จางลู่เหลียนเห็นคนที่ยืนอยู่ก็ตกใจ
"ทำไม จะรอเขาตื่นมาเย่อเจ้าหรือ ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าอยากจะได้ไม่ช่วยแต่แรก"
จูเหมยลี่ปาท่อนไม้ไปอีกทาง จางลู่เหลียนผลักร่างที่สลบของเฉิงอี้ออกก่อนจะร้องไห้คร่ำครวญ
"ฮือๆๆๆไอ้สารเลวเฉิงอี้ข้าจะฆ่าเจ้า ฮือๆ" จูเหมยลี่ส่ายหน้า นั่งลงข้างๆเอ่ยเสียงเรียบ
"เจ้าเกลียดข้าๆเข้าใจ แต่เจ้าควรคิดถึงพี่ชายเจ้าบ้าง เรื่องวันนี้ข้าไม่พูดเจ้าไม่พูดเข้าใจไหม หากเขารู้ว่าเฉิงอี้คิดทำลายเจ้า แล้วไปทำร้ายไอ้สารเลวนี่ เฉิงอี้เป็นซิ่วไฉ หากเขาทำร้ายเฉิงอี้พี่ชายเจ้าจะเป็นเช่นไร กลับบ้านได้แล้ว ผู้ชายไม่ได้มีแค่เซียวจ้านเป่ย"
จางลู่เหลียนจัดแจงเสื้อผ้าของตน จากนั้นก็เดินตามจูเหมยลี่กลับไป เฉิงอี้ที่สลบอยู่ตรงนั้นถูกคนของคังหยุนเอาไปโยนไว้ที่รังรักของเขากับหงซิ่ว โดยไม่มีใครรู้
จูเหมยลี่กำลังจะบ้า จางลู่เหลียนไม่ไปไหนเลย นางตามติดแจเฝ้าไม่ห่าง นางทายาที่ใบหน้าให้ จางลู่เหลียนมองหน้านางอย่างละเมอ แค่เอ่ยขอบคุณไม่พอยังหอมแก้มนางด้วยขนลุกจะตายแล้ว เซียวจ้านเป่ยเจ้ากลับสักทีตาบ้า แค่ไปรับลูกเองนะไปเสียนานเชียว
ไม่นานเซียวจ้านเป่ยก็กลับมา เซียวลี่ผิงรีบวิ่งมาหามารดาทันที จูเหมยลี่จะก้มลงอุ้มนางขึ้นมาหอมแก้ม จางลู่เหลียนเห็นเซียวจ้านเป่ยก็สงสัย
"เจ้าเป็นใครกัน นี่บ้านท่านพี่เซียวแล้วเจ้าไปอุ้มผิงผิงมาได้อย่างไร เหมยลี่คนๆนี้คือใครกัน"
"พี่ลู่เหลียน เขาก็คือสามีข้าเซียวจ้านเป่ยไง เขาโกนหนวดโกนเคราแล้วเลยหน้าตาเปลี่ยนไป สามีข้ารูปงามข้าเข้าใจแต่ว่าพี่อย่าคิด.."
"รูปงามที่ไหน อัปลักษณ์มากกว่าลี่เอ๋อร์ข้ารู้สึกว่ามีเพียงข้าที่เหมาะกับเจ้า เซียวจ้านเป่ยเป็นบุรุษน่าเกลียด ตัวก็หนา ลี่เอ๋อร์เจ้าไม่ชอบสตรีบอบบางเช่นข้าหรือ อยู่กับข้าๆสามารถถนอมเจ้าได้นะ"
จางลู่เหลียนไม่พูดเปล่า ยังประชิดจูเหมยลี่ก่อนจะรั้งเอวบางเข้ามาหมายจูบนาง เซียวจ้านเป่ยรีบฉกเมียคืนมาทันที เกิดอะไรขึ้นเขาไปแค่ชั่วยามกว่าๆเองนะ มีเรื่องคุยกับเซี่ยตงหยาง กลับมาเมียจะถูกน้องสาวสหายเอาไปกินเสียแล้ว
จางเหมยลี่สะบัดแขนใส่เขาก่อนจะชี้หน้า
"ไอ้อัปลักษณ์ เจ้าไม่คู่ควรกับนางหรอก เหมยลี่คนดีพี่กลับก่อนนะ เจ้าห้ามนอนห้องเดียวกับเขานะ รอเขาไปชายแดนก่อน ข้าจะย้ายมาอยู่กับเจ้า "
จางลู่เหลียนไปแล้ว เซียวจ้านเป่ยยืนงง นางชอบเขามานานทำทุกอย่างเพื่อให้เขาชอบ อยู่ๆเกลียดขี้หน้าเขาเนี่ยยังพอรับได้ แต่จะเอาเมียเขาอันนี้รับไม่ได้จริงๆนะ
"เกิดอะไรขึ้นหรือเมียจ๋า ทำไมนางแปลกไป"
จูเหมยลี่เล่าให้เขาฟัง แต่ไม่พูดถึงที่เฉิงอี้ลวนลามจางลู่เหลียน พูดแค่ว่าเฉิงอี้ฉุดจางลู่เหลียนแล้วนางไปช่วยทันเท่านั้น
"ลี่เอ๋อร์ สายตานางน่ากลัวเหลือเกิน เจ้าห้ามอยู่ใกล้นางนะ"
เซียวจ้านเป่ยใจไม่ดีแล้ว เขาต้องไปไกลบ้านถึงสองปี สายตาจางลู่เหลียนนั้นแทบจะกลืนกินจูเหมยลี่ สายตาแบบเดียวกับเขาเลยเวลาที่ต้องการรักเมีย
จูเหมยลี่ไม่ได้ใส่ใจอาการของจางลู่หลียนคงเป็นอาการตกหลุมรักแบบกระทันหัน คงคิดว่าจูเหมยลี่คนนี้เป็นบุรุษขี่ม้าขาวกระมัง ก่อนจะไปสนใจงานตรงหน้า แต่คนตัวโตไม่คิดเช่นนั้นแม้แต่สตรีด้วยกันเขาก็หึง
ค่ำแล้วสามคนพ่อแม่ลูกอาบน้ำเสร็จก็เข้านอน วันนี้เซียวผิงผิงบอกว่าอยากให้ท่านพ่อนอนด้วย นางคิดถึงท่านพ่อ แต่ก็ไม่อยากแยกจากท่านแม่ สรุปจูเหมยลี่ต้องตามใจ
"ท่านแม่นอนกับท่านพ่อ ผิงผิงนอนด้านในเองเจ้าค่ะ ท่านพ่อแขนยาวกอดได้สองคน"
สามคนพ่อแม่ลูกนอนบนเตียงด้วยกัน เซียวลี่ผิงที่วันนี้วิ่งเล่นจนเหนื่อย เมื่อหัวถึงหมอนก็หลับทันที จูเหมยลี่ยังไม่หลับแขนแกร่งที่กอดเซียวลี่ผิงกำลังป้วนเปี้ยนที่หน้าอกนางอยู่ เสียงกระเส่าข้างหูทำเอานางสยิวไม่น้อย
"ลูกนอนอยู่ ท่านพี่อย่ารุ่มร่ามสิ อืมพี่จ้านเป่ย"
"ไม่ตื่นหรอก เมียจ๋าอยากอีกแล้วเมื่อกลางวันไม่อิ่มเลย ไปห้องโน้นเถอะ"
ไม่รอนางตอบรับหรือปฏิเสธ เซียวจ้านเป่ยลุกขึ้นอุ้มจูเหมยลี่ไปอีกห้องทันที
วางร่างบางลงบนเตียงก่อนจะคลุกเคล้า ปลดอาภรณ์เขาและนางอย่างชำนาญ
จูเหมยลี่เกิดมาสองชาติเพิ่งเปลือยเปล่าต่อหน้าบุรุษเป็นครั้งแรก
"ลี่เอ๋อร์ ข้าคิดว่าเจ้าต้องสวย แต่ไม่คิดว่าจะสวยเพียงนี้ เมียจ๋าใจอ่อนสักนิดไม่ได้เหรอ อยากรักเจ้าจริงๆ"
คนตัวโตกระซิบเว้าวอนอยากให้นางเป็นของเขา แต่จูเหมยลี่ทำไม่ได้จริง นางชอบเริ่มเขาแต่ยังไม่ถึงเวลาจะให้
"ท่านพี่ เราคุยกันแล้วนะ อะ อ่าส์ เสียวอืม เบาๆสิเจ้าคะ คนดีของข้าท่านอย่ารุนแรงสิ"
เสียงขอร้องแสนหวานนั้นทำเอาเซียวจ้านเป่ยจะละลายแล้ว
"ไม่ท้องหรอกนะ พี่ขอนะเด็กดี อาส์ หวานจริงๆ อยากกินเจ้าทั้งตัวเลย ลี่เอ๋อร์เป็นของพี่เถอะนะ"
ปากพูดเจรจาแต่มือไม่หยุดแตะต้องนางสักชุ่น เซียวจ้านเป่ยส่งนิ้วทักทายกายสาวด้านในก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมา ส่งเรียวลิ้นเข้าไปทักทายนางแทนนิ้วยาวเรียวนั้น จนจูเหมยลี่ต้องแอ่นสะโพกสวนขึ้น นางเสียวจะตายแล้ว ต้องทำให้เขาสงบไม่งั้นนางเสร็จแน่ๆ
"ท่านพี่ ไม่ไหวแล้วเสียวข้า ๆอื้อ ถึงแล้วข้าถึงแล้ว อร๊าย ท่านพี่ละ ลิ้นท่านอย่าเข้าไปลึกนักสิ เซียวจ้านเป่ย ท่านพี่เมียไม่ไหวแล้วคนดี อร๊าย"
หน้าท้องเกร็งกระตุก เรียวลิ้นร้อนชื้นรู้สึกถึงความบีบรัด ก่อนจะดูดกลืนความหวานที่นางหลั่งออกมา เซียวจ้านเป่ยทาบทับนาง จูเหมยลี่ใช้มือนุ่มนิ่มกอบกุมเอาไว้ ผลักเขาลงสองมือบีบเต้านุ่มหยุ่นตนเองประกบกับแก่นกายใหญ่โตก่อนจะใช้สองเต้าเต่งตึงนวดให้เขา
"อ่าส์ เสียวจัง ไปหัดมาจากไหนอีกหึ อืมนุ่มเหลือเกิน อ่าส์ เร็วอีกทูลหัว ผัวจะถึงแล้วอืมนั่นแหละ อ่าส์ เสร็จแล้วเมียจ๋า อื้อเจ้าเก่งกาจนัก เลอะแล้วมาพี่ช่วยเช็ด"
หยาดรักของเขาเลอะร่องอกนางเต็มไปหมด ถ้าได้เข้าไปข้างในคงได้เรื่อง แล้วพูดมาได้บอกรับรองไม่ท้อง ตาบ้านี่น้ำเยอะขนาดนี้ไม่ท้องก็แปลกแล้ว มิน่าครั้งเดียวติด ได้ลูกสาวมาเลย
เซียวจ้านเป่ยใช้เรียวลิ้นค่อยๆทำความสะอาดกายสาว จูเหมยลี่ไม่ไหวแล้ว นางต้องการเขาเหลือเกิน หากไม่หยุดจะเป็นนางเสียเองที่จัดการเขา
"ท่านพี่ พอก่อนนะเจ้าคะ สัญญาว่ากลับมาจากทหารจะให้ สัญญา อื้อเสียงลูกตื่นแล้วท่านพี่เจ้าคะ พอเถอะเสียวไม่ไหวแล้วนะ ขาอ่อนหมดแล้ว"
เซียวจ้านเป่ยไม่หักหาญน้ำใจเมียสาว เขารู้ว่านางเริ่มควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ไหวแล้ว ถ้าเขาต่อนางก็พร้อม แต่เขาอยากให้นางพร้อมจริงๆไม่ใช่เพราะเขาปลุกเร้าเอาแต่ใจ
"ขออีกรอบ เดี๋ยวแต่งตัวให้ น้ำรักเจ้าหวานนัก นะคนดีแยกขาอีกครั้งนะ"
จากนั้นก็มีแต่เสียงครางของเมียสาว ดีที่เซียวลี่ผิงเป็นเด็กขี้เซา ไม่นานทั้งคู่ก็หอบนอนกอดก่ายกันพักใหญ่จึงพากันใส่เสื้อผ้าแล้วกลับห้องที่บุตรสาวนอนหลับอยู่
จูเหมยลี่ไม่รู้เลยว่านางถูกคนเอาไปฝันถึงคำนึงหา จางลู่เหลียนถูกจูเหมยลี่ช่วยไว้ แล้วพามานั่งสงบสติอารมณ์ที่บ้าน ทายาให้นางใบหน้าสวยอยู่แค่เอื้อมมือ จูเหมยลี่ที่เหลือเพียงเสือตัวในสีขาว มองเห็นเต้าอวบเลือนรางเมื่อตอนบ่าย ขณะที่นางกะลังลองชุดใหม่ในห้อง จางลู่เหลียนละเมอหา
"ลี่เอ๋อร์ เจ้าน่ารักนัก ข้าชอบเซียวจ้านเป่ยไปได้อย่างไรกันนะ เจ้าต่างหากที่เหมาะกับข้า รอให้เซียวจ้านเป่ยไม่อยู่ ข้าจะทำให้เจ้าเปลี่ยนใจมาชอบข้าให้ได้ เด็กดีของข้า"
เซียวจ้านเป่ยที่นอนหลับอยู่ๆก็รู้สึกเสียวสันหลังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นึกถึงสายตาของจางลู่เหลียนที่มองเมียตัวเอง เหมือนสายตาของบุรุษยามที่เสน่หาสตรีตรงหน้า สายตาเชิญชวนเย้ายวนอยากกลืนกินเมียเขานัก
"ต่อให้เจ้าเป็นสตรีก็เหอะจางลู่เหลียน หากอยากแย่งเมียข้าๆก็ไม่เอาเจ้าไว้หรอก"
เซียวจ้านเป็นคาดโทษน้องสาวจางรั่วสู่ย ที่บังอาจใช้สายตาโลมเลียเมียเขาอย่างโจ่งแจ้ง
ยามเหมาจูเหมยลี่ตื่นมาทำอาหารเช้า ช่วงนี้หน้าฝนแต่เซียวจ้านเป่ยกลับจะพาคนขึ้นเขา เมื่อวานนางสั่งเขาซื้อของมามากมาย จูเหมยลี่สับหมูปรุงรสพักไว้จากนั้นก็มาเคี่ยวโจ๊ก ก่อนจะนำแป้งมานวดเพื่อทำซาลาเปา มีเสียงเรียกที่รั้วบ้านนางจึงออกไปดู ปรากฏว่าเป็นจางลู่เหลียน พอเห็นหน้าจูเหมยลี่ก็ตรงเข้ามากอดทันที"ลี่เอ๋อร์ คิดถึงเหลือเกิน เมื่อคืนพี่นอนไม่หลับเอาแต่คิดถึงเจ้า ว่าแต่เมื่อคืนเจ้านอนห้องเดียวกับเซียวจ้านเป่ยหรือไม่""พี่ลู่เหลียน ท่านพี่เป็นสามีข้าย่อมต้องนอนด้วยกัน เอ่อพี่ปล่อยข้าก่อนเถอะ ใครมาเห็นจะนินทาเอาได้นะ""ช่างหัวปะไร พี่ชอบเจ้าคนอื่นคิดอย่างไรก็ช่าง พี่ตื่นแต่เช้ามาช่วยงานเจ้า ปวดใจนักที่เห็นเจ้าต้องลูกขึ้นมารับใช้ผู้ชายอัปลักษณ์คนนั้น"จูเหมยลี่ยืนงงเลย ตอนคนบ้านนั่นไว้หนวดเป็นตาแก่ เจ้าคลังไคล้นักหนา พอโกนหนวดหล่อราวเทพเซียนเจ้ากับรังเกียจบอกว่าเซียวจ้านเป่ยอัปลักษณ์ เฮ้อจำได้ว่าข้าตีหัวเฉิงอี้นี่นา ไม่ได้ตีเจ้าสักหน่อยนะเสียวเซียวจ้านเป่ยตื่นแล้ว พอเห็นจางลู่เหลียนกอดเมียสาวอยู่ก็โมโห เดินมาทันที เซียวจ้านเป่ยคว้าแขนจางลู่เหลียนลากกลับบ้าน จูเหมยลี่ส่ายหน้า"นี่มันอะไรกัน
"ท่านพี่ๆๆ เหม่ออะไรเจ้าคะ ไปปลุกลูกจะได้รีบกินมื้อเช้า วันนี้ท่านอยู่กับลูกนะเจ้าคะ ข้าจะขึ้นเขาเก็บฟืนสักหน่อย ฟืนในบ้านหมดแล้ว ครอบครัวลุงใหญ่ถูกโบยขนาดนั้น คงไม่มาหาเรื่องอีกเป็นเดือนข้าอยากเตรียมพร้อมก่อนท่านไปทัพ อยากให้ฟืนมีใช้ เสบียงพร้อมไม่ต้องทิ้งลูกไว้บ้าน ข้าไม่อยากทิ้งผิงผิงไว้คนเดียว หรือพาไปบนเขาบ่อยๆ สัตว์ป่าไม่อาจเดาใจได้""เจ้าอยู่บ้านเถอะ เรื่องเก็บฟืนพี่จัดการเอง พี่ไปปลุกลูกก่อนนะ กลิ่นซาลาเปาเจ้าหอมยิ่งนัก ชักหิวเสียแล้วสิ"จากนั้นก็เดินเข้าบ้านเพื่อไปปลุกเซียวลี่ผิง ยังไม่ทันจะเข้าเด็กน้อยก็วิ่งออกมาตรงไปหามารดาทันที"ท่านแม่ หอมจังเลยเจ้าค่ะท่านแม่ทำอะไรกินหรือเจ้าคะ"เซียวลี่ผิงกอดต้นขาจูเหมยลี่แน่น เงยหน้าทำสายตาน่ารักจนจูเหมยลี่ทนไม่ไหวอุ้มนางขึ้นมาห้องแก้มไปสองที"ผิงผิงเด็กดี ตื่นมาแล้วต้องคารวะท่านพ่อก่อน ไหนแม่สอนเมื่อวานลืมแล้วหรือ"ผิงผิงลงจากอกจูเหมยลี่ก่อนจะย่อตัวเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้ว"ผิงผิงคารวะท่านพ่อ ขอท่านพ่อสุขภาพแข็งแรง ผิงผิงคารวะท่านแม่ขอท่านแม่สุขภาพแข็งแรงงดงามตลอดไปเจ้าค่ะ"เซียวจ้านเป่ยอุ้มบุตรสาวขึ้นมาหอมแก้มเช่นกัน เขาต้องไปชายแดน ต้องหา
เซียวจ้านเป่ยวางกองฟืนลงสายตามองมาที่หงซิ่วอย่างมีไอสังหาร จูเหมยลี่รีบเข้าไปถีบคนของเหลียงเถี่ยต้านที่จับจางลู่เหลียนไว้กระเด็นทันทีเฉิงอี้ที่เห็นหน้าบุรุษรูปงามก็ริษยาทันที ไอ้สารเลวนี่หน้าตาดียิ่งนัก อีกทั้งยังได้เชยชมจูเหมยลี่ไปแล้วอีกด้วย นางเคยเป็นคู่หมั้นของข้าวันนี้จะให้เจ้าขอร้องข้าเลยทีเดียว"นี่จูเหมยลี่ เซียวจ้านเป่ยไม่อยู่ เจ้าก็ถึงกับคบชู้สู่ชายพาไอ้คนนี้มาอยู่กินกับเจ้าถึงในบ้าน ทุกท่านคนๆนี้คือชายชู้ของนาง"ชาวบ้านหันมาหาเซียวจ้านเป่ย จากนั้นก็มองไปที่จูเหมยลี่ แม้แต่หงซิ่วเองก็ถูกรูปงามของเขาทำให้ตะลึงเช่นกัน นางไม่เคยเห็นบุรุษใดรูปงามเท่านี้อีกแล้วนางหลงรักเขาทันที จนเฉิงอี้เอ่ยอีกรอบ"นี่ ไอ้ชายชู้เจ้าเป็นใคร แอบมาคบชู้กับสตรีในหมู่บ้านเราเด็กๆพวกเจ้าจับทั้งสองคนไปศาลาว่าการให้ใต้เท้าลงโทษเสีย"มือปราบกรูกันเข้ามาหมายจับซียวจ้านเป่ยกับจูเหมยลี่ เซียวจ้านเป่ยไม่ออมฝีมือสักนิด เขาโบกมือทีเดียวมือปราบทั้งหมดก็กระเด็นคนละทิศละทาง จูเหมยลี่ส่งสายตาก่อนจะพูดกับเขาช้าๆ"ท่านพี่ ข้าไม่อยากให้ลูกเราเห็นสิ่งที่ท่านจะทำ ข้าจะพาลูกไปบ้านพี่ลู่เหลียนก่อน ทางนี้ท่านสะสางเถอะ ส่ว
จางลู่เหลียนเอ่ยกับจูเหมยลี่เสร็จก็เตรียมตัวกลับบ้าน แต่พอเห็นคังหยุนไม่กลับนางเลยไม่กลับด้วยอยู่กับจูเหมยลี่จนเซียวจ้านเป่ยอ่อนใจ จางลู่เหลียนไม่ยอมกลับบ้านตนเอง เซียวจ้านเป่ยเริ่มหงุดหงิดแต่จูเหมยลี่จับมือเขาไว้ส่ายหน้า หากไม่ใช่เพราะจางลู่เลียนมาทันผิงผิงอาจถูกทำร้ายมากกว่านี้ก็ได้"ท่านพี่ เรื่องของหงซิ่วท่านจัดการให้เด็ดขาดนะเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากต้องระแวงว่านางจะมาทำร้ายผิงผิงอีกเมื่อไหร่""วางใจเถอะ เอ่อคุณชายคัง ดูเหมือนท่านจะสนิทกับใต้เท้าหลัว เฉิงอี้คนนั้นท่านจัดการได้หรือไม่ เขาเลวร้ายนักลักลอบเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่นไปทั่ว ไม่สมควรเป็นบัณฑิตสักนิด อีกทั้งไม่สมควรเป็นขุนนางกินเบี้ยหวัดทางการอีกด้วย"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยกับคังหยุน ที่ตอนนี้ไม่สนใจใครนั่งกินซาลาเปาอย่างอร่อย เขาอร่อยจนแทบกลืนลิ้นตัวเองแล้ว"นี่ๆๆอาซ้อ อาหารที่ท่านทำอร่อยกว่าพ่อครัววังหลวงเสียอีก ข้าได้รับมอบหมายให้มาตามหาคน จะพักอยู่ที่นี่สักครึ่งเดือนขอฝากท้องกับท่านได้หรือไม่ ท่านพี่เซียวภรรยาท่านทำอาหารอร่อยจริงๆ"จากนั้นก็กินต่อไม่สนใจที่เซียวจ้านเป่ยที่สื่อสารกับเขาสักนิด โจ๊กนี่เนื้อเนียนยิ่งนัก อร่อยมากอร่อยเกิ
เซียวจ้านเป่ยกำลัง คิดถึงเรื่องนี้พอดี ไม่นึกว่าพอง่วงนอนก็มีคนส่งหมอนมาให้ ใครจะไม่รับเล่า หากมีคนของทางการหนุนหลัง ชาวบ้านทั่วไปคงไม่กล้า เมียเขาเป็นคนฉลาดนางรู้จักใช้สถานการณ์ตรงหน้าพลิกแพลงได้เสมอ"เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านแล้ว ว่าแต่สองคนนั้นใต้เท้าหลัวจะลงโทษเช่นใดหรือ ข้าไม่อยากให้มาวุ่นวายกับลูกเมียข้าอีก""ท่านวางใจเถอะ หลัวสือเป็นขุนนางน้ำดี เขาเถรตรงนัก หงซิ่วคบชู้กับบัณฑิตเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ปกติเหลียงเถี่ยต้านรับเงินจากขุนนางจากเศรษฐี ขายหงซิ่วให้ไปหลับนอนกับคนเหล่านั้นแล้วรับเงิน แต่หงซิ่วกลับเสียเงินเพื่อได้หลับนอนกับเฉิงอี้ เหลียงเถี่ยต้านไม่ยอมหรอก""หากไม่ใช่ท่านปู่ข้าอยากให้ข้ามีทายาทจนยอมเสียเงินแต่งนางเข้ามาข้าก็ไม่อยากยุ่งกับสตรีน่ารังเกียจคนนี้จริงๆ"ทั้งคู่ปรึกษาหารือเรื่องขึ้นเขาล่าสัตว์ เป็นอันว่าเซียวจ้านเป่ยจะขึ้นเขาเลือกตัดต้นไม้ในวันรุ่งขึ้น คังหยุนจะให้องครักษ์ของเขานำทหารมาช่วยยี่สิบนาย แล้วยังจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านด้วย เพื่อแสดงความมีน้ำใจของสองสามีภรรยาคังหยุนไปแล้ว เซียวจ้านเป่ยจึงเข้าไปหาจูเหมยลี่ที่เพิ่งกล่อมบุตรสาวหลับไป นางบอกว่าจะไปหาซื้อไหเขาไ
"ท่านแม่ ท่านแม่อยู่ไหนเจ้าคะ ฮือๆๆๆ" เสียงของเซียวลี่ผิงร้องไห้ดังมาจนจูเหมยลี่ต้องวางมือตรงหน้ารีบเข้าไปอุมนางออกมา"แม่อยู่นี่ มานี่สิจางหูกับจางเหมยมาเล่นที่บ้านเราด้วย ไปเล่นกับน้องๆกัน ผิงผิงออกไปก่อนเดี๋ยวแม่เอาขนมตามไปให้นะ"เซียวลี่ผิงพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป"สวัสดีอาสะใภ้ สวัสดีอาลู่เหลียนเจ้าค่ะ เสี่ยวหู่เสี่ยวเหมยพี่มาแล้ว" เด็กๆนั่งเล่นกันอยู่ที่ลานกว้าง ผู้ใหญ่สามคนช่วยกันปลอกหน่อไม้ จูเมยลี่สั่งให้เซียวจ้านเป่ยซื้อกะทะกับหม้อใบใหญ่มาให้ด้วย รวมถึงเข่งใบใหญ่มาไว้นึ่งอาหาร"เดี๋ยวข้าไปก่อไฟต้มหน่อไม้ให้หายขมก่อนนะ พวกท่านปลอกที่เหลือไปก่อน"จูเหมยลี่นำหน่อไม้มาหั่นเป็นแผ่นบางๆต้มใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อไล่ความขม จากนั้นก็หันมาซอยหน่อไม้หน่อใหญ่อีกสามหน่อ เพื่อผัดกับไก่รวนเตรียมหั่นพริก ต้นหอมทุบกระเทียมใส่ตระแกรงไม้ใบเล็กรอไว้ ต้มกระดูกหมูคอยช้อนฟองทิ้งเรื่อยจนน้ำต้มกระดูกใส ต้มกระดูกหมูได้ครึ่งชั่วยามก็นำหน่อไม้ที่ต้มเสร็จแล้วล้างน้ำสะอาด มาใส่ในหม้อที่ต้มกระดูก เอาไฟออกให้เหลือไฟอ่อนๆเคี่ยวไปเรื่อยๆอีกเตาก็หุงข้าวเสร็จพอดี รินเอาน้ำข้าวไว้ใส่น้ำตาลทรายแดง ตอกไข่ใส่ยกไปให้
คังหยุนจับจางลู่เหลียนหันหน้ามาหานั่งคร่อมเขาส่วนกายสาวเสียดสีกับความแข็งขึงด้านล่างแม้จะมีผ้ากั้นแต่รู้สึกได้ คังหยุนกอดเอวนางมือหนึ่งเพื่อกันไม่ให้นางดิ้นหนีนางยังตื่นเขาอยู่ ส่วนอีกมือก็กดสะโพกนางแนบแน่นขยับเอวบดใส่นางจนจางลู่เหลียนมือไม้แข้งขาอ่อน นางไม่ไหวแล้วมันเสียวซ่านบอกไม่ถูก"คะ คุณชายคัง ทำไมมันเสียวนักข้าไม่ไหวแล้วเหมือนข้าจะขาดใจอื้อท่านทำอะไรข้าเนี่ย""ลู่เหลียนจ๋า ข้าอยากปลดปล่อยทำเช่นไรดี เสียวเหลือเกินเจ้าเป็นสตรีคนแรกที่ทำให้ข้าคลุ้มคลั่งได้ แม่ตัวดีเจ้าเป็นปีศาจน้อย อ่าห์ ข้าอยากปลดปล่อยใส่เจ้าเหลือเกิน""พอเถอะ ข้าไม่ไหวแล้วมันร้อนไปหมด พอเถอะนะเจ้าคะ ข้าไม่ดื้อ แล้วก็จะไม่ด่าท่านอีกแล้วอะ อร๊าย"จางลู่เหลียนกระตุกเกร็งทันทีที่คังหยุนกดสะโพกนางรุนแรงบดใส่เขา คังหยุนหายใจหอบกระเส่า"เด็กดีเจ้าออกไปก่อน ข้ายังออกไปไม่ได้ เรื่องวันนี้เจ้าต้องรับผิดชอบนะ ข้าเป็นของเจ้าแล้ว ห้ามทิ้งขว้างข้าด้วย ให้ตายเถอะท่านพี่เซียวอยากยืมเตียงบ้านท่านมีเมียเสียตอนนี้เลยจะได้ไหม อ่าห์"จางลู่เหลียนปีนลงจากตักคังหยุน นางยังขาสั่นอยู่ยืนไม่ไหวเกาะไหล่หนาเอาไว้ คังหยุนไม่ไหวจึงบอกให้นางร
จางรั่วสุ่ยน้ำตาคลอปิ่นเงินนั้นมารดาซื้อให้น้องสาว เป็นชิ้นเดียวที่นางหวงแหน แต่ยอมขายเพื่อเอาเงินให้เขาซื้อยา เขาจึงรักและตามใจนาง เพราะรู้สึกผิด"แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นางบอกว่าคุณชายคังกับนางหมายความว่าอย่างไร เรื่องนี้ท่านตอบข้าหน่อย"เซี่ยตงหยางกับเซียวจ้านเป่ยขอตัวไปคุยกับผู้นำหมู่บ้านทันทีเรื่องจ้างคนงานวันพรุ่งนี้คังหยุนจึงต้องรับหน้าพี่ชายของจางลู่เหลียนลำพัง"เอ่อ ข้าคือพี่รั่วสุ่ย ข้าๆล่วงเกินนางไปแล้ว เหมือนข้าจะชอบนางด้วย""คุณชายคัง ท่านเพิ่งเจอวันนี้เอาอะไรมาบอกว่าชอบน้องสาวข้า ท่านเป็นใครนางเป็นใคร อย่ามาทำให้นางมีความหวังแล้วสลัดทิ้ง แม้จะแต่งกับชาวนาแต่ข้าเชื่อว่าลู่เหลียนจะมีความสุขมากกว่าแต่งให้ท่าน"จางรั่วสุยไม่ต้องการให้น้องสาวแต่กับขุนนางอีก มารดาเป็นตัวอย่างท่านพ่อรักท่านแม่ แต่ท่านย่าเกลียดท่านแม่ที่เป็นเพียงบุตรสาวบัณฑิตยากจน ทำทุกวิถีทางขับไล่ท่านแม่จนสุดท้ายจับนางแยกกับท่านพ่อ ท่านแม่ตรอมใจจากไป จนท่านพ่อก็ตรอมใจตามนางไปอีกคน เขาไม่อยากเห็นน้องสาวทนทุกข์เหมือนมารดาอีกแล้วเขาเป็นใครเป็นถึงบุตรชายใต้เท้ากรมคลัง แต่สุดท้ายตระกูลหานยังรังเกียจมารดาเขาอยู่ดี ต้
บรรดาคนที่อยู่ในห้องสนทนาถึงกับตกใจกับข่าวใหม่ หานรั่วสุ่ยมีภรรยาแล้วอีกทั้งมีบุตรแล้วด้วย จ้านอ๋องก็มีพระชายาแล้วเช่นกัน พวกเขาสนทนาโดยไม่สนใจบุคคลที่อยู่ในห้องด้วยสักนิด "อืมพี่เมีย ข้าจะล่วงหน้าไปก่อนคิดถึงเหลี่ยนเอ๋อร์ของข้าแล้ว พวกท่านค่อยเดินทางทีหลังแล้วกัน""องค์ชายคังหยุนท่านจะไปเมื่อใดหรือพ่ะย่ะค่ะ""ออกเดินทางวันนี้ ข้าคิดถึงเมีย มีบางคนคิดถึงจูเว่ยเว่ยจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว น่ารำคาญยิ่งนัก อ้อนวอนข้าทุกวันจะกลับจิ่วโจวให้ได้""เอ๋เสด็จพี่ ข้าคิดถึงเว่ยเว่ยไม่ได้หรืออย่างไร ทีท่านคิดถึงพี่สะใภ้ได้เล่าหรือไม่เล่า ท่านพี่ล่ะคิดถึงพี่สะใภ้แสนงามของข้าหรือไม่ "อืม หยุนเอ๋อร์ รั่วสุ่ยพวกเจ้าคุยกันไปเถอะ อ้อพวกท่านทั้งหลายก็กลับไปเถอะนะ ไม่ว่าของขวัญของฝากที่ใครๆไหว้วานพวกท่านนำมานั้น ก็จงนำกลับไปด้วย ข้าอ้ายจ้านมีภรรยาแล้ว และข้าไม่แต่งเมียเพิ่ม ข้าไปล่ะพวกเจ้าปรึกษากันต่อเถอะ" "เอ่อพี่เมีย แล้วยายเฒ่าตาเฒ่าสกุลหานเหล่านั้นท่านจะว่าอย่างไรหรือ" คังหยุนแม้จะเป็นองค์ชายแต่ก็ไม่อยากใช้อำนาจกับพวกเขา แต่น่ารำคาญเหลือเกินโดยเฉพาะยายเฒ่าหานนั่น ตอนจาง
“เอ๋ เสด็จพ่อตาใครกันนะว่ากระหม่อมเป็นตาเฒ่าหลอกเด็กรุ่นลูกมาเป็นเมีย นี่ๆพี่อันหยวนของข้าสามสิบเก้า ท่านสี่สิบสอง บางคนสี่สิบห้าแล้วนะ เหอะ”ซูฟางหรูอายหน้าแดง อ้ายเฉิงถลึงตาใส่จูยวี่ซานก่อนจะเอ่ย“มีอะไรคุยพรุ่งนี้ เมียข้าหิวข้าว หากไม่หยุดข้าจะเอาลูกสาวข้าคืนตาแก่จู”จูยวี่ซานและเฝิงอันหยวนหัวเราะก่อนจะพากันออกไป ปล่อยคู่รักต่างวัยให้อยู่ด้วยกัน จูเหมยลี่รับรู้จากอาสามว่าพ่อสามีกับซูฟางหรูข้าวสารเป็นข้าวสุกเรียบร้อยแล้วตอนนี้ซูฟางหรูนอนอยู่ในอ้อมกอดอ้ายเฉิง เขาลูบไหล่นางเบาๆ พูดคุย“อาให้คนไปรับมารดากับบิดาเจ้ามาแล้ว พรุ่งนี้บ่ายๆ ถึงจิ่วโจว”“ท่านอาพูดจริงหรือเจ้าคะ”“อารู้ว่าเจ้าเคยหมั้นหมาย แต่เพราะห่วงบิดากับมารดา จนคู่หมั้นถอนหมั้นเจ้า”“ท่านอา คือว่าเรื่องนั้น”“ข้ารู้ เจ้าห่วงพวกเขาจนฝ่ายนั้นรำคาญ แต่ก็ดีแล้วมิใช่หรือหากตอนนั้นเจ้าแต่งออกไป ใครจะนอนหนุนแขนอาเล่าตอนนี้หื้ม”“ท่านอา ท่านอายุสี่สิบห้าจริงๆ หรือ เหตุใดถึงเหมือนพี่น้องกับท่านพี่เซียวนัก ใบหน้าท่านเด็กกว่าอาสามอีก”“ปากหวานแบบนี้ต้องให้รางวัลแล้วไหม”อ้ายเฉิงเริ่มปลดอาภรณ์นางอีกครั้ง ซูฟางหรูจับมือเขาไว้ก่อนจะเอ่
ซูฟางหรูกลับมาที่ริมแม่น้ำ อ้ายเฉิงนั่งรออยู่ พอเห็นนางก็เอามือกุมท้องดังเดิม ซูฟางหรูไม่รู้เลยว่าหมาป่ากำลังมองจ้องลูกแกะตัวน้อยเนื้อขาวๆ“ท่านอาเฉิง ยามาแล้วเจ้าค่ะเอ่อ ทะ ท่านอาทาเองได้ไหมเจ้าคะ”“ข้าจะทาอย่างไรกันมันไม่ถนัด เจ้าช่วยหน่อยสิอาหรู”“แต่ข้าเป็นสตรี ท่านเป็นบุรุษใกล้ชิดกันคงไม่ดีนักคือๆ ว่าข้า”“ช่างเถอะ เจ้ากลับไปเถอะเดี๋ยวข้านั่งหายเจ็บก็กลับเอง ไม่รบกวนเจ้าหรอก”“ท่านอา กะ ก็ได้แต่ว่าถ้าหากใครมาเห็นคงไม่ดี ว้าย!!”พูดไม่ทันจบนางก็ตัวลอยขึ้น อ้ายเฉิงอุ้มนางดีดตัวผ่านยอดไม้ก่อนจะมาถึงเรือนของตน ซูฟางหรูซบกับหน้าอกเขาแน่นเพราะกลัวตก จึงไม่เห็นบรรดาข้าราชบริพารที่ถอยหลังออกจากเรือนพักจนหมด องครักษ์เงาหายไปจากบริเวณนั้นทันทีอ้ายเฉิงวางร่างบางระหงลงบนเตียงของตน ซูฟางหรูมองเขาหน้าตาเหรอหรา ยิ่งมองยิ่งน่ารักเหลือเกินจนอ้ายเฉิงอดใจไม่ไหว รั้งนางมาจูบทันที“อื้อ” ซูฟางหรูเองนี่เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดบุรุษเพศ นางทำอะไรไม่ถูกยอมให้คนตัวโตชักจุงในที่สุดนางก็ถูกเขาลอกคราบจนเปลือยเปล่า“อาหรูเจ้างามนัก ขออาเฉิงนะเด็กดี”“อื้อ ท่านอาแบบนี้ไม่ถูกต้องนะเจ้าคะ ไหนท่านบอกว่าเจ็บท้อง
จูเหมยลี่ออกเดือนได้หลายวันแล้ว ตอนนี้บุตรชายอ้ายหลิวเหว่ยได้สองเดือนกว่าแล้ว เมื่อวานอ้ายซินมาบอกว่าเซียวจ้านเป่ยจัดการกลุ่มกบฏเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่กวาดล้างกากเดนที่เหลืออยู่ ฮ่องเต้แต่งตั้งเขาเป็นอ๋อง เดิมทีอีกเจ็ดวันจะเดินทางมาจิ่วโจวแต่เพราะมีเหตุต้องอยู่ต่อ อีกครึ่งเดือนจึงจะมาพร้อมขบวนต้อนรับพระชายาจูเหมยลี่ส่งหลิวเหว่ยให้กับหรงหรง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ก็เห็นซูฟางหรูเดินหิ้วตระกร้ามาหา เด็กสาวคนนี้หน้าตาสะสวยจริงๆ เป็นเด็กกตัญญูยิ่งนัก“พี่ฟางหรู ท่านเอาอะไรมาอีกละนั่นข้าเกรงใจจะแย่แล้ว”“อาซ้อเซียวท่านเกรงใจไปแล้ว หากไม่ได้ท่านคอยช่วยเหลือข้ากับพี่สาวและหลานๆ คงลำบากไม่น้อย เอ่อ นี่เป็นขนมดอกหยางไหวของท่านอาเฉิงเจ้าค่ะ”ซูฟางหรูส่งห่อใบบัวให้จูเหมยลี่ เว่ยเว่ยเดินออกมาจากในบ้านก่อนจะรับแล้วเอ่ยกับจูเหมยลี่“เสี่ยวลี่ พี่จะไปบ้านท่านยายสักสามวัน ทางนี้ไม่ขาดคนพอดีท่านยายป่วยอีกแล้ว พักนี้ท่านยายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่”“อืม ท่านอาเสี่ยวทงรบกวนท่านมานี่สักหน่อย”เสี่ยวทงเป็นคนของนางไปแล้ว อาสามยกให้เขาคอยดูแลจูเหมยลี่กับเซียวลี่ผิงโดยเฉพาะ จูยวี่ซานไปข้างนอกบ่อยๆ เขากลัว
เมื่อเรื่องในวังหลังเรียบร้อย ยามเฉินฮ่องเต้ก็สวมฉลองพระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ในท้องพระโรง วันนี้ขุนนางมาเข้าเฝ้าโดยไม่รู้ว่าเรื่องราวอะไรกำลังจะเกิดขึ้นแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเห็นคืออ้ายจ้านซื่อจื่อที่กลับมาแล้ว อีกคนหยางตงเซี่ย และหานรั่วสุ่ยทั่นฮวาน้อย"ฝ่าบาท วันนี้ประชุมเช้า เหตุใดซื่อจื่อจึงพกอาวุธเข้ามายังท้องพระโรงกันพ่ะย่ะค่ะ นี่มิเท่ากับทำผิดร้ายแรงหรอกหรือ""รองเจ้ากรมอาลักษณ์พูดจาน่าขัน พวกเราอารักขาฝ่าบาท มีอะไรไม่สมเหตุสมผลหรอกหรือ" จางรั่วสุ่ยเอ่ยขึ้น คนที่จ้องเขาตาถลนกำลังกำมือแน่น เขาคือหานรั่วท่านปู่ของเขา "รั่วสุ่ย อย่าเสียมารยาท นี่คือขุนนางเจ้าเป็นเพียงทหารปลายแถวจงสำรวม""โย่ว ใต้เท้าหานกล่าววาจาอันใดกัน ท่านดูไม่ออกหรือว่าข้ามีตำแหน่งใด สายตาฝ้าฟางเช่นนี้ควรลาออกไปเลี้ยงหลานอยู่บ้านจะดีกว่าหรือไม่"หานรั่วถึงกับหน้าเขียว เป็นเด็กเลวจริงๆ เลือดชั้นต่ำของมารดาคงแรง"อ้อ ใต้เท้าหานที่แท้เขาก็คือทั่นฮวาน้อยหานรั่วสุ่ย หลานชายของท่านนั่นเอง ""รองเจ้ากรมท่านกล่าวผิดแล้ว ข้าแซ่จาง จางรั่วสุ่ย แซ่หานนั้นข้าไม่เคยใช้"หานรั่วถึงกับหน้าคล้ำกว่าเดิ
สิบวันต่อมาเซียวจ้านเป่ยมารวมกับทัพใหญ่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เรียกหานอี้มาหา หานอี้เป็นคนสนิทของแม่ทัพจ้าว"ตอนข้าไม่อยู่มีเรื่องอันใดหรือไม่""เป็นอย่างที่ท่านคาดการณ์ นายกองหูออกจากค่ายไปบ่อยๆ เขานัดพบคนๆหนึ่ง เราสืบดูแล้วเป็นคนของซีเป่ย ไท่ซ่างหวงทิ้งข้อความไว้ให้ท่านแม่ทัพขอรับ"เซียวจ้านเป่ยหยิบกระดาษที่วาดรูปออกมา เป็นเหมือนรูปวาดธรรมดา แต่เซียวจ้านเป่ยรู้ดีว่าเสด็จปู่กำลังจะสื่อถึงอะไร ภูเขา ลำธารหรือ นี่มันทางเข้าหลังตำหนักร้างนี่ รอยเท้าย้อนกลับเดินถอยหลังเช่นนั้นหรือ มีบางคนส่งข่าวจากช่องทางนั้น "รั่วสุ่ยเขียนอักษรถึงองค์ชายสี่หน่อย เขียนแค่ว่าชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง"จางรั่วสุยเขียนโครงตามที่เซียวจ้านเป่ยบอก ชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง แปลว่าอะไร พี่น้องคู่นี้หน้าสิ่วหน้าขวานยังมีแก่ใจต่อกลอนกันด้วยหรือ อินทรีปากเหล็กรับข้อความไปแล้ว ยามอิ๋นจึงได้จดหมายตอบกลับมา มีเพียงรูปวาดของเด็กทั้งห้า ที่มีสัญลักษณ์แตกต่างกันไป แต่เด็กคนหนึ่งหายไป"เป็นเจ้าจริงองค์ชายรอง คิดจะเปิดประตูหลังตำหนักร้างให้คนของท่านตาเจ้าเข้าไปก่อกบฏหรือ หึ สำคัญผิดเสียแล้ว"
หลังจากจูเหมยลี่คลอดบุตรชายให้เซียวจ้านเป่ยเรียบร้อยแล้วนางก็พักฟื้น ตอนนี้บริเวณหมู่บ้านกับตำบลจิ่วโจวทั้งตำบล มีทหารคอยอารักขาเต็มไปหมด จูเก่อคังที่ตอนนี้นั่งดื่มกับอาเฉิงอยู่ เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือเชื้อพระวงศ์ จึงได้พูดคุยทุกเรื่อง"นี่ๆน้องเฉิง บุตรชายเจ้าเก่งนัก ไปทหารไม่นานก็ได้ตำแหน่งใหญ่โตกลับมา เฮ้อ วาสนาเสี่ยวลี่ของข้าจริงๆ อยากให้น้องรองกับน้องสะใภ้ของข้าได้รับรู้เหลือเกินว่าตอนนี้นางมีชีวิตที่ดีเพียงใด""พี่เก่อคัง หลานสาวท่านคนนี้บุตรชายของข้าดูท่าจะรักนางมาก""เสี่ยวลี่เป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง หากไม่ใช่ว่าถูกลุงใหญ่กับป้าสะใภ้กลั่นแกล้งชีวิตนางคงไม่เลวร้าย โชคดีที่วันนั้นสองคนนั้นตัดสินใจขายเสี่ยวลี่ให้บุตรชายท่าน ไม่เช่นนั้นข้าไม่อาจเดาชะตากรรมนางได้เลย""กฎหมายซื้อขายคนคงต้องแจ้งฝ่าบาทให้ปรับจริงๆ แต่พวกขุนนางเก่าแก่คงไม่ยอม"เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังกอดรักเมีย เขาต้องไปแล้วคนของเขาแจ้งมาแล้วว่ากลุ่มกบฏมีกี่พรรคพวก แล้วหลบซ่อนอยู่ที่ใดบ้าง"ลี่เอ๋อร์ พี่ต้องไปแล้ว พี่สัญญาว่าจะทำรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วกลับมารับเจ้ากับลูก""ท่านพี่
"ฮือๆๆ เสด็จพ่อ" อ้ายเฉิงกางแขนกอดรับบุตรสาวที่ตอนนี้ร้องไห้กับอกเขา"ร้องทำไมเจ้าตัวดี ใครใช้ให้เจ้าหนีออกจากวังกันหึ"แม้คำพูดจะตำหนิแต่น้ำเสียงกับอาทรห่วงใยบุตรสาวยิ่งนัก อ้ายซินมองหน้าก่อนจะทำสีหน้าสงสัย"เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ แล้วคนของฉู่หรานซินที่เฝ้าเสด็จพ่อในทุกๆวันเล่า""เรื่องราวยากกว่าที่เจ้าเข้าใจ นางกำลังพาบุตรชายหนีน่ะ""อ้ายฉางหรือเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่บุตรเสด็จพ่อ หม่อมฉันเคยได้ยินนางกับรองเจ้ากรมอาลักษณ์ติดต่อกัน เขาบอกว่าต้องอดทนถึงเมื่อไหร่อ้ายฉางจึงจะเรียกเขาว่าท่านพ่อสักที""ลูกเห็นว่าพ่อหลับนอนกับนางหรือ เห็นตาแก่ใกล้ตายคนนั้นที่ร่วมสังวาสกับสตรีคือพ่อหรือ"อ้ายซินทำสีหน้าสงสัย เซียวจ้านเป่ยจึงเอ่ยกับนาง"มีคนที่ใบหน้าคล้ายเสด็จพ่อน่ะ เราวางหมากตั้งแปดปีที่แล้ว ก่อนที่ฉู่หรานซินจะแต่งเข้ามา เสด็จพ่อก็อยู่ที่ตำหนักเย็นของพระราชวังหลังเก่านอกเมืองมาตลอด ไม่มีใครรู้นอกจากฝ่าบาทเสด็จปู่แล้วก็พี่ เฉิงอ๋องคนนั้นที่อยู่กับฉู่หรานซินทุกวันคือคนสนิทของเสด็จพ่อ ที่ปลอมแปลงใบหน้า"จากนั้นทุกคนก็เข้าใจ จางรั่วสุ่ยรีบกลับไปหาภรรยา เพราะว่านางกำลังอยู่เดือน เซี่ยตงหยางม
อ้ายซินเอ่ยจบประโยคลมสายหนึ่งก็ผ่านตัวนางไป เห็นด้านหลังเป็นบุรุษใส่ชุดกองทัพ เขาคือพี่ชายของนาง อ้ายซินดิ้นลงจากตักสามีรีบเดินไปหา"พี่ชาย ท่านกลับมาแล้ว ฮือๆๆ"เซียวจ้านเป่ยหันมามองหน้าน้องสาวก่อนจะรั้งนางเข้ามากอด"ซินเอ๋อร์ เสี่ยวลี่อยู่ในนั้นหรือ""เจ้าค่ะ พี่สะใภ้เจ็บท้องมาสองชั่วยามแล้ว พี่ชายไหนว่าท่านอยู่ชายแดนไงเจ้าคะ""ทางนั้นเรียบร้อยแล้วล่ะ เหลือแค่ทางวังหลวง ฉู่ฉางเกินมุ่งหน้าเข้าวัง พี่สกัดเขาไว้ได้แต่ยังไม่รู้ว่ากองกำลังของเขาที่ยังซุกซ่อนอยู่มีเท่าไหร่ พอดีจิ่วโจวเป็นทางผ่านพี่จึงแวะหาลี่เอ๋อร์กับผิงผิงน่ะ"อ้ายซินกำมือแน่น ก่อนจะมองหน้าสามี จูยวี่ซานถอนหายใจ เขาคงปกป้องพี่ชายพี่สะใภ้และจูหมิงซูไม่ได้หรอก ได้ข่าวว่าแค่สตรีนางหนึ่งกล่าวหาเสี่ยวลี่คำเดียวก็ถูกโยนไปอยู่ก้นเหวแล้ว"ผิงผิงป่วยเจ้าค่ะ คือว่า""พี่รู้เรื่องหมดแล้ว ระหว่างทางที่มามีคนรายงานพี่ สามคนพ่อแม่ลูกนั้นพี่ให้ส่งไปชายแดนใต้หมดแล้ว ที่นั่นมีเหมืองแร่ให้พวกมันไปชดใช้ที่นั่น โดยเฉพาะจูหมิงซูคนนั้น หากรอดจากแผลบนใบหน้าได้นับว่านางดวงแข็งแล้ว""จ้านเป่ยอาสามต้องขออภัยเจ้าจริงๆ หากมิใช่ว่าอาสามต้องไปเจราจาก