ฉันกับสวีซงชิงถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันเพราะทางการเมือง แต่ฉันกลับหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบไม่มีเหตุผลอื่น แค่เพียงเพราะว่าเราเคยพบกันครั้งหนึ่งสมัยเรียนมัธยมปลายตอนนั้นฉันเพิ่งย้ายโรงเรียนมายังใจกลางเมือง จึงตกเป็นเป้าหมายของแก๊งชอบบุลลี่ในโรงเรียนถึงแม้ว่าฉันพยายามต่อต้านสุดชีวิต แต่หัวเดียวกระทีมลีบย่อมรับมือไม่ไหวแต่ในช่วงเวลาที่ฉันสิ้นหวังนั้นเอง เขาก็ปรากฎตัวขึ้นและได้ช่วยฉันเอาไว้เพราะงั้นเมื่อได้รู้ว่าคนที่ต้องแต่งงานด้วยคือเขา ฉันก็ดีใจจนนอนไม่หลับทั้งคืนแต่สิ่งที่ฉันไม่รู้ก็คือ ที่เขาแต่งงานกับฉัน ก็เพียงเพราะห่วงโซ่เงินทุนที่ใช้หมุนในบริษัทที่ของครอบครัวเขาพังทลายลง และต้องการเงินทุนจากครอบครัวฉันไปช่วยค้ำจุนอย่างเร่งด่วนแม้แต่ตอนนั้นที่เขาช่วยฉันเอาไว้ นั่นก็เป็นเพราะว่าสวีชิงชิงเป็นหัวโจกที่ริเร่มการบุลลี่ และเขากลัวว่าเธอจะถูกฟ้องเข้าแต่ตลอดหลายปีที่แต่งงานกับเขา ฉันดูแลเขาด้วยความตั้งใจทั้งหมดที่มีกลัวว่าเขาจะกินอาหารไม่ดีข้างนอก เลยตั้งใจลงมือทำอาหารเองทุกวันแล้วนำไปส่งให้เขาเขาเองก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด บางครั้งก็ให้ของขวัญ บางครั้งก็มีเซอร์ไพรส์ฉันตอนน
ผ่านไปสักพัก ก็เหมือนว่าเขาจะนึกอะไรออกก็ไม่ปานเขาเตะแผงโลหะที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาครอบปิดไว้ แล้วหันไปด่ากราดเลขาที่กำลังอ้วกจนหมดไส้หมดพุง“เธอใช่ไหม เป็นเธอใช่ไหมที่เอาหุ่นมาปล่อยไว้ข้างใน อยากจะช่วยให้เจี่ยนชูเสวี่ยหนีไปใช่ไหม!”เลขาที่กอดถังขยะสำรอกจนแทบจะเอาถุงน้ำดีออกมาอยู่แล้ว ได้ยินสวีซงชิงถามจะไม่ตอบก็ไม่ได้“ไม่ใช่นะคะประธานสวี ฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยจริงๆ ค่ะ”“ในนั้น...แหวะ...น่าจะเป็นคุณเจี่ยน...”น่าเสียดาย ที่คำพูดของเลขาไม่ได้ทำให้สีหน้าของสวีซงชิงดีขึ้นแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขาจ้องไปยังสระว่ายน้ำตรงหน้าพลายเยาะเย้ยหนักกว่าเดิมแม้แต่คำพูดที่พูดออกมา ก็ยังแฝงไว้ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“ตัวปลอม! ต้องเป็นตัวปลอมแน่”“ต้องเป็นเพราะเจี่ยนซูเสวี่ยไม่อยากยอมรับผิด ถึงได้เอาหุ่นนี่มาปล่อยไว้ข้างใน”“ฉันรู้อยู่แล้ว ผู้หญิงร้ายกาจอย่างเจี่ยนชูเสวี่ยไม่มีทางยอมรับผิดง่ายๆ”“รอก่อนเถอะ รอให้ฉันหาตัวหล่อนเจอก่อน ฉันจะทำให้หล่อนขอโทษชิงชิงด้วยตัวเองให้ได้”พอได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ฉันก็หมุนตัวไปรอบๆ ตรงหน้าเขาด้วยความรู้สึกตลกขบขัน“สวีซงชิง ฉันก็อยู่ตรงหน้าคุณนี่ไง”“ค
และสวีซงชิงที่ไม่สังเกตเห็น ก็ยังเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าฉันแกล้งตายและหลบหนีไปแล้วเพื่อยืนยันการคาดการณ์นี้ เขาไปหาเทปบันทึกภาพกล้องวงจรปิดที่สระว่ายน้ำออกมาภาพในนั้นก็ยิ่งโชว์ออกมาอย่างชัดเจนว่า หลังจากที่ฉันถูกโยนเข้าไปในสระว่ายน้ำ การเคลื่อนไหวของฉันเริ่มจากดิ้นรน สู่สภาวะหมดลมหายใจแต่สวีซงชิงยังคงไม่เชื่อ เขากำหมัดและทุบลงบนหน้าจอคอม จนหน้าจอเกือบแตกทั้งยั้งชี้ไปที่ภาพที่ปรากฎบนหน้าจอด้วยความเดือดดาลและพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ภาพตอนท้ายมันเหมือนกันเป๊ะๆ ต้องเป็นเจี่ยนชูซิงจงใจตัดต่อเพื่อจะได้หลบหนีไปแน่ๆ!”“ต้องเป็นฝีมือหล่อนแน่! นังผู้หญิงชั่วช้านั่น!”หลังจากทุบจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ยังรู้สึกไม่พอที่จะระบายความโกรธ เขาก็หยิบผ้าห่มที่อยู่ด้านข้างแล้วฟาดลงกับพื้นแรงๆ อีกกว่าเขาจะตั้งสติได้ หันไปมองสวีชิงชิงซึ่งอยู่ด้านข้างที่ดูเหมือนจะตกใจตามไปด้วย ก็รีบปลอบเธอด้วยความอ่อนโยนทันที“ชิงชิง ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ได้โกรธเธอ พี่แค่โกรธที่หล่อนไม่มีความรับผิดชอบ ทั้งที่ปองร้ายเธอ แต่ยังหนีไป เธอไม่ต้องเสียใจนะ วันแสดงคอนเสิร์ตของเธอ พี่จะให้หล่อนขอโทษเธอให้ได้”
“เธอตายแล้วยังไง! ถึงเธอจะตายไป มันก็เทียบกับที่ชิงชิงโดนไม่ได้แม้แต่นิดเดียว”“อีกอย่าง ยังไงซะพ่อแม่องเธอก็ตายไปหมดแล้ว ถ้าเธอตายไปจริงๆ ก็จะได้ไปอยู่กับพวกเขาไง เธอควรจะขอบคุณฉัน!”ฉันดิ้นรน ต่อต้าน แต่การกระทำของเขากลับรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ความเย็นยะเยือกในแววตาก็เริ่มลุ่มลึกยิ่งขึ้น“เธอผลักชิงชิง มันก็สมควรแล้วที่ต้องชดใช้ให้เธอ”เพราะฉันไม่ให้ความร่วมมือ เขาจึงกำข้อมือของฉัน แล้วหักมันอย่างดิบเถื่อน จากนั้นก็เตะเข้ามาที่ท้องน้อยทีนึง จากนั้นโยนฉันลงไปในสระว่ายน้ำ“ไปตายซะ นังสารเลว!”วินาทีสุดท้ายก่อนที่จะตาย ฉันกำลังคิดอะไรน่ะหรอ?ความจริงฉันเองก็ลืมไปแล้ว น่าจะประมาณว่านึกเสียใจที่ตอนนั้นเลือกสวีซงชิง เสียใจที่หลงคิดว่าตัวเองนั้นเลิศเลอ จนนึกว่าจะสามารถทำให้เขาหวั่นไหวได้แต่มีประโยคนึงที่เขาพูดไม่ผิด นั่นก็คือถ้าฉันตายไปก็คงจะได้ไปอยู่กับพ่อแม่ของฉันแล้วแต่ทำไมฉันถึงไม่เห็นเจอพวกเขาเลยล่ะ?จากนั้นต่อมาสองสามวัน สวีซงชิงไม่ได้ไปสืบหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับฉันแต่อย่างใดตรงกันข้าม เขายุ่งเป็นพัลวันเพราะคอนเสิร์ตของสวีชิงชิงทั้งสั่งดอกไม้ ทั้งหาแดนเซอร์ ไหนจะเหมาส
และร่วงตกลงมาภายในงาน รวมถึงผู้ชม แต่ไม่มีอันไหนที่ตกลงมาใส่ฉันเลยฉันซึ่งอยู่ด้านล่างเวทีมองดูสวีซงชิง ที่กำลังโอบสวีชิงชิงที่มีใบหน้าอ่อนโยนในอ้อมกอด คอยคุ้มกันปกป้องเธออย่างระมัดระวังตลอดทางที่ไปในรถอัลฟาร์ดเมื่อรถสตาร์ท เขาโอบเธอแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าซาบซึ้ง“ชิงชิง ขอบคุณนะ ที่อยู่เคียงข้างพี่มาตลอด”สวีชิงชิงยิ้มอย่างได้ใจ กอดเขาตอบ พร้อมกับจุมพิตลงบนใบหูของเขาเมื่อเห็นหูของเขาแดงตามความคาดหวัง จึงเอ่ยขึ้นข้างหูของเขาอย่างแผ่วเบา“พี่ชาย ฉันยินดีที่จะอยู่เคียงข้างพี่ตลอดไป”หลังจากที่คอนเสิร์ตจบลงไปนานมากแล้ว สวีซงชิงถึงนึกขึ้นได้ว่าต้องตามหาฉันเขาใช้กำลังคนและทรัพยากรจำนวนมาก บอกพนักงานทุกคนในบริษัทใครก็ตามที่หาตัวฉันเจอ หรือสามารถให้เบาะแสที่เกี่ยวกับฉันได้ เขาพร้อมจะให้เงินรางวัลหรือใครที่สามารถลากตัวฉันกลับมาได้ เขาจะมอบบ้านใจกลางเมืองให้หนึ่งหลังในขณะที่ฉันก็ดูเหตุการณ์ตรงหน้าเหล่านี้ด้วยความรู้สึกตลกสิ้นดี และลอยไปข้างกายเขาพร้อมกับเป่าลมใส่สุดท้ายก็ได้แต่มองเขาที่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรแม้แต่น้อยด้วยความจนปัญญา แล้วพูดขึ้นอย่างท้อแท้“ทำไปทำไม คุณก็เคยเห็นฉัน
“อ๊ะ...”เธอรีบลุกขึ้นจากร่างกายของสวีซงชิง หยิบเสื้อผ้าที่อยู่แถวๆ นั้นมาห่อตัวสวีซงชิงเองก็เพิ่งจะรู้สึกตัว รีบลุกขึ้นยืน อยากจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองสักหน่อยแต่กลับพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปรายตามองเขาแม้แต่น้อย แต่เดินตรงไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่ในห้องใต้ดินน่าจะเพราะนึกขึ้นได้ว่าร่างของฉันอยู่ข้างสระว่ายน้ำ เขารีบขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ด้วยท่าทีตื่นตระหนก“ถึงคุณจะเป็นตำรวจ แต่บุกรุกบ้านคนอื่นมันผิดกฎหมาย คุณอยู่หน่วยงานไหน ผมจะไปรายงาน”แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับปรายตามองเขาอย่างเย็นชา ในที่สุดเจ้าหน้าที่ที่ดูเหมือนจะเป็นระดับผู้สั่งการก็เดินเข้ามาแล้วพูดเสียงเย็นใส่สวีซงชิงว่า“คุณสวีซงชิงสินะ ผมแซ่ถาน คุณเรียกผมว่าเจ้าหน้าที่ถานก็ได้ มีคนโทรมาแจ้งความว่าคุณฆ่าภรรยาของตัวเอง คุณเจี่ยนชูเสวี่ยโดยเจตนา จนถึงทุกวันนี้ศพยังอยู่ที่สระว่ายน้ำชั้นใต้ดินในบ้านของคุณ เราก็เลยมาตรวจสอบหน่อยน่ะ”สวีซงชิงได้ยินตำรวจพูดแบบนี้ ก็ขาอ่อนจนเกือบทรุดลงไปแต่สุดท้ายก็ประคองโซฟาที่อยู่ด้านข้างได้จึงไม่ได้ลงไปกองกับพื้น และก็ฝืนฉีกยิ้มพูดออกมาว่า“พวกคุณเข้าใจผิดแน่ๆ ภรรยาของผมผลักน้องสาวผ
แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ผ่านประตูสถานีตำรวจไม่ได้ฉันไม่ย่อท้อ พยายามอยู่หลายครั้ง แต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลวทั้งหมดได้แต่ล่อยลอยอยู่หน้าสถานีตำรวจ หวังว่าจะได้ยินข่าวที่ดีต่อใจสักหน่อยแต่ข่าวคราวพวกนั้นก็ไม่ปะติดปะต่อกันเลยสักนิด ฉันจึงได้แต่วิเคราะห์จากสถานการณ์ข้างในที่เลือนรางว่าสวีซงชิงยอมรับผิด และเขาต้องเข้าคุกแต่ไม่รู้ว่าจะได้ติดคุกนานแค่ไหนส่วนสวีชิงชิงก็ไม่ได้บริสุทธิ์ ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินของเธอ แต่พบว่าเธอเลี่ยงภาษี มิหนำซ้ำยังเป็นยอดเงินจำนวนมากก็ต้องติดคุกเช่นเดียวกันขณะที่ฉันล่องลอยอยู่หน้าสถานีตำรวจอยู่อย่างนั้น จนไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วในที่สุดวันขึ้นศาลก็มาถึง ฉันลอยตามรถตำรวจไปตลอดทางจนถึงสถานีตำรวจมองดูทั้งสองคนที่อยู่ในสถานีตำรวจ พวกเขาไม่หลงเหลือออร่าอย่างที่เคยมีอีกต่อไป แต่นั่งในรถตำรวจด้วยสีหน้าท่าทางหดหู่หม่นหมองโหยหาวิวทิวทัศน์ที่อยู่ภายนอกเมื่อมาถึงศาล เดิมทีฉันเข้าไปไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมตอนที่ฉันพยายามลองครั้งแล้วครั้งเล่า จู่ๆ ก็เข้าไปได้จริงๆฉันรีบลอยไปอยู่ข้างๆ เจ้าหน้าที่ถานด้วยความตื่นเต้น ฟังเขาไร่เรียงโทษอาชญากรรมของสวี
เวลาสิบเอ็ดนาฬิกา สวีซงชิงขมวดคิ้วมองอาหารบนโต๊ะ“ทำไมสองวันนี้นังผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นไม่มาเสิร์ฟอาหาร? ทุกทีจะรีบโผล่หน้ามาเสิร์ฟก่อนถึงเวลากินข้าวไม่ใช่หรือไง?”“ทำไม โดนลงโทษเข้าหน่อยก็บังอาจอู้งานหรอ แม่นั่นกล้าดียังไง!”มือที่กำลังวางตะเกียบของเลขาชะงักในชั่วขณะ แล้วรีบตอบกลับด้วยความนอบน้อมทันที“ท่านประธานสวี คุณเจี่ยน...เธอ...เธอยังอยู่ในสระน้ำ ยังไม่ได้รับการปล่อยออกมาเลยค่ะ”ร่างกายของสวีซงชิงที่กำลังจะนั่งลงชะงักไปเล็กน้อย ในแววตาฉายความตกใจออกมาบางๆแต่แล้วเขาก็เก็บความรู้สึกนั้นลงไป แล้วเอ่ยอย่างไม่แยแส “ไม่เป็นไรหรอก ขังไว้ในนั้นอีกสักวันสองวันก็ไม่เป็นไร”เลขามองเขาแวบนึงด้วยท่าทีอยากจะพูดอะไรแต่ก็เงียบ จนสุดท้ายก็เลือกที่จะเอ่ยปากด้วยความลังเล“แต่...ท่านประธานสวี ห้องขังคุณเจี่ยนเอาไว้มีกลิ่นเหม็นแล้วนะคะ”“อาจจะ...”“ท่านประธานไปดูสักหน่อยไหมคะ?”มือที่กำลังกระทำสิ่งต่างๆ ของสวีซงชิงไม่ได้หยุดลง เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เหม็น? นั่นมันก็ปกติ”“ก็ขี้เยี่ยวอยู่ในนั้น มันจะไม่เหมือนได้ยังไง”“สบายใจเถอะ ผู้หญิงประเภทที่ไม่ยอมทิ้งความหวังที่จะทำให้ตัวเองได