จูเหมยลี่นำเกี้ยวมาต้ม ผักกาดขาวที่เซียวจ้านเป่ยได้มาเมื่อวานจากบ้านเซี่ยตงหยางนางนำมาหั่นผัดใส่เนื้อหมู เมื่อเช้าทำเกี้ยวไว้มากคิดว่าไม่ต้องทำมื้อเย็น แต่เกี้ยวอย่างเดียวเลี่ยนเกินไป
ลูกพีชหอมมาก ได้ยินว่าอาซ้อเซี่ยตั้งครรภ์บุตรคนที่สาม จูเหมยลี่จึงแบ่งให้นางไปห้าลูก
เซียวจ้านเป็นกำลังไปรับบุตรสาวเดินผ่านบ้านจางก็ทักทายเยี่ยอวี่ภรรยาจางรั่วสุ่ย นางนิสัยดี แต่จางรั่วสุ่ยรักน้องสาวเกินไป
"เยี่ยอวี่ รั่วสุ่ยไม่อยู่หรือ เอ่อ เหมยลี่นางเห็นว่าบ้านเจ้ามีเด็กเลยให้ข้าแบ่งขนมมาให้ รับไปสิ"
เยี่ยอวี่ภรรยาจางรั่วสุ่ยเห็นเซียวจ้านเป่ยก็ตกตะลึง บุรุษผู้นี่คือใคร เหตุใดรูปงามถึงเพียงนี้ อีกทั้งรู้จักสามีนางด้วย แต่น้ำเสียงของเขาเหตุใดนางคุ้นเคยนัก
"พี่ชาย ท่านรู้จักข้ากับสามีหรือเจ้าคะ ข้าจำไม่ได้ว่าเคยรู้จักกับท่านมาก่อน"
เยี่ยอวี่มองหน้าบุรุษรูปงามตรงหน้าพร้อมกับทำหน้าสงสัย เซียวจ้านเป่ยหัวเราะก่อนจะส่งกล่องขนมให้นางแล้วเอ่ยขึ้น
"เยี่ยอวี่ ข้าเองเซียวจ้านเป่ย เมียข้าจับข้าโกนหนวดโกนเคราน่ะ นางไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้นางบอกว่าสกปรก ข้าไปบ้านพี่ตงหยางก่อนนะ ผิงผิงไปเล่นที่นั่นข้าจะไปรับกลับบ้าน"
เซียวจ้านเป่ยเดินจากไปแล้ว แต่เยี่ยอวี่ยังตะลึงไม่หาย นางมาอยู่ที่นี่ได้นานแล้ว เซียวจ้านเป่ยมาอยู่ทีหลังหนึ่งปี เขาไม่เคยโกนหนวดเคราสักนิด ปล่อยตัวรุงรังนักจนหงซิ่วแม่ของเซียวลี่ผิงหนีไปกับชู้
เขารูปงามเหลือเกินไม่น่าเชื่อ ไม่เคยเจอบุรุษใดรูปงามเท่านี้อีกแล้ว จางรั่วสุ่ยที่เพิ่งจะกลับมาเห็นภรรยามองไปทางบ้านของเซี่ยตงหยางก็สงสัย
"อาอวี่ มีอะไรหรือ ข้าเห็นเจ้ามองเหม่อไปบ้านพี่เซี่ยนานแล้ว ในมือนั่นกล่องขนมร้านจี้จินฉ่ายนี่ ขนมร้านนี้แพงมากเลยนะเจ้าไปเอามาจากที่ใดกัน"
จางรั่วสุ่ยเห็นขนมในมือภรรยาเขาก็สงสัย ร้านจี้จินฉ่ายขายขนมราคาแพงมาก กล่องนี้น่าจะไม่ต่ำกว่าห้าตำลึง เมียเขาไปเอามาจากที่ไหนกัน
"เอ่อท่านพี่ เป็นอาซ้อเซียวนางให้พี่จ้านเป่ยเอามาให้เด็กๆ นางเห็นว่าซื้อมามากเกินไปผิงผิงกินคนเดียวไม่หมดเจ้าค่ะ ท่านพี่เมื่อกี้พี่เซียวมาหาเขาโกนหนวดเคราแล้วรูปงามยิ่งนัก เขาถูกเมียจับโกนขนเสียเกลี้ยงเกลาเชียว ดูแล้วคงรักอาซ้อมากจึงยอมนาง หงซิ่วอยู่มาสี่ปีเขาไม่แม้แต่จะมองหน้าด้วยซ้ำ"
จางรั่วสุ่ยทำสีหน้าสงสัย รูปงามนัก เมียเขาพูดเรื่องอะไรกัน พี่เซียวนี่นะรูปงาม ทุกวันนี้อาซ้อเรียกเขาตาแก่บ้างล่ะ ท่านลุงบ้างล่ะ สงสัยสายตาเมียข้าจะมีปัญหาแน่ๆ จากนั้นก็รับกล่องขนมเดินเข้าบ้าน เยี่ยอวี่เอ่ยเบาๆ
"ท่านพี่ อาซ้อนางมีน้ำใจ ใช่ว่าข้าเห็นแก่ขนมกล่องเดียวแล้วชื่นชมนาง ท่านอยากย้ายถิ่นฐานหรือไม่ หากอยากตั้งรกรากที่นี่ก็ดูแลอาเล็กสักหน่อยเถอะ เสี่ยวเหมยนางอนาคตต้องแต่งงาน หากมีใครพูดว่าอาเล็กของนางอยากได้สามีคนอื่น บุตรสาวข้าจะทำเช่นไร น้องสาวท่านๆรัก บุตรสาวข้าๆก็รัก"
ซ่งเยียอวี่พูดจบ จางลู่เหลียนที่เพิ่งเดินออกมาก็กระชากแขนพี่สะใภ้ด่าทอทันที จางรั่วสุ่ยก็ตบหน้าน้องสาวทันทีเช่นกัน
"พี่ใหญ่ ท่านตบข้าทำไมเมียท่านเข้าข้างคนอื่น ท่านยังมีหน้ามาด่าข้าเหตุใดไม่ด่านาง ฮือๆๆท่านแม่ ท่านพ่อ ท่านดูสิคนที่รับปากท่านว่าจะดูแลข้าอย่างดี มาวันนี้เขาตบตีข้า ท่านพ่อ ท่านแม่ จางรั่วสุ่ยบุตรชายท่านตบตีบุตรสาวท่าน"
จางลู่เหลียนร้องไห้โวยวาย จางรั่วสุ่ยโมโหมากนัก จึงตบนางอีกครั้งแล้วตวาดซ้ำ
"ลู่เหลียน!! ข้าเลี้ยงเจ้ารักเจ้าเกินไปใช่ไหม ต่อหน้าข้ากล้าด่าทอพี่สะใภ้ของเจ้า กระชากนางแรงเช่นนี้ ลับหลังข้าเจ้าไม่ทุบตีนางหรอกหรือ เยี่ยอวี่บอกมาสิ รอยฟกช้ำบนตัวเจ้ากับเด็กๆได้มาจากไหน พวกเจ้าหกล้มทุกวันหรือ จางลู่เหลียนหากเจ้าทุบตีลูกเมียข้าๆจะขายเจ้าให้ตาแก่แต่งงานไปไกลๆเลย"
จางรั่วสุยแน่ใจแล้วว่ารอบเหล่านั้นที่ภรรยาอ้างว่าหกล้มบ้าน เดินชนนั่นชนนี่บ้างเป็นฝีมือน้องสาวมี่เขาตามใจเกินไปนั่นเอง จางลู่เหลียนทนไม่ได้ที่พี่ชายด่าทอ ก็วิ่งออกจากบ้านหายไป ผ่านหน้าบ้านเซียวจ้านเป่ย เห็นจูเหมยลี่อาบน้ำใส่ชุดใหม่นางก็ยิ่งริษยา นางสารเลวนั่นมีสิทธ์อะไรมาแต่งตัวยั่วยวนเขา เกลียดนางนักเกลียดเหลือเกิน หึ
จูเหมยลี่เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นจางลู่เหลียนยืนจ้องหน้าอยู่ แววตาเหมือนจะฆ่านางให้ตายให้ได้ เป็นบ้าอะไรอีกเล่านังหนู เซียวจ้านเป่ยไม่อยู่อย่ามากวนตีน เดี๋ยวแม่ก็เหวี่ยงข้ามนาบัวซะหรอก
"นางแพศยา สักวันข้าจะทำให้พี่จ้านเป่ยเห็นธาตุแท้ของเจ้า"
"นี่ พี่ลู่เหลียนผู้ชายดีๆมีมากนัก ท่านลองเอาไม้เขี่ยๆเดี๋ยวก็เจอ ไม่ต้องมานั่งแย่งสามีข้าเอาเป็นเอาตายแบบนี้หรอก หน้าตาท่านก็ไม่ได้อัปลักษณ์นี่"
จางลู่เหลียนกระทืบเท้าแล้วสะบัดหน้าจากไป ไม่ได้สินางถูกตบจนหน้าบวมไปในหมู่บ้านไม่ได้อายคนอื่น ตอนนางไม่สวยไม่อยากเจอใคร จึงหนีไปยังเขาอีกด้าน
เฉิงอี้ที่เห็นจางลู่เหลียนทะเลาะกับจูเหมยลี่ก็มีแผนในใจแล้ว จางลู่เหลียนก็หน้าตาดี อีกทั้งไม่เคยมีบุรุษมาก่อนได้ลิ้มลองพรหมจรรย์นางก็นับว่าเขาโชคดี จากนั้นก็เดินตามไปยังชายป่า เห็นนางนั่งร้องไห้อยู่จริงๆ
"แม่นางจาง ท่านมาเศร้าเสียใจอยู่ที่นี่ พี่ชายมิห่วงหาแล้วหรือ"
จางลู่เหลียนเลยหน้าขึ้น ก็เห็นเฉิงอี้ยืนอยู่เบื้องหน้า
"เฉิงซิ่วไฉ ท่านไปไหนมาหรือเจ้าคะ เหตุใดถึงผ่านมาทางนี้กัน"
เฉิงอี้นั่งลงข้างๆก่อนจะถอนหายใจ
"เฮ้อ ข้าจะไปคุยกับจูเหมยลี่สักหน่อย สามีนางเพิ่งขายหมูป่าไปข้าอยากให้นางไปทวงคืนของหมั้นที่ป้ากับลุงนางยึดไปสักหน่อย แต่ไม่นึกว่าจะไปเจอนางกับ เอ่อ"
เฉิงอี้ไม่พูดต่อเขาค้างไว้แค่นั้น ทำให้จางลู่เหลียนยิ่งสงสัยมากขึ้น
"เจอนางกับใคร เฉิงซิ่วไฉนางแพศยานั่นทำอะไรลับหลังพี่จ้านเป่ยเช่นนั้นหรือ ข้าว่าแล้วนังนั่นไม่ใช่ผู้หญิงดีหรอก"
เฉิงอี้ขยับไปใกล้จางลู่เหลียน กลิ่นกายนางทำให้น้องชายเขาแข็งขึง ก่อนจะกระซิบ
"เจ้าอยากแยกพวกเขาไหม แม่นางจางข้ามีวิธีนะอืมเจ้าตัวหอมเสียจริงๆจางลู่เหลียน น่า เหลือเกิน"
จางลู่เหลียนเห็นเขามาใกล้ก็ตกใจ กำลังจะลุกก็ถูกเฉิงอี้กดไว้ใต้ลำตัว
"อย่าสะดิ้งเล่นตัวไปหน่อยเลย ข้าจะสอนเสียวให้ ถึงเวลาเซียวจ้านเป่ยจะได้ติดใจเจ้าจนโงหัวไม่ขึ้น สตรีในหอนางโลมเหล่านั้นล้วนได้วิชาจากข้า อืมนมเจ้าใหญ่ดีจริง มานี่สิข้าอยากดูดนมเจ้านัก จางลู่เหลียน"
"ไม่นะ ปล่อยข้านะเฉิงอี้ ปล่อยข้าเจ้าเป็นสุภาพชน เป็นถึงบัณฑิตนะ อ่าห์ อย่าดูดอย่าทำข้า อื้อเฉิงอี้ข้าเจ็บนะ"
เฉิงอี้จัดการสตรีตรงหน้าเขาแหวกสาบเสื้อเพื่อจะดูดดื่มเต้าใหญ่โต เลื่อนมือลงไปกอบกุมเนินโหนกนูน จางลู่เหลียนสะบัดหน้า น้ำตาไหล ไม่นางไม่ต้องการเช่นนี้ เฉิงอี้กำลังปลดกางเกงนางออก อยู่ๆเขาก็ฟุบคาหน้าอกนาง
จางลู่เหลียนเห็นคนที่ยืนอยู่ก็ตกใจ"ทำไม จะรอเขาตื่นมาเย่อเจ้าหรือ ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าอยากจะได้ไม่ช่วยแต่แรก"จูเหมยลี่ปาท่อนไม้ไปอีกทาง จางลู่เหลียนผลักร่างที่สลบของเฉิงอี้ออกก่อนจะร้องไห้คร่ำครวญ"ฮือๆๆๆไอ้สารเลวเฉิงอี้ข้าจะฆ่าเจ้า ฮือๆ" จูเหมยลี่ส่ายหน้า นั่งลงข้างๆเอ่ยเสียงเรียบ"เจ้าเกลียดข้าๆเข้าใจ แต่เจ้าควรคิดถึงพี่ชายเจ้าบ้าง เรื่องวันนี้ข้าไม่พูดเจ้าไม่พูดเข้าใจไหม หากเขารู้ว่าเฉิงอี้คิดทำลายเจ้า แล้วไปทำร้ายไอ้สารเลวนี่ เฉิงอี้เป็นซิ่วไฉ หากเขาทำร้ายเฉิงอี้พี่ชายเจ้าจะเป็นเช่นไร กลับบ้านได้แล้ว ผู้ชายไม่ได้มีแค่เซียวจ้านเป่ย"จางลู่เหลียนจัดแจงเสื้อผ้าของตน จากนั้นก็เดินตามจูเหมยลี่กลับไป เฉิงอี้ที่สลบอยู่ตรงนั้นถูกคนของคังหยุนเอาไปโยนไว้ที่รังรักของเขากับหงซิ่ว โดยไม่มีใครรู้จูเหมยลี่กำลังจะบ้า จางลู่เหลียนไม่ไปไหนเลย นางตามติดแจเฝ้าไม่ห่าง นางทายาที่ใบหน้าให้ จางลู่เหลียนมองหน้านางอย่างละเมอ แค่เอ่ยขอบคุณไม่พอยังหอมแก้มนางด้วยขนลุกจะตายแล้ว เซียวจ้านเป่ยเจ้ากลับสักทีตาบ้า แค่ไปรับลูกเองนะไปเสียนานเชียวไม่นานเซียวจ้านเป่ยก็กลับมา เซียวลี่ผิงรีบวิ่งมาหามารดาทันที จูเหมยลี่จะ
ยามเหมาจูเหมยลี่ตื่นมาทำอาหารเช้า ช่วงนี้หน้าฝนแต่เซียวจ้านเป่ยกลับจะพาคนขึ้นเขา เมื่อวานนางสั่งเขาซื้อของมามากมาย จูเหมยลี่สับหมูปรุงรสพักไว้จากนั้นก็มาเคี่ยวโจ๊ก ก่อนจะนำแป้งมานวดเพื่อทำซาลาเปา มีเสียงเรียกที่รั้วบ้านนางจึงออกไปดู ปรากฏว่าเป็นจางลู่เหลียน พอเห็นหน้าจูเหมยลี่ก็ตรงเข้ามากอดทันที"ลี่เอ๋อร์ คิดถึงเหลือเกิน เมื่อคืนพี่นอนไม่หลับเอาแต่คิดถึงเจ้า ว่าแต่เมื่อคืนเจ้านอนห้องเดียวกับเซียวจ้านเป่ยหรือไม่""พี่ลู่เหลียน ท่านพี่เป็นสามีข้าย่อมต้องนอนด้วยกัน เอ่อพี่ปล่อยข้าก่อนเถอะ ใครมาเห็นจะนินทาเอาได้นะ""ช่างหัวปะไร พี่ชอบเจ้าคนอื่นคิดอย่างไรก็ช่าง พี่ตื่นแต่เช้ามาช่วยงานเจ้า ปวดใจนักที่เห็นเจ้าต้องลูกขึ้นมารับใช้ผู้ชายอัปลักษณ์คนนั้น"จูเหมยลี่ยืนงงเลย ตอนคนบ้านนั่นไว้หนวดเป็นตาแก่ เจ้าคลังไคล้นักหนา พอโกนหนวดหล่อราวเทพเซียนเจ้ากับรังเกียจบอกว่าเซียวจ้านเป่ยอัปลักษณ์ เฮ้อจำได้ว่าข้าตีหัวเฉิงอี้นี่นา ไม่ได้ตีเจ้าสักหน่อยนะเสียวเซียวจ้านเป่ยตื่นแล้ว พอเห็นจางลู่เหลียนกอดเมียสาวอยู่ก็โมโห เดินมาทันที เซียวจ้านเป่ยคว้าแขนจางลู่เหลียนลากกลับบ้าน จูเหมยลี่ส่ายหน้า"นี่มันอะไรกัน
"ท่านพี่ๆๆ เหม่ออะไรเจ้าคะ ไปปลุกลูกจะได้รีบกินมื้อเช้า วันนี้ท่านอยู่กับลูกนะเจ้าคะ ข้าจะขึ้นเขาเก็บฟืนสักหน่อย ฟืนในบ้านหมดแล้ว ครอบครัวลุงใหญ่ถูกโบยขนาดนั้น คงไม่มาหาเรื่องอีกเป็นเดือนข้าอยากเตรียมพร้อมก่อนท่านไปทัพ อยากให้ฟืนมีใช้ เสบียงพร้อมไม่ต้องทิ้งลูกไว้บ้าน ข้าไม่อยากทิ้งผิงผิงไว้คนเดียว หรือพาไปบนเขาบ่อยๆ สัตว์ป่าไม่อาจเดาใจได้""เจ้าอยู่บ้านเถอะ เรื่องเก็บฟืนพี่จัดการเอง พี่ไปปลุกลูกก่อนนะ กลิ่นซาลาเปาเจ้าหอมยิ่งนัก ชักหิวเสียแล้วสิ"จากนั้นก็เดินเข้าบ้านเพื่อไปปลุกเซียวลี่ผิง ยังไม่ทันจะเข้าเด็กน้อยก็วิ่งออกมาตรงไปหามารดาทันที"ท่านแม่ หอมจังเลยเจ้าค่ะท่านแม่ทำอะไรกินหรือเจ้าคะ"เซียวลี่ผิงกอดต้นขาจูเหมยลี่แน่น เงยหน้าทำสายตาน่ารักจนจูเหมยลี่ทนไม่ไหวอุ้มนางขึ้นมาห้องแก้มไปสองที"ผิงผิงเด็กดี ตื่นมาแล้วต้องคารวะท่านพ่อก่อน ไหนแม่สอนเมื่อวานลืมแล้วหรือ"ผิงผิงลงจากอกจูเหมยลี่ก่อนจะย่อตัวเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้ว"ผิงผิงคารวะท่านพ่อ ขอท่านพ่อสุขภาพแข็งแรง ผิงผิงคารวะท่านแม่ขอท่านแม่สุขภาพแข็งแรงงดงามตลอดไปเจ้าค่ะ"เซียวจ้านเป่ยอุ้มบุตรสาวขึ้นมาหอมแก้มเช่นกัน เขาต้องไปชายแดน ต้องหา
เซียวจ้านเป่ยวางกองฟืนลงสายตามองมาที่หงซิ่วอย่างมีไอสังหาร จูเหมยลี่รีบเข้าไปถีบคนของเหลียงเถี่ยต้านที่จับจางลู่เหลียนไว้กระเด็นทันทีเฉิงอี้ที่เห็นหน้าบุรุษรูปงามก็ริษยาทันที ไอ้สารเลวนี่หน้าตาดียิ่งนัก อีกทั้งยังได้เชยชมจูเหมยลี่ไปแล้วอีกด้วย นางเคยเป็นคู่หมั้นของข้าวันนี้จะให้เจ้าขอร้องข้าเลยทีเดียว"นี่จูเหมยลี่ เซียวจ้านเป่ยไม่อยู่ เจ้าก็ถึงกับคบชู้สู่ชายพาไอ้คนนี้มาอยู่กินกับเจ้าถึงในบ้าน ทุกท่านคนๆนี้คือชายชู้ของนาง"ชาวบ้านหันมาหาเซียวจ้านเป่ย จากนั้นก็มองไปที่จูเหมยลี่ แม้แต่หงซิ่วเองก็ถูกรูปงามของเขาทำให้ตะลึงเช่นกัน นางไม่เคยเห็นบุรุษใดรูปงามเท่านี้อีกแล้วนางหลงรักเขาทันที จนเฉิงอี้เอ่ยอีกรอบ"นี่ ไอ้ชายชู้เจ้าเป็นใคร แอบมาคบชู้กับสตรีในหมู่บ้านเราเด็กๆพวกเจ้าจับทั้งสองคนไปศาลาว่าการให้ใต้เท้าลงโทษเสีย"มือปราบกรูกันเข้ามาหมายจับซียวจ้านเป่ยกับจูเหมยลี่ เซียวจ้านเป่ยไม่ออมฝีมือสักนิด เขาโบกมือทีเดียวมือปราบทั้งหมดก็กระเด็นคนละทิศละทาง จูเหมยลี่ส่งสายตาก่อนจะพูดกับเขาช้าๆ"ท่านพี่ ข้าไม่อยากให้ลูกเราเห็นสิ่งที่ท่านจะทำ ข้าจะพาลูกไปบ้านพี่ลู่เหลียนก่อน ทางนี้ท่านสะสางเถอะ ส่ว
จางลู่เหลียนเอ่ยกับจูเหมยลี่เสร็จก็เตรียมตัวกลับบ้าน แต่พอเห็นคังหยุนไม่กลับนางเลยไม่กลับด้วยอยู่กับจูเหมยลี่จนเซียวจ้านเป่ยอ่อนใจ จางลู่เหลียนไม่ยอมกลับบ้านตนเอง เซียวจ้านเป่ยเริ่มหงุดหงิดแต่จูเหมยลี่จับมือเขาไว้ส่ายหน้า หากไม่ใช่เพราะจางลู่เลียนมาทันผิงผิงอาจถูกทำร้ายมากกว่านี้ก็ได้"ท่านพี่ เรื่องของหงซิ่วท่านจัดการให้เด็ดขาดนะเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากต้องระแวงว่านางจะมาทำร้ายผิงผิงอีกเมื่อไหร่""วางใจเถอะ เอ่อคุณชายคัง ดูเหมือนท่านจะสนิทกับใต้เท้าหลัว เฉิงอี้คนนั้นท่านจัดการได้หรือไม่ เขาเลวร้ายนักลักลอบเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่นไปทั่ว ไม่สมควรเป็นบัณฑิตสักนิด อีกทั้งไม่สมควรเป็นขุนนางกินเบี้ยหวัดทางการอีกด้วย"เซียวจ้านเป่ยเอ่ยกับคังหยุน ที่ตอนนี้ไม่สนใจใครนั่งกินซาลาเปาอย่างอร่อย เขาอร่อยจนแทบกลืนลิ้นตัวเองแล้ว"นี่ๆๆอาซ้อ อาหารที่ท่านทำอร่อยกว่าพ่อครัววังหลวงเสียอีก ข้าได้รับมอบหมายให้มาตามหาคน จะพักอยู่ที่นี่สักครึ่งเดือนขอฝากท้องกับท่านได้หรือไม่ ท่านพี่เซียวภรรยาท่านทำอาหารอร่อยจริงๆ"จากนั้นก็กินต่อไม่สนใจที่เซียวจ้านเป่ยที่สื่อสารกับเขาสักนิด โจ๊กนี่เนื้อเนียนยิ่งนัก อร่อยมากอร่อยเกิ
เซียวจ้านเป่ยกำลัง คิดถึงเรื่องนี้พอดี ไม่นึกว่าพอง่วงนอนก็มีคนส่งหมอนมาให้ ใครจะไม่รับเล่า หากมีคนของทางการหนุนหลัง ชาวบ้านทั่วไปคงไม่กล้า เมียเขาเป็นคนฉลาดนางรู้จักใช้สถานการณ์ตรงหน้าพลิกแพลงได้เสมอ"เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านแล้ว ว่าแต่สองคนนั้นใต้เท้าหลัวจะลงโทษเช่นใดหรือ ข้าไม่อยากให้มาวุ่นวายกับลูกเมียข้าอีก""ท่านวางใจเถอะ หลัวสือเป็นขุนนางน้ำดี เขาเถรตรงนัก หงซิ่วคบชู้กับบัณฑิตเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ปกติเหลียงเถี่ยต้านรับเงินจากขุนนางจากเศรษฐี ขายหงซิ่วให้ไปหลับนอนกับคนเหล่านั้นแล้วรับเงิน แต่หงซิ่วกลับเสียเงินเพื่อได้หลับนอนกับเฉิงอี้ เหลียงเถี่ยต้านไม่ยอมหรอก""หากไม่ใช่ท่านปู่ข้าอยากให้ข้ามีทายาทจนยอมเสียเงินแต่งนางเข้ามาข้าก็ไม่อยากยุ่งกับสตรีน่ารังเกียจคนนี้จริงๆ"ทั้งคู่ปรึกษาหารือเรื่องขึ้นเขาล่าสัตว์ เป็นอันว่าเซียวจ้านเป่ยจะขึ้นเขาเลือกตัดต้นไม้ในวันรุ่งขึ้น คังหยุนจะให้องครักษ์ของเขานำทหารมาช่วยยี่สิบนาย แล้วยังจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านด้วย เพื่อแสดงความมีน้ำใจของสองสามีภรรยาคังหยุนไปแล้ว เซียวจ้านเป่ยจึงเข้าไปหาจูเหมยลี่ที่เพิ่งกล่อมบุตรสาวหลับไป นางบอกว่าจะไปหาซื้อไหเขาไ
"ท่านแม่ ท่านแม่อยู่ไหนเจ้าคะ ฮือๆๆๆ" เสียงของเซียวลี่ผิงร้องไห้ดังมาจนจูเหมยลี่ต้องวางมือตรงหน้ารีบเข้าไปอุมนางออกมา"แม่อยู่นี่ มานี่สิจางหูกับจางเหมยมาเล่นที่บ้านเราด้วย ไปเล่นกับน้องๆกัน ผิงผิงออกไปก่อนเดี๋ยวแม่เอาขนมตามไปให้นะ"เซียวลี่ผิงพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป"สวัสดีอาสะใภ้ สวัสดีอาลู่เหลียนเจ้าค่ะ เสี่ยวหู่เสี่ยวเหมยพี่มาแล้ว" เด็กๆนั่งเล่นกันอยู่ที่ลานกว้าง ผู้ใหญ่สามคนช่วยกันปลอกหน่อไม้ จูเมยลี่สั่งให้เซียวจ้านเป่ยซื้อกะทะกับหม้อใบใหญ่มาให้ด้วย รวมถึงเข่งใบใหญ่มาไว้นึ่งอาหาร"เดี๋ยวข้าไปก่อไฟต้มหน่อไม้ให้หายขมก่อนนะ พวกท่านปลอกที่เหลือไปก่อน"จูเหมยลี่นำหน่อไม้มาหั่นเป็นแผ่นบางๆต้มใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อไล่ความขม จากนั้นก็หันมาซอยหน่อไม้หน่อใหญ่อีกสามหน่อ เพื่อผัดกับไก่รวนเตรียมหั่นพริก ต้นหอมทุบกระเทียมใส่ตระแกรงไม้ใบเล็กรอไว้ ต้มกระดูกหมูคอยช้อนฟองทิ้งเรื่อยจนน้ำต้มกระดูกใส ต้มกระดูกหมูได้ครึ่งชั่วยามก็นำหน่อไม้ที่ต้มเสร็จแล้วล้างน้ำสะอาด มาใส่ในหม้อที่ต้มกระดูก เอาไฟออกให้เหลือไฟอ่อนๆเคี่ยวไปเรื่อยๆอีกเตาก็หุงข้าวเสร็จพอดี รินเอาน้ำข้าวไว้ใส่น้ำตาลทรายแดง ตอกไข่ใส่ยกไปให้
คังหยุนจับจางลู่เหลียนหันหน้ามาหานั่งคร่อมเขาส่วนกายสาวเสียดสีกับความแข็งขึงด้านล่างแม้จะมีผ้ากั้นแต่รู้สึกได้ คังหยุนกอดเอวนางมือหนึ่งเพื่อกันไม่ให้นางดิ้นหนีนางยังตื่นเขาอยู่ ส่วนอีกมือก็กดสะโพกนางแนบแน่นขยับเอวบดใส่นางจนจางลู่เหลียนมือไม้แข้งขาอ่อน นางไม่ไหวแล้วมันเสียวซ่านบอกไม่ถูก"คะ คุณชายคัง ทำไมมันเสียวนักข้าไม่ไหวแล้วเหมือนข้าจะขาดใจอื้อท่านทำอะไรข้าเนี่ย""ลู่เหลียนจ๋า ข้าอยากปลดปล่อยทำเช่นไรดี เสียวเหลือเกินเจ้าเป็นสตรีคนแรกที่ทำให้ข้าคลุ้มคลั่งได้ แม่ตัวดีเจ้าเป็นปีศาจน้อย อ่าห์ ข้าอยากปลดปล่อยใส่เจ้าเหลือเกิน""พอเถอะ ข้าไม่ไหวแล้วมันร้อนไปหมด พอเถอะนะเจ้าคะ ข้าไม่ดื้อ แล้วก็จะไม่ด่าท่านอีกแล้วอะ อร๊าย"จางลู่เหลียนกระตุกเกร็งทันทีที่คังหยุนกดสะโพกนางรุนแรงบดใส่เขา คังหยุนหายใจหอบกระเส่า"เด็กดีเจ้าออกไปก่อน ข้ายังออกไปไม่ได้ เรื่องวันนี้เจ้าต้องรับผิดชอบนะ ข้าเป็นของเจ้าแล้ว ห้ามทิ้งขว้างข้าด้วย ให้ตายเถอะท่านพี่เซียวอยากยืมเตียงบ้านท่านมีเมียเสียตอนนี้เลยจะได้ไหม อ่าห์"จางลู่เหลียนปีนลงจากตักคังหยุน นางยังขาสั่นอยู่ยืนไม่ไหวเกาะไหล่หนาเอาไว้ คังหยุนไม่ไหวจึงบอกให้นางร
บรรดาคนที่อยู่ในห้องสนทนาถึงกับตกใจกับข่าวใหม่ หานรั่วสุ่ยมีภรรยาแล้วอีกทั้งมีบุตรแล้วด้วย จ้านอ๋องก็มีพระชายาแล้วเช่นกัน พวกเขาสนทนาโดยไม่สนใจบุคคลที่อยู่ในห้องด้วยสักนิด "อืมพี่เมีย ข้าจะล่วงหน้าไปก่อนคิดถึงเหลี่ยนเอ๋อร์ของข้าแล้ว พวกท่านค่อยเดินทางทีหลังแล้วกัน""องค์ชายคังหยุนท่านจะไปเมื่อใดหรือพ่ะย่ะค่ะ""ออกเดินทางวันนี้ ข้าคิดถึงเมีย มีบางคนคิดถึงจูเว่ยเว่ยจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว น่ารำคาญยิ่งนัก อ้อนวอนข้าทุกวันจะกลับจิ่วโจวให้ได้""เอ๋เสด็จพี่ ข้าคิดถึงเว่ยเว่ยไม่ได้หรืออย่างไร ทีท่านคิดถึงพี่สะใภ้ได้เล่าหรือไม่เล่า ท่านพี่ล่ะคิดถึงพี่สะใภ้แสนงามของข้าหรือไม่ "อืม หยุนเอ๋อร์ รั่วสุ่ยพวกเจ้าคุยกันไปเถอะ อ้อพวกท่านทั้งหลายก็กลับไปเถอะนะ ไม่ว่าของขวัญของฝากที่ใครๆไหว้วานพวกท่านนำมานั้น ก็จงนำกลับไปด้วย ข้าอ้ายจ้านมีภรรยาแล้ว และข้าไม่แต่งเมียเพิ่ม ข้าไปล่ะพวกเจ้าปรึกษากันต่อเถอะ" "เอ่อพี่เมีย แล้วยายเฒ่าตาเฒ่าสกุลหานเหล่านั้นท่านจะว่าอย่างไรหรือ" คังหยุนแม้จะเป็นองค์ชายแต่ก็ไม่อยากใช้อำนาจกับพวกเขา แต่น่ารำคาญเหลือเกินโดยเฉพาะยายเฒ่าหานนั่น ตอนจาง
“เอ๋ เสด็จพ่อตาใครกันนะว่ากระหม่อมเป็นตาเฒ่าหลอกเด็กรุ่นลูกมาเป็นเมีย นี่ๆพี่อันหยวนของข้าสามสิบเก้า ท่านสี่สิบสอง บางคนสี่สิบห้าแล้วนะ เหอะ”ซูฟางหรูอายหน้าแดง อ้ายเฉิงถลึงตาใส่จูยวี่ซานก่อนจะเอ่ย“มีอะไรคุยพรุ่งนี้ เมียข้าหิวข้าว หากไม่หยุดข้าจะเอาลูกสาวข้าคืนตาแก่จู”จูยวี่ซานและเฝิงอันหยวนหัวเราะก่อนจะพากันออกไป ปล่อยคู่รักต่างวัยให้อยู่ด้วยกัน จูเหมยลี่รับรู้จากอาสามว่าพ่อสามีกับซูฟางหรูข้าวสารเป็นข้าวสุกเรียบร้อยแล้วตอนนี้ซูฟางหรูนอนอยู่ในอ้อมกอดอ้ายเฉิง เขาลูบไหล่นางเบาๆ พูดคุย“อาให้คนไปรับมารดากับบิดาเจ้ามาแล้ว พรุ่งนี้บ่ายๆ ถึงจิ่วโจว”“ท่านอาพูดจริงหรือเจ้าคะ”“อารู้ว่าเจ้าเคยหมั้นหมาย แต่เพราะห่วงบิดากับมารดา จนคู่หมั้นถอนหมั้นเจ้า”“ท่านอา คือว่าเรื่องนั้น”“ข้ารู้ เจ้าห่วงพวกเขาจนฝ่ายนั้นรำคาญ แต่ก็ดีแล้วมิใช่หรือหากตอนนั้นเจ้าแต่งออกไป ใครจะนอนหนุนแขนอาเล่าตอนนี้หื้ม”“ท่านอา ท่านอายุสี่สิบห้าจริงๆ หรือ เหตุใดถึงเหมือนพี่น้องกับท่านพี่เซียวนัก ใบหน้าท่านเด็กกว่าอาสามอีก”“ปากหวานแบบนี้ต้องให้รางวัลแล้วไหม”อ้ายเฉิงเริ่มปลดอาภรณ์นางอีกครั้ง ซูฟางหรูจับมือเขาไว้ก่อนจะเอ่
ซูฟางหรูกลับมาที่ริมแม่น้ำ อ้ายเฉิงนั่งรออยู่ พอเห็นนางก็เอามือกุมท้องดังเดิม ซูฟางหรูไม่รู้เลยว่าหมาป่ากำลังมองจ้องลูกแกะตัวน้อยเนื้อขาวๆ“ท่านอาเฉิง ยามาแล้วเจ้าค่ะเอ่อ ทะ ท่านอาทาเองได้ไหมเจ้าคะ”“ข้าจะทาอย่างไรกันมันไม่ถนัด เจ้าช่วยหน่อยสิอาหรู”“แต่ข้าเป็นสตรี ท่านเป็นบุรุษใกล้ชิดกันคงไม่ดีนักคือๆ ว่าข้า”“ช่างเถอะ เจ้ากลับไปเถอะเดี๋ยวข้านั่งหายเจ็บก็กลับเอง ไม่รบกวนเจ้าหรอก”“ท่านอา กะ ก็ได้แต่ว่าถ้าหากใครมาเห็นคงไม่ดี ว้าย!!”พูดไม่ทันจบนางก็ตัวลอยขึ้น อ้ายเฉิงอุ้มนางดีดตัวผ่านยอดไม้ก่อนจะมาถึงเรือนของตน ซูฟางหรูซบกับหน้าอกเขาแน่นเพราะกลัวตก จึงไม่เห็นบรรดาข้าราชบริพารที่ถอยหลังออกจากเรือนพักจนหมด องครักษ์เงาหายไปจากบริเวณนั้นทันทีอ้ายเฉิงวางร่างบางระหงลงบนเตียงของตน ซูฟางหรูมองเขาหน้าตาเหรอหรา ยิ่งมองยิ่งน่ารักเหลือเกินจนอ้ายเฉิงอดใจไม่ไหว รั้งนางมาจูบทันที“อื้อ” ซูฟางหรูเองนี่เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดบุรุษเพศ นางทำอะไรไม่ถูกยอมให้คนตัวโตชักจุงในที่สุดนางก็ถูกเขาลอกคราบจนเปลือยเปล่า“อาหรูเจ้างามนัก ขออาเฉิงนะเด็กดี”“อื้อ ท่านอาแบบนี้ไม่ถูกต้องนะเจ้าคะ ไหนท่านบอกว่าเจ็บท้อง
จูเหมยลี่ออกเดือนได้หลายวันแล้ว ตอนนี้บุตรชายอ้ายหลิวเหว่ยได้สองเดือนกว่าแล้ว เมื่อวานอ้ายซินมาบอกว่าเซียวจ้านเป่ยจัดการกลุ่มกบฏเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่กวาดล้างกากเดนที่เหลืออยู่ ฮ่องเต้แต่งตั้งเขาเป็นอ๋อง เดิมทีอีกเจ็ดวันจะเดินทางมาจิ่วโจวแต่เพราะมีเหตุต้องอยู่ต่อ อีกครึ่งเดือนจึงจะมาพร้อมขบวนต้อนรับพระชายาจูเหมยลี่ส่งหลิวเหว่ยให้กับหรงหรง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ก็เห็นซูฟางหรูเดินหิ้วตระกร้ามาหา เด็กสาวคนนี้หน้าตาสะสวยจริงๆ เป็นเด็กกตัญญูยิ่งนัก“พี่ฟางหรู ท่านเอาอะไรมาอีกละนั่นข้าเกรงใจจะแย่แล้ว”“อาซ้อเซียวท่านเกรงใจไปแล้ว หากไม่ได้ท่านคอยช่วยเหลือข้ากับพี่สาวและหลานๆ คงลำบากไม่น้อย เอ่อ นี่เป็นขนมดอกหยางไหวของท่านอาเฉิงเจ้าค่ะ”ซูฟางหรูส่งห่อใบบัวให้จูเหมยลี่ เว่ยเว่ยเดินออกมาจากในบ้านก่อนจะรับแล้วเอ่ยกับจูเหมยลี่“เสี่ยวลี่ พี่จะไปบ้านท่านยายสักสามวัน ทางนี้ไม่ขาดคนพอดีท่านยายป่วยอีกแล้ว พักนี้ท่านยายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่”“อืม ท่านอาเสี่ยวทงรบกวนท่านมานี่สักหน่อย”เสี่ยวทงเป็นคนของนางไปแล้ว อาสามยกให้เขาคอยดูแลจูเหมยลี่กับเซียวลี่ผิงโดยเฉพาะ จูยวี่ซานไปข้างนอกบ่อยๆ เขากลัว
เมื่อเรื่องในวังหลังเรียบร้อย ยามเฉินฮ่องเต้ก็สวมฉลองพระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ในท้องพระโรง วันนี้ขุนนางมาเข้าเฝ้าโดยไม่รู้ว่าเรื่องราวอะไรกำลังจะเกิดขึ้นแต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเห็นคืออ้ายจ้านซื่อจื่อที่กลับมาแล้ว อีกคนหยางตงเซี่ย และหานรั่วสุ่ยทั่นฮวาน้อย"ฝ่าบาท วันนี้ประชุมเช้า เหตุใดซื่อจื่อจึงพกอาวุธเข้ามายังท้องพระโรงกันพ่ะย่ะค่ะ นี่มิเท่ากับทำผิดร้ายแรงหรอกหรือ""รองเจ้ากรมอาลักษณ์พูดจาน่าขัน พวกเราอารักขาฝ่าบาท มีอะไรไม่สมเหตุสมผลหรอกหรือ" จางรั่วสุ่ยเอ่ยขึ้น คนที่จ้องเขาตาถลนกำลังกำมือแน่น เขาคือหานรั่วท่านปู่ของเขา "รั่วสุ่ย อย่าเสียมารยาท นี่คือขุนนางเจ้าเป็นเพียงทหารปลายแถวจงสำรวม""โย่ว ใต้เท้าหานกล่าววาจาอันใดกัน ท่านดูไม่ออกหรือว่าข้ามีตำแหน่งใด สายตาฝ้าฟางเช่นนี้ควรลาออกไปเลี้ยงหลานอยู่บ้านจะดีกว่าหรือไม่"หานรั่วถึงกับหน้าเขียว เป็นเด็กเลวจริงๆ เลือดชั้นต่ำของมารดาคงแรง"อ้อ ใต้เท้าหานที่แท้เขาก็คือทั่นฮวาน้อยหานรั่วสุ่ย หลานชายของท่านนั่นเอง ""รองเจ้ากรมท่านกล่าวผิดแล้ว ข้าแซ่จาง จางรั่วสุ่ย แซ่หานนั้นข้าไม่เคยใช้"หานรั่วถึงกับหน้าคล้ำกว่าเดิ
สิบวันต่อมาเซียวจ้านเป่ยมารวมกับทัพใหญ่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เรียกหานอี้มาหา หานอี้เป็นคนสนิทของแม่ทัพจ้าว"ตอนข้าไม่อยู่มีเรื่องอันใดหรือไม่""เป็นอย่างที่ท่านคาดการณ์ นายกองหูออกจากค่ายไปบ่อยๆ เขานัดพบคนๆหนึ่ง เราสืบดูแล้วเป็นคนของซีเป่ย ไท่ซ่างหวงทิ้งข้อความไว้ให้ท่านแม่ทัพขอรับ"เซียวจ้านเป่ยหยิบกระดาษที่วาดรูปออกมา เป็นเหมือนรูปวาดธรรมดา แต่เซียวจ้านเป่ยรู้ดีว่าเสด็จปู่กำลังจะสื่อถึงอะไร ภูเขา ลำธารหรือ นี่มันทางเข้าหลังตำหนักร้างนี่ รอยเท้าย้อนกลับเดินถอยหลังเช่นนั้นหรือ มีบางคนส่งข่าวจากช่องทางนั้น "รั่วสุ่ยเขียนอักษรถึงองค์ชายสี่หน่อย เขียนแค่ว่าชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง"จางรั่วสุยเขียนโครงตามที่เซียวจ้านเป่ยบอก ชมจันทร์ในคืนที่ไร้เมฆบัง แปลว่าอะไร พี่น้องคู่นี้หน้าสิ่วหน้าขวานยังมีแก่ใจต่อกลอนกันด้วยหรือ อินทรีปากเหล็กรับข้อความไปแล้ว ยามอิ๋นจึงได้จดหมายตอบกลับมา มีเพียงรูปวาดของเด็กทั้งห้า ที่มีสัญลักษณ์แตกต่างกันไป แต่เด็กคนหนึ่งหายไป"เป็นเจ้าจริงองค์ชายรอง คิดจะเปิดประตูหลังตำหนักร้างให้คนของท่านตาเจ้าเข้าไปก่อกบฏหรือ หึ สำคัญผิดเสียแล้ว"
หลังจากจูเหมยลี่คลอดบุตรชายให้เซียวจ้านเป่ยเรียบร้อยแล้วนางก็พักฟื้น ตอนนี้บริเวณหมู่บ้านกับตำบลจิ่วโจวทั้งตำบล มีทหารคอยอารักขาเต็มไปหมด จูเก่อคังที่ตอนนี้นั่งดื่มกับอาเฉิงอยู่ เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือเชื้อพระวงศ์ จึงได้พูดคุยทุกเรื่อง"นี่ๆน้องเฉิง บุตรชายเจ้าเก่งนัก ไปทหารไม่นานก็ได้ตำแหน่งใหญ่โตกลับมา เฮ้อ วาสนาเสี่ยวลี่ของข้าจริงๆ อยากให้น้องรองกับน้องสะใภ้ของข้าได้รับรู้เหลือเกินว่าตอนนี้นางมีชีวิตที่ดีเพียงใด""พี่เก่อคัง หลานสาวท่านคนนี้บุตรชายของข้าดูท่าจะรักนางมาก""เสี่ยวลี่เป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง หากไม่ใช่ว่าถูกลุงใหญ่กับป้าสะใภ้กลั่นแกล้งชีวิตนางคงไม่เลวร้าย โชคดีที่วันนั้นสองคนนั้นตัดสินใจขายเสี่ยวลี่ให้บุตรชายท่าน ไม่เช่นนั้นข้าไม่อาจเดาชะตากรรมนางได้เลย""กฎหมายซื้อขายคนคงต้องแจ้งฝ่าบาทให้ปรับจริงๆ แต่พวกขุนนางเก่าแก่คงไม่ยอม"เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังกอดรักเมีย เขาต้องไปแล้วคนของเขาแจ้งมาแล้วว่ากลุ่มกบฏมีกี่พรรคพวก แล้วหลบซ่อนอยู่ที่ใดบ้าง"ลี่เอ๋อร์ พี่ต้องไปแล้ว พี่สัญญาว่าจะทำรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วกลับมารับเจ้ากับลูก""ท่านพี่
"ฮือๆๆ เสด็จพ่อ" อ้ายเฉิงกางแขนกอดรับบุตรสาวที่ตอนนี้ร้องไห้กับอกเขา"ร้องทำไมเจ้าตัวดี ใครใช้ให้เจ้าหนีออกจากวังกันหึ"แม้คำพูดจะตำหนิแต่น้ำเสียงกับอาทรห่วงใยบุตรสาวยิ่งนัก อ้ายซินมองหน้าก่อนจะทำสีหน้าสงสัย"เสด็จมาได้อย่างไรเพคะ แล้วคนของฉู่หรานซินที่เฝ้าเสด็จพ่อในทุกๆวันเล่า""เรื่องราวยากกว่าที่เจ้าเข้าใจ นางกำลังพาบุตรชายหนีน่ะ""อ้ายฉางหรือเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่บุตรเสด็จพ่อ หม่อมฉันเคยได้ยินนางกับรองเจ้ากรมอาลักษณ์ติดต่อกัน เขาบอกว่าต้องอดทนถึงเมื่อไหร่อ้ายฉางจึงจะเรียกเขาว่าท่านพ่อสักที""ลูกเห็นว่าพ่อหลับนอนกับนางหรือ เห็นตาแก่ใกล้ตายคนนั้นที่ร่วมสังวาสกับสตรีคือพ่อหรือ"อ้ายซินทำสีหน้าสงสัย เซียวจ้านเป่ยจึงเอ่ยกับนาง"มีคนที่ใบหน้าคล้ายเสด็จพ่อน่ะ เราวางหมากตั้งแปดปีที่แล้ว ก่อนที่ฉู่หรานซินจะแต่งเข้ามา เสด็จพ่อก็อยู่ที่ตำหนักเย็นของพระราชวังหลังเก่านอกเมืองมาตลอด ไม่มีใครรู้นอกจากฝ่าบาทเสด็จปู่แล้วก็พี่ เฉิงอ๋องคนนั้นที่อยู่กับฉู่หรานซินทุกวันคือคนสนิทของเสด็จพ่อ ที่ปลอมแปลงใบหน้า"จากนั้นทุกคนก็เข้าใจ จางรั่วสุ่ยรีบกลับไปหาภรรยา เพราะว่านางกำลังอยู่เดือน เซี่ยตงหยางม
อ้ายซินเอ่ยจบประโยคลมสายหนึ่งก็ผ่านตัวนางไป เห็นด้านหลังเป็นบุรุษใส่ชุดกองทัพ เขาคือพี่ชายของนาง อ้ายซินดิ้นลงจากตักสามีรีบเดินไปหา"พี่ชาย ท่านกลับมาแล้ว ฮือๆๆ"เซียวจ้านเป่ยหันมามองหน้าน้องสาวก่อนจะรั้งนางเข้ามากอด"ซินเอ๋อร์ เสี่ยวลี่อยู่ในนั้นหรือ""เจ้าค่ะ พี่สะใภ้เจ็บท้องมาสองชั่วยามแล้ว พี่ชายไหนว่าท่านอยู่ชายแดนไงเจ้าคะ""ทางนั้นเรียบร้อยแล้วล่ะ เหลือแค่ทางวังหลวง ฉู่ฉางเกินมุ่งหน้าเข้าวัง พี่สกัดเขาไว้ได้แต่ยังไม่รู้ว่ากองกำลังของเขาที่ยังซุกซ่อนอยู่มีเท่าไหร่ พอดีจิ่วโจวเป็นทางผ่านพี่จึงแวะหาลี่เอ๋อร์กับผิงผิงน่ะ"อ้ายซินกำมือแน่น ก่อนจะมองหน้าสามี จูยวี่ซานถอนหายใจ เขาคงปกป้องพี่ชายพี่สะใภ้และจูหมิงซูไม่ได้หรอก ได้ข่าวว่าแค่สตรีนางหนึ่งกล่าวหาเสี่ยวลี่คำเดียวก็ถูกโยนไปอยู่ก้นเหวแล้ว"ผิงผิงป่วยเจ้าค่ะ คือว่า""พี่รู้เรื่องหมดแล้ว ระหว่างทางที่มามีคนรายงานพี่ สามคนพ่อแม่ลูกนั้นพี่ให้ส่งไปชายแดนใต้หมดแล้ว ที่นั่นมีเหมืองแร่ให้พวกมันไปชดใช้ที่นั่น โดยเฉพาะจูหมิงซูคนนั้น หากรอดจากแผลบนใบหน้าได้นับว่านางดวงแข็งแล้ว""จ้านเป่ยอาสามต้องขออภัยเจ้าจริงๆ หากมิใช่ว่าอาสามต้องไปเจราจาก