จางลู่เหลียนเอ่ยกับจูเหมยลี่เสร็จก็เตรียมตัวกลับบ้าน แต่พอเห็นคังหยุนไม่กลับนางเลยไม่กลับด้วยอยู่กับจูเหมยลี่จนเซียวจ้านเป่ยอ่อนใจ จางลู่เหลียนไม่ยอมกลับบ้านตนเอง เซียวจ้านเป่ยเริ่มหงุดหงิดแต่จูเหมยลี่จับมือเขาไว้ส่ายหน้า หากไม่ใช่เพราะจางลู่เลียนมาทันผิงผิงอาจถูกทำร้ายมากกว่านี้ก็ได้"ท่านพี่ เรื่องของหงซิ่วท่านจัดการให้เด็ดขาดนะเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากต้องระแวงว่านางจะมาทำร้ายผิงผิงอีกเมื่อไหร่""วางใจเถอะ เอ่อคุณชายคัง ดูเหมือนท่านจะสนิทกับใต้เท้าหลัว เฉิงอี้คนนั้นท่านจัดการได้หรือไม่ เขาเลวร้ายนักลักลอบเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่นไปทั่ว ไม่สมควรเป็นบัณฑิตสักนิด อีกทั้งไม่สมควรเป็นขุนนางกินเบี้ยหวัดทางการอีกด้วย"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยกับคังหยุน ที่ตอนนี้ไม่สนใจใครนั่งกินซาลาเปาอย่างอร่อย เขาอร่อยจนแทบกลืนลิ้นตัวเองแล้ว"นี่ๆๆอาซ้อ อาหารที่ท่านทำอร่อยกว่าพ่อครัววังหลวงเสียอีก ข้าได้รับมอบหมายให้มาตามหาคน จะพักอยู่ที่นี่สักครึ่งเดือนขอฝากท้องกับท่านได้หรือไม่ ท่านพี่เซียวภรรยาท่านทำอาหารอร่อยจริงๆ"จากนั้นก็กินต่อไม่สนใจที่เซียวจ้านเป่ยที่สื่อสารกับเขาสักนิด โจ๊กนี่เนื้อเนียนยิ่งนัก อร่อยมากอร่อยเกิ
เซียวจ้านเป่ยกำลัง คิดถึงเรื่องนี้พอดี ไม่นึกว่าพอง่วงนอนก็มีคนส่งหมอนมาให้ ใครจะไม่รับเล่า หากมีคนของทางการหนุนหลัง ชาวบ้านทั่วไปคงไม่กล้า เมียเขาเป็นคนฉลาดนางรู้จักใช้สถานการณ์ตรงหน้าพลิกแพลงได้เสมอ"เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านแล้ว ว่าแต่สองคนนั้นใต้เท้าหลัวจะลงโทษเช่นใดหรือ ข้าไม่อยากให้มาวุ่นวายกับลูกเมียข้าอีก""ท่านวางใจเถอะ หลัวสือเป็นขุนนางน้ำดี เขาเถรตรงนัก หงซิ่วคบชู้กับบัณฑิตเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ปกติเหลียงเถี่ยต้านรับเงินจากขุนนางจากเศรษฐี ขายหงซิ่วให้ไปหลับนอนกับคนเหล่านั้นแล้วรับเงิน แต่หงซิ่วกลับเสียเงินเพื่อได้หลับนอนกับเฉิงอี้ เหลียงเถี่ยต้านไม่ยอมหรอก""หากไม่ใช่ท่านปู่ข้าอยากให้ข้ามีทายาทจนยอมเสียเงินแต่งนางเข้ามาข้าก็ไม่อยากยุ่งกับสตรีน่ารังเกียจคนนี้จริงๆ"ทั้งคู่ปรึกษาหารือเรื่องขึ้นเขาล่าสัตว์ เป็นอันว่าเซียวจ้านเป่ยจะขึ้นเขาเลือกตัดต้นไม้ในวันรุ่งขึ้น คังหยุนจะให้องครักษ์ของเขานำทหารมาช่วยยี่สิบนาย แล้วยังจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านด้วย เพื่อแสดงความมีน้ำใจของสองสามีภรรยาคังหยุนไปแล้ว เซียวจ้านเป่ยจึงเข้าไปหาจูเหมยลี่ที่เพิ่งกล่อมบุตรสาวหลับไป นางบอกว่าจะไปหาซื้อไหเขาไ
"ท่านแม่ ท่านแม่อยู่ไหนเจ้าคะ ฮือๆๆๆ" เสียงของเซียวลี่ผิงร้องไห้ดังมาจนจูเหมยลี่ต้องวางมือตรงหน้ารีบเข้าไปอุมนางออกมา"แม่อยู่นี่ มานี่สิจางหูกับจางเหมยมาเล่นที่บ้านเราด้วย ไปเล่นกับน้องๆกัน ผิงผิงออกไปก่อนเดี๋ยวแม่เอาขนมตามไปให้นะ"เซียวลี่ผิงพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป"สวัสดีอาสะใภ้ สวัสดีอาลู่เหลียนเจ้าค่ะ เสี่ยวหู่เสี่ยวเหมยพี่มาแล้ว" เด็กๆนั่งเล่นกันอยู่ที่ลานกว้าง ผู้ใหญ่สามคนช่วยกันปลอกหน่อไม้ จูเมยลี่สั่งให้เซียวจ้านเป่ยซื้อกะทะกับหม้อใบใหญ่มาให้ด้วย รวมถึงเข่งใบใหญ่มาไว้นึ่งอาหาร"เดี๋ยวข้าไปก่อไฟต้มหน่อไม้ให้หายขมก่อนนะ พวกท่านปลอกที่เหลือไปก่อน"จูเหมยลี่นำหน่อไม้มาหั่นเป็นแผ่นบางๆต้มใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อไล่ความขม จากนั้นก็หันมาซอยหน่อไม้หน่อใหญ่อีกสามหน่อ เพื่อผัดกับไก่รวนเตรียมหั่นพริก ต้นหอมทุบกระเทียมใส่ตระแกรงไม้ใบเล็กรอไว้ ต้มกระดูกหมูคอยช้อนฟองทิ้งเรื่อยจนน้ำต้มกระดูกใส ต้มกระดูกหมูได้ครึ่งชั่วยามก็นำหน่อไม้ที่ต้มเสร็จแล้วล้างน้ำสะอาด มาใส่ในหม้อที่ต้มกระดูก เอาไฟออกให้เหลือไฟอ่อนๆเคี่ยวไปเรื่อยๆอีกเตาก็หุงข้าวเสร็จพอดี รินเอาน้ำข้าวไว้ใส่น้ำตาลทรายแดง ตอกไข่ใส่ยกไปให้
คังหยุนจับจางลู่เหลียนหันหน้ามาหานั่งคร่อมเขาส่วนกายสาวเสียดสีกับความแข็งขึงด้านล่างแม้จะมีผ้ากั้นแต่รู้สึกได้ คังหยุนกอดเอวนางมือหนึ่งเพื่อกันไม่ให้นางดิ้นหนีนางยังตื่นเขาอยู่ ส่วนอีกมือก็กดสะโพกนางแนบแน่นขยับเอวบดใส่นางจนจางลู่เหลียนมือไม้แข้งขาอ่อน นางไม่ไหวแล้วมันเสียวซ่านบอกไม่ถูก"คะ คุณชายคัง ทำไมมันเสียวนักข้าไม่ไหวแล้วเหมือนข้าจะขาดใจอื้อท่านทำอะไรข้าเนี่ย""ลู่เหลียนจ๋า ข้าอยากปลดปล่อยทำเช่นไรดี เสียวเหลือเกินเจ้าเป็นสตรีคนแรกที่ทำให้ข้าคลุ้มคลั่งได้ แม่ตัวดีเจ้าเป็นปีศาจน้อย อ่าห์ ข้าอยากปลดปล่อยใส่เจ้าเหลือเกิน""พอเถอะ ข้าไม่ไหวแล้วมันร้อนไปหมด พอเถอะนะเจ้าคะ ข้าไม่ดื้อ แล้วก็จะไม่ด่าท่านอีกแล้วอะ อร๊าย"จางลู่เหลียนกระตุกเกร็งทันทีที่คังหยุนกดสะโพกนางรุนแรงบดใส่เขา คังหยุนหายใจหอบกระเส่า"เด็กดีเจ้าออกไปก่อน ข้ายังออกไปไม่ได้ เรื่องวันนี้เจ้าต้องรับผิดชอบนะ ข้าเป็นของเจ้าแล้ว ห้ามทิ้งขว้างข้าด้วย ให้ตายเถอะท่านพี่เซียวอยากยืมเตียงบ้านท่านมีเมียเสียตอนนี้เลยจะได้ไหม อ่าห์"จางลู่เหลียนปีนลงจากตักคังหยุน นางยังขาสั่นอยู่ยืนไม่ไหวเกาะไหล่หนาเอาไว้ คังหยุนไม่ไหวจึงบอกให้นางร
จางรั่วสุ่ยน้ำตาคลอปิ่นเงินนั้นมารดาซื้อให้น้องสาว เป็นชิ้นเดียวที่นางหวงแหน แต่ยอมขายเพื่อเอาเงินให้เขาซื้อยา เขาจึงรักและตามใจนาง เพราะรู้สึกผิด"แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นางบอกว่าคุณชายคังกับนางหมายความว่าอย่างไร เรื่องนี้ท่านตอบข้าหน่อย"เซี่ยตงหยางกับเซียวจ้านเป่ยขอตัวไปคุยกับผู้นำหมู่บ้านทันทีเรื่องจ้างคนงานวันพรุ่งนี้คังหยุนจึงต้องรับหน้าพี่ชายของจางลู่เหลียนลำพัง"เอ่อ ข้าคือพี่รั่วสุ่ย ข้าๆล่วงเกินนางไปแล้ว เหมือนข้าจะชอบนางด้วย""คุณชายคัง ท่านเพิ่งเจอวันนี้เอาอะไรมาบอกว่าชอบน้องสาวข้า ท่านเป็นใครนางเป็นใคร อย่ามาทำให้นางมีความหวังแล้วสลัดทิ้ง แม้จะแต่งกับชาวนาแต่ข้าเชื่อว่าลู่เหลียนจะมีความสุขมากกว่าแต่งให้ท่าน"จางรั่วสุยไม่ต้องการให้น้องสาวแต่กับขุนนางอีก มารดาเป็นตัวอย่างท่านพ่อรักท่านแม่ แต่ท่านย่าเกลียดท่านแม่ที่เป็นเพียงบุตรสาวบัณฑิตยากจน ทำทุกวิถีทางขับไล่ท่านแม่จนสุดท้ายจับนางแยกกับท่านพ่อ ท่านแม่ตรอมใจจากไป จนท่านพ่อก็ตรอมใจตามนางไปอีกคน เขาไม่อยากเห็นน้องสาวทนทุกข์เหมือนมารดาอีกแล้วเขาเป็นใครเป็นถึงบุตรชายใต้เท้ากรมคลัง แต่สุดท้ายตระกูลหานยังรังเกียจมารดาเขาอยู่ดี ต้
มือหนาเริ่มซุกซนอีกแล้วจูเหมยลี่อ่อนใจเขาไม่เคยพักสักวัน หาเศษหาเรอตลอดนี่ถ้ายอมเขาไม่รู้ป่านนี้เสกเด็กเข้าท้องไปแล้วกระมัง"อื้อ ท่านพี่อย่ากวนสิเหตุใดไม่รีบนอนเจ้าคะ พรุ่งนี้ต้องเข้าเมืองแต่เช้าต้องซื้อของ คนมามากนักอย่างน้อยก็ควรเลี้ยงอาหารสักหน่อย""หอมจังเลย ดึกแล้วแสงสว่างไม่พอเดี๋ยวเสียสายตาไว้เขียนพรุ่งนี้นะ ทรมานเหลือเกินแล้วมาเถอะเมียจ๋า"เซียวจ้านเป่ยหยิบพู่กันในมือนางออกก่อนจะ โบกมือดับเทียน จูเหมยลี่ได้แต่ทำใจคืนนี้จะกี่ยามกัน ถึงแม้เขาจะไม่ล่วงล้ำแต่ก็เอาแต่ใจไม่น้อย คืนนึงปลดปล่อย ไม่ต่ำกว่าสามหนนางเมื่อยมือเมื่อยปากไม่น้อยเลย นี่หากยอมให้เขาร่วมรักจริงๆไม่ฟ้าสว่างเลยหรือเซียวจ้านเป่ยจ้องตาเมียสาว จูเหมยลี่คล้องคอเขาไว้ก่อนจะดุเสียงเข้ม"คืนนี้ตามใจท่านแค่ครั้งเดียวนะ พรุ่งนี้ต้องเข้าเมือง อีกอย่างคุณชายคังนอนอยู่ห้องข้างๆอย่าเสียงดังสิ""ได้ ทุกอย่างตามใจเจ้า ลี่เอ๋อร์พี่ร้อนจังปลดชุดให้หน่อยสิ เจ้าปลดชุดพี่ได้เร่าร้อนนัก"จูเหมยลี่มองค้อนก่อนจะผลักเขาลงใช้ปากน้อยๆกัดสายรัดเอวเขาดึงออก มือบางปลดเสื้อออกจากไหล่เขา ใบหน้างามเลื่อนลงต่ำงับสายกางเกงเขาก่อนจะลากผ่านเจ้าตัว
ยามเหมาจูเหมยลี่ตื่นแล้ว นางกำลังจะลุกแต่ถูกแขนแข็งแรงกอดเอาไว้ จูเหมยลี่เอ่ยเบาๆ กลัวบุตรสาวตื่น" ท่านพี่วันนี้สายๆ จะมีคนมาบ้านเรา รีบลุกเถอะเจ้าค่ะยังต้องเข้าเมืองอีก เมื่อวานคุณชายคังนำวัตถุดิบมามากมายก็จริง แต่ว่าไม่อาจพอเลี้ยงคนสามสิบคนนะเจ้าคะ ตื่นเถอะ ข้าจะไปกับท่านด้วยเอาผิงผิงไปด้วย นางคงอยากไปดูโลกภายนอก"เซียวจ้านเป่ยนอนหงายทันที เขาไม่อยากพาบุตรสาวออกไปข้างนอกในตอนที่ตนเองยังไม่มีอำนาจมากพอดี จูเหมยลี่รู้สึกแปลกใจจึงลุกขึ้นมาหาก่อนจะรั้งแขนเขาขึ้นมาแล้วเปิดใจคุย"ท่านพี่ เราต้องคุยกันหน่อย ผิงผิงจะอยู่แต่ในเรือนไม่ได้ เช่นนั้นเมื่อไหร่ลูกจะรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมคนอื่นเล่า ท่านมีเหตุผลอันใดที่ตอ้งซ่อนนางไว้ช่วยบอกที อย่าให้ข้าต้องคิดสะระตะไปเองเลย""ลี่เอ๋อร์ ให้นางแต่งตัวเป็นบุรุษแล้วกัน ข้าจะไปบ้านพี่ตงหยางขอยืมเสื้อบุตรชายเขา เจ้าอย่าถามเลยข้าไม่ได้อยากปิดบัง แต่บางอย่างเจ้ารู้แล้วจะพลอยทุกข์ใจไปด้วย"เซียวจ้านเป่ยลุกจากที่นอนทันที จูเหมยลี่จึงเรียกเขาเอาไว้"งั้นวันนี้ฝากท่านพี่เซี่ยสักวันได้หรือไม่ ท่านซื้อของมาไม่เคยครบขาดนั่นขาดนี่ ข้าจึงอยากไปด้วย ท่านพี่ข้ารู้อาซ้อตั
จูเหมยลี่เห็นว่าเซียวจ้านเป่ยไปนานเกินไปจึงบอกบุตรสาวให้นอนรอดีๆ นางจะไปตามท่านพ่อ เดินออกมาพ้นรั้วก็เห็นหน้าบ้านสกุลจางมีคนยืนอยู่เหมือนเพิ่งมีเรื่อง จูเหมยลี่ไม่เดินเข้าไปรอจนเซียวจ้านเป่ยหันกลับมาแล้วเรียกขานนาง" ลี่เอ๋อร์ เจ้ามาหาข้าหรือ มีอะไรหรือเปล่า"" เอ่อ ท่านมานานแล้วข้าไม่รู้ว่าท่านพี่เซี่ยว่าอย่างไร หรือว่าอาซ้อนางแพ้ท้องหนักมาก เช่นนั้นท่านไปคนเดียวเถอะข้าอยู่บ้านกับลูกก็ได้เจ้าค่ะ""อ้อ พี่ตงหยางข้ากับเมียจะเข้าเมืองสักหน่อย จะฝากผิงผิงได้หรือไม่ขอรับ ไม่น่าจะเกินสองชั่วยาม ข้าจะไปหาซื้อข้าวของที่มาทำอาหารเลี้ยงคนที่มาช่วยซ่อมแซมบ้านน่ะ"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยกับเซี่ยตงหยาง เขาพยักหน้าจากนั้นก็เดินกลับบ้าน คังหยุนยังคงกอดจางลู่เหลียนแน่น จูเหมยลี่ไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่เห็นภาพตรงหน้าจึงเอ่ยลอยๆ"จางรั่วสุ่ย อย่าว่าข้าพูดมากเลยนะ ปลูกเรือนก็ตามใจผู้อยู่เถอะเรือนจะมั่นคงหรือโย้เย้ก็เป็นพวกเขาเลือกเอง คุณชายคังอำนาจเงินทองที่มีไม่สามารถซื้อความจริงใจได้นะ หากท่านรักใคร่นางจริงก็แสดงออกให้มากกว่านี้ การปีนเข้าหานางท่านไม่ได้ให้เกียรตินางแต่แรกแล้ว หากเรื่องนี้เล็ดลอดออกไปน
เซียวจ้านเป่ยเช็ดตัวให้นางอย่างถนอม ก่อนจะแต่งตัวให้แล้วอุ้มจูเหมยลี่พากลับห้องใหญ่ นางนอนหนุนแขนเขาหลับไปแต่เขายังไม่หลับ อ้ายซินเจ้าเด็กดื้อหนีออกจากวัง น่าจะหาทางมาหาเขา โชคดีที่อินทรีขนทองมีความสามารถในการสื่อสารกับคนเป็นนาย ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดหรือนางอยู่ที่ใดมันก็สามารถส่งสารได้"ซินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง หนีมากับผู้ใดกันน่าลงโทษจริงๆ อยู่กับเสด็จอาไม่ดีตรงไหน เฮ้อ พี่จะไปไม่กี่วันแล้วไหนจะห่วงเมียกับลูก ตอนนี้เพิ่มเจ้ามาอีกคนเจ้าตัวยุ่ง"ไม่นานเขาก็หลับตามเมียกับลูกสาวรุ่งเช้าเซียวจ้านเป่ยตรงไปบ้านเซี่ยตงหยางแต่เช้า เขากำลังกลุ้มใจกับอ้ายซินที่หนีมาพบกับเขา พอดีเจอกับจางรั่วสุยที่หน้าบ้านจึงทักทายกัน"รั่วสุย เยี่ยอวี่นางเป็นนเช่นไรบ้าง นางหายแพ้ท้องหรือยัง แล้วลู่เหลียนเล่าสงบจิตใจได้แค่ไหนแล้ว""นางดีขึ้นแล้วขอรับ เอ่อ ซื่อจื่อน้อยคือว่าข้าเอ่อข้า"ทันทีที่จางรั่วสุ่ยเรียกเขาว่าซื่อจื่อน้อย เซียวจ้านเป่ยก็มีปฎิกิริยาทันที หันมาจ้องมองเขาอย่างไม่เข้าใจ"เมื่อสักครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะจางรั่วสุ่ย""ซื่อจื่อ ท่านยังจำเด็กผู้ชายที่ท่านรับขึ้นรถม้าแล้วพาไปส่งบ้านมารดาของเขา
จูเหมยลี่เอาหินปูนที่ขุดมาได้นำมาเผาจนร้อน พรุ่งนี้จะผสมข้าวเหนียวเพื่อให้ยึดเกาะดีกว่าเดิม ทำพื้นบ้านกับพื้นห้องน้ำ อาจจะทำทางเดินและพื้นของคอกม้าและคอกวัวด้วยถ้าอิฐพอ หากไม่พอนางค่อยงมเอาก้อนหินในลำธารหลังบ้านมาทำก็ได้"ท่านพี่ ผิงผิงมาทานข้าวเถอะ มืดแล้วเหมือนฝนมาอีกแล้ว ดีนะที่ทำห้องน้ำกับห้องเสบียงเสร็จแล้ว หลังคาเรียบร้อยเหลือแค่พื้นเท่านั้น""ท่านแม่เจ้าขา ท่านแม่ทำผัดเห็ดอีกได้ไหมเจ้าคะ ผิงผิงอยากกินเจ้าค่ะ""อืม ถ้าคืนฝนตกพรุ่งนี้แม่จะไปเก็บให้นะคนดี เห็ดชนิดนี้จะขึ้นแค่ตอนฝนตกน่ะ แต่วันนี้แม่ทำข้าวอบโป๊ยเซียนให้ลูกด้วยนะ สีสวยน่ากินมากเลย ผิงผิงของแม่อยากกินไหมเอ่ย หื้ม""อยากกินเจ้าค่ะ ท่านพ่อเจ้าคะท่านแม่ทำอาหารอร่อยที่สุดเลยเจ้าค่ะ""ใช่ ท่านแม่ของลูกเป็นสตรีที่เก่งที่สุด ทำอาหารก็เก่ง ที่สำคัญท่านแม่ของลูกนางงามยิ่งนักลูกว่าไหม""เจ้าค้า ท่านแม่ของข้างามที่สุดเลยเจ้าค่ะ"สามคนพ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวกันอย่างมีความสุข เซียวจ้านเป่ยมองหน้าภรรยาก็ยิ้ม เมียเขาสวยเหลือเกิน ตอนเขาไม่อยู่ต้องทำอย่างไรดี หากรู้ว่าจะได้เมียงามเยี่ยงนี่คงไม่สมัครทหารหรอก หวงนางยิ่งนัก"ท่านพี่ทานข้าวส
เซียวจ้านเป่ยขับเกวียนมาถึงตลาดก็นำเกวียนไปจอดยังที่พัก จากนั้นก็พาบุตรสาวกับภรรยาเดินเลือกหาซื้อของ เมื่อได้ของครบแล้วก็พากันไปที่โรงค้าสัตว์มีโรงค้าสัตว์อยู่สามแห่งด้วยกัน เซียวจานเป่ยอยากได้ม้าที่กำยำแต่เกรงว่าจูเหมยลี่จะเอาไม่อยู่ จูเหมยลี่บอกกับเขาว่านางสามารถหัดได้ชาติก่อนนางต้องถึกทนนะ นอกจากจะปีนป่ายป่าเขาแล้วบางที่เดินเท้า บางที่ขี่อูฐ ขี่ม้าขี่ลา ไม่มีอะไรที่จูเหมยลี่คนนี้ทำไม่ได้หรอก"นายท่านขอรับ ม้าตัวนี้ส่งมาจากเป่ยเหลียงเชียวนะขอรับ เป็นม้าพันธ์ชั้นดี ราคาแพงไปสักนิดแต่ว่าคุ้มมากนะขอรับ"เถ้าแก่โรงค้าสัตว์เอ่ยเชียร์จนจูเหมยลี่รำคาญ นางมีความพิเศษติดตัวมาเพิ่งค้นพบสองวันก่อน นางจึงเดินไปที่คอกม้าก่อนจะยื่นมือออกไป กลิ่นฟีโรโมนของนางที่ได้กลิ่นเฉพาะสัตว์เท่านั้นจะได้กลิ่น ม้าตัวที่ได้รับกลิ่นเดินมาหานาง เป็นม้าเปรียว ดูท่าเป็นม้าป่า คนงานถอยห่างทันทีที่มันเดินมา เมื่อวานเพิ่งเตะคนงานจนกระดุกหักไปสองคน"เอ่อ ฮูยินท่านนี้ม้าตัวนี้เป็นม้าป่านะขอรับ เพิ่งจับมาได้ยังไม่ได้ฝึกเลยขอรับ เอ่อคือว่า""เด็กน้อย เจ้าอยากไปอยู่กับข้าหรือไม่ หากเจ้ายินยอมให้คำนับข้าสามที"อาชาสีดำสนิ
ฉู่หรานซินไปแล้วตรงไปห้องหนังสือ คงเพื่อไปถกกระโปรงนั่งคร่อมเฉิงอ๋องอีกตามเคย ในเมื่อไม่มีใครอยู่แล้วรออีกสักพัก ร่างเล็กๆของดรุณีน้อยนางหนึ่งที่ซ่อนตัวใต้ศาลามาตลอดก็ค่อยๆหย่อนเท้าตนเองลงในน้ำก่อนจะทิ้งตัวเบาๆแล้วว่ายไปทางด้านหลังของตำหนัก มองซ้ายขวาไม่มีใครก็ขึ้นจากน้ำปีนไปยังเรือนร้าง เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยจากนั้นก็เดินออกมาจากเรือนหลังนั้นสาวใช้เห็นดรุณีน้อยที่เดินออกมาก็ไม่ใส่ใจ ก็แค่ท่านหญิงที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว อีกไม่เกินเจ็ดวันก็ต้องแต่งงานไปเป็นฮูหยินรองของพ่อตาพระชายาแล้ว"ท่านหญิง มาเดินเพ่นพ่านแถวนี้ไม่ดีกระมังเจ้าคะ ท่านแม่บอกไว้มิใช่หรือว่าให้ท่านสำรวมและเก็บตัว"สาวใช้นางหนึ่งพูดจาไม่ให้เกียรตินางก่อนจะเยาะเย้ย อ้ายซินไม่ใส่ใจ ก่อนจะเอ่ย"ข้ากำลังจะไปเป็นแม่เลี้ยงนาง เจ้าว่าใครต้องฟังคำสั่งใครหรือปี้เฉาหึ""แค่เมียรองนึกว่าตัวเองมีอำนาจหรืออย่างไร เหอะ"สาวใช้ไปแล้ว อ้ายซินกำมือแน่น เสด็จพ่อเป็นบิดาที่ไม่คู่ควรให้เคารพอย่างแท้จริง อย่างไรนางก็เป็นสายเลือดราชวงศ์ กลับเอานางให้ไปเป็นเมียน้อยตาแก่ฉู่นั้น เรื่องนี้เสด็จอาไม่รู้ พวกเขากีดกันไม่ให้นางเข้าวัง ฉู่หรานซินต
เซียวจ้านเป่ยลุกขึ้นก่อนจะลวงจากเตียง จากนั้นก็ช้อนเอาจูเหมยลี่ไว้ในอ้อมกอด พาเดินไปยังห้งใหญ่ที่บุตรสาวนอนหลับอยู่ วางนางลงตรงกลางแล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ แขนของเขายาวพอที่จะโอบสองแม่ลูกไว้ในอ้อมแขนแล้วสามคนก็หลับไปด้วยกัน เซียวจ้านเป่ยกำลังคิดถึงสตรีอีกคนนึง นางจะทำตามแผนสำเร็จไหม ฉู่หรานซิน เสด็จพ่อในเมื่ออยากเป็นศัตรูกับข้านักก็ย่อมได้ยามเหมาเช้าแล้วจูเหมยลี่ตื่นเข้าครัวไปต้มน้ำสำหรับล้างหน้าให้สองพ่อลูกจากนั้นก็ต้มข้าวต้ม นำเนื้อหมูมาสับปั้นเป็นก้อนๆทำข้าวต้มหมู ตอนเช้ากินอะไรง่ายๆเพราะวันนี้จะไปตลาดในตัวตำบล"ท่านพี่ ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ สายแล้วเดี๋ยวจะช้า วันนี้ท่านนัดชาวบ้านกับคนของคุณชายคังมาตัดไม้ซ่อมบ้านนะเจ้าคะ อื้อ"คนตัวโตรั้งนางลงมาจูบจนพอใจถึงยอมปล่อย ปากจูเหมยลี่บวมเจ่อ นางควรไปตลาดไหมเนี่ย ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังบวมอยู่เลย"ตื่นแล้วเมียจ๋า ผิงผิงตื่นหรือยังเอ่ย แม่กับพ่อจะไปตลาดซื้อขนมอร่อยๆแล้วนะ""หื้อๆๆๆ ท่านพ่ออย่าแกล้ง ข้าตื่นแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ผิงผิงตื่นแล้วข้าเก่งไหมเจ้าคะ""เก่งสิ ลูกสาวแม่เก่งที่สุดเลย มาๆไปล้างหน้าจะได้กินข้าวต้ม กว่าเกวียนจะถึงตลาดเดี๋ยวจะหิว
จูเหมยลี่ไปปลุกเซียวลี่ผิงก่อนจะเข้าไปในครัว ต้มน้ำสำหรับเช็ดตัวให้เขาก่อนตะวันตกดิน เดี๋ยวค่ำอากาศจะเย็นลงอีกจากนั้นก็เริ่มทำมื้อเย็น เป็นข้าวต้มกุ้งสับโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย นางไปไล่จับกุ้งมาตอนที่ฝนเริ่มพรำเม็ดเล็กๆเมื่อเช้าได้มาเกือบเต็มตะกร้า แต่เพราะสามีป่วยไม่อยากให้เขากินรสจัด จึงจับมานึ่งแล้วกะเอาแต่เนื้อกุ้งมาสับ จากนั้นก็ปรุงรส ต้มข้าวต้มใส่ข้าวเหนียวครึ่งกำมือทำให้ข้าวต้มข้นและเนียนนุ่ม ปรุงรสชาติเรียบร้อยก็ตักกุ้งโรยด้านบนตามด้วยกระเทียมและต้นหอม หากเซียวจ้านเป่ยหายดีนางจะขึ้นเขาไปหาพริกไทย นางแค่พูดว่าอยากได้ เดี๋ยวก็ได้กลิ่นและหาเจอเอง"ท่านแม่ข้าต้มอร่อยมากเจ้าค่ะ ท่านพ่อหายหรือยังเจ้าคะลูกเข้าไปเล่นกับท่านพ่อได้หรือยัง""ยังจ๊ะ ท่านพ่อยังมีไข้อยู่ ผิงผิงอยากกินยาขมๆเหมือนท่านพ่อหรือไม่เอ่ย""อืม ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านพ่อโตแล้วท่านพ่อกินได้ข้ายังเด็กอยู่กินไม่ได้เจ้าค่ะ"จูเหมยลี่หัวเราะกับความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวน้อย ได้นิสัยพ่อมาเต็มๆเลยจริงๆ ก่อนจะนำโจ๊กกับถ้วยยาเข้าไปให้เซียวจ้านเป่ยในห้อง เซียวจ้านเป่ยลุกขึ้นมานั่งกินโจ๊กที่นางนำมาให้ เขาคงคิดถึงนางแน่ๆหากไปกองทัพ ไม
คังหยุนกลุ้มใจเขาไม่อยากกลับเมืองหลวง เขารู้ตัวว่าตนเองตกหลุมรักจางลู่เหลียนเสียแล้ว เขาจะแต่งกับนางแต่ดูเหมือนว่าจางรั่วสุ่ยไม่อยากให้น้องสาวแต่งกับเขา เขามีเรื่องอะไรปิดบังมากกว่าเรื่องแก่งแย่งในสกุลหานหรือเปล่า อีกอย่างเซียวจ้านเป่ยเองพอโกนหนวดแล้วหน้าตาเขาคุ้นยิ่งนัก เหตุใดเขาหล่อเหลาเพียงนี้ ขนาดเขาเองเป็นบุรุษยังยอมรับเลยว่าเซียวจ้านเป่ยหน้าตาดีจริงๆเซียวจ้านเป่ยนอนหลับไปแล้ว เซียวลี่ผิงนั่งเล่นอยู่ในบ้านฝนตกเมื่อคืนนี้จนถึงยามเหมาจึงหยุด จูเหมยลี่สะพายตระกร้าไปเก็บผักป่าได้มามากมาย ชาวบ้านที่นางสอนให้หาว่าผักชนิดใดกินได้ก็พากันแห่ไปเก็บจนเต็มเขาด้านที่ติดกับหมู่บ้านบ้านของเซียวจ้านเป่ยอยู่ติดดับเขาอีกลูก เขาลูกนี้อันตรายชาวบ้านไม่กล้าขึ้นไป ต้นไม้หนาแน่นมากนัก เมื่อวานที่ตัดไม้ก็ตัดแค่บริเวณเชิงเขาเท่านั้น เพราะมีต้นไม้หนาแน่นไม่จำเป็นต้องขึ้นไปด้านบนจูเหมยลี่ได้ผักป่ามาสองตระกร้าใหญ่ นางจะนำมาตากแห้งแล้วสอนวิธีปรุงผักแห้งกับผักดองเหล่านี้ให้เซียวจ้านเป่ย เวลาที่เขาไปกองทัพจะได้ไม่ต้องทนหิวมากนัก เข้ามาก็เห็นบุตรสาวนั่งเล่นลูกสนที่นางแกะสลักแล้ววาดหน้าตุ๊กตาให้อยู่ก่อนที่นาง
จางลู่เหลียนรับปากก่อนจะไปดูหลานๆ พี่สะใภ้ไม่สบายมาสองสามวันแล้วไหนๆหมอมาแล้วก็ตรวจเสียทีเดียวเลยแล้วกัน จากนั้นก็เข้าไปหยิบพวงเงินที่มีอยู่สามพวง นี่เป็นดอกเบี้ยของเดือนนี้ที่ต้องจ่ายท่านหมอ จางลู่เหลียนก้มหน้าร้องไห้ นางควรกลับเมืองหลวงทวงทุกอย่างคืนดีหรือไม่ อย่างน้อยเด็กๆก็ไม่ลำบากเรื่องที่อยู่เรื่องอาหารการกิน เยี่ยอวี่ได้ยินเสียวสะอื้นก็เดินออกมานั่งลงข้างๆ"อาเล็กเรื่องเงินที่ติดร้านท่านหมอท่านไม่ต้องกังวลแล้ว เมื่อวานตอนที่เข้าเมืองไปซื้อของอาซ้อเซียวได้จ่ายให้หมดแล้ว ต่อไปท่านอย่าแบกทุกอย่างเอาไว้คนเดียวอีก็เลย""ฮือๆๆ อาซ้อข้าขอโทษนะ ที่ข้าชอบพูดจาทำร้ายพวกท่าน""อาเล็ก ข้าไม่ถือโทษโกรธท่านหรอก ท่านไปช่วยอาซ้อเซียวเถอะ นางต้องหุงหาอาหารสองบ้านอีกทั้งสามีป่วยมีไข้ ท่านไปช่วยอีกคนจะได้เร็วขึ้น หากไม่เพราะข้าลุกแล้วเวียนหัวข้าก็จะไปด้วยเช่นกัน"จางลู่เหลียนเข้าไปห่มผ้าให้เด้กสองคน เอาน้ำผึ้งที่จูเหมยลี่ให้มาผสมน้ำอุ้นให้เยี่ยอวี่ดื่มแก้เวียนหัว ก่อนจะตรงไปบ้านของจูเหมยลี่เพื่อช่วยนางทำมื้อเช้าแล้วก็ช่วยดูแลเซียวลี่ผิงวันนี้จูเหมยลี่แจ้งแก่ท่านปู่ใหญ่จูเก่อคังว่ายังไม่ต้องมาตัด
จูเหมยลี่นอนมองหน้าผู้ชายที่กอดนางอยู่ ความรักที่นางโหยหามาตลอดตั้งแต่เด็กๆ พ่อทำแต่งาน แม่ทิ้งไปไม่ไยดี ผู้ชายคนนี้เซียวจ้านเป่ยคือคนที่มาเติมความรักของนางที่ขาดหาย จูเหมยลี่จูบตรงที่หัวใจของเขาก่อนจะกอดเอวหนาแล้วซบหน้ากับอกแกร่ง เสียงละเมองึมงำจากคนตัวโตทำให้นางต้องหัวเราะ"ลี่เอ๋อร์ข้ามีเจ้าแค่คนเดียว ข้ารักเจ้าแค่นั้น อืมเมียจ๋าข้ารักเจ้า อยากเข้าหอจะตายแล้วเนี่ย เหมยลี่จ๋า ลี่เอ๋อร์จ๋า""ท่านพี่ นี่ท่านหื่นถึงขนาดนอนละเมอเลยหรือ คนลามกหน้าหนา"จากนั้นจูเหมยลี่ก็หลับตามเขาไป จูเหมยลี่ที่ตอนนี้มีชิวิตใหม่กับบุรุษที่รักนางแล้ว แต่เธอไม่รู้เลยว่าบิดาแต่งงานใหม่แล้วตอนนี้มีลูกฝาแฝดสองคน ส่วนคุณแม่ของเธอสามีกำลังถูกสั่งฟ้องข้อหาฉ้อโกงเพราะใช้ตำแหน่งรับเงินสินบน แม่ของเธอกำลังมาอ้อนวอนขอร้องพ่อเธอให้ช่วย แต่จูล่งปิดประตูใส่หน้า สามีเธอกล้าใช้อิทธิพลที่เมืองไทยจ้างวานฆ่าลูกสาวฉัน ไปลงนรกเสียทั้งคู่นั้นแหละ จูล่งรู้แล้วว่าสามีใหม่ของอดีตภรรยาไม่ต้องการให้ลูกเมียเก่ามาวอแวอีก เขาไม่อยากให้ใครรื้อฟื้นว่าเขาแย่งเมียคนอื่น กำลังจะเลือกตั้งครั้งใหญ่เขาต้องสะอาดรวมถึงประวัติของภรรยาด้วย จูล่งต้