ลี่หลันเล่อโซเซกลับไปยังตระกูลลี่ ที่ยิ่งใหญ่บัดนี้กลับเงียบงัน ข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจายจากหัวขโมยที่ได้โอกาสในการหาประโยชน์ในตระกูลลี่
ไท่จือผู้ยิ่งใหญ่ ต้าหมิงคุนอำนาจล้นมือถือโอกาสนี้จัดการตระกูลลี่ที่ยิ่งใหญ่
และจัดการคุณหนูลี่ที่เขาเกลียดชัง
ลี่หลันเล่อทรุดกายลงบนขั้นบันได ลมหนาวยังพัดโชยบิดามารดาคงเร้นกายห่ยไปจากแคว้นนี้เสีย ในเมื่อต้าหมิงคุนมักจะไม่ปล่อยให้มีชีวิตสุขสบายหากบาดหมางกับเขา
ลุกขึ้นเดินไปยังห้องเดิมที่เคยนอน รื้อค้นจนทั่วอยากให้มีของสำคัญพอให้ได้เบิกทาง ตื่นเต้นดีใจอย่างยื่ง เมื่อค้นเจอถุงเงินเก่าที่เคยวางทิ้งขว้างไม่มีความหมายยามครั้งที่ ยังไม่เกิดเรื่องขึ้น
บุรุษท่าทางกักขฬะสองสามคนยืนรายล้อมถุงเงินถูกดึงไปไว้ในมือของหนึ่งในชายร่างใหญ่ ลี่หลันเล่ออ้าปากค้างหันหลังออกวิ่งแต่ช้าไป
"ไปกับเรา เจ้าหน้าตางดงามเพียงนี้คงขายได้ราคา"
"จะได้ราคาอย่างไรเราต้องการแรงงานเพื่อทำงานหนักแต่ดูแม่นางน้อยเร่ร่อนคนนี้สิไร้เรี่ยวแรงใครกันจะซื้อ"
อีกคนแย้งขึ้น
"หมิงคุนไท่จือบอกให้นำตัวนางไปขายก็ต้องน้อมบัญชาไท่จือ ไม่แน่อาจมีใครเห็นนางแล้วถูกใจซื้อไปเป็นเมียทาสหรือสาวใช้ไว้ปรนเปรอโชคดีหน่อยอาจเป็นอนุ"
หมิงคุนไท่จือ หมิงคุนไท่จือไม่ให้ตายแต่ให้อยู่ไม่สู้ตาย เขารักใครเมิ่งเม่ยจนยัดเยียดบาปเคราะห์ให้กับลี่หลันเล่อได้เพียงนี้เชียวรึ ฮ่องเต้ชราก็ปิดหูปิดตา ปล่อยให้ไท่จือกระทำตามใจถือว่าเป็นการล้างไพ่ในมือ ไพ่ตัวสำคัญอย่างใต้เท้าลี่บิดาของลี่หลันเล่อ
นอกเขตวังหลวง
"เดิน เดินเร็วเข้าชักช้าอยู่ได้"
ลี่หลันเล่อในอาภรณ์ขะมุกขะมอมถูกมัดมือติดกับทาสคนอื่นโยงลากจูงกันไปในซอกเขา
ท้องหิวกายเหนื่อยหมดเรี่ยวแรง
"ข้าเอาคนนี้ คนนี้แล้วก็คนนี้"
มืออ้วนน่าเกลียดชี้มาที่ร่างโซเซของลี่หลันเล่อ
"ดีแค่ไหนที่ไม่ต้องเดินไปถึงชายแดนที่นี่ยังมีงานหนักให้ทำ"
พ่อค้าทาสเอ่ยปากปลอบใจแบบจอมปลอม ความจริงดีใจยิ่งที่ไม่ต้องรับภาระพาพวกทาสไปถึงชายแดนเสียค่าอาหารให้เสียเปล่าๆ ลี่หลันเล่อถูกแก้มัดออก
"งานหนักของข้าแค่เพียงขุดแร่"
"นายท่านส่งแร่เข้าไปในวังหลวงคงได้เงินมากมาย"
ปากก็พูดมือก็แกะเชือกที่รัดมือทั้งสองข้างออก
"งานที่มีทำไม่ทันต้องหาคนขุดแร่เพิ่ม"
ลี่หลันเล่อหลุดจากเชือกที่มัด วิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วลี่หลันเล่อไม่มีทางทำงานหนักแบบนั้น นางสูงส่งไม่อาจลดตัว
"ทาสหนีพวกเจ้าตามจับตัวนางมาข้าจะลงโทษให้หนัก"
ล้มลุกคลุกคลานก็ยังหนีหนามเกี่ยวไม้เกาะก็วิ่งไม่หยุด
จนสุดท้ายจนมุมอย่างช่วยไม่ได้ บุรุษร่างกำยำทั้งดึงทั้งลากร่างอ่อนระโหยโรยแรงไปกับพื้น
“เจ้า อดยากมาหลายวัน ข้าขายไปจะได้กินอิ่มหนำยังหนีได้อีก ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนพวกเจ้าสั่งสอนนางต่อไปนางจะได้หลาบจำไม่กล้าหนีอีก”
หลายมือหลายเท้าต่างลงมือไม่อายนรกสวรรค์ ลี่หลันเล่อเจ็บแต่ไม่อาจร้องขอความเมตตารู้ดีว่าเปล่าประโยชน์ ได้แต่ยกมือกุมท้องที่โดนทั้งทุบทั้งตี
“จำไว้คราวหลังห้ามคิดหนีไปไหนอีก เป็นทาสหากไม่ยอมเชื่อฟังก็จะเจ็บตัวแบบนี้”
“นาง เป็นใครกันใบหน้าเมื่อก่อนคงงดงามไม่น้อย แต่ยามนี้คงลำบากยิ่งเห็นได้ชัดว่าซูบลงมากหากกินอิ่มนอนหลับคงดูดีกว่านี้”
“นางผู้นี้ไม่รู้นางทำอะไรให้ ไท่จือหมิงคุนไม่พอใจ จึงถูกสั่งให้ข้าจับตัวมาขายบ้านแตกสาแหรกขาด แล้วยังต้องมาเป็นทาส ดูนางตอนนี้สิเหมือนซากศพก็ไม่ปาน”
ลี่หลันเล่อกระอักเลือดสดๆ ออกมาดวงตาพร่ามัว ความเจ็บปวดที่มากมายทำเอา ร่างกายสั่นสะท้านหนาวร้อนจนไม่อาจแยกแยะ
“ข้าขอโทษ หลันเล่อ”
เสียง กระซิบแผ่วเบาของเมิ่งเม่ยดังจากที่ไกลแสนไกลน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ดวงตาเย้ยหยันเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
"ข้าไม่มีทางอภัยให้ท่านต้าหมิงคุน"
วังหลวงแคว้นหาน
“ไท่จือ คุณหนูลี่นางตายแล้ว”
“ตายหรือ จะไม่ง่ายไปหน่อยหรือไร” จื่อจื่อก้มหน้า
ทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาประสานมือตรงหน้าด้วยท่าทีร้อนรน
“ไท่จือ มีคนอ้างว่า เป็นแม่นางเมิ่งเม่ยขอเข้าพบไท่จือ”
18ปีผ่านไป
“องค์หญิง องค์หญิงเจ้าขาอย่าวิ่งเจ้าค่ะเดี๋ยวจะล้มลงไปแข้งขาเป็นรอย ไม่สวยนะเจ้าค่ะ”
ร่างบางระหงในอาภรณ์สีแดงสดตัดกับใบหน้าสว่างใสงดงาม ผิวขาวราวกับปุยนุ่นแต่ริมฝีปากกับมีสีแดงระเรื่อไม่ได้แต่งแต้ม คิ้วคมรับกับดวงตากลมเหมือนกำลังสงสัยใคร่รู้จมูกรั้นเชิดหยิ่ง เป็นใบหน้าของลี่หลันเล่อทว่านางกับน่าเอ็นดูยิ่งนักยังอ่อนโตโลกและไร้เดียงสา
“ข้าแค่อยากเห็นคนของแคว้นหานที่ยิ่งใหญ่ฮ่องเต้แคว้นหานมาถึงนี่ เจ้าไม่ตื่นเต้นหรือไร”
ร่างสูงชะลูดกอดกระบี่ ยิ้มอ่อนโยนตรงหน้าก่อนจะยกมือขวางร่างบางที่วิ่งมาหยุดนิ่งกอดที่จะถึงอ้อมแขนแข็งแรงนั้น
“ซือฟุ ท่านมาขวางข้าทำไม คนจากแคว้นหานข้าอยากเห็นว่าจะมีใบหน้าเหมือนอาจารย์ไหม”“เหมือนข้า องค์หญิงชอบหรือไม่”ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆจ้องตาใสของอีกคน“ชอบซี้ ชอบมากเลยทีเดียว ซือฟุเราไปดูพวกเขากัน”คว้ามือของอีกคนวิ่งลิ่วไปยัง ท้องพระโรง“หลันเล่อ องค์หญิงรองมานี่” หันซ้ายหันขาวยืนบิดไปบิดมาเมื่อพระสนมของบิดา เอ่ยปากทักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“หลันเล่อถวายพระพรเสด็จพ่อเสด็จแม่พระสนมลู่ฟาง พี่ใหญ่”ย่อกายลงเงอะงะไม่ได้มีท่าทีอ่อนหวานแม้แต่น้อย“ฮองเฮา เจ้าตามใจนางจนเคยตัวไม่สำรวมสักนิด หลันเล่อวันนี้มีแขกเมืองฮ่องเต้แคว้นหาน เสด็จเยี่ยมเยือนเผ่าปาเอ่อถัวของเราเจ้าไม่สำรวมเช่นนี้ ยังกล้ามาวุ่นวาย”หลบอยู่ด้านหลังสนมลู่ฟางที่ยกมือขึ้นคว้ามือของหลันเล่อใว้อย่างปลอบโยน ฮองเฮาหน้าตึง“ฝ่าบาทนางยังเด็กนัก พร่ำสอนอีกไม่นานจะกลายเป็นองค์หญิงที่งดงามในไม่ช้า”ก้มหน้าซ่อนยิ้มภายใน"ฮ่องเต้แคว้นหานมาดีมาร้ายไม่อาจหยั่งรู้ หลันเล่อเข้าไปข้างใน"องค์ชายใหญ่ส่งสายตาดุดันมายังหลันเล่ออย่างจงใจทำให้หลันเล่อหดหัวไม่กล้า อีกทั้งยังก้มหน้านิ่ง" ถงหมิ่นพานางกลับไปที่ห้องนาง"องค์ชายใหญ่ออกไปสำทับเมื่อเห็นว่าทั้
หลันเล่อยิ้มแม้ภายนอกจะดูเหมือนไม่ดื้อรั้นแต่ภายในหลันเล่อกับรู้สึกว่า ในตอนนี้ไม่มีใครดีไปกว่าถงหมิ่น“หลันเซ่อฮ่องเต้ มีท่าทีเช่นไร”ต้าหมิงคุน ยืนเอามือไพล่หลังสิบแปดปีที่ผ่านมาใบหน้าแม้จะไร้รอยยิ้มทว่า กลับหล่อเหลาในแบบของบุรษหนุ่มที่องอาจสายตาประดุจเหยี่ยวคมกริบ หนวดเครารกครึ้ม“ก็เพียงแต่ตัดพ้อ ความจริงฝ่าบาทไม่จำเป็นไปที่นั่นก็ได้ ไม่เห็นว่าจะต้องให้ความสำคัญกับเผ่าเล็กๆ เช่นนั้น”“หลันเซ่อ หมดความน่าเกรงขามแล้ว หลันตี้ต่างหากที่ข้ากังวล หลันตี้ผู้ซึ่งตอนนี้ มีอำนาจยิ่งใหญ่ไม่แพ้หลันเซ่อแล้วอีกอย่างตอนนี้หลันตี้ เจรจากับเผ่าต่างๆ รวบรวมชนเผ่าเป็นปึกแผ่น นับว่าน่าหวั่นใจไม่น้อย”“ฝ่าบาทก็ทำแบบเดิม ที่แคว้นหานมักจะเดินหมากในรูปแบบเดิม”“สานสัมพันธ์โดยการแต่งงานอย่างนั้นหรือ.. ข้ายังไม่มีรัชทายาท เรื่องนี้คงต้องเลิกล้ม”“ฝ่าบาท ข้าน้อยได้ยินมาว่า องค์หญิงรองเพิ่งจะโตตอนนี้งดงามจนเล่าขานไปทั่ว หลายชนเผ่าที่ยอมสวามิภักดิ์กับปาเอ่อถัวเพราะหมายมั่นองค์หญิงรองผู้นี้”“ข้าบอกว่าขายังไม่มีรัชทายาทหากจะมีก็คงจะไม่ทันกาล”“ฝ่าบาท ฝ่าบาทเองยังไร้ฮองเฮา”ต้าหมิงคุน ขมวดคิ้วนานแค่ไหนแล้วที่เข
"ไม่น้าาาาจะตายไม่ได้ได้นะ ห้ามตายตรงนี้เจ้าคนถ่อย ลุกขึ้นมาข้าสั่งไม่ให้ตายจะตายทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่บนตัวข้าไม่ได้น้าาาา" ทั้งผลักทั้งดันร่างสูงที่หนวดเครารุงรังแต่ด้วยร่างสูงที่ทั้งใหญ่ทั้งหนักหลันเล่อจึงเปลี่ยนวิธียกมือขึ้นกอดรวบลำตัวมือบางวางที่แผ่นหลังของเหลวเหนียวหนึบ หลันเล่อจ้องมือบางที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของตัวเอง"บาดเจ็บนี่"พลิกร่างสูงลงด้านล่างตัวเองนอนทับด้านบน หอบแฮ่กๆ"คนอะไรตัวใหญ่เป็นบ้า ไปตามอาจารย์มาดีกว่า ไม่ได้สิต้องจัดการกับบาดแผลเสียก่อนค่อยตามอาจารย์"ดึงมีดสั้นออกมาจากเอวขมวดคิ้วจรดมีดสั้นลงที่ลำคอของต้าหมิงคุน ลากมือขึ้นลงเบาๆ"ไม่มีหนวดเคราแล้วค่อยดูดีมาหน่อย อีกอย่างพวกที่ตามล่าก็จะจำไม่ได้"พลิกร่างใหญ่ให้นอนคว่ำหน้าด้วยแรงทั้งหมด ตัดเศษอาภรณ์ด้านหลังของต้าหมิงคุนออก แผลยาวเหวอะหวะฟาดยาวบนแผ่นหลัง ดึงถุงน้ำกระเพาะแพะมารินน้ำใส่ผ้าจนชุมเช็ดรอบๆ บาดแผล"ไปปล้นฆ่าใครเขามา จึงถูกตามล่าเช่นนี้ แต่หายห่วงถึงมือหลันเล่อแล้วจะต้องปลอดภัย" หยิบยาสมานแผลขวดเล็กที่พกติดตัวเป็นประจำ ก็หลันเล่อมักจะบาดเจ็บมีบาดแผลเล็กน้อยไปทั่วกาย ถงหมิ่นจึงยัดยาสมานแผลใส่มือให้ตั
"ไม่เอาดีกว่าท่านมีคนดูแลแล้ว ข้าไปก่อนดีกว่า”ก้าวขาจากไป จื่อจื่อพยุงต้าหมิงคุนนั่งพิงต้นไม้ใหญ่“นางยั่วโทสะข้า”“นางน่าเอ็นดูอีกอย่างใบหน้าของนางช่างละม้ายกับแม่นางลี่แล้วยังมีชื่อเดียวกันด้วย” ต้าหมิงคุนยกมือขึ้นลูบหนวดเคราด้วยความรู้สึกแปลกไป ความจริงก็ดีไม่น้อยไม่มีหนวดเคราก็รู้สึกว่าใบหน้าสะอาดสะอ้าน ถอนหายใจกับคำว่าหล่อเหลาของแม่นางน้อยหลันเล่อ“เจอตัวหรือไม่”หลันตี้ ถามหัวหน้าโจรจิ้งจอกดำ“ไม่เจอ ข้าส่งคนติดตามจนทั่วไม่พบแม้แต่เงา”หานจงหัวหน้าโจรพรรคจิ้งจอกดำส่ายหน้าไปมา“เรื่องง่ายดายทำให้เป็นเรื่องยาก อยู่ในเผ่าปาเอ่อถัวของเราจะสังหารคนล้วนง่ายดาย ข้ามักจะเปิดโอกาสให้พวกท่านได้ทำตามใจ ของที่ปล้นมาก็ไม่เคยเอาส่วนแบ่งเรื่องแค่นี้กลับทำไม่สำเร็จ”“ต้าหมิงคุนได้รับบาดเจ็บสาหัส หากองค์ชายเพียงแค่ห้ามหมอในปาเอ่อถัวให้การรักษา คาดว่าบาดแผลอาจมีปัญหาในภายหลัง”“โง่เสียจริงข้าจะสั่งแบบนั้นได้อย่างไร พรุ่งนี้พระสนมลู่ฟางก็จะต้องรับเอาหลานคนโปรดต้าหมิงคุนเข้ามาในวังหลวงอยู่แล้ว ความจริงควรจะจัดการให้สำเร็จในคืนนี้”“ข้าส่งคนไปแล้วองค์ชายวางใจ ข้าจะทำให้ดีที่สุดตามที่ตกลงกันไว้”“เ
“ฝ่าบาท” ถงหมิ่นคุกเข่าลงตรงหน้า“ถงหมิ่น”ดีใจอย่างเห็นได้ชัด“ปลอดภัยดีหรือไม่ ถงหมิ่นมาช้าไป”ต้าหมิงคุน ยิ้มบางๆ“ไม่เท่าไหร่ยาสมานแผลของ เผ่าปาเอ่อถัวได้ผลชะงัดนักตอนนี้อาการของข้าดีขึ้นไม่น้อย”“ฝ่าบาทแล้วแล้วทำไม”อยากจะถามเรื่องหนวดเคราแต่ไม่กล้า“องค์หญิงรอง เจ้าของยาสมานแผลคนนั้นเป็นคนจัดการ หนวดเครารุงรังของฝ่าบาท”จื่อจื่อพูดไปยิ้มไป ถงหมิ่นกลั้นหัวเราะ“องค์หญิงรองยังเด็กนักอีกอย่างนางมีความคิดความเห็นน่าเอ็นดู ถงหมิ่นมักจะยอมแพ้ให้แก่องค์หญิงเสมอ”“ท่านน้าเป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือไม่”เปลี่ยนเรื่องพูดเสีย“พระสนมสบายดีอย่างยิ่ง ความจริงวันพรุ่งนี้พระสนมจะเสด็จยังกระโจมของฝ่าบาทแต่ มาเกิดเรื่องอย่างนี้เสียก่อน ถงหมิ่นจึงทูลเชิญเสด็จยังวังหลวงของเผ่าปาเอ่อถัว อย่างน้อยคงไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปทำร้ายฝ่าบาทถึงในเขตวังหลวง”“จอมโจร จิ้งจอกดำ”จื่อจื่อพูด“น่าแปลก ปกติจอมโจรจิ้งจอกดำออกปล้นสะดมอยู่ตามตะเข็บชายแดนแคว้นใต้กับเผ่าปาเอ่อถัวไม่ปรากฏว่าเข้ามาปล้นสะดมถึงนี่”“เจ้าหมายความว่ามีคนบงการจอมโจรจิ้งจอกดำอย่างนั้นหรือ”“ฝ่าบาทไม่ได้การแล้ว เชิญเสด็จที่วังหลวงเสียตอนนี้เลยด
ต้าหมิงคุนขมวดคิ้ว“ท่านน้าแต่ท่านยังอยู่ เผ่าปาเอ่อถัวจะกล้าทำเรื่องที่ผิดกับท่านน้าหรือ”“ข้าเป็นสนมของหลันเซ่อไม่ใช่สนมของหลันตี้ ฉะนั้นหลันตี้กับฮองเฮาไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า หลันตี้ตอนนี้อำนาจล้นมือ ฝ่าบาทเชื่อน้าท่านจะต้องรีบจัดการเรื่องนี้ทันที ก่อนที่ไท่จือของแคว้นใต้จะเสด็จมาตามหนังสือที่ฮองเฮาส่งไป”“ท่านน้าหลานยังไม่ต้องการใครในตอนนี้”“ฝ่าบาท นางเหมาะสมในทุกด้านอีกทั้งนางยังช่วยส่งเสริมตำแหน่งฮ่องเต้ของฝ่าบาทเผ่าปาเอ่อถัวทรัพยากรมากมาย แคว้นน้อยใหญ่ต่างต้องการครอบครองหลายปีมานี้ข้าแต่งมาเป็นสนม สินค้ามากมายถูกส่งไปยังแคว้นหานนำความรุ่งเรือง หากฝ่าบาท ยังคิดเห็นแก่ตัวเอง เกรงว่าแคว้นหานจะถูกโดดเดี่ยวหลันตี้พยายามจะรวบรวมชนเผ่า ฮองเฮาต้นกำเนิดของนางก็มาจากแคว้นใต้”“จะให้นางไปอยู่ในฐานะใดกันในเมื่อหลานไม่ต้องการหญิงใดในตอนนี้”“ฝ่าบาทเมิ่งเม่ยงดงามอ่อนหวานฝ่าบาทที่เคยชื่นชอบก็ปฏิเสธนาง น้าอยากให้ฝ่าบาท เปิดใจมองหญิงใดสักคนเพื่อรั้งตำแหน่งฮองเฮา หากไม่ขัดใจนักยกตำแหน่งฮองเฮาให้กับหลันเล่อเสีย เผ่าปาเอ่อถัวจึงไม่กล้าที่จะหักหาญน้ำใจแคว้นหานอีกต่อไป”“หลานเข้าใจแล้ว จื่อจื่อเล่า
“เจ้าชอบถงหมิ่นหรือ”น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ“แน่นอน ข้าต้องชอบเขาซี้ ไม่อย่างนั้นจะยอมให้มาเป็นอาจารย์ข้าหรือ อาจารย์ตามใจข้าดีกับข้ามากกว่าพี่ใหญ่เสียอีก”ลดเสียงให้เบาลงในตอนท้าย“ถ้าเจ้ายอมแต่งข้าสัญญาจะให้อาจารย์คอยไปอารักขาเจ้าที่นั่น”“ไม่ไม่ไม่ แล้วพระสนมเล่าใครจะคอยอารักขานาง”“พระสนมมีเสด็จพ่อของเจ้าที่รักนางยิ่ง ข้าจะส่งองครักษ์คนใหม่มาในภายหลัง”หลันเล่อลืมเรื่องที่จะพูดเสียหมด“จริงๆ นะท่านต้องส่งคนมาใหม่ข้าสงสารพระสนม วันๆมีแต่อาจารย์กับข้าที่คุยเรื่องแคว้นหานกับนาง หากอาจารย์ไปเสีย ข้าไปเสียใครจะคุยเรื่องแคว้นหานให้นางหายคิดถึงบ้าน”ต้าหมิงคุนถอนหายใจ“ข้าสัญญา” หลันเล่อวิ่งไปเขย่ามืออย่างแรง“ขอบคุณท่านจริงๆ”ยิ้มทั้งสีหน้าและแววตา“ตกลงจะยอมแต่งแล้วใช่ไหม”ทอดเสียงอ่อนโยน“ขะ ข้า ก็ยังกลัวอยู่ดี”เสียงอ่อนลง“ไม่แต่งกับข้าก็ยังมีไท่จือร่างยักษ์ของแค้วนใต้ กับหัวหน้าจอมโจรจิ้งจอกดำที่กำลังจะมาสู่ขอเจ้า”โกหกเรื่องไท่จือร่างยักษ์“ท่านรู้ได้อย่างไร”ถามด้วยความไม่แน่ใจ“เลิกเรียกข้าว่าท่านได้แล้ว ต้องเรียกข้าว่าฝ่าบาท”ตำหนิด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หลันเล่อยิ้มเจื่อนๆ“ท่านอ
“ปกป้องตัวเจ้าเองเถิดหลันเล่อ ลี่หลันเล่อ”อยู่ๆ ก็เผลอเรียกชื่อลี่หลันเล่อออกมาแต่กลับเป็นเพียงเสียงแหบแห้งในลำคอ เขารู้สึกอย่างไรกัน“ไปดีกว่าข้าจะต้องไปร่างข้อตกลงให้ดีก่อนที่จะยอมไปกับท่านอา เอะก่อนอื่นต้องไปบอกข่าวดีกับอาจารย์ก่อนว่าเราจะได้ไปที่แคว้นหานด้วยกัน” วิ่งแน่บออกจากห้องไป จื่อจื่อก้าวเข้ามาทันทีจะได้เห็นต้าหมิงคุนถอนหายใจพอดี“ฝ่าบาทนางน่าเอ็นดูไม่น้อย”“ข้าไม่ได้รู้สึกอะไร”น้ำเสียงพยายามปรับไม่ให้เกิดอาการสะดุด“หากไม่รู้สึกอะไร ที่ผ่านมาฝ่าบาทก็คงรู้สึกผิดในเรื่องของคุณหนูลี่”“ข้าชดเชยให้นางแล้ว ตามบิดากับมารดานางกลับมาคืนทรัพย์สินและตำแหน่งขุนนางให้ในตอนที่ข้านั่งบัลลังก์ในตำแหน่งฮ่องเต้”พูดเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดี“แต่พวกเขาก็ไม่รับมัน อีกทั้งยังร้องไห้ฟูมฟายเมื่อรู้ว่าบุตรีเพียงคนเดียวของพวกเขาทุกข์ทรมานจนตาย”ต้าหมิงคุนกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ จื่อจื่อก้มหน้ารู้สึกผิดที่รื้อฟื้นเรื่องเก่าก่อน“นางไม่ใช่ลี่หลันเล่อ”“หรืออาจจะใช่เพียงแค่ เป็นนางที่เป็นคนใหม่ลืมเลือนทุกอย่างไปเสียสิ้นก่อนที่นางจะตาย นางต้องทนทรมานคงไม่อยากจดจำเรื่องเหล่านั้น ข้าน้อยเองอยากจะให้องค์หญิง