เมืองเป่ยตู เมืองหลวงแคว้น เฉิงโจว ริมฝีปากที่ทาชาดสีแดงและเคลือบน้ำมันกุหลาบ เผยออ้ากว้างก่อนส่งเสียงหวานสูง ๆ ต่ำ ๆ ราวกับกินของเผ็ดร้อนที่ไม่ใช่อาหาร!“อื้อ...อะ อ๊า...อี้ ๆ ๆ” เนี่ยหยวนซูพยายามมีอารมณ์ร่วมอย่างที่สุด แม้อีกฝ่ายกำลังทำเรื่องเหลวไหล และเข้าข่ายสัปดนจนขนที่หลังต้นคอนางลุกชัน ริมฝีปากสีสดบางชื้นซึ่งมีกลิ่นสุราฤทธิ์แรง บรรจงจูบบนหลังเท้านาง ก่อนเลื่อนขึ้นมาเรื่อย ๆ ถึงบริเวณน่อง ท่อนขาเรียว ส่วนมือใหญ่ที่หยาบกร้านอยู่สักหน่อย ก็นวดในจุดที่ส่งผลให้นางหวามไหว และจะเป็นที่ใดเล่าหากมิใช่จุดซึ่งอยู่เหนือพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำที่ไร้เส้นไหมนุ่มนิ่มปกคลุม“อ๊ะ...ท่านพี่!” ดวงตากลมโตมองคนที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นมาเผชิญหน้ากัน ยามนี้เขาจึงขึ้นคร่อมอยู่เหนือร่างอรชรผู้ชายตัวโตนี้หล่อเหลาราวกับรูปปั้นเทพ ริมฝีปากบางหยักสวยเมื่อครู่ได้ทำในสิ่งที่นางค่อนข้างประหลาดใจ“ข้าเป็นลูกหมาของ...น้องหญิง!”น้ำเสียงเขาทุ้มฟังแล้วอ้อแอ้และชวนให้น่าหยิกร่างกายกำยำมิหยอกเนี่ยหยวนซูตาโต อยากหัวเราะเสียงดัง บุรุษผู้นี้ชอบแนวนายทาสกับลูกหมาน้อยเยี่ยงนั้นหรือ มหัศจรรย์ยิ่งนัก และโลกคล้ายจีนโบราณน
เมื่อปล่อยให้สามีนอนหลับแล้ว เนี่ยหยวนซูกลับกลัวว่าพวกที่แอบฟังอยู่ด้านนอกจะผิดหวัง ดังนั้นนางจึงต้องจัดการแสดงชุดใหญ่เพื่อให้สมศักดิ์ศรีลูกสาวคนเล็กของเจ้าบ้านเนี่ย ซึ่งเป็นโต้โผออกเงินให้มีการแต่งงานใหญ่โต ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นบุญคุณต่อแคว้นเฉิงโจว!“อ๊ะ...อี้...อื้อ...ท่านพี่...อื้อ...อ๊าย” ยามนั้น เนี่ยหยวนซูพยายามเหลือเกินที่จะไม่หลุดขำ ทว่าในขณะเดียวกันยามที่มองไปยังร่างกายแกร่งบนเตียงกว้าง หญิงสาวปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจิ่งหลัวคุณหล่อเหลาเป็นบ้า แม้ขาที่สามเขาจะหลับสงบนิ่งอยู่ในฝัก แต่สิ่งอื่นนอกเหนือจากนั้น ล้วนมีคุณภาพคับไหสุรา ชนิดเต็มสิบไม่หักสักแต้ม!แต่ช้าก่อน สิ่งที่นางย่อมรู้ดีคือ สตรีแซ่เนี่ยต้องทำทุกวิถีทางให้ได้หย่าขาดกับจิ่งหลัวคุน โดยถูกต้องตามกฎหมายแคว้นเฉิงโจว และมีสักขีพยานรู้เห็น ซึ่งต้องเป็นการจากกันด้วยดี ต่างฝ่ายต่างมีชีวิตของตน ไม่มีการแค้นฝังใจต่อกัน โดยทั้งหมดต้องเกิดขึ้นก่อนการเปลี่ยนแปลงฮ่องเต้องค์ใหม่ มิเช่นนั้นหายนะครั้งใหญ่ในภายภาคหน้าอาจส่งผลให้ร่างงาม ๆ ของนาง ได้รับโทษสถานหนักคือ ถูกจับเลาะกระดูก แล้วแยกชิ้นส่วน สุดท้ายก็เป็นจิ่งหลัวคุนที่ผนึกนางให้กลาย
ปลายยามโฉว่ (01.00-02.59น.) ซึ่งอันที่จริงแม่นมฝานเหอเคลิ้มหลับไปแล้ว นางเหนื่อยสายตัวแทบขาดมาหลายวันติด ๆ กัน แต่เพราะเสียงอุทานร้องตกใจของสาวใช้รุ่นเล็กที่ชื่อ เสี่ยวฉุน ทำให้ร่างมีเนื้อมีหนังมากสักหน่อยสะดุ้งโหยง ก่อนสั่งให้อีกฝ่ายทำกิริยาให้สำรวม“แม่นม...เมื่อครู่ มันเอ่อ...มีเสียงแปลก ๆ อีกแล้ว หรือว่า คุณหนูกับท่านแม่ทัพจะลุกขึ้นมาเล่นผีผาและรำกระบี่ ฝึกทวนยาวด้วยกันอีกรอบ!”ฝานเหอสงสารเด็กน้อยเสี่ยวฉุนเหลือเกิน นางยังไม่ประสีประสา อีกทั้งอยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกอย่าง ก่อนออกจากคฤหาสน์สกุลเนี่ย ฝานเหอพยายามเหลือเกินให้เนี่ยหยวนซูเลือกสาวใช้นางอื่น แต่อีกฝ่ายยืนยันชี้นิ้วไปที่เสี่ยวฉุน ซึ่งเป็นม้าดีดกะโหลก และอ่อนหัดไปทุกเรื่องในการดูแลเจ้านาย ให้ดีที่สุดคือนางขี่ม้าได้ ใช้อาวุธหนักเบาเป็น ทั้งยังร่ายรำมีดสั้นคู่ยอดเยี่ยม ขว้างกระสวยต่าง ๆ แม่นยำฝานเหอครั่นคร้ามใจเหลือเกินว่า เนี่ยหยวนซูต้องการมาเปิดสงครามในจวนจิ่งหรืออย่างไร เพราะในหีบที่นำมาจากคฤหาสน์สกุลเนี่ย ใบหนึ่งมีอาวุธลับอัดแน่นอยู่ โดยเฉพาะของเหล่านั้นมาจากทางทะเล เป็นสินค้าใหม่ที่เจ้าบ้านเนี่ยกำลังทำการค้ากับพวกโจรชุด
โอ๊ย เจ็บตัวมากจนน้ำตาเล็ดนั่นแหละ ทว่าเมื่อก้าวลงเรือนรกลำนี้ นางจะตกน้ำป๋อมแป๋ม ตายก่อนเข้าฝั่งไปหาสมบัติที่เกาะสวรรค์ไม่ได้เป็นอันขาด!รอยต่าง ๆ บนเนื้อตัวนี้ แน่นอนเกิดจากริมฝีปากบาง ๆ ของจิ่งหลัวคุน ซึ่งเขาอาจกระทำไปโดยมีสติไม่เต็มร้อย อยู่ในอาการละเมอ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเขาที่ล่วงเกินนางหลายครั้งหลายหน“โอ้ คุณหนู...เขาทำท่านบาดเจ็บเพียงนี้”เนี่ยหยวนซูรีบยกมือปิดปากตน นางกลัวเหลือเกินว่าจะหลุดขำออกไปพรืดใหญ่ ด้วยฝานเหอเป็นสาวเทื้อ ชีวิตนี้เคยใกล้ชิดบุรุษอย่างลึกซึ้งที่ไหนกัน ส่วนแม่นางน้อยเสี่ยวฉุน วัน ๆ ฝึกดาบ ขว้างกระสวย (อาวุธลับ) ฝึกขี่ม้า หมกมุ่นวางยาพิษผู้อื่น เช่นนี้ทั้งคู่ย่อมไม่มีเล่ห์เหลี่ยมเรื่องใช้จริตมารยาล่อลวงให้ชายหนุ่มติดกับดัก“เจ็บอยู่บ้าง แต่นั่นย่อมแสดงให้ประจักษ์ว่า แม่ทัพจิ่งได้...ร่วมเตียงกับข้าแล้ว!”“หมายความว่า เมื่อเช้าที่เกอสวินเซ้าซี้ถามเรื่องผ้ารองเตียงกับแม่ทัพจิ่งจนโดนถีบหงายหลังก็คือ?”คนเป็นนายโบกมือไปมา ก่อนนึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เอ่ยแล้วชวนให้น่าละอายอยู่สักหน่อย“จะ...เจ้าช่างน่ารังเกียจและไร้ยางอาย สตรีชั้นสูงเรือนใดกันถึงได้ดูดหน้าอ
เกือบสามวันแล้วจิ่งหลัวคุนไม่ได้กลับเข้าจวนแม่ทัพ เขาออกไปนอกเมือง ตั้งใจตรวจสอบเรื่องจัดเตรียมเสบียงและเรือสำหรับใช้ลาดตระเวนทางน้ำ รวมถึงเสื้อเกราะแบบใหม่เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเรื่องสนิมแต่ก่อนออกจากจวนจิ่ง เขาพบเรื่องปวดหัวจากน้องชายคนเล็ก ฝ่ายนั้นพยายามเหลือเกินที่จะให้เขาไปชมการแสดงละครที่หอลำนำรัก ซึ่งจิ่งป๋อได้ทุนจากมารดาเปิดกิจการใหญ่โต แต่เกือบสองปีแล้วที่ขาดทุนเรื่อยมา“พี่ใหญ่ ข้าขอร้องท่านให้ช่วยพิจารณาเรื่องนี้ด้วยเถิด กำหนดการคือเดือนหน้า อย่างไรท่านต้องเป็นคนเปิดป้ายละครเรื่องใหม่ของข้า อีกอย่างตอนนี้มีเรื่องที่ชวนให้ข้ากลุ้มใจ ขุนนางจากวังหลวงที่มาใหม่ พวกของซือหม่าหู่ (หู่ฮาวเทียน) วางอำนาจเหลือเกิน อ้างว่าจะเก็บอากรเพิ่ม แต่พี่ตรองดูให้ดีเถิด หอของข้าไม่คิดหากำไรสักนิด ทั้งหมดก็เพื่อช่วยให้คณะละครกับนักแสดงข้างถนน มีสถานที่เล่นปาหี่อย่างถูกกฎหมาย ไม่ต้องไปตั้งแผงตามท้องถนนให้เกะเกะ อีกอย่างพวกขอทานเด็กก็มีงานทำด้วย”“เฮ้อ แต่ที่ข้าเห็น เจ้ารักแต่จะเล่นสนุก ยามนี้มีจวนแม่ทัพใดในแคว้นเฉิงโจวบ้างที่ปล่อยให้บุรุษอกสามศอกร้องรำทำเพลงทั้งวัน และยังแต่งตัว วาดสีหน้าราวกั
ซึ่งก่อนหน้านั้นเนี่ยหยวนซูรู้ว่าตนต้องแต่งงานกับจิ่งหลัวคุน ชะตากรรมนี้นางมิอาจเลี่ยง จึงต้องรับมือให้ดีและเตรียมตัวให้พร้อม ดังนั้นการอยู่ในจวนจิ่ง ก่อนได้รับหนังสือหย่าร้างโดยถูกต้องและเป็นการพร้อมใจทั้งสองฝ่าย นางสมควรอยู่ดีกินดีในเรือนไป๋เหลียนฮวานับแต่กลายเป็นวิญญาณแล้วอาศัยร่างไซซีที่งามพร้อม ทั้งยังเป็นลูกสาวเจ้าบ้านเนี่ย หญิงสาวก็ได้วางแผนอย่างรัดกุม จัดอาหารยารักษาโรคใส่หีบต่าง ๆ ไว้พร้อม และส่งช่างฝีมือเข้ามาตรวจสอบเรือนหอ และขอให้บิดาออกหน้าคุยกับจิ่งหลัวคุนเพื่อขยายพื้นที่ด้านหลังให้เป็นโรงเก็บวัตถุต่าง ๆ กับโรงครัว มีห้องน้ำแบบใหม่ที่นางออกแบบเองด้วย ถึงสร้างความไม่พอใจให้คนในจวนจิ่ง แต่เจ้าบ้านเนี่ยผู้มีคนหนุนหลังมากมาย เมื่อเขาอยากให้ลูกสาวคนเดียวมีความสุข ดังนั้นแม้แต่ไท่ฮูหยินก็ไม่กล้ายื่นปากเข้ามาแส่“ซูเอ๋อร์...หากต้องการสิ่งใด แค่ให้บ่าวไปส่งข่าวถึงร้านค้าพันธมิตรของเรา ไม่เกินช่วงเวลาครึ่งก้านธูปดับ พ่อบ้านก็จะนำทุกอย่างมากองตรงเท้าเจ้าแล้ว” เนี่ยหยวนซูยิ้มกว้าง นางโชคดีเหลือเกิน การได้อยู่ในร่างนี้มีบิดาที่รักและเอาอกเอาใจ ทว่าฟ้าไม่ได้ลิขิตให้เนี่ยข่ายอายุยืน
เรือนไผ่หยกเชามี่ไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น นางจิ้งจอกเนี่ยหยวนซูจากเรือนไป๋เหลียนฮวากล้าส่งสาวใช้และบ่าวที่ถูกคัดตัวไปโดยเป็นคำสั่งไท่ฮูหยินกลับเรือนเดิมที่เคยอยู่ยามนี้นางแต่งออกจากสกุลเนี่ยแล้ว ดังนั้นกฎของจวนจิ่งคือสิ่งที่นางต้องทำตาม“โง่ เหตุใดถึงไม่ยืนยันที่จะอยู่เป็นหูเป็นตาให้ข้า” เชามี่ตวาดใส่สาวใช้ของตนที่หวังให้เป็นสายลับสืบสิ่งต่าง ๆ“นายหญิงเชา สตรีผู้นั้นเป็นพวกนางกลางตลาด ปากร้าย เสียงดัง และกักขฬะเหลือเกิน นางบอกว่าหากใครที่อยู่เรือนไป๋เหลียนฮวา นางจะให้อดข้าวเป็นเวลาเจ็ดวัน และทำงานขนมูลกับคอยนำน้ำถ่ายเบาของนางไปรดแปลงผัก แต่หากใครยอมกลับเรือนของตนจะได้กินของดี และยังได้ส่วนแบ่งเป็นเนื้อหมู เนื้อกวางตากแห้งติดมือกลับมาด้วย”สาวใช้นามว่า อ้ายเหมย มองอนุคนโปรดของจิ่งหลัวคุน นางมาจากสกุลขุนนางเก่า บิดาเป็นถึงอดีตรองเจ้ากรมฝ่ายพิธีการ การมาอยู่ที่นี่ใครก็มองออกว่าหวังใช้เส้นสายของแม่ทัพหนุ่มเป็นใบเบิกทางให้สกุลเชากลับมามีหน้ามีตา และช่วยเหลือในงานราชการให้ไม่ต้องมีสิ่งใดติดขัดเชามี่ถลึงตาใส่สาวใช้ก่อนโยนพัดในมือใส่หน้าอีกฝ่ายด้วยความฉุนเฉียว“เจ้าเห็นแก่ของกินเช่นนั้
พอนางเห็นว่าซ่งหยูชุนมองกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์ หญิงสาวจึงเอ่ยว่า“ท่านแม่ ลูกสะใภ้เพียงแต่อยากปรนนิบัติท่าน เช้าวันแรกหลังจากเข้าหอกับท่านแม่ทัพร่างกายข้าไม่อำนวยให้เดินเหิน แล้วสองสามวันต่อมา บ่าวและสาวใช้ที่ท่านช่วยจัดแจงส่งไปยังเรือนหลังเล็ก ๆ ของข้า มีจำนวนมากเหลือเกิน กว่าจะคัดเลือกคนที่เหมาะสม แล้วที่เหลือก็ส่งคืนให้พ่อบ้าน ต้องใช้เวลาจนล่วงเลยมาถึงตอนนี้ ดูเอาเถิด ลูกสะใภ้ก็เหมือนนกหลงทางที่มาอาศัยจวนจิ่งอันยิ่งใหญ่ หลบฝนหลบแดด แต่กว่าจะมีโอกาสทำดีเพื่อท่านแม่ เวลาล่วงผ่านมาจนยามสายวันนี้”คำพูดเนี่ยหยวนซูทำให้ทั้งแม่และลูกชายอึ้ง ฝ่ายจิ่งป๋อมองหญิงสาวคนนี้ อายุนางไล่เลี่ยเขาแต่ฝีปากไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าเป็นการแสดงงิ้วชั้นเยี่ยมได้เลย“พี่สะใภ้ ท่านช่างเจรจายิ่ง พี่ใหญ่ข้าคงไม่เหงา!”จิ่งป๋อผู้อยู่ฝ่ายมารดา เขาเป็นผู้ชายหน้าเปื้อนยิ้มเสมอและหน้าตาดี ซึ่งกระเดียดไปทางงามแบบบุรุษล่มเมือง ผิดแต่ไม่ชอบงานด้านบู๊ ส่วนด้านบุ๋นก็ไร้ทักษะ แต่หากให้ร้องรำทำเพลงหรือวาดภาพ เขานับว่าเลื่องชื่อทีเดียว“โอ้ คุณชายสาม ตัวข้าอย่างที่บอก ต้องพึ่งทุกคนในจวนจิ่งอีกนาน แค่ปรุงน้ำแกงเช่นนี้นับว่าเล
7 เดือนต่อมา หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย เนี่ยหยวนซูที่ยามนี้ท้องโตใกล้คลอด มีความสุขในการกินกว่าใคร ส่วนจิ่งหลัวคุนแม้จะเลิกแพ้อาหารแทนนางและไม่ค่อยเป็นลมหรือมีอาการหน้ามืด แต่เขากลับเป็นห่วงภรรยาชนิดที่เรียกว่าไม่ยอมห่างไปไหน ด้วยได้ยินเรื่องสตรีเสียชีวิตระหว่างคลอดบุตร รวมถึงอันตรายหลังการคลอด อีกทั้งสิ่งที่อาจเกิดกับชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลก ทั้งหมดเป็นเพราะเขาฟังผู้อื่นมากเกินไป ทั้งยังอ่านตำราต่างๆ เยอะ เรื่องนี้เนี่ยหยวนซูเข้าใจว่าเป็นเพราะเขารักและห่วงนาง “ท่านพี่ ข้าเพียงแค่อยากเดินเล่นสักหน่อย...” เนี่ยหยวนซูบอกเขา เช้านี้นางกินทั้งของคาวของหวานแล้วยังมีผลไม้อีก “แต่หมอบอกให้เจ้าอยู่นิ่งๆ ช่วงนี้ใกล้กำหนดที่ลูกจะลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้ว” “ท่านพูดถูก แต่ให้นั่งๆ นอนๆ ไม่ขยับตัว มันทำให้ข้าอึดอัด บางทีก็เครียด ซึ่งอาจส่งผลถึงเด็กน้อยของเรา” นางว่าจบจึงมองชายหนุ่ม อ้อนวอนเขาด้วยสายตา “ได้ แต่แค่เดินที่สวนด้านหน้าเท่านั้น เราจะไม่ไปมากกว่านี้” เนี่ยหยวนซูไม่อยากขัดใจสามี แค่เขาให้นางออกจากเร
จิ่งหลัวคุนไม่อาจยืนนิ่งเฉย อาการเขาคล้ายคนจะหน้ามืดตามด้วยการวูบหมดสติ ยามนั้นแม้จิ่งป๋อฉุดแขนพี่ชายไว้ แต่กลายเป็นว่าเขาถูกเตะเสียนี่ แถมไม่ใช่เตะธรรมดา หากส่งผลให้จิ่งป๋อร้องโอดโอยอย่างน่าสงสาร ด้วยใครกันจะทนแรงของอดีตแม่ทัพหนุ่มไหว โดยเฉพาะอีกฝ่ายคือนักแสดงในโรงละคร วันๆ ร้องเพลง เล่นดนตรี สรรหาเรื่องรื่นเริงเท่านั้น ยามนี้จิ่งป๋อไม่ใช่หนุ่มน้อย ปีนี้อายุเขาสมควรออกเรือน ทว่าอย่างที่พี่ชายห่วงคือจนป่านนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจิ่งป๋อสนใจสตรีหรือบุรุษกันแน่ และที่จิ่งหลัวคุนแสดงท่าทีขึงขังก่อนทำร้ายน้องชาย เป็นเพราะเขา อ้างว่าตนสุขภาพดี ทว่าสภาพอย่างที่เห็น เขาดูแย่หนัก หน้าซีดท่าทางอิดโรย ฝ่ายจื่อเยว่มองคนเป็นพ่อสลับอาหนุ่มหล่อ ก่อนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย และถามว่า “เมื่อเช้าท่านพ่อ แพ้อาหารใดหรือไม่เจ้าคะ” นางถามอย่างซื่อๆ นั่นแหละ ดวงตากลมโตมองจิ่งหลัวคุนอย่างต้องการคำตอบ “เหตุใดถึงถามพ่อเช่นนี้ เรื่องพรรคนั้นย่อมไม่เกิดขึ้น” “เอ แต่ลูกได้ยินเสียงคล้ายคนอาเจียน โอ้กอ้ากหลายหนเชียว” และสายตาลูกสาวกับน้องชายหันไปทางจิ่งห
ผิดแต่เรื่องทายาทอีกฝ่ายที่เสี่ยวฉุนไม่ได้รายงานไป เนื่องจากตกลงกับเกอสวินไว้ว่าอยากให้เนี่ยหยวนซูกับจิ่งหลัวคุนได้ปรับความเข้าใจกันเสียก่อน และช่วงสองสามปีให้หลังนางติดต่อเกอสวินไม่ได้เช่นกัน จวบจนได้พบหน้าอีกครั้ง เสี่ยวฉุนก็ต้องยอมรับว่าเกอสวินเป็นหนุ่มเต็มตัว และเขาขโมยหัวใจนางไปหมดแล้วช่วงเช้าวันส่งตัวเจ้าสาว ฝานเหอมีสีหน้าไม่สู้ดี ด้วยของที่เตรียมเอาไว้ในห้องหอหายไป รวมถึงพัดของเจ้าสาวแล้วก็ผ้าคลุมหน้า สิ่งที่สำคัญมาก ด้วยสองสิ่งนี้เกี่ยวพันถึงเจ้าบ่าวด้วย แต่ยังโชคดีที่มีชุดสำรองเอาไว้“ไม่มีเจ้าคะเถ้าแก่เนี้ย” ฝานเหอบอกเนี่ยหยวนซู และนางไม่ได้เซ้าซี้ถามสิ่งใดหายไปอีกบ้าง แต่กวาดตามองหาไปทั่วๆ ห้องก่อนก้าวออกไปด้านนอก ยามนั้นเสียงดนตรี เสียงโห่ร้องดังเป็นระยะและอาหารเครื่องดื่มมีให้กินอิ่มหนำเป็นอย่างมากร่างสูงของจิ่งหลัวคุนเดินมาหาหญิงสาว ใบหน้าเขาแดงด้วยฤทธิ์สุรา“อาซู... เห็นน้องสามหรือไม่”เนี่ยหยวนซูถอนหายใจเล็กน้อย และถามว่า “นี่คงไม่ใช่ว่า ท่านกับคุณชายสามจะวางแผน ร้ายๆ กับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวหรอกนะ”“โอ้มิได้ ไม่มีการมอมสุรา หรือใส่ยากำหนัดในอาหารทั้งนั้น อาซูก็รู้ บ่า
ตอนพิเศษของหมั้นต่างหน้าจิ่งหลัวคุนไม่ได้รับใช้ทางด้านทหารแคว้นเฉิงโจวมาได้เกือบสามปี และเขาดูมีความสุข หัวเราะบ่อยครั้ง ใบหน้าคมคายประดับรอยยิ้มให้เห็นบ่อยๆ แม้ตัวเขาเสียดายหลายสิ่งโดยเฉพาะประสบการณ์ที่สะสมมา แต่ชีวิตย่อมต้องเดินหน้าส่วนภรรยาเขา เนี่ยหยวนซูนั้นอยากเป็นเถ้าแก่เนี้ยคนดังดูแลการค้าทั่วทั้งอาณาจักรอันกว้างใหญ่ และปากบอกอยู่เสมอว่าไม่สนใจเขา ไม่ว่าจะทำสิ่งใดต่อจากนี้ให้จิ่งหลัวคุนเลือกเอง แต่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคืนตำแหน่งทางการทหารก็แอบเสียดายไม่ได้ ดังนั้นจึงต่อว่าเขาพอให้หายหงุดหงิดใจ ด้วยหากเขายังเป็นแม่ทัพแคว้นเฉิงโจว อย่างไรคงมีความสามารถเจรจาค้าขายกับทางการและแคว้นพันธมิตรได้“ตอนนี้ นอกจากเป็นลาโง่ ท่านยังเป็นฉลามตาบอด ว่ายน้ำไม่รู้ทิศทาง คิดอย่างไร ถึงทิ้งตำแหน่งทรงเกียรติแล้วมาเป็นโจรสลัด!”จิ่งหลัวคุนหัวเราะ และเอ่ยว่า“เป็นเพราะต้องการแบ่งเบาภาระภรรยา การค้าขายทางน้ำ นับว่าสำคัญ ข้าจึงอยากทำหน้าที่เป็นหน่วยพิเศษคุ้มครองสินค้าทุกอย่างที่เจ้าขายและต้องการซื้อหาให้ปลอดภัยที่สุด”“ฮึ... แล้วคิดว่า เงินที่ท่านหาได้จากการเป็นคนส่งของ มันจะพอให้ข้าถลุงเล่นหรือ”ชายหน
เนี่ยหยวนซูส่ายหน้า “อย่าเลย...จะเป็นการเสียเวลาโดยเปล่า ข้ากำลังต้องการคำตอบจากพ่อค้าเรือเหล่านี้ หากเขายินยอมขายให้ข้า พวกท่านจะได้ทำการเก็บอากรเพื่อเข้าหลวงอย่างถูกต้อง ในครั้งต่อไปสินค้าทุกอย่างที่มาถึงเมืองเป่ยซาน ไม่ว่าจะค้าขายสิ่งใดต้องจ่ายเงินเข้าหลวง!”น้ำเสียงเนี่ยหยวนซูฟังแล้วก็เด็ดขาด แต่นั่นคือการป้องกันปัญหาในภายภาคหน้า เพื่อไม่ให้ใครคิดเอาเปรียบ หรือนำสินค้าไร้คุณภาพมาหลอกขายในราคาที่สูงเกินกว่าเหตุเมื่อเนี่ยหยวนซูเอ่ยจบ ร่างสูงใหญ่ของบุรุษที่มีผมหยักสลวยเส้นเล็กสีปีกอีกา ก้าวลงมาจากเรือลำใหญ่ที่สุดดวงตาคมกริบจ้องมาที่เนี่ยหยวนซู ในวาบแรกที่สายตาคนทั้งคู่ประสานกัน เป็นเหตุให้หญิงสาวต้องหวั่นไหว“เอ...คนตัวโต ท่านเป็นใครถึงกล้ามองมารดาข้าเช่นนี้ ไม่กลัวข้าควักลูกตาท่านหรือ” จื่อเยว่เอ่ย และวางท่าราวกับเป็นผู้พิทักษ์เนี่ยหยวนซู“เยว่เอ๋อร์อย่าได้เสียมารยาทกับผู้อื่น”“มิได้นะท่านแม่...ข้าเป็นลูกย่อมต้องปกป้องท่าน จะให้บุรุษใดมามองเช่นนี้ ถูกต้องที่ไหนกัน”“ฮ่า ๆ ๆ ลูกของอาซูหรอกหรือ...มิน่า ถึงขี้เหร่เช่นเจ้า และยังเป็นแม่นางน้อยด้วย”คนผู้นั้นเอ่ยและหัวเราะชอบใจ“ไร้มา
บทส่งท้ายเนี่ยหยวนซูคาดไว้แล้วว่า เมื่อวันที่นางสามารถยืนด้วยลำแข้งของตน มีกิจการใหญ่โต ขยายสาขาไปมากมาย ย่อมมีวันที่สินค้าขาดแคลน และยามนี้ต้องผลิตถ่านที่ทั้งหอม ไร้ควัน ให้ความร้อนได้นาน ที่ต้องส่งเข้าคลังหลวงเพื่อเป็นของวังหลังโดยเฉพาะ แต่กลับขาดวัตถุดิบซึ่งก็คือไม้ดำหอม นอกจากนั้นยังมีชุดหนังกระดาษที่ใช้ในการรบยุคใหม่ เนื่องจากน้ำหนักเบาป้องกันสนิมได้ดีสำหรับเมืองติดแม่น้ำหรือชายทะเล“วันนี้จะมีเรือการค้าจากชาวต่างชาติ และเมืองทางใต้เข้ามาหลายลำ พวกเขาเป็นชาวเล สกุลเก่าแก่เจ้าค่ะ”เนี่ยหยวนซูได้ยินเรื่องนี้มาพักใหญ่ ทั้งเป็นปัญหาต่อการค้านางมิน้อย การค้าทางเรือยังไม่ได้มีการควบคุมดีพอ อีกทั้งมีสินค้าหลากหลาย ผู้คนให้ความสนใจทุกครั้งที่เดินทางมาถึงสร้างความตื่นตาตื่นใจต่อชาวเมือง ขุนนางน้อยใหญ่ และเศรษฐีต่างออกมาใช้เงินซื้อหาสิ่งของต่าง ๆ เข้าเรือน พลอยให้ช่วงเวลาดังกล่าวร้านค้าในเครือสกุลเนี่ยได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมานางจึงเปิดโต๊ะเจรจากับทางการ ขอให้สินค้าทุกชนิด ลงทะเบียนก่อนทำการซื้อขาย ในภายภาคหน้าต้องเข้าร่วมสมาคมของเมืองเป่ยซาน ก่อนนำมาวางขายได้ มิเช่นนั้นการค้าในเมืองนี้คงเ
เรียกข้าว่า เถ้าแก่เนี้ยเนี่ยหยวนซูทรุดลงไปกองบนพื้น นางกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้ แม้น้ำตาจะไหลออกมาไม่หยุด“แม่นมฝาน เสี่ยวฉุน บอกข้าได้หรือไม่ว่ายามนี้ข้าไม่ได้ฝันไป”หญิงสาวเอ่ยจบก็สลบไปด้วยไม่อาจทนรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นห้าปีต่อมา โรคระบาดที่เกิดจากไข้หวัดรุนแรงมาก คร่าชีวิตคนไปหลายหมื่น หนักสุดคือในเมืองหลวง กว่าจะพบยารักษาโรคและวิธีป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อ ทั่วทั้งแคว้นเฉิงโจวและแคว้นใกล้เคียงก็ย่ำแย่กันอย่างหนักผิดกับเมืองเป่ยซานที่มีทั้งโรงยา สำนักแพทย์ที่จัดตั้งขึ้น รวมถึงศูนย์สมุนไพร คราแรกไฉนผู้ใดจะเชื่อฟังเนี่ยหยวนซู ให้ดีนางก็เป็นเพียงแม่ค้าปากคอเลาะร้าย หวังกำไรจากผู้อื่น และมีเงินทองเหลือเฟือจากบิดา อีกทั้งปีแรกนางเริ่มขายน้ำเต้าหู้ โจ๊กห้าสหาย ของกินเล่น รวมถึงพวกหนังสือภาพลามก และยาช่วยให้สตรีวัยทองมีชีวิตชีวา รวมถึงเหล้าดองยากับสมุนไพรสำหรับบุรุษทุกวัยทว่าเข้าปีที่สอง นางกลับมีภัตตาคารกลางน้ำ โรงน้ำชาชื่อดังหลายโรง รวมถึงห้องพักชั้นเยี่ยม ถนนสายโลกีย์ที่สว่างทั้งกลางวันและกลางคืน ก็ล้วนเป็นชื่อนางที่ถือครองที่ดินพร้อมเก็บค่าเช่าโรคระบาดดังกล่าวแม้จะเข้ามาสู่เมืองเ
“มีสิ่งใดที่ข้าเคยทำแล้วเกี่ยวข้องกับฮ่องเต้เยี่ยงนั้นหรือ”“โอ้ เจ้าถามเช่นนี้ ไม่นึกถึงจิตใจข้าสักนิด สามีก็หวงและหึงเจ้าเป็นนะอาซู”เนี่ยหยวนซูพ่นลมหายใจอุ่น ๆ ใส่หน้าเขา และเอ่ยว่า“มันใช่เวลาที่ท่านพี่จะทำตัวเยี่ยงคนใจแคบรึอย่างไร เล่าทั้งหมดให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้”“ฮ่องเต้เมื่อครั้งเยาว์วัย เขามักปลอมเป็นคุณชายออกมาหาความสำราญเสมอ และร้านขายของของเจ้าบ้านเนี่ยคือสวรรค์สำหรับเขา นั่นจึงทำให้เจ้ากับเขาได้พบกันโดยบังเอิญหลายครั้ง แต่ฮ่องเต้ไม่เคยแสดงฐานะที่แท้จริง ด้วยในวัยเยาว์ เขาชอบอำพรางตนด้วยการสวมหน้ากาก”หญิงสาวยักไหล่ นางจำจดสิ่งที่อยู่ในวัยเด็กไม่ได้จริง ๆ“แค่พบกับข้าไม่กี่ครั้ง ฮ่องเต้ก็ทำเรื่องผิดใจไทเฮา จนฝ่ายนั้นจ้องเล่นงานข้า ถึงขั้นอยากเอาชีวิตเลยหรืออย่างไร”“นั่นเป็นเพราะ หากเจ้าได้เป็นฮองเฮาย่อมหมายความว่าไทเฮาก็ไม่อาจควบคุมฝ่าบาทได้ เพราะเขาจะมีทั้งอำนาจในมือ และเงินล้นเหลือ”เนี่ยหยวนซูหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเอ่ยกับอีกฝ่าย“แต่นางก็เลือกที่จะเก็บแม่งป่องพิษอย่างฟานเลี่ยงเอาไว้ แล้วตอนนี้คนผู้นั้นก็กำลังแว้งกัดไทเฮา”จิ่งหลัวคุนเลิกคิ้วขึ้นสูง อันที่จริงเขายังไม่ได
สุดท้ายเราก็หย่ากันเนี่ยหยวนซูลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ แม้ยังอ่อนเพลียแต่นางอยากทำอาหารเพื่อจิ่งหลัวคุน ฝ่ายเขากำลังฝึกวรุยทธ์อยู่ด้านนอก และนางเดินออกไปดูจึงเห็นว่าเขาสวมเพียงกางเกงผ้าบาง ๆ ด้านล่าง ส่วนบนเปลือยแผงอกกำยำ“เจ้าควรพักผ่อน อย่าเพิ่งรีบตื่นเลย”“มิได้ ภรรยาสมควรดูแลสามี หน้าที่นี้ใครก็ห้ามแย่งข้าทำ” บอกเขาเช่นนั้น สองแก้มก็ผะผ่าวร้อน และมือเรียวไม่รู้จะวางไว้ที่ใด“สักพัก ท่านพี่มาอาบน้ำด้วย ข้าจะให้คนต้มน้ำอุ่นไว้รอ”“วันนี้อากาศดี อาบที่ลำธารด้านล่างก็สดชื่นไม่ต้องให้ผู้อื่นยุ่งยากกับข้าหรอก”“มิได้ ท่านไม่ใช่เด็ก ๆ จะแก้ผ้าเล่นน้ำได้อย่างไรกัน”“เอ...เจ้าหวงสามีตั้งแต่เมื่อใดอาซู”เนี่ยหยวนซูถลึงตาใส่อีกฝ่ายแล้วเอ่ยว่า “หากท่านแก้ผ้าเล่นน้ำที่ลำธารได้ ภรรยาก็จะกระทำเช่นกัน”“ฮ่า ๆ ๆ อย่าทำเช่นนั้นเลยอาซู เกรงว่าฝนจะตกจนน้ำป่าท่วมทั้งเมืองนี้!”หญิงสาวฉุนจัด แต่ไม่อยากเข้าไปตอแยเพราะเกรงว่าหากใกล้ชิดกันอีกอาจเป็นนางที่ต้องการสัมผัสความแข็งแกร่งจากเรือนกายเขา รวมถึงแรงสิเน่หายามเขาโจนจ้วงความหวานล้ำแทรกผ่านเนื้อสาว ฝานเหอกับเสี่ยวฉุนต่างพากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สิ่งใดจะสุข