เงินที่เสด็จแม่ฝากไว้เป็นชื่อเขามีมากมายนัก แต่เพราะไม่อยากเปิดเผยร่อยรอย จึงต้องใช้ชีวิตติดดิน มีทองแท่งเล็กๆอยู่หากขายคงได้แท่งละสักสิบตำลึงซึ่งไม่พอให้ใช้ชีวิตสองคนแม่ลูก
พรุ่งนี้ขึ้นเขาล่าเสือหรือหมีสักตัว หากขายได้ก็คงมากกว่าสามร้อยถึงห้าร้อยตำลึง จะฝากเป็นชื่อนางไว้ ป้าสะใภ้นางละโมบนักถ้าเขาไม่อยู่อาจมารังแกและแย่งชิงไปได้ เห็นจูเหมยลี่กำลังจะสะพายตะกร้าก็เรียกไว้ก่อน
"เหมยลี่ ข้ามีอยากให้ช่วยหาของสักหน่อย ผิงผิงนั่งรอท่านแม่อยู่ตรงนั้นก่อนนะ ลูกเป็นเด็กดีหรือเปล่า"
"ลูกจะไม่ดื้อเจ้าค่ะ ท่านแม่รีบไปช่วยท่านพ่อนะเจ้าคะผิงผิงจะรออยู่ตรงนี้"
จูเหมยลี่เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน ดูท่าเขาคงรู้ว่าเงินที่ซ่อนไว้ถูกนางแคะไปจนหมดแล้ว จึงอยากหาเรื่อง เพราะตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทะเลาะหรือเถียงกันต่อหน้าเด็ก จึงต้องทะเลาะกันลับตาเจ้าตัวน้อย
"นี่ท่านลุง ถ้าจะถามเรื่องเงินที่ท่านซ่อนเอาไว้ละก็เสียใจด้วย ตอนนี้เหลืออยู่สองร้อยกว่าอีแปะเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็อยู่ในท้องท่าน อื้อๆๆ"
เซียวจ้านเป่ยโมโหเด็กบ้านี่เรียกเขาท่านลุงบ้างล่ะ ตาแก่บ้างล่ะ ตาเฒ่าบ้างละมันน่าโมโหนัก เขาจูบนางครั้งนี้นานกว่าทุกครั้ง
จนจูเหมยลี่ต้องทุบเขารัวๆเพื่อประท้วง เซียวจ้านเป่ยถอนริมฝีปากออกอย่าเสียดาย
"บอกว่าห้ามเรียกท่านลุงเจ้าดื้อเองนะ บอกแล้วนะเรียกครั้งหนึ่งจูบเจ้าทีหนึ่ง เอ...หรือว่าเจ้าชอบให้ข้าจูบเจ้ากันแน่หึ"
"คนบ้า ตาแก่ลามกใครชอบกัน หนวดท่านทิ่มตำจนข้าแสบผิวไปหมด ท่านมันโรคจิตถ้าไม่มีอะไรข้าไปแล้วนะผิงผิงรออยู่"
นางทำท่าจะก้าวเท้าออกนอกห้องไปเซียวจ้านเป่ยรวบเอวบางไว้เขานั่งลงบนเตียงแล้วจับนางนั่งตัก กระซิบข้าหู
"เจ้ามามีแค่เสื้อผ้าชุดเดียว ข้าจะซื้อให้สักสามชุดแต่ว่าข้ากะไม่ถูกเลยต้องพาเจ้ามาวัดตัว อืม เอวเจ้านี่มือข้างเดียวข้าเองนะ หืมหน้าอกเจ้าล้นมือข้านิดหน่อย เมื่อคืนตอนอาบน้ำในลำธาร ได้ยินเจ้าพูดว่าอยากได้ใหญ่กว่านี้ต้องนวดอีกหน่อย ก่อนจะไปเข้ากองทัพข้าจะช่วยนวดให้ทุกคืนเลยดีไหม"
เซียวจ้านเป่ยจับนางหันหน้ามาหา ไม่พูดเปล่ามือเขาแหวกสาบเสื้อนางออกก่อนจะก้มลงไปดูดดื่มยอดอกสีชมพูแสนหวานนั่น มืออีกข้างก็เคล้นคลึงนิ้วโป้งปาดเม็ดทับทิมไปมาจนจูเหมยลี่สะท้าน หนวดเขาทิ่มเนื้อนวลจนนางสยิว
" อื้อ เซียวจ้านเป่ยพอแล้วอย่าดูดแรงสิ พอเถอะนะ ลูกรออยู่อื้อ ท่านนี่นะใครเขานวดแบบนี้เล่าตาบ้า ท่านหลอกข้ามาหาเศษหาเรอหรือ"
มือน้อยๆทุบเขารัวๆ นางเสียวจะตายแล้วคนบ้านี่เล่นทั้งดูดทั้งเม้ม เกิดมาจะอายุสามสิบขนาดมือตัวเองยังไม่เคยเลย แต่ตาบ้านี่ทั้งดูดทั้งคลึง ในที่สุดเซียวจ้านเป่ยจำยอมละจากความหวานตรงหน้าอย่างเสียดายก่อนจะยิ้มล้อเลียนนาง
"ข้าพอมีความรู้เรื่องวิชาแพทย์นิดหน่อย นวดอย่างเดียวไม่โตนะ ต้องดูดต้องเม้มด้วยให้เลือดไหลเวียนขยายเส้นลมปราณ เด็กดื้อเจ้าหวานนักก่อนไปทัพอยากจับเจ้ากินเสียจริง หากไม่ใช่ครั้งนั้นข้าถูกวางยางเพียงครั้งเดียวแล้วมีผิงผิงละก็ไม่ปล่อยเจ้าแน่ๆ"
"ห๊า ท่านถูกสตรีวางยาแล้วขืนใจหรือ จุ๊ๆสตรีคนไหนสติไม่ดีชะตาขาดกันเนี่ย อื้ออย่าดูดพอแล้วเซียวจ้านเป่ยผิงผิงรอนานแล้วเดี๋ยวนางเข้ามา อื้อ"
"ปากดีนัก ถ้าไม่กลัวว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ตอนข้าไม่อยู่ละก็จะทำให้เจ้าร้องขอชีวิตเชียว ข้าจะไปแล้วกลับมาจะให้เจ้าโกนหนวดโกนเคราให้ด้วย ไม่ใช่พอเห็นหน้าจริงๆของข้าที่หล่อเหลา เจ้าจะใจแตกเป็นฝ่ายปลุกปล้ำข้าเสียเองนะ ไปเถอะข้าวัดขนาดเสร็จแล้วรับรองข้าซื้อชุดให้เจ้าพอดีแน่ มือข้าแม่นนัก"
จากนั้นก็ปล่อยจูเหมยลี่ นางมองค้อนเขารีบใส่เสื้ออย่างไว ลนลานลงจากเตียง ผู้ชายคนนี้มีฝีมือจริงๆ เทียบกับนางแล้วนับว่านางเป็นเด็กอนุบาลเลย แบบนี้ไม่ไหวต้องวางแผนใหม่ ไม่งั้นถูกจับกินจริงๆแน่เขาแข็งขึงจนนางรู้สึกได้ตอนที่นั่งตักเขา
"ท่านแม่มาแล้ว ท่านพ่อของอะไรหายหรือเจ้าคะทำไมไปนานจัง สายแล้วเดี๋ยวแดดร้อนท่านพ่อจะป่วยนะเจ้าคะ"
เซียวลี่ผิงกอดคอบิดาที่ก้มลงอุ้มนางขึ้นมา
จูเหมยลี่เดินไปเอากระบอกน้ำกรอกน้ำ เซียวจ้านเป่ยจึงทำข้อตกลงกับบุตรสาว
"ผิงผิงพ่อมีเรื่องให้ช่วย เราต้องคุยกันเบาๆลูกอยากให้ท่านแม่อยู่กับเราไหม"
เซียวลี่ผิงพยักหน้าเขาจึงนั่งลงแล้วอุ้มบุตรสาวมานั่งตัก ตาก็มองในบ้านว่าจูเหมยลี่จะมาเมื่อไหร่
"ผิงผิง ลูกต้องออดอ้อนท่านแม่ดีๆ ตอนกลางคืนบอกว่าอยากนอนกับท่านแม่และท่านพ่อ เดือนหน้าพ่อต้องไปกองทัพลูกต้องดูแลท่านแม่ อย่าให้บุรุษอื่นเข้าใกล้นาง อย่างอแงงี่เง่า แต่ต้องรู้เวลาไหนควรมีน้ำตาเข้าใจไหม นี่เป็นข้อตกลงของเรา ห้ามให้ท่านแม่รู้หากเจ้าอยากให้นางอยู่กับพวกเราตลอดไป"
"ข้าทำได้เจ้าค่ะ แต่ว่าท่านพ่อจะนอนกับลูกกับท่านแม่หรือเจ้าคะ อืมดีเจ้าค่ะงั้นคืนนี้ข้าจะบอกท่านแม่ ท่านพ่อท่านแม่เดินมาแล้ว"
"จำไว้ รู้แค่เราสองคน ไม่งั้นท่านแม่หนีไปพ่อก็ช่วยเจ้าไม่ได้นะ"
สองพ่อลูกเกี่ยวก้อยกันก่อนจะสัญญาจากนั่นก็สบตากัน จูเหมยลี่เดินมาถึงก็เอากระบอกน้ำเต้าใส่ตะกร้าแล้วอุ้มเซียวลี่ผิงพาไปยังเชิงเขา ไม่มองหน้าเขาเลยตาบ้านี่หน้าหนานัก เซียวจ้านเป่ยรู้ดีบุตรสาวของเขารักษาคำพูดเสมอ เขาสอนนางตั้งแต่เริ่มพูดรู้เรื่องแล้วว่าคนเราต้องรักษาสัจจะ
เรื่องเมียเขาคนนี้มีแต่เซียวลี่ผิงแล้วที่ช่วยเขาได้ ไปตั้งสองปีต้องหาทางให้ผิงผิงยึดเหนี่ยวนางเอาไว้ให้ได้ จากนั้นก็อารมณ์ดีขับเกวียนเข้าเมืองอีกครั้ง
เซียวจ้านเป่ยไม่รู้หรอกว่าบุตรสาวต้องขับเขี้ยวขนาดไหนตอนที่เขาไม่อยู ท่านแม่มีแต่บุรุษมาขายขนมจีบขนมหวานแทบทุกวัน บางทีการมีเมียสวยเกินไปก็เป็นทุกข์อย่างนึง
เซียวจ้านเป่ยตรงไปโรงเตี้ยมสุขสราญย์ทันที หมูป่าเพิ่งตายไม่นานก็จริง แต่หากไม่ใช่เพราะว่าเขาจะเข้าเมืองมาซื้อเสื้อผ้ากับของให้เมียล่ะก็ หมูนี่คงชำแหละขายในหมู่บ้านแล้ว อยากกลับบ้านจะแย่แล้วต้องรีบขาย"อ้าวนายพรานเซียวหรือ วันนี้ได้อะไรมากันเล่า ท่านไม่ขึ้นเขานานแล้วนี่ตั้งเกือบปีแล้ว"หยวนเหอเป็นหลงจู๊ของโรงเตี้ยมแห่งนี้ หลงจู๊คนนี้นิสัยดี ไม่กดราคา จึงทักทายเขากลับ"อ้อ พี่หยวนเหอพอดีข้าวางกับดักไว้ ได้หมูป่ามาสองตัวเลยนำมาให้ท่าน ไม่ทราบว่าท่านรับซื้อหรือไม่ขอรับ" หยวนเหอเหมือนสวรรค์มาโปรด"เฮ้อ ที่จริงนะอาเซียวหมูป่าตายแล้วชั่งละห้าสิบอีแปะเท่านั้น แต่ช่วงนี้ฝนตกนายพรานขึ้นเขาไม่ได้ อีกทั้งมีคนมาจากเมืองหลวง เป็นคุณชายตระกูลใหญ่มาเที่ยวเมืองกว่างโจวของเรา คนของขาอยากกินเนื้อแต่ข้าไม่มี เถ้าแก่กำลังกลุ้มใจเลยว่าจะทำเช่นไร เฮ้อข้าหยวนเหอคงมีบุญวาสนา สวรรค์ถึงส่งเจ้ามาเอาเช่นนี้ข้าให้ราคาเท่ากับหมูเป็นชั่งละแปดสิบอีแปะแล้วกัน อาจูมาเอาหมูไปขึ้นตาชั่ง"หยวนเหอสั่งคนงานไม่ช้าก็นำหมูป่าสองตัวไป เซียวจ้านเป่ยเลียบๆเคียงๆถามหยวนเหอถึงคนที่มา หากเกี่ยวข้องกับหรานซินชายารองเสด็จพ่อเขาต้องวาง
เซียวจ้านเป่ยซื้อของตามรายการที่เมียสั่งครบทุกอย่าง เอ่อต้องหาซื้อผ้าห่ม ผ้านวมหนาๆปูเตียงสักหน่อย นางให้ซื้อข้าวเหนียวทำไมเยอะแยะนักนะ เขาแวะร้านผ้า ได้ยินมาว่านางตัดเย็บเสื้อผ้าเป็น ซื้อผ้าไปฝากนางสักหน่อยดีกว่า"เอ่อท่านลุง ท่านมาซื้อผ้าหรือเจ้าคะ"คนงานหญิงในร้านขายผ้ากลัวใบหน้าของเขาจึงเอ่ยตะกุกตะกัก ท่านลุงเขาดูแก่ขนาดนั้นเชียวหรือไง มิน่ายายเด็กบ้านั่นถึงเอาแต่เรียกเขาตาแก่ๆอยู่ได้ เจียวเหนียงเดินออกมาพอดี ทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง"ท่านลุงท่านนี้ ท่านจะซื้อผ้าไปฝากภรรยา หรือบุตรสาวกันเจ้าคะ หรือจะเป็นชุดสำเร็จร้านข้าก็มี"เซียวจ้านเป่ยอยากจะบ้าตาย อืมพาไอ้หน้าอ่อนนั่นขึ้นเขาล่าสัตว์กลับมาก่อนจะโกนหนวดโกนเคราสักที ยายเด็กบ้านั่นคำก็ตาแก่สองคำก็ตาเฒ่า คอยดูเถอะตาเฒ่าอย่างข้าจะทำให้เจ้าขาอ่อนครางแต่ชื่อข้าสักวันแม่ตัวดี"เอ่อ เถ้าแก่เนี๊ยข้าอยากได้ชุดสตรี สามชุดขนาดเท่านี้ กับชุดเด็กผู้หญิงสี่ขวบสามชุดขอรับ ขอผ้าห่มสี่ผืน ผ้านวมสี่ผืน แล้วก็ผ้าฝ้ายเนื้อดีท่านมีกี่ข้าเอาหมดสีละสองพับ ผ้าฝ้ายสีขาวห้าพับ ผ้าไหมเนื้อตีห้าพับ รองเท้าสตรีสามคู่ของเด็กสามคู แค่นี้แหละขอรับ"คังหยุนที่เดิ
จูเหมยลี่เตรียมสะพายตะกร้าพาบุตรสาวลงจากเชิงเขา เพื่อเอาของไปเก็บก่อนนางได้กลิ่นลูกพีช นางอยากกินจะตายอยู่แล้ว เซียวจ้านเป่ยเดินมาหาก่อนจะแย่งเอาตะกร้ามาเอง" ข้าเอาไปเก็บเอง อืมพอแล้วไหมเมียข้าจะยามเซินแล้วข้าซื้อของมามากมายนัก ยังไม่ได้ขนลงจากเกวียนเลย"เซียวจ้านเป่ยเห็นของในตะกร้าก็แปลกใจ บางชนิดเขาเดินผ่านทุกวัน แต่นางกลับเก็บมันเสียทุกต้น มันกินได้จริงๆหรือ แต่ตั้งแต่เรื่องบัวหิมะเขาก็ไม่กล้าขัดใจนางอีก เห็นตัวเล็กๆ เท้าหนักไม่ใช่น้อย"ข้าได้กลิ่นผลท้อน่ะ ข้าอยากกินท่านลุงท่านพาผิงผิงไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวข้ากลับทีหลังเอง"พูดจบก็หมุนตัวไปบนเขา เซียวจ้านเป่ยคว้าแขนกลมกลึงของนางไว้ก่อนจะวางตะกร้าลง"เอาตะกร้าไว้นี่ก่อนก็ได้ ที่นี่ไม่มีใครขึ้นมาไม่มีของหายหรอก ไปกันเถอะ"จากนั้นเซียวจ้านเป่ยก็อุ้มเซียวลี่ผิงขี่คอ เดินตามจูเหมยลี่ไปสักพักไม่นาน ก็เจอต้นท้อจริงๆ ลูกท้อสีชมพูเข้มกลิ่นหอมมากจูเหมยลี่วิ่งเข้าหาทันที ก่อนจะเด็ดลงมาแล้วตัดเถาวัลย์ใกล้เคียงนำน้ำในเถาวัลย์มาล้างลูกท้องสองลูก เซียวจ้านเป่ยเป็นนายพรานยังไม่รู้วิธีนี้เลย ผู้หญิงคนนี้ใช่คนเดียวกับที่วันๆก้มหน้าอยู่แต่ในแปลงนาคนนั้
ทันทีที่ถึงบ้านก็เห็นคนกำลังรื้อเกวียนที่จอดอยู่ เซียวจ้านเป่ยแน่ใจว่าปิดประตูลงกลอนแล้วนะหรือว่ากลอนมีปัญหา คนที่กำลังรื้อข้าวของคือจูหมิงซูบุตรสาวจูพั่งลุงใหญ่ของนาง ส่วนอีกคนคือป้าสะใภ้ที่ขายนางมา นางเหวิน จูเหมยลี่วางบุตรสาวลงก่อนจะหันไปหาเซียวจ้านเป่ย"พาลูกไปที ข้าไม่อยากให้นางเห็นสิ่งที่ข้าจะทำ" เซียวจ้านเป่ยทำหน้าสงสัยแต่ก็ยอมอุ้มเซียวลี่ผิงเดินไปในบ้านแล้วสั่งว่าอย่าออกมาพ่อจะไปดูท่านแม่ เด้กน้อยก้เชื่อฟังแล้วนอนบนเตียงแต่โดยดี"พวกเจ้าทำอะไรกัน จูหมิงซู เหวินซื่อ วางข้าวของบ้านข้าลงเดี๋ยวนี้"จูเหมยลี่สั่งเสียงเย็น เซี่ยตงหยางที่กำลังจะมาหาสหายถึงกับยืนฟังอยู่นอกรั้ว เสียงนางดูมีอำนาจนัก"แหม่นังสารเลว มีผัวเข้าหน่อยทำเสียงแข็งใส่ข้า พวกข้าเห็นสามีเจ้าเอาหมูป่าไปขาย ซื้อของกลับมามากมาย เจ้าแต่งมาสี่วันแล้ว ไม่กลับบ้านเดิมนำข้าวของไปคำนับข้ากับลุงเจ้า หึยังมีผู้อาวุโสอยู่ในสายตาหรือไม่ ผ้าไหมเหล่านี้เจ้าสามคนใส่ไม่หมดหรอก ส่วนชุดพวกนี้พอดีตัวซู่เอ๋อร์นัก เจ้าออกเรือนแล้ววันๆเลี้ยงแต่อีเด็กลูกติดนั่นจะสวยไปทำไม หรืออยากหนีตาชู้แบบเมียเก่าเขาล่ะ โอ๊ย"ตุบ เหวินซื่อกระเด็นไปนอนแ
ชาวบ้านซุบซิบชี้ไม้ชี้มือ อะไรนะเหวินซื่ออายุสี่สิบกว่า จูหมิงซูอายุสิบแปดแล้วพวกนางยังให้หลานสาวน้องสาวซักผ้าประจำเดือนให้ มันน่าอายนักเรื่องนี้ เหล่าบุรุษที่ได้ยินถึงกับหน้าแดง เรื่องนี้มันน่ารังเกียจเกินไปแล้ว ของแบบนั้นไม่มีใครไม่ทำเอง"นี่จูพั่ง ข้าว่าเมียกับลูกเจ้าก็เกินไปนะ ข้าแต่งกับเมียมานานจนบุตรชายมีหลานข้ายังไม่เคยเห็นผ้าประจำเดือนนางสักครั้ง""ใช่ๆ น่าเกลียดนัก ของสกปรกของตนกลับใช้ผู้อื่นทำให้ ป่านนี้ยังไม่ออกเรือนสงสัยสวรรค์ลงโทษเจ้าจริงๆจูหมิงซู"สามคนพ่อแม่ลูกอ้าปากพูดไม่ออก นางเด็กเลวนี่มีฝีปากดีเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันจูเหมยลี่ก้มหน้ายิ้มชั่วร้าย นางยังไม่จบยังเหลืออีกคน จึงหันมาทางจางลู่เหลียนร้องไห้ฟูมฟายจับชายกระโปรงของนางแน่น ด้วยท่าทีน่างสงสารเหมือนกับว่าจางลู่เหลียนเป็นฝ่ายรังแกผู้อื่น"ฮือๆๆพี่ลู่เหลียน ท่านงามนักท่านหาบุรุษอื่นเถอะอย่าแย่งสามีข้าได้ไหม ถือว่าข้าขอร้อง ข้าไม่มีบ้านเดิม ไม่มีกระทั่งสินเดิม ท่านพี่ยอมแต่งข้าก็เป็นวาสนาแล้ว ท่านยังมีโอกาสหาผู้ชายดีๆได้อีก จูเหมยลี่คนนี้ขอร้องท่าน อย่าแย่งสามีข้าเลยนะ"จางรั่วสุ่ยถึงกับหน้าชา อาซ้อพูดอะไรกันเขา
ทั้งสี่คนเดินกลับมาถึงบ้าน เซียวจ้านเป่ยหันไปถามบุตรสาว"ผิงผิง ลูกอยากไปเล่นกับพี่ๆที่บ้านลุงเซี่ยไหม วันนี้พ่ออนุญาตเจ้าเดี๋ยวค่ำๆพ่อจะไปรับ กลับ ต้องทำความสะอาดบ้านอีกฝุ่นเยอะเดี๋ยวลูกจะป่วยได้"เซียวจ้านเป่ยบอกลูกสาวผิงผิงทำสีหน้าครุ่นคิดนิดหนึ่ง"ท่านพ่อบอกว่าหากอยากมีน้องของตัวเอง ข้าต้องให้ท่านพ่ออยู่กับท่านแม่สองคนบ่อยๆ อืมท่านพ่อคงอยากให้ข้ามีน้อง ได้เอาตามนี้"เซียวผิงผิงคิดในใจเรียบร้อยก็พยักหน้า"ท่านแม่เจ้าคะ ลูกปวดใจนักที่ต้องห่างท่านแม่ แต่เมื่อวานท่านแม่บอกว่าบ้านเราฝุ่นเยอะหากไม่ทำความสะอาดจะป่วยได้ ข้าไม่อยากป่วยไม่อยากกินยา ท่านแม่ข้าจะคิดถึงท่านแม่นะเจ้าคะ ท่านพ่อไม่ต้องรีบไปรับก็ได้ท่านต้องช่วยงานท่านแม่ ห้ามอู้งานนะเจ้าคะ"เซี่ยตงหยางถึงกับเหนื่อยใจกับความหน้าด้านของเซียวจ้านเป่ย คำพูดเหล่านี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยพูดเองหรือเขาสอนให้พูดกันแน่เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่าบุรุษตรงหน้าอยากจะรักเมียตัวเองขนาดไหน สายตาเจ้ามันฟ้อง ก่อนจะอุ้มเซียวลี่ผิงไปเล่นกับเด็กๆที่บ้านตนเองเซี่ยตงหยางไปแล้ว เซียวจ้านเป่ยก็ยิ้มใส่คนในอ้อมกอด เขายังอุ้มนางอยู่ไม่ยอมวาง ส่วนจูเหมยลี่ก็อยากรู้น
จูเหมยลี่หน้าแดง จานนั้นก็ผลักเขาออกจนกลิ้งตกน้ำ นางโกนหนวดให้เขาเสร็จพอดี หน้าตาดีมากเลยขนาดเขานอนหลับตานะเนี่ย"ไปล้างตัว โกนเสร็จแล้วข้าจะเข้าบ้านแล้วตาแก่โรคจิต"จูเหมยลี่ไม่ระวัง ถูกเซียวจ้านเป่ยฉุดแขนลงไปในน้ำด้วย แม้ว่าน้ำจะลึกแค่เอวแต่นางก็ถึงกับสำลักน้ำหูน้ำตาไหลก่อนจะลืมตาแล้วเอาเรื่องคนตรงหน้า แต่พอเห็นเซียวจ้านเป่ยที่โกนหนวดเสร็จแล้ว อีกทั้งล้างใบหน้าจนสะอาด จูเหมยลี่ก็ตะลึง"หล่อมากแม่เจ้า คนไทยพูดว่าอะไรนะ หล่อวัวตายควายล้ม หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง หล่อจนน้ำเดิน เซียวจ้านเป่ยคนนี้หล่อจริงๆ ให้ตายพับผ่าสิเพิ่งบอกเขาว่าขอเวลาก่อน แต่ตอนนี้เจ๊อยากลากไอ้เด็กนี่ขึ้นเตียงแล้วขย่มเสียเองจริงๆ เซียวจ้านเป่ยเจ้าจำเป็นต้องหล่อขนาดนี้ไหม" จูเหมยลี่คิดในใจก่อนจะเผลอยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าหล่อเหลาเซียวจ้านเป่ยรวบเอวบางรั้งเข้ามา ก่อนจะกระซิบเสียงแหบบ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาตอนนี้ อีกทั้งรับรู้ว่ามีคนอยู่ที่ต้นไม้ คงเป็นองครักษ์ของไอ้เด็กหน้าอ่อนนั้นตามมา จึงออดอ้อนเมียทำท่าตนเองไม่รู้ตัวว่ามีคนจับตา"ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะหลงใหลข้า เมียจ๋าข้าโกนหนวดเสร็จแล้วเข้าบ้านกันดีกว่า อีกสักชั่วยามค่
แต่งตัวเสร็จแล้วเซียวจ้านเป่ยก็ไปรับบุตรสาว เฉิงอี้ที่เห็นบุรุษรูปงามหล่อเหลาเดินออกมาจากบ้านของเซียวจ้ายเป่ยก็ยิ้มชั่วร้าย หึแบบนี้ก็ง่ายหน่อย ดูท่าคงเพิ่งอิ่มเอมมาแน่ ๆหน้าตาดูมีความสุขเหลือเกิน"หึจูเหมยลี่ ที้แท้เจ้าก็ร้อนร่านไม่น้อย สามีนายพรานอัปลักษณ์ไม่อยู่ก็พาบุรุษรูปงามมาเสพสมถึงในบ้าน ดีๆข้าล่ะอยากขึ้นขี่เจ้าไวๆนัก"ข้าอาจไม่หล่อเหลาเท่าไอ้หนุ่มคนเมื่อกี้ที่เพิ่งออกมา แต่รับรองจะทำให้เจ้าติดใจจนร้องขอให้ข้ามาหาทุกคืนเชียว"เป็นเพราะเซียวจ้านเป่ยโกนหนวดโกนเคราออกเรียบร้อย หน้าตาจึงหล่อเหลาคมคาย ทำให้เฉิงอี้จำไม่ได้และคิดว่าจูเหมยลี่คบชู้ จากนั้นก็เดินไปยังภูเขาอีกด้านของหมู่บ้าน มีคนรอเขาอยู่เฉิงอี้มาถึงก็เห็นสตรีงดงามรออยู่แล้ว แม้งามไม่เท่าจูเหมยลี่แต่นางก็งามไม่น้อย"ท่านมาช้า ข้ารอนานแล้วนะ" หงซิ่วที่แอบเหลียงเถี่ยต้านมาหาชู้รัก พอเห็นเฉิงอี้ทำเสียงกระเง้าระงอด ก่อนจะเปลื้งอาภรณ์ตนเองออก เฉิงอี้หัวเราะหึๆ ก่อนจะเปลื้องผ้าตนเองเช่นกัน"ไหนดูสิ หืมนั่นเจ้าทำอะไรหรือแม่นางหงซิ่วคนงาม"หงซิ่วเอนตัวไปข้าหลังเล็กน้อย ชันเข่าขึ้นมา แยกเรียวขาออกก่อนจะใช้สองมือแหวกกลับดอกไม้ด้า
บรรดาคนที่อยู่ในห้องสนทนาถึงกับตกใจกับข่าวใหม่ หานรั่วสุ่ยมีภรรยาแล้วอีกทั้งมีบุตรแล้วด้วย จ้านอ๋องก็มีพระชายาแล้วเช่นกัน พวกเขาสนทนาโดยไม่สนใจบุคคลที่อยู่ในห้องด้วยสักนิด "อืมพี่เมีย ข้าจะล่วงหน้าไปก่อนคิดถึงเหลี่ยนเอ๋อร์ของข้าแล้ว พวกท่านค่อยเดินทางทีหลังแล้วกัน""องค์ชายคังหยุนท่านจะไปเมื่อใดหรือพ่ะย่ะค่ะ""ออกเดินทางวันนี้ ข้าคิดถึงเมีย มีบางคนคิดถึงจูเว่ยเว่ยจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว น่ารำคาญยิ่งนัก อ้อนวอนข้าทุกวันจะกลับจิ่วโจวให้ได้""เอ๋เสด็จพี่ ข้าคิดถึงเว่ยเว่ยไม่ได้หรืออย่างไร ทีท่านคิดถึงพี่สะใภ้ได้เล่าหรือไม่เล่า ท่านพี่ล่ะคิดถึงพี่สะใภ้แสนงามของข้าหรือไม่ "อืม หยุนเอ๋อร์ รั่วสุ่ยพวกเจ้าคุยกันไปเถอะ อ้อพวกท่านทั้งหลายก็กลับไปเถอะนะ ไม่ว่าของขวัญของฝากที่ใครๆไหว้วานพวกท่านนำมานั้น ก็จงนำกลับไปด้วย ข้าอ้ายจ้านมีภรรยาแล้ว และข้าไม่แต่งเมียเพิ่ม ข้าไปล่ะพวกเจ้าปรึกษากันต่อเถอะ" "เอ่อพี่เมีย แล้วยายเฒ่าตาเฒ่าสกุลหานเหล่านั้นท่านจะว่าอย่างไรหรือ" คังหยุนแม้จะเป็นองค์ชายแต่ก็ไม่อยากใช้อำนาจกับพวกเขา แต่น่ารำคาญเหลือเกินโดยเฉพาะยายเฒ่าหานนั่น ตอนจาง
“เอ๋ เสด็จพ่อตาใครกันนะว่ากระหม่อมเป็นตาเฒ่าหลอกเด็กรุ่นลูกมาเป็นเมีย นี่ๆพี่อันหยวนของข้าสามสิบเก้า ท่านสี่สิบสอง บางคนสี่สิบห้าแล้วนะ เหอะ”ซูฟางหรูอายหน้าแดง อ้ายเฉิงถลึงตาใส่จูยวี่ซานก่อนจะเอ่ย“มีอะไรคุยพรุ่งนี้ เมียข้าหิวข้าว หากไม่หยุดข้าจะเอาลูกสาวข้าคืนตาแก่จู”จูยวี่ซานและเฝิงอันหยวนหัวเราะก่อนจะพากันออกไป ปล่อยคู่รักต่างวัยให้อยู่ด้วยกัน จูเหมยลี่รับรู้จากอาสามว่าพ่อสามีกับซูฟางหรูข้าวสารเป็นข้าวสุกเรียบร้อยแล้วตอนนี้ซูฟางหรูนอนอยู่ในอ้อมกอดอ้ายเฉิง เขาลูบไหล่นางเบาๆ พูดคุย“อาให้คนไปรับมารดากับบิดาเจ้ามาแล้ว พรุ่งนี้บ่ายๆ ถึงจิ่วโจว”“ท่านอาพูดจริงหรือเจ้าคะ”“อารู้ว่าเจ้าเคยหมั้นหมาย แต่เพราะห่วงบิดากับมารดา จนคู่หมั้นถอนหมั้นเจ้า”“ท่านอา คือว่าเรื่องนั้น”“ข้ารู้ เจ้าห่วงพวกเขาจนฝ่ายนั้นรำคาญ แต่ก็ดีแล้วมิใช่หรือหากตอนนั้นเจ้าแต่งออกไป ใครจะนอนหนุนแขนอาเล่าตอนนี้หื้ม”“ท่านอา ท่านอายุสี่สิบห้าจริงๆ หรือ เหตุใดถึงเหมือนพี่น้องกับท่านพี่เซียวนัก ใบหน้าท่านเด็กกว่าอาสามอีก”“ปากหวานแบบนี้ต้องให้รางวัลแล้วไหม”อ้ายเฉิงเริ่มปลดอาภรณ์นางอีกครั้ง ซูฟางหรูจับมือเขาไว้ก่อนจะเอ่
ซูฟางหรูกลับมาที่ริมแม่น้ำ อ้ายเฉิงนั่งรออยู่ พอเห็นนางก็เอามือกุมท้องดังเดิม ซูฟางหรูไม่รู้เลยว่าหมาป่ากำลังมองจ้องลูกแกะตัวน้อยเนื้อขาวๆ“ท่านอาเฉิง ยามาแล้วเจ้าค่ะเอ่อ ทะ ท่านอาทาเองได้ไหมเจ้าคะ”“ข้าจะทาอย่างไรกันมันไม่ถนัด เจ้าช่วยหน่อยสิอาหรู”“แต่ข้าเป็นสตรี ท่านเป็นบุรุษใกล้ชิดกันคงไม่ดีนักคือๆ ว่าข้า”“ช่างเถอะ เจ้ากลับไปเถอะเดี๋ยวข้านั่งหายเจ็บก็กลับเอง ไม่รบกวนเจ้าหรอก”“ท่านอา กะ ก็ได้แต่ว่าถ้าหากใครมาเห็นคงไม่ดี ว้าย!!”พูดไม่ทันจบนางก็ตัวลอยขึ้น อ้ายเฉิงอุ้มนางดีดตัวผ่านยอดไม้ก่อนจะมาถึงเรือนของตน ซูฟางหรูซบกับหน้าอกเขาแน่นเพราะกลัวตก จึงไม่เห็นบรรดาข้าราชบริพารที่ถอยหลังออกจากเรือนพักจนหมด องครักษ์เงาหายไปจากบริเวณนั้นทันทีอ้ายเฉิงวางร่างบางระหงลงบนเตียงของตน ซูฟางหรูมองเขาหน้าตาเหรอหรา ยิ่งมองยิ่งน่ารักเหลือเกินจนอ้ายเฉิงอดใจไม่ไหว รั้งนางมาจูบทันที“อื้อ” ซูฟางหรูเองนี่เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดบุรุษเพศ นางทำอะไรไม่ถูกยอมให้คนตัวโตชักจุงในที่สุดนางก็ถูกเขาลอกคราบจนเปลือยเปล่า“อาหรูเจ้างามนัก ขออาเฉิงนะเด็กดี”“อื้อ ท่านอาแบบนี้ไม่ถูกต้องนะเจ้าคะ ไหนท่านบอกว่าเจ็บท้อง
จูเหมยลี่ออกเดือนได้หลายวันแล้ว ตอนนี้บุตรชายอ้ายหลิวเหว่ยได้สองเดือนกว่าแล้ว เมื่อวานอ้ายซินมาบอกว่าเซียวจ้านเป่ยจัดการกลุ่มกบฏเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่กวาดล้างกากเดนที่เหลืออยู่ ฮ่องเต้แต่งตั้งเขาเป็นอ๋อง เดิมทีอีกเจ็ดวันจะเดินทางมาจิ่วโจวแต่เพราะมีเหตุต้องอยู่ต่อ อีกครึ่งเดือนจึงจะมาพร้อมขบวนต้อนรับพระชายาจูเหมยลี่ส่งหลิวเหว่ยให้กับหรงหรง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ก็เห็นซูฟางหรูเดินหิ้วตระกร้ามาหา เด็กสาวคนนี้หน้าตาสะสวยจริงๆ เป็นเด็กกตัญญูยิ่งนัก“พี่ฟางหรู ท่านเอาอะไรมาอีกละนั่นข้าเกรงใจจะแย่แล้ว”“อาซ้อเซียวท่านเกรงใจไปแล้ว หากไม่ได้ท่านคอยช่วยเหลือข้ากับพี่สาวและหลานๆ คงลำบากไม่น้อย เอ่อ นี่เป็นขนมดอกหยางไหวของท่านอาเฉิงเจ้าค่ะ”ซูฟางหรูส่งห่อใบบัวให้จูเหมยลี่ เว่ยเว่ยเดินออกมาจากในบ้านก่อนจะรับแล้วเอ่ยกับจูเหมยลี่“เสี่ยวลี่ พี่จะไปบ้านท่านยายสักสามวัน ทางนี้ไม่ขาดคนพอดีท่านยายป่วยอีกแล้ว พักนี้ท่านยายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่”“อืม ท่านอาเสี่ยวทงรบกวนท่านมานี่สักหน่อย”เสี่ยวทงเป็นคนของนางไปแล้ว อาสามยกให้เขาคอยดูแลจูเหมยลี่กับเซียวลี่ผิงโดยเฉพาะ จูยวี่ซานไปข้างนอกบ่อยๆ เขากลัว
เมื่อเรื่องในวังหลังเรียบร้อย ยามเฉินฮ่องเต้ก็สวมฉลองพระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ในท้องพระโรง วันนี้ขุนนางมาเข้าเฝ้าโดยไม่รู้ว่าเรื่องราวอะไรกำลังจะเกิดขึ้นแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเห็นคืออ้ายจ้านซื่อจื่อที่กลับมาแล้ว อีกคนหยางตงเซี่ย และหานรั่วสุ่ยทั่นฮวาน้อย"ฝ่าบาท วันนี้ประชุมเช้า เหตุใดซื่อจื่อจึงพกอาวุธเข้ามายังท้องพระโรงกันพ่ะย่ะค่ะ นี่มิเท่ากับทำผิดร้ายแรงหรอกหรือ""รองเจ้ากรมอาลักษณ์พูดจาน่าขัน พวกเราอารักขาฝ่าบาท มีอะไรไม่สมเหตุสมผลหรอกหรือ" จางรั่วสุ่ยเอ่ยขึ้น คนที่จ้องเขาตาถลนกำลังกำมือแน่น เขาคือหานรั่วท่านปู่ของเขา "รั่วสุ่ย อย่าเสียมารยาท นี่คือขุนนางเจ้าเป็นเพียงทหารปลายแถวจงสำรวม""โย่ว ใต้เท้าหานกล่าววาจาอันใดกัน ท่านดูไม่ออกหรือว่าข้ามีตำแหน่งใด สายตาฝ้าฟางเช่นนี้ควรลาออกไปเลี้ยงหลานอยู่บ้านจะดีกว่าหรือไม่"หานรั่วถึงกับหน้าเขียว เป็นเด็กเลวจริงๆ เลือดชั้นต่ำของมารดาคงแรง"อ้อ ใต้เท้าหานที่แท้เขาก็คือทั่นฮวาน้อยหานรั่วสุ่ย หลานชายของท่านนั่นเอง ""รองเจ้ากรมท่านกล่าวผิดแล้ว ข้าแซ่จาง จางรั่วสุ่ย แซ่หานนั้นข้าไม่เคยใช้"หานรั่วถึงกับหน้าคล้ำกว่าเดิ
สิบวันต่อมาเซียวจ้านเป่ยมารวมกับทัพใหญ่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เรียกหานอี้มาหา หานอี้เป็นคนสนิทของแม่ทัพจ้าว"ตอนข้าไม่อยู่มีเรื่องอันใดหรือไม่""เป็นอย่างที่ท่านคาดการณ์ นายกองหูออกจากค่ายไปบ่อยๆ เขานัดพบคนๆหนึ่ง เราสืบดูแล้วเป็นคนของซีเป่ย ไท่ซ่างหวงทิ้งข้อความไว้ให้ท่านแม่ทัพขอรับ"เซียวจ้านเป่ยหยิบกระดาษที่วาดรูปออกมา เป็นเหมือนรูปวาดธรรมดา แต่เซียวจ้านเป่ยรู้ดีว่าเสด็จปู่กำลังจะสื่อถึงอะไร ภูเขา ลำธารหรือ นี่มันทางเข้าหลังตำหนักร้างนี่ รอยเท้าย้อนกลับเดินถอยหลังเช่นนั้นหรือ มีบางคนส่งข่าวจากช่องทางนั้น "รั่วสุ่ยเขียนอักษรถึงองค์ชายสี่หน่อย เขียนแค่ว่าชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง"จางรั่วสุยเขียนโครงตามที่เซียวจ้านเป่ยบอก ชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง แปลว่าอะไร พี่น้องคู่นี้หน้าสิ่วหน้าขวานยังมีแก่ใจต่อกลอนกันด้วยหรือ อินทรีปากเหล็กรับข้อความไปแล้ว ยามอิ๋นจึงได้จดหมายตอบกลับมา มีเพียงรูปวาดของเด็กทั้งห้า ที่มีสัญลักษณ์แตกต่างกันไป แต่เด็กคนหนึ่งหายไป"เป็นเจ้าจริงองค์ชายรอง คิดจะเปิดประตูหลังตำหนักร้างให้คนของท่านตาเจ้าเข้าไปก่อกบฏหรือ หึ สำคัญผิดเสียแล้ว"
หลังจากจูเหมยลี่คลอดบุตรชายให้เซียวจ้านเป่ยเรียบร้อยแล้วนางก็พักฟื้น ตอนนี้บริเวณหมู่บ้านกับตำบลจิ่วโจวทั้งตำบล มีทหารคอยอารักขาเต็มไปหมด จูเก่อคังที่ตอนนี้นั่งดื่มกับอาเฉิงอยู่ เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือเชื้อพระวงศ์ จึงได้พูดคุยทุกเรื่อง"นี่ๆน้องเฉิง บุตรชายเจ้าเก่งนัก ไปทหารไม่นานก็ได้ตำแหน่งใหญ่โตกลับมา เฮ้อ วาสนาเสี่ยวลี่ของข้าจริงๆ อยากให้น้องรองกับน้องสะใภ้ของข้าได้รับรู้เหลือเกินว่าตอนนี้นางมีชีวิตที่ดีเพียงใด""พี่เก่อคัง หลานสาวท่านคนนี้บุตรชายของข้าดูท่าจะรักนางมาก""เสี่ยวลี่เป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง หากไม่ใช่ว่าถูกลุงใหญ่กับป้าสะใภ้กลั่นแกล้งชีวิตนางคงไม่เลวร้าย โชคดีที่วันนั้นสองคนนั้นตัดสินใจขายเสี่ยวลี่ให้บุตรชายท่าน ไม่เช่นนั้นข้าไม่อาจเดาชะตากรรมนางได้เลย""กฎหมายซื้อขายคนคงต้องแจ้งฝ่าบาทให้ปรับจริงๆ แต่พวกขุนนางเก่าแก่คงไม่ยอม"เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังกอดรักเมีย เขาต้องไปแล้วคนของเขาแจ้งมาแล้วว่ากลุ่มกบฏมีกี่พรรคพวก แล้วหลบซ่อนอยู่ที่ใดบ้าง"ลี่เอ๋อร์ พี่ต้องไปแล้ว พี่สัญญาว่าจะทำรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วกลับมารับเจ้ากับลูก""ท่านพี่
"ฮือๆๆ เสด็จพ่อ" อ้ายเฉิงกางแขนกอดรับบุตรสาวที่ตอนนี้ร้องไห้กับอกเขา"ร้องทำไมเจ้าตัวดี ใครใช้ให้เจ้าหนีออกจากวังกันหึ"แม้คำพูดจะตำหนิแต่น้ำเสียงกับอาทรห่วงใยบุตรสาวยิ่งนัก อ้ายซินมองหน้าก่อนจะทำสีหน้าสงสัย"เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ แล้วคนของฉู่หรานซินที่เฝ้าเสด็จพ่อในทุกๆวันเล่า""เรื่องราวยากกว่าที่เจ้าเข้าใจ นางกำลังพาบุตรชายหนีน่ะ""อ้ายฉางหรือเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่บุตรเสด็จพ่อ หม่อมฉันเคยได้ยินนางกับรองเจ้ากรมอาลักษณ์ติดต่อกัน เขาบอกว่าต้องอดทนถึงเมื่อไหร่อ้ายฉางจึงจะเรียกเขาว่าท่านพ่อสักที""ลูกเห็นว่าพ่อหลับนอนกับนางหรือ เห็นตาแก่ใกล้ตายคนนั้นที่ร่วมสังวาสกับสตรีคือพ่อหรือ"อ้ายซินทำสีหน้าสงสัย เซียวจ้านเป่ยจึงเอ่ยกับนาง"มีคนที่ใบหน้าคล้ายเสด็จพ่อน่ะ เราวางหมากตั้งแปดปีที่แล้ว ก่อนที่ฉู่หรานซินจะแต่งเข้ามา เสด็จพ่อก็อยู่ที่ตำหนักเย็นของพระราชวังหลังเก่านอกเมืองมาตลอด ไม่มีใครรู้นอกจากฝ่าบาทเสด็จปู่แล้วก็พี่ เฉิงอ๋องคนนั้นที่อยู่กับฉู่หรานซินทุกวันคือคนสนิทของเสด็จพ่อ ที่ปลอมแปลงใบหน้า"จากนั้นทุกคนก็เข้าใจ จางรั่วสุ่ยรีบกลับไปหาภรรยา เพราะว่านางกำลังอยู่เดือน เซี่ยตงหยางม
อ้ายซินเอ่ยจบประโยคลมสายหนึ่งก็ผ่านตัวนางไป เห็นด้านหลังเป็นบุรุษใส่ชุดกองทัพ เขาคือพี่ชายของนาง อ้ายซินดิ้นลงจากตักสามีรีบเดินไปหา"พี่ชาย ท่านกลับมาแล้ว ฮือๆๆ"เซียวจ้านเป่ยหันมามองหน้าน้องสาวก่อนจะรั้งนางเข้ามากอด"ซินเอ๋อร์ เสี่ยวลี่อยู่ในนั้นหรือ""เจ้าค่ะ พี่สะใภ้เจ็บท้องมาสองชั่วยามแล้ว พี่ชายไหนว่าท่านอยู่ชายแดนไงเจ้าคะ""ทางนั้นเรียบร้อยแล้วล่ะ เหลือแค่ทางวังหลวง ฉู่ฉางเกินมุ่งหน้าเข้าวัง พี่สกัดเขาไว้ได้แต่ยังไม่รู้ว่ากองกำลังของเขาที่ยังซุกซ่อนอยู่มีเท่าไหร่ พอดีจิ่วโจวเป็นทางผ่านพี่จึงแวะหาลี่เอ๋อร์กับผิงผิงน่ะ"อ้ายซินกำมือแน่น ก่อนจะมองหน้าสามี จูยวี่ซานถอนหายใจ เขาคงปกป้องพี่ชายพี่สะใภ้และจูหมิงซูไม่ได้หรอก ได้ข่าวว่าแค่สตรีนางหนึ่งกล่าวหาเสี่ยวลี่คำเดียวก็ถูกโยนไปอยู่ก้นเหวแล้ว"ผิงผิงป่วยเจ้าค่ะ คือว่า""พี่รู้เรื่องหมดแล้ว ระหว่างทางที่มามีคนรายงานพี่ สามคนพ่อแม่ลูกนั้นพี่ให้ส่งไปชายแดนใต้หมดแล้ว ที่นั่นมีเหมืองแร่ให้พวกมันไปชดใช้ที่นั่น โดยเฉพาะจูหมิงซูคนนั้น หากรอดจากแผลบนใบหน้าได้นับว่านางดวงแข็งแล้ว""จ้านเป่ยอาสามต้องขออภัยเจ้าจริงๆ หากมิใช่ว่าอาสามต้องไปเจราจาก