เซียวจ้านเป่ยตรงไปโรงเตี้ยมสุขสราญย์ทันที หมูป่าเพิ่งตายไม่นานก็จริง แต่หากไม่ใช่เพราะว่าเขาจะเข้าเมืองมาซื้อเสื้อผ้ากับของให้เมียล่ะก็ หมูนี่คงชำแหละขายในหมู่บ้านแล้ว อยากกลับบ้านจะแย่แล้วต้องรีบขาย
"อ้าวนายพรานเซียวหรือ วันนี้ได้อะไรมากันเล่า ท่านไม่ขึ้นเขานานแล้วนี่ตั้งเกือบปีแล้ว"
หยวนเหอเป็นหลงจู๊ของโรงเตี้ยมแห่งนี้ หลงจู๊คนนี้นิสัยดี ไม่กดราคา จึงทักทายเขากลับ
"อ้อ พี่หยวนเหอพอดีข้าวางกับดักไว้ ได้หมูป่ามาสองตัวเลยนำมาให้ท่าน ไม่ทราบว่าท่านรับซื้อหรือไม่ขอรับ" หยวนเหอเหมือนสวรรค์มาโปรด
"เฮ้อ ที่จริงนะอาเซียวหมูป่าตายแล้วชั่งละห้าสิบอีแปะเท่านั้น แต่ช่วงนี้ฝนตกนายพรานขึ้นเขาไม่ได้ อีกทั้งมีคนมาจากเมืองหลวง เป็นคุณชายตระกูลใหญ่มาเที่ยวเมืองกว่างโจวของเรา คนของขาอยากกินเนื้อแต่ข้าไม่มี เถ้าแก่กำลังกลุ้มใจเลยว่าจะทำเช่นไร เฮ้อข้าหยวนเหอคงมีบุญวาสนา สวรรค์ถึงส่งเจ้ามาเอาเช่นนี้ข้าให้ราคาเท่ากับหมูเป็นชั่งละแปดสิบอีแปะแล้วกัน อาจูมาเอาหมูไปขึ้นตาชั่ง"
หยวนเหอสั่งคนงานไม่ช้าก็นำหมูป่าสองตัวไป เซียวจ้านเป่ยเลียบๆเคียงๆถามหยวนเหอถึงคนที่มา หากเกี่ยวข้องกับหรานซินชายารองเสด็จพ่อเขาต้องวางแผนให้ลูกกับเมียใหม่
"เอ่อ คนที่มาเป็นผู้ใดหรือขอรับพี่หยวนเหอ ถึงทำให้เถ้าแก่ของท่านถึงกับลำบาก ปกติกว่างโจวนี่เถ้าแก่ฉินก็ถือว่าเทียบเคียงฮ่องเต้แล้วไม่ใช่หรือขอรับ"
เซียวจ้านเป่ยเอ่ยเสียงเบา เหอหยวนส่ายหน้า
"จุ๊ๆๆๆอย่าดังไป ข้าได้ยินว่าคนเหล่านั้นมาตามหาทายาทอ๋องคนหนึ่ง หลายปีก่อนสูญหายแถวชายแดนอี้โจว พอดีที่นี่มีโรงเตี้ยมจึงแวะพักก่อนจะเดินทางต่อ คนที่มาเห็นว่าชื่อคังหยุนน่ะ"
อาจูเดินกลับมาจากข้างในก่อนจะแจ้งแก่เหอหยวน
"นายท่านหมูป่าสองตัวทั้งหมด732ชั่งขอรับ"
"อ้อ อาเซียว732ชั่งๆละ80อีแปะเป็นเงิน50ตำลึงกับ560อีแปะ ข้าปัดเศษให้เจ้าเป็น60ตำลึงแล้วกัน พวกเขายังอยู่ที่นี่อีกหลายวัน หากเจ้าล่าอะไรได้ก็ส่งมาเถอะ เดือนหน้าเจ้าก็ไปทหารแล้วเอ่อ เดี๋ยวขากลับแวะมาเอาขนมไปให้บุตรสาวเจ้าด้วย"
เซียวจ้านเป่ยรับปาก เขาจะไปโรงฝากเงินเปิดเป็นชื่อของจูเหมยลี่ เขาต้องล่าสัตว์อีกสักสองสามครั้ง ในขณะที่หลานชายของเสนาบดีคังหยวนเป้ายังอยู่
ตอนอยู่เมืองหลวงพวกเขาไม่เคยเจอกันจึงไม่รู้จัก หลานชายเสนาบดีมาตามหาเขาเพื่ออะไร ตามหาแบบโจ่งแจ้งเสียด้วย
เซียวจ้านเป่ยอยากไปเบิกเงินท่านแม่ฝากไว้ให้ก็ไม่ไว้ใจสถานการณ์ มีเงินกว่าสิบล้านตำลึงแต่ได้แต่กอดป้ายฝากเงิน เขาช่างน่าเวทนาเสียจริงๆ
หากไม่ติดว่าต้องเป็นทหารอาจจะเบิกแล้วก็ไปใช้ชีวิตที่อื่นต่อ
คังหยุนกำลังชมทัศนียภาพของตำบลจิ่วโจวก็เหลือบไปเห็นบุรุษคนนึง ท่าเดินช่างดูองอาจนักคงเป็นนายพราน หนวดเครารุงรังกำลังเดินมาทางเขา จึงเอ่ยทักทายอย่างไม่ถือตัว
"เอ่อพี่ชาย ไม่ทราบว่าท่านเป็นนายพรานหรือเปล่า"
เซียวจ้านเป่ยที่ไม่อยากคุยกับเขาก็ส่ายหน้า แต่คังหยุนไม่ยอมแพ้ เขาอยากล่าสัตว์จึงตามตื๊อเซียวจ้านเป่ยไม่เลิก
"นี่พี่ชาย ข้าอยากล่าสัตว์ ถ้าท่านเป็นนายพรานก็ช่วยนำทางได้ไหม ข้าให้ท่านห้าสิบตำลึง ไม่พอหรือ งั้นหนึ่งร้อยตำลึง พี่ชายอย่าเดินหนีสิ ห้าร้อยตำลึงพาข้าขึ้นเขาไปล่าสัตว์ ตกลงไหม หากล่าได้หนึ่งตัวจ่ายเพิ่มตัวละยี่สิบตำลึง"
เซียวจ้านเป่ยหันกลับมา เขารำคาญไอ้เด็กปัญญาอ่อนนี่ ดูจากการเดินแล้ววรยุทธแมวสามขาแต่อยากผจญภัย
"หนึ่งพันสองร้อยตำลึง ไม่รับรองว่าเจ้าจะล่าได้หรือไม่ ข้าแค่ดูแลความปลอดภัยเจ้า อยู่บนเขาสามคืน หากล่าไม่ได้ข้าไม่คืนเงิน เขาที่จะล่าอยู่ตำบลข้างเคียง ว่าไงไม่เอาก็หลีกทาง"
คังหยุนตกลงทันที ก่อนจะควักตั๋วเงินมัดจำเขาทันทีสี่ร้อยตำลึง เซียวจ้านเป่ยให้หยวนเหอทำสัญญาให้ จากนั้นก็นัดว่าอีกสามวันให้หลังเจอกันหน้าโรงเตี้ยมสุขสราญย์
เซียวจ้านเป่ยไปโรงฝากเงินเปิดเป็นชื่อจูเหมยลี่สี่ร้อยตำลึง เขาไว้ใจจูเหมยลี่ไม่รู้เพราะอะไร หลังจากที่นางอยู่กับเขามาสี่วันเขารู้สึกว่านางไม่น่าเป็นเหมือนหงซิ่ว สตรีแพศยาคนนั้น
เฮ้อคนเราก็แปลกยิ่งเกลียดกลับยิ่งเจอ
วันนี้หัวหน้ามือปราบเหลียงพาอนุคนงามอย่างหงซิ่วมาตำบลจิ่วโจวเพื่อต้องการพบกับคุณชายคังท่านนั้น ว่ากันว่าเป็นหลานชายเสนาบดีฝ่ายขวา คนสำคัญของราชสำนัก เขาอยากประจบสอพลอคนในเมืองหลวงเพื่อหน้าที่การงานของตน
อนุของเขาคนนี้ช่างดีนักหน้าตางดงามเอาไว้ขี่เองก็ได้ ยามต้องเอาใจขุนนางทั้งหลายนางก็รับรองคนเหล่านั้นเสียถึงอกถึงใจ
บางคนถึงกับให้รถม้ามารับถึงบ้านเขา คุณชายไก่อ่อนอย่างหลานชายเสนาบดีคนนั้นหากเจอลีลายั่วยวนบนเตียงของหงซิ่วรับรองติดใจทุกคน
ขุนนางบางคนจ่ายเขาถึงสองหรือสามร้อยตำลึงแลกกับการให้นางไปปรนเปรอความสุขให้ถึงจวน
หงซิ่วไม่เคยงอแงสักครั้งที่เขาให้นางไปเหมือนนางเองก็ชอบ เหลียงเถี่ยต้านมีอนุมากมาย แต่มีแค่หงซิ่วที่เป็นทั้งอนุและยังหาเงินให้เขาได้อีก ตำแหน่งในจวนนางเสียงดังกว่าฮูหยินเอกเสียอีก
แน่นอนหากคนเหล่านั้นตอบแทนหลังจากเสร็จกิจกับนางเขาก็ไม่ยุ่ง ถือเป็นค่าเหนื่อยของนางเขารับเพียงที่เขาได้รับ
หงซิ่วเห็นเซียวจ้านเป่ยก็อยากเยาะเย้ยที่เขายังยากจนแต่นางกลับมั่งมีจึงเดินไปหาแล้วกล่าววาจาเยาะเย้ย เหลียงเถี่ยต้านที่กำลังรอคุณชายจากเมืองหลวง เห็นอดีตสามีของอนุผู้เร่าร้อนก็รอดูเรื่องสนุก
"นึกว่าใคร ที่แท้ก็นายพรานเซียว ไม่เจอเกือบปีเจ้าสบายดีหรือ นังเด็กนั่นล่ะอยู่ดีหรือว่าตายแล้ว"
เซียวจ้านเป่ยหันมาตามเสียง ก่อนจะเดินหนีหงซิ่วยังคงเดินตาม คังหยุนยืนมองดู ส่วนเหลียงเถี่ยต้านเองก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร
"นี่เซียวจ้านเป่ย ข้าว่านะอีกกี่ปีเจ้าก็ยากจนอยู่อย่างนี้แหละได้ข่าวว่าเมียโดดน้ำตายหรือเหอะ น่าสงสาร เอาเช่นนี้ดีหรือไม่สามีข้ากำลังหาทาสไปทำเหมืองที่ทางใต้ เจ้าสนใจขายตัวหรือไม่เล่า"
เซียวจ้านเป่ยหันกลับมาก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
"ได้ข่าวว่าชู้รักของเจ้าก็เอาเจ้าไปเร่ขายให้ขุนนางผลัดกันขี่มิใช่หรือ อีกหน่อยเจ้าราคาตกก็คงขายต่อให้คนงานที่เหมืองรุมกันขี่แทน เหตุใดข้าดีใจนักที่สตรีแพศยาอย่างเจ้าหลุดพ้นเสียได้ นี่หงซิ่วภรรยาข้าน่ะนะนางเป็นสตรีที่งามยิ่งนัก เจ้าอย่าเอ่ยถึงนางเลยเจ้าไร้ค่าไม่คู่ควรหรอก ทำเมียข้ามัวหมองเปล่าๆ"
เซียวจ้านเป่ยจากไปแล้วหงซิ่วกรี๊ดเสียงดัง จนเหลียงเถี่ยต้านต้องมาลากนางไปเขาเป็นมือปราบแต่อยู่อีกอำเภอ ไม่สามารถใช้อำนาจที่นี่ได้
ทุกอย่างอยู่ในสายตาคังหยุน เขาให้คนไปสืบประวัติมือปราบกับอนุคนนี้แล้วกลับมารายงาน
เซียวจ้านเป่ยซื้อของตามรายการที่เมียสั่งครบทุกอย่าง เอ่อต้องหาซื้อผ้าห่ม ผ้านวมหนาๆปูเตียงสักหน่อย นางให้ซื้อข้าวเหนียวทำไมเยอะแยะนักนะ เขาแวะร้านผ้า ได้ยินมาว่านางตัดเย็บเสื้อผ้าเป็น ซื้อผ้าไปฝากนางสักหน่อยดีกว่า"เอ่อท่านลุง ท่านมาซื้อผ้าหรือเจ้าคะ"คนงานหญิงในร้านขายผ้ากลัวใบหน้าของเขาจึงเอ่ยตะกุกตะกัก ท่านลุงเขาดูแก่ขนาดนั้นเชียวหรือไง มิน่ายายเด็กบ้านั่นถึงเอาแต่เรียกเขาตาแก่ๆอยู่ได้ เจียวเหนียงเดินออกมาพอดี ทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง"ท่านลุงท่านนี้ ท่านจะซื้อผ้าไปฝากภรรยา หรือบุตรสาวกันเจ้าคะ หรือจะเป็นชุดสำเร็จร้านข้าก็มี"เซียวจ้านเป่ยอยากจะบ้าตาย อืมพาไอ้หน้าอ่อนนั่นขึ้นเขาล่าสัตว์กลับมาก่อนจะโกนหนวดโกนเคราสักที ยายเด็กบ้านั่นคำก็ตาแก่สองคำก็ตาเฒ่า คอยดูเถอะตาเฒ่าอย่างข้าจะทำให้เจ้าขาอ่อนครางแต่ชื่อข้าสักวันแม่ตัวดี"เอ่อ เถ้าแก่เนี๊ยข้าอยากได้ชุดสตรี สามชุดขนาดเท่านี้ กับชุดเด็กผู้หญิงสี่ขวบสามชุดขอรับ ขอผ้าห่มสี่ผืน ผ้านวมสี่ผืน แล้วก็ผ้าฝ้ายเนื้อดีท่านมีกี่ข้าเอาหมดสีละสองพับ ผ้าฝ้ายสีขาวห้าพับ ผ้าไหมเนื้อตีห้าพับ รองเท้าสตรีสามคู่ของเด็กสามคู แค่นี้แหละขอรับ"คังหยุนที่เดิ
บนเตียงคนไข้ในห้องไอซียู ร่างของจูเหมยลี่หรือจุฬาลักษณ์สาวไทยเชื้อสายจีนที่ถูกลูกหลงจากการที่นักเรียนอาชีวะยกพวกตีกันเธอใส่เครื่องช่วยหายใจมาเป็นเวลาเก้าวันแล้ว ข้างเตียงมีคนสองฝั่งกำลังขับเคี่ยวกันอยู่"คุณเป็นแม่แบบไหน เพราะอย่างนี้ไงผมถึงไม่อยากให้ลูกมาเมืองไทย แกคิดถึงอยากเจอคุณแต่คุณไม่ดูแลปล่อยให้ลูกผมต้องถูกทำร้าย"จูล่งนักธุรกิจชาวจีนซึ่งเป็นคุณพ่อของคนไข้ กำลังเอ่ยปากต่อว่าสตรีตรงหน้า เธออายุประมาณสี่สิบเจ็ดสี่สิบแปด แต่งกายด้วยผ้าเนื้อดีราวกับคุณหญิงคุณนาย"คุณจู ที่นี่เมืองไทยช่วยเก็บกิริยาที่ใช้บ้านคุณไว้ด้วย ฉันก็ห่วงจูลี่ไม่แพ้กันฉันเป็นแม่ของแกนะ วันๆคุณทำแต่งานจนลูกขาดความอบอุ่นแต่ยังมาโทษคนอื่นอีก"จุไรพรคุณแม่ของจูลี่เอ่ยปากต่อว่าอดีตสามี จูลี่เป็นลูกของเธอเพิ่งจะบินมาเที่ยวเมื่อสิบวันก่อนจู่ลี่เปิดร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ อีกทั้งยังเป็นบล็อกเกอร์รีวิวอาหาร ที่มาเที่ยวเมืองไทยก็จะมาถ่ายทำลงช่องของเธอแต่วันที่เกิดเรื่องเธอกำลังจะข้ามถนนไปอีกฝั่ง เด็กนักเรียนอาชีวะเหล่านั้นขับมอเตอร์ไซค์ตีคู่แข่งกันมาหนึ่งในนั้นใช้ปืนไล่ยิงคู่อริ จนกระสุนพลาดมาโดนคนที่รอสัญ
ริมแม่น้ำแม่น้ำชาวบ้านต่างพากันมาซักผ้า จูลี่เห็นวิถีชีวิตพวกเขาเหล่าสตรีต่างพุดคุยบ้างก็นินทากัน เห็นจูเหมยลี่ถือถังผ้ามาก็ได้แต่ถอนหายใจเด็กคนนี้ขยันขันแข็งพ่อแม่ตายไปก็ยังกตัญญูต่อปู่ย่า ใครจะรู้แม่เฒ่าจูจากไปศพยังไม่ทันเย็น ป้าสะใภ้นางเหวินซื่อก็ขายเด็กคนนี้ให้นายพรานเซียว ชะตาอาภัพนัก"เหมยลี่เอ๊ย แต่งงานแล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปให้ดีเถอะนะ"ป้าหวงเอ่ยขึ้นนางเวทนาชะตาชีวิตเด็กคนนี้ เดิมทีมีคู่หมั้นแต่พอปู่ย่าจากไปคู่หมั้นก็มาขอถอนหมั้น เพราะเขาหมายตาลูกสาวมือปราบในเมืองแล้ว ใครจะมาชอบลูกสาวชาวนาที่ไม่มีแม้แต่สินเดิมกันเล่า อีกอย่างจางชุนคนนั้นก็สอบบัณฑิตผ่านแล้วด้วยน่าเวทนาชะตานางนัก"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ข้าไม่เป็นไรหรอก"เอาขอบคุณชาวบ้านก่อนจะลงมือสักผ้าของสองพ่อลูก แต่จูเหมยลี่กลับเห็นบางอย่าง"ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านย่า พวกท่านมารับข้าหรือเจ้าคะ"จูเหมยลี่มองเห็นเงาสามเงาในน้ำก็เอ่ยขึ้น ป้าหวงรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินเสียงพึมพำ แต่พอป้าหวงหันมาอีกทีก็เหลือแค่ปลายผมให้เห็นแล้ว"ใครก็ได้ช่วยที เหมยลี่นางจมน้ำแล้วช่วยกันหน่อยเร็วเข้า" จูลี่ที่กำลังล่องลอยไปมาบริเวณภูเขา อยู่ๆก็มีแรงดึงดูดนางกลั
เซียวจ้านเป่ยเห็นจูเหมยลี่ที่อาบน้ำสะอาดสะอ้านแล้วก็ตะลึง ขนาดใส่ชุดบุรุษของเขาอยู่นางยังงามถึงเพียงนี้เหมือนเขาจะได้ของดีนะ ถ้าป้าสะใภ้นางรู้กว่าหลานสาวตัวเองขัดสีฉวีวรรณแล้วงามเพียงนี้คงเสียดายแน่ๆ เด็กนี่หากขายให้ขุนนางอย่างน้อยๆค่าสินสอดคงมากกว่าห้าหกร้อยตำลึงจูเหมยลี่เดินมาเกาะแขนเขาหน้าอกที่มีน้อยนิดเบียดกับต้นแขนแกร่ง เด็กนี่จงใจกลั่นแกล้งเขากับจางลู่เหลียนนางคงได้ยินที่จางลู่เหลียนดูถูกนาง"พี่ลู่เหลียน ข้าขออภัยที่มื้อเที่ยงวันนี้รบกวนท่านแล้ว เมื่อคืนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย พอตื่นมาไปซักผ้าเกิดก้าวพลาดตกน้ำลำบากท่านพี่ต้องมาดูแลอีก ท่านพี่ข้าหิวแล้วขอกินข้าวก่อนนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นคืนนี้จะมีแรงปรนนิบัติท่านได้อย่างไร"ไม่พูดเปล่ายังเงยหน้าช้อนสายตายั่วยวนคนตัวสูงอีก จางลู่เหลียนน้ำตาคลอ กำมือแน่นกำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงหวังดีประสงค์ร้ายตามหลัง"พี่ลู่เหลียนที่บ้านท่านไว้ทุกข์ให้ผู้ใดหรือ ใส่ชุดขาวทั้งตัวแบบนี้มาบ้านข้าคงไม่ได้มาแช่งสามีข้าหรอกนะ"จางลู่เหลียนปิดหน้าร้องไห้วิ่งกลับบ้านไม่หันกลับมาอีกเลย เมื่อก่อเรื่องเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำจูนเหมยลี่ก็ปล่อยมือเขาทันที
"ผิงผิงเด็กดีไหมเอ่ย ตื่นหรือยังน้อไม่ตื่นแม่จะหนีไปเที่ยวคนเดียวแล้วนะ" จูเหมยลี่จี้เอวเด็กน้อย นางตื่นแล้วแต่แกล้งหลับขนตากระพริบถี่เชียว"คิกๆๆๆท่านแม่ฮ่าๆๆท่านแม่ข้าจั๊กจี้มากเลยเจ้าค่ะคิกๆๆ"จูเหมยลี่มองตาเด็กน้อยก่อนจะก้มลงเป่าพุงนางเล่น เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากในบ้าน เซียวจ้านเป่ยยืนมองภาพตรงหน้าอย่างใจลอย ภาพนี้เหมือนตอนเขายังเด็กตอนที่เสด็จพ่อยังไม่แต่งสตรีคนนั้นเข้ามา เสด็จแม่รักใคร่เขานัก แต่ไม่นานนางก็จากไปหลักจากนั้นอีกสองปีเขาอายุสิบแปดไปไหว้หลุมศพมารดาขากลับก็ถูกตามฆ่าจนต้องหนีมาอาศัยอยู่ที่นี่กับพ่อบ้านของเขาท่านปู่เซียวหลงเพื่อปกปิดร่องรอยจำต้องแต่งภรรยา ในที่สุดก็ถูกหงซิ่ววางยาจนมีผิงผิงออกมา เขายังถูกตามล่าจากชายารองที่ตอนนี้ขึ้นตำแหน่งชายาเอกแล้วกระมัง ถอนหายใจเสร็จก็เดินเข้าบ้าน"ข้าจับปลาได้สามตัว จะไปซื้อเนื้อหมูที่ในเมืองมาให้ตอนเช้า ตอนนี้ตลาดคงวายหมดแล้ว ปลาต้องทำอย่างไร""ท่านขอดเกล็ดควักไส้ออกแล้วกัน อ้อติดเตาให้ด้วยข้าจะต้มน้ำให้ผิงผิงอาบก่อนเดี๋ยวฝนตก เก็บผ้าที่ข้าซักตากเข้ามาให้ด้วย"เซียจ้านเป่ยสะอึกเขาซื้อนางมาหรือว่านางซื้อเขามากันแน่ใช้งานเขายิ่งก
จูเหมยลี่เติมฟืนก่อนจะต้มน้ำจากนั้นก็ลวกไก่ถอนขน นางทำทั้งห้าตัวเลย จะเอามาย่างและมาทอดด้วย เฮ้อไม่อยากจะว่าสหายของตาลุงนั่นหรอกนะแต่ดูเหมือนหนึ่งตำลึงนี่ บางบ้านอยู่ได้ครึ่งปี แต่นี่นอกจากซาลาเปาแข็งๆกับข้าวต้ม เซียวลี่ผิงแทบไม่ได้กินดีเลย ตาลุงนั้นมีแป้งมีข้าวเต็มถังแต่กลับปล่อยให้ลูกสาวผอมเชียว ถึงจะไม่อดก็ใช่ว่าจะได้กินดี"ไปริมน้ำกับแม่ไหม แม่จะไปทำไก่ไม่อยากใช้น้ำในโอ่งเดี๋ยวท่านพ่อต้องหาบน้ำอีก"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่นำกะละมังไม้มาสองใบ นำชามใส่ขี้เถ้ามาหนึ่งใบ จากนั้นก็เอาไก่ป่าที่ลวกแล้วถอนขนเรียบร้อยใส่กะละมังไม้ก่อนจะพากันเดินไปหลังบ้าน จูเหมยลี่ผ่าท้องควักเครื่องในออกมาจากนั้นก็ล้างด้วยขี้เถ้าจนสะอาด"เฮ้อ อยากได้พริก ข่า ขิง กระเทียม พริกไทย ฮวาเจียวสักหน่อยที่นี่มีไหมนะ"ปากก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยแต่อยู่ๆจมูกก็ได้กลิ่น"หืมได้กลิ่นขิง กลิ่นพริก เอ๋เดี๋ยวนะอยู่ๆได้กลิ่น มาจากไหนกัน ผิงผิงรอแม่ตรงนี้นะเดี๋ยวแม่มา แม่ไปดูตีนเขาตรงฝั่งนั้นก่อน"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่ข้ามลำธารไป เห็นต้นไม้ไม่สูงเท่าไหร่ มีลูกสีเขียวสีแดงเต็มไปหมด มีกอข่า ขิง"อั๊ยย่ะ นี่มันสรรค์ประท
เซียวจ้านเป่ยเข้ามาเห็นภาพที่ทั้งคู่กอดกันก็รู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูก นางคงไม่หนีไปใช่ไหมนางบอกว่ารอเขากลับมาจะหย่า ก็ได้หากถึงเวลานั้นนางอยากหย่าเขาจะไม่รั้งไว้ แต่ตอนที่เขาไม่อยู่ให้นางช่วยดูแลบุตรสาวของเขาก็พอ"เอ่อ ผิงผิงอย่างอแงเลย พ่อกับท่านแม่แค่คุยกันนานไปหน่อย สายแล้วไปทำอาหารเถอะ ไหนบอกจะพาลูกไปเก็บผักป่าไง ข้าจะไปเป็นเพื่อนพวกเจ้า"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยขัดสองแม่ลูก "ไม่ต้องหรอก วันนี้สหายท่านที่ชื่อตงหยางนำหมูป่ามาให้ ท่านจะขายหรือชำแหละก็ไปจัดการเถอะ ส่วนไก่ข้าจะทำน้ำแกงบำรุงผิงผิง ข้าไม่ใช่คนพูดมากแต่ขอพูดสักคำ วันข้างหน้าข้าไม่รู้อนาคต แต่ค่าอาหารเดือนละหนึ่งตำลึง จางลู่เหลียนใส่แต่ผ้าเนื้อดี แต่บุตรสาวท่านกลับไม่มีเนื้อสักนิด ค่าอาหารท่านแพงไปหรือไม่ ผิงผิงไปทำอาหารกัน แม่จะทำไก่ย่างหอมๆให้กิน"จากนั่นก็จูงมือกันไปไม่สนใจเซียวจ้านเป่ยสักนิด เขาถูกบุตรสาวกับเมียเมินอีกตามเคย ไหงเขากลายเป็นส่วนเกินไปได้ ผิดพลาดตรงไหนกันเนี่ยจูเหมยลี่นำไก่มาหมักเกลือน้ำตาล นำกระเทียมกับพริกไทยมาทุบๆโขลกเล็กน้อยทาบนตัวไก่ จากนั้นก็เรียกคนด้านนอก"ท่านลุง รบกวนท่านไปเด็ดใบบัวให้ข้าสักหลายๆใบ เลือก
จูเหมยลี่ป้อนข้าวเซียวลี่ผิงเสร็จแล้วก็นั่งรอเซียวจ้านเป่ย สักพักเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับผักกาดสองต้นและถั่วฝักยาวหนึ่งกำ ภรรยาของเซี่ยตงหยางเป็นคนขยัน มักปลูกผักเลี้ยงไก่ ลูกๆไม่อดอยากส่วนภรรยาจางรั่วสุ่ย ไม่ใช่ว่าไม่ขยันแต่เป็นเพราะจางรั่วสุ่ยตามใจน้องสาวเกินไป เครื่องประดับเอย เสื้อผ้าเอย ไม่สนใจสักนิดว่าพี่สะใภ้ต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานบ้านยังบังคับให้นางตัดเย็บเสื้อผ้าให้อีก เซียวจ้านเป็นไม่ชอบสตรีหน้าขาวปากแดงเซียวจ้านเป่ยมาถึงบ้านก็เห็นจูเหมยลี่นั่งรออยู่ นางยังไม่จับตะเกียบยังคงรอเขามากินด้วย เมียเขาช่างน่ารักเหลือเกิน ก่อนจะส่งตะกร้าที่ใส่ผักให้นาง"เหมยลี่ นี่เป็นผักกาดกับถั่วฝักยาว พี่สะใภ้ให้มา เอ่อข้าแบ่งผักกาดให้รั่วสู่ยไปหนึ่งต้นกับถั่วหนึ่งกำเจ้าไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่""ไม่ว่าอะไรนี่ ทั้งสองคนเป็นสหายท่าน ข้าเป็นคนนอกไม่อยากยุ่ง ว่าแต่ของที่ข้าจดให้เมื่อเช้าซื้อมาได้หรือเปล่า"เซียวจ้านเป่ยถอนหายใจ นางสั่งให้เขาซื้อเครื่องปรุง ซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อเครื่องมือเกษตรทำไร่ ไม่ใช่ว่าเขาซื้อไม่ได้ แต่เขาไม่มีเงินจริงๆ ต้องขึ้นเขาก่อนเฮ้อ"เอ่อ ข้าได้แต่เครื่องปรุง เนื้อหมูแล้วก็เ
เซียวจ้านเป่ยซื้อของตามรายการที่เมียสั่งครบทุกอย่าง เอ่อต้องหาซื้อผ้าห่ม ผ้านวมหนาๆปูเตียงสักหน่อย นางให้ซื้อข้าวเหนียวทำไมเยอะแยะนักนะ เขาแวะร้านผ้า ได้ยินมาว่านางตัดเย็บเสื้อผ้าเป็น ซื้อผ้าไปฝากนางสักหน่อยดีกว่า"เอ่อท่านลุง ท่านมาซื้อผ้าหรือเจ้าคะ"คนงานหญิงในร้านขายผ้ากลัวใบหน้าของเขาจึงเอ่ยตะกุกตะกัก ท่านลุงเขาดูแก่ขนาดนั้นเชียวหรือไง มิน่ายายเด็กบ้านั่นถึงเอาแต่เรียกเขาตาแก่ๆอยู่ได้ เจียวเหนียงเดินออกมาพอดี ทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง"ท่านลุงท่านนี้ ท่านจะซื้อผ้าไปฝากภรรยา หรือบุตรสาวกันเจ้าคะ หรือจะเป็นชุดสำเร็จร้านข้าก็มี"เซียวจ้านเป่ยอยากจะบ้าตาย อืมพาไอ้หน้าอ่อนนั่นขึ้นเขาล่าสัตว์กลับมาก่อนจะโกนหนวดโกนเคราสักที ยายเด็กบ้านั่นคำก็ตาแก่สองคำก็ตาเฒ่า คอยดูเถอะตาเฒ่าอย่างข้าจะทำให้เจ้าขาอ่อนครางแต่ชื่อข้าสักวันแม่ตัวดี"เอ่อ เถ้าแก่เนี๊ยข้าอยากได้ชุดสตรี สามชุดขนาดเท่านี้ กับชุดเด็กผู้หญิงสี่ขวบสามชุดขอรับ ขอผ้าห่มสี่ผืน ผ้านวมสี่ผืน แล้วก็ผ้าฝ้ายเนื้อดีท่านมีกี่ข้าเอาหมดสีละสองพับ ผ้าฝ้ายสีขาวห้าพับ ผ้าไหมเนื้อตีห้าพับ รองเท้าสตรีสามคู่ของเด็กสามคู แค่นี้แหละขอรับ"คังหยุนที่เดิ
เซียวจ้านเป่ยตรงไปโรงเตี้ยมสุขสราญย์ทันที หมูป่าเพิ่งตายไม่นานก็จริง แต่หากไม่ใช่เพราะว่าเขาจะเข้าเมืองมาซื้อเสื้อผ้ากับของให้เมียล่ะก็ หมูนี่คงชำแหละขายในหมู่บ้านแล้ว อยากกลับบ้านจะแย่แล้วต้องรีบขาย"อ้าวนายพรานเซียวหรือ วันนี้ได้อะไรมากันเล่า ท่านไม่ขึ้นเขานานแล้วนี่ตั้งเกือบปีแล้ว"หยวนเหอเป็นหลงจู๊ของโรงเตี้ยมแห่งนี้ หลงจู๊คนนี้นิสัยดี ไม่กดราคา จึงทักทายเขากลับ"อ้อ พี่หยวนเหอพอดีข้าวางกับดักไว้ ได้หมูป่ามาสองตัวเลยนำมาให้ท่าน ไม่ทราบว่าท่านรับซื้อหรือไม่ขอรับ" หยวนเหอเหมือนสวรรค์มาโปรด"เฮ้อ ที่จริงนะอาเซียวหมูป่าตายแล้วชั่งละห้าสิบอีแปะเท่านั้น แต่ช่วงนี้ฝนตกนายพรานขึ้นเขาไม่ได้ อีกทั้งมีคนมาจากเมืองหลวง เป็นคุณชายตระกูลใหญ่มาเที่ยวเมืองกว่างโจวของเรา คนของขาอยากกินเนื้อแต่ข้าไม่มี เถ้าแก่กำลังกลุ้มใจเลยว่าจะทำเช่นไร เฮ้อข้าหยวนเหอคงมีบุญวาสนา สวรรค์ถึงส่งเจ้ามาเอาเช่นนี้ข้าให้ราคาเท่ากับหมูเป็นชั่งละแปดสิบอีแปะแล้วกัน อาจูมาเอาหมูไปขึ้นตาชั่ง"หยวนเหอสั่งคนงานไม่ช้าก็นำหมูป่าสองตัวไป เซียวจ้านเป่ยเลียบๆเคียงๆถามหยวนเหอถึงคนที่มา หากเกี่ยวข้องกับหรานซินชายารองเสด็จพ่อเขาต้องวาง
เงินที่เสด็จแม่ฝากไว้เป็นชื่อเขามีมากมายนัก แต่เพราะไม่อยากเปิดเผยร่อยรอย จึงต้องใช้ชีวิตติดดิน มีทองแท่งเล็กๆอยู่หากขายคงได้แท่งละสักสิบตำลึงซึ่งไม่พอให้ใช้ชีวิตสองคนแม่ลูกพรุ่งนี้ขึ้นเขาล่าเสือหรือหมีสักตัว หากขายได้ก็คงมากกว่าสามร้อยถึงห้าร้อยตำลึง จะฝากเป็นชื่อนางไว้ ป้าสะใภ้นางละโมบนักถ้าเขาไม่อยู่อาจมารังแกและแย่งชิงไปได้ เห็นจูเหมยลี่กำลังจะสะพายตะกร้าก็เรียกไว้ก่อน"เหมยลี่ ข้ามีอยากให้ช่วยหาของสักหน่อย ผิงผิงนั่งรอท่านแม่อยู่ตรงนั้นก่อนนะ ลูกเป็นเด็กดีหรือเปล่า""ลูกจะไม่ดื้อเจ้าค่ะ ท่านแม่รีบไปช่วยท่านพ่อนะเจ้าคะผิงผิงจะรออยู่ตรงนี้"จูเหมยลี่เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน ดูท่าเขาคงรู้ว่าเงินที่ซ่อนไว้ถูกนางแคะไปจนหมดแล้ว จึงอยากหาเรื่อง เพราะตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทะเลาะหรือเถียงกันต่อหน้าเด็ก จึงต้องทะเลาะกันลับตาเจ้าตัวน้อย"นี่ท่านลุง ถ้าจะถามเรื่องเงินที่ท่านซ่อนเอาไว้ละก็เสียใจด้วย ตอนนี้เหลืออยู่สองร้อยกว่าอีแปะเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็อยู่ในท้องท่าน อื้อๆๆ"เซียวจ้านเป่ยโมโหเด็กบ้านี่เรียกเขาท่านลุงบ้างล่ะ ตาแก่บ้างล่ะ ตาเฒ่าบ้างละมันน่าโมโหนัก เขาจูบนางครั้งนี้นานกว่าทุกครั้งจนจู
จูเหมยลี่ป้อนข้าวเซียวลี่ผิงเสร็จแล้วก็นั่งรอเซียวจ้านเป่ย สักพักเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับผักกาดสองต้นและถั่วฝักยาวหนึ่งกำ ภรรยาของเซี่ยตงหยางเป็นคนขยัน มักปลูกผักเลี้ยงไก่ ลูกๆไม่อดอยากส่วนภรรยาจางรั่วสุ่ย ไม่ใช่ว่าไม่ขยันแต่เป็นเพราะจางรั่วสุ่ยตามใจน้องสาวเกินไป เครื่องประดับเอย เสื้อผ้าเอย ไม่สนใจสักนิดว่าพี่สะใภ้ต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานบ้านยังบังคับให้นางตัดเย็บเสื้อผ้าให้อีก เซียวจ้านเป็นไม่ชอบสตรีหน้าขาวปากแดงเซียวจ้านเป่ยมาถึงบ้านก็เห็นจูเหมยลี่นั่งรออยู่ นางยังไม่จับตะเกียบยังคงรอเขามากินด้วย เมียเขาช่างน่ารักเหลือเกิน ก่อนจะส่งตะกร้าที่ใส่ผักให้นาง"เหมยลี่ นี่เป็นผักกาดกับถั่วฝักยาว พี่สะใภ้ให้มา เอ่อข้าแบ่งผักกาดให้รั่วสู่ยไปหนึ่งต้นกับถั่วหนึ่งกำเจ้าไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่""ไม่ว่าอะไรนี่ ทั้งสองคนเป็นสหายท่าน ข้าเป็นคนนอกไม่อยากยุ่ง ว่าแต่ของที่ข้าจดให้เมื่อเช้าซื้อมาได้หรือเปล่า"เซียวจ้านเป่ยถอนหายใจ นางสั่งให้เขาซื้อเครื่องปรุง ซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อเครื่องมือเกษตรทำไร่ ไม่ใช่ว่าเขาซื้อไม่ได้ แต่เขาไม่มีเงินจริงๆ ต้องขึ้นเขาก่อนเฮ้อ"เอ่อ ข้าได้แต่เครื่องปรุง เนื้อหมูแล้วก็เ
เซียวจ้านเป่ยเข้ามาเห็นภาพที่ทั้งคู่กอดกันก็รู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูก นางคงไม่หนีไปใช่ไหมนางบอกว่ารอเขากลับมาจะหย่า ก็ได้หากถึงเวลานั้นนางอยากหย่าเขาจะไม่รั้งไว้ แต่ตอนที่เขาไม่อยู่ให้นางช่วยดูแลบุตรสาวของเขาก็พอ"เอ่อ ผิงผิงอย่างอแงเลย พ่อกับท่านแม่แค่คุยกันนานไปหน่อย สายแล้วไปทำอาหารเถอะ ไหนบอกจะพาลูกไปเก็บผักป่าไง ข้าจะไปเป็นเพื่อนพวกเจ้า"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยขัดสองแม่ลูก "ไม่ต้องหรอก วันนี้สหายท่านที่ชื่อตงหยางนำหมูป่ามาให้ ท่านจะขายหรือชำแหละก็ไปจัดการเถอะ ส่วนไก่ข้าจะทำน้ำแกงบำรุงผิงผิง ข้าไม่ใช่คนพูดมากแต่ขอพูดสักคำ วันข้างหน้าข้าไม่รู้อนาคต แต่ค่าอาหารเดือนละหนึ่งตำลึง จางลู่เหลียนใส่แต่ผ้าเนื้อดี แต่บุตรสาวท่านกลับไม่มีเนื้อสักนิด ค่าอาหารท่านแพงไปหรือไม่ ผิงผิงไปทำอาหารกัน แม่จะทำไก่ย่างหอมๆให้กิน"จากนั่นก็จูงมือกันไปไม่สนใจเซียวจ้านเป่ยสักนิด เขาถูกบุตรสาวกับเมียเมินอีกตามเคย ไหงเขากลายเป็นส่วนเกินไปได้ ผิดพลาดตรงไหนกันเนี่ยจูเหมยลี่นำไก่มาหมักเกลือน้ำตาล นำกระเทียมกับพริกไทยมาทุบๆโขลกเล็กน้อยทาบนตัวไก่ จากนั้นก็เรียกคนด้านนอก"ท่านลุง รบกวนท่านไปเด็ดใบบัวให้ข้าสักหลายๆใบ เลือก
จูเหมยลี่เติมฟืนก่อนจะต้มน้ำจากนั้นก็ลวกไก่ถอนขน นางทำทั้งห้าตัวเลย จะเอามาย่างและมาทอดด้วย เฮ้อไม่อยากจะว่าสหายของตาลุงนั่นหรอกนะแต่ดูเหมือนหนึ่งตำลึงนี่ บางบ้านอยู่ได้ครึ่งปี แต่นี่นอกจากซาลาเปาแข็งๆกับข้าวต้ม เซียวลี่ผิงแทบไม่ได้กินดีเลย ตาลุงนั้นมีแป้งมีข้าวเต็มถังแต่กลับปล่อยให้ลูกสาวผอมเชียว ถึงจะไม่อดก็ใช่ว่าจะได้กินดี"ไปริมน้ำกับแม่ไหม แม่จะไปทำไก่ไม่อยากใช้น้ำในโอ่งเดี๋ยวท่านพ่อต้องหาบน้ำอีก"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่นำกะละมังไม้มาสองใบ นำชามใส่ขี้เถ้ามาหนึ่งใบ จากนั้นก็เอาไก่ป่าที่ลวกแล้วถอนขนเรียบร้อยใส่กะละมังไม้ก่อนจะพากันเดินไปหลังบ้าน จูเหมยลี่ผ่าท้องควักเครื่องในออกมาจากนั้นก็ล้างด้วยขี้เถ้าจนสะอาด"เฮ้อ อยากได้พริก ข่า ขิง กระเทียม พริกไทย ฮวาเจียวสักหน่อยที่นี่มีไหมนะ"ปากก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยแต่อยู่ๆจมูกก็ได้กลิ่น"หืมได้กลิ่นขิง กลิ่นพริก เอ๋เดี๋ยวนะอยู่ๆได้กลิ่น มาจากไหนกัน ผิงผิงรอแม่ตรงนี้นะเดี๋ยวแม่มา แม่ไปดูตีนเขาตรงฝั่งนั้นก่อน"เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่ข้ามลำธารไป เห็นต้นไม้ไม่สูงเท่าไหร่ มีลูกสีเขียวสีแดงเต็มไปหมด มีกอข่า ขิง"อั๊ยย่ะ นี่มันสรรค์ประท
"ผิงผิงเด็กดีไหมเอ่ย ตื่นหรือยังน้อไม่ตื่นแม่จะหนีไปเที่ยวคนเดียวแล้วนะ" จูเหมยลี่จี้เอวเด็กน้อย นางตื่นแล้วแต่แกล้งหลับขนตากระพริบถี่เชียว"คิกๆๆๆท่านแม่ฮ่าๆๆท่านแม่ข้าจั๊กจี้มากเลยเจ้าค่ะคิกๆๆ"จูเหมยลี่มองตาเด็กน้อยก่อนจะก้มลงเป่าพุงนางเล่น เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากในบ้าน เซียวจ้านเป่ยยืนมองภาพตรงหน้าอย่างใจลอย ภาพนี้เหมือนตอนเขายังเด็กตอนที่เสด็จพ่อยังไม่แต่งสตรีคนนั้นเข้ามา เสด็จแม่รักใคร่เขานัก แต่ไม่นานนางก็จากไปหลักจากนั้นอีกสองปีเขาอายุสิบแปดไปไหว้หลุมศพมารดาขากลับก็ถูกตามฆ่าจนต้องหนีมาอาศัยอยู่ที่นี่กับพ่อบ้านของเขาท่านปู่เซียวหลงเพื่อปกปิดร่องรอยจำต้องแต่งภรรยา ในที่สุดก็ถูกหงซิ่ววางยาจนมีผิงผิงออกมา เขายังถูกตามล่าจากชายารองที่ตอนนี้ขึ้นตำแหน่งชายาเอกแล้วกระมัง ถอนหายใจเสร็จก็เดินเข้าบ้าน"ข้าจับปลาได้สามตัว จะไปซื้อเนื้อหมูที่ในเมืองมาให้ตอนเช้า ตอนนี้ตลาดคงวายหมดแล้ว ปลาต้องทำอย่างไร""ท่านขอดเกล็ดควักไส้ออกแล้วกัน อ้อติดเตาให้ด้วยข้าจะต้มน้ำให้ผิงผิงอาบก่อนเดี๋ยวฝนตก เก็บผ้าที่ข้าซักตากเข้ามาให้ด้วย"เซียจ้านเป่ยสะอึกเขาซื้อนางมาหรือว่านางซื้อเขามากันแน่ใช้งานเขายิ่งก
เซียวจ้านเป่ยเห็นจูเหมยลี่ที่อาบน้ำสะอาดสะอ้านแล้วก็ตะลึง ขนาดใส่ชุดบุรุษของเขาอยู่นางยังงามถึงเพียงนี้เหมือนเขาจะได้ของดีนะ ถ้าป้าสะใภ้นางรู้กว่าหลานสาวตัวเองขัดสีฉวีวรรณแล้วงามเพียงนี้คงเสียดายแน่ๆ เด็กนี่หากขายให้ขุนนางอย่างน้อยๆค่าสินสอดคงมากกว่าห้าหกร้อยตำลึงจูเหมยลี่เดินมาเกาะแขนเขาหน้าอกที่มีน้อยนิดเบียดกับต้นแขนแกร่ง เด็กนี่จงใจกลั่นแกล้งเขากับจางลู่เหลียนนางคงได้ยินที่จางลู่เหลียนดูถูกนาง"พี่ลู่เหลียน ข้าขออภัยที่มื้อเที่ยงวันนี้รบกวนท่านแล้ว เมื่อคืนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย พอตื่นมาไปซักผ้าเกิดก้าวพลาดตกน้ำลำบากท่านพี่ต้องมาดูแลอีก ท่านพี่ข้าหิวแล้วขอกินข้าวก่อนนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นคืนนี้จะมีแรงปรนนิบัติท่านได้อย่างไร"ไม่พูดเปล่ายังเงยหน้าช้อนสายตายั่วยวนคนตัวสูงอีก จางลู่เหลียนน้ำตาคลอ กำมือแน่นกำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงหวังดีประสงค์ร้ายตามหลัง"พี่ลู่เหลียนที่บ้านท่านไว้ทุกข์ให้ผู้ใดหรือ ใส่ชุดขาวทั้งตัวแบบนี้มาบ้านข้าคงไม่ได้มาแช่งสามีข้าหรอกนะ"จางลู่เหลียนปิดหน้าร้องไห้วิ่งกลับบ้านไม่หันกลับมาอีกเลย เมื่อก่อเรื่องเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทำจูนเหมยลี่ก็ปล่อยมือเขาทันที
ริมแม่น้ำแม่น้ำชาวบ้านต่างพากันมาซักผ้า จูลี่เห็นวิถีชีวิตพวกเขาเหล่าสตรีต่างพุดคุยบ้างก็นินทากัน เห็นจูเหมยลี่ถือถังผ้ามาก็ได้แต่ถอนหายใจเด็กคนนี้ขยันขันแข็งพ่อแม่ตายไปก็ยังกตัญญูต่อปู่ย่า ใครจะรู้แม่เฒ่าจูจากไปศพยังไม่ทันเย็น ป้าสะใภ้นางเหวินซื่อก็ขายเด็กคนนี้ให้นายพรานเซียว ชะตาอาภัพนัก"เหมยลี่เอ๊ย แต่งงานแล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปให้ดีเถอะนะ"ป้าหวงเอ่ยขึ้นนางเวทนาชะตาชีวิตเด็กคนนี้ เดิมทีมีคู่หมั้นแต่พอปู่ย่าจากไปคู่หมั้นก็มาขอถอนหมั้น เพราะเขาหมายตาลูกสาวมือปราบในเมืองแล้ว ใครจะมาชอบลูกสาวชาวนาที่ไม่มีแม้แต่สินเดิมกันเล่า อีกอย่างจางชุนคนนั้นก็สอบบัณฑิตผ่านแล้วด้วยน่าเวทนาชะตานางนัก"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ข้าไม่เป็นไรหรอก"เอาขอบคุณชาวบ้านก่อนจะลงมือสักผ้าของสองพ่อลูก แต่จูเหมยลี่กลับเห็นบางอย่าง"ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านย่า พวกท่านมารับข้าหรือเจ้าคะ"จูเหมยลี่มองเห็นเงาสามเงาในน้ำก็เอ่ยขึ้น ป้าหวงรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินเสียงพึมพำ แต่พอป้าหวงหันมาอีกทีก็เหลือแค่ปลายผมให้เห็นแล้ว"ใครก็ได้ช่วยที เหมยลี่นางจมน้ำแล้วช่วยกันหน่อยเร็วเข้า" จูลี่ที่กำลังล่องลอยไปมาบริเวณภูเขา อยู่ๆก็มีแรงดึงดูดนางกลั