"ไปให้พ้นหน้าข้า"
"ไท่จือโปรดฟ้งข้าก่อน"
รอยยิ้มหยันสุดป่าเถื่อนของต้าหมิงคุนเขม้นมองเหมือนจะฉีกเนื้อหนังของลี่หลันเล่อฉุดดึงร่างสั่นเทาด้วยลมหนาวและเกล็ดหิมะโปรยปรายให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้าสายตาที่มองไม่ต่างจากเดิมทว่ามืออุ่นภายใต้ถุงมืออุ่นนุ่มบีบปลายคางเย็นชืดสุดแรงจนลี่หลันเล่อต้องกัดฟันข่มความเจ็บปวด
"เจ้าส่งคนย่ำยีเมิ่งเม่ย แล้วปล่อยให้นางต้องตายเพื่อเจ้าสมหวัง ยังจะร้องขอให้ข้าฟังเจ้า ชิ"
ผลักลี่หลันเล่อให้ทรุดลงไปกองกับพื้น
"ข้า..ข้าไม่ได้ทำร้ายนาง..ได้โปรด"
ต้าหมิงคุนย่อกายลงจ้องมองใบหน้างดงาม ที่บัดนี้ริมฝีปากซีดเผือดด้วยความหนาวเหน็บ
"เจ้าหลงใหลใฝ่ฝันในตัวข้า.. มากเพียงนี้เชียวหรือคุณหนูลี่"
จ้องมองลี่หลันเล่อ ยกมืออุ่นขึ้นลูบที่แก้มเย็นเฉียบ ใบหน้าหล่อเหลากับท่าทีสง่างามที่ลี่หลันเลอคอยเฝ้าชื่นชมก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ทว่ามือใหญ่กับฉีกดึงอาภรณ์จนขาดหวิ่น ลี่หลันเล่อยกมือขึ้นปกปิดส่วนสำคัญของร่างกาย รอยยิ้มหยามเหยียดเย็นชาถูกแต้มที่ริมฝีปากหยักได้รูป
"เมิ่งเม่ย นางอ่อนต่อโลกไม่ได้ด้านชาเช่นเจ้านางจะต้องเจ็บปวดเพียงใดเมื่อถูกย่ำยี"
สายตาเกลียดชังยิ่งนัก
"ไท่จือ ข้าไม่ได้ส่งคนทำร้ายนาง ข้าไม่ได้ทำ นางเป็นสหายข้าข้าจะทำเรื่องแบบนี้ทำไมกัน เพื่อประโยชน์ใดกัน"
"เจ้าไม่ให้ข้าสนใจนางหมดหวังในตัวนาง เจ้ามันชั่วช้า ถึงจะไม่ตั้งใจฆ่านางแต่คนเช่นนางจะอยากมีชีวิตอยู่ด้วยถูกกระทำย่ำยีหรือไร"
สะบัดเสียง ลี่หลันเล่อเชิดหน้า เมิ่งเมิ่งเหนือกว่าลี่หลันเล่อในทุกด้านอย่างนั้นหรือ
"คุกเข่า อยู่ตรงนี้จนรุ่งสางบางทีข้าอาจละเว้นชีวิตเจ้า"
ไร้ทางออก จิตใจมืดมิดจมดิ่งไร้หนทาง เสียงลมหวีดหวิวเกล็ดหิมะโปรยปราย การตายของเมิ่งเม่ยยิ่งทำให้ต้าหมิงคุนเกลียดชังลี่หลันเล่อยิ่งขึ้น
……………………………………………………
"ข้ามองไท่จือต่างจากเจ้าหลันเล่อสายตาเจ้าชื่นชมเขาเสมอข้ารู้ดี"
เมิ่งเม่ยผู้ชึ่งเอ่ยปากออกมาเองว่าไม่เคยถูกใจไท่จือต้าหมิงคุนไม่เคยชอบแต่ต้าหมิงคุนผู้หยิ่งทะนง รักใคร่คาดหวังในตัวนางอย่างที่สุด
คุณหนูตระกูลลี่ผู้มากด้วยอำนาจเป็นบุตรีที่ถูกเลี้ยงดูด้วยความรักและตามใจ ลี่หลันเล่อที่คาดหวังในตัวของไท่จือจนออกนอกหน้าไม่สนใจคำทัดทานหรือท่าทีเดียจฉันท์ที่ต้าหมิงคุนมีให้ เขาสูงส่งลี่หลันเล่อก็สูงส่ง เช่นไรจึงไม่คู่ควร
ค่ำคืนหนาวเหน็บผ่านไปพร้อมกับเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาให้ทบทวน แม้ร่างกายจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงใบหน้าซีดเผือดแต่ความหยิ่งทะนงยังคงอยู่ ไม่ได้ทำแล้วคุกเข่าเพื่ออะไรกัน
มีเพียงลี่หลันเล่อที่รู้ดีคุกเข่าเพื่อ ร้องขอให้ต้าหมิงคุนยอมฟังถ้อยความจริงใจ ด้วยศรัทธาแรงกล้าว่าเขาจะมีเศษเสี้ยวใจเมตตาลี่หลันเล่อบ้าง แม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม ริมฝีปากสั่นระริกร่างกายสั่นเทา เกล็ดหิมะเกาะอยู่บนเรีอนผมหยาบกระด้าง บิดามารดาหายตัวสาปสูญตั้งแต่เกิดเรื่อง มีเพียงลี่หลันเล่อที่เดินเข้ามาสู่ประตูตำหนักบูรพา เพียงเพื่อคิดว่าต้าหมิงคุนจะยอมยกโทษให้ ประตูไม้หนักอึ้งเปิดอ้าออก องครักษ์หนุ่มก้าวออกมาจากบานประตูนั้น วางอาภรณ์ตัวใหม่ลงตรงหน้า
สายตาเย็นเยียบมองผ่านเลยเหมือนลี่หลันเล่อเป็นเพียงเกล็ดหิมะบนพื้น
"ไท่จือให้ท่าน.. คุณหนูลี่ไปเสียจากตำหนักบูรพา"
"จื่อจื่อ ท่านฟังข้าก่อน”
ใบหน้าขององครักษ์หนุ่มยังเฉยชา
“ไท่จือไม่ให้ท่านตายก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว ไปเสีย”
“จื่อจื่อข้าอยากพูดด้วยความสัตย์ท่านฟังข้า ข้าไม่เคยคิดทำร้ายเมิ่งเม่ย ไม่ใช่ข้า ข้าไม่เคยคิดจะปองร้ายนางด้วยซ้ำไป”
“คิดจะให้ข้าส่งต่อข้อความนี้กับไท่จือหรือไร หากไม่ใช่คุณหนูลี่แล้วจะมีผู้ใดที่คิดทำเรื่องต่ำช้าอย่างนี้ได้ ใต้หล้าไม่มีใครกล้ากับคุณหนูลี่ ใต้หล้ามีสิ่งใดที่คุณหนูลี่ต้องการแล้วไม่ได้มาครอบครอง นอกจากหัวใจของไท่จือ ท่านจึงเกลียดชังเมิ่งเม่ย ถึงกับส่งคนย่ำยีนางแล้วฆ่านางเสีย เมิ่งเม่ยเป็นน้องสาวคนเดียวของข้า คิดหรือว่าข้ายังจะเชื่อคำพูดของคุณหนูลี่”
ลี่หลันเล่อถึงกับเซถลาทำไมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเมิ่งเม่ยเป็นน้องสาวของจื่อจื่อ
ดั้นด้นมาที่นี่คนเดียวยอมคุกเข่าทั้งคืนเพื่อให้คนสองคนเกลียดชัง
จื่อจื่อหันหลังกลับเข้าไปด้านใน ประตูไม้หนักอึ้งถูกปิดลง
เมิ่งเม่ยเป็นน้องสาวของจื่อจื่อมิน่าเล่าไท่จือจึงพบนางแล้วหลงใหล ท่าทีอ่อนหวานของนาง ลี่หลันเล่อโง่งม ยิ้มหยันให้กับสวรรค์ เมิ่งเม่ยเผชิญเคราะห์กรรมแต่นางกลับทิ้งรอยร้าวและบาปเคราะห์ไว้กับลี่หลันเล่อ
"ไท่จือนางไปแล้ว"
"ให้พ่อค้าทาสจับนางไปขายเสีย"
"ไท่จือ ท่านไม่กลัวว่า.."
"ความผิดของนางหลักฐานชัดแจ้งเสด็จพ่อให้ข้าตัดสินใจเพียงลำพัง นางส่งคนทำร้ายเมิ่งเม่ยจนตาย เจ้าคิดว่ามากไปหรือ ยึดทรัพย์ตระกูลนางบิดามารดานางหนีไปแล้วก็ช่างแต่นางต้องรับโทษทัณฑ์"
"ปะปะเปล่า ขอบพระทัยไท่จือที่คืนความเป็นธรรมให้กับเมิ่งเม่ย"
ลี่หลันเล่อโซเซกลับไปยังตระกูลลี่ ที่ยิ่งใหญ่บัดนี้กลับเงียบงัน ข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจายจากหัวขโมยที่ได้โอกาสในการหาประโยชน์ในตระกูลลี่ไท่จือผู้ยิ่งใหญ่ ต้าหมิงคุนอำนาจล้นมือถือโอกาสนี้จัดการตระกูลลี่ที่ยิ่งใหญ่และจัดการคุณหนูลี่ที่เขาเกลียดชังลี่หลันเล่อทรุดกายลงบนขั้นบันได ลมหนาวยังพัดโชยบิดามารดาคงเร้นกายห่ยไปจากแคว้นนี้เสีย ในเมื่อต้าหมิงคุนมักจะไม่ปล่อยให้มีชีวิตสุขสบายหากบาดหมางกับเขาลุกขึ้นเดินไปยังห้องเดิมที่เคยนอน รื้อค้นจนทั่วอยากให้มีของสำคัญพอให้ได้เบิกทาง ตื่นเต้นดีใจอย่างยื่ง เมื่อค้นเจอถุงเงินเก่าที่เคยวางทิ้งขว้างไม่มีความหมายยามครั้งที่ ยังไม่เกิดเรื่องขึ้นบุรุษท่าทางกักขฬะสองสามคนยืนรายล้อมถุงเงินถูกดึงไปไว้ในมือของหนึ่งในชายร่างใหญ่ ลี่หลันเล่ออ้าปากค้างหันหลังออกวิ่งแต่ช้าไป"ไปกับเรา เจ้าหน้าตางดงามเพียงนี้คงขายได้ราคา""จะได้ราคาอย่างไรเราต้องการแรงงานเพื่อทำงานหนักแต่ดูแม่นางน้อยเร่ร่อนคนนี้สิไร้เรี่ยวแรงใครกันจะซื้อ"อีกคนแย้งขึ้น"หมิงคุนไท่จือบอกให้นำตัวนางไปขายก็ต้องน้อมบัญชาไท่จือ ไม่แน่อาจมีใครเห็นนางแล้วถูกใจซื้อไปเป็นเมียทาสหรือสาวใช้ไว้ปรนเปรอ
“ซือฟุ ท่านมาขวางข้าทำไม คนจากแคว้นหานข้าอยากเห็นว่าจะมีใบหน้าเหมือนอาจารย์ไหม”“เหมือนข้า องค์หญิงชอบหรือไม่”ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆจ้องตาใสของอีกคน“ชอบซี้ ชอบมากเลยทีเดียว ซือฟุเราไปดูพวกเขากัน”คว้ามือของอีกคนวิ่งลิ่วไปยัง ท้องพระโรง“หลันเล่อ องค์หญิงรองมานี่” หันซ้ายหันขาวยืนบิดไปบิดมาเมื่อพระสนมของบิดา เอ่ยปากทักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“หลันเล่อถวายพระพรเสด็จพ่อเสด็จแม่พระสนมลู่ฟาง พี่ใหญ่”ย่อกายลงเงอะงะไม่ได้มีท่าทีอ่อนหวานแม้แต่น้อย“ฮองเฮา เจ้าตามใจนางจนเคยตัวไม่สำรวมสักนิด หลันเล่อวันนี้มีแขกเมืองฮ่องเต้แคว้นหาน เสด็จเยี่ยมเยือนเผ่าปาเอ่อถัวของเราเจ้าไม่สำรวมเช่นนี้ ยังกล้ามาวุ่นวาย”หลบอยู่ด้านหลังสนมลู่ฟางที่ยกมือขึ้นคว้ามือของหลันเล่อใว้อย่างปลอบโยน ฮองเฮาหน้าตึง“ฝ่าบาทนางยังเด็กนัก พร่ำสอนอีกไม่นานจะกลายเป็นองค์หญิงที่งดงามในไม่ช้า”ก้มหน้าซ่อนยิ้มภายใน"ฮ่องเต้แคว้นหานมาดีมาร้ายไม่อาจหยั่งรู้ หลันเล่อเข้าไปข้างใน"องค์ชายใหญ่ส่งสายตาดุดันมายังหลันเล่ออย่างจงใจทำให้หลันเล่อหดหัวไม่กล้า อีกทั้งยังก้มหน้านิ่ง" ถงหมิ่นพานางกลับไปที่ห้องนาง"องค์ชายใหญ่ออกไปสำทับเมื่อเห็นว่าทั้
หลันเล่อยิ้มแม้ภายนอกจะดูเหมือนไม่ดื้อรั้นแต่ภายในหลันเล่อกับรู้สึกว่า ในตอนนี้ไม่มีใครดีไปกว่าถงหมิ่น“หลันเซ่อฮ่องเต้ มีท่าทีเช่นไร”ต้าหมิงคุน ยืนเอามือไพล่หลังสิบแปดปีที่ผ่านมาใบหน้าแม้จะไร้รอยยิ้มทว่า กลับหล่อเหลาในแบบของบุรษหนุ่มที่องอาจสายตาประดุจเหยี่ยวคมกริบ หนวดเครารกครึ้ม“ก็เพียงแต่ตัดพ้อ ความจริงฝ่าบาทไม่จำเป็นไปที่นั่นก็ได้ ไม่เห็นว่าจะต้องให้ความสำคัญกับเผ่าเล็กๆ เช่นนั้น”“หลันเซ่อ หมดความน่าเกรงขามแล้ว หลันตี้ต่างหากที่ข้ากังวล หลันตี้ผู้ซึ่งตอนนี้ มีอำนาจยิ่งใหญ่ไม่แพ้หลันเซ่อแล้วอีกอย่างตอนนี้หลันตี้ เจรจากับเผ่าต่างๆ รวบรวมชนเผ่าเป็นปึกแผ่น นับว่าน่าหวั่นใจไม่น้อย”“ฝ่าบาทก็ทำแบบเดิม ที่แคว้นหานมักจะเดินหมากในรูปแบบเดิม”“สานสัมพันธ์โดยการแต่งงานอย่างนั้นหรือ.. ข้ายังไม่มีรัชทายาท เรื่องนี้คงต้องเลิกล้ม”“ฝ่าบาท ข้าน้อยได้ยินมาว่า องค์หญิงรองเพิ่งจะโตตอนนี้งดงามจนเล่าขานไปทั่ว หลายชนเผ่าที่ยอมสวามิภักดิ์กับปาเอ่อถัวเพราะหมายมั่นองค์หญิงรองผู้นี้”“ข้าบอกว่าขายังไม่มีรัชทายาทหากจะมีก็คงจะไม่ทันกาล”“ฝ่าบาท ฝ่าบาทเองยังไร้ฮองเฮา”ต้าหมิงคุน ขมวดคิ้วนานแค่ไหนแล้วที่เข
"ไม่น้าาาาจะตายไม่ได้ได้นะ ห้ามตายตรงนี้เจ้าคนถ่อย ลุกขึ้นมาข้าสั่งไม่ให้ตายจะตายทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่บนตัวข้าไม่ได้น้าาาา" ทั้งผลักทั้งดันร่างสูงที่หนวดเครารุงรังแต่ด้วยร่างสูงที่ทั้งใหญ่ทั้งหนักหลันเล่อจึงเปลี่ยนวิธียกมือขึ้นกอดรวบลำตัวมือบางวางที่แผ่นหลังของเหลวเหนียวหนึบ หลันเล่อจ้องมือบางที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของตัวเอง"บาดเจ็บนี่"พลิกร่างสูงลงด้านล่างตัวเองนอนทับด้านบน หอบแฮ่กๆ"คนอะไรตัวใหญ่เป็นบ้า ไปตามอาจารย์มาดีกว่า ไม่ได้สิต้องจัดการกับบาดแผลเสียก่อนค่อยตามอาจารย์"ดึงมีดสั้นออกมาจากเอวขมวดคิ้วจรดมีดสั้นลงที่ลำคอของต้าหมิงคุน ลากมือขึ้นลงเบาๆ"ไม่มีหนวดเคราแล้วค่อยดูดีมาหน่อย อีกอย่างพวกที่ตามล่าก็จะจำไม่ได้"พลิกร่างใหญ่ให้นอนคว่ำหน้าด้วยแรงทั้งหมด ตัดเศษอาภรณ์ด้านหลังของต้าหมิงคุนออก แผลยาวเหวอะหวะฟาดยาวบนแผ่นหลัง ดึงถุงน้ำกระเพาะแพะมารินน้ำใส่ผ้าจนชุมเช็ดรอบๆ บาดแผล"ไปปล้นฆ่าใครเขามา จึงถูกตามล่าเช่นนี้ แต่หายห่วงถึงมือหลันเล่อแล้วจะต้องปลอดภัย" หยิบยาสมานแผลขวดเล็กที่พกติดตัวเป็นประจำ ก็หลันเล่อมักจะบาดเจ็บมีบาดแผลเล็กน้อยไปทั่วกาย ถงหมิ่นจึงยัดยาสมานแผลใส่มือให้ตั
"ไม่เอาดีกว่าท่านมีคนดูแลแล้ว ข้าไปก่อนดีกว่า”ก้าวขาจากไป จื่อจื่อพยุงต้าหมิงคุนนั่งพิงต้นไม้ใหญ่“นางยั่วโทสะข้า”“นางน่าเอ็นดูอีกอย่างใบหน้าของนางช่างละม้ายกับแม่นางลี่แล้วยังมีชื่อเดียวกันด้วย” ต้าหมิงคุนยกมือขึ้นลูบหนวดเคราด้วยความรู้สึกแปลกไป ความจริงก็ดีไม่น้อยไม่มีหนวดเคราก็รู้สึกว่าใบหน้าสะอาดสะอ้าน ถอนหายใจกับคำว่าหล่อเหลาของแม่นางน้อยหลันเล่อ“เจอตัวหรือไม่”หลันตี้ ถามหัวหน้าโจรจิ้งจอกดำ“ไม่เจอ ข้าส่งคนติดตามจนทั่วไม่พบแม้แต่เงา”หานจงหัวหน้าโจรพรรคจิ้งจอกดำส่ายหน้าไปมา“เรื่องง่ายดายทำให้เป็นเรื่องยาก อยู่ในเผ่าปาเอ่อถัวของเราจะสังหารคนล้วนง่ายดาย ข้ามักจะเปิดโอกาสให้พวกท่านได้ทำตามใจ ของที่ปล้นมาก็ไม่เคยเอาส่วนแบ่งเรื่องแค่นี้กลับทำไม่สำเร็จ”“ต้าหมิงคุนได้รับบาดเจ็บสาหัส หากองค์ชายเพียงแค่ห้ามหมอในปาเอ่อถัวให้การรักษา คาดว่าบาดแผลอาจมีปัญหาในภายหลัง”“โง่เสียจริงข้าจะสั่งแบบนั้นได้อย่างไร พรุ่งนี้พระสนมลู่ฟางก็จะต้องรับเอาหลานคนโปรดต้าหมิงคุนเข้ามาในวังหลวงอยู่แล้ว ความจริงควรจะจัดการให้สำเร็จในคืนนี้”“ข้าส่งคนไปแล้วองค์ชายวางใจ ข้าจะทำให้ดีที่สุดตามที่ตกลงกันไว้”“เ
“ฝ่าบาท” ถงหมิ่นคุกเข่าลงตรงหน้า“ถงหมิ่น”ดีใจอย่างเห็นได้ชัด“ปลอดภัยดีหรือไม่ ถงหมิ่นมาช้าไป”ต้าหมิงคุน ยิ้มบางๆ“ไม่เท่าไหร่ยาสมานแผลของ เผ่าปาเอ่อถัวได้ผลชะงัดนักตอนนี้อาการของข้าดีขึ้นไม่น้อย”“ฝ่าบาทแล้วแล้วทำไม”อยากจะถามเรื่องหนวดเคราแต่ไม่กล้า“องค์หญิงรอง เจ้าของยาสมานแผลคนนั้นเป็นคนจัดการ หนวดเครารุงรังของฝ่าบาท”จื่อจื่อพูดไปยิ้มไป ถงหมิ่นกลั้นหัวเราะ“องค์หญิงรองยังเด็กนักอีกอย่างนางมีความคิดความเห็นน่าเอ็นดู ถงหมิ่นมักจะยอมแพ้ให้แก่องค์หญิงเสมอ”“ท่านน้าเป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือไม่”เปลี่ยนเรื่องพูดเสีย“พระสนมสบายดีอย่างยิ่ง ความจริงวันพรุ่งนี้พระสนมจะเสด็จยังกระโจมของฝ่าบาทแต่ มาเกิดเรื่องอย่างนี้เสียก่อน ถงหมิ่นจึงทูลเชิญเสด็จยังวังหลวงของเผ่าปาเอ่อถัว อย่างน้อยคงไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปทำร้ายฝ่าบาทถึงในเขตวังหลวง”“จอมโจร จิ้งจอกดำ”จื่อจื่อพูด“น่าแปลก ปกติจอมโจรจิ้งจอกดำออกปล้นสะดมอยู่ตามตะเข็บชายแดนแคว้นใต้กับเผ่าปาเอ่อถัวไม่ปรากฏว่าเข้ามาปล้นสะดมถึงนี่”“เจ้าหมายความว่ามีคนบงการจอมโจรจิ้งจอกดำอย่างนั้นหรือ”“ฝ่าบาทไม่ได้การแล้ว เชิญเสด็จที่วังหลวงเสียตอนนี้เลยด
ต้าหมิงคุนขมวดคิ้ว“ท่านน้าแต่ท่านยังอยู่ เผ่าปาเอ่อถัวจะกล้าทำเรื่องที่ผิดกับท่านน้าหรือ”“ข้าเป็นสนมของหลันเซ่อไม่ใช่สนมของหลันตี้ ฉะนั้นหลันตี้กับฮองเฮาไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า หลันตี้ตอนนี้อำนาจล้นมือ ฝ่าบาทเชื่อน้าท่านจะต้องรีบจัดการเรื่องนี้ทันที ก่อนที่ไท่จือของแคว้นใต้จะเสด็จมาตามหนังสือที่ฮองเฮาส่งไป”“ท่านน้าหลานยังไม่ต้องการใครในตอนนี้”“ฝ่าบาท นางเหมาะสมในทุกด้านอีกทั้งนางยังช่วยส่งเสริมตำแหน่งฮ่องเต้ของฝ่าบาทเผ่าปาเอ่อถัวทรัพยากรมากมาย แคว้นน้อยใหญ่ต่างต้องการครอบครองหลายปีมานี้ข้าแต่งมาเป็นสนม สินค้ามากมายถูกส่งไปยังแคว้นหานนำความรุ่งเรือง หากฝ่าบาท ยังคิดเห็นแก่ตัวเอง เกรงว่าแคว้นหานจะถูกโดดเดี่ยวหลันตี้พยายามจะรวบรวมชนเผ่า ฮองเฮาต้นกำเนิดของนางก็มาจากแคว้นใต้”“จะให้นางไปอยู่ในฐานะใดกันในเมื่อหลานไม่ต้องการหญิงใดในตอนนี้”“ฝ่าบาทเมิ่งเม่ยงดงามอ่อนหวานฝ่าบาทที่เคยชื่นชอบก็ปฏิเสธนาง น้าอยากให้ฝ่าบาท เปิดใจมองหญิงใดสักคนเพื่อรั้งตำแหน่งฮองเฮา หากไม่ขัดใจนักยกตำแหน่งฮองเฮาให้กับหลันเล่อเสีย เผ่าปาเอ่อถัวจึงไม่กล้าที่จะหักหาญน้ำใจแคว้นหานอีกต่อไป”“หลานเข้าใจแล้ว จื่อจื่อเล่า
“เจ้าชอบถงหมิ่นหรือ”น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ“แน่นอน ข้าต้องชอบเขาซี้ ไม่อย่างนั้นจะยอมให้มาเป็นอาจารย์ข้าหรือ อาจารย์ตามใจข้าดีกับข้ามากกว่าพี่ใหญ่เสียอีก”ลดเสียงให้เบาลงในตอนท้าย“ถ้าเจ้ายอมแต่งข้าสัญญาจะให้อาจารย์คอยไปอารักขาเจ้าที่นั่น”“ไม่ไม่ไม่ แล้วพระสนมเล่าใครจะคอยอารักขานาง”“พระสนมมีเสด็จพ่อของเจ้าที่รักนางยิ่ง ข้าจะส่งองครักษ์คนใหม่มาในภายหลัง”หลันเล่อลืมเรื่องที่จะพูดเสียหมด“จริงๆ นะท่านต้องส่งคนมาใหม่ข้าสงสารพระสนม วันๆมีแต่อาจารย์กับข้าที่คุยเรื่องแคว้นหานกับนาง หากอาจารย์ไปเสีย ข้าไปเสียใครจะคุยเรื่องแคว้นหานให้นางหายคิดถึงบ้าน”ต้าหมิงคุนถอนหายใจ“ข้าสัญญา” หลันเล่อวิ่งไปเขย่ามืออย่างแรง“ขอบคุณท่านจริงๆ”ยิ้มทั้งสีหน้าและแววตา“ตกลงจะยอมแต่งแล้วใช่ไหม”ทอดเสียงอ่อนโยน“ขะ ข้า ก็ยังกลัวอยู่ดี”เสียงอ่อนลง“ไม่แต่งกับข้าก็ยังมีไท่จือร่างยักษ์ของแค้วนใต้ กับหัวหน้าจอมโจรจิ้งจอกดำที่กำลังจะมาสู่ขอเจ้า”โกหกเรื่องไท่จือร่างยักษ์“ท่านรู้ได้อย่างไร”ถามด้วยความไม่แน่ใจ“เลิกเรียกข้าว่าท่านได้แล้ว ต้องเรียกข้าว่าฝ่าบาท”ตำหนิด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หลันเล่อยิ้มเจื่อนๆ“ท่านอ