อาคารเป็นสไตล์กอทิกคลาสสิก หอคอยสูงแหลม ลายเส้นชัดเจน รีบง่ายสว่าง ใหญ่โตอลังการ หน้าต่างหลังคาทรงกลม มีเสาต้นเล็กสูงเรียงราย และมีรูปแกะสลักคนตั้งอยู่สองฝั่งจูฝานรับถุงมาจากมือเธอแล้วชี้เวินเหลียง “ให้อาเหลียงถ่ายให้เธอแล้วกัน!”จูฝานคือตากล้องมืออาชีพ แต่เขามองออกว่าเวินเหลียงไม่ค่อยสนใจเท่าไร อยากให้เวินเหลียงมีความรู้สึกร่วม เบิกบานใจทีละน้อย“อาเหลียง เธอถ่ายให้ฉันหน่อยสิ!” ไม่รอให้เวินเหลียงปฏิเสธ ถังซือซือก็ยัดโทรศัพท์มือถือกับมือของเวินเหลียงด้วยความจนใจ เวินเหลียงจึงได้แต่หามุมหนึ่งถ่ายให้ถังซือซือสองสามรูปถังซือซือเอาโทรศัพท์มาดูแล้วพลันอุทาน “โห! ใช้ได้นี่ อาเหลียงถ่ายรูปให้ฉันซะสวยเลย!”จูฝานไปดูทีหนึ่งแล้วยิ้มพูด “อาเหลียงมีทักษะนะเนี่ย ฉันว่าต่อจากนี้เธอก็มาเป็นตากล้องของพวกเราเถอะ!”“หา?” เวินเหลียงขมวดคิ้วสวยถังซือซือสมทบ “นั่นสิ ๆ ๆ เธอมาเป็นตากล้องของเราเถอะ! ห้ามปฏิเสธนะ เธอมาเที่ยวทั้งที ถ่ายรูปก็ไม่ถ่าย งั้นก็มาเป็นตากล้องให้เราเถอะ!!”“ก็ได้” เวินเหลียงรับปากเธอคิดว่าตัวเองควรทำอะไรเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเหมือนกันมื้อค่ำเป็นร้านหม้อไฟ ร้านอาหารจีนท
ถังซือซือยิ้มพลางเอ่ยว่า “ดูก่อนก็แล้วกัน ไม่งั้นนายก็แอดไลน์ฉัน?”ชายหนุ่มมองเวินเหลียงทีหนึ่ง เห็นเธอไม่มีเจตนาอยากจะแอดไลน์ จึงทำได้เพียงแอดไลน์ของถังซือซือไปก่อน “เรียบร้อยครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับ”เขามองเวินเหลียงอีกครั้งแล้วเอ่ยว่า “พี่ครับ ถ้าเสื้อผ้าพี่ซักไม่สะอาดละก็ รีบมาหาผมเลยนะครับ”“ได้เลย” ถังซือซือตอบกลับแทนเวินเหลียงรอเมื่อชายหนุ่มจากไป ถังซือซือก็มองเวินเหลียง “ให้ตายเถอะ เสี่ยวอาเหลียง อย่าทำตัวเย็นชาขนาดนั้นจะได้ไหม!”เวินเหลียงเงยหน้าขึ้นมา “ฉันทำแบบนั้นเหรอ?”“เปล่างั้นเหรอ?” ถังซือซือถลึงตาโต “เขาอุตส่าห์แสดงความจริงใจ เธอก็เอาแต่ทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ได้ ยังเย็นชาไม่พอหรือไง?”เวินเหลียงสำลักไป “ฉันรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นก็แค่นั้นเอง”เวินเหลียงรู้ปัญหาของตัวเองข้อนี้นานแล้ว หรือว่าอาจเพราะไปไหนมาไหนคนเดียวจนชินแล้ว นอกจากลูกค้าที่ต้องรักษาเอาไว้ เมื่อเธออยู่กับเพื่อน เธอมักเป็นฝ่ายถูกเข้าหามากกว่าอธิบายในหนึ่งประโยคก็คือ ถ้าเธอมาฉันจะต้อนรับขับสู้ แต่ถ้าเธอไม่มาฉันก็สบาย ๆเธอไม่ได้หวังอยากจะมีเพื่อนเยอะ ๆ อย่างเมื่อครู่นี้หากไม่จำเป็นต้องไปมาหาสู่กัน เ
เวินเหลียงก็ยังรู้สึกว่าพวกเธอคิดมากไปแล้ว “ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? เขาแค่อยากชดใช้ค่าซักแห้งให้ฉันแค่นั้น”ถังซือซือเลิกคิ้ว แล้วตอบกลับเมิ่งเซ่อ “นายจะเอาไลน์ของเธอไปทำอะไร?”อีกฝ่ายที่อยู่บนหน้าแชตขึ้นว่ากำลังพิมพ์อยู่นานสองนาน จากนั้นเมิ่งเซ่อก็ส่งข้อความมาข้อความหนึ่ง “ผมทำเสื้อผ้าของพี่เขาสกปรก ควรชดใช้ค่าซักให้พี่เขา”เมื่อเวินเหลียงเห็นก็แบมือ “ดูสิ ฉันบอกแล้ว...” ยังพูดไม่ทันจบ เมิ่งเซ่อก็ส่งมาอีกข้อความหนึ่ง “แล้วก็ พี่สาวคนนั้นสวยเป็นพิเศษด้วย”ถังซือซือแอบขำขึ้นมา ก่อนจะพูดอย่างหยอกล้อ “อาเหลียง เธอยังมีอะไรอยากจะพูดอีกไหม?”เวินเหลียงเบือนหน้าหนี ก่อนจะชำเลืองมองไปทางพวกเมิ่งเซ่ออย่างลวก ๆ ทีหนึ่ง ทว่าดันไปสบตากับเมิ่งเซ่ออย่างไม่ตั้งใจเข้าเธอรีบชักสายตากลับ รู้สึกเพียงอิหลักอิเหลื่อเป็นอย่างมากตอนนี้เธอยังไม่มีความคิดจะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ถึงมีเธอก็คงไม่เลือกคนที่เด็กกว่าตัวเองคงเป็นเพราะเธอเป็นคนที่ค่อนข้างขาดความรักคนหนึ่ง มีแนวโน้มว่าจะมองหาผู้ชายที่มีความเป็นผู้ใหญ่และมีจิตใจมั่งคงหนักแน่นมากกว่า คนที่รับในตัวเธอได้ ทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นของคำว่า
ฟู่เจิงหยิบแหวนขึ้นมามองอยู่นานสองนาน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความยากจะเข้าใจเขาใส่แหวนลงไปในกล่องอีกครั้ง จากนั้นก็ปิดลังแล้วเอามันขึ้นไปชั้นบน…ตอนสองทุ่ม ภายในห้องวีไอพีของคลับแสงไฟสลัวกระหึ่มไปด้วยเสียงดังเจี๊ยวจ้าว เจียงมู่เปิดประตูห้องวีไอพีเข้ามา ทักทายกับพวกหานเฟิง ก่อนจะมองไปรอบ ๆ แล้วเดินไปที่มุมโซฟาเขานั่งลงข้างฟู่เจิง แล้วเปรยถามขึ้นประโยคหนึ่งว่า “ทำไมถึงมานั่งตรงนี้ล่ะ?”“เงียบสงบดี” ฟู่เจิงตอบ น้ำเสียงฟังดูราบเรียบไร้คลื่นใด ๆ“หย่าแล้ว?” เจียงมู่ล้วงห่อบุหรี่ออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ“อืม”เจียงมู่มองเขาทีหนึ่ง จากนั้นก็โยนบุหรี่ไปหนึ่งตัวฟู่เจิงใช้ไฟแช็กของเจียงมู่จุดบุหรี่ จากนั้นก็สูบและพ่นควันออกมา“ตอนนี้เธออยู่ไหน?” เจียงมู่พ่นควันออกมาสายหนึ่ง“ไปเที่ยวนอร์เวย์กับเพื่อน”เห็นฟู่เจิงสงบถึงขนาดนั้น เจียงมู่ก็มองเขาด้วยความสงสัยทีหนึ่ง “ปล่อยไปทั้งอย่างนี้? ถ้าเป็นผู้หญิงที่ฉันชอบนะ ฉันไม่มีทางให้เขาจากไปง่าย ๆ อย่างนี้หรอก!”ฟู่เจิงเงียบไป นิ้วชี้พลางเขี่ยขี้บุหรี่ จากนั้นก็ใส่เข้าไประหว่างฟันใหม่อีกครั้งปล่อยไปทั้งอย่างนี้ เขาจะยอมได้ยังไง?ถ้าปล่อยไ
คนที่ไม่รู้สถานการณ์พูดสมทบว่าใช่โดยเฉพาะบางคนที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อจะสอบถามข่าวคราวของฟู่เจิง เพิ่งมาปรากฏตัวที่นี่เป็นครั้งแรกเพราะอยากจะหาโอกาสสร้างความสัมพันธ์ลู่ฉางคงคิดว่าฟู่เจิงจะโกรธ ใครจะไปรู้ฟู่เจิงกลับเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ ๆ ก็เอ่ยปากถามว่า “งั้นนายคิดว่า ใครคู่ควรกับฉันล่ะ?”คนคนนั้นนึกไม่ถึงว่าฟู่เจิงจะสนใจเขา ความปลื้มล้นออกจากคำพูด โพล่งปากออกมาว่า “แน่นอนว่าต้องเป็นคุณฉู่อยู่แล้ว!”สีหน้าของฟู่เจิงไร้อารมณ์ ก่อนจะกวาดตามองไปที่พวกคนที่อยู่ข้างเขา แล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า “พวกนายคิดกันแบบนี้เหรอ?”ทั้งสองสามคนมองหน้ากันทีหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าอย่างต่อเนื่องฟู่เจิงนั่งอยู่ในเงามืด สีหน้าอึมครึมมองไม่ชัดเจน เขาเขย่าแก้วเหล้าเบา ๆ เงียบไปอยู่นานสองนานคนคนนั้นยังไม่สัมผัสถึงอะไรบางอย่าง เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “คิดว่าคุณฟู่กับคุณฉู่คงมีข่าวดีด้วยกันเร็ว ๆ นี้ใช่ไหมครับ?”“ปัง...”เสียงดังสนั่นสะเทือนรุนแรงดังขึ้นเสียงหนึ่งจู่ ๆ ฟู่เจิงก็ถีบโต๊ะตรงหน้าล้มลงไปเหล้าที่วางอยู่ด้านบนตกลงบนพื้นกระจายดังเพล้ง ๆ ๆ ๆ เหล้าสาดกระจัดกระจายสีหน้าของเขาข
เมื่อฟู่เจิงนึกถึงเรื่องที่ทำให้เขาหัวหมุน ก็ยิ่งดื่มถี่ขึ้นแก้วแล้วแก้วเล่าเจียงมู่ “…”พูดไปพูดมาเขาก็พูดกับฟู่เจิงว่าจะดื่มเป็นเพื่อน!เจียงมู่โน้มน้าวไม่ได้ผล เห็นฟู่เจิงดื่มไปไม่น้อยแล้ว เขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะต่อสายโทรออกไปยังเบอร์ของเวินเหลียงเวินเหลียงในตอนนี้ อยู่ในอาคารผู้โดยสารขาออกที่สนามบินออสโล กำลังรอขึ้นเครื่องบินไปยังทรอมโซเธอเห็นสายโทรเข้าของเจียงมู่ ก็มองถังซือซือและจูฝานทีหนึ่ง ก่อนจะลุกไปรับสายที่ข้างหน้าต่าง“ฮัลโหล เจียงมู่? มีเรื่องอะไรเหรอ?”“อาเจิงกำลังดื่มเหล้าอยู่”เมื่อได้ยินชื่อของคนคนนั้น หัวใจของเวินเหลียงก็เต้นผิดจังหวะ “หมายความว่าอะไรยังไง?”เขาดื่มเหล้าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ทราบ?“เขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ยังต้องกินยาต่อ จะดื่มเหล้าไม่ได้ ฉันโน้มน้าวเขาไม่ได้ผล”“คุณจะให้ฉันไปโน้มน้าวเขางั้นเหรอ? แม้แต่คุณยังโน้มน้าวเขาไม่ได้ ฉันคิดว่าฉันยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เขาคงไม่ฟังฉันหรอก”“อย่าเพิ่งพูดเรื่องจะได้ผลหรือเปล่า อย่างน้อยก็ลองดูก่อน ที่เขาต้องได้รับบาดเจ็บร้ายแรงขนาดนั้นก็เพื่อช่วยเธอ เธอคงไม่อยากเห็นอาการเสียใจของเขากำเริบ
เวินเหลียงวางสายแล้วกลับไปยังที่นั่งถังซือซือเห็นเวินเหลียงดูหดหู่เล็กน้อย จึงถามเปรยขึ้นว่า “เมื่อกี้สายของใครเหรอ?”“เพื่อนคนหนึ่งน่ะ” เวินเหลียงกัดริมฝีปากล่าง“หึ เธอมีเพื่อนกี่คนฉันไม่รู้หรือไง เพื่อนที่เธอพูดถึงคงไม่ใช่อีตามืดบอดฟู่หรอกนะ?”เวินเหลียง “...”ถังซือซือเห็นว่าตัวเองทายถูก ก็พูดแซะขึ้นมาทันที “เขายังจะโทรมาทำไมอีก? ตอแยเธอ? อาเหลียง เธออย่าใจอ่อนยกโทษให้เขาเชียวนะ!”“ไม่มีทาง” เวินเหลียงเอ่ยขึ้นอย่างแน่วแน่ “เมื่อกี้เพื่อนของเขาโทรมา บอกว่าเขากำลังดื่มเหล้าอยู่ ให้ฉันไปโน้มน้าวหน่อย เขาได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยฉัน ฉันจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้”จูฝานพูดขึ้น “ฉันเชื่อว่าอาเหลียงคงไม่เลอะเลือนขนาดนั้นหรอก แต่แค่ตอนนี้ต้องให้เวลาเธอเดินออกมาหน่อย”ผ่านไปสองชั่วโมง พวกเวินเหลียงทั้งสามคนก็มาถึงทรอมโซออกมาจากสนามบิน พวกเธอก็นั่งรถเมล์ไปโรงแรมมองไปนอกรถเมล์ สองข้างถนนยังถูกปกคลุมไปด้วยรอยหิมะชั้นหนึ่งโรงแรมที่ถังซือซือจองเอาไว้คือออโรร่าครีโอล“ฉันเห็นในคำแนะนำบอกว่าโรงแรมนี้อยู่ติดกับท่าเรือ วิวดีมาก ๆ แถมชั้นดาดฟ้ายังมีออนเซ็นกลางแจ้งด้วย ถึงเวลานั้นจะได้ไป
พูดจบ เขาก็ออกไปอย่างดีอกดีใจมองเงาเบื้องหลังของเขา ถังซือซือก็ฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา แล้วพูดกับเวินเหลียงว่า “ดูท่าพวกเราจะมีวาสนาต่อกันจริง ๆ แบบนี้พบเจอกันได้ทั้งนั้น”เวินเหลียงยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรเธอรู้ว่าถังซือซือหมายความว่าอะไร แต่เธอไม่ได้คิดอะไรกับเมิ่งเซ่อจริง ๆกินข้าวเสร็จ พวกเขาก็กลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัยที่ห้อง จากนั้นก็ไปรวมตัวกับพวกเมิ่งเซ่อเขาที่โถงด้านล่างของโรงแรม และไปลานสกีด้วยกันคฤหาสน์ย่านซิงเหอวานฟู่เจิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา หลังเกิดอาการเมาค้างหัวเหมือนจะระเบิดออกมาอย่างนั้นเขาหลับตาลงอย่างสุดจะทนพลางยื่นมือออกไปลูบขมับข้างหูมีเสียงกรนครอก ๆ แว่วดังขึ้นมากระทั่งอาการปวดที่หัวเริ่มทุเลาลงมาบ้างแล้ว ฟู่เจิงถึงได้ลืมตาขึ้นมา ในมือลูบปุ๊กลุกที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ พร้อมทั้งมองเพดานอย่างเหม่อลอยเขาฝันว่าเวินเหลียงโทรมาหาเขา เป็นห่วงเขานัยน์ตาของฟู่เจิงประกายความขมขื่นออกมาสายหนึ่งก็มีแต่ในความฝันเท่านั้น ที่เธอจะทำกับเขาแบบนี้มีแต่ในความฝันเท่านั้น เขาถึงคลายความตรอมใจได้เขาคิดถึงเธอมากเหลือเกินคิดถึงจนจะเป็นบ้า คิดถึงจนกระทั่งหลับตาในหัว
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง