Share

บทที่ 4

ฉันกับสวีซงชิงถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันเพราะทางการเมือง แต่ฉันกลับหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ

ไม่มีเหตุผลอื่น แค่เพียงเพราะว่าเราเคยพบกันครั้งหนึ่งสมัยเรียนมัธยมปลาย

ตอนนั้นฉันเพิ่งย้ายโรงเรียนมายังใจกลางเมือง จึงตกเป็นเป้าหมายของแก๊งชอบบุลลี่ในโรงเรียน

ถึงแม้ว่าฉันพยายามต่อต้านสุดชีวิต แต่หัวเดียวกระทีมลีบย่อมรับมือไม่ไหว

แต่ในช่วงเวลาที่ฉันสิ้นหวังนั้นเอง เขาก็ปรากฎตัวขึ้น

และได้ช่วยฉันเอาไว้

เพราะงั้นเมื่อได้รู้ว่าคนที่ต้องแต่งงานด้วยคือเขา ฉันก็ดีใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน

แต่สิ่งที่ฉันไม่รู้ก็คือ ที่เขาแต่งงานกับฉัน ก็เพียงเพราะห่วงโซ่เงินทุนที่ใช้หมุนในบริษัทที่ของครอบครัวเขาพังทลายลง และต้องการเงินทุนจากครอบครัวฉันไปช่วยค้ำจุนอย่างเร่งด่วน

แม้แต่ตอนนั้นที่เขาช่วยฉันเอาไว้ นั่นก็เป็นเพราะว่าสวีชิงชิงเป็นหัวโจกที่ริเร่มการบุลลี่ และเขากลัวว่าเธอจะถูกฟ้องเข้า

แต่ตลอดหลายปีที่แต่งงานกับเขา ฉันดูแลเขาด้วยความตั้งใจทั้งหมดที่มี

กลัวว่าเขาจะกินอาหารไม่ดีข้างนอก เลยตั้งใจลงมือทำอาหารเองทุกวันแล้วนำไปส่งให้เขา

เขาเองก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด บางครั้งก็ให้ของขวัญ บางครั้งก็มีเซอร์ไพรส์ฉัน

ตอนนั้นฉันหลงเข้าใจไปแล้วจริงๆ วันพวกเราจะมีความสุขแบบนี้ไปตลอดชีวิต

แต่วันที่ฉันรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ ฉันบอกข่าวดีนี้กับเขาด้วยความตื่นเต้น

แต่เพราะคำพูดเสี้ยมต่างๆ นาๆ ของสวีชิงชิง ทำให้เขาปลงใจเชื่อว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของเขา

“เธอท้อง? ครั้งก่อนชิงชิงยังเห็นเธอออกไปข้างนอกกับผู้ชายคนอื่น เด็กนี่เป็นลูกของไอ้ชายชู้นั่นใช่ไหม!”

ฉันอยากจะอธิบาย แต่เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เขวี้ยงแจกันดอกไม้บนโต๊ะลงมา

ด่าว่าฉันร่าน...

เมื่อเป็นวิญญาณย่อมไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่ไม่รู้ว่าทำไม ดูเหมือนว่าฉันจะกลับมาที่อ่างอาบน้ำนั่นอีกครั้ง

ทั่วบริเวณร่างของฉันหายใจไม่ออกราวกับขาดอากาศ

เมื่อเห็นว่าผ่านไปแล้วผ่านไปเล่าฉันก็ยังไร้การเคลื่อนไหว สีหน้าของสวีซงชิงก็ยิ่งดำทะมึนขึ้นเรื่อยๆ

“ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว หล่อนยังไม่มาอีก หรือว่ายังไม่สำนึกว่าตัวเองผิด”

“เจี่ยนชูเสวี่ย เธอเตรียมเหตุผลให้ฉันไว้ดีๆ เถอะ”

ฉันมองเขาอยู่อย่างนั้น มองดูมือของเขาที่โอบสวีชิงชิงเริ่มตื่นตระหนกขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มองดูมือของเขาที่ตึงเครียดจนถือแก้วน้ำเอาไว้ไม่อยู่

เขาก็พูดขึ้นว่า

“ชิงชิง เธอรอฉันที่นี่เดี๋ยว ฉันจะไปดูหน่อย เธอไม่ต้องห่วง ฉันจะต้องลากตัวหล่อนมาชดใช้ให้เธอแน่!”

พูดจบ สวีซงชิงก็รีบลุกขึ้น เดินไปยังสถานที่ที่กักขังฉัน แต่เมื่อเดินมาจนถึงหน้าประตู เขาก็กลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ

“ทำไมมันเหม็นขนาดนี้?”

เลขายืนอยู่อีกฟาก กำลังกอดถังขยะอ้วกด้วยใบหน้าขาวซีด

“ประธานสวี คุณไปดูเองเถอะค่ะ”

คงเป็นเพราะจะได้เห็นร่างของตัวเอง ฉันถึงได้รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย

ไม่รู้ว่าสวีซงชิงเห็นศพของฉันแล้วจะทำหน้ายังไง จะหวาดกลัวเหมือนกับฉันในตอนนั้นหรือเปล่า

สวีซงชิงเปิดประตูออก แผงโลหะที่ครอบปิดบนสระว่ายน้ำถูกรื้อออกไปแล้ว เวลานี้มันถูกโยนไว้อีกฟากนึง

ผ้าดำที่ครอบปิดสระว่ายน้ำเอาไว้ก็ถูกดึงออกเช่นกัน แต่น้ำในสระกลับดูขุ่น

สวีซงชิงขมวดคิ้ว พูดใส่สระว่ายน้ำด้วยเสียงเย็นชาว่า

“เจี่ยนชูเสวี่ย เธอยังไม่รีบโผล่หน้าออกมาอีกหรอ อยากจะอยู่ในสระว่ายน้ำไปตลอดชีวิตใช่ไหม!”

ฉันลอยไปอยู่ข้างกายเขาด้วยความตื่นเต้น แล้วพูดพึมพำกับตัวเอง

“คุณไม่รู้หรอ? ฉันเองก็อยากออกจะตาย วินาทีสุดท้ายก่อนที่ฉันจะหมดลมหายใจ ฉันยังพยายามออกแรงตีแผงโลหะ อยากให้ตัวเองมีโอกาสรอดต่อไปอีกสักนิด”

“แต่มันไม่มีแล้ว เพราะงั้นฉันก็เลยตาย”

ทว่าสวีซงชิงกลับไม่ได้สนใจ เขาตวาดด้วยเสียงดุดัน

“จะเสแสร้งไปถึงไหน! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอทำให้ชิงชิงสำลักน้ำ ฉันจะขังเธอในนี้ทำไม ยังไม่รีบโผล่หน้าออกมาอีก อย่าอวดดีให้มันมาก!”

เขาเดินไปยังด้านข้างของสระว่ายน้ำ กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงของซากศพทำให้เขาอยากอ้วกมากยิ่งขึ้น แต่เขายังคงเดินไปด้านข้าง หยิบไม้กวาดที่พาดอยู่ฟากนั้น แล้วตีลงไปยังเงาที่อยู่ในน้ำ

“จะอ้วก ยังไม่รีบไปอาบน้ำอีก”

เขาออกแรงไม่น้อย ศพลอยอยู่ในสระว่ายน้ำมาหลายวัน จนขึ้นอืดไปตั้งนานแล้ว พอถูกเขาตีไปทีนึง ร่างทั้งร่างก็โผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำในสภาพที่น่าสยดสยอง

สวีซงชิงก้าวถอยหลังไปสองก้าวด้วยความตื่นตระหนก ไม้กวาดที่อยู่ในมือก็ร่วงลงไปอยู่บนพื้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status