จูเหมยลี่หน้าแดง จานนั้นก็ผลักเขาออกจนกลิ้งตกน้ำ นางโกนหนวดให้เขาเสร็จพอดี หน้าตาดีมากเลยขนาดเขานอนหลับตานะเนี่ย
"ไปล้างตัว โกนเสร็จแล้วข้าจะเข้าบ้านแล้วตาแก่โรคจิต"
จูเหมยลี่ไม่ระวัง ถูกเซียวจ้านเป่ยฉุดแขนลงไปในน้ำด้วย แม้ว่าน้ำจะลึกแค่เอวแต่นางก็ถึงกับสำลักน้ำหูน้ำตาไหล
ก่อนจะลืมตาแล้วเอาเรื่องคนตรงหน้า แต่พอเห็นเซียวจ้านเป่ยที่โกนหนวดเสร็จแล้ว อีกทั้งล้างใบหน้าจนสะอาด จูเหมยลี่ก็ตะลึง
"หล่อมากแม่เจ้า คนไทยพูดว่าอะไรนะ หล่อวัวตายควายล้ม หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง หล่อจนน้ำเดิน เซียวจ้านเป่ยคนนี้หล่อจริงๆ ให้ตายพับผ่าสิเพิ่งบอกเขาว่าขอเวลาก่อน แต่ตอนนี้เจ๊อยากลากไอ้เด็กนี่ขึ้นเตียงแล้วขย่มเสียเองจริงๆ เซียวจ้านเป่ยเจ้าจำเป็นต้องหล่อขนาดนี้ไหม"
จูเหมยลี่คิดในใจก่อนจะเผลอยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าหล่อเหลา
เซียวจ้านเป่ยรวบเอวบางรั้งเข้ามา ก่อนจะกระซิบเสียงแหบบ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาตอนนี้ อีกทั้งรับรู้ว่ามีคนอยู่ที่ต้นไม้ คงเป็นองครักษ์ของไอ้เด็กหน้าอ่อนนั้นตามมา จึงออดอ้อนเมียทำท่าตนเองไม่รู้ตัวว่ามีคนจับตา
"ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะหลงใหลข้า เมียจ๋าข้าโกนหนวดเสร็จแล้วเข้าบ้านกันดีกว่า อีกสักชั่วยามค่อยไปรับลูก ข้าหิวแล้ว อยากกลืนกินเจ้า"
จูเหมยลี่ไม่รับรู้แล้ว ถูกเขาจูบดูดดื่มจนเซียวจ้านเป่ยอุ้มนางขึ้นจากน้ำนางยังไม่ประท้วงเลย กระทั่งปลดชุดที่เปียกออก แล้วผ่อนนางลงบนเตียง จูเหมยลี่จึงรู้สึกตัว ใช้มือยันหน้าอกเขาไว้
"ท่านพี่ ตกลงกันแล้วว่ายังไม่เข้าหอนะ ท่านอย่าผิดคำสิ อ่าห์ ท่านพี่ อื้อดูดเบาๆสินมคนนะจะขยำอะไรแรงขนาดนั้น อื้อเซียวจ้านเป่ย พอก่อน ท่านพี่พอก่อน"
นางส่งเสียงแทบแหบแห้ง แต่เขากลับไม่ฟังสักนิดก้มหน้าดูดดื่มยอดอกที่ชูชัน มือหนาไต่ลงต่ำเรื่อยๆจนเจอกับดอกไม้งามข้างล่าง เขากระซิบข้าหูนาง
"เจ้าไม่เด็กแล้ว ดอกเหมยเจ้าอวบอูมขนาดนี้เมียจ๋าให้ข้าไม่ได้จริงๆหรือ ทรมานนักขอข้าเถอะ "
"ไม่ได้ อร๊ายอย่าคลึงสิ ท่านพี่เสียว อย่าอ่าห์ ฟังกันหน่อย ท่านกับแม่ของผิงผิงครั้งเดียวจริงๆหรือ อร๊ายอย่าเอานิ้วท่านเข้าไปสิ อื้อไม่ไหวข้าแน่นท่านพี่"
"เด็กดี พูดถึงนางทำไมกันนางเป็นสิ่งอัปมงคล พูดเรื่องของเราเถอะข้าแข็งจนจะระเบิดออกมาแล้ว ให้ข้านะๆๆลี่เอ๋อร์ขอนะ"
"ไม่ นางกับท่านครั้งเดียวยังมีผิงผิง อร๊ายย อื้อข้าเสียวท่านพี่ท่านใจร้าย อะ อื้อเสียวนะ ข้าไม่อยากตั้งครรภ์ หากท้องตอนที่ท่านเดินทางไปแล้วจะทำอย่างไร วันนี้ท่านก็เห็นว่าข้ามีคนจ้องจะหาเรื่อง ข้าไม่อยากถูกคนให้ร้ายว่าคบชู้ อื้อ ท่านพี่ข้าจะถึงอีกแล้ว ท่านเร่งหน่อยสิ อร๊ายนิ้วท่านไวเกินไปแล้ว เซียวจ้านเป่ย อร๊ายยยถึงแล้วๆ"
จูเหมยลี่กระตุกเกร็งจนหอบ เซียวจ้านเป่ยตาเยิ้มมองหน้าเมียอย่างร้องขอ แต่จูเหมยลี่ให้เขาไม่ได้จริงๆ นางรวบรวมความจำขอเด็กคนนี้ทุกอย่าง
วันนี้ไปอีกเจ็ดวันเป็นวันอันตรายไม่ได้เด็ดขาด เขาหล่อขนาดนี้นางก็อยากกินเขาเหมือนกัน แต่ไม่ได้หากท้องขึ้นมาซวยแน่ๆ ผัวไม่อยู่เมียดันท้อง
ในยุคโบราณนี่ไม่สนใจหรอกผัวไม่อยู่ก็หาว่าคบชู้สู่ชาย เซียวจ้านเป่ยครางต่ำน้ำเสียงบ่งบอกถึงความทรมาน
" ลี่เอ๋อร์ ช่วยพี่ทีสิ คนดีนะให้พี่เถอะไม่อยากปลุกปล้ำเจ้า แยกขาให้พี่หน่อยพี่อยากรักเจ้าแล้ว"
จูเหมยลี่ถอนหายใจก่อนจะพลิกเขาลงด้านล่างจากนั้นก็ก้มลงหยอกล้อกับแก่นกายที่แข็งขึงของเขา ริมฝีปากบางครอบครองเขาจนหมด น้ำตาแทบไหลใหญ่โตอะไรขนาดนี้เนี่ย
เซียวจ้านเป่ยครางคล้ายสัตว์ร้าย เสียงคำรามทำเอาคนตัวเล็กถึงกับสยิว อ่าห์ช่างเสียวซ่านนักนางเร่าร้อนจริงๆ
"อ่าห์ เด็กดีของพี่ปากเจ้านุ่มนิ่มนัก เรียวลิ้นช่างพริ้วเหลือเกิน พี่จะถึงแล้วเร่งหน่อยเมียจ๋า อย่างนั้นแหละ อืมดีๆอ่าห์"
ไม่นานเซียวจ้านเป่ยก็ปลดปล่อยออกมา จูเหมยลี่ถึงกับสำลัก พุ่งไกลเชียวกระเด็นเปื้อนหน้าอกนางอีกด้วย เยอะขนาดนี้ดีนะที่ไม่ใจอ่อนยอมเขา สเปริมกี่แสนล้านตัวเล่านั้น อึ๊ยขนลุก
"ไปหัดมาจากไหนหึ มานี่เลยแม่ตัวดีดุสิเลอะหน้าอกหมดแล้ว พี่ช่วยทำความสะอาดให้นะ"
เซียวจ้านเป่ยก้มลงใช้เรียวลิ้นไล้เนินถันที่เปื้อนคาวรักของเขาแล้วก็ครอบครองทรวงอกของจูเหมยลี่อีกครั้ง
"พอแล้ว หากท่านคึกคักอีกข้าไม่ทำแล้วนะ เมื่อยปาก ข้าจะไปแต่งตัวแล้วผิงผิงยังรอให้ไปรับ อร๊าย ท่านพี่บอกว่าพอแล้วไง"
เซียวจ้านเป่ยไม่ได้ฟัง เข้าก้มลงต่ำไล้ลิ้นวนกลีบดอกเหมยที่อวบอิ่ม มือหนาคลึงเกสรสีชมพูสวยก่อนจะอ้าปากดูดดื่มจนสะโพกมนต้องแอ่นสวนขึ้นมา จูเหมยลี่ร้องครางเสียงหวาน
ไม่นานลิ้นร้อนชื้นก็ส่งเข้าไปทักทายกลีบดอกด้านในจนผลิตน้ำหวานชุ่มฉ่ำ จูเหมยลี่กระตุกติดๆกันถึงสามครั้ง ลิ้นเขาร้ายกาจเกินไปแล้ว นางไม่ไหวแล้วขาจะหมดแรง
"ท่านพี่เสียวเหลือเกิน พอเถอะข้าขอร้องข้าไม่อยากท้องตอนนี้ เดี๋ยวเลยเถิดนะ พี่จ้านเป่ยปล่อยเมียเถอะนะ อื้อ อร๊ายยย ไม่ไหวแล้วท่านพี่ไม่ไหวจริงๆ"
เซียวจ้านเป่ยดูดดื่มจนพอใจจึงเลื่อนขึ้นมาหากอดร่างบางที่ยังกระตุกเกร็งหน้าท้องอยู่เลย นางเสียวมากจริงๆ
เขาร้ายกาจเกินไปหากเล้าโลมอีกหน่อยนางเสร็จเขาแน่ แค่นี้ก็ไม่อยากห่างเขาแล้ว ไม่ไหวลีลาดีเกินไป ที่สำคัญเขารูปงามเกินไปอีกด้วย เซียวจ้านเป่ยพูดข้างหูจูเหมยลี่อย่างมีความสุข
"อืมเจ้าหวานนัก พี่ไม่รังแกเจ้าหรอกสัญญา พี่แค่อยากให้รางวัลที่เจ้าทำให้พี่มีความสุข เมียจ๋าชอบหรือไม่"
คนตัวเล็กพยักหน้าไม่ปฏิเสธ คนตัวโตได้ใจก่อนจะขอนางอีกครั้ง เฮ้อเล่นตัวไปไยถึงจะไม่ถึงขั้นเป็นผัวเมียสมบูรณ์แต่ที่เขากำลังทำกับนางก็ไม่ต่างกันหรอก
แต่งตัวเสร็จแล้วเซียวจ้านเป่ยก็ไปรับบุตรสาว เฉิงอี้ที่เห็นบุรุษรูปงามหล่อเหลาเดินออกมาจากบ้านของเซียวจ้ายเป่ยก็ยิ้มชั่วร้าย หึแบบนี้ก็ง่ายหน่อย ดูท่าคงเพิ่งอิ่มเอมมาแน่ ๆหน้าตาดูมีความสุขเหลือเกิน"หึจูเหมยลี่ ที้แท้เจ้าก็ร้อนร่านไม่น้อย สามีนายพรานอัปลักษณ์ไม่อยู่ก็พาบุรุษรูปงามมาเสพสมถึงในบ้าน ดีๆข้าล่ะอยากขึ้นขี่เจ้าไวๆนัก"ข้าอาจไม่หล่อเหลาเท่าไอ้หนุ่มคนเมื่อกี้ที่เพิ่งออกมา แต่รับรองจะทำให้เจ้าติดใจจนร้องขอให้ข้ามาหาทุกคืนเชียว"เป็นเพราะเซียวจ้านเป่ยโกนหนวดโกนเคราออกเรียบร้อย หน้าตาจึงหล่อเหลาคมคาย ทำให้เฉิงอี้จำไม่ได้และคิดว่าจูเหมยลี่คบชู้ จากนั้นก็เดินไปยังภูเขาอีกด้านของหมู่บ้าน มีคนรอเขาอยู่เฉิงอี้มาถึงก็เห็นสตรีงดงามรออยู่แล้ว แม้งามไม่เท่าจูเหมยลี่แต่นางก็งามไม่น้อย"ท่านมาช้า ข้ารอนานแล้วนะ" หงซิ่วที่แอบเหลียงเถี่ยต้านมาหาชู้รัก พอเห็นเฉิงอี้ทำเสียงกระเง้าระงอด ก่อนจะเปลื้งอาภรณ์ตนเองออก เฉิงอี้หัวเราะหึๆ ก่อนจะเปลื้องผ้าตนเองเช่นกัน"ไหนดูสิ หืมนั่นเจ้าทำอะไรหรือแม่นางหงซิ่วคนงาม"หงซิ่วเอนตัวไปข้าหลังเล็กน้อย ชันเข่าขึ้นมา แยกเรียวขาออกก่อนจะใช้สองมือแหวกกลับดอกไม้ด้า
จูเหมยลี่นำเกี้ยวมาต้ม ผักกาดขาวที่เซียวจ้านเป่ยได้มาเมื่อวานจากบ้านเซี่ยตงหยางนางนำมาหั่นผัดใส่เนื้อหมู เมื่อเช้าทำเกี้ยวไว้มากคิดว่าไม่ต้องทำมื้อเย็น แต่เกี้ยวอย่างเดียวเลี่ยนเกินไปลูกพีชหอมมาก ได้ยินว่าอาซ้อเซี่ยตั้งครรภ์บุตรคนที่สาม จูเหมยลี่จึงแบ่งให้นางไปห้าลูกเซียวจ้านเป็นกำลังไปรับบุตรสาวเดินผ่านบ้านจางก็ทักทายเยี่ยอวี่ภรรยาจางรั่วสุ่ย นางนิสัยดี แต่จางรั่วสุ่ยรักน้องสาวเกินไป"เยี่ยอวี่ รั่วสุ่ยไม่อยู่หรือ เอ่อ เหมยลี่นางเห็นว่าบ้านเจ้ามีเด็กเลยให้ข้าแบ่งขนมมาให้ รับไปสิ"เยี่ยอวี่ภรรยาจางรั่วสุ่ยเห็นเซียวจ้านเป่ยก็ตกตะลึง บุรุษผู้นี่คือใคร เหตุใดรูปงามถึงเพียงนี้ อีกทั้งรู้จักสามีนางด้วย แต่น้ำเสียงของเขาเหตุใดนางคุ้นเคยนัก"พี่ชาย ท่านรู้จักข้ากับสามีหรือเจ้าคะ ข้าจำไม่ได้ว่าเคยรู้จักกับท่านมาก่อน"เยี่ยอวี่มองหน้าบุรุษรูปงามตรงหน้าพร้อมกับทำหน้าสงสัย เซียวจ้านเป่ยหัวเราะก่อนจะส่งกล่องขนมให้นางแล้วเอ่ยขึ้น"เยี่ยอวี่ ข้าเองเซียวจ้านเป่ย เมียข้าจับข้าโกนหนวดโกนเคราน่ะ นางไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้นางบอกว่าสกปรก ข้าไปบ้านพี่ตงหยางก่อนนะ ผิงผิงไปเล่นที่นั่นข้าจะไปรับกลับบ้าน"เซีย
จางลู่เหลียนเห็นคนที่ยืนอยู่ก็ตกใจ"ทำไม จะรอเขาตื่นมาเย่อเจ้าหรือ ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าอยากจะได้ไม่ช่วยแต่แรก"จูเหมยลี่ปาท่อนไม้ไปอีกทาง จางลู่เหลียนผลักร่างที่สลบของเฉิงอี้ออกก่อนจะร้องไห้คร่ำครวญ"ฮือๆๆๆไอ้สารเลวเฉิงอี้ข้าจะฆ่าเจ้า ฮือๆ" จูเหมยลี่ส่ายหน้า นั่งลงข้างๆเอ่ยเสียงเรียบ"เจ้าเกลียดข้าๆเข้าใจ แต่เจ้าควรคิดถึงพี่ชายเจ้าบ้าง เรื่องวันนี้ข้าไม่พูดเจ้าไม่พูดเข้าใจไหม หากเขารู้ว่าเฉิงอี้คิดทำลายเจ้า แล้วไปทำร้ายไอ้สารเลวนี่ เฉิงอี้เป็นซิ่วไฉ หากเขาทำร้ายเฉิงอี้พี่ชายเจ้าจะเป็นเช่นไร กลับบ้านได้แล้ว ผู้ชายไม่ได้มีแค่เซียวจ้านเป่ย"จางลู่เหลียนจัดแจงเสื้อผ้าของตน จากนั้นก็เดินตามจูเหมยลี่กลับไป เฉิงอี้ที่สลบอยู่ตรงนั้นถูกคนของคังหยุนเอาไปโยนไว้ที่รังรักของเขากับหงซิ่ว โดยไม่มีใครรู้จูเหมยลี่กำลังจะบ้า จางลู่เหลียนไม่ไปไหนเลย นางตามติดแจเฝ้าไม่ห่าง นางทายาที่ใบหน้าให้ จางลู่เหลียนมองหน้านางอย่างละเมอ แค่เอ่ยขอบคุณไม่พอยังหอมแก้มนางด้วยขนลุกจะตายแล้ว เซียวจ้านเป่ยเจ้ากลับสักทีตาบ้า แค่ไปรับลูกเองนะไปเสียนานเชียวไม่นานเซียวจ้านเป่ยก็กลับมา เซียวลี่ผิงรีบวิ่งมาหามารดาทันที จูเหมยลี่จะ
ยามเหมาจูเหมยลี่ตื่นมาทำอาหารเช้า ช่วงนี้หน้าฝนแต่เซียวจ้านเป่ยกลับจะพาคนขึ้นเขา เมื่อวานนางสั่งเขาซื้อของมามากมาย จูเหมยลี่สับหมูปรุงรสพักไว้จากนั้นก็มาเคี่ยวโจ๊ก ก่อนจะนำแป้งมานวดเพื่อทำซาลาเปา มีเสียงเรียกที่รั้วบ้านนางจึงออกไปดู ปรากฏว่าเป็นจางลู่เหลียน พอเห็นหน้าจูเหมยลี่ก็ตรงเข้ามากอดทันที"ลี่เอ๋อร์ คิดถึงเหลือเกิน เมื่อคืนพี่นอนไม่หลับเอาแต่คิดถึงเจ้า ว่าแต่เมื่อคืนเจ้านอนห้องเดียวกับเซียวจ้านเป่ยหรือไม่""พี่ลู่เหลียน ท่านพี่เป็นสามีข้าย่อมต้องนอนด้วยกัน เอ่อพี่ปล่อยข้าก่อนเถอะ ใครมาเห็นจะนินทาเอาได้นะ""ช่างหัวปะไร พี่ชอบเจ้าคนอื่นคิดอย่างไรก็ช่าง พี่ตื่นแต่เช้ามาช่วยงานเจ้า ปวดใจนักที่เห็นเจ้าต้องลูกขึ้นมารับใช้ผู้ชายอัปลักษณ์คนนั้น"จูเหมยลี่ยืนงงเลย ตอนคนบ้านนั่นไว้หนวดเป็นตาแก่ เจ้าคลังไคล้นักหนา พอโกนหนวดหล่อราวเทพเซียนเจ้ากับรังเกียจบอกว่าเซียวจ้านเป่ยอัปลักษณ์ เฮ้อจำได้ว่าข้าตีหัวเฉิงอี้นี่นา ไม่ได้ตีเจ้าสักหน่อยนะเสียวเซียวจ้านเป่ยตื่นแล้ว พอเห็นจางลู่เหลียนกอดเมียสาวอยู่ก็โมโห เดินมาทันที เซียวจ้านเป่ยคว้าแขนจางลู่เหลียนลากกลับบ้าน จูเหมยลี่ส่ายหน้า"นี่มันอะไรกัน
"ท่านพี่ๆๆ เหม่ออะไรเจ้าคะ ไปปลุกลูกจะได้รีบกินมื้อเช้า วันนี้ท่านอยู่กับลูกนะเจ้าคะ ข้าจะขึ้นเขาเก็บฟืนสักหน่อย ฟืนในบ้านหมดแล้ว ครอบครัวลุงใหญ่ถูกโบยขนาดนั้น คงไม่มาหาเรื่องอีกเป็นเดือนข้าอยากเตรียมพร้อมก่อนท่านไปทัพ อยากให้ฟืนมีใช้ เสบียงพร้อมไม่ต้องทิ้งลูกไว้บ้าน ข้าไม่อยากทิ้งผิงผิงไว้คนเดียว หรือพาไปบนเขาบ่อยๆ สัตว์ป่าไม่อาจเดาใจได้""เจ้าอยู่บ้านเถอะ เรื่องเก็บฟืนพี่จัดการเอง พี่ไปปลุกลูกก่อนนะ กลิ่นซาลาเปาเจ้าหอมยิ่งนัก ชักหิวเสียแล้วสิ"จากนั้นก็เดินเข้าบ้านเพื่อไปปลุกเซียวลี่ผิง ยังไม่ทันจะเข้าเด็กน้อยก็วิ่งออกมาตรงไปหามารดาทันที"ท่านแม่ หอมจังเลยเจ้าค่ะท่านแม่ทำอะไรกินหรือเจ้าคะ"เซียวลี่ผิงกอดต้นขาจูเหมยลี่แน่น เงยหน้าทำสายตาน่ารักจนจูเหมยลี่ทนไม่ไหวอุ้มนางขึ้นมาห้องแก้มไปสองที"ผิงผิงเด็กดี ตื่นมาแล้วต้องคารวะท่านพ่อก่อน ไหนแม่สอนเมื่อวานลืมแล้วหรือ"ผิงผิงลงจากอกจูเหมยลี่ก่อนจะย่อตัวเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้ว"ผิงผิงคารวะท่านพ่อ ขอท่านพ่อสุขภาพแข็งแรง ผิงผิงคารวะท่านแม่ขอท่านแม่สุขภาพแข็งแรงงดงามตลอดไปเจ้าค่ะ"เซียวจ้านเป่ยอุ้มบุตรสาวขึ้นมาหอมแก้มเช่นกัน เขาต้องไปชายแดน ต้องหา
เซียวจ้านเป่ยวางกองฟืนลงสายตามองมาที่หงซิ่วอย่างมีไอสังหาร จูเหมยลี่รีบเข้าไปถีบคนของเหลียงเถี่ยต้านที่จับจางลู่เหลียนไว้กระเด็นทันทีเฉิงอี้ที่เห็นหน้าบุรุษรูปงามก็ริษยาทันที ไอ้สารเลวนี่หน้าตาดียิ่งนัก อีกทั้งยังได้เชยชมจูเหมยลี่ไปแล้วอีกด้วย นางเคยเป็นคู่หมั้นของข้าวันนี้จะให้เจ้าขอร้องข้าเลยทีเดียว"นี่จูเหมยลี่ เซียวจ้านเป่ยไม่อยู่ เจ้าก็ถึงกับคบชู้สู่ชายพาไอ้คนนี้มาอยู่กินกับเจ้าถึงในบ้าน ทุกท่านคนๆนี้คือชายชู้ของนาง"ชาวบ้านหันมาหาเซียวจ้านเป่ย จากนั้นก็มองไปที่จูเหมยลี่ แม้แต่หงซิ่วเองก็ถูกรูปงามของเขาทำให้ตะลึงเช่นกัน นางไม่เคยเห็นบุรุษใดรูปงามเท่านี้อีกแล้วนางหลงรักเขาทันที จนเฉิงอี้เอ่ยอีกรอบ"นี่ ไอ้ชายชู้เจ้าเป็นใคร แอบมาคบชู้กับสตรีในหมู่บ้านเราเด็กๆพวกเจ้าจับทั้งสองคนไปศาลาว่าการให้ใต้เท้าลงโทษเสีย"มือปราบกรูกันเข้ามาหมายจับซียวจ้านเป่ยกับจูเหมยลี่ เซียวจ้านเป่ยไม่ออมฝีมือสักนิด เขาโบกมือทีเดียวมือปราบทั้งหมดก็กระเด็นคนละทิศละทาง จูเหมยลี่ส่งสายตาก่อนจะพูดกับเขาช้าๆ"ท่านพี่ ข้าไม่อยากให้ลูกเราเห็นสิ่งที่ท่านจะทำ ข้าจะพาลูกไปบ้านพี่ลู่เหลียนก่อน ทางนี้ท่านสะสางเถอะ ส่ว
จางลู่เหลียนเอ่ยกับจูเหมยลี่เสร็จก็เตรียมตัวกลับบ้าน แต่พอเห็นคังหยุนไม่กลับนางเลยไม่กลับด้วยอยู่กับจูเหมยลี่จนเซียวจ้านเป่ยอ่อนใจ จางลู่เหลียนไม่ยอมกลับบ้านตนเอง เซียวจ้านเป่ยเริ่มหงุดหงิดแต่จูเหมยลี่จับมือเขาไว้ส่ายหน้า หากไม่ใช่เพราะจางลู่เลียนมาทันผิงผิงอาจถูกทำร้ายมากกว่านี้ก็ได้"ท่านพี่ เรื่องของหงซิ่วท่านจัดการให้เด็ดขาดนะเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากต้องระแวงว่านางจะมาทำร้ายผิงผิงอีกเมื่อไหร่""วางใจเถอะ เอ่อคุณชายคัง ดูเหมือนท่านจะสนิทกับใต้เท้าหลัว เฉิงอี้คนนั้นท่านจัดการได้หรือไม่ เขาเลวร้ายนักลักลอบเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่นไปทั่ว ไม่สมควรเป็นบัณฑิตสักนิด อีกทั้งไม่สมควรเป็นขุนนางกินเบี้ยหวัดทางการอีกด้วย"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยกับคังหยุน ที่ตอนนี้ไม่สนใจใครนั่งกินซาลาเปาอย่างอร่อย เขาอร่อยจนแทบกลืนลิ้นตัวเองแล้ว"นี่ๆๆอาซ้อ อาหารที่ท่านทำอร่อยกว่าพ่อครัววังหลวงเสียอีก ข้าได้รับมอบหมายให้มาตามหาคน จะพักอยู่ที่นี่สักครึ่งเดือนขอฝากท้องกับท่านได้หรือไม่ ท่านพี่เซียวภรรยาท่านทำอาหารอร่อยจริงๆ"จากนั้นก็กินต่อไม่สนใจที่เซียวจ้านเป่ยที่สื่อสารกับเขาสักนิด โจ๊กนี่เนื้อเนียนยิ่งนัก อร่อยมากอร่อยเกิ
เซียวจ้านเป่ยกำลัง คิดถึงเรื่องนี้พอดี ไม่นึกว่าพอง่วงนอนก็มีคนส่งหมอนมาให้ ใครจะไม่รับเล่า หากมีคนของทางการหนุนหลัง ชาวบ้านทั่วไปคงไม่กล้า เมียเขาเป็นคนฉลาดนางรู้จักใช้สถานการณ์ตรงหน้าพลิกแพลงได้เสมอ"เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านแล้ว ว่าแต่สองคนนั้นใต้เท้าหลัวจะลงโทษเช่นใดหรือ ข้าไม่อยากให้มาวุ่นวายกับลูกเมียข้าอีก""ท่านวางใจเถอะ หลัวสือเป็นขุนนางน้ำดี เขาเถรตรงนัก หงซิ่วคบชู้กับบัณฑิตเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ปกติเหลียงเถี่ยต้านรับเงินจากขุนนางจากเศรษฐี ขายหงซิ่วให้ไปหลับนอนกับคนเหล่านั้นแล้วรับเงิน แต่หงซิ่วกลับเสียเงินเพื่อได้หลับนอนกับเฉิงอี้ เหลียงเถี่ยต้านไม่ยอมหรอก""หากไม่ใช่ท่านปู่ข้าอยากให้ข้ามีทายาทจนยอมเสียเงินแต่งนางเข้ามาข้าก็ไม่อยากยุ่งกับสตรีน่ารังเกียจคนนี้จริงๆ"ทั้งคู่ปรึกษาหารือเรื่องขึ้นเขาล่าสัตว์ เป็นอันว่าเซียวจ้านเป่ยจะขึ้นเขาเลือกตัดต้นไม้ในวันรุ่งขึ้น คังหยุนจะให้องครักษ์ของเขานำทหารมาช่วยยี่สิบนาย แล้วยังจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านด้วย เพื่อแสดงความมีน้ำใจของสองสามีภรรยาคังหยุนไปแล้ว เซียวจ้านเป่ยจึงเข้าไปหาจูเหมยลี่ที่เพิ่งกล่อมบุตรสาวหลับไป นางบอกว่าจะไปหาซื้อไหเขาไ
บรรดาคนที่อยู่ในห้องสนทนาถึงกับตกใจกับข่าวใหม่ หานรั่วสุ่ยมีภรรยาแล้วอีกทั้งมีบุตรแล้วด้วย จ้านอ๋องก็มีพระชายาแล้วเช่นกัน พวกเขาสนทนาโดยไม่สนใจบุคคลที่อยู่ในห้องด้วยสักนิด "อืมพี่เมีย ข้าจะล่วงหน้าไปก่อนคิดถึงเหลี่ยนเอ๋อร์ของข้าแล้ว พวกท่านค่อยเดินทางทีหลังแล้วกัน""องค์ชายคังหยุนท่านจะไปเมื่อใดหรือพ่ะย่ะค่ะ""ออกเดินทางวันนี้ ข้าคิดถึงเมีย มีบางคนคิดถึงจูเว่ยเว่ยจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว น่ารำคาญยิ่งนัก อ้อนวอนข้าทุกวันจะกลับจิ่วโจวให้ได้""เอ๋เสด็จพี่ ข้าคิดถึงเว่ยเว่ยไม่ได้หรืออย่างไร ทีท่านคิดถึงพี่สะใภ้ได้เล่าหรือไม่เล่า ท่านพี่ล่ะคิดถึงพี่สะใภ้แสนงามของข้าหรือไม่ "อืม หยุนเอ๋อร์ รั่วสุ่ยพวกเจ้าคุยกันไปเถอะ อ้อพวกท่านทั้งหลายก็กลับไปเถอะนะ ไม่ว่าของขวัญของฝากที่ใครๆไหว้วานพวกท่านนำมานั้น ก็จงนำกลับไปด้วย ข้าอ้ายจ้านมีภรรยาแล้ว และข้าไม่แต่งเมียเพิ่ม ข้าไปล่ะพวกเจ้าปรึกษากันต่อเถอะ" "เอ่อพี่เมีย แล้วยายเฒ่าตาเฒ่าสกุลหานเหล่านั้นท่านจะว่าอย่างไรหรือ" คังหยุนแม้จะเป็นองค์ชายแต่ก็ไม่อยากใช้อำนาจกับพวกเขา แต่น่ารำคาญเหลือเกินโดยเฉพาะยายเฒ่าหานนั่น ตอนจาง
“เอ๋ เสด็จพ่อตาใครกันนะว่ากระหม่อมเป็นตาเฒ่าหลอกเด็กรุ่นลูกมาเป็นเมีย นี่ๆพี่อันหยวนของข้าสามสิบเก้า ท่านสี่สิบสอง บางคนสี่สิบห้าแล้วนะ เหอะ”ซูฟางหรูอายหน้าแดง อ้ายเฉิงถลึงตาใส่จูยวี่ซานก่อนจะเอ่ย“มีอะไรคุยพรุ่งนี้ เมียข้าหิวข้าว หากไม่หยุดข้าจะเอาลูกสาวข้าคืนตาแก่จู”จูยวี่ซานและเฝิงอันหยวนหัวเราะก่อนจะพากันออกไป ปล่อยคู่รักต่างวัยให้อยู่ด้วยกัน จูเหมยลี่รับรู้จากอาสามว่าพ่อสามีกับซูฟางหรูข้าวสารเป็นข้าวสุกเรียบร้อยแล้วตอนนี้ซูฟางหรูนอนอยู่ในอ้อมกอดอ้ายเฉิง เขาลูบไหล่นางเบาๆ พูดคุย“อาให้คนไปรับมารดากับบิดาเจ้ามาแล้ว พรุ่งนี้บ่ายๆ ถึงจิ่วโจว”“ท่านอาพูดจริงหรือเจ้าคะ”“อารู้ว่าเจ้าเคยหมั้นหมาย แต่เพราะห่วงบิดากับมารดา จนคู่หมั้นถอนหมั้นเจ้า”“ท่านอา คือว่าเรื่องนั้น”“ข้ารู้ เจ้าห่วงพวกเขาจนฝ่ายนั้นรำคาญ แต่ก็ดีแล้วมิใช่หรือหากตอนนั้นเจ้าแต่งออกไป ใครจะนอนหนุนแขนอาเล่าตอนนี้หื้ม”“ท่านอา ท่านอายุสี่สิบห้าจริงๆ หรือ เหตุใดถึงเหมือนพี่น้องกับท่านพี่เซียวนัก ใบหน้าท่านเด็กกว่าอาสามอีก”“ปากหวานแบบนี้ต้องให้รางวัลแล้วไหม”อ้ายเฉิงเริ่มปลดอาภรณ์นางอีกครั้ง ซูฟางหรูจับมือเขาไว้ก่อนจะเอ่
ซูฟางหรูกลับมาที่ริมแม่น้ำ อ้ายเฉิงนั่งรออยู่ พอเห็นนางก็เอามือกุมท้องดังเดิม ซูฟางหรูไม่รู้เลยว่าหมาป่ากำลังมองจ้องลูกแกะตัวน้อยเนื้อขาวๆ“ท่านอาเฉิง ยามาแล้วเจ้าค่ะเอ่อ ทะ ท่านอาทาเองได้ไหมเจ้าคะ”“ข้าจะทาอย่างไรกันมันไม่ถนัด เจ้าช่วยหน่อยสิอาหรู”“แต่ข้าเป็นสตรี ท่านเป็นบุรุษใกล้ชิดกันคงไม่ดีนักคือๆ ว่าข้า”“ช่างเถอะ เจ้ากลับไปเถอะเดี๋ยวข้านั่งหายเจ็บก็กลับเอง ไม่รบกวนเจ้าหรอก”“ท่านอา กะ ก็ได้แต่ว่าถ้าหากใครมาเห็นคงไม่ดี ว้าย!!”พูดไม่ทันจบนางก็ตัวลอยขึ้น อ้ายเฉิงอุ้มนางดีดตัวผ่านยอดไม้ก่อนจะมาถึงเรือนของตน ซูฟางหรูซบกับหน้าอกเขาแน่นเพราะกลัวตก จึงไม่เห็นบรรดาข้าราชบริพารที่ถอยหลังออกจากเรือนพักจนหมด องครักษ์เงาหายไปจากบริเวณนั้นทันทีอ้ายเฉิงวางร่างบางระหงลงบนเตียงของตน ซูฟางหรูมองเขาหน้าตาเหรอหรา ยิ่งมองยิ่งน่ารักเหลือเกินจนอ้ายเฉิงอดใจไม่ไหว รั้งนางมาจูบทันที“อื้อ” ซูฟางหรูเองนี่เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดบุรุษเพศ นางทำอะไรไม่ถูกยอมให้คนตัวโตชักจุงในที่สุดนางก็ถูกเขาลอกคราบจนเปลือยเปล่า“อาหรูเจ้างามนัก ขออาเฉิงนะเด็กดี”“อื้อ ท่านอาแบบนี้ไม่ถูกต้องนะเจ้าคะ ไหนท่านบอกว่าเจ็บท้อง
จูเหมยลี่ออกเดือนได้หลายวันแล้ว ตอนนี้บุตรชายอ้ายหลิวเหว่ยได้สองเดือนกว่าแล้ว เมื่อวานอ้ายซินมาบอกว่าเซียวจ้านเป่ยจัดการกลุ่มกบฏเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่กวาดล้างกากเดนที่เหลืออยู่ ฮ่องเต้แต่งตั้งเขาเป็นอ๋อง เดิมทีอีกเจ็ดวันจะเดินทางมาจิ่วโจวแต่เพราะมีเหตุต้องอยู่ต่อ อีกครึ่งเดือนจึงจะมาพร้อมขบวนต้อนรับพระชายาจูเหมยลี่ส่งหลิวเหว่ยให้กับหรงหรง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ก็เห็นซูฟางหรูเดินหิ้วตระกร้ามาหา เด็กสาวคนนี้หน้าตาสะสวยจริงๆ เป็นเด็กกตัญญูยิ่งนัก“พี่ฟางหรู ท่านเอาอะไรมาอีกละนั่นข้าเกรงใจจะแย่แล้ว”“อาซ้อเซียวท่านเกรงใจไปแล้ว หากไม่ได้ท่านคอยช่วยเหลือข้ากับพี่สาวและหลานๆ คงลำบากไม่น้อย เอ่อ นี่เป็นขนมดอกหยางไหวของท่านอาเฉิงเจ้าค่ะ”ซูฟางหรูส่งห่อใบบัวให้จูเหมยลี่ เว่ยเว่ยเดินออกมาจากในบ้านก่อนจะรับแล้วเอ่ยกับจูเหมยลี่“เสี่ยวลี่ พี่จะไปบ้านท่านยายสักสามวัน ทางนี้ไม่ขาดคนพอดีท่านยายป่วยอีกแล้ว พักนี้ท่านยายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่”“อืม ท่านอาเสี่ยวทงรบกวนท่านมานี่สักหน่อย”เสี่ยวทงเป็นคนของนางไปแล้ว อาสามยกให้เขาคอยดูแลจูเหมยลี่กับเซียวลี่ผิงโดยเฉพาะ จูยวี่ซานไปข้างนอกบ่อยๆ เขากลัว
เมื่อเรื่องในวังหลังเรียบร้อย ยามเฉินฮ่องเต้ก็สวมฉลองพระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ในท้องพระโรง วันนี้ขุนนางมาเข้าเฝ้าโดยไม่รู้ว่าเรื่องราวอะไรกำลังจะเกิดขึ้นแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเห็นคืออ้ายจ้านซื่อจื่อที่กลับมาแล้ว อีกคนหยางตงเซี่ย และหานรั่วสุ่ยทั่นฮวาน้อย"ฝ่าบาท วันนี้ประชุมเช้า เหตุใดซื่อจื่อจึงพกอาวุธเข้ามายังท้องพระโรงกันพ่ะย่ะค่ะ นี่มิเท่ากับทำผิดร้ายแรงหรอกหรือ""รองเจ้ากรมอาลักษณ์พูดจาน่าขัน พวกเราอารักขาฝ่าบาท มีอะไรไม่สมเหตุสมผลหรอกหรือ" จางรั่วสุ่ยเอ่ยขึ้น คนที่จ้องเขาตาถลนกำลังกำมือแน่น เขาคือหานรั่วท่านปู่ของเขา "รั่วสุ่ย อย่าเสียมารยาท นี่คือขุนนางเจ้าเป็นเพียงทหารปลายแถวจงสำรวม""โย่ว ใต้เท้าหานกล่าววาจาอันใดกัน ท่านดูไม่ออกหรือว่าข้ามีตำแหน่งใด สายตาฝ้าฟางเช่นนี้ควรลาออกไปเลี้ยงหลานอยู่บ้านจะดีกว่าหรือไม่"หานรั่วถึงกับหน้าเขียว เป็นเด็กเลวจริงๆ เลือดชั้นต่ำของมารดาคงแรง"อ้อ ใต้เท้าหานที่แท้เขาก็คือทั่นฮวาน้อยหานรั่วสุ่ย หลานชายของท่านนั่นเอง ""รองเจ้ากรมท่านกล่าวผิดแล้ว ข้าแซ่จาง จางรั่วสุ่ย แซ่หานนั้นข้าไม่เคยใช้"หานรั่วถึงกับหน้าคล้ำกว่าเดิ
สิบวันต่อมาเซียวจ้านเป่ยมารวมกับทัพใหญ่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เรียกหานอี้มาหา หานอี้เป็นคนสนิทของแม่ทัพจ้าว"ตอนข้าไม่อยู่มีเรื่องอันใดหรือไม่""เป็นอย่างที่ท่านคาดการณ์ นายกองหูออกจากค่ายไปบ่อยๆ เขานัดพบคนๆหนึ่ง เราสืบดูแล้วเป็นคนของซีเป่ย ไท่ซ่างหวงทิ้งข้อความไว้ให้ท่านแม่ทัพขอรับ"เซียวจ้านเป่ยหยิบกระดาษที่วาดรูปออกมา เป็นเหมือนรูปวาดธรรมดา แต่เซียวจ้านเป่ยรู้ดีว่าเสด็จปู่กำลังจะสื่อถึงอะไร ภูเขา ลำธารหรือ นี่มันทางเข้าหลังตำหนักร้างนี่ รอยเท้าย้อนกลับเดินถอยหลังเช่นนั้นหรือ มีบางคนส่งข่าวจากช่องทางนั้น "รั่วสุ่ยเขียนอักษรถึงองค์ชายสี่หน่อย เขียนแค่ว่าชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง"จางรั่วสุยเขียนโครงตามที่เซียวจ้านเป่ยบอก ชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง แปลว่าอะไร พี่น้องคู่นี้หน้าสิ่วหน้าขวานยังมีแก่ใจต่อกลอนกันด้วยหรือ อินทรีปากเหล็กรับข้อความไปแล้ว ยามอิ๋นจึงได้จดหมายตอบกลับมา มีเพียงรูปวาดของเด็กทั้งห้า ที่มีสัญลักษณ์แตกต่างกันไป แต่เด็กคนหนึ่งหายไป"เป็นเจ้าจริงองค์ชายรอง คิดจะเปิดประตูหลังตำหนักร้างให้คนของท่านตาเจ้าเข้าไปก่อกบฏหรือ หึ สำคัญผิดเสียแล้ว"
หลังจากจูเหมยลี่คลอดบุตรชายให้เซียวจ้านเป่ยเรียบร้อยแล้วนางก็พักฟื้น ตอนนี้บริเวณหมู่บ้านกับตำบลจิ่วโจวทั้งตำบล มีทหารคอยอารักขาเต็มไปหมด จูเก่อคังที่ตอนนี้นั่งดื่มกับอาเฉิงอยู่ เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือเชื้อพระวงศ์ จึงได้พูดคุยทุกเรื่อง"นี่ๆน้องเฉิง บุตรชายเจ้าเก่งนัก ไปทหารไม่นานก็ได้ตำแหน่งใหญ่โตกลับมา เฮ้อ วาสนาเสี่ยวลี่ของข้าจริงๆ อยากให้น้องรองกับน้องสะใภ้ของข้าได้รับรู้เหลือเกินว่าตอนนี้นางมีชีวิตที่ดีเพียงใด""พี่เก่อคัง หลานสาวท่านคนนี้บุตรชายของข้าดูท่าจะรักนางมาก""เสี่ยวลี่เป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง หากไม่ใช่ว่าถูกลุงใหญ่กับป้าสะใภ้กลั่นแกล้งชีวิตนางคงไม่เลวร้าย โชคดีที่วันนั้นสองคนนั้นตัดสินใจขายเสี่ยวลี่ให้บุตรชายท่าน ไม่เช่นนั้นข้าไม่อาจเดาชะตากรรมนางได้เลย""กฎหมายซื้อขายคนคงต้องแจ้งฝ่าบาทให้ปรับจริงๆ แต่พวกขุนนางเก่าแก่คงไม่ยอม"เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังกอดรักเมีย เขาต้องไปแล้วคนของเขาแจ้งมาแล้วว่ากลุ่มกบฏมีกี่พรรคพวก แล้วหลบซ่อนอยู่ที่ใดบ้าง"ลี่เอ๋อร์ พี่ต้องไปแล้ว พี่สัญญาว่าจะทำรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วกลับมารับเจ้ากับลูก""ท่านพี่
"ฮือๆๆ เสด็จพ่อ" อ้ายเฉิงกางแขนกอดรับบุตรสาวที่ตอนนี้ร้องไห้กับอกเขา"ร้องทำไมเจ้าตัวดี ใครใช้ให้เจ้าหนีออกจากวังกันหึ"แม้คำพูดจะตำหนิแต่น้ำเสียงกับอาทรห่วงใยบุตรสาวยิ่งนัก อ้ายซินมองหน้าก่อนจะทำสีหน้าสงสัย"เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ แล้วคนของฉู่หรานซินที่เฝ้าเสด็จพ่อในทุกๆวันเล่า""เรื่องราวยากกว่าที่เจ้าเข้าใจ นางกำลังพาบุตรชายหนีน่ะ""อ้ายฉางหรือเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่บุตรเสด็จพ่อ หม่อมฉันเคยได้ยินนางกับรองเจ้ากรมอาลักษณ์ติดต่อกัน เขาบอกว่าต้องอดทนถึงเมื่อไหร่อ้ายฉางจึงจะเรียกเขาว่าท่านพ่อสักที""ลูกเห็นว่าพ่อหลับนอนกับนางหรือ เห็นตาแก่ใกล้ตายคนนั้นที่ร่วมสังวาสกับสตรีคือพ่อหรือ"อ้ายซินทำสีหน้าสงสัย เซียวจ้านเป่ยจึงเอ่ยกับนาง"มีคนที่ใบหน้าคล้ายเสด็จพ่อน่ะ เราวางหมากตั้งแปดปีที่แล้ว ก่อนที่ฉู่หรานซินจะแต่งเข้ามา เสด็จพ่อก็อยู่ที่ตำหนักเย็นของพระราชวังหลังเก่านอกเมืองมาตลอด ไม่มีใครรู้นอกจากฝ่าบาทเสด็จปู่แล้วก็พี่ เฉิงอ๋องคนนั้นที่อยู่กับฉู่หรานซินทุกวันคือคนสนิทของเสด็จพ่อ ที่ปลอมแปลงใบหน้า"จากนั้นทุกคนก็เข้าใจ จางรั่วสุ่ยรีบกลับไปหาภรรยา เพราะว่านางกำลังอยู่เดือน เซี่ยตงหยางม
อ้ายซินเอ่ยจบประโยคลมสายหนึ่งก็ผ่านตัวนางไป เห็นด้านหลังเป็นบุรุษใส่ชุดกองทัพ เขาคือพี่ชายของนาง อ้ายซินดิ้นลงจากตักสามีรีบเดินไปหา"พี่ชาย ท่านกลับมาแล้ว ฮือๆๆ"เซียวจ้านเป่ยหันมามองหน้าน้องสาวก่อนจะรั้งนางเข้ามากอด"ซินเอ๋อร์ เสี่ยวลี่อยู่ในนั้นหรือ""เจ้าค่ะ พี่สะใภ้เจ็บท้องมาสองชั่วยามแล้ว พี่ชายไหนว่าท่านอยู่ชายแดนไงเจ้าคะ""ทางนั้นเรียบร้อยแล้วล่ะ เหลือแค่ทางวังหลวง ฉู่ฉางเกินมุ่งหน้าเข้าวัง พี่สกัดเขาไว้ได้แต่ยังไม่รู้ว่ากองกำลังของเขาที่ยังซุกซ่อนอยู่มีเท่าไหร่ พอดีจิ่วโจวเป็นทางผ่านพี่จึงแวะหาลี่เอ๋อร์กับผิงผิงน่ะ"อ้ายซินกำมือแน่น ก่อนจะมองหน้าสามี จูยวี่ซานถอนหายใจ เขาคงปกป้องพี่ชายพี่สะใภ้และจูหมิงซูไม่ได้หรอก ได้ข่าวว่าแค่สตรีนางหนึ่งกล่าวหาเสี่ยวลี่คำเดียวก็ถูกโยนไปอยู่ก้นเหวแล้ว"ผิงผิงป่วยเจ้าค่ะ คือว่า""พี่รู้เรื่องหมดแล้ว ระหว่างทางที่มามีคนรายงานพี่ สามคนพ่อแม่ลูกนั้นพี่ให้ส่งไปชายแดนใต้หมดแล้ว ที่นั่นมีเหมืองแร่ให้พวกมันไปชดใช้ที่นั่น โดยเฉพาะจูหมิงซูคนนั้น หากรอดจากแผลบนใบหน้าได้นับว่านางดวงแข็งแล้ว""จ้านเป่ยอาสามต้องขออภัยเจ้าจริงๆ หากมิใช่ว่าอาสามต้องไปเจราจาก