ๆ ได้อย่างไร?เพียงแค่กลบเกลื่อนความปวดร้าวในใจเท่านั้น“ซ่งซ่ง!”เสียงไม่พอใจของฟู่จิ่นซิ่วก็ดังขึ้น “ไม่เห็นเหรอว่าฉันเวียนหัว อยากเห็นฉันล้มหัวฟาดพื้นตายใช่ไหม?”ซ่งซ่งมองย้อนกลับไปที่เขา "ในเมื่อรู้ว่าตัวเองเวียนหัว ทำไมไม่นอนอยู่ในห้องผู้ป่วยล่ะ?"ฟู่จิ่นซิ่วปวดหัวเพราะความโกรธ เขาจึงเอื้อมมือไปจับหัวหลินเซียงพูดกับซ่งซ่ง "อย่าทำแบบนี้เลย ยิ่งเขาฟื้นตัวเร็วเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งเป็นอิส
หลังจากพูดอย่างนั้น ลู่เจิ้งหรงก็ไออย่างรุนแรงอวิ๋นหลานอยู่ข้าง ๆ ช่วยปลอบให้เขาสงบสติอารมณ์ "คุณคะ อย่าเพิ่งตัดสินไป เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างชัดเจน รอก่อนเถอะค่ะ"หลินเซียงทำเพียงจ้องไปที่ลู่สือเยี่ยนที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างไรก็ตาม บอดี้การ์ดเข้ามาลากเธอออกไปจากห้องประตูห้องผู้ป่วยปิดลงต่อหน้าเธอ“เซียงเซียง!”ซ่งซ่งส่งฟูจิ่นซิ่วกลับห้อง ทันทีที่เดินเข้ามาแล้วเห็นเธอถูกไล่ออกมา ก็รู้สึกทุกข์ใจมาทันที!หลินเซียงพูดว่า "ฉันไม่เป็นไร"ซ่งซ่งกอดเธออย่างทุกข์ใจ “ฉันจะรออยู่ที่นี่เป็นเพื่อนนะ”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่ เธอควรกลับไปก่อน ฟู่จิ่นซิ่วไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่าย ๆ ถ้าเธอทำให้เขาไม่มีความสุข คนที่ต้องทนทุกข์ทรมานก็คือเธอนะ”ซ่งซ่งเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไรซะหน่อย เขาไม่ใช่เด็กแล้ว ไม่มีคนอยู่ด้วยแล้วจะตายก็ให้มันรู้ไป!"หลินเซียงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “เชื่อฟังหน่อยได้ไหม?”ดวงตาของซ่งซ่งเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ “เซียงเซียง ฉันอยากอยู่กับเธอ”หลินเซียงบอก "เขายังไม่ตื่น ไม่ว่าจะทำอะไรตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์ ฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องเดือดร้อน เธอไปก่อนเถอะ ถ้าฉันมีป
ร่างบางของหลินเซียงสั่นสะท้านเล็กน้อย “พูดอะไรบ้า ๆ เนี่ย!”ซ่งซ่งรีบสาวเท้าเข้ามา “พวกเขาเป็นสามีภรรยากันมาเกือบปีแล้ว หลินเซียงเป็นคนยังไง ลู่สือเยี่ยนรู้ดี เขาต้องรู้ว่าหลินเซียงไม่ใช่คนวางยาแน่!”“งั้นเหรอ?”ฟู่จิ่นซิ่วกริ่มยิ้มอย่างลึกลับ ก่อนจะเปิดประตูห้องผู้ป่วยแล้วเดินเข้าไปทันทีซ่งซ่งขมวดคิ้ว “เดี๋ยวนะ คุณหมายความว่ายังไง? กลับมาอธิบายให้ชัดเจนก่อนสิ!”เธอลุกขึ้นไล่ตาม แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดขวางไว้ เพราะเธอเป็นเพียงเพื่อนของหลินเซียง จึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป“น่าโมโหชะมัด!”ใบหน้าหวานของซ่งซ่งยับยู่ยี่ด้วยความโกรธ หันไปเห็นหลินเซียงกำลังจ้องมองตรงไปข้างหน้า ใบหน้าซีดเผือดจนน่าตกใจ!“เซียงเซียง อย่าไปฟังเขาพูดเรื่องไร้สาระ เขาแค่จงใจขู่เธอเท่านั้น!” ซ่งซ่งรีบพูดแต่หลินเซียงกลับส่ายหัว “เขาไม่ได้โกหก เขาอาจจะเกลียดฉันจริง ๆ”ซ่งซ่งไม่เข้าใจ “เป็นไปได้ยังไง? ก่อนที่เขาจะฟื้นความทรงจำ เขารักเธอมากขนาดนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะฟื้นความทรงจำแล้ว ความทรงจำเหล่านั้นก็ไม่ได้หายไปซะหน่อย เขาต้องรู้จักนิสัยเธอดีอยู่แล้ว”หลินเซียงกระตุกมุมปาก แล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ถ้าเป็นเขาคนก่อ
หลินเซียงรีบผลักเจิ้งซินเอ้อร์ออกไป แล้ววิ่งเข้าไปข้างใน“เธอห้ามเข้าไป!”เจิ้งซินเอ๋อร์ยังจะยื่นมือไปจับหลินเซียง แต่ถูกซ่งซ่งขวางไว้ “ทำไม? จะผลักฉันอีกคนเหรอ? เชื่อไหมว่าฉันจะแกล้งล้มตอนนี้ แล้วฟ้องเอาผิดเธอให้ตายกันไปข้าง!”เจิ้งซินเอ้อร์เบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ “แก…”ช่างกล้าเกินไปแล้ว!ซ่งซ่งเชิดคางขึ้น จ้องมองเจิ้งซินเอ้อร์อย่างระมัดระวังขณะนั้นขณะนั้น ภายในห้องผู้ป่วยลู่เจิ้งหรง อวิ๋นหลาน ฟู่จิ่นซิ่ว ต่างก็จ้องมองผู้ชายบนเตียงอย่างตื่นตระหนกลู่สือเยี่ยนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของเขาดูซีดอย่างเห็นได้ชัด สภาพของเขาไม่ค่อยดีเลย“สือเยี่ยน ลูกตื่นแล้ว ทำให้พวกเราตกใจกันหมดเลย!”ลู่เจิ้งหรงเห็นว่าเขาตื่นขึ้นมาจริง ๆ ก็โล่งใจทันทีฟู่จิ่นซิ่วถามจากด้านข้าง “นายรู้สึกยังไงบ้าง?”คิ้วเข้มของลู่สือเยี่ยนขมวดเข้าหากัน ใบหน้าของเขายังสวมหน้ากากออกซิเจน เสียงที่พูดออกมาฟังดูแหบแห้ง “ไม่เป็นไรแล้ว”อวิ๋นหลานพูดขึ้น “สือเยี่ยนไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ดีจังเลย เธอไม่รู้หรอก พอรู้ว่าเธอโดนวางยา พ่อเขาก็เป็นห่วงมาก หลินเซียงภรรยาเธอก็ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องผู้ป่วยตลอด
"อย่าครับ"ลู่สือเยี่ยนหลับตาและพูดอย่างอ่อนแอ "ผมแค่ไม่อยากเห็นหน้าเธอ แต่เธอก็ยังเป็นภรรยาของผม ถ้าเธอถูกจับ มันจะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของตระกูลลู่"ลู่เจิ้งหรงตะคอกอย่างเย็นชา "เธอกำลังจะฆ่าลูกตายอยู่แล้ว ยังมัวคิดถึงเธออีก"อวิ๋นหลานพูดจากด้านข้าง "สือเยี่ยน มีอะไรเข้าใจผิดกันหรือเปล่า? ฉันไม่คิดว่าหลินเซียงเป็นคนแบบนั้นนะ"ลู่สือเยี่ยนไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ท่าทีของเขาก็ชัดเจนมากแล้ว มือของหลินเซียงกำหมัดแน่น จ้องมองไปที่ใบหน้าของลู่สือเยี่ยน จากนั้นสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า "ฉันไม่ได้วางยาคุณ ลู่สือเยี่ยน อีกหน่อยคุณตรวจสอบแล้วพบว่าคุณเข้าใจฉันผิด ถ้าคุณกลับมาหาฉันอีกครั้ง ฉันจะไม่ยกโทษให้คุณเด็ดขาด!"พูดจบ เธอก็หันหลังและจากไปมือของลู่สือเยี่ยนที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มกำหมัดแน่นเช่นกัน!ในเวลานี้ เซี่ยหว่านเดินเข้ามา พอเห็นว่าหลินเซียงเดินออกไปด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด เธอก็ถามด้วยความสับสน "เกิดอะไรขึ้นคะ?"อวิ๋นหลานถอนหายใจ "เฮ้อ... สือเยี่ยนบอกว่าหลินเซียงเป็นคนวางยาเขา"เซี่ยหว่านดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ "ทำไม... เป็นไปได้ยังไงคะ?"ลู่เจิ้งหรงพูดว่า "สือเยี่ยน ถ้าล
ใบหน้าของหลินเซียงมีน้ำตานองหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าเธอเพิ่งสังเกตเห็น จึงยกมือขึ้นปาดมันออก แล้วประสานมือไว้ตามเดิม“ไม่มีอะไรให้ร้องแล้ว”เธอพูดเสียงอู้อี้แต่ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหลมากกว่าเดิมซ่งซ่งรีบกอดเธอ “เซียงเซียง อย่าร้องไห้เลยนะ ไม่คุ้มเลยที่จะเสียน้ำตาให้คนสารเลวแบบนี้”หลินเซียงจับแขนของซ่งซ่งอย่างแรง จนข้อนิ้วเปลี่ยนเป็นสีขาว "เขาไม่เชื่อฉัน... เขาไม่เชื่อใจฉันได้ยังไง ตอนที่ฉันพาเขากลับบ้าน เขาไม่เห็นจะใจร้ายกับฉันแบบนี้"เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เป็นคนแบบนั้นเลยสักนิดเขาสูญเสียความทรงจำทั้งหมด จนสมองเป็นเหมือนกระดาษเปล่า คงเหลือเพียงความอยากรู้อยากเห็นและระแวงต่อเธออย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการกล่าวหาและเย็นชาเช่นนี้ไม่เคยเลย!ลู่สือเยี่ยนในปัจจุบันแปลกมาก จนทำให้เธอกลัว!เขาเป็นเหมือนอีกคนที่ครอบงำร่างของอาเยี่ยน ทำให้เธอทุกข์ทรมานมาก!ซ่งซ่งปลอบโยนเธอ "คนเราเปลี่ยนกันได้เสมอ ผู้ชายเวลามีเงินกับไม่มีเงินน่ะนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว เซียงเซียง เธอยังตัดใจหย่าไม่ได้อีกเหรอ? ถึงเวลาต้องปล่อยมือแล้วนะ"หลินเซียงร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง “แต
แค่คิดถึงฟู่จิ่นซิ่ว เธอก็อดคิดถึงผู้ชายสารเลวลู่สือเยี่ยนคนนั้นไม่ได้ ถ้าฟู่จิ่นซิ่วเป็นเพื่อนกับลู่สือเยี่ยนได้ แสดงว่าตัวเขาก็คงไม่ดีไปกว่ากันเท่าไหร่นักหรอก!ซ่งซ่งหัวเราะเยาะทันที “อยากฟ้องฉันก็เชิญเลย ฉันไม่ขออยู่รองมือรองเท้าเขาแล้ว!” พูดจบเธอก็วางสายทันที บล็อกหมายเลขโทรศัพท์ของฟู่จิ่นซิ่วโรงพยาบาลฟู่จิ่นซิ่วมองโทรศัพท์ที่ถูกวางสายไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ นี่เขา...ถูกพาลใส่เหรอ? เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของลู่สือเยี่ยน มันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยล่ะ?ฟู่จิ่นซิ่วถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็ส่งข้อความไปหาซ่งซ่ง แล้วก็พบว่าหมายเลขของเขาถูกบล็อกแล้วฟู่จิ่นซิ่ว “…”ผู้หญิงคนนี้ เกินไปแล้ว!เขาหัวเราะเยาะ ค้นหาหมายเลขโทรศัพท์หนึ่งหมายเลข จากนั้นก็กดโทรออก “ไปช่วยฉันจัดการเรื่องหนึ่งให้หน่อย”…ซ่งซ่งอยู่ที่เฟิงหลินหย่วนคอยดูแลหลินเซียง กลัวว่าเธอจะมีอันตราย แต่ตอนบ่าย เธอรับโทรศัพท์จากหัวหน้างาน“ซ่งซ่ง ได้ยินว่าคุณไปทำร้ายคุณฟู่จิ่นซิ่วเหรอ?” เสียงหัวหน้างานสั่นเครือสีหน้าของซ่งซ่งเปลี่ยนไปทันที “ผู้จัดการ คุณรู้ได้ยังไงคะ?”ผู้จัดการตอบกลับ “ยังมีหน้ามาถามผมอีกเหรอ?
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด