Home / แฟนตาซี / สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง / ตอนที่ 8 สัญญาแยกบ้าน และข้อเรียกร้องของหวังฉีหลิน

Share

ตอนที่ 8 สัญญาแยกบ้าน และข้อเรียกร้องของหวังฉีหลิน

last update Last Updated: 2024-12-04 12:56:47

 ทันทีที่เฟยจินไปตามหัวหน้าหมู่บ้านมาเพื่อเขียนสัญญาแยกบ้าน ในตอนที่บ้านหยางเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันนั้นย่อมตกอยู่ในสายตาของชาวบ้าน

เมื่อหยางเฟยจินวิ่งหน้าตั้งไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน ขากลับมาพร้อมหัวหน้าหมู่บ้านจึงมีชาวบ้านตามมาเป็นพยานเป็นจำนวนมาก จะกล่าวว่ามาช่วยเป็นพยานก็คงจะไม่ใช่ทั้งหมดหากแต่เพื่อสนองต่อความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองเสียมากกว่า

ชาวบ้านหลายคนตามมาดูเพื่อสนองความต้องการของตัวเองและเพื่อให้ได้มีเรื่องนำไปซุบซิบนินทาในแต่ละวัน ในขณะที่รอหัวหน้าหมู่บ้าน หวังฉีหลินได้เริ่มมีปากเสียงกับหยางฮุ่ยเหอโดยมีพ่อสามีและน้องสาวของสามี ยืนมองอ้าปากค้าง 

ต่างคนต่างความคิด นี่เป็นลูกสะใภ้ตัวปลอมของเราแน่ ๆ ทำไมนางถึงได้กล้าที่จะมีปากเสียงกับพี่ชายของเขา แถมยังลงไม้ลงมือกับพี่สะใภ้และบรรดาลูกชายและลูกสะใภ้บ้านใหญ่อีกด้วย

“ตกลงว่ายังไงเจ้าคะท่านลุง ท่านจะยอมคืนสินเดิมของท่านแม่และของข้าหรือไม่ หากไม่คืนข้าจะทุบตีภรรยาท่าน จนกว่าท่านจะยอมคืน”

“หวังฉีหลิน มันจะมากไปแล้วนะ นี่เจ้าไม่เห็นหัวข้าที่เป็นผู้อาวุโสของบ้านหรืออย่างไร นอกจากเจ้าจะไม่ให้เกียรติภรรยาของข้าแล้วเจ้ายังมาลามปามข้าอีก พ่อแม่สามีเจ้าสั่งสอนมาเช่นนี้รึ”

“ผู้อาวุโส ? ท่านลุงเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโสของบ้านหรือเจ้าคะ นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสสมควรกระทำแล้วหรือเจ้าคะ หลายปีมานี้ท่านปฏิบัติต่อท่านพ่อสามีของข้าเช่นไรบ้าง ท่านเคยคิดหรือไม่ว่านั่นคือน้องชายแท้ ๆ ของท่าน ท่านพ่อสามีของข้าครอบครัวของข้าทำงานในแปลงนามากกว่าลูกชายท่านและท่านอีก แต่ส่วนแบ่งอาหารพวกเรากลับได้น้อยนิด สามีของข้าไปทำงานในเมืองได้รับบาดเจ็บกลับมาเมื่อนายจ้างจ่ายค่าสินไหมมา เมียของท่านกลับยึดเอาเงินนั้นไปเป็นของตัวเองนี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสกระทำหรือเจ้าคะ นี่คือสิ่งที่ท่านเห็นว่าสมควรหรือ ”

“ท่านพี่จะไปพูดกับมันทำไมเจ้าคะ รีบจัดการมันสิเจ้าคะข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว”

“จัดการหรือได้ ๆ ข้าจะจัดการเจ้าเดี๋ยวนี้ป้าสะใภ้มหาภัย” ฉีหลินเสยปลายคางนางหลินสลบเหมือด ส่วนลูกชายทั้งสองคนนั้นแกล้งตายไปเพราะไม่อยากโดนทุบตีอีก หากว่าพวกเขาลุกขึ้นจะต้องโดนนางอันธพาลฉีหลินทุบตีอีกแน่ ๆ

แต่เดิมทีพวกเขาไม่คิดจะลงมือกับนางอยู่แล้ว พวกเขาแค่ยืนดูอยู่เงียบ ๆ ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับท่านพ่อท่านแม่ที่เอารัดเอาเปรียบครอบครัวอารอง แต่พวกเขาจะทำอะไรได้ในเมื่ออำนาจในบ้านถือว่าท่านแม่เป็นใหญ่

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านมาถึงและเห็นว่าเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เมื่อฉีหลินเริ่มทุบตีป้าสะใภ้อย่างนางหลินโดยไร้ความปราณีเหตุเพราะไม่ยอมคืนสินเดิมให้นางและแม่สามีนาง จนเขาต้องรีบห้ามทัพก่อนที่จะมีใครสักคนตกตาย

“ฉีหลิน หยุดก่อน เจ้าใจเย็น ๆ วางนางหลินลงก่อนเถอะประเดี๋ยวนางได้ตายก่อนพอดี"

“ตกลงว่าพวกเจ้าต้องการแยกบ้านกันใช่หรือไม่”

“ใช่ขอรับหัวหน้าหมู่บ้าน ข้ารบกวนท่านเขียนหนังสือแยกบ้านให้ด้วยขอรับ และเขียนเอาไว้ด้วยว่าต่อไปนี้ข้ากับพี่ใหญ่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ส่วนทรัพย์สินข้าขอสินเดิมของลูกสะใภ้ข้าและของภรรยาข้าคืนขอรับ จากนี้ไปพวกเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก ไม่ว่ายากดีมีจนก็ไม่มีอันใดเกี่ยวข้องกันอีกขอรับ”

“ได้ ๆ ข้าจะเขียนให้เดี๋ยวนี้ ส่วนเจ้าล่ะฮุ่ยเหอมีอะไรจะพูดหรือไม่”

“ไม่มีขอรับ แต่จะมาเรียกร้องเอาสินเดิมคืนข้าให้คืนได้เท่าที่มีอยู่ นอกเหนือจากนั้นข้าไม่อาจหาคืนมาให้ได้ กินใช้ด้วยกันแท้ ๆ เนรคุณจริง ๆ"

“เดี๋ยวเจ้าค่ะ ยังมีอีก ปิ่นทองสินเดิมของข้า ข้าต้องการคืนด้วยเจ้าค่ะ สิ่งใดที่เป็นสินเดิมของข้าจะต้องคืนให้ข้าจนครบ”

“นี่หวังฉีหลินข้าก็บอกแล้วไงปีนั้นที่บ้านขาดเงินตอนเอาของออกไปขายทำไมเจ้าไม่คัดค้านพอมาตอนนี้จะให้ข้าไปหาที่ไหนมาคืนเจ้า” หยางฮุ่ยเหอเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่ถูก

“แล้วก็ท่านลุงเมิ่งท่านเขียนลงไปด้วยว่า ต่อไปนี้หากพวกเขาเดินเข้ามาในบ้านของพวกข้าแม้แต่ก้าวเดียวถือว่าบุกรุกและข้าสามารถทุบตีพวกเขาได้โดยไม่มีความผิด”

“ได้ ๆ ข้าจะเขียนให้ตามที่เจ้าว่ามา”

“มีอีกเรื่องเจ้าค่ะ พวกเราจะอาศัยอยู่ที่นี่จนกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ได้ และคนบ้านใหญ่ไม่มีสิทธิ์มาขับไล่พวกข้าออกไปจากบ้านก่อนเวลาเจ้าค่ะ”

“ได้ ข้าจะเขียนให้ ใครยังมีอะไร ก็พูดมาให้หมดเสียทีเดียว ”

“ข้อสุดท้ายเจ้าค่ะท่านลุงเมิ่ง บ้านใหญ่ต้องแบ่งเงินส่วนกลางให้พวกข้าครึ่งหนึ่งและต้องคืนเงินสินไหมที่ท่านเศรษฐีจ่ายค่ารักษาสามีข้าคืน รวมถึงปิ่นที่อยู่บนหัวของป้าสะใภ้และลูกสาวอีกทั้งลูกสะใภ้ของนางด้วย นั่นเป็นสินเดิมของข้า”

“นังฉีหลินมันจะมากไปแล้วนะ จะเรียกร้องมากไปแล้ว”

“มากไป? อะไรที่ว่ามากไปเจ้าคะ ของก็ของข้าหน้าท่านช่างหนานัก”

“เอาล่ะ ๆ ตกลงตามนี้ พวกเจ้าคืนของให้นางและแม่สามีนางเสียไม่เช่นนั้นคงได้ไปตกลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ทางการ”

“จำเอาไว้นะหากข้ารู้ว่ามีใครคิดรังแกน้อง ๆ และลูก ๆ ของข้า สามีข้า พ่อแม่สามีข้า ข้าจะทุบตีพวกเจ้าจนพวกเจ้าอยู่ไม่สู้ตาย จำคำข้าเอาไว้เสียด้วย ที่ข้าเป็นอยู่ในตอนนี้เพราะพวกเจ้า เจ้า เจ้า และเจ้าทั้งหลาย บีบบังคับให้ข้าต้องกลายเป็นคนเช่นนี้ แล้วอย่ามาหาว่าข้าร้ายก็แล้วกัน"

หลังจากที่ได้สินเดิมคืนแม้มันจะไม่ครบแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้กลับคืนมา ส่วนเงินส่วนแบ่งได้มา 50 ตำลึงถือว่าน้อยมากแต่ยังดีกว่าไม่ได้ ส่วนลูกชายฝาแฝดของฉีหลินที่แอบดูเหตุการณ์อยู่นอกประตูเมื่อเห็นมารดาของตัวเองลงมือทุบตีคนบ้านท่านปู่ใหญ่ ทำให้เด็กน้อยทั้งสองคนรู้สึกว่าท่านแม่ของพวกเขาช่างเก่งกาจเสียจริง

“โตขึ้นมาข้าจะเอาอย่างท่านแม่ล่ะ” หยางหนิงเฉิง

“ใช่ท่านแม่ของข้าเก่งที่สุด ต่อไปพวกเราไม่ต้องกลัวใครจะมารังแกแล้ว ข้าคิดว่าแม้แต่ท่านพ่อยังไม่เก่งเท่าท่านแม่เลย” หยางหนิงเจี้ยน

“ใช่ ๆ ข้าเห็นด้วยกับเจ้านะอาเจี้ยน เราไปขอให้ท่านแม่สอนการต่อสู้ให้ดีหรือไม่”

“ย่อมดีอยู่แล้วสิ ต่อไปใครกล้ารังแกข้า ข้าจะอัดให้เละเลยล่ะ หึ หึ"

“พวกเจ้าสองพี่น้อง เข้ามาได้แล้วระวังท่านย่าของพวกเจ้ากลับมาก่อนเถอะ ท่านย่าบอกให้อยู่แต่ในบ้านไม่ใช่หรือ”

“อ๊ะ ท่านพ่อ ถ้าท่านพ่อไม่บอกท่านย่าไม่รู้หรอกขอรับ แต่ท่านแม่เก่งจริง ๆ นะขอรับท่านพ่อ”

“ท่านแม่ของลูกย่อมเก่งอยู่แล้วสิ ไม่เก่งแล้วพ่อจะหลงรักนางหรือ”

หลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านอยู่เป็นพยานในการแยกบ้านและมอบหนังสือสัญญาแยกบ้านเอาไว้ให้คนละฉบับส่วนอีกฉบับเขาจะนำไปส่งทางการพรุ่งนี้ให้เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกและลบชื่อออกจากผังตระกูล โดยหยางเทียนฉีเองพรุ่งนี้จะต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อขอทะเบียนบ้านใหม่ด้วยเช่นเดียวกัน

“เอาล่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าทั้งสองฝ่ายโปรดทำตามข้อตกลงและรักษาสัญญาด้วย หมดหน้าที่ของข้าแล้วข้ากลับก่อนก็แล้วกันหากมีเรื่องอะไรต้องการให้ข้าช่วยเหลือก็ไปหาข้าได้ ข้าดีใจด้วยนะเทียนฉีในที่สุดก็หลุดพ้นเสียที”

“ขอบคุณท่านลุงเมิ่งมากขอรับ”

หลังจากที่ได้คืนทรัพย์สินที่ยึดมาเป็นของตัวเองอย่างไม่เต็มใจแล้ว นางหลินพร้อมด้วยลูกสะใภ้และลูกสาวก็ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวัน ส่วนลูกชายทั้งสองเมื่อเห็นว่าคนบ้านสองกลับไปแล้วก็รีบลุกขึ้นทันที

“โอย ข้าตกใจจะแย่แล้วพี่ใหญ่” หยางฮุ่ยหมิ่น

“ใช่ ข้าตกใจมาก ทำไมเมียเฟยเทียนถึงได้บ้าเลือดขนาดนี้ ข้าโดนนางถีบกระเด็นจุกเสียจนลุกไม่ขึ้น ตัวนางก็เท่านั้นไปเอาแรงมาจากไหนกัน” หยางฮุ่ยเจียง

“จะอะไรก็ช่างเถอะพี่ใหญ่ต่อไปนี้ ท่านกำชับพี่สะใภ้อย่าให้ไปหาเรื่องพวกนางอีก ที่ท่านแม่ทำกับครอบครัวอารองมาหลายปีมันก็เกินพอแล้ว ถึงเราจะห้ามท่านแม่ไม่ได้แต่เราห้ามเมียตัวเองได้ ข้าก็จะบอกเมียข้าเหมือนกันต่อไปนี้อย่าได้ไปยุ่งกับคนบ้านนั้นอีก หากเกิดอะไรขึ้นมาข้าเองก็ไม่สามารถช่วยได้หรอกนะขอรับ”

“อืม ส่วนท่านแม่ก็แล้วแต่นางเถอะ เราจะพูดอะไรก็ไม่ได้”

“เข้าบ้านกันเถอะ”

หยางเทียนฉีและนางเจียงเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยความรู้สึกหลากหลาย การที่ได้แยกบ้านนั้นนับว่าเป็นเรื่องดี แต่ใครจะไปคิดว่าจากที่ตอนแรกไปขอแยกบ้านพูดจากันด้วยเหตุผล แต่บ้านใหญ่กลับไม่ยอมเสียอย่างนั้น

แต่พอมาวันนี้ ลูกสะใภ้ตัวเองกลับไปทุบตีคนบ้านใหญ่และยังขอแยกบ้านได้สำเร็จอีกทั้งยังได้สินเดิมกลับมาด้วยถึงแม้ว่ามันจะไม่ครบก็ตามที ที่สำคัญลูกสะใภ้ของเขาต่อสู้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หรือนี่ไม่ใช่ลูกสะใภ้ของเขาแต่จะว่าใช่ก็ใช่ไม่ใช่มันก็ไม่ใช่

“ท่านพี่คิดอันใดอยู่หรือเจ้าคะ”

“ข้าคิดว่าลูกสะใภ้แปลกไปหรือไม่น่ะ ดูนางเปลี่ยนไปตั้งแต่ตกเขา”

“นางเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนี่เจ้าคะ ดีกว่าเมื่อก่อนที่ยอมก้มหน้าให้ตัวเองถูกรังแก”

“อืม หรือนางตกร่องเขา แล้วได้พบกับท่านเทพกันนะ ท่านเลยสงสารพร้อมกับมอบความกล้าให้นาง”

“ท่านพี่ ท่านเพ้อเจ้ออันใดเจ้าคะ ไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้นเจ้าค่ะ นางคือนางไม่ใช่คนอื่นที่สำคัญนางคือลูกสะใภ้ของท่านและยังเป็นลูกสาวของสหายรักของท่านและเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ท่านอย่าได้คิดว่านางเป็นคนอื่น หากอีก 100 ปีข้างหน้าท่านได้พบกับสหายของท่านในปรโลก ท่านจะบอกสหายท่านว่าลูกของเจ้าไม่ใช่ลูกของเจ้าแต่เป็นใครก็ไม่รู้หรือเจ้าคะ เลิกคิดไร้สาระได้แล้วเจ้าค่ะ”

“ท่านพ่อขอรับ พวกเราจะย้ายออกตอนไหน ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่เลยแม้แต่วันเดียว” หยางเฟยจิน

“พ่อก็อยากย้ายออก เอาแบบนี้ก็แล้วกันพรุ่งนี้เราไปแผ้วถางที่ดินสินเดิมแม่ของเจ้าที่เชิงเขาแล้วเราค่อยสร้างบ้านดินขึ้นมาอยู่ชั่วคราวไปก่อนดีหรือไม่”

“ดีขอรับ”

ในห้องครัวฉีหลินที่กำลังอารมณ์ดี ตอนนี้กำลังลงมือทำอาหารมื้อใหญ่เลี้ยงฉลองให้กับชัยชนะของนางในวันนี้โดยมีลูกชายทั้งสองคนคอยเป็นลูกมือ

“เจี้ยนเอ๋อร์ ผักที่แม่ให้ล้างได้หรือยัง”

“ได้แล้วขอรับท่านแม่ นี่ขอรับ”

“ท่านแม่จะทำอะไรให้พวกเรากินหรือขอรับ แล้วมีส่วนของท่านพ่อหรือไม่ขอรับ” หยางหนิงเฉิงถามมารดาออกมายาวเหยียด

“แม่จะทำน้ำแกงไก่ให้พ่อของเจ้าก่อน ลูกอยากกินอะไรล่ะซาลาเปาเนื้อดีหรือไม่ ”

“ดีขอรับแต่บ้านเราไม่มีเนื้อนี่ขอรับ จะเอาเนื้อที่ไหนมาทำซาลาเปา”

“เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยไปซื้อเนื้อมาทำ แม่สัญญาว่าจะทำให้พวกเจ้ากินแน่นอน แต่ตอนนี้กินเท่าที่มีไปก่อนนะลูก”

“ขอรับท่านแม่ ”

ฉีหลินได้แต่คิดในใจว่าจะเอาอะไรออกมาจากมิติก็ไม่ได้ ต้องรอให้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่เสียก่อนอีกทั้งตอนนี้นางยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยความลับให้ทุกคนได้รับรู้ พรุ่งนี้คงต้องเอาเห็ด 3 ดอกไปขายในเมืองเสียแล้ว

Related chapters

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 9 สาเหตุแห่งความเคียดแค้นของหยางฮุ่ยเหอ

    บ้านใหญ่ตระกูลหยางหลังจากที่บ้านสายรองได้ทำการแยกบ้านออกไปแล้วนอกจากนี้นางหลินยังต้องคืนสินเดิมให้กับหวังฉีหลินกลับไปและยังมีที่ดินที่เป็นสินเดิมของนางฟางด้วย เรื่องนี้ทำให้นางหลินไม่พอใจเป็นอย่างมาก คนพวกนี้มีความกล้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันเรื่องสินเดิมของนางฟางนั้นถูกแม่สามีของนางนำไปใช้จ่ายจนหมดตั้งแต่สมัยแม่สามีของนางยังมีชีวิตอยู่พอหวังฉีหลินแต่งเข้ามานางจึงลอกเลียนแบบแม่สามีของตนเองโดยทำการยึดเอาสินเดิมของหวังฉีหลินมาเก็บเอาไว้โดยอ้างว่าสินเดิมของทุกคนต้องนำมาเก็บรวมกันที่บ้านใหญ่ถึงแม้ว่าหวังฉีหลินจะไม่ได้เป็นลูกสะใภ้ของนางก็ตาม แล้วตอนนี้นางจะทำยังเช่นไรล่ะนอกจากจะต้องคืนของแล้วนางยังต้องมาเจ็บตัวเองไม่รู้ว่านังฉีหลินถูกวิญญาณร้ายที่ไหนเข้าสิงมาถึงได้กล้าลงมือกับนางขนาดนี้ ไม่ใช่แค่นางยังมีลูกสะใภ้และลูกชายของนางด้วยต่อไปนี้คงรังแกคนพวกนั้นไม่ได้อีกแล้วแต่ด้วยนิสัยของนางหลินย่อมต้องหาโอกาสแก้แค้นอยู่แล้วแต่จะแก้แค้นสำเร็จหรือไม่ก็ต้องดูด้วยว่านางหลินมีความสามารถที่จะแก้แค้นหรือให้สำเร็จหรือไม่“เจ็บใจจริง ๆ แล้วแบบนี้สินเดิมของข้าล่ะท่านแม่จะทำยังไง ของก็คืนให้นังฉีหลินไปหมดแล

    Last Updated : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 10 เข้าเมือง

    เช้าวันใหม่หลังจากกินมื้อเช้าแล้วครอบครัวหยางสายรองเข้าเมืองโดยอาศัยเกวียนของหัวหน้าหมู่บ้านที่จะเดินทางเข้าเมืองเพื่อนำหนังสือแยกบ้านไปยื่นให้กับทางการทำการลงบันทึก และหยางเทียนฉีเองก็ต้องยื่นขอทะเบียนบ้านใหม่และแจ้งย้ายที่อยู่ไปในเสียคราวเดียวกัน“เทียนฉีเจ้าคิดดีแล้วหรือที่จะพาลูกเมียไปอยู่ที่ชายป่าหมอกทมิฬ”“ข้าคิดดีแล้วขอรับท่านลุงเมิ่ง มันอาจจะดีกว่าอยู่ที่นี่ขอรับ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้จะคิดทำอะไรอีก ที่ผ่านมาข้าทนมาพอแล้วขอรับ ทนแบกรับคำว่ากตัญญูเอาไว้บนบ่าจนลูกเมียต้องพลอยมาลำบากไปด้วย”“เจ้าคิดได้ก็ดีแล้วแต่ชายป่าหมอกทมิฬอันตรายมากนะ ข้ากลัวว่าสัตว์ป่าจะลงมาแล้วพวกเจ้าจะเป็นอันตราย”“ข้าคิดว่าจะทำกำแพงบ้านให้สูงหน่อยขอรับ”“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วข้าก็เอาใจช่วยและดีใจด้วยที่เจ้าหลุดพ้นจากตรงนี้ไปได้เสียที”“ขอรับ ขอบคุณท่านมาก”“พวกเจ้าพี่น้องอย่าได้เอาลุงใหญ่ของเจ้ามาเป็นเยี่ยงอย่างรู้หรือไม่ พี่น้องกันย่อมต้องรักใครปรองดองกัน”“ขอรับ ท่านลุงเมิ่ง”"เจ้าค่ะ ท่านลุงเมิ่ง"“ถึงพวกเจ้าจะย้ายไปแล้วหากมีอะไรให้ข้าช่วยก็มาบอกกับข้าได้ทุกเมื่อนะ หากมีอะไรที่ข้าช่วยได้

    Last Updated : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 11 เข้าป่าหมอก

    ครอบครัวหยางสายรองกลับมาถึงบ้านก็พบว่าหยางฮุ่ยเหม่ยกำลังทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หน้าประตูบ้าน ก่อนออกจากบ้านฉีหลินได้ใส่กุญแจเอาไว้โดยปกติแล้วหากไม่มีคนอยู่ในบ้าน หยางฮุ่ยเหม่ยจะใช้โอกาสที่ทุกคนทำงานอยู่ในแปลงนาเข้ามาหยิบจับและฉกฉวยเอาสิ่งของที่มีในบ้านสายรองไป นางทำเช่นนี้หลายต่อหลายครั้งและมีปากเสียงกันก็บ่อยครั้งแต่พี่ชายของเขาอ้างว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแค่หยิบของมาเล็กน้อยจะเป็นอะไรได้ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าเขาเป็นคนใจแคบอีกด้วยฉีหลินไม่ปล่อยโอกาสที่จะได้ทุบตีคนให้หลุดมือไป ในเมื่อนางระบุเอาไว้ในสัญญาแยกบ้านชัดเจนแล้วแต่เหมือนว่าหยางฮุ่ยเหม่ยจะจำไม่ได้แบบนี้จะต้องมีการทุบตีเตือนสติกันเสียบ้างยังไม่ทันที่จะได้มีใครพูดอะไรหวังฉีหลินเดินเข้าไปด้านหลังของหยางฮุ่ยเหม่ยอย่างแผ่วเบา โดยที่ฮุ่ยเหม่ยไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าบ้านสายรองกลับมาแล้ว เพราะใจมัวแต่จดจ่อหาวิธีเข้าไปรื้อค้นของในบ้านจึงไม่รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองฉีหลินยกเท้าขึ้นถีบไปที่ก้นของนาง จนทำให้นางที่ไม่ทันได้ระวังตัวล้มหน้าทิ่มพื้นลงไปทันที และก็ตามมาด้วยเสียง ตุ๊บ ตั๊บ ๆ อยู่เป็นระยะ ฮุ่ยเหม่ยทำได้แค่กรีดร้อง

    Last Updated : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 13 สมาชิกใหม่

    หลังจากที่ทุกคนเข้ามาในบ้านแล้วสองแฝดเพิ่งจะเห็นว่าในตะกร้าที่ท่านแม่ของพวกเขาสะพายอยู่นั้นมีก้อนอะไรกลม ๆ ขาว ๆ อยู่ ด้วยความสงสัยเจี้ยนเอ๋อร์จึงได้เอ่ยปากถามมารดาของตัวเองในสิ่งที่เขาสงสัยทันที“ท่านแม่ขอรับท่านแม่ อะไรอยู่ในตะกร้าของท่านแม่หรือขอรับ ขอข้าดูหน่อยได้หรือไม่ หรือว่าจะเป็นกระต่ายหรือขอรับ”“อ่อ เจ้านี่หรือ มันชื่อเสี่ยวหลาง แม่ไปเจอมันอยู่ตัวเดียวในป่าเลยพามันกลับมาด้วย ต่อไปนี้มันจะมาอยู่กับพวกเราเป็นสมาชิกในบ้านของเรา ลูกต้องช่วยกันดูแลและห้ามรังแกมันเด็ดขาด”“ว้าว หมาล่ะ ลูกหมาล่ะ เฉิงเอ๋อร์ชอบมันที่สุดเลยขอรับท่านแม่ ”“เอาล่ะ ๆ ถ้าลูกชอบก็ดูแลมันให้ดี ๆ ล่ะ ไปอาบน้ำกันได้แล้ว”“ขอรับ เสี่ยวหลางเจ้าก็ต้องอาบน้ำด้วยนะ ถ้าเจ้าไม่อาบน้ำเจ้าต้องไปนอนนอกบ้าน” เจี้ยนเอ๋อร์“พวกเจ้ารออารองด้วย อารองไปอาบด้วยคน”“ท่านแม่เจ้าคะวันนี้ท่านพี่เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”“เฟยเทียนอาการดีขึ้นไม่น้อย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงนะ”“เจ้าค่ะท่านแม่ วันนี้ข้าคุยกับท่านพ่อแล้ว ให้ว่าจ้างช่างจากในเมืองมาช่วยสร้างบ้านให้พวกเราอยู่ชั่วคราวไปก่อน น้องรองเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ข้าเองก็ไม่วางใจหากข

    Last Updated : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 14 กุ้ยฮวารนหาที่

    หลังจากผ่านเหตุการณ์อันแสนวุ่นวายไปแล้วทุกคนถึงได้เริ่มลงมือกินมื้อเช้า หลังจากจบมื้ออาหารเช้าวันนี้ฉีหลินจะเป็นคนไปเยี่ยมสามีของนางที่โรงหมอส่วนน้องชายน้องสาวทั้งสองคนจะอยู่ช่วยกันเก็บของที่จำเป็นใส่หีบ ถึงเวลาย้ายออกไปจะได้ง่ายขึ้นแม่สามีวันนี้จะอยู่เลี้ยงหลานที่บ้าน ตอนนี้บ้านสายรองไม่จำเป็นต้องไปทำงานในแปลงนา เพราะพวกเขาไม่ได้ส่วนแบ่งที่นา ส่วนข้าวที่ปลูกไปแล้วพอถึงเวลาเก็บเกี่ยวบ้านใหญ่ก็คงจะไม่แบ่งให้พวกเขาอยู่แล้วในเมื่อไม่มีส่วนแบ่งเป็นของตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องไปลงแรงให้เปล่าประโยชน์ ลูก ๆ ของนางวันนี้ดูพวกเขาจะมีความสุขมากในบ้านมีแต่เสียงหัวเราะเพราะมีเพื่อนใหม่ถึงสามตัวเสี่ยวเฮยนั้นทำตัวเองให้เป็นเก้าอี้เพื่อให้เฉิงเอ๋อร์นั่ง ส่วนเสี่ยวหู่นั้นนอนมองเจี้ยนเอ๋อร์ขี่หลังเสี่ยวหลาง บางครั้งมันก็ให้เจี้ยนเอ๋อร์ขี่หลังมันบ้าง แต่เพราะกลัวจะมีคนเห็นว่ามันเป็นเสือมันจึงได้เพียงย่อขนาดให้เท่ากับลูกแมวและไปตามออดอ้อนแม่สามีเพื่อขอของกิน“เสี่ยวเฮยเราไปหาท่านย่าที่ห้องครัวกันเถอะ” เสียงเล็ก ๆ ของเฉิงเอ๋อร์ชวนสหายตัวใหม่เพื่อไปขอขนมท่านย่ากิน“ใช่แล้ว เสี่ยวหลางเราเองก็ไปกันเถอะ เดี๋ย

    Last Updated : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 15 พาสามีกลับบ้าน

    ฉีหลินออกมาคุยกับท่านหมอที่รักษาสามีของนางเพื่อแจ้งแก่ท่านหมอว่านางจะพาสามีกลับไปพักฟื้นที่บ้าน เมื่อแจ้งความประสงค์กับท่านหมอแล้ว ฉีหลินได้รับเงินจากโรงหมอคืนเป็นเงิน 30 ตำลึง เมื่อจัดการเรื่องค่าหมอค่ายาเสร็จแล้ว ฉีหลินมุ่งหน้าไปเช่าเกวียนเพื่อมารับสามีนางกลับไปรักษาตัวที่บ้านทันที ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามีของนางฟื้นตัวได้เร็วนั้นเพราะน้ำพุวิญญาณที่นางแอบนำมาผสมน้ำให้สามีดื่มอยู่เป็นประจำอีกทั้งน้ำกินน้ำใช้ที่บ้านย่อมผสมน้ำพุวิญญาณลงไปด้วย ตอนนี้แม่สามีของนางเองดูเหมือนจะแข็งแรงขึ้นมาจากปกติร่างกายที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ ของนาง หลังจากได้ดื่มกินน้ำผสมน้ำพุวิญญาณทำให้ร่างกายของนางแข็งแรงขึ้นฉีหลินออกไปได้ไม่นาน นางก็กลับมาพร้อมเกวียนเพื่อมารับเฟยเทียนกลับบ้าน ตอนนี้เขาเดินได้แล้วแต่ไม่สามารถเดินนาน ๆ ได้ ตอนแรกเขาหมดหวังแล้วเพราะป้าสะใภ้ยึดเอาเงินไปและไม่ยอมให้หมอรักษาเขา เขาคิดว่าตัวเองคงจะกลายเป็นคนป่วยพิการนอนติดเตียง อยู่เป็นภาระลูกเมียและพ่อแม่เสียแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็สามารถมารักษาและหาหมอทัน เป็นเพราะภรรยาของเขาที่ต่อสู้เพื่อครอบครัว ในวันที่เขาเห็นน้องชายน้องสาวพาภรรยาที่บาดเจ็บก

    Last Updated : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 16 เริ่มเลี้ยงดูสามี

    ฉีหลินและเฟยจินกลับมาถึงบ้านทั้งสองคนนำปลาไปใส่ถังโอ่งดินใบเล็ก ๆ เอาไว้ก่อนจากนั้นฉีหลินก็นำใบบัวไปล้างให้สะอาดพักเอาไว้ ส่วนกุ้งนางกำลังคิดว่าจะทำอะไรกินดี กุ้งแม่น้ำตัวโตขนาดนี้ทำไมคนที่นี่เรียกปลาเปลือกแข็งกัน ถ้ากุ้งเรียกปลาเปลือกแข็งแล้วถ้าเป็นปูล่ะจะเรียกว่าอะไร คงไม่เรียกว่าปลากระดองแข็งหรอกใช่ไหม ฉีหลินหัวเราะคิกคักกับความคิดไร้สาระของตัวเองแต่เอาเข้าจริงคนที่นี่เรียกปูว่าปลากระดองแข็งจริง ๆ นี่คือสิ่งที่ฉีหลินรับรู้ในเวลาต่อมาฉีหลินจะทำข้าวห่อใบบัวแต่เครื่องปรุงอาจจะไม่ครบ เช่นนั้นก็มาดัดแปลงเอาตามของที่มีก็แล้วกัน นางเดินเข้าไปในครัวไม่รู้ว่าที่โลกแห่งนี้จะมีเผือกหรือยัง เพราะความทรงจำบางส่วนขาดหายนางจึงไม่แน่ใจว่ามีหรือยังถึงจะไม่แน่ใจว่ามีหรือไม่มี แต่ในมิตินางมีในเมื่ออยากกินต้องได้กิน ฉีหลินเริ่มต้นด้วยการแกะกุ้งพักเอาไว้ จากนั้นก็ไปหุงข้าว นำเผือกออกมาหั่นเต๋าเอาไว้ ในห้องครัวมีแครอทพอดีนางนำมาหั่นเต๋าเอาไว้เช่นเดียวกัน“แล้วเราจะใส่กุนเชียงดีหรือไม่ ถ้าไม่ใส่ก็จะไม่อร่อยน่ะสิ แต่ถ้าใส่จะตอบคำถามทุกคนว่ายังไงดี โอ้ยย ปวดหัวจริง ๆ อึดอัดจะแย่แล้ว ใส่ ๆไปเถอะงั้นก็เรื

    Last Updated : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 17 ย้ายบ้านกันเถอะ

    นับตั้งแต่ฉีหลินพาสามีกลับมารักษาตัวที่บ้านตอนนี้เวลาก็ผ่านไปแล้วหลายวัน เช้าวันนี้หลังจากกินมื้อเช้าพวกเขาจะย้ายบ้านไปอยู่ที่หมู่บ้านป่าหมอกกันแล้วคนที่ดีใจที่สุดที่จะได้ย้ายบ้านไม่ใช่ใครที่ไหนแต่หากเป็นหยางเฟยจินผู้ที่หวังมานานว่าจะได้ย้ายไปจากตรงนี้เสียที อย่างน้อย ๆ ครอบครัวของเขาจะได้ไม่โดนเอาเปรียบและถูกป้าสะใภ้รังแกเช่นที่ผ่านมา“พวกเจ้าเร่งมือกันหน่อยประเดี๋ยวสายแล้วจะร้อนเอาได้” หยางเทียนฉีเร่งลูกเมีย“ท่านพี่ท่านขนของพวกนี้ขึ้นเกวียนไปเถอะ แล้วให้อาเทียนนั่งไปกับท่านส่วนข้าจะเดินไปกับลูกสะใภ้และหลาน ๆ เอง” นางฟางบอกผู้เป็นสามี“เจ้าจะเดินไหวหรือ เอาเช่นนี้ดีหรือไม่เราจ้างเกวียนบ้านลุงเมิ่งไปส่งพวกเจ้าดีกว่า จะเดินทำไมให้เหนื่อย”“เอาแบบนั้นก็ได้เจ้าค่ะ ท่านรีบไปบ้านท่านลุงเมิ่งเถอะ”ในตอนที่คนบ้านหยางจัดแจงข้าวของกันอยู่นั้น นางหลินที่ตอนนี้รักษาตัวหายดีแล้วก็เดินมาที่บ้านหยางสายรองเพื่อดูว่าคนพวกนี้ย้ายออกไปจริงหรือไม่ และหยิบจับอะไรตัดไม้ติดมือไปด้วยหรือเปล่า“เหอะรีบ ๆ ไสหัวของพวกเจ้าออกไปจากบ้านของข้า และอย่าได้หยิบอะไรของข้าติดไม้ติดมือไปเป็นอันขาดจะหาว่าข้าไม่เตือน”“

    Last Updated : 2024-12-04

Latest chapter

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 130 ความสุข

    ในตอนที่ประมุขมารได้ตายไปพร้อมกับดวงจิตที่แตกสลาย แต่ทว่ากลับไม่ได้แตกสลายไปทั้งหมด ยังมีดวงจิตอีกเสี้ยวได้หลุดลอยไปเกิดใหม่ในอีกภพชาติหนึ่ง เกิดใหม่เป็นมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถระลึกชาติได้ ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร เพียงใช้ชีวิตเรียบง่ายเพียงเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ประมุขมารร่ำร้องขอความเมตตาจากสวรรค์ก่อนที่เข้าจะแหลกสลายไปหวังฉีหลินและเฟยเทียนกลับถึงหมู่บ้านป่าหมอก ทุกอย่างนางไม่คิดว่าจะง่ายดายถึงเพียงนี้ ในที่สุดประมุขมารก็คิดได้เสียที และหวังว่าพรที่นางและสามีร้องขอกับท่านมหาเทพนั้นจะทำให้ประมุขมารไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี มีความสุขและมีภรรยาที่รักเขามากแล้วก็ขอให้ทั้งสองคนเป็นคู่ด้ายแดงทุกภพทุกชาติไป นี่เป็นสิ่งเดียวที่นางและสามีทำได้หลังจากที่หมดปัญหา หมดสงคราม ทุกคนก็ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข แคว้นหลงอยู่ในยุคที่เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี และข่าวการกลับมาขององค์ชายแปดผู้หายสาบสูญ ตอนนี้ถูกแต่งตั้งเป็นชินอ๋อง ที่ดินศักดินาหมู่บ้านป่าหมอกและหมู่บ้านใกล้เคียงอีกสามหมู่บ้าน หวังฉีหลินทิ้งงานให้ลูกชายทั้งหลายแล้วหนีไปท่องเที่ยวกับสามี ทั้งสองคนออกไปท่องโลกกว้าง และมักจะนำผลไม้หรือพืช

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 129 การตัดสินใจของประมุขมาร

    หลังจากที่ประมุขมารได้รับสารท้ารบจากเฟยเทียน ทำให้เขาได้รู้ว่าต่อให้เวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนบุรุษผู้กระหายสงครามและพร้อมจะทำลายศัตรูตรงหน้าให้ย่อยยับได้ทุกเมื่ออย่างแม่ทัพสวรรค์ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยถึงแม้ในชาติภพนี้เขาจะลงมาจุติในดินแดนของมนุษย์แต่ความสามารถของเขายังติดตัวมานั่นไม่ใช่เรื่องโกหก ถึงแม้มหาเทพจะไม่ค่อยชอบหน้าลูกเขยสักเท่าไหร่ แต่มหาเทพผู้รักลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใดย่อมไม่มีทางให้นางลำบากส่วนมารอย่างตัวเขาเล่าทำอันใดได้บ้าง เป็นเขาเองที่ไปตกหลุมรักนางข้างเดียว เป็นเขาเองที่ยึดมั่นถือมั่น เป็นเขาเองที่ไม่ยอมปล่อยวาง เขารู้ตัวเองดีด้วยพลังของตัวเขาเองยังไม่ฟื้นคืนกลับมาทั้งหมด ต่อให้สู้จนตัวตายก็ไม่สามารถเอาชนะทั้งสองได้ถึงแม้จะเอาชนะแม่ทัพสวรรค์ได้แล้วธิดามหาเทพจะชายตาแลเขาหรือก็ไม่ นางไม่เพียงไม่ชายตาแลหากแต่นางคงแก้แค้นเขาที่ทำให้สามีของนางต้องมีอันเป็นไป นอกจากจะไม่ได้ความรักแล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือความเกลียดชังต่างหากที่นางจะหยิบยื่นให้เขาแล้วเหตุใดเขาถึงได้หน้ามืดตามัวเช่นนี้อยู่ถึงแสนปี ประชาชนเผ่ามารล้วนล้มตายไปตั้งเท่าไหร่ น้องชายคนเดียวของเขาที่เฝ้าเตือนสติเขาอยู่ตลอด

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 128 เดินทางไปเผ่ามาร

    เวลาผ่านไปแล้วนับเดือน ตอนนี้กองกำลังที่ฉีหลินฝึกฝนขึ้นมาก็ออกจากด่านกักตนกันทุกคนแล้ว เวลานี้ฉีหลินกับสามีพร้อมด้วยเหล่าสัตว์เทพพร้อมไปเยือนเผ่ามารแล้วเฟยเทียนเองก็เห็นสมควรว่าไม่ควรปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ หลังจากจบปัญหานี้ได้เท่ากับภารกิจของภรรยาได้เสร็จสิ้นลงเช่นกัน ต่อจากนี้ไปพวกเขาสามีภรรยาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเสียทีหลังจากกำหนดวันเคลื่อนพลได้แล้วฉีหลินก็ให้ทุกคนได้พักผ่อนให้เต็มที่ และเตรียมข้าวของที่จำเป็นใส่ลงในแหวนมิติให้เรียบร้อย ทั้งอาหารการกิน ยารักษาต่าง ๆ ทุกคนต่างเตรียมไปให้พร้อมสรรพ ด้วยศึกครั้งนี้อีกฝ่ายคือเผ่ามารไม่รู้ว่าจะมีฝีมือร้ายกาจขนาดไหน แต่พวกเขาเชื่อมั่นในตัวนายท่านและนายหญิงว่าจะนำพาพวกเขากลับบ้านมาอย่างปลอดภัยเฟยจิน เฮ่ออี และฮั่นเหวินไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการรบในครั้งนี้ ลูก ๆ ของเฟยเทียนทุกคนก็เช่นเดียวกัน ส่วนสัตว์เทพที่คอยดูแลความปลอดภัยที่หมู่บ้านป่าหมอกมีเพียงต้าเซี่ยกับเสี่ยวเสวียนอู่เพียงสองตัวเท่านั้นส่วนเสี่ยวหลาง เสี่ยวหู่ เสี่ยวเฮย เสี่ยวรุ่ยจื่อ และพี่ใหญ่อย่างจินหลงล้วนเข้าร่วมการรบในครั้งนี้ คนที่กระตือรือร้นมากที่สุดคื

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 127 ตอนพิเศษ วันว่าง ๆ ของไป๋อี้ถัง

    ไป๋อี้ถังผู้โสดสนิท ครองตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ประหนึ่งนักพรตผู้ทรงศีล อีกทั้งรังเกียจสตรีมากเล่ห์ หลังจากออกจากด่านกักตนมา เขาก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาสั่งสอนลูกศิษย์ในสำนัก ไม่มีภรรยาและบุตรให้ดูแล เวลาทั้งหมดที่มีนอกจากฝึกฝนพลังปราณแล้ว เวลาส่วนที่เหลือเขาจึงเคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ในสำนักศึกษาด้วยความเข้มงวดในเวลาต่อมา อาจารย์ใหญ่ไป๋อี้ถังจึงมีฉายาว่า อาจารย์ใหญ่จอมโหด หากใครไม่ทำการบ้านมาส่งก็จะโดนลงโทษให้ไปวิ่งรอบสถานศึกษา อีกทั้งยังจะต้องทำการบ้านในครั้งหน้ามากกว่าคนอื่นสองเท่าเท่านั้นยังไม่พอ ยังต้องเขียนจดหมายสำนึกผิดอีก 100 จบ และไปเก็บมูลทำความสะอาดคอกของสือเอ้อร์กับสืออีแทนคนงานในไร่ แถมยังต้องถูกเจ้าสือเอ้อร์กับสืออีกลั่นแกล้งจนหน้าทิ่มกองอึอีก ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าไม่ทำการบ้านอีกเลยวันนี้เป็นวันที่ไป๋อี้ถังว่างมาก มากที่สุด วันนี้เป็นวันหยุดของสถานศึกษา ไป๋อี้ถังจึงคิดว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดในเมือง และหาซื้อพู่กันกับแท่นฝนหมึกเพิ่มเพราะเท่าที่เขามีอยู่ตอนนี้ใช้ไปจนเกือบจะหมดแล้วจากนั้นเขาตั้งใจว่าจะชวนสหายทั้งสามของเขาไปด้วยกัน แต่กลับไม่มีใครไปเพราะแต่ละคนต้องการอยู่กับภรรยาแ

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 126 วางแผนรับมือกับเผ่ามาร

    หลังจากที่เฟยเทียนกับฉีหลินเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านป่าหมอกพร้อมลูกชายและเหล่าสหาย หนึ่งเดือนให้หลังเฟยจินก็กลับมาพร้อมกับฮั่นเหวินและเฮ่ออี หลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้และรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน รวมถึงส่งรายชื่อหนอนให้กับเบื้องบนแล้ว ตัวเขาเองก็หมดหน้าที่ ตอนนี้สงครามสงบลงแล้ว ทั้งสามจึงได้ยื่นหนังสือขอลาพักกลับบ้านเกิดเพื่อเยี่ยมบิดามารดาไป๋อี้ถังและสหายทั้งสามจะเข้าด่านกักตนเพื่อฝึกฝนในอีก 3 วันข้างหน้า โดยผู้ที่จะรับหน้าที่สั่งสอนศิษย์ในสถานศึกษาก็คือราชครูไป๋หย่งเต๋อที่เดินทางตามหลังเฟยจินได้เพียง 7 วันนอกจากไป๋หย่งเต๋อแล้วยังมีไป๋เจิ้นกั๋วเจ้ากรมอาญา เดินทางมาพร้อมกับไท่ปิงองครักษ์ประจำตัว นับเป็นการรวมตัวกันระหว่างองครักษ์เลยก็ว่าได้ เซียวหลางตัดสินใจแต่งงานและติดตามไป๋อี้ถัง ม่อถูเองก็เช่นเดียวกัน มีเพียงไท่ปิงเท่านั้นที่มีหน้าที่ดูแลไป๋เจิ้นกั๋วที่เมืองหลวงไท่ปิงเองก็อยากจะมีชีวิตเฉกเช่นสหายทั้งสองบ้าง เขาเองก็คงต้องเร่งฝึกองครักษ์ขึ้นมาใหม่เพื่อจะได้ทำหน้าที่แทนเขา ส่วนตัวเขาเองจะตามมาตั้งรกรากที่หมู่บ้านป่าหมอกแห่งนี้ตามสหายทั้งสองคนวันนี้ฉีหลินเรียกประชุมหน่วยลับที่เป

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 125 สิ้นสุดสงคราม เดินทางกลับบ้าน

    เฟยเทียนพาภรรยามุ่งหน้ากลับหมู่บ้านป่าหมอกทันที หลังจากจัดการทั้งสองแคว้นเรียบร้อยแล้ว และด่านสุดท้ายของภารกิจในครั้งนี้ก็คือจัดการกับเผ่ามารให้เด็ดขาด หากไม่กำจัดประมุขเผ่ามารเสียตอนนี้ ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก มีเพียงกำจัดประมุขมารให้ได้เท่านั้นทุกคนจะได้ไม่เดือดร้อน ตอนนี้มีข่าวส่งว่าอ๋องมารน้องชายเพียงคนเดียวของประมุขมารได้หนีออกจากเผ่ามารไปตั้งรกรากที่อื่นแต่เดิมอ๋องมารก็ไม่เห็นด้วยกับประมุขมารเรื่องยึดดินแดนมนุษย์ แต่ไหนเลยประมุขมารผู้เป็นพี่ชายจะยอมฟัง ในเมื่อมันเป็นความแค้นใจที่มีต่อธิดามหาเทพและสามี ต่อให้อีกนับล้านปีประมุขมารก็วางความแค้นในใจลงไม่ได้“ไม่รู้ว่าเจ้าสามแสบจะทำเรื่องปวดหัวให้ท่านพ่อกับท่านปู่มากมายเพียงใด โดยเฉพาะลูกสาวของท่านพี่ ป่านนี้ไม่ใช่พี่อี้ถังปวดหัวจนผมขาวหมดหัวแล้วหรือเจ้าคะ”“ฮ่า ฮ่า ไม่ขนาดนั้นกระมัง ลูกสาวของเราออกจะน่ารัก อีกอย่างพี่อี้ถังก็ไม่ใช่ว่าจะรับมือไม่ได้เลยนี่นะ”“ท่านพี่ก็เข้าข้างนางตลอดล่ะเจ้าค่ะ อีกหน่อยนางก็เสียคนพอดี”“ไม่ใช่ว่านางกลัวท่านแม่อย่างเจ้าอยู่หรอกหรือ เอาน่าลูกยังเด็กอยู่ยังไม่รู้ความ มีพวกต้าเซี่ยอย

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 124 ไปต่อที่แคว้นฉาน

    ในท้องพระโรงตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้คร่ำคราญของบรรดาองค์หญิงและเหล่าสนมของฮ่องเต้ ส่วนเหล่าองค์ชายนั้นในใจต่างคิดว่าพวกเขาจบเห่แล้วคราวนี้ ยังไม่ทันได้ลงมือช่วงชิงตำแหน่งรัชทายาทแต่เสด็จพ่อกลับทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ ตอนนี้คนของแคว้นหลงบุกมาจัดการพวกเขาถึงในวังหลวงแห่งนี้ เช่นนั้นที่ชายแดนก็คงจะพ่ายแพ้เช่นเดียวกัน“มีอะไรจะพูดหรือไม่ แต่เอาจริง ๆ ไม่ต้องพูดหรอกเสียเวลา ข้าเข้าใจ เสี่ยวเฮยจัดการด้วยล่ะ เอาให้สะอาด” ฉีหลิน“จัดการให้เรียบร้อยจะได้รีบไปจัดการต่อ ข้าอยากกลับบ้านคิดถึงลูก” เฟยเทียนฮ่องเต้แคว้นอู๋มองดูสองสามีภรรยาสั่งงานเจ้าบุรุษชุดดำด้วยความไม่เข้าใจ อะไรคือจัดการให้เรียบร้อย อะไรคือเอาให้สะอาด พูดจาให้คนฟังแล้วไม่เข้าใจก็ช่างเถอะ แต่ช่วยเห็นหัวเขาหน่อยจะได้หรือไม่“อ้อ เสี่ยวเฮย ช่วยปล่อยฮองเฮากับองค์ชายและองค์หญิงที่เกิดจากพระนางด้วย มีคนต้องการพบพวกเขา”“ได้ จะจัดการให้เดี๋ยวนี้”“ขอบใจ ท่านพี่ไปกันเถอะเจ้าค่ะ เรายังมีอะไรที่ต้องทำต่อ”“อืม เสี่ยวเฮยจัดการให้เรียบร้อยอย่าให้เล็ดลอดออกไปได้แม้แต่คนเดียวเข้าใจหรือไม่”เฟยเทียนเดินตามหลังภรรยาออกไปจากท้องพระโรง ท่าม

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 123 จัดการแคว้นอู๋

    ในวันที่ฉีหลินกับเฟยเทียนตัดสินใจลักลอบเข้าวังหลวงแคว้นอู๋ ทางชายแดนแม่ทัพแคว้นอู๋ตัดสินใจนำทัพเข้าบุกแคว้นหลงทันทีโดยมีทัพมารเข้ามาแทรกแซงทำให้กำลังทหารของทางฝั่งแคว้นอู๋มีจำนวนเพิ่มมาหลายพันคนในเมื่อเผ่ามารมือยืดมือยาวถึงเพียงนี้ เสี่ยวเฮยเองก็ย่อมลิ้นยืดลิ้นยาวได้เช่นเดียวกัน ในตอนแรกที่เสี่ยวเฮยยังไม่ได้กลับไปอยู่ในร่างของมังกรทมิฬนั้น ย่อมไม่มีใครเกรงกลัวแต่หลังจากเผ่ามารเข้ามาแทรกแซงทำตัวเป็นกำลังเสริมให้กับแคว้นอู๋ เสี่ยวเฮยจึงเห็นว่าไม่ควรจะปิดบังตัวเองอีกต่อไป มันจึงได้กลับร่างเป็นมังกรทมิฬขนาดใหญ่กว่าที่เผ่ามารจะได้รู้ความจริงก็โดยกินไปจนเกือบหมดเสียแล้ว ยิ่งกลืนกินสิ่งชั่วร้ายไปมากเท่าไหร่ขนาดตัวของเสี่ยวเฮยก็ขยายขึ้นใหญ่มากเท่านั้น ตอนนี้ที่กำลังทหารของแคว้นอู๋เห็นเสี่ยวเฮยกำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น ก็ตัดสินใจกันแล้วว่าจะหนีเอาตัวรอดถึงแม้ว่าแม่ทัพจะไม่สั่งถอยทัพแต่ใครก็ย่อมกลัวตาย ต่างคนต่างรักชีวิตของตัวเองเมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ทิ้งอาวุธออกวิ่งทันทีส่วนเสี่ยวเฮยที่กินเผ่ามารไปแล้วยังรู้สึกว่าไม่อิ่มเท่าไหร่ ต่างจ้องมองไปที่กำลังทหารของแคว้นอู๋ด้วยสายตาวาววั

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 122 แฝงตัวในแคว้นอู๋

    ในขณะที่ฉีหลินกับเฟยเทียนเข้าไปในแคว้นอู๋อย่างราบรื่น ตอนนี้พวกเขาหาที่พักในเมืองหลวงของแคว้นอู๋ได้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนปลอมตัวเป็นตายาย เปิดร้านขายบะหมี่ในตลาดนับว่าเป็นงานที่ท้าทายมากสำหรับเฟยเทียน งานขายบะหมี่นี้เขารับหน้าที่เป็นคนทำบะหมี่ ส่วนภรรยาอย่างฉีหลินนั้นทำหน้าที่เก็บเงิน ส่วนผู้ติดตามทำหน้าที่เสี่ยวเอ้อร์ พวกเขาเช่าร้านบะหมี่ต่อจากเจ้าของเดิมที่เก็บของเตรียมตัวย้ายไปอยู่กับลูกชายที่บ้านเกิดในระหว่างที่ท่านพ่อและท่านแม่ไปทำหน้าที่ทำภารกิจเพื่อความสงบสุข แต่ลูกน้อยทั้งสามคนที่หมู่บ้านป่าหมอกนั้นไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับ 3 คนแก่ที่บ้านสักเท่าไหร่ ไป๋อี้ถังเองยังไม่สามารถรับมือกับหลานน้อยทั้งสามคนได้ เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะอับจนหนทางถึงขนาดนี้ เจ้าสามคนนี่เกิดมาเพื่อสร้างความปั่นป่วนจริง ๆ“ท่านยุงถัง อันนี้ฉือไร” ฟางเซียน“หนังสือวรยุทธ์เบื้องต้น” ไป๋อี้ถัง“ท่านยุงถัง ฉอน เซียนเอ๋อร์ยักเรียน”“ฟางเซียนลุงว่าตอนนี้เจ้าไปนอนกลางวันกับน้องชายทั้งสองของหลานดีหรือไม่ เอาไว้รอให้เจ้าโตกว่านี้ลุงจะสอนให้ทุกอย่างเลย ต้าเซี่ย มาพาคุณหนูของเจ้าไปนอนกลางวันได้แล้ว”“แต่เซียนเอ๋อร์ไม่

DMCA.com Protection Status