กำพร้าขาดแม่ จึงได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างตามใจจากพ่อ
ดามพ์เลี้ยงดูสิงห์อย่างผู้ชายดูแลผู้ชาย สิงห์จึงไม่ได้รับการกล่อมเกลานิสัยจากมารดาที่มีด้านอ่อนโยนนุ่มนวลต่างจากบิดา
ดามพ์รักและตามใจลูกชายคนนี้ราวกับไข่ในหิน ในโลกนี้นอกจากเดือนกับดาว ก็ไม่มีอะไรที่สิงห์เอ่ยปากแล้วจะไม่ได้ เขาเลี้ยงดูลูกชายอย่างตามใจ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะดามพ์ตระหนักดีว่าสิงห์เป็นเด็กขาดแม่
นอกจากความรักแล้วสิ่งเดียวที่พ่อเลี้ยงดามพ์พอจะชดเชยให้ลูกได้ ก็คือทรัพย์สินเงินทองที่สั่งสมมาทั้งชีวิตจนร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐีอยู่ทุกวันนี้
พ่อเลี้ยงดามพ์คว้าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ในระยะเอื้อมคว้าขึ้นมาโทรหาเดือนฉาย ผู้หญิงที่เขากำลังคิดถึง
“เดือน... ”
เสียงทุ้มแต่มีกังวานหวาน กรอกไปสู่แม่มายผู้อยู่ปลายสาย
“สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยง”
เสียงหวานของเดือนฉาย ตอบกลับมาหาหนุ่มใหญ่เจ้าของฟาร์มที่อยู่ต้นสาย
ตอนนี้หล่อนกับมะนาวผู้เป็นลูกสาวกำลังอาศัยอยู่ในบ้านไม้หลังเก่า ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนลิ้นจี่ เป็นบ้านที่เสี่ยกำพลนายจ้างเก่าของสามี เมตตาให้เข้ามาพักอาศัยชั่วคราว
เพราะว่าภายหลังจากวิชิตสามีของเดือนฉายเสียชีวิต สองแม่ลูกก็ไร้ที่ซุกหัวนอน ห้องแถวที่ติดจำนองเอาไว้กับธนาคารก็มีอันต้องมาโดนยึด เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้
“พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอกับลูกสาวมาอยู่ที่บ้านของฉัน”
พ่อเลี้ยงดามพ์บอกข่าวดีกับเดือนฉาย
“ขอบคุณค่ะท่าน... ขอบคุณเหลือเกิน บุญคุณครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก... ดิฉันกับลูกสาวจะไม่มีวันลืมจนชั่วชีวิต”
เดือนฉายน้ำตาคลอเบ้า ตอบผู้มีพระคุณทั้งเสียงสะอื้น หลังจากแอบกังวลใจมาตลอด กลัวว่าสักวันจะไม่มีปัญญาส่งลูกสาวเรียนจนจบมหาวิทยาลัย
แต่ที่ผ่านๆ มาเดือนฉายก็เป็นผู้หญิงเข้มแข็งและสู้ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ ทุกๆ วันเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา หล่อนจะพร่ำบอกกับตัวเองอยู่เสมอ ว่าให้กัดฟันทนอีกนิด... เพื่อลูก
แม้ทุกวันนี้จะมีรายได้เพียงน้อยนิดจากการทำขนมขาย และรับจ้างทำงานบ้าน แต่หล่อนก็พยายามเก็บหอมรอมริบเพื่อให้ลูกสาวได้เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ตั้งใจว่าจะส่งมะนาวจนเรียนจบปริญญาตรี
เดือนฉายทุ่มเทให้กับลูกสาว ด้วยรู้ว่ามะนาวคือ ‘ความหวัง’ เพราะถ้าวันใดที่มะนาวเรียนจบแล้วมีงานทำ ตอนนั้นก็คงจะมีเงินเดือนจากการทำงาน พอได้ประทังชีวิตกันต่อไป
แต่วันนี้เดือนฉายรู้ว่าหล่อนกับลูกสาวช่างโชคดีที่พ่อเลี้ยงดามพ์ อดีตเพื่อนเก่าของสามี อาสายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ อุปการะหล่อนกับลูกสาวที่กำลังตกที่นั่งลำบาก
“ขอบคุณค่ะท่าน ถ้าตอนนี้ดิฉันอยู่ตรงนั้นใกล้ๆ ท่าน ดิฉันจะก้มกราบท่าน ขอบคุณเหลือเกิน ขอบคุณที่เมตตาช่วยเหลือเราสองแม่ลูก”
เดือนฉายพูดพลางร้องไห้สะอื้น
“โถ... แม่คุณ ไม่ต้องร้องไห้นะ... พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอกับลูกมาอยู่ด้วยกันที่ฟาร์ม ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอกับลูกสาวเป็นอย่างดี”
“ขอบคุณเหลือเกินค่ะท่าน... ชีวิตที่เหลือจากนี้ ดิฉันสัญญาว่าจะมอบให้ท่าน จะขอฝากตัวเป็นทาสรับใช้ เพื่อตอบแทนในความกรุณาปราณีไปจนชีวาวาย”
เดือนฉายรู้สึกซาบซึ้งจนพูดไม่ถูก เสียงของหล่อนสั่นเครือ หยาดน้ำตากลมเกลี้ยงกลิ้งลงอาบนวลแก้ม บางส่วนเอ่อคลออยู่รอบดวงตาคมประกาย
“พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะจ๊ะ... ”
คุยกันต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ พ่อเลี้ยงดามพ์ก็กดวางสาย เดือนฉายดีใจ รีบเก็บเสื้อผ้าและข้าวของที่จำเป็นลงกระเป๋า พรุ่งนี้เช้าหล่อนกับลูกสาวจะไปมีชีวิตใหม่ที่ฟาร์มของพ่อเลี้ยงดามพ์ในจังหวัดเชียงราย
ตอนใกล้ค่ำ
ทันทีที่มะนาวนั่งรถมอเตอร์ไซค์จากหน้าปากซอยเข้ามาถึงบ้าน เดือนฉายก็บอกข่าวดีกับลูกสาว
“มะนาวจ๊ะ พรุ่งนี้พ่อเลี้ยงดามพ์จะมารับเราสองคนไปอยู่ที่ฟาร์มของเขา”
“จริงหรือคะคุณแม่”
มะนาวดีใจ เมื่อสองวันก่อนผู้เป็นมารดาเคยเอ่ยถึง เรื่องนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้
“คืนนี้หนูเก็บเสื้อผ้าได้เลยนะจ๊ะ”
“จ้ะแม่... แต่คืนนี้หนูต้องไปทำรายงานที่บ้านเพื่อนนะคะ”
“ไม่เป็นไร... กลับมาค่อยเก็บก็ได้ อันที่จริงข้าวของเราก็ไม่เยอะ แล้วนี่กินข้าวมาหรือยังจ๊ะลูก”
เดือนฉายถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
“กินก๋วยเตี๋ยวที่หน้าปากซอยมาแล้วจ้ะแม่... หนูซื้อบะหมี่แห้งมาฝากแม่ด้วยนะจ๊ะ”
“ขอบใจจ้ะลูก เดี๋ยวแม่ห่อขนมอีกสักพักแล้วค่อยกิน... ” เดือนฉายกำลังทำข้าวต้มมัด ตั้งใจจะเอาไปขายตอนเช้ามืดของวันพรุ่งนี้มะนาวมองผู้เป็นมารดาอย่างนึกชื่นชมในความขยัน แลเห็นใบตองสีเขียว ตัดเอามาจากดงกล้วยน้ำว้า ขึ้นหนาแน่นอยู่ริมคลอง วางทับซ้อนกันเป็นกอง มือเรียวคลี่ใบตองออกมาเช็ดทีละใบ ช้าๆ อย่างชำนิชำนาญมะนาวมองมารดาทำงานแล้วก็นึกสงสาร มือนั้นช่างนุ่มนวล ผิวพรรณก็บอบบางเกินกว่าจะมาหยิบจับงานพวกนี้ “เหนื่อยไหมคะแม่”หญิงสาวสังเกตเห็นที่ด้านหลังใบหูของมารดา ใต้ตีนผมที่ขมวดเป็นมุ่นมวยเอาไว้ด้านหลังศีรษะ มีหยาดเหงื่อซึมออกมาเป็นสาย“มีบ้าง... แต่แม่ทนได้จ้ะ”เดือนฉายยิ้มสู้ให้ลูกสาว มีบ้างที่รู้สึกท้อ แต่หล่อนก็ไม่เคยถอย“ถ้าไปอยู่บ้านพ่อเลี้ยงดามพ์แม่ก็จะไม่ต้องลำบากแบบนี้”มะนาววาดหวังถึงชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า “แต่อยู่ที่นั่นเราสองคนแม่ลูกก็ต้องอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว... เรายังไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง” มะนาวเตือนลูกสาว น้ำเสียงของหล่อนมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่รู้ว่าสายตาของคนในบ้านหลังนั้นจะมองหล่อนกับลูกสาวยังไง
“อันที่จริงเธอกับลูกจะอยู่ที่นี่ตลอดไปก็ได้นะ ฉันไม่ว่าอะไร... ถ้า... ”ไม่ทันพูดจบประโยค เสี่ยใหญ่ก็หยุด ทว่าสายตาหวามที่มองมาอย่างสำรวจตรวจค้น ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของแม่มาย ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ทรวงอกอวบใหญ่ ทำให้เดือนฉายพอจะเดาได้ว่าเสี่ยกำพลต้องการอะไรจากหล่อน น้อยคนนักที่จะช่วยเหลือหล่อนโดยไม่หวังผลตอบแทน“ตอนนี้ดึกมากแล้วนะจ๊ะ เสี่ยกลับไปก่อนเถอะ ลูกสาวฉันไม่อยู่ เดี๋ยวใครผ่านมาเห็นเข้ามันน่าเกลียด”เดือนฉายรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย“ลูกสาวไปไหน”เสี่ยกำพลหรี่ตาหูผึ่งขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าตอนนี้เดือนฉายอยู่บ้านคนเดียว“ฉันมีธุระอยากจะคุยกับเธอสักครู่... เข้ามาคุยกันในบ้านดีกว่า”แผนขยี้สวาทกระดังงาลนไฟ ผุดขึ้นในหัวของเสี่ยกำพลจอมหื่น “คุยตรงนี้ได้ไหมจ๊ะ... ” เดือนฉายรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล “ทำไม... รังเกียจฉันมากนักหรือ” เสี่ยกำพลหันขวับมามองหล่อน ด้วยสีหน้าและแววตาไม่พอใจ“ไม่เกี่ยวกับว่ารังเกียจหรือไม่รังเกียจหรอกจ้ะ มันเป็นเรื่องของความเหมาะสม ตอนนี้ลูกสาวฉันก็ไม่อยู่”เดือนฉายกล่าวให้คิด รู้สึกกลัวเพราะฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ตอนหัวค่
ไหนๆ ก็จะไปแล้ว... ขอจัดหนักก่อนลาสักครั้งเถอะวะนังเดือน”“อย่าทำบ้าๆ นะเสี่ย”เดือนฉายจ้องมองไปที่ประตู แต่เสี่ยหื่นรีบขยับมาขวางเอาไว้ “ไม่นะเสี่ย หลีกไปนะ”เดือนฉายเริ่มสังเกตเห็นท่าไม่ดี บ้านหลังนี้อยู่ลึกเข้ามาถึงท้ายซอยกลางสวนลิ้นจี่ ไม่มีบ้านหลังอื่นในบริเวณใกล้เคียง ถ้าเสี่ยกำพลลงมือปลุกปล้ำ หล่อนคงหมดโอกาสร้องขอความช่วยเหลือ เพราะคิดว่าคงจะไม่มีใครได้ยิน “สนุกกันนะเดือนจ๋า... เอ็งมันน่าเอาเหลือเกิน ทั้งขาวทั้งสวย” เสี่ยหื่นกระตุกยิ้ม ถอดเสื้อแล้วสืบเท้าเข้ามาหาหล่อน เดือนฉายสูดหายใจแรง พยายามคิดหาทางหนีทีไล่ ครั้นจะวิ่งหนีก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะร่างท้วมใหญ่ของเสี่ยกำพลขวางเอาไว้ ดูท่าเขาคงไม่ยอมให้หล่อนหนีออกไปจากบ้านง่ายๆ“อย่าทำอย่างนี้เลยนะเสี่ย”เสียงของเดือนฉายอ่อนลง หล่อนพยายามทำใจดีสู้เสือ “ไม่ต้องกลัว... ไม่เสียหายอะไรนักหรอก เอ็งก็ไม่ใช่ไม่เคยมาก่อน” สายตาลามกของเสี่ยกำพล จับจ้องอยู่ที่ทรวงอกอวบใหญ่ของหล่อน เขาชอบผู้หญิงนมใหญ่ ผิวพรรณขาวผ่องอย่างเดือนฉายนี่แหละใช่เลย“ไม่... มันน่าเกลียด”เดือนฉายนิ่ง พยายามจะไม่แสดงอาการหวาดกลัวออ
ขึ้นมาทันที กับภาพของปลายหัวนมสีเนื้ออมชมพู ชี้งอนอยู่ตรงหน้า“โห... น่าดูดเหลือเกิน”เสี่ยหื่นก้มลงมา ด้วยสัญชาตญาณทำให้เดือนฉายพยายามเอี้ยวกายหลบหลีก ส่งผลให้สองเต้าอวบใหญ่ยิ่งส่ายสั่น กระเพื่อมไหวตามจังหวะหัวใจเต้นแรง หารู้ไม่ว่ามันกลับกลายเป็นการยั่วยวนเสี่ยกำพลโดยไม่ตั้งใจ “อ๊า... ”เดือนฉายถึงกับสะดุ้ง เมื่อริมฝีปากของเสี่ยกำพลครอบลงมาประกบหัวนมของหล่อนอย่างแรง“ฮื่อ... ”หล่อนหายใจติดๆ ขัดๆ พร้อมกับเสียงดูดดังจ๊วบและหัวนมที่ปูดพองขึ้นมาตามมาแรงดูด“อ๊อย... อย่า... อย่าทำฉัน”คนโดนดูดนมวิงวอนเสียงอ่อน ในนาทีที่อิสรภาพของหล่อนสูญสิ้นลงแล้ว มือทั้งสองข้างโดนมัดไขว้ล็อคเอาไว้เหนือศีรษะ“อร่อยสุดๆ... ยิ่งดูดยิ่งมัน”สองมือใหญ่ของเสี่ยหื่นกอบกุมสองเต้าอวบใหญ่อย่างโหยหา“อู้ว... หัวนมสวยมาก”สองมือประคองเต้า บีบรวบให้ปลายหัวนมปูดพองเข้ามาชิดกันแล้วตั้งหน้าตั้งตากะซวกดูด ปาดลิ้นขยี้หัวนมสลับไปมาอย่างหิวกระหายเสียงดังซ่วบๆ เดือนฉายได้แต่หลับตา เม้มริมฝีปากแน่น พยายามต่อสู้กับความเสียวซ่านวาบหวามที่เกิดขึ้นมาอย่างอยากจะหักห้าม ยากนักที่จะไม่รู้สึกอะไรกับการการะทำของเสี่ยกำพล“ฮ
นูนอูมล้น มองปราดๆ ดูคล้ายส้มโอสองกลีบประกบกันอยู่ระหว่างซอกขาเบียดชิด ท่ามกลางเส้นไหมสีดำระยับ“โห... น้ำเยิ้มแล้วนี่นา”เสี่ยหื่นอุทาน ชอบใจที่รู้ว่าเดือนฉายโดนดูดนมจนน้ำเดิน ยืนยันด้วยน้ำหล่อลื่นเหนียวเยิ้ม เอ่อไหล่ออกมาชุ่มฉ่ำกลีบสวาทอูมแน่นเป็นเนินงาม ค่อยๆ สอดนิ้วแหวกกลีบเข้ามาในความหนึบแน่นของพูเนื้อแม่มายที่ไม่ได้เปิดรับผู้ชายคนไหนมานาน“อ๊อย... ”เดือนฉายคราง นิ้วแข็งสอดเสียบเข้ามา ทำเอาเสียวซ่าน แต่ละเปลาะปมของข้อนิ้วปูดโปนวนคว้าน ทำให้ร่องสวาทขมิบหมุบๆ ด้วยปฏิกิริยาตอบโต้อัตโนมัติ“เอ็งอยากโดนกระแทกแล้วใช่ไหม”เสี่ยกำพลก้มลงดูดนมขณะขยับนิ้วสอดกระแทกเข้าๆ ออกมา อยู่ในร่องสวาทขมิบรัด น้ำเสียวสาดพุ่งออกมาชุ่มนิ้ว เขารู้ว่าหล่อนมีอารมณ์ อาการตอบสนองแบบนี้จะนำไปสู่การร่วมเพศในที่สุด“ไม่ไหวแล้ว... ข้าอยากเสียบเอ็งเหลือเกิน”เสี่ยหื่นใช้นิ้วนำทางอยู่อึดในสั้นๆ แล้วรีบขยับออกมา ทำท่าว่าจะถอดกางเกง แต่เดือนฉายห้ามเอาไว้“ฉันยังไม่พร้อมจ้ะ... อย่าใจร้อนสิจ๊ะเสี่ยจ๋า... ขืนบุ่มม่ามกระแทกเข้ามาฉันเจ็บแน่ๆ นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้ทำแบบนี้”เดือนฉายทำหน้าอิดออดเพื่อถ่วงเวลา“โห... นานแค่ไ
“อยากจ้ะ... แต่อย่าเพิ่งนะจ๊ะ เลียให้อีกนิดนะจ๊ะ... ตอนใส่จะได้ไม่เจ็บ”เดือนฉายใช้มารยาถ่วงเวลา“ได้สิจ๊ะ... ”เสี่ยกำพลตอบพลางสอดลิ้นแหวกกลีบสวาทแล้วปาดเลียลิ้นขึ้นๆ ลงๆ ตามแนวยาวของร่องเนื้อสีชมพูอย่างตะกละตะกลาม สอดสองมือช้อนสะโพก ยกหนอกเนินสวาทขึ้นมาดูดซดเสียงดังซ่วดๆ“อูย... ”เดือนฉายสะดุ้งคราง เผลอขมิบกลีบเสียวดูดรัดลำนิ้วและลิ้นของเสี่ยกำพลที่สลับกันเสียบแทงเข้ามารัวๆ“อ๊อย… ซี้ด... อูย”แม่ม่ายสะดุ้งเฮือกเหมือนจะขาดใจ ร้องครางครวญออกมาด้วยความเสียวซ่านทรมาน เมื่อเสี่ยกำพลตั้งปลายลิ้นเป็นลำ แล้วทิ่มย้ำๆ ลงในรอยแยกของกลีบสวาท ปาดขึ้นมาบดขยี้ กดย้ำเม็ดเสียวของหล่อนจนแดงเรื่อ“อร๊าย... อูย... ”เดือนฉายเสียวซ่าน อารมณ์กระเจิดกระเจิงจนต้องขมิบร่องสวาท ดูดรัดลำลิ้นของเสี่ยกำพลที่ยังคงชอนไชเข้าออกเป็นจังหวะถี่ยิบฉั่วๆ ๆ ๆ ๆ ๆเสียงลิ้นเฉาะเลียลงกลางกลีบสวาทชุ่มลื่นของเดือนฉาย ขณะมืออีกข้างของเสี่ยกำพลเอื้อมขึ้นมาบีบเคล้นสองเต้าด้วยท่าทางตะลึงพรึงเพริดในความอวบใหญ่ อีกทั้งร่องสวาทของแม่มายคนนี้ก็ยังฟิตแน่น ราวกับว่ากลับมาเป็นสาวอีกครั้ง เพราะช่องทางแห่งความสุขของเดือนฉายไม่ได้ใช้งา
“กะซวกเลย... อย่าเจ้าเล่ห์นะแม่คุณ ถ้าเธอหลอกกัดของฉัน... สาบานว่าฉันบีบคอเธอตายคามือแน่ๆ”เดือนฉายสะดุ้ง คำขู่ของเขาทำเอาหล่อนกลัว เสี่ยกำพลเอื้อมมือข้างหนึ่งมากดต้นคอหล่อนลงมาแนบชิดแก่นกาย ด้วยอยากเห็นน้องชายของตัวเอง เข้าไปดิ้นกระดุ๊กกระดิ๊กอยู่ในอุ้งปากของกระดังงาลนไฟใจจะขาด “อ๊า... อู้ว”เสี่ยกำพลเกร็งบั้นท้าย ในทันทีที่ปลายลิ้นน้อยๆ ของแม่ม่ายแตะต้องลงมาไล้เลียส่วนปลายของน้องชาย บั้นท้ายเกร็ง เด้งกระเด้าขึ้นรับริมฝีปากของหล่อนที่ค่อยๆ ครอบลึกลงมารูดรัดความยาวใหญ่ พยายามเขมือบ แต่ก็เข้าไปได้มากที่สุดเพียงครึ่งลำ“อูย... เยี่ยมเลย”เสี่ยกำพลพริ้มตาสยิว มือยังกดคอของเดือนฉายเอาไว้แน่น หล่อนรีบช้อนปลายลิ้นไล้เลียส่วนปลายรอบๆ รอยบากอั่กๆ ๆ ๆ ๆหล่อนกะซวกดูดสลับแตะไต่ปลายลิ้น เล็มเลียเรื่อยลงมาถึงส่วนโคนแข็ง ฝังอยู่ท่ามกลางดงเส้นขนสีดำ เสี่ยกำพลเป็นผู้ชายขนดกเหลือเกิน “อู้ว... น้ำเยิ้มออกมาแล้วค่ะเสี่ย”เดือนฉายทำทีเป็นตื่นเต้น ตวัดลิ้นแตะต้องลงบนรอยแยกน้อยๆ ของส่วนหัวถอกทู่ น้ำหล่อลื่นเยิ้มย้อยเป็นยางออกมาติดลิ้น“ดูดเก่งเหลือเกิน... ไม่ต้องย้ายออกไปนะ อยู่ที่นี่เป็นเมีย
“ลุงเท่ง... ลุงเท่งช่วยด้วย”เดือนฉายวิ่งกระหืดกระหอบออกมาถึงปากทาง บังเอิญว่าตอนที่หล่อนวิ่งออกมานั้นเป็นจังหวะที่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างคันหนึ่งวิ่งผ่านมาพอดี เป็นรถของลุงเท่งที่วิ่งประจำอยู่วินหน้าปากซอย เดือนฉายเคยเรียกใช้บริการบ่อยๆ ลุงคนนี้ไว้ใจได้ “เดือน... เอ็งวิ่งหนีอะไรมาวะ”ลุงเท่งร้องถามด้วยความสงสัย“วิ่งหนีหมาบ้าจ้ะ... ไอ้หมาบ้าจอมหื่นมันจะฟัดฉัน ลุงช่วยไปส่งฉันที่ปากซอยทีเถอะ”เดือนฉายละล่ำละลักบอกด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบ แต่ไม่ได้บอกความจริง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนเมื่อครู่ เพราะคิดว่าโวยวายไปก็มีแต่จะอาย ไหนๆ หล่อนก็รอดพ้นเงื้อมมือของเสี่ยกำพลจอมหื่นมาแล้ว ถ้าแจ้งความเอาผิดก็กลัวเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตลุงเท่งมาส่งเดือนฉายที่หน้าปากซอย หล่อนรีบโทรบอกลูกสาวว่าไม่ให้เข้ามาที่บ้าน“อะไรนะแม่... แล้วแม่ปลอดภัยใช่ไหม”มะนาวตกใจ หลังจากได้ฟังเดือนฉายผู้เป็นมารดาเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับหล่อน“จ้ะ... แม่ปลอดภัย หนูรีบกลับมานะจ๊ะ แม่รออยู่หน้าปากซอยนะลูก”“ค่ะแม่”อีกครึ่งชั่วโมงต่อมามะนาวก็กลับมาเจอเดือนฉาย หล่อนยืนรอลูกสาวอยู่ที่หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่นหน้าปากซอย สองแม่ลูกตัด