"ไม่เอาดีกว่าท่านมีคนดูแลแล้ว ข้าไปก่อนดีกว่า”
ก้าวขาจากไป จื่อจื่อพยุงต้าหมิงคุนนั่งพิงต้นไม้ใหญ่
“นางยั่วโทสะข้า”
“นางน่าเอ็นดูอีกอย่างใบหน้าของนางช่างละม้ายกับแม่นางลี่แล้วยังมีชื่อเดียวกันด้วย”
ต้าหมิงคุนยกมือขึ้นลูบหนวดเคราด้วยความรู้สึกแปลกไป ความจริงก็ดีไม่น้อยไม่มีหนวดเคราก็รู้สึกว่าใบหน้าสะอาดสะอ้าน ถอนหายใจกับคำว่าหล่อเหลาของแม่นางน้อยหลันเล่อ
“เจอตัวหรือไม่”
หลันตี้ ถามหัวหน้าโจรจิ้งจอกดำ
“ไม่เจอ ข้าส่งคนติดตามจนทั่วไม่พบแม้แต่เงา”
หานจงหัวหน้าโจรพรรคจิ้งจอกดำส่ายหน้าไปมา
“เรื่องง่ายดายทำให้เป็นเรื่องยาก อยู่ในเผ่าปาเอ่อถัวของเราจะสังหารคนล้วนง่ายดาย ข้ามักจะเปิดโอกาสให้พวกท่านได้ทำตามใจ ของที่ปล้นมาก็ไม่เคยเอาส่วนแบ่งเรื่องแค่นี้กลับทำไม่สำเร็จ”
“ต้าหมิงคุนได้รับบาดเจ็บสาหัส หากองค์ชายเพียงแค่ห้ามหมอในปาเอ่อถัวให้การรักษา คาดว่าบาดแผลอาจมีปัญหาในภายหลัง”
“โง่เสียจริงข้าจะสั่งแบบนั้นได้อย่างไร พรุ่งนี้พระสนมลู่ฟางก็จะต้องรับเอาหลานคนโปรดต้าหมิงคุนเข้ามาในวังหลวงอยู่แล้ว ความจริงควรจะจัดการให้สำเร็จในคืนนี้”
“ข้าส่งคนไปแล้วองค์ชายวางใจ ข้าจะทำให้ดีที่สุดตามที่ตกลงกันไว้”
“เรื่องน้องสาวของข้า องค์หญิงรองนะหรือข้ายังไม่ได้รับปากว่าจะทูลเสด็จพ่อเรื่องนี้”
“องค์ชาย แต่ข้าบอกท่านแล้วว่าที่ข้ายอมทำเรื่องทั้งหมดให้ท่านยอมเสี่ยงกับการยกทัพมาโจมตียอมเอาชีวิตของจอมโจรจิ้งจอกดำหลายร้อยชีวิตไปเสี่ยงก็เพราะว่าข้าแอบหมายปององค์หญิงรองหลันเล่อ เพียงท่านเอ่ยปากเชื่อว่าฝ่าบาทจะต้องไม่กล้าปฏิเสธ”
หลันตี้ยิ้มมุมปาก ใครกันอยากจะให้ลูกสาวหรือน้องสาวที่น่าเอ็นดูอย่างหลันเล่อต้องไปเป็นภรรยาจอมโจรมีชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ
“ไว้ข้าคุยกับเสด็จพ่อเรื่องนี้อีกที เจ้าทำสิ่งที่ข้ามอบหมายให้สำเร็จก่อนเถิด หานจง”
ลุกขึ้นสะบัดชายเสื้อจากไปในทันที
“องค์หญิงรองหายออกจากวังหลวงอีกแล้ว กงเจี้ยนตามหาองค์หญิงให้กลับมาได้แล้ว”
หลันตี้สั่งดังๆ
“องค์ชาย คงอยู่กับถงหมิ่นเป็นแน่ไม่ได้หายไปไหน”
“นั่นยิ่งต้องตามนางกลับมา ถงหมิ่นเป็นคนแคว้นหานข้าไม่เคยไว้ใจเขา”
“ขอรับ”
กงเจี้ยนประสานมือ คว้ากระบี่ออกจากห้องไปอีกคน
หลันเล่อสาวเท้ากลับวังหลวงเร็วรี่วันนี้ไม่ได้ร่ำสุราเหมือนเช่นทุกครั้งที่หนีออกมาป่านนี้แล้ว อาจารย์ก็คงกลับวังหลวงแล้วเช่นกัน
“อุ๊ป”
ถงหมิ่นกางมือออกขวางหน้าหลันเล่อไว้ยิ้มด้วยแววตาอ่อนโยน
“องค์หญิงรองหนีอะไรมา” พูดยิ้มๆ
“อาจารย์ ดีใจจังข้าคิดว่าต้อง เดินกลับวังหลวงเพียงลำพังเสียแล้ว”
ยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“ก็เลยคิดถึงอาจารย์ใช่หรือไม่”
“อาจารย์รู้ใจข้าที่สุด นี่ข้าเดินจนขาพังไปแล้ว”
ทรุดกายชันเข่านวดน่องเบาๆถงหมิ่นหันหลังให้
“มะ...อาจารย์แบกเจ้าไปดีไหม”
หลันเล่อกระโดดขึ้นหลังของถงหมิ่นในทันที
“ดีมาก ไม่เห็นข้าไปก็ไม่ยอมตามหาข้า ต้องทำคุณไถ่โทษโดยการแบกข้ากลับวังหลวง”
ถงหมิ่นยิ้ม
“เต็มใจอย่างยิ่ง”
แสงจันทร์กระจ่างกับร่างเล็กบนแผ่นหลังที่เจื้อยแจ้วไม่หยุด ถงหมิ่นฟังไปยิ้มไป กับคำถามที่หลันเล่อสรรหามาถามเขาตลอดทาง
“อาจารย์ เมื่อครู่หลันเล่อช่วยชีวิตคนผู้หนึ่งจากการถูกสังหาร”
ถงหมิ่นชะงักฝีเท้า
“ องค์หญิง ท่านทำเรื่องอันตรายเพียงนี้ คนผู้นั้นอาจไม่ใช่คนดี”
“ดีสิ เพราะเขารู้จักอาจารย์ เขายังบังคับให้ข้าตามอาจารย์ให้เขา”
"องค์หญิงเจอเขาที่ไหน”
“ป่าทางทิศใต้ก่อนถึงทางออกไปยังโรงเตี๊ยมที่เรามักจะพบกัน”
“องค์หญิง จากนี้ไปก็จะถึงตำหนักขององค์หญิงแล้ว ข้าน้อยขอตัว”
นั่งลงให้หลันเล่อลงจากแผ่นหลัง
“อ้าว ..อาจารย์ท่านไม่แบกข้าแล้วหรือ”
“อาจารย์มีเรื่องเร่งด่วนต้องไปทำ องค์หญิงอย่าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังอย่าบอกใครว่าคนผู้นั้นรู้จักกับอาจารย์”
หลันเล่อพยักหน้ายิ้มๆ
“หากเป็นคำสั่งอาจารย์หลันเล่อจะปกปิดให้เอง”
ยิ้มกว้างถงหมิ่นรีบทะยานจากไป
“ฝ่าบาท ต้าหมิงคุนมาในครั้งนี้ เป็นเพราะลู่ฟางส่งสารไปเชิญเขามา”
“ข้ารู้ เจ้าหวังดี”
“ฝ่าบาทหากจะรักษาดินแดนของเผ่าปาเอ่อถัวไว้ได้ ไม่มีการรุกรานจากเผ่าอื่นและแคว้นใต้จะต้องอาศัยแคว้นหาน”
“หลันเล่อเพิ่งจะสิบแปดอีกอย่างข้าไม่อยากฝืนใจนาง”
“ฝ่าบาท ต้าหมิงคุนยังไม่มีฮองเฮารับนางไปแคว้นหาน ข้าช่วยพูดเสียหน่อย ตำแหน่งฮองเฮาคงจะต้องเป็นหลันเล่ออย่างแน่นอน”
“หลันเล่อยังเด็กนักเกรงว่าชีวิตในวังหลวงแคว้นหาน จะทำให้นางต้องพบกับความทุกข์มากกว่าความสุข”
“ นางเป็นองค์หญิง เรื่องบ้านเมืองล้วนสำคัญเหนืออื่นใด”
“ไว้ข้าไตร่ตรองให้ดีกว่านี้ก่อน ไท่จือแคว้นใต้ก็กำลังจะส่งเครื่องบรรณาการมาสู่ขอนาง”
ลู่ฟางยิ้มอ่อนโยน
“ฝ่าบาทต้าหมิงคุน ไม่มีสิ่งใดบกพร่อง หวังว่าฝ่าบาทจะเห็นแก่ข้ามอบนางให้เป็นคนของต้าหมิงคุน”
“ไม่มีทางนางพูดเอาเองตามแต่ใจของนาง คิดจะดองกับเผ่าปาเอ่อถัวเพื่อผลประโยชน์กดดันหลันเล่อของข้า นางแพศยาได้ใจฝ่าบาทไปยังคิดบงการลูกของข้าอีก”
ฮองเฮา ส่งเสียงดังลั่นเมื่อนางกำนัลที่ส่งไปยังตำหนักของลู่ฟางรีบคาบข่าวสำคัญนี้มาบอก
“ฝ่าบาทรับปากนางหรือไม่”
“ไม่เพคะฝ่าบาทไม่ยอมรับปาก อ้างว่าองค์หญิงยังเด็ก”
“ทั้งลู่ฟางและถงหมิ่นทั้งสองคนคิดจะบงการหลันเล่อของข้า ส่งข่าวบอกไท่จือแคว้นใต้ให้รีบเสด็จยังเผ่าปาเอ่อถัวโดยเร็วที่สุด”
“ฝ่าบาท” ถงหมิ่นคุกเข่าลงตรงหน้า“ถงหมิ่น”ดีใจอย่างเห็นได้ชัด“ปลอดภัยดีหรือไม่ ถงหมิ่นมาช้าไป”ต้าหมิงคุน ยิ้มบางๆ“ไม่เท่าไหร่ยาสมานแผลของ เผ่าปาเอ่อถัวได้ผลชะงัดนักตอนนี้อาการของข้าดีขึ้นไม่น้อย”“ฝ่าบาทแล้วแล้วทำไม”อยากจะถามเรื่องหนวดเคราแต่ไม่กล้า“องค์หญิงรอง เจ้าของยาสมานแผลคนนั้นเป็นคนจัดการ หนวดเครารุงรังของฝ่าบาท”จื่อจื่อพูดไปยิ้มไป ถงหมิ่นกลั้นหัวเราะ“องค์หญิงรองยังเด็กนักอีกอย่างนางมีความคิดความเห็นน่าเอ็นดู ถงหมิ่นมักจะยอมแพ้ให้แก่องค์หญิงเสมอ”“ท่านน้าเป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือไม่”เปลี่ยนเรื่องพูดเสีย“พระสนมสบายดีอย่างยิ่ง ความจริงวันพรุ่งนี้พระสนมจะเสด็จยังกระโจมของฝ่าบาทแต่ มาเกิดเรื่องอย่างนี้เสียก่อน ถงหมิ่นจึงทูลเชิญเสด็จยังวังหลวงของเผ่าปาเอ่อถัว อย่างน้อยคงไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปทำร้ายฝ่าบาทถึงในเขตวังหลวง”“จอมโจร จิ้งจอกดำ”จื่อจื่อพูด“น่าแปลก ปกติจอมโจรจิ้งจอกดำออกปล้นสะดมอยู่ตามตะเข็บชายแดนแคว้นใต้กับเผ่าปาเอ่อถัวไม่ปรากฏว่าเข้ามาปล้นสะดมถึงนี่”“เจ้าหมายความว่ามีคนบงการจอมโจรจิ้งจอกดำอย่างนั้นหรือ”“ฝ่าบาทไม่ได้การแล้ว เชิญเสด็จที่วังหลวงเสียตอนนี้เลยด
ต้าหมิงคุนขมวดคิ้ว“ท่านน้าแต่ท่านยังอยู่ เผ่าปาเอ่อถัวจะกล้าทำเรื่องที่ผิดกับท่านน้าหรือ”“ข้าเป็นสนมของหลันเซ่อไม่ใช่สนมของหลันตี้ ฉะนั้นหลันตี้กับฮองเฮาไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า หลันตี้ตอนนี้อำนาจล้นมือ ฝ่าบาทเชื่อน้าท่านจะต้องรีบจัดการเรื่องนี้ทันที ก่อนที่ไท่จือของแคว้นใต้จะเสด็จมาตามหนังสือที่ฮองเฮาส่งไป”“ท่านน้าหลานยังไม่ต้องการใครในตอนนี้”“ฝ่าบาท นางเหมาะสมในทุกด้านอีกทั้งนางยังช่วยส่งเสริมตำแหน่งฮ่องเต้ของฝ่าบาทเผ่าปาเอ่อถัวทรัพยากรมากมาย แคว้นน้อยใหญ่ต่างต้องการครอบครองหลายปีมานี้ข้าแต่งมาเป็นสนม สินค้ามากมายถูกส่งไปยังแคว้นหานนำความรุ่งเรือง หากฝ่าบาท ยังคิดเห็นแก่ตัวเอง เกรงว่าแคว้นหานจะถูกโดดเดี่ยวหลันตี้พยายามจะรวบรวมชนเผ่า ฮองเฮาต้นกำเนิดของนางก็มาจากแคว้นใต้”“จะให้นางไปอยู่ในฐานะใดกันในเมื่อหลานไม่ต้องการหญิงใดในตอนนี้”“ฝ่าบาทเมิ่งเม่ยงดงามอ่อนหวานฝ่าบาทที่เคยชื่นชอบก็ปฏิเสธนาง น้าอยากให้ฝ่าบาท เปิดใจมองหญิงใดสักคนเพื่อรั้งตำแหน่งฮองเฮา หากไม่ขัดใจนักยกตำแหน่งฮองเฮาให้กับหลันเล่อเสีย เผ่าปาเอ่อถัวจึงไม่กล้าที่จะหักหาญน้ำใจแคว้นหานอีกต่อไป”“หลานเข้าใจแล้ว จื่อจื่อเล่า
“เจ้าชอบถงหมิ่นหรือ”น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ“แน่นอน ข้าต้องชอบเขาซี้ ไม่อย่างนั้นจะยอมให้มาเป็นอาจารย์ข้าหรือ อาจารย์ตามใจข้าดีกับข้ามากกว่าพี่ใหญ่เสียอีก”ลดเสียงให้เบาลงในตอนท้าย“ถ้าเจ้ายอมแต่งข้าสัญญาจะให้อาจารย์คอยไปอารักขาเจ้าที่นั่น”“ไม่ไม่ไม่ แล้วพระสนมเล่าใครจะคอยอารักขานาง”“พระสนมมีเสด็จพ่อของเจ้าที่รักนางยิ่ง ข้าจะส่งองครักษ์คนใหม่มาในภายหลัง”หลันเล่อลืมเรื่องที่จะพูดเสียหมด“จริงๆ นะท่านต้องส่งคนมาใหม่ข้าสงสารพระสนม วันๆมีแต่อาจารย์กับข้าที่คุยเรื่องแคว้นหานกับนาง หากอาจารย์ไปเสีย ข้าไปเสียใครจะคุยเรื่องแคว้นหานให้นางหายคิดถึงบ้าน”ต้าหมิงคุนถอนหายใจ“ข้าสัญญา” หลันเล่อวิ่งไปเขย่ามืออย่างแรง“ขอบคุณท่านจริงๆ”ยิ้มทั้งสีหน้าและแววตา“ตกลงจะยอมแต่งแล้วใช่ไหม”ทอดเสียงอ่อนโยน“ขะ ข้า ก็ยังกลัวอยู่ดี”เสียงอ่อนลง“ไม่แต่งกับข้าก็ยังมีไท่จือร่างยักษ์ของแค้วนใต้ กับหัวหน้าจอมโจรจิ้งจอกดำที่กำลังจะมาสู่ขอเจ้า”โกหกเรื่องไท่จือร่างยักษ์“ท่านรู้ได้อย่างไร”ถามด้วยความไม่แน่ใจ“เลิกเรียกข้าว่าท่านได้แล้ว ต้องเรียกข้าว่าฝ่าบาท”ตำหนิด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หลันเล่อยิ้มเจื่อนๆ“ท่านอ
“ปกป้องตัวเจ้าเองเถิดหลันเล่อ ลี่หลันเล่อ”อยู่ๆ ก็เผลอเรียกชื่อลี่หลันเล่อออกมาแต่กลับเป็นเพียงเสียงแหบแห้งในลำคอ เขารู้สึกอย่างไรกัน“ไปดีกว่าข้าจะต้องไปร่างข้อตกลงให้ดีก่อนที่จะยอมไปกับท่านอา เอะก่อนอื่นต้องไปบอกข่าวดีกับอาจารย์ก่อนว่าเราจะได้ไปที่แคว้นหานด้วยกัน” วิ่งแน่บออกจากห้องไป จื่อจื่อก้าวเข้ามาทันทีจะได้เห็นต้าหมิงคุนถอนหายใจพอดี“ฝ่าบาทนางน่าเอ็นดูไม่น้อย”“ข้าไม่ได้รู้สึกอะไร”น้ำเสียงพยายามปรับไม่ให้เกิดอาการสะดุด“หากไม่รู้สึกอะไร ที่ผ่านมาฝ่าบาทก็คงรู้สึกผิดในเรื่องของคุณหนูลี่”“ข้าชดเชยให้นางแล้ว ตามบิดากับมารดานางกลับมาคืนทรัพย์สินและตำแหน่งขุนนางให้ในตอนที่ข้านั่งบัลลังก์ในตำแหน่งฮ่องเต้”พูดเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดี“แต่พวกเขาก็ไม่รับมัน อีกทั้งยังร้องไห้ฟูมฟายเมื่อรู้ว่าบุตรีเพียงคนเดียวของพวกเขาทุกข์ทรมานจนตาย”ต้าหมิงคุนกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ จื่อจื่อก้มหน้ารู้สึกผิดที่รื้อฟื้นเรื่องเก่าก่อน“นางไม่ใช่ลี่หลันเล่อ”“หรืออาจจะใช่เพียงแค่ เป็นนางที่เป็นคนใหม่ลืมเลือนทุกอย่างไปเสียสิ้นก่อนที่นางจะตาย นางต้องทนทรมานคงไม่อยากจดจำเรื่องเหล่านั้น ข้าน้อยเองอยากจะให้องค์หญิง
“อือ ข้าเกือบลืมไปเสียแล้ว ฝ่าบาท ไม่สิท่านอาฮ่องเต้แคว้นหานอนุญาตให้อาจารย์กลับไปที่แคว้นหานเพื่ออารักขาข้า”กอดอกยิ้มๆ“อืม นึกว่าเรื่องอะไร”ส่ายหน้าไปมากับท่าทีตื่นเต้นของหลันเล่อ“อ้าวอาจารย์ไม่ตื่นเต้นหรือไร”“จะตื่นเต้นทำไม ก็ข้าไม่ใช่คนของเผ่าปาเอ่อถัว จะมาจะไปก็ง่ายดายอีกอย่างข้าเกิดที่แคว้นหาน ทุกซอกทุกมุมรู้ไปหมดไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ จะตื่นเต้นก็ตรงที่ไปครั้งนี้มีเจ้าไปด้วย แต่ก็อีกนั่นล่ะเจ้ามันตัวป่วนจะต้องทำข้าหนักใจแน่”“อาจารย์ข้าแต่งไปเป็นฮองเฮาเชียวนะ” ถงหมิ่นหุบยิ้มแววตาเศร้าสร้อย จริงสิเขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นหานและเผ่าปาเอ่อถัว ในเมื่อฮ่องเต้หลันเซ่อมอบอำนาจทั้งหมดให้หลันตี้ผู้ยโสเกรงว่าความสัมพันธ์คงไม่งดงาม เพราะพระสนมลู่ฟางก็เป็นเพียงแค่แม่เลี้ยงอีกทั้งหลันตี้ฝักใฝ่ไปทางฮองเฮาเข้าทางแคว้นใต้และยังมีลับลมคมในกับจอมโจรจิ้งจอกดำ“ยินดีด้วย”เอ่ยได้เพียงเท่านั้น เพราะในใจเจ็บแปลบจนไม่อาจมีคำกล่าวใดขบวนเสด็จจาก เผ่าปาเอ่อถัวกำลังจะเคลื่อนออกจากเผ่าปาเอ่อถัว ฮองเฮาปาดน้ำตายืนมองใบหน้างดงามของหลันเล่อที่ปราศจากทุกข์ดวงตาสองข้างกลมใสเ
“ข้าอดคิดไม่ได้ว่าแต่งเจ้าเป็นฮองเฮาหรือนำตัวเจ้ามาเป็น มารดา หรือองค์หญิงของข้ากันแน่”หลันเล่อเก็บข้อตกลงฉบับนั้นไว้เสีย“ข้าก็ไม่ได้อยากมา แต่ในเมื่อเราสองคนบรรลุข้อตกลงแล้วก็ต้อง เดินหน้าต่อไป”ต้าหมิงคุน ส่ายหน้าเกี้ยวถูกหามออกห่างวังหลวงไปเรื่อยๆ ความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเข้าครอบงำ หลันเล่อปาดน้ำตาเบือนหน้าหนีกลัวว่าต้าหมิงคุนจะเห็นมัน“ ฝ่าบาทใกล้เข้าเขตช่องแคบที่เป็นอาณาเขตของจอมโจรจิ้งจอกดำแล้ว”“หยุดเกี้ยว”หลันเล่อออกมาสุดอากาศบริสุทธิ์ ถงหมิ่นล้วงเข้าไปในอกเสื้อยื่นขนมเปี๊ยะใส่มือให้“ของหวานมักทำให้รื่นเริง”ยิ้มอ่อนโยน“อาจารย์รู้ใจข้าที่สุด”ต้าหมิงคุนแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นภาพนั้นเสียต้าหมิงคุนสั่งการกับทหาร อย่างเข้มงวดจื่อจื่อยื่นถุงน้ำในมือให้กับต้าหมิงคุน แดดอ่อนๆ แต่ทว่าอากาศอบอ้าวยิ่งนักเพราะเป็นพื้นทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา“เคลื่อนเกี้ยวได้แล้วช้ากว่ามีจะไม่ทันที่นัดหมายไว้”“นัดหมายนัดหมายอะไรกัน” หลันเล่อถามขึ้นเมื่อได้ยิน ต้าหมิงคุนพูดแบบนั้น“ไม่ใช้ธุระอะไรของเจ้ามานี่”ส่งตัวหลันเล่อในชุดเกราะทหารขึ้นบนหลังม้า ส่วนเขาขึ้นบนหลังม้าอีกตัว มือข้างหนึ่งจับบังเหียนม
ต้าหมิงคุนเอนกายมองใบหน้างดงามที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเกลียดชังเหยียดหยามและดูถูกนาง“ไท่จือ หลันเล่อวันนี้เข้าครัวทำขนม ที่ไท่จือทรงโปรดมาถวาย” รอยยิ้มที่งดงามแต่ยามนั้นเขากลับมองว่าเสแสร้ง และไม่ได้ออกมาจากหัวใจ“เมิ่งเม่ย ขนมนี่อร่อยทีเดียว วัตถุดิบล้วนมีแต่ของที่ข้าคัดสรรมาอย่างดีมไม่ว่าจะถั่วหรือแป้ง”ยื่นขนมในมือให้กับเมิ่งเม่ยที่นั่งข้างๆต้าหมิงคุน เมิ่งเม่ยรับเอาขนมรอยยิ้มอ่อนหวาน ที่เข้ามองว่างดงามจริงใจ อีกทั้งยังอ่อนหวานในแบบของหญิงงามที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีต่างจากหลันเล่อที่ห้าวหาญดุจบุรุษหนุ่ม ต้าหมิงคุนดึงมือของเมิ่งเม่ย ยัดขนมใส่ปากตัวเองหลันเล่อยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ“ข้าไม่ได้ อยากจะกินขนมพวกนี้แต่ที่ข้าแย่งขนมจากมือเมิ่งเม่ยเพราะกลัวว่าในขนมจะมีสิ่งใดแอบแฝงหรืออาจมียาพิษ”ลี่หลันเล่อ หุบยิ้มทำสีหน้าเศร้าสร้อย“ไท่จือท่านกล่าวเกินไปแล้ว เอาแบบนี้เมิ่งเม่ยจะลองชิมดูอีกทีว่าขนมนี้ไม่ได้ปนเปื้อนสิ่งใด คุณหนูลี่คงไม่คิดปองร้ายข้าเพียงนั้นในเมื่อเราสองคนเป็นสหายที่ดีต่อกัน”เมิ่งเม่ยหยิบขนมใส่ปากเคี้ยวเบาๆ อย่างที่ถูกสอนเรื่องมารยาทมาอย่างดี“ไส้ถั่วแดง”ลี่หลันเล่อพยักหน้ายิ
หลันเล่อตอบรัวเร็ว“องค์หญิงรอง แต่ไหนแต่ไรเจอพายุทรายมานับครั้งไม่ถ้วนไม่เคยมีอาการเช่นนี้วันนี้ทำไมถึงได้ ปล่อยให้ตัวเองโดนฝุ่นทราย ซัดเข้าใส่”ถงหมิ่นพูดยิ้มๆ“คงเป็นเพราะนางเพิ่งจะตื่น ข้าพยายามจะปลุกแต่นางก็ไม่ยอมตื่นจนกระทั่งพายุพัดมาจำต้องคลุมผ้าให้นางเสียด้วยกัน” ถงหมิ่นยิ้ม ไม่รู้ว่าต้าหมิงคุนพยายามพูดไปเสียอีกทาง หลันเล่อเบ้ปากรู้สึกว่าสิ่งที่ต้าหมิงคุนพูดไม่ถูกต้อง“เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”ถงหมิ่นยื่นผ้าเช็ดหน้าให้หลันเล่อเช็ดฝุ่นทรายออกจากใบหน้า“อาจารย์ เป็นฝ่าบาทนี่ต้องดีกับฮองเฮาใช่ไหม”ถงหมิ่นยิ้มกับคำถามเมื่ออยู่กันเพียงลำพัง“ฝ่าบาท ก็จะต้องดีกับฮองเฮากว่าใคร เพราะไม่ใช่ว่าใครจะเป็นฮองเฮาก็เป็นได้ คนที่จะเป็นต้องเป็นคนที่ฮ่องเต้โปรดปรานและสมกับฐานะฮองเฮา ใครที่ได้ตำแหน่งฮองเฮานับว่าโชคดีกว่าหญิงใด” หลันเล่อถอนหายใจ“ไม่จริงหรอกเสด็จแม่แต่เดิมก็เป็นที่โปรดปรานแต่พอเสด็จพ่อรับพระสนมมาเสด็จแม่ก็กลายเป็นคนที่ทำอะไรก็ไม่ถูกใจเสด็จพ่อไปเสียหมด อะ ข้าไม่ได้ว่าพระสนมนะ แต่เป็นเพราะบุรุษมักหลายใจมากรัก รวนเร แล้วก็ได้ใหม่ลืมเก่า”ถงหมิ่นยิ้ม“แค่เพียงบางคน ข้าได้ยินเรื่องราว