แชร์

ตอนที่ 14 กุ้ยฮวารนหาที่

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 21:26:35

หลังจากผ่านเหตุการณ์อันแสนวุ่นวายไปแล้วทุกคนถึงได้เริ่มลงมือกินมื้อเช้า หลังจากจบมื้ออาหารเช้าวันนี้ฉีหลินจะเป็นคนไปเยี่ยมสามีของนางที่โรงหมอส่วนน้องชายน้องสาวทั้งสองคนจะอยู่ช่วยกันเก็บของที่จำเป็นใส่หีบ ถึงเวลาย้ายออกไปจะได้ง่ายขึ้น

แม่สามีวันนี้จะอยู่เลี้ยงหลานที่บ้าน ตอนนี้บ้านสายรองไม่จำเป็นต้องไปทำงานในแปลงนา เพราะพวกเขาไม่ได้ส่วนแบ่งที่นา ส่วนข้าวที่ปลูกไปแล้วพอถึงเวลาเก็บเกี่ยวบ้านใหญ่ก็คงจะไม่แบ่งให้พวกเขาอยู่แล้ว

ในเมื่อไม่มีส่วนแบ่งเป็นของตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องไปลงแรงให้เปล่าประโยชน์ ลูก ๆ ของนางวันนี้ดูพวกเขาจะมีความสุขมากในบ้านมีแต่เสียงหัวเราะเพราะมีเพื่อนใหม่ถึงสามตัว

เสี่ยวเฮยนั้นทำตัวเองให้เป็นเก้าอี้เพื่อให้เฉิงเอ๋อร์นั่ง ส่วนเสี่ยวหู่นั้นนอนมองเจี้ยนเอ๋อร์ขี่หลังเสี่ยวหลาง บางครั้งมันก็ให้เจี้ยนเอ๋อร์ขี่หลังมันบ้าง แต่เพราะกลัวจะมีคนเห็นว่ามันเป็นเสือมันจึงได้เพียงย่อขนาดให้เท่ากับลูกแมวและไปตามออดอ้อนแม่สามีเพื่อขอของกิน

“เสี่ยวเฮยเราไปหาท่านย่าที่ห้องครัวกันเถอะ” เสียงเล็ก ๆ ของเฉิงเอ๋อร์ชวนสหายตัวใหม่เพื่อไปขอขนมท่านย่ากิน

“ใช่แล้ว เสี่ยวหลางเราเองก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวเสี่ยวหู่จะกินขนมที่ท่านย่าทำไปหมดเสียก่อน” เจี้ยนเอ๋อร์เองก็เห็นด้วย

ทำให้ตอนนี้ที่ห้องครัวแออัดไปด้วยสองเด็กและสามตัว เดิมทีห้องครัวก็คับแคบอยู่แล้วแต่พอเจ้าพวกนี้เข้ามาอัดกันอยู่ในนี้อีก ทำเอานางฟางถึงกับปวดหัวไปเลยทีเดียว

“พวกเจ้าออกไปเล่นรอข้างนอกก่อน ประเดี๋ยวย่าทำเสร็จแล้วจะไปเรียก หากพวกเจ้ามาอยู่กันเสียที่นี่หมดมันเกะกะย่าเข้าใจหรือไม่”

“ขอรับท่านย่า น้องรองเราออกไปกันเถอะ พวกเจ้าด้วยตามออกมาให้หมด” เฉิงเอ๋อร์รีบบอกให้ทุกคนออกจากห้องครัว

“ท่านแม่มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่” เยว่เล่อที่กลัวเสี่ยวเฮยขึ้นใจ รีบเข้ามาในห้องครัวทันที ที่พวกนั้นยกโขยงกันออกไป

“ไม่มีหรอกเจ้าไปปักผ้าต่อเถอะ งานในบ้านก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว หรือจะขึ้นเขาไปดูกับดักกับพี่ชายพี่สะใภ้เจ้าก็ตามใจ จากนั้นเจ้ากับพี่ชายเจ้าค่อยมาช่วยแม่เก็บของ”

“เจ้าค่ะท่านแม่ เช่นนั้นข้าตามพี่สะใภ้ไปดูกับดักดีกว่าเจ้าค่ะ ”

“ตามใจเจ้าเถอะ”

นางฟางมองตามหลังลูกสาวคนเล็กออกจากห้องครัวไป หากสามีของนางไม่แยกบ้านนางกลัวว่าลูกสาวของนางคงไม่ได้แต่งออกไปดี ๆ แน่

 พี่สะใภ้จะต้องหาบ้านสามีที่แย่ ๆ ให้กับลูกสาวของนาง ขอบคุณสวรรค์ในที่สุดสามีของนางก็ตาสว่างเสียที ไม่ใช่เอาแต่ก้มหน้ากตัญญูและยึดถือคำสั่งเสียของมารดาที่ไม่เคยรักเขาเลย

ฉีหลินเตรียมตัวขึ้นไปดูกับดักที่วางเอาไว้  โดยมีน้องสามีทั้งสองคนตามไปด้วย หลังจากไปตรวจดูกับดักเสร็จแล้ว นางถึงจะเข้าเมืองไปเยี่ยมสามีที่โรงหมอ

ทั้งสามคนเดินออกจากบ้านเดินมุ่งหน้าออกจากหมู่บ้านยังไม่ทันจะถึงชายป่า อยู่ ๆ หลี่กุ้ยฮัวที่ไม่รู้มาจากไหน กระโดดออกมาขวางทางฉีหลินเอาไว้

"หยุด เจ้ายังไปไหนไม่ได้ จนกว่าเจ้าจะตอบคำถามข้า"

"หลี่กุ้ยฮัว เจ้าต้องการอะไร มาขวางทางข้าทำไม "

"เจ้าบอกมานะ ว่าเจ้าพาพี่เฟยเทียนไปรักษาที่ไหน"

"เรื่องของสามีข้า ข้าไม่จำเป็นต้องบอกให้เจ้ารู้ ทำไมเจ้าไม่เอาเวลาที่มีอยู่ไปหาชายหนุ่มแต่งงานด้วยสักคน เจ้าเองก็อายุ 18 ถือว่าไม่น้อยแล้ว ยังจะมาไล่ตามสามีคนอื่นอยู่ทำไม"

"เจ้าไม่ต้องมายุ่งเรื่องของข้า ข้าจะแต่งให้ใครหรือไม่แต่งมันก็เรื่องของข้า เจ้ามีหน้าที่ตอบคำถามของข้าก็พอ"

"จิ๊ จิ๊ ๆ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร แล้วเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหน ถามหาสามีของคนอื่นช่างไร้ยางอายสิ้นดี"

"หากเจ้าไม่ตอบอย่าหาว่าข้าใจร้ายก็แล้วกันดูสิว่าข้าจะการกับเจ้ายังไง"

"หืม นอกจากเจ้าจะหน้าหนาอยากเข้าหาสามีของคนอื่นแล้ว เจ้ายังไร้ยางอายอีกด้วย ถึงเจ้าไม่อายแต่ให้เห็นแก่หน้าบิดามารดาของเจ้าด้วย ไม่คิดหรือว่าพวกท่านจะอาย พ่อแม่เจ้าทำงานอยู่ในแปลงนา นอกจากเจ้าจะไม่ช่วยแล้วเจ้ายังวิ่งแล่นมาถามหาสามีชาวบ้าน ช่างหน้าหนาจริง ๆ"

"หุบปาก ข้าไม่ต้องการความเห็นจากเจ้า ตกลงเจ้าจะไม่บอกใช่หรือไม่"

"แล้วทำไมข้าถึงต้องบอกเจ้าด้วย"

"พี่กุ้ยฮัว ข้าว่าท่านเลิกคาดคั้นกับพี่สะใภ้ของข้าจะดีกว่า พี่ใหญ่เองก็ไม่เคยพูดกับท่านเลยสักครั้ง พี่ใหญ่ไม่ใช่เคยบอกท่านไปแล้วหรอกหรือว่าพี่ใหญ่ไม่ได้มีใจให้ท่าน ไม่มีใจชอบพอท่าน เหตุใดท่านถึงไม่ยอมเลิกราเสียที" 

หยางเยว่เล่อพูดออกมาพลางแอบหลังพี่สะใภ้อย่างฉีหลินด้วยความหวาดกลัวหลี่กุ้ยฮัว

ทันทีที่หลี่กุ้ยฮัวได้ฟังสิ่งที่เยว่เล่อพูดออกมา นางรู้สึกยอมรับไม่ได้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตามที นางเองหลงรักหยางเฟยเทียนมาตั้งแต่นางยังเด็ก แต่หวังฉีหลินผู้หญิงน่าตายคนนี้กลับมาตัดหน้านางไปเสียก่อน

“หยางเยว่เล่อ เจ้าหุบปากของเจ้าไปเดี๋ยวนี้ ฮุ่ยเหม่ยน่าจะจับเจ้าไปขายที่หอนางโลมจะได้ไม่ต้องมาปากดีเช่นนี้ น่าจะขายเจ้าไปเสียก่อนที่จะแยกบ้าน”

“หลี่กุ้ยฮัว นอกจากตาของเจ้าจะมืดบอดแล้ว จิตใจของเจ้ายังมืดบอดด้วย มิน่าล่ะเจ้าถึงได้คบหากับฮุ่ยเหม่ยเป็นสหายกัน ว่ากันว่าคนเลวเหมือน ๆ กันย่อมคบค้าสมาคมกันได้ ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วหลีกทางไปเสียเวลาทำมาหากิน ลมตะวันออกมันกินไม่อิ่มหรอกนะจะบอกให้”

“ตกลงจะไม่บอกใช่หรือไม่”

“ข้าก็บอกไปแล้วเรื่องของสามีข้า ทำไมข้าจะต้องเอามาบอกเจ้าด้วย หลบไปเสียทีทำตัวเป็นชะนีร้องหาผัวอยู่ได้ ที่สำคัญผัวชาวบ้านด้วย หน้าไม่อาย”

“กรี๊ด กรี๊ดๆ นังฉีหลิน ” หลี่กุ้ยฮัวพุ่งเข้าใส่ฉีหลินแต่ยังไม่ทันได้ถึงตัวก็โดนฉีหลินยกเท้าถีบออกมาเสียก่อน หลี่กุ้ยฮัวคงลืมไปแล้วว่าเมื่อวันก่อนนางเองทำอะไรฉีหลินไม่ได้เลย

ไม่ต้องให้มีใครพูดอะไรฉีหลินกระชากผมของหลี่กุ้ยฮัวขึ้นมาและจัดการตบไม่ยั้งจนตอนนี้หน้าของนางบวมเหมือนหัวหมู ฉีหลินถึงได้หยุด

“วันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน หากเจ้ายังมาเสนอหน้าให้ข้าเห็นอีก จำเอาไว้ว่าข้าจะหักขาเจ้า จำเอาไว้”

หลังจากที่ฉีหลินเดินออกจากหมู่บ้านมุ่งหน้าเข้าป่าไปได้ไม่นาน ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้พากุ้ยฮัวกลับไปส่งบ้านของนางมีบางคนวิ่งไปตามพ่อแม่ของนางที่แปลงนาเพื่อให้มาดูลูกสาวของตน

“ลุงหลี่ ๆ ท่านลุงหลี่ แย่แล้วขอรับ แย่แล้ว”

“เจ้าจะร้องโวยวายหาอะไรโกวต้าน ใครเป็นอะไร” หลี่กุ้ยจื่อ

“ก็กุ้ยฮัวน่ะสิ นางไปหาเรื่องสะใภ้บ้านหยางเมียของเฟยเทียนน่ะขอรับ”

“ห๊ะ อะไรนะ นี่นังลูกไม่รักดีกะจะให้ข้าไม่มีหน้าเดินออกไปไหนเลยหรือยังไง ทุกวันนี้ข้าแทบจะเอาตะกร้าคลุมหัวเดินออกจากบ้านแล้วนะ”

“ข้าว่าท่านรีบกลับไปดูนางเถอะ โดนหวังฉีหลินทุบตีจนข้าแทบจำหน้านางไม่ได้อยู่แล้ว”

“เหอะ รนหาที่เอง ข้าเตือนนางไปหลายรอบแล้ว แต่นางไม่ฟังข้าเลย มันเป็นเพราะเจ้านั่นแหละที่ให้ท้ายลูก งามหน้าขนาดนี้ก่อเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ เจ้ากลับไปจัดการลูกสาวตัวดีของเจ้าเองเถอะ และรีบ ๆ ให้นางแต่งออกไปได้แล้วอย่าให้นางมาทำให้ครอบครัวขายขี้หน้าคนอื่นแบบนี้”

“ท่านพี่ กุ้ยฮัวนางเป็นลูกของท่านนะเจ้าคะ ทำไมท่านพี่พูดจาแบบนี้ล่ะเจ้าคะ” นางเฉินแม่ของหลี่กุ้ยฮัวหันไปตวาดสามี

“เจ้าไม่ต้องมาพูดมาก หากเจ้าจัดการนางไม่ได้ข้าจะหย่ากับเจ้า วัน ๆ ไม่เคยช่วยงานในแปลงนา ดีแต่ทำเรื่องขายขี้หน้าไปวัน ๆ”

ฉีหลินไม่ได้สนใจว่าครอบครัวหลี่กุ้ยฮัวจะวุ่นวายหรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น นางมุ่งหน้าเดินไปตรวจดูกับดักที่นางวางเอาไว้ ครั้งนี้นางได้กระต่ายป่า 5 ตัว ไก่ฟ้า อีก 6 ตัว เมื่อตรวจดูกับดักครบหมดทุกอันแล้ว ถึงได้กลับบ้าน

“พี่สะใภ้ จะเอาไปขายเลยหรือไม่เจ้าคะ”

“ใช่ แต่พี่จะแบ่งไก่เอาไว้ให้ท่านแม่ทำอาหาร 2 ตัว พี่ใหญ่ของเจ้ายังต้องบำรุงร่างกาย ส่วนที่เหลือพี่จะเอาไปขาย และจะแวะเยี่ยมพี่ใหญ่ของเจ้าด้วย”

“พี่สะใภ้ขอรับ ท่านเข้าเมืองก็ระวังตัวหน่อยนะขอรับ ข้ากลัวว่าท่านป้าสะใภ้กับพี่ฮุ่ยเหม่ยจะคิดวางแผนอะไรไว้”

“ขอบใจนะเฟยจิน ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี ”

 “ขอรับ เช่นนั้นเรารีบกลับบ้านกันเถอะ พี่สะใภ้จะได้รีบเข้าเมือง"

“พวกเจ้าอยู่บ้านช่วยท่านแม่เก็บของให้ดี ยังมีเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเข้าฤดูหนาว วันนี้ท่านพ่อคงให้ช่างมาสร้างบ้านให้พวกเราอยู่ชั่วคราวก่อน”

“ขอรับพี่สะใภ้ วางใจได้เลยขอรับข้าจะช่วยท่านแม่เก็บของให้เรียบร้อย”

“อืม เยว่เล่อเจ้าอย่าออกมานอกบ้านเด็ดขาด หากไม่มีพี่รองหรือท่านแม่ไปด้วย หากพี่และท่านพ่อไม่อยู่บ้านเจ้าอย่าได้ออกนอกบ้านเป็นเด็ดขาด หากมีความจำเป็นจริง ๆ ให้เรียกเสี่ยวหลางไปด้วยเข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจเจ้าค่ะพี่สะใภ้”

ทั้งสามคนเดินกลับมาถึงบ้านก็พอดีกับที่นางฟางเตรียมน้ำแกงปลาเสร็จพอดี ฉีหลินเอาไก่ 2 ตัว ให้น้องสามีเอาไปเก็บไว้ในบ้าน 

ส่วนนางรับเอาตะกร้าน้ำแกงและเดินออกจากบ้านเพื่อนั่งเกวียนรับจ้างของหมู่บ้านเข้าเมืองทันที ฉีหลินนำไก่ป่าและกระต่ายป่ามาส่งที่ร้านรับซื้อสัตว์ป่า กระต่ายป่า 5 ตัว คิดเป็นเงิน 250 อิแปะ ไก่ 4 ตัว คิดเป็นเงิน 120 อิแปะ

หลังจากขายกระต่ายและไก่เสร็จแล้วนางมุ่งหน้าไปที่โรงหมอทันที เมื่อนางมาถึงสามีของนางตื่นแล้วตอนนี้เขานั่งพิงหัวเตียงเพื่อรอกินมื้อเที่ยง ท่านหมอที่รักษาสามีของนางแจ้งว่าสามารถนำเขากลับไปรักษาที่บ้านได้แล้วหากต้องการ ทางโรงหมอจะคืนเงินที่เหลือให้

“แม่นางมาเยี่ยมสามีของเจ้าหรือ”

“คารวะท่านหมอเจ้าค่ะ ใช่เจ้าค่ะ อาการสามีข้าเป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ”

“นับว่าดีมากเลยทีเดียวร่างกายของสามีเจ้าฟื้นตัวได้ดี หากจะพากลับไปรักษาและพักฟื้นที่บ้านก็ย่อมทำได้ หรือหากจะให้อยู่รักษาที่นี่ก็สุดแล้วแต่แม่นางจะสะดวก หากกลับไปรักษาต่อที่บ้านทางเราจะคืนเงินที่เหลือให้”

“ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านหมอ ข้าขอปรึกษากับสามีสักครู่ ได้เรื่องยังไงแล้วข้าจะมาแจ้งท่านหมออีกทีนะเจ้าคะ”

“ได้ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”

“ท่านพี่ ท่านอยากกลับบ้านหรืออยากอยู่รักษาที่นี่ต่อเจ้าคะ”

“พี่อยากกลับบ้าน พี่คิดถึงเจ้ากับลูก ๆ”

“เช่นนั้นท่านพี่กินน้ำแกงปลาเสียก่อนเจ้าค่ะ ท่านแม่เตรียมมาให้ท่าน ตอนนี้ที่บ้านท่านแม่กับน้อง ๆ เริ่มเก็บของเตรียมเอาไว้แล้ว วันนี้ท่านพ่อน่าจะจ้างช่างในเมืองไปสร้างบ้านที่หมู่บ้านป่าหมอก ข้าบอกท่านพ่อให้ช่างทำบ้านแค่พออยู่ได้ให้พวกเราอยู่ไปก่อน จากนั้นค่อยสร้างบ้านอีกหลัง”

“ขอบใจน้องมากนะหลินเอ๋อร์ ขอบใจที่ไม่ทิ้งพี่กับลูกไปไหน”

“ท่านพี่พูดอะไร ข้าจะทิ้งท่านไปได้เช่นไรเจ้าคะ ไม่ต้องพูดแล้วเจ้าค่ะ ท่านรีบดื่มน้ำแกงเถอะเจ้าค่ะ”

“อืม มีใครมารังแกเจ้าอีกหรือไม่”

“ใครจะกล้ามารังแกข้ากันเจ้าคะ ข้าตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะยอมให้ใครมารังแกเอาได้ง่าย ๆ”

“เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว ต่อไปเราไม่จำเป็นต้องอดทนอะไรอีกแล้ว โชคดีที่ท่านพ่อตาสว่างเสียที เฮ้อ”

“คิก ๆ ท่านพี่พูดเหมือนท่านแม่เลยเจ้าค่ะ ว่าโชคดีที่ท่านพ่อตาสว่างเสียที เช่นนั้นท่านพี่ดื่มน้ำแกงรอข้าไปก่อน ข้าจะไปว่าจ้างเกวียนมารับท่านพี่กลับบ้านและจะไปแจ้งท่านหมอด้วย”

“อืมไปเถอะ พี่จะรอเจ้ามารับ ”

“จริง ๆ แล้ว ข้าอยากซื้อเกวียนวัว แต่เอาไว้รอให้เราย้ายบ้านเสร็จก่อนค่อยซื้อเกวียนวัวเจ้าค่ะ”

“ได้ ๆ ตามใจเจ้า เจ้าอยากทำอะไรพี่เห็นด้วยทุกเรื่อง”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 15 พาสามีกลับบ้าน

    ฉีหลินออกมาคุยกับท่านหมอที่รักษาสามีของนางเพื่อแจ้งแก่ท่านหมอว่านางจะพาสามีกลับไปพักฟื้นที่บ้าน เมื่อแจ้งความประสงค์กับท่านหมอแล้ว ฉีหลินได้รับเงินจากโรงหมอคืนเป็นเงิน 30 ตำลึง เมื่อจัดการเรื่องค่าหมอค่ายาเสร็จแล้ว ฉีหลินมุ่งหน้าไปเช่าเกวียนเพื่อมารับสามีนางกลับไปรักษาตัวที่บ้านทันที ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามีของนางฟื้นตัวได้เร็วนั้นเพราะน้ำพุวิญญาณที่นางแอบนำมาผสมน้ำให้สามีดื่มอยู่เป็นประจำอีกทั้งน้ำกินน้ำใช้ที่บ้านย่อมผสมน้ำพุวิญญาณลงไปด้วย ตอนนี้แม่สามีของนางเองดูเหมือนจะแข็งแรงขึ้นมาจากปกติร่างกายที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ ของนาง หลังจากได้ดื่มกินน้ำผสมน้ำพุวิญญาณทำให้ร่างกายของนางแข็งแรงขึ้นฉีหลินออกไปได้ไม่นาน นางก็กลับมาพร้อมเกวียนเพื่อมารับเฟยเทียนกลับบ้าน ตอนนี้เขาเดินได้แล้วแต่ไม่สามารถเดินนาน ๆ ได้ ตอนแรกเขาหมดหวังแล้วเพราะป้าสะใภ้ยึดเอาเงินไปและไม่ยอมให้หมอรักษาเขา เขาคิดว่าตัวเองคงจะกลายเป็นคนป่วยพิการนอนติดเตียง อยู่เป็นภาระลูกเมียและพ่อแม่เสียแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็สามารถมารักษาและหาหมอทัน เป็นเพราะภรรยาของเขาที่ต่อสู้เพื่อครอบครัว ในวันที่เขาเห็นน้องชายน้องสาวพาภรรยาที่บาดเจ็บก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 16 เริ่มเลี้ยงดูสามี

    ฉีหลินและเฟยจินกลับมาถึงบ้านทั้งสองคนนำปลาไปใส่ถังโอ่งดินใบเล็ก ๆ เอาไว้ก่อนจากนั้นฉีหลินก็นำใบบัวไปล้างให้สะอาดพักเอาไว้ ส่วนกุ้งนางกำลังคิดว่าจะทำอะไรกินดี กุ้งแม่น้ำตัวโตขนาดนี้ทำไมคนที่นี่เรียกปลาเปลือกแข็งกัน ถ้ากุ้งเรียกปลาเปลือกแข็งแล้วถ้าเป็นปูล่ะจะเรียกว่าอะไร คงไม่เรียกว่าปลากระดองแข็งหรอกใช่ไหม ฉีหลินหัวเราะคิกคักกับความคิดไร้สาระของตัวเองแต่เอาเข้าจริงคนที่นี่เรียกปูว่าปลากระดองแข็งจริง ๆ นี่คือสิ่งที่ฉีหลินรับรู้ในเวลาต่อมาฉีหลินจะทำข้าวห่อใบบัวแต่เครื่องปรุงอาจจะไม่ครบ เช่นนั้นก็มาดัดแปลงเอาตามของที่มีก็แล้วกัน นางเดินเข้าไปในครัวไม่รู้ว่าที่โลกแห่งนี้จะมีเผือกหรือยัง เพราะความทรงจำบางส่วนขาดหายนางจึงไม่แน่ใจว่ามีหรือยังถึงจะไม่แน่ใจว่ามีหรือไม่มี แต่ในมิตินางมีในเมื่ออยากกินต้องได้กิน ฉีหลินเริ่มต้นด้วยการแกะกุ้งพักเอาไว้ จากนั้นก็ไปหุงข้าว นำเผือกออกมาหั่นเต๋าเอาไว้ ในห้องครัวมีแครอทพอดีนางนำมาหั่นเต๋าเอาไว้เช่นเดียวกัน“แล้วเราจะใส่กุนเชียงดีหรือไม่ ถ้าไม่ใส่ก็จะไม่อร่อยน่ะสิ แต่ถ้าใส่จะตอบคำถามทุกคนว่ายังไงดี โอ้ยย ปวดหัวจริง ๆ อึดอัดจะแย่แล้ว ใส่ ๆไปเถอะงั้นก็เรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 17 ย้ายบ้านกันเถอะ

    นับตั้งแต่ฉีหลินพาสามีกลับมารักษาตัวที่บ้านตอนนี้เวลาก็ผ่านไปแล้วหลายวัน เช้าวันนี้หลังจากกินมื้อเช้าพวกเขาจะย้ายบ้านไปอยู่ที่หมู่บ้านป่าหมอกกันแล้วคนที่ดีใจที่สุดที่จะได้ย้ายบ้านไม่ใช่ใครที่ไหนแต่หากเป็นหยางเฟยจินผู้ที่หวังมานานว่าจะได้ย้ายไปจากตรงนี้เสียที อย่างน้อย ๆ ครอบครัวของเขาจะได้ไม่โดนเอาเปรียบและถูกป้าสะใภ้รังแกเช่นที่ผ่านมา“พวกเจ้าเร่งมือกันหน่อยประเดี๋ยวสายแล้วจะร้อนเอาได้” หยางเทียนฉีเร่งลูกเมีย“ท่านพี่ท่านขนของพวกนี้ขึ้นเกวียนไปเถอะ แล้วให้อาเทียนนั่งไปกับท่านส่วนข้าจะเดินไปกับลูกสะใภ้และหลาน ๆ เอง” นางฟางบอกผู้เป็นสามี“เจ้าจะเดินไหวหรือ เอาเช่นนี้ดีหรือไม่เราจ้างเกวียนบ้านลุงเมิ่งไปส่งพวกเจ้าดีกว่า จะเดินทำไมให้เหนื่อย”“เอาแบบนั้นก็ได้เจ้าค่ะ ท่านรีบไปบ้านท่านลุงเมิ่งเถอะ”ในตอนที่คนบ้านหยางจัดแจงข้าวของกันอยู่นั้น นางหลินที่ตอนนี้รักษาตัวหายดีแล้วก็เดินมาที่บ้านหยางสายรองเพื่อดูว่าคนพวกนี้ย้ายออกไปจริงหรือไม่ และหยิบจับอะไรตัดไม้ติดมือไปด้วยหรือเปล่า“เหอะรีบ ๆ ไสหัวของพวกเจ้าออกไปจากบ้านของข้า และอย่าได้หยิบอะไรของข้าติดไม้ติดมือไปเป็นอันขาดจะหาว่าข้าไม่เตือน”“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 18 ความลับของหยางเฟยเทียน

    หลังจากที่จับปูจับปลาจับกุ้งกันจนพอใจแล้ว สามเสี่ยวลงเล่นน้ำอย่างสนุกสนานฉีหลินนึกได้ว่ายังไม่ได้ขุดบ่อน้ำเอาไว้ใช้สอยเลย จะพึ่งพาเพียงแค่น้ำจากลำธารไม่ได้ อีกทั้งนางต้องการที่จะเปลี่ยนน้ำในบ่อให้เป็นน้ำพลังวิญญาณโดยการนำน้ำพุวิญญาณในมิติมาเติมลงไป เมื่อกลับจากจับปลาที่ลำธารแล้วนางจึงปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อสามีและสามีทันที บ่อน้ำที่นางต้องการคือ บ่อน้ำขนาดใหญ่ 1 บ่อ และบ่อน้ำสำหรับใช้สอยในบ้าน 1 บ่อ นางคิดว่าจะจ้างชาวบ้านในหมู่บ้านมาช่วยขุดให้“ท่านพ่อเจ้าคะ ข้ามีเรื่องจะปรึกษาเจ้าค่ะ ท่านพี่ด้วยนะเจ้าคะ”“มีเรื่องอะไรหรือหลินเอ๋อร์” เฟยเทียนถามภรรยาออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล“ข้าต้องการขุดบ่อน้ำขนาดใหญ่ในที่ดินของเราเจ้าค่ะ และบ่อน้ำสำหรับใช้สอยในบ้านอีก 1 บ่อ ข้าอยากให้ท่านพ่อไปว่าจ้างชาวบ้านมาช่วยขุดเจ้าค่ะ เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปตักน้ำที่ลำธารเจ้าค่ะ"“ดีเหมือนกัน เช่นนั้นหลังกินมื้อเที่ยงแล้วพ่อจะเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อพูดคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านเรื่องการจ้างงานก็แล้วกัน”“เจ้าค่ะท่านพ่อ ฝากด้วยนะเจ้าคะ”“ไม่เป็นไรไม่ได้ลำบากอะไร พวกเจ้าเอาปลาไปให้แม่ของเจ้าทำเถอะจะได้รีบกินข้าว ดูท่าพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 19 สารภาพความจริง

    เช้าวันนี้ทุกคนช่วยกันรดน้ำพืชผักวัวสองตัวทำหน้าที่บรรทุกน้ำจากลำธารโดยที่เฟยจินเป็นคนบังคับเกวียน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินแบกน้ำจากลำธาร ตอนนี้น้ำในบ่อที่ขุดเอาไว้มีน้ำประมาณครึ่งบ่อและคาดว่าอีกสองวันน้ำคงจะเต็มบ่อและฉีหลินจะทำการเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำในบ่อให้เป็นน้ำที่มีพลังวิญญาณหลังจากรดน้ำพืชผักที่ปลูกเอาไว้เสร็จแล้วก็ได้เวลามื้อเช้า เช้านี้ฉีหลินทำข้าวต้มปลาเปลือกแข็ง และมีน้ำแกงปลา ผัดผักป่า หลังมื้ออาหารเช้านางตั้งใจจะเข้าป่าล่าสัตว์ โดยที่นางจะพาเสี่ยวหลางไปด้วย“ท่านพ่อท่านแม่ขอรับ เดี๋ยวข้าและหลินเอ๋อร์จะเข้าป่านะขอรับจะได้มีเนื้อเอามาเก็บไว้กินหรือไม่ก็นำไปขายบ้านเรายังต้องใช้เงินอีกเยอะ”“มันจะดีหรือลูก มันอันตรายแม่ว่าเราหาอย่างอื่นทำดีหรือไม่ หากเจ้าสองคนเป็นอะไรไปอีกแม่จะทำยังไง ลูก ๆ ของพวกเจ้าจะอยู่ยังไง” นางฟางรีบพูดออกมาด้วยความเป็นห่วงเพราะเหตุการณ์ที่ลูกชายลูกสะใภ้บาดเจ็บในตอนนั้นติดอยู่ในใจนางตลอดมา ถึงจะยากจนหน่อยแต่ก็ยังพอปลูกพืชผักออกมาขายได้นางจึงไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตาม“ท่านแม่อย่าได้เป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้าจะพาเสี่ยวหลางไปด้วยพวกเราไม่ได้เข้าป่าลึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 20 เดินตามหลังเมีย ย่อมต้องมีเนื้อกิน

    ทั้งสองคนเดินเข้าป่าหมอกลึกเข้าไปเรื่อย ๆ หมอกก็เริ่มหนาเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน ทั้งสองคนกับอีกหนึ่งตัวเดินยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่หมอกก็ยิ่งหนามากขึ้นอีก แต่พอพวกเขาเดินผ่านหมอกที่หนาทึบลึกเข้ามากลับพบว่าภายในป่าชั้นในที่ลึกเข้ามาไม่มีหมอกเลยภาพตรงหน้าทำเอาฉีหลินตกตะลึงอ้าปากค้างเฟยเทียนเองก็มีท่าทางไม่ต่างกัน ภายในป่าหมอกชั้นใน ต้นไม้ทุกต้นสูงเสียดฟ้าป่าเขียวชอุ่มบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้เป็นอย่างดี“ข้างในนี้อุดมสมบูรณ์มากเลยนะเจ้าคะท่านพี่ แต่ทำไมชาวบ้านไม่เข้ามาหาของป่าล่าสัตว์ในป่าหมอกล่ะเจ้าคะ จากที่เราเข้าป่ามายังไม่พบเจอสัตว์ป่าดุร้ายเลยนะเจ้าคะ”“อาจจะเป็นเพราะพวกชาวบ้านเดินเข้ามาก็เจอกับกำแพงหมอกและมีบางคนหลงทางทำให้หาทางออกไม่เจอก็เป็นได้”“ข้าก็คิดเช่นเดียวกันกับท่านพี่ หากว่าเราไม่มีเสี่ยวหลางมาด้วยไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะหลงทางอยู่ในกำแพงหมอกก็เป็นได้”“คงเป็นเช่นนั้น”เสี่ยวหลางบอกกับฉีหลินว่ามันจะไปล่าหมูเพื่อเอากลับไปให้เพื่อนตัวน้อยทั้งสองของมัน ฉีหลินเองอดค่อนแคะมันในใจไม่ได้ว่าตกลงท่านเทพส่งให้มาเป็นตัวช่วยของนางหรือมาเป็นพี่เลี้ยงลูกของนางกันแน่ฉีหลินกับเฟยเท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 21 เราแค่.. เอากวางมาขายเองนะ

    เฟยเทียนบังคับเกวียนเข้ามาในเมืองและมุ่งหน้าไปยังเหลาอาหารหมื่นลี้ เมื่อมาถึงจุดรับซื้อของเสี่ยวเอ้อร์ที่ทำหน้าที่รับซื้อของจากชาวบ้านรีบเดินมาต้อนรับทันที“เชิญจอดเกวียนด้านนี้เลยขอรับ ไม่ทราบว่าท่านนำอะไรมาขายให้เหลาหมื่นลี้ของเราหรือขอรับ ขอข้าตรวจดูได้หรือไม่”“ย่อมได้อยู่แล้ว เชิญเจ้ามาตรวจสอบดูได้”เมื่อเสี่ยวเอ้อร์เห็นสิ่งที่อยู่บนเกวียนทันทีที่คนบนเกวียนยกเสื่อไม้ไผ่ออกเขาได้แต่ตกตะลึงตาค้าง ก่อนที่จะบอกให้เฟยเทียนเอาเสื่อไม้ไผ่คลุมกลับไปเช่นเดิมจากนั้นเขาก็กลับหลังหันวิ่งเข้าไปตามหลงจู๊ทันที“นะ.. นะ นี่มัน กะ. กะ กวางดาว ท่านช่วยเอาเสื้อคลุมเอาไว้ก่อนนะขอรับ ข้าจะไปตามหลงจู๊เดี๋ยวนี้”เสี่ยวเอ้อร์วิ่งหน้าตั้งกลับเข้าไปด้านใน เพื่อไปตามหลงจู๊ของเหลาอาหารหมื่นลี้มาเป็นผู้เจรจาซื้อขายในครั้งนี้ เพราะตั้งแต่เขามาทำงานในตำแหน่งเสี่ยวเอ้อร์รับซื้อก็ไม่เคยมีใครเอากวางมาขายเลยสักครั้ง เขาเองไม่สามารถตัดสินใจได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องให้หลงจู๊มาตัดสินใจด้วยตัวเอง“หลงจู๊ขอรับ ท่านช่วยออกไปเจรจาที่จุดรับซื้อได้หรือไม่ขอรับ พอดีมีของที่ข้าไม่สามารถตัดสินใจได้มาขายขอรับ”“ของอะไรของเจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 22 ตอบแทนน้ำใจ

    ฉีหลินที่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการล้างทำความสะอาดเครื่องในหมูอยู่เป็นเวลานานในที่สุดเครื่องในหมูทั้งหมดก็ถูกนำมาตุ๋นรวมกับหัวหมู ในส่วนของไส้อ่อนนางนำไปคลุกเกลือและใส่ไหเอาไว้ไม่ได้นำมาทำอาหารสำหรับวันนี้กลิ่นหอมของหมูตุ๋นลอยตลบอบอวนไปทั้งบ้าน เฟยเทียนที่รับหน้าที่ย่างหมูอยู่ถึงกับต้องกลืนน้ำลาย หมูที่ภรรยาของเขาหมักด้วยเครื่องเทศจนได้ที่จากนั้นเขารับหน้าที่เป็นคนย่างหมู ถึงแม้ว่าหมูที่เขากำลังย่างอยู่จะส่งกลิ่นหอมมากมายขนาดไหนแต่ตอนนี้กลิ่นของหมูตุ๋นได้กลบกลิ่นหมูย่างไปโดยสิ้นเชิง“ท่านพ่อ ท่านแม่ทำอาหารอะไรกันแน่ขอรับ หอมกว่าหมูย่างของเราอีก” เจี้ยนเอ๋อร์“นั่นสิขอรับท่านพ่อ ท่านแม่ทำอาหารได้หอมถึงเพียงนี้จะต้องเป็นของอร่อยแน่ ๆ เลยขอรับ” เฉิงเอ๋อร์“พ่อว่าพวกเจ้าสองคนเช็ดน้ำลายก่อนดีหรือไม่ ประเดี๋ยวมันจะหยดใส่หมูที่กำลังย่างอยู่”“ท่านพ่อพวกข้าไม่ได้กำลังน้ำลายไหลเสียหน่อย” เจี้ยนเอ๋อร์ที่ยกมือขึ้นเช็ดปากแต่กลับพบว่าตัวเองโดนบิดาแกล้งเข้าให้แล้ว“ข้าไปหาท่านแม่ในครัวดีกว่า ไปดูว่าท่านแม่ทำอะไรกันแน่” เฉิงเอ๋อร์“รอข้าด้วย ข้าไปด้วย” เจี้ยนเอ๋อร์เฟยเทียนได้แต่มองตามหลังลูกชายทั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04

บทล่าสุด

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 130 ความสุข

    ในตอนที่ประมุขมารได้ตายไปพร้อมกับดวงจิตที่แตกสลาย แต่ทว่ากลับไม่ได้แตกสลายไปทั้งหมด ยังมีดวงจิตอีกเสี้ยวได้หลุดลอยไปเกิดใหม่ในอีกภพชาติหนึ่ง เกิดใหม่เป็นมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถระลึกชาติได้ ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร เพียงใช้ชีวิตเรียบง่ายเพียงเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ประมุขมารร่ำร้องขอความเมตตาจากสวรรค์ก่อนที่เข้าจะแหลกสลายไปหวังฉีหลินและเฟยเทียนกลับถึงหมู่บ้านป่าหมอก ทุกอย่างนางไม่คิดว่าจะง่ายดายถึงเพียงนี้ ในที่สุดประมุขมารก็คิดได้เสียที และหวังว่าพรที่นางและสามีร้องขอกับท่านมหาเทพนั้นจะทำให้ประมุขมารไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี มีความสุขและมีภรรยาที่รักเขามากแล้วก็ขอให้ทั้งสองคนเป็นคู่ด้ายแดงทุกภพทุกชาติไป นี่เป็นสิ่งเดียวที่นางและสามีทำได้หลังจากที่หมดปัญหา หมดสงคราม ทุกคนก็ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข แคว้นหลงอยู่ในยุคที่เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี และข่าวการกลับมาขององค์ชายแปดผู้หายสาบสูญ ตอนนี้ถูกแต่งตั้งเป็นชินอ๋อง ที่ดินศักดินาหมู่บ้านป่าหมอกและหมู่บ้านใกล้เคียงอีกสามหมู่บ้าน หวังฉีหลินทิ้งงานให้ลูกชายทั้งหลายแล้วหนีไปท่องเที่ยวกับสามี ทั้งสองคนออกไปท่องโลกกว้าง และมักจะนำผลไม้หรือพืช

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 129 การตัดสินใจของประมุขมาร

    หลังจากที่ประมุขมารได้รับสารท้ารบจากเฟยเทียน ทำให้เขาได้รู้ว่าต่อให้เวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนบุรุษผู้กระหายสงครามและพร้อมจะทำลายศัตรูตรงหน้าให้ย่อยยับได้ทุกเมื่ออย่างแม่ทัพสวรรค์ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยถึงแม้ในชาติภพนี้เขาจะลงมาจุติในดินแดนของมนุษย์แต่ความสามารถของเขายังติดตัวมานั่นไม่ใช่เรื่องโกหก ถึงแม้มหาเทพจะไม่ค่อยชอบหน้าลูกเขยสักเท่าไหร่ แต่มหาเทพผู้รักลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใดย่อมไม่มีทางให้นางลำบากส่วนมารอย่างตัวเขาเล่าทำอันใดได้บ้าง เป็นเขาเองที่ไปตกหลุมรักนางข้างเดียว เป็นเขาเองที่ยึดมั่นถือมั่น เป็นเขาเองที่ไม่ยอมปล่อยวาง เขารู้ตัวเองดีด้วยพลังของตัวเขาเองยังไม่ฟื้นคืนกลับมาทั้งหมด ต่อให้สู้จนตัวตายก็ไม่สามารถเอาชนะทั้งสองได้ถึงแม้จะเอาชนะแม่ทัพสวรรค์ได้แล้วธิดามหาเทพจะชายตาแลเขาหรือก็ไม่ นางไม่เพียงไม่ชายตาแลหากแต่นางคงแก้แค้นเขาที่ทำให้สามีของนางต้องมีอันเป็นไป นอกจากจะไม่ได้ความรักแล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือความเกลียดชังต่างหากที่นางจะหยิบยื่นให้เขาแล้วเหตุใดเขาถึงได้หน้ามืดตามัวเช่นนี้อยู่ถึงแสนปี ประชาชนเผ่ามารล้วนล้มตายไปตั้งเท่าไหร่ น้องชายคนเดียวของเขาที่เฝ้าเตือนสติเขาอยู่ตลอด

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 128 เดินทางไปเผ่ามาร

    เวลาผ่านไปแล้วนับเดือน ตอนนี้กองกำลังที่ฉีหลินฝึกฝนขึ้นมาก็ออกจากด่านกักตนกันทุกคนแล้ว เวลานี้ฉีหลินกับสามีพร้อมด้วยเหล่าสัตว์เทพพร้อมไปเยือนเผ่ามารแล้วเฟยเทียนเองก็เห็นสมควรว่าไม่ควรปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ หลังจากจบปัญหานี้ได้เท่ากับภารกิจของภรรยาได้เสร็จสิ้นลงเช่นกัน ต่อจากนี้ไปพวกเขาสามีภรรยาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเสียทีหลังจากกำหนดวันเคลื่อนพลได้แล้วฉีหลินก็ให้ทุกคนได้พักผ่อนให้เต็มที่ และเตรียมข้าวของที่จำเป็นใส่ลงในแหวนมิติให้เรียบร้อย ทั้งอาหารการกิน ยารักษาต่าง ๆ ทุกคนต่างเตรียมไปให้พร้อมสรรพ ด้วยศึกครั้งนี้อีกฝ่ายคือเผ่ามารไม่รู้ว่าจะมีฝีมือร้ายกาจขนาดไหน แต่พวกเขาเชื่อมั่นในตัวนายท่านและนายหญิงว่าจะนำพาพวกเขากลับบ้านมาอย่างปลอดภัยเฟยจิน เฮ่ออี และฮั่นเหวินไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการรบในครั้งนี้ ลูก ๆ ของเฟยเทียนทุกคนก็เช่นเดียวกัน ส่วนสัตว์เทพที่คอยดูแลความปลอดภัยที่หมู่บ้านป่าหมอกมีเพียงต้าเซี่ยกับเสี่ยวเสวียนอู่เพียงสองตัวเท่านั้นส่วนเสี่ยวหลาง เสี่ยวหู่ เสี่ยวเฮย เสี่ยวรุ่ยจื่อ และพี่ใหญ่อย่างจินหลงล้วนเข้าร่วมการรบในครั้งนี้ คนที่กระตือรือร้นมากที่สุดคื

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 127 ตอนพิเศษ วันว่าง ๆ ของไป๋อี้ถัง

    ไป๋อี้ถังผู้โสดสนิท ครองตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ประหนึ่งนักพรตผู้ทรงศีล อีกทั้งรังเกียจสตรีมากเล่ห์ หลังจากออกจากด่านกักตนมา เขาก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาสั่งสอนลูกศิษย์ในสำนัก ไม่มีภรรยาและบุตรให้ดูแล เวลาทั้งหมดที่มีนอกจากฝึกฝนพลังปราณแล้ว เวลาส่วนที่เหลือเขาจึงเคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ในสำนักศึกษาด้วยความเข้มงวดในเวลาต่อมา อาจารย์ใหญ่ไป๋อี้ถังจึงมีฉายาว่า อาจารย์ใหญ่จอมโหด หากใครไม่ทำการบ้านมาส่งก็จะโดนลงโทษให้ไปวิ่งรอบสถานศึกษา อีกทั้งยังจะต้องทำการบ้านในครั้งหน้ามากกว่าคนอื่นสองเท่าเท่านั้นยังไม่พอ ยังต้องเขียนจดหมายสำนึกผิดอีก 100 จบ และไปเก็บมูลทำความสะอาดคอกของสือเอ้อร์กับสืออีแทนคนงานในไร่ แถมยังต้องถูกเจ้าสือเอ้อร์กับสืออีกลั่นแกล้งจนหน้าทิ่มกองอึอีก ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าไม่ทำการบ้านอีกเลยวันนี้เป็นวันที่ไป๋อี้ถังว่างมาก มากที่สุด วันนี้เป็นวันหยุดของสถานศึกษา ไป๋อี้ถังจึงคิดว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดในเมือง และหาซื้อพู่กันกับแท่นฝนหมึกเพิ่มเพราะเท่าที่เขามีอยู่ตอนนี้ใช้ไปจนเกือบจะหมดแล้วจากนั้นเขาตั้งใจว่าจะชวนสหายทั้งสามของเขาไปด้วยกัน แต่กลับไม่มีใครไปเพราะแต่ละคนต้องการอยู่กับภรรยาแ

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 126 วางแผนรับมือกับเผ่ามาร

    หลังจากที่เฟยเทียนกับฉีหลินเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านป่าหมอกพร้อมลูกชายและเหล่าสหาย หนึ่งเดือนให้หลังเฟยจินก็กลับมาพร้อมกับฮั่นเหวินและเฮ่ออี หลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้และรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน รวมถึงส่งรายชื่อหนอนให้กับเบื้องบนแล้ว ตัวเขาเองก็หมดหน้าที่ ตอนนี้สงครามสงบลงแล้ว ทั้งสามจึงได้ยื่นหนังสือขอลาพักกลับบ้านเกิดเพื่อเยี่ยมบิดามารดาไป๋อี้ถังและสหายทั้งสามจะเข้าด่านกักตนเพื่อฝึกฝนในอีก 3 วันข้างหน้า โดยผู้ที่จะรับหน้าที่สั่งสอนศิษย์ในสถานศึกษาก็คือราชครูไป๋หย่งเต๋อที่เดินทางตามหลังเฟยจินได้เพียง 7 วันนอกจากไป๋หย่งเต๋อแล้วยังมีไป๋เจิ้นกั๋วเจ้ากรมอาญา เดินทางมาพร้อมกับไท่ปิงองครักษ์ประจำตัว นับเป็นการรวมตัวกันระหว่างองครักษ์เลยก็ว่าได้ เซียวหลางตัดสินใจแต่งงานและติดตามไป๋อี้ถัง ม่อถูเองก็เช่นเดียวกัน มีเพียงไท่ปิงเท่านั้นที่มีหน้าที่ดูแลไป๋เจิ้นกั๋วที่เมืองหลวงไท่ปิงเองก็อยากจะมีชีวิตเฉกเช่นสหายทั้งสองบ้าง เขาเองก็คงต้องเร่งฝึกองครักษ์ขึ้นมาใหม่เพื่อจะได้ทำหน้าที่แทนเขา ส่วนตัวเขาเองจะตามมาตั้งรกรากที่หมู่บ้านป่าหมอกแห่งนี้ตามสหายทั้งสองคนวันนี้ฉีหลินเรียกประชุมหน่วยลับที่เป

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 125 สิ้นสุดสงคราม เดินทางกลับบ้าน

    เฟยเทียนพาภรรยามุ่งหน้ากลับหมู่บ้านป่าหมอกทันที หลังจากจัดการทั้งสองแคว้นเรียบร้อยแล้ว และด่านสุดท้ายของภารกิจในครั้งนี้ก็คือจัดการกับเผ่ามารให้เด็ดขาด หากไม่กำจัดประมุขเผ่ามารเสียตอนนี้ ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก มีเพียงกำจัดประมุขมารให้ได้เท่านั้นทุกคนจะได้ไม่เดือดร้อน ตอนนี้มีข่าวส่งว่าอ๋องมารน้องชายเพียงคนเดียวของประมุขมารได้หนีออกจากเผ่ามารไปตั้งรกรากที่อื่นแต่เดิมอ๋องมารก็ไม่เห็นด้วยกับประมุขมารเรื่องยึดดินแดนมนุษย์ แต่ไหนเลยประมุขมารผู้เป็นพี่ชายจะยอมฟัง ในเมื่อมันเป็นความแค้นใจที่มีต่อธิดามหาเทพและสามี ต่อให้อีกนับล้านปีประมุขมารก็วางความแค้นในใจลงไม่ได้“ไม่รู้ว่าเจ้าสามแสบจะทำเรื่องปวดหัวให้ท่านพ่อกับท่านปู่มากมายเพียงใด โดยเฉพาะลูกสาวของท่านพี่ ป่านนี้ไม่ใช่พี่อี้ถังปวดหัวจนผมขาวหมดหัวแล้วหรือเจ้าคะ”“ฮ่า ฮ่า ไม่ขนาดนั้นกระมัง ลูกสาวของเราออกจะน่ารัก อีกอย่างพี่อี้ถังก็ไม่ใช่ว่าจะรับมือไม่ได้เลยนี่นะ”“ท่านพี่ก็เข้าข้างนางตลอดล่ะเจ้าค่ะ อีกหน่อยนางก็เสียคนพอดี”“ไม่ใช่ว่านางกลัวท่านแม่อย่างเจ้าอยู่หรอกหรือ เอาน่าลูกยังเด็กอยู่ยังไม่รู้ความ มีพวกต้าเซี่ยอย

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 124 ไปต่อที่แคว้นฉาน

    ในท้องพระโรงตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้คร่ำคราญของบรรดาองค์หญิงและเหล่าสนมของฮ่องเต้ ส่วนเหล่าองค์ชายนั้นในใจต่างคิดว่าพวกเขาจบเห่แล้วคราวนี้ ยังไม่ทันได้ลงมือช่วงชิงตำแหน่งรัชทายาทแต่เสด็จพ่อกลับทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ ตอนนี้คนของแคว้นหลงบุกมาจัดการพวกเขาถึงในวังหลวงแห่งนี้ เช่นนั้นที่ชายแดนก็คงจะพ่ายแพ้เช่นเดียวกัน“มีอะไรจะพูดหรือไม่ แต่เอาจริง ๆ ไม่ต้องพูดหรอกเสียเวลา ข้าเข้าใจ เสี่ยวเฮยจัดการด้วยล่ะ เอาให้สะอาด” ฉีหลิน“จัดการให้เรียบร้อยจะได้รีบไปจัดการต่อ ข้าอยากกลับบ้านคิดถึงลูก” เฟยเทียนฮ่องเต้แคว้นอู๋มองดูสองสามีภรรยาสั่งงานเจ้าบุรุษชุดดำด้วยความไม่เข้าใจ อะไรคือจัดการให้เรียบร้อย อะไรคือเอาให้สะอาด พูดจาให้คนฟังแล้วไม่เข้าใจก็ช่างเถอะ แต่ช่วยเห็นหัวเขาหน่อยจะได้หรือไม่“อ้อ เสี่ยวเฮย ช่วยปล่อยฮองเฮากับองค์ชายและองค์หญิงที่เกิดจากพระนางด้วย มีคนต้องการพบพวกเขา”“ได้ จะจัดการให้เดี๋ยวนี้”“ขอบใจ ท่านพี่ไปกันเถอะเจ้าค่ะ เรายังมีอะไรที่ต้องทำต่อ”“อืม เสี่ยวเฮยจัดการให้เรียบร้อยอย่าให้เล็ดลอดออกไปได้แม้แต่คนเดียวเข้าใจหรือไม่”เฟยเทียนเดินตามหลังภรรยาออกไปจากท้องพระโรง ท่าม

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 123 จัดการแคว้นอู๋

    ในวันที่ฉีหลินกับเฟยเทียนตัดสินใจลักลอบเข้าวังหลวงแคว้นอู๋ ทางชายแดนแม่ทัพแคว้นอู๋ตัดสินใจนำทัพเข้าบุกแคว้นหลงทันทีโดยมีทัพมารเข้ามาแทรกแซงทำให้กำลังทหารของทางฝั่งแคว้นอู๋มีจำนวนเพิ่มมาหลายพันคนในเมื่อเผ่ามารมือยืดมือยาวถึงเพียงนี้ เสี่ยวเฮยเองก็ย่อมลิ้นยืดลิ้นยาวได้เช่นเดียวกัน ในตอนแรกที่เสี่ยวเฮยยังไม่ได้กลับไปอยู่ในร่างของมังกรทมิฬนั้น ย่อมไม่มีใครเกรงกลัวแต่หลังจากเผ่ามารเข้ามาแทรกแซงทำตัวเป็นกำลังเสริมให้กับแคว้นอู๋ เสี่ยวเฮยจึงเห็นว่าไม่ควรจะปิดบังตัวเองอีกต่อไป มันจึงได้กลับร่างเป็นมังกรทมิฬขนาดใหญ่กว่าที่เผ่ามารจะได้รู้ความจริงก็โดยกินไปจนเกือบหมดเสียแล้ว ยิ่งกลืนกินสิ่งชั่วร้ายไปมากเท่าไหร่ขนาดตัวของเสี่ยวเฮยก็ขยายขึ้นใหญ่มากเท่านั้น ตอนนี้ที่กำลังทหารของแคว้นอู๋เห็นเสี่ยวเฮยกำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น ก็ตัดสินใจกันแล้วว่าจะหนีเอาตัวรอดถึงแม้ว่าแม่ทัพจะไม่สั่งถอยทัพแต่ใครก็ย่อมกลัวตาย ต่างคนต่างรักชีวิตของตัวเองเมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ทิ้งอาวุธออกวิ่งทันทีส่วนเสี่ยวเฮยที่กินเผ่ามารไปแล้วยังรู้สึกว่าไม่อิ่มเท่าไหร่ ต่างจ้องมองไปที่กำลังทหารของแคว้นอู๋ด้วยสายตาวาววั

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 122 แฝงตัวในแคว้นอู๋

    ในขณะที่ฉีหลินกับเฟยเทียนเข้าไปในแคว้นอู๋อย่างราบรื่น ตอนนี้พวกเขาหาที่พักในเมืองหลวงของแคว้นอู๋ได้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนปลอมตัวเป็นตายาย เปิดร้านขายบะหมี่ในตลาดนับว่าเป็นงานที่ท้าทายมากสำหรับเฟยเทียน งานขายบะหมี่นี้เขารับหน้าที่เป็นคนทำบะหมี่ ส่วนภรรยาอย่างฉีหลินนั้นทำหน้าที่เก็บเงิน ส่วนผู้ติดตามทำหน้าที่เสี่ยวเอ้อร์ พวกเขาเช่าร้านบะหมี่ต่อจากเจ้าของเดิมที่เก็บของเตรียมตัวย้ายไปอยู่กับลูกชายที่บ้านเกิดในระหว่างที่ท่านพ่อและท่านแม่ไปทำหน้าที่ทำภารกิจเพื่อความสงบสุข แต่ลูกน้อยทั้งสามคนที่หมู่บ้านป่าหมอกนั้นไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับ 3 คนแก่ที่บ้านสักเท่าไหร่ ไป๋อี้ถังเองยังไม่สามารถรับมือกับหลานน้อยทั้งสามคนได้ เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะอับจนหนทางถึงขนาดนี้ เจ้าสามคนนี่เกิดมาเพื่อสร้างความปั่นป่วนจริง ๆ“ท่านยุงถัง อันนี้ฉือไร” ฟางเซียน“หนังสือวรยุทธ์เบื้องต้น” ไป๋อี้ถัง“ท่านยุงถัง ฉอน เซียนเอ๋อร์ยักเรียน”“ฟางเซียนลุงว่าตอนนี้เจ้าไปนอนกลางวันกับน้องชายทั้งสองของหลานดีหรือไม่ เอาไว้รอให้เจ้าโตกว่านี้ลุงจะสอนให้ทุกอย่างเลย ต้าเซี่ย มาพาคุณหนูของเจ้าไปนอนกลางวันได้แล้ว”“แต่เซียนเอ๋อร์ไม่

DMCA.com Protection Status