“ไม่ค่ะเอยบอกให้พีนัสซื้อมาให้เอยแล้วคุณจะไปทำงานก็ไปเถอะค่ะเอยดูแลตัวเองได้”
เป็นเวลาหลายวันแล้วที่ชายหนุ่มไม่ได้ไปทำงานเพราะเป็นห่วงหญิงสาววันนี้เขาเลยต้องเข้าไปดูงานเองสักหน่อย
อันที่จริงใจเขาอยากจะหอบงานกลับมาทำที่นี่ใจจะขาดแต่ติดอยู่ที่เขาต้องติดต่อกับบุคคลหลายคนซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เข้าบริษัท
คราแรกเขาตั้งใจว่าจะให้ลูกน้องของพ่อเขาเข้าไปดูแลแทนสักระยะหนึ่งแต่เป็นเพราะหญิงสาวพูดให้เขาฟังแทบทุกวันว่าให้เขาไปทำงานได้แล้วเพราะเธอดูแลตัวเองได้เขาจึงต้องยอมไปเพราะดูท่าที่หญิงสาวไล่เขาไปทำงานเธอคงจะเบื่อที่จะคุยกับเขาน่าดู
“งั้นพี่ไปแล้วนะ..มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดรู้ไหม”
“รู้แล้วค่ะ..ไปได้แล้วค่ะเดี๋ยวสายนะคะ.”
ชายหนุ่มที่โดนหญิงสาวไล่ให้ไปทำงานท่าเดียวเขาก็ยังยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าห้องเพราะใจเขาน่ะสิมันไม่อยากไปเอาเสียเลยจนหญิงสาวต้องพูดเตือนสติว่าถ้าเขาช้าอีกนิดเดียวคงสายเป็นแน่เขาจึงยอมออกไปแต่โดยดี
11.00 น.
ติ้งงงงงงง
“เป็นไงบ้างแก”
“กว่าจะมาเยี่ยมเพื่อนได้นะ”
เอิงเอยเปิดประตูมาเห็นหน้าเพื่อนสาวของเธอยิ้มหน้าบานยืนอยู่ที่หน้าห้องก็ทำหน้านอยใส่พีนัสเป็นการใหญ่เพราะกว่าจะมาหาเธอได้ผลัดแล้วผลัดอีก
“ก็ฉันไม่สบายแล้วก็ยุ่งๆเรื่องย้ายที่อยู่อยู่อะแกแล้วอีกอย่างพี่หมออัคเค้าก็ดูแลแกดีอยู่นี่นา...แกต้องรีบจำสามีแกให้ได้นะรู้ไหมเพราะเค้าดีกับแกขนาดนี้”
พีนัสพูดไปตามความเห็นของเธอเพราะเธอรู้สึกว่าชายหนุ่มสามีของเพื่อนเธอดูแลเพื่อนสาวของเธอเป็นอย่างดีจนใครๆต่างก็อิจฉาในความโชคดีของเพื่อนสาวเธอที่มีสามีดีขนาดนี้พร้อมเธอเองก็อยากให้เพื่อนสาวของเธอจำชายหนุ่มได้เร็วๆเช่นกันเพราะอยากให้ทั้งสองมีความสุขกันเสียที
“ใครว่าฉันจำพี่หมอไม่ได้กันล่ะ”
เอิงเอยหันมาพูดกับเพื่อนสาวของเธอด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“แกว่าไงนะ”
พีนัสรู้สึกงงกับคำพูดของเพื่อนสาวของเธอมาก
“ก็อย่างที่ฉันพูดนั่นแหละ”
อันที่จริงเอิงเอยไม่ได้ความจำเสื่อมตั้งแต่ทีแรกแต่ด้วยความที่เธอมีความรู้เยอะเลยรู้อาการของคนที่ความจำขาดหายในเมื่อเธอเองอยากที่จะออกไปจากชีวิตของอัคนีเธอเลยใช้แผนนี้ในการที่จะไปจากเขาเพราะเธอเองยังยืนยันในความคิดดิมว่าเธอไม่อยากที่จะเจ็บกับการที่รักชายหนุ่มข้างเดียวอีกเธอ
“เฮ้ย!!!...แกทำแบบนี้ทำไมวะ”
“เพราะฉันรักพี่หมอไงแกฉันถึงไม่อยากให้ตัวเองเจ็บเพราะรักพี่หมอข้างเดียวอีก”
เอิงเอยเองตอนนี้หัวใจของเธอก็อ่อนแออยู่เหมือนกันแต่ยังไงเธอก็จะพยายามเข้มแข็งและผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้
“แต่ที่ฉันเห็นเค้าก็ดูรักแกดีนะเว้ย”
“นั่นเป็นเพราะเขาทำตามหน้าที่ต่างหากที่ต้องดูแลฉันคำบอกรักจากปากของเขาฉันยังไม่เคยได้ยินเลยแก”
“แต่”
พีนัสเองไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนสาวของเธอเท่าไรถึงแม้เพื่อนของเธอจะบอกว่าสามีไม่ได้รักแต่การที่เธอเป็นคนอื่นที่ไม่มีทิฐิใดๆทำให้เธอมองออกว่าถ้าหากชายหนุ่มไม่รักก็คงไม่ทำถึงขนาดนี้หรอก
“แกไม่ต้องพูดแล้วฉันยืนยันความคิดเดิม...ต่อไปนี้จะไม่มีเอิงเอยที่อ่อนแออีกแล้วจะมีแต่เอิงเอยคนนี้ที่เข้มแข็งและอยู่คนเดียวได้”
เอิงเอยพูดด้วยสีหน้าและแววตาที่จริงจังถึงแม้ตอนนี้ในดวงตาจะมีน้ำตาคลออยู่ก็ตาม
“ในเมื่อแกคิดว่าทำแบบนี้ดีแล้วฉันก็จะไม่ขัดแกก็ได้”
พีนัสเอื้อมมือดึงเพื่อนสาวของเธอมากอดการที่เป็นเพื่อนกันมาหลายปีทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้เพื่อนของเธอได้เข้มแข็งอย่างที่ปากพูดเลยสักนิด
หลายชั่วโมงต่อมา
หลังจากที่พีนัสกลับไปแล้วเอิงเอยก็เตรียมตัวเก็บข้าวของของเธอเท่าที่จำเป็นใส่กระเป๋าพร้อมนั่งรถไปที่บ้านของแอนเดรียสพ่อของสามีเธอทันทีเพราะเธอเห็นว่าวันนี้เป็นวันที่สะดวกที่สุดที่เธอจะไปจากสามีของเธอ
บ้านแอนเดรียส
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
“หนูเอยมาถึงที่นี่มีธุระอะไรหรือเปล่า”
แอนเดรียสรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ครั้งนั้นที่เขาไปเยี่ยมลูกสะใภ้ของเขาที่โรงพยาบาลเธอจำเขาไม่ได้แต่วันนี้เธอกลับมาที่บ้านของเขาถูกซะอย่างนั้นแต่เขาก็ไม่เอ่ยถามเรื่องที่สงสัยออกไปเมื่อเห็นว่าหญิงสาวมาโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวกันก่อนก็น่าจะมีธุระอะไรสักอย่าง
“คือเอยมีเรื่องจะคุยกับคุณพ่อน่ะค่ะ”
หญิงสาวเปิดใจเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อสามีของเธอฟังถึงสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจไปจากอัคนีและเรื่องที่เธอโกหกว่าเธอความจำเสื่อมด้วยและขอให้แอนเดรียสปิดเรื่องนี้เป็นความลับพร้อมทั้งบอกอีกว่าเธอไม่ได้อยากได้สมบัติอะไรทั้งนั้น
“ในเมื่อหนูเอยไม่สบายใจและอึดอัดใจที่จะอยู่กับตาอัคพ่อเองก็ไม่ว่าแต่เรื่องที่หนูเอยจะไปอยู่ที่อื่นพ่อขอให้หนูเอยไปอยู่บ้านที่พ่อซื้อไว้ให้ได้ไหมเพราะพ่อเองเป็นเพื่อนกับพ่อหนูเอยมานานถึงเราจะพึ่งเคยเจอกันแต่พ่อก็เอ็นดูหนูเหมือนลูกสาคนนึงพ่อไม่อยากให้หนูไปลำบากที่อื่นพ่อสัญญาว่าที่ที่หนูจะไปอยู่ตาอัคไม่มีทางรู้แน่นอน”
แอนเดรียสเองรู้สึกหนักใจกับคำขอของลูกสะใภ้เขาเหลือเกินใจนึงก็สงสารเอิงเอยแต่อีกใจก็สงสารลูกชายตัวเองที่เมียจะหนีอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวแต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องของทั้งสองคนเขาก็จะให้ทั้งสองแก้ปัญหากันเอาเอาเองก็แล้วกัน
“ขอบคุณคุณพ่อมากนะคะที่เข้าใจหนู”
คราแรกเอิงเอยคิดว่าแอนเดรียสจะไม่ยอมเสียอีกตอนนี้เธอรู้สึกโล่งใจอย่างมากที่พ่อสามีของเธอเข้าใจพร้อมช่วยเหลือเธอเรื่องทำงานและที่อยู่อีกต่างหาก
“เอาเป็นว่าในเมื่อหนูเอยเก็บกระเป๋าออกมาแล้วเดี๋ยวพ่อจะให้คนของพ่อไปส่งที่เกาะเลยแล้วกัน”
“ค่ะคุณพ่อ”
คอนโดXXX
20.00น.
“เอย..ทำไมเอย”
วันนี้อัคนีเคลียงานที่ค้างอยู่กองโตและคุยกับลูกค้าจนกลับช้าวันทั้งวันใจของเขาคิดถึงแต่หญิงสาวแต่ก็ต้องรีบทำงานให้เสร็จเพื่อที่วันต่อไปเขาจะได้มีเวลาอยู่ดูแลเอิงเอย
ชายหนุ่มกลับมาถึงที่คอนโดพอเปิดประตูเข้ามาก็พบกับความว่างเปล่าหญิงสาวที่เขาเฝ้าคิดถึงทั้งวันไม่ได้อยู่ในห้องข้าวของของหญิงสาวบางส่วนก็ไม่ได้อยู่ด้วยพอเดินเข้าไปที่หัวเตียงกลับพบจดหมายที่หญิงสาวเขียนเอาไว้ให้ว่าในเมื่อเธอจำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเขาก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่
ตอนนี้เขาทรุดนั่งลงกับพื้นท่าคุกเข่ามือของเขากำจดหมายแน่นน้ำตาลูกผู้ชายของเขาไหลพรั่งพรูมาอย่างหยุดไม่ได้ตอนนี้หัวใจเขาสลายเขาเข้าใจว่าหญิงสาวทำแบบนี้เพื่ออะไรในเมื่อเขาทำดีกับเธอทุกอย่างแต่เธอกลับไม่เห็นค่าอะไรเลย“ทำแบบนี้กับพี่ทำไม...เอยพี่รักเอย...เอยหนีพี่ไปทำไม...”หลังจากนั่งฟูมฟายอยู่ได้พักใหญ่ชายหนุ่มก็ขับรถออกจากคอนโดเพื่อไปที่บาร์เขาคิดว่าบางทีความเมามันอาจทำให้เขาลืมเรื่องนี้ได้ชั่วพักชั่วครู่ก็ยังดีตัวเขาเองรู้ดีว่าแอลกอฮอล์มันไม่ได้ดีต่อสุขภาพกายของเขาแต่สุขภาพใจของเขาตอนนี้ต้องการมันเยียวยาอย่างมาก“น้องเอามาอีกขวด”อัคนีตอนนี้เริ่มเมาไม่ได้สติเขาเรียกหาแต่เครื่องดื่มมึนเมาหวังว่ามันจะทำให้ลืมเรื่องวันนี้ได้แต่ยิ่งดื่มเหมือนเรื่องราวมันยิ่งวนซ้ำกลับมาให้เขาได้คิดยิ่งคิดก็ยิ่งต้องดื่ม“พอได้แล้วมั้ง”ภูผาได้รับสายจากแอนเดรียสว่าให้มาดูชายหนุ่มที่บาร์ที่นี่เพราะแอนเดรียสรู้ว่ายังไงลูกชายของเขาก็ต้องกำลังหาอะไรย้อมใจแน่นอนเมื่อภูผามาถึงก็เห็นเพื่อนของเขาเล่นกระดกทีเดียวหมดแก้วแล้วหมดแก้วอีกจนตอนนี้เขาถึงต้องกับยกมือห้ามไม่ให้ชายหนุ่มดื่มต่อ“ปล่อย...ฉันจะดื่ม”อัคนีพูดด้วย
“ขนมหวานไหมคะ...ขนมฝีมือพี่น้ำเมยอร่อยๆเลยค่า”“ตะโกนแบบนั้นเดี๋ยวก็เจ็บคอหมดหรอกเอย”เอิงเอยเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วร้องขายขนมหวานไม่ขาดปากจนน้ำเมยเองต้องปรามเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะเจ็บคอเสียก่อนที่ขนมจะขายหมดตั้งแต่เอิงเอยย้ายมาอยู่ที่นี่และชีวิตของเธอก็ขลุกอยู่กับการทำขนมหวานและการพูดคุยกับน้ำเมยอีกอย่างคนที่นี่ก็ใจดีมาทักทายคนมาอยู่ใหม่อย่างเธอไม่ขาดสายทำให้ตอนนี้หญิงสาวดูสดใสขึ้นอย่างมากภาพของสองสาวที่สวยกันทั้งคู่มายืนขายขนมในตอนเช้าทุกวันเป็นที่เลื่องลือของผู้คนแถบนั้นอย่างมากทำให้ผู้คนต่างมาซื้อขนมของเธอไม่ขาดสายเพราะขนมที่อร่อยด้วยและแม่ค้าก็ยังน่ามองอีกต่างหาก1 อาทิตย์ต่อมา 18.00 น.“เอย”อัคนีนั่งดื่มอยู่ที่คอยโดของเขามือเขาเองนั่งเลื่อนหน้ามือถือไปมาดูรูปของหญิงสาวและตัวเขาเองที่เคยถ่ายด้วยกันจู่ๆอีเมลของนักสืบที่เขาจ้างมาตามหาตัวหญิงสาวก็เด้งขึ้นมาปรากฎรูปของหญิงสาวและพิกัดที่อยู่ของหญิงสาวตอนนี้ใจของเขาเต้นแรงอีกครั้งอย่างมีความหวังชายหนุ่มรีบวางแก้วน้ำเมาในมือลงพร้อมเตรียมตัวออกไปหาเธอตามที่นักสืบส่งพิกัดที่อยู่ของหญิงสาวมาให้ทันทีเช้าวันต่อมา“อย่าคิดว่าจะหนีพี่พ้นเลยเอย
อัคนีทำหน้าตาสงสัยเพราะว่าก่อนที่เธอจะหนีเขามาเธอไม่ได้เรียกเขาแบบนี้สรรพนามที่เธอเรียกเขามันแปลกไปทำให้เขาเริ่มแปลกใจมากขึ้น“เอ่อ..คุณมาทำอะไรที่นี่”เอิงเอยรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้ไม่สงสัย“เมียพี่หนีทั้งคนพี่ก็ต้องมาตามสิ”ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเขายังรู้สึกไม่พอใจหญิงสาวอยู่เหมือนกันที่หนีเขามาโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว(อันที่จริงถ้าบอกก็คงไม่เรียกว่าหนีสินะ)เขาคิดในใจ“ไม่ได้หนีแค่ไม่อยากอยู่ด้วยแล้วคุณก็กลับไปได้แล้ว”เอิงเอยรู้สึกหน่วงที่หัวใจแปลกๆกับคำที่เขาใช้เรียกเธอหญิงสาวไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้เธอนานกว่านนี้เพราะเธอกลัวเหลือเกินว่าหัวใจของเธอนั้นมันจะยอมอ่อนให้กับเขาอีกเพราะตอนนี้เธอกำลังจะใช้ชีวิตตัวคนเดียวได้เกือบจะดีแล้วเธอจึงต้องรีบเอ่ยปากไล่เขากลับ“ทำไมเอย...ทำไมต้องหนีพี่มาด้วยถึงเอยจะจำพี่ไม่ได้แต่ว่ามันก็มีทางรักษายังไงพี่ก็จะพาเอยกลับไปกับพี่ให้ได้”อัคนีเอ่ยกับหญิงสาวเสียงแข็งพร้อมเข้าไปกอดหญิงสาวไว้อย่างแนบแน่นเพราะรู้สึกไม่พอใจที่หญิงสาวเอาแต่ไล่เขาในขณะที่เขาคิดถึงเธออย่างสุดหัวใจและอยากจะพาเธอกลับไปอยู่ด้วย“ปล่อยเอยเดี๋ยวนี้นะทำไมเป็นคน
“อืมม...พี่ก็หิวนะแต่เดี๋ยวพี่รอทานตอนเที่ยงก็ได้”“ก็ดีค่ะพี่หมอทานอาหารให้ตรงเวลาดีกว่านะคะ..”เอิงเอยนั่งอ่านหนังสือในห้องของอัคนีพร้อมเดินเล่นไปมาเพราะว่าไม่มีอะไรทำเธอขอชาหนุ่มช่วยงานแต่เขาก็ไม่ยอมให้เธอทำเธอต้องหาอะไรทำแก้เซ็งไปเรื่อยเช่นอ่านหนังสือบางครั้งเธอก็หิ้วเอาไหมพรมมานั่งถักเล่นไปเรื่อยๆก๊อกๆๆๆๆ“คุณเอยคะมีขนมจากคุณน้ำเมยส่งมาให้ค่ะ”“ขอบคุณค่ะคุณวิ”เอิงเอยเดินไปรับกล่องขนมจากวิภาวีเลขาของชายหนุ่มเธอเองหลังจากที่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่เธอก็ยังติดต่อกับน้ำเมยอยู่ตลอดถึงแม้ว่าน้ำเมยจะไม่ค่อยมีเวลาคุยกับเธอก็เถอะนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอบ่นให้พี่สาวเธอฟังว่าอยากทานขนมฝีมือของน้ำเมยอีกทำให้วันนี้เธอก็ได้ทานสมใจแล้ว“คุณน้ำเมยส่งขนมมาให้อีกแล้วเหรอเอย”อัคนีเห็นวิภาวีส่งกล่องให้เอิงเอยเขาก็รู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นน้ำเมยที่ส่งขนมมาให้เอิงเอยและเขาอีกเป็นแน่“ใช่ค่ะ...พี่หมอทานไหมคะเดี๋ยวเอยใส่จานให้”เอิงเอยเห็นสีหน้าของชายหนุ่มก็รู้ว่าเขาอยากทานขนมในกล่องเพียงใดเพราะครั้งก่อนเจ้าตัวเล่นทานเกือบหมดภายในครั้งเดียวแถมเอ่ยปากชมไม่หยุดว่าอร่อยแบบที่ไม่เคยทานแถมฝีมือแบบนี้สู้กับเชฟตามโ
ไอรดาคับแค้นใจอย่างมากที่ชีวิตของเธอตกต่ำกว่าเอิงเอยทั้งที่เมื่อก่อนเธอเหนือกว่าทุกอย่างยิ่งเห็นเอิงเอยมีความสุขมากเท่าไรเธอเองก็ยิ่งเกลียดหญิงสาวมากเท่านั้นในเมื่อเธอไม่มีความสุขคนอย่างเอิงเอยก็อย่าหวังว่าจะมีความสุขเลยเธอคิดในใจตอนนี้ความคับแค้นมันจุกอยู่ในอกเธอต้องยอมเป็นเมียเสี่ยแก่ๆที่รุ่นราวคราวพ่อของเธอก็เพราะเงินแถมยังต้องอดทนให้ชายแก่ตบตีอีกต่างหากเพียงเพราะว่าเงินคำเดียวตอนนี้เธอคิดแผนที่จะหาทางออกได้แล้วในเมื่อสายตาเธอเห็นว่าสามีของเอิงเอยดูจะรักเอิงเอยมากเป็นพิเศษแล้วถ้าเมียหายไปทั้งคนให้เอาอะไรมาแลกก็น่าจะยอมอีกด้วยถ้าเธอเรียกเงินจากชายหนุ่มได้เธอก็คงจะไม่ต้องทนอยู่กับชายแก่คราวพ่อนี่อีกต่อไปหลายวันต่อมา“วันนี้พี่น่าจะกลับดึกนะเอยไม่ต้องทำอาหารเผื่อพี่นะ”“ค่ะพี่หมอ...”ชายหนุ่มบอกกับคนเป็นภรรยาที่ยืนผูกเนคไทให้กับเขาอยู่วันนี้เขาผูกเนคไทสีที่หญิงสาวเลือกให้เพราะอยากรู้สึกว่ามีภรรยาตัวเองอยู่ใกล้ๆตลอดเวลาเพราะว่าวันนี้หญิงสาวไม่ได้ตามเขาไปด้วยนั่นเองวันนี้ชายหนุ่มต้องไปดูงานหลายที่เขากลัวว่าถ้าเธอตามเขาไปแล้วจะเหนื่อยไม่อย่างนั้นเขาคงหิ้วเธอไปอีกเช่นเคยเป็นแน่จุ้บ“พี
“หึ..ฉลาดนี่ที่จำฉันได้ก็เพราะว่าฉันเกลียดแกไง...เกลียดที่แกมีชีวิตที่ดีกว่าฉัน...เกลียดทุกอย่างที่เป็นแก”ไอรดามองเอิงเอยด้วยแววตาที่เชือดเฉือนและเกลียดชังพร้อมพูดเน้นคำทุกคำที่เกลียดหญิงสาวให้ได้ฟังอย่างชัดถ้อยชัดคำ“โอ้ยยย...”“คนอย่างแกมันไม่สมควรที่จะได้ดีกว่าฉันรู้เอาไว้ด้วย”ไอรดากระชากผมหญิงสาวที่โดนมัดอยู่จนหญิงสาวต้องแหงนหน้าขึ้นเพราะแรงกระชากพร้อมตวาดใส่หญิงสาวอย่างเกลียดชัง“นายน้อยครับเดี๋ยวพวกผมจะกระจายไปรอบๆโกดังแต่เท่าที่สังเกตแล้วผมว่าพวกมันน่าจะมีไม่เยอะเท่าไรแถมยังเหมือนเป็นโจรกระจอกอีกด้วยเพราะระบบป้องกันยังไม่ดีเท่าไรดูจากการที่ไม่มีคนมาเฝ้าที่ต้นทาง”“ฉันก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกันงั้นฉันจะเข้าไปก่อนถ้าฉันต้องการความช่วยเหลือฉันจะส่งสัญญาณไป”“โอเคครับ”อัคนีและลูกน้องฝีมือดีของพ่อเขาอีกสี่ห้าคนเดินทางมาถึงจุดนัดหมายในข้อความที่ส่งมาเรียบร้อยแล้วเมื่อดูราดราวว่ากลุ่มคนพวกที่จับหญิงสาวมาน่าจะไม่ใช่พวกมืออาชีพสักเท่าไรทำให้ชายหนุ่มโล่งใจไปอีกเปราะเขาคิดว่างานนี้คงจะไม่ยาก“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะถ้าอยากได้เงินก็มาเอาไป”อัคนีเดินดุ่มๆเข้ามาที่ในโกดังโดยที่เขาสังเกตได้ว่าพว
“ก็พี่ห่วงของพี่นี่นา”ชายหนุ่มพูดพร้อมหอมไปที่แก้มคนเป็นภรรยาหนึ่งทีแบบฟอดใหญ่ๆพร้อมวางหญิงสาวลงที่ตียงนอนแล้วเขาจึงเดินไปจัดแจงหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวหญิงสาวแทนที่จะให้เธออาบน้ำเพราะตอนนี้เขายังรู้สึกว่าหญิงสาวยังอ่อนแออยู่ถ้าขืนให้เออาบน้ำเธออาจจะไม่สบายเพิ่มเอาได้“ยิ้มอะไรเหรอเอย”ชายหนุ่มที่กำลังนั่งเช็ดตัวให้ภรรยาของเขาอยู่เมื่อมองหน้าหญิงสาวทีไรก็เห็นเธอนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ทุกทีเขาจึงเอ่ยถามเพื่อที่อยากจะรู้ว่าตอนนี้ภรรยาเขาคิดอะไรอยู่“เอยไม่คิดว่าเราสองคนจะมีวันนี้ไงคะ...วันที่พีหมอจะรักและดูแลเอยดีขนาดนี้”“เมื่อก่อนเอยคงจะมองพี่ไม่ดีมากเลยสินะ...พี่เองก็ไม่คิดว่าคนที่พีมีอคติด้วยตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักจะทำให้พี่รักได้มากมายขนาดนี้”ชายหนุ่มตอบพร้อมสวมกอดหญิงสาวเอาไว้พร้อมลูบหัวเธออย่างเอ็นดูเขาเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้กับหญิงสาวได้เหมือนกันแต่วันนี้เขาได้รู้แล้วว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดคราแรกเลยสักนิด“ต่อไปนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องอดีตกันอีกแล้วนะอะไรไม่ดีก็ให้มันผ่านไปเรากำลังจะมีเจ้าตัวน้อยด้วยกันต่อไปนี้พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลเอยและลูกให้ดีที่สุดขอแค่เอยเชื
“เอยก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคงต้องรอให้เจ้าตัวมาถึงที่นี่ก่อนแล้วเอยก็คงจะได้คุยแบบละเอียดอีกที”“อืม...ถ้าพีนัสมานอนกับเอยงั้นคืนนี้พี่ก็อดนอนกอดเอยน่ะสิแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย”ชายหนุ่มทำหน้างอนหญิงสาวเล็กน้อยที่คืนนี้เขาจะไม่ได้นอนกอดเธอเหมือนเช่นเคย“ก็แค่คืนเดียวนี่คะ...ไม่สงสารเพื่อนเอยหรือไงคะ”“พี่ก็เห็นใจพีนัสนะเอย...แต่พี่ก็อยากนอนกอดเอยนี่นา...”ชายหนุ่มทำเสียงออดอ้อนหญิงสาวพร้อมกับซุกลงนอนที่ตักของเธอ“นะคะ...คืนเดียวเองนะคะพี่หมอยังไงเราก็อยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้วนี่คะ”“เฮ้อ...โอเคๆ...”กว่าชายหนุ่มจะเลิกทำหน้าบูดได้เล่นเอาหญิงสาวก็พูดหว่านล้อมอยู่หลายรอบหญิงสาวเองก็ไม่เข้าใจว่าสามีเธอจะติดอะไรเธอนักหนา22.00 น.หลังจากที่พีนัสมาถึงที่คอนโดของและเข้าไปในห้องกับภรรยาเขาเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจำต้องหอบผ้าห่มสำรองในตู้มาห่อมนอนที่โซฟาด้านนอกชายหนุ่มนอนพลิกไปพลิกมาเพราะเขาไม่ได้นอนกอดร่างหอมๆของภรรยาของเขาทำให้ชายหนุ่มเองนอนไม่หลับ“ต้องใช้วิธีนี้สินะ”ชายหนุ่มนอนพลิกซ้ายพลิกขวาไปมาได้สักพักก็ยังข่มตานอนหลับลงไม่ได้จู่ๆเขาก็คิดวิธีการที่จะได้กลับมานอนกอดหญิงสาวในคืนนี้ดังเดิมออกเ