⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆
พิลลาจำเป็นต้องถอยทัพ เรไรมีความสำคัญกับครอบครัวมากก็จริง แต่บัญชีเธอร่อยหรอพอประมาณเมื่อจ่ายสารพัดค่าใช้จ่ายไป ไหนวันที่ยี่สิบยังต้องจ่ายค่าเช่าร้านถ่ายเอกสารอีก ที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีปัญหาผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ว่าอะไรก็จ่ายตรงวันตลอด เดือนนี้ก็ตั้งใจจะจ่ายให้ตรงวัน และต่อให้ยืมเงินในส่วนนี้มาไถ่ตัวเรไร มันก็ไม่พอ
ในบัญชีเธอมีสองหมื่นต้นๆ หรือถึงมีพอสี่หมื่นแปดพัน เธอก็ทำใจจ่ายไม่ได้อยู่ดี สารินโกงกันชัดๆ
เขาว่า ขายไปสามหมื่น ซื้อคืนสี่หมื่น แต่เธอต้องจ่ายส่วนที่พิรภพนำมาจำนำด้วย แปลว่านอกจากเงินทุนแปดพันของเขาจะอยู่ ยังได้กำไรอีกสามหมื่น ส่วนคนที่ซื้อไปก็รับเงินหมื่นไปนอนกก ในขณะที่เธอเข้าเนื้อเกือบห้าหมื่น
ไอ้หน้าขนนี่แม่งไม่อยากตายดีจริงๆ สินะ ถึงได้ริอ่านโกงคนอย่างพิลลา
“พี่จีบ พี่เสือเขาขายไปแล้วจริงๆ เหรอ”
เธอปรายตามองน้องชายที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือ “อือ เห็นมันว่างั้น เลยแค่วันเดียวมันยังทำได้ลงคอ เลวจริงๆ” ด่าคนหน้าเลือดไม่พอ ยังพาดพิงน้องชายต่ออีกหน่อย “ก็ดูไว้นะว่าพี่ชายที่รักนักรักหนามันมีไรดีให้นับถือ จำบ้างว่ามันทำไรกับมึง พี่ที่ไหนกล้าเอาของสำคัญของน้องไปขายทอดตลาด คนคนนี้มันไม่ได้น่าเคารพอะไรนักหรอก ไอ้เสือใหญ่ ไอ้คนจัญรี้จัญไร ทำตัวแบบนี้ก็ขอให้เจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปีไปเลยเถอะ บักเปรต”
กระแทกแดกดันจบก็ตักข้าวเข้าปาก
“เกลียดขี้หน้ามันมานานละ เหอะ เสือใหญ่”
“...”
“ถุย หน้าเหมือนวัว”
ผู้อาวุโสอย่างจินดาไม่กล้าค้านคำหลานสาว แม้จะไม่อยากให้หลานหัวแก้วหัวแหวนปากร้ายเช่นนี้ก็ตาม หล่อนหรืออุตส่าห์พาเข้าวัดเข้าวาแต่เด็ก พยายามปลูกฝังแต่สิ่งดีๆ แต่คงจะฝังลึกไปหน่อยเลยขุดมาใช้ไม่ได้ ไอ้ที่เอามาใช้เลยมีแต่ความถ่อย ไม่สมกับหน้าตาที่แสนน่ารักนั่นสักนิด
มารดาเช่นกัลยาก็หาเสียงตัวเองไม่เจอ
พิลลาเงยหน้ามาสบตาน้องชาย “วัวน่ะ รู้ไหมว่าวัวมันกินอะไร”
“หญ้าครับ”
“ใช่ วัวกินหญ้ายังได้ไฟเบอร์ แต่ไอ้หน้าวัวนี่มันกินอะไร ทำไมมันถึงคิดไม่ได้ว่าไม่ควรมาหาเรื่องพี่” ก่อนเบนสายตาไปทางมารดา “แม่ก็เห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่ามันนิสัยสันดานแย่แค่ไหน หัดเตือนลูกชายแม่บ้างว่าอย่าไปขลุกอยู่แต่ที่บ้านมัน ถ้ายังไม่เข็ดไม่หลาบสักวันจีบจะไปบุกเผาให้เหลือแต่ตอ”
หญิงวัยกลางคนหน้าเจื่อนอย่างคนหนักใจ
พิรภพอ้อมแอ้มตอบ นัยน์ตาคลอหน่วยคล้ายจะร้องไห้ “ขอโทษครับ ผมผิดเอง”
อย่าคิดเชียวว่าเธอจะใจดี
“สำนึกผิดไปเลยนะ แล้วก็คิดดูว่าคุ้มไหมที่เอาเรไรไปแลกกับเงินแค่นั้น”
กัลยาเห็นลูกคนโตเอาแต่ดุจนลูกชายหงอลงถนัดตา ก็เกิดอยากจะปกป้อง แต่พอเห็นแววตาที่ไม่สบอารมณ์ หล่อนก็ทำได้เพียงตักข้าวเข้าปาก เพราะก็ใช่จะไม่โกรธที่ลูกชายกล้านำของต่างหน้าสามีไปจำนำ แต่พอเห็นลูกซึมไป หัวอกคนเป็นแม่ก็กวัดแกว่งอย่างรุนแรง
หญิงชราอาสาเป็นหน่วยกล้าตาย “อย่าว่าน้องมันเลยจีบ”
“ยายอย่าให้ท้ายมัน วันนี้มันเอาเรไรไปจำนำ วันหน้าไม่เอาบ้านไปจำนองเลยเรอะ พูดแล้วก็โมโห ได้มาแปดพันก็ต้องเอาไปซื้อโทรศัพท์คืนเพื่อน ไหนพอจะไถ่คืน สี่หมื่นแปด กะเอารวยเลยมั้ง สงสัยไอ้หน้าวัวหาเงินไปอมตอนตาย”
แม้ว่ากับข้าวจะไม่อร่อยสำหรับพิลลาอีกแล้ว แต่ก็ยังทนตักยัดเข้าปากแล้วเคี้ยวจนแก้มตุ่ย
“ที่จีบมีเท่าไรล่ะ”
สาวหมวยตวัดตาไปทางหญิงชรา “สองหมื่นนิดๆ หักค่าเช่าร้านไปสี่พันก็หมื่นหกหมื่นเจ็ดได้”
“งั้นเอาแหวนกับสร้อยยายไปจำนำก่อน”
พิลลาส่ายหน้าพรืด “ไม่เอาหรอก ทองนั่นมันก็ของสำคัญของยายเหมือนกัน”
“แต่เรไรก็สำคัญ”
กัลยาได้ทีเสริมคำของแม่ตัวเอง “เอาสร้อยแม่ไปด้วยก็ได้ ไว้ค่อยหาเงินไปไถ่”
“ไม่เป็นไรครับ”
ทุกสายตาของสาวสามวัยจึงหันไปทางเด็กหนุ่มเป็นตาเดียว
“เดี๋ยวผมไปคุยกับพี่เสือเอง บางทีอาจจะขอผ่อนได้” สายตาที่อุดมไปด้วยความรู้สึกผิดตกกระทบที่ใบหน้าของพี่สาว “ผมเป็นคนสร้างปัญหา ผมก็จะแก้เองครับ”
“ดี ไปแก้ซะ”
“พุดจีบ! / ยายจีบ!”
สองเสียงจากมารดาและยายดังประสานกัน พิลลาเพียงแค่มองอย่างไม่ยี่หระ “ให้พอใจมันรับมือเองแหละถูกแล้ว ต่อไปมันจะได้รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ มัวแต่โอ๋ก็ไม่วายต้องตามเช็ดตามล้างกันจนตาย จีบไม่เอาด้วยหรอกนะ” จบประโยคก็ตักข้าวเข้าปาก โดยที่ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรอีก
คำพูดของพิลลาถือเป็นประกาศิตสำหรับบ้านแก้ววิพัฒน์
ด้วยประการฉะนี้ หลังทานมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย พี่สาวใจโฉดก็ออกคำสั่งให้น้องชายเจ้าปัญหาไปบ้านของสาริน เพื่อไปหาทางออกว่าจะทำอย่างไรให้ของต่างหน้าพ่อกลับเข้าสู่อ้อมอกอีกครั้ง
โดยที่เธอนอนกระดิกเท้าดูทีวีอย่างสบายใจ
ด้านพิรภพนั้นจำเป็นต้องรับศึกหนัก “กูบอกไปแล้วนะใจว่าให้เวลาถึงแค่เมื่อวาน พ้นเมื่อวานไป เรไรก็เป็นสิทธิ์ของกู จะขายหรือเอาไปต้มยำทำแกงอะไรก็ได้ ไม่ใช่เรื่องผิด”
“ผมไม่คิดว่าพี่จะขาย ผมเคยบอกพี่ไปแล้วว่ามันเป็นนกของพ่อ”
สารินยังไม่ตอบในทันที ไม้คิวในมือถูกใช้งาน ก่อนเสียงลูกสนุกเกอร์กระทบกันจะดังเข้าหู ตามมาด้วยเสียงทุ้มต่ำของเจ้าของบ้าน “พ่อมึง ไม่ใช่พ่อกู”
พิรภพจึงได้รู้ว่าโลกใบใหญ่นั้นโหดร้ายกับเด็กอย่างเขามาก
“รู้ทั้งรู้ว่าของพ่อ แล้วเอามาให้กูทำไม”
“ก็ผมต้องใช้เงิน”
นัยน์ตาคมกริบปรายมองเด็กหนุ่มในชุดนักเรียน “ขอพี่สาวก็ได้”
เมื่อหวนนึกไปถึงอาหมวยที่มาเอาเรื่องเขาถึงที่บ้าน ใบหน้าคมคายกลับมีรอยยิ้มผุดพรายขึ้น ในกำแพงแสนจะมีสักกี่คนที่กล้ามาทำพฤติกรรมหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่เขา แต่แม่นั่นทำได้ มาทำถึงถิ่นเขาด้วยซ้ำ ช่างใจเด็ดและไม่กลัวตายเสียจริง
คนอวดเก่งแบบนี้ ได้ใจเขาเลย
สำหรับพิรภพนั้น ยามภาพเหตุการณ์ที่เขาไปสารภาพบาปกับพี่สาวไหลเข้าหัว ขนกายก็ลุกอย่างไม่มีเหตุผล
เด็กหนุ่มตอบด้วยความสัตย์จริง “กลัวโดนด่าครับ”
สารินแค่นหัวเราะน้อยๆ “นั่นมันเรื่องของมึง”
“ให้ผมผ่อนได้ไหม ยังไงผมก็ต้องพาเรไรกลับบ้าน”
คนอายุมากกว่าส่ายหน้าอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่คล้ายจะใจดี แต่ก็แค่คล้าย “ลีลา อีกวันสองวันไอ้พัลก็เอาไปขายต่อแล้ว ถ้าอยากได้ก็ต้องเอามาจ่ายตอนนี้” แก้วเบียร์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ตัวถูกยกมากระดก “จ่ายสด งดเชื่อ เพราะกูเบื่อทวง ถ้าไม่มีมาจ่ายก็โบกมือลาเรไรไปได้เลย”
เสียงของหนึ่งในวัยรุ่นร่วมโต๊ะดังขึ้น “ยังไงวันนี้ก็ต้องมา ทำไมไม่มาตั้งแต่เมื่อวาน ไม่งั้นก็ไม่มีปัญหาละ”
“เมื่อวานพี่จีบต้องจ่ายค่ารถครับ เลยไม่กล้าบอก”
คนถามพยักหน้ารับส่งๆ “มาช้ามันก็หลุดจำนำ ทำไงได้ล่ะ มึงผิดคำพูดเอง”
อีกคนเสริม “คิดว่าพี่เสือจะใจดีขนาดนั้น?”
ใช่ เขาคิดว่าสารินจะใจดี แค่วันเดียวคงไม่เกิดอะไรขึ้น แค่คุยกันก็น่าจะตกลงกันได้ ไม่คิดเลยว่านอกจากจะขายนกของเขาไปแล้ว คนที่เขาเคารพนับถือเหมือนพี่ชายจะยังพูดจาใจร้ายและไม่แยแสกันสักนิด
พิรภพหันกลับมาทางเจ้าของบ้าน “ผมจะไปคุยกับพี่จีบอีกครั้งครับ”
“พี่มึงจะช่วยอะไรได้”
เพราะหลังจากทราบว่าการไถ่ตัวเรไรสนนราคาที่สี่หมื่นแปดพัน แม่คนเก่งก็เดินกระทืบเท้าออกไปเลย น่าจะหายซ่าไปพักใหญ่
มาหนนี้น้องชายก็ทำ เพียงแต่เป็นการเดินคอตก ไม่ได้มีท่าทีฮึดฮัดเหมือนอย่างกับพี่สาว
คล้อยหลังหนุ่มวัยละอ่อน สารินพูดได้เพียง “เด็กน้อยทั้งพี่ทั้งน้อง”
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ว่าไงนะ!?” “ครับ เขาบอกว่าอย่างพี่จีบจะไปช่วยอะไรผมได้” เธอมันฆ่าได้หยามไม่ได้เสียด้วย “พี่เสือบอกว่ายังไงก็ต้องจ่ายสดทีเดียว ช้ากว่านี้คนที่ซื้อไปก็คงเอาไปขายต่อ” ผู้เป็นยายได้ยินเช่นนั้นก็ใจไม่ดี “จีบ เอาทองยายไปจำนำเถอะลูก” ปฏิกิริยาตอบรับของพิลลายังคงไม่ต่างจากครั้งก่อน เธอยันปลายเท้าไปที่พื้นแล้วหยัดยืนเต็มความสูง แบมือเพื่อขอกุญแจรถมอเตอร์ไซค์จากน้องชาย ที่อีกฝ่ายก็ส่งมาให้แต่โดยดี กัลยาเอ่ยถามลูกสาวคนโต “พุดจีบ นั่นลูกจะไปไหน” “ไปถลกหนังเสือ” สิ้นประโยค ร่างแน่งน้อยก็ออกจากบ้านในเวลามืดค่ำ เพื่อที่จะไปคุยกับคนที่กล้าหยามเกียรติเธอให้รู้เรื่อง แล้วเขาจะได้รู้ว่าคนอย่างเธอทำอะไรได้ ไอ้ที่เห็นว่าหนีกลับบ้านนั่นเพราะกลับมาตั้งหลักเฉยๆ ถอยหลังหนึ่งก้าว เวลากระโดดถีบจะได้มีแรงเยอะๆ ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเธอก็พาตัวเองมาถึงที่หมาย ไฟถูกเปิดจนสว่างโร่ หน้าบ้านมีรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายนับสิบ ทั้งยังมีวัยรุ่นจับกลุ่มคุยกันอยู่ด้านหน้าอีกด้วย หนึ่งในกลุ่มจำได้ว่าเมื่อเย็นสาวหน้าหมวยมาที่นี่ไปครั้งหนึ่งแล้ว เขาเอิ้นบอกอย่างหวังดี “พี่เสืออยู่ที่โต๊ะครับ” พิลลา
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “เอาจีบ” พิลลาสร่างเมาทันที รีบปรี่ไปที่ชายหนุ่มก่อนจะเสยหมัดเข้าที่ใบหน้าคมคายอย่างไม่ออมแรง “ไอ้เวรนี่!” สารินที่โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็เซถลาไปเล็กน้อย เขาใช้มือยันไปที่ผนังเพื่อไม่ให้ตัวเองล้มลงไปกองที่พื้น ก่อนจะค่อยๆ หยัดยืนอย่างมั่นคง มือหนาลูบไปที่แก้มสากป้อยๆ “แค่นี้ต้องต่อยกันเลยเหรอจีบ” “อยากทำมากกว่านี้อีก” เธอยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ใครใช้ให้มาพูดจาหมาๆ กับจีบก่อน” สารินยิ้มทั้งที่มีเลือดออกบริเวณมุมปาก “แล้วสนปะ” “อีกสักหมัดไหม” “นอนกับพี่ครั้งเดียว เรไรจะได้กลับไปอยู่ที่บ้านโดยที่จีบไม่ต้องเสียสักบาท” สาวหมวยแค่นหัวเราะ “เพราะเสียตัวแทนอะนะ” “อย่าพูดงั้น ไม่มีการเสียอะไรทั้งนั้น เราได้กัน พี่ได้จีบ จีบได้พี่ มีแต่ได้กับได้” “ทำไมถึงอยากได้” นัยน์ตาคมกริบจดจ้องไปที่ดวงหน้านวล โค้งริมฝีปากเล็กน้อย “ก็อยากได้” ในขณะที่เขาอยากได้เธอ เธอกลับอยากกระทืบเขา “ไม่เอา เสนออย่างอื่นมาแทน” เขาส่ายหน้า “อย่าเรื่องมาก ทำตัวให้มันสมกับที่พอใจมันนับถือหน่อย ผ่อนวันละเท่าไรก็ว่ามา” “ก็บอกว่าไม่ชอบเงินผ่อน” “แล้วพี่เอาเรไรไปขายทำไม” พิลลาเริ่มฉุนเมื่
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ให้เอาสิบครั้ง?” พิลลาถลึงตาใส่ “จูบสิบครั้ง!” เพราะเธอมั่นใจว่าหากต้องเจอเหตุการณ์พรากสติสัมปชัญญะแบบเมื่อครู่ถึงสิบครั้งสิบคราว ก็ใช่ว่าเธอจะรับมือได้อย่างสบายๆ “ไม่ เอาครั้งเดียวพี่จูบได้จนปากเปื่อย สิบครั้งมันจะไปพออะไร” สาวเจ้าลอบถอนลมหายใจ “จีบไม่ไหวหรอกค่ะ ไม่เคย” “คนเรามีครั้งแรกเสมอ” “อย่ามาปรัชญา มันไม่เหมาะกับคนเจ้าเล่ห์แบบพี่หรอก” เขาไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ และเธอก็เหนื่อยเกินกว่าจะต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว ตอนนี้เธอหลับตาเห็นแต่เตียง อยากกลับไปนอนให้เต็มอิ่มหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน ฉะนั้นแล้วเธอจำเป็นต้องเด็ดขาดกับสาริน “จีบให้พี่จูบสิบครั้ง ถ้าพี่ไม่รับข้อเสนอ พี่จะไม่ได้อะไร และพี่ก็ต้องคืนเรไรด้วย เพราะพี่พูดแล้ว” เป็นไปได้ยากที่คนอย่างเขาจะเสียเปรียบ แม้ปากจะขยับเพื่อตอบว่า “โอเค” พิลลาหรี่ตาแคบ “ง่ายๆ งี้เลยอะนะ” “ก็กลัวไม่ได้อะไรไง” เธอไม่เชื่อลมปากของผู้ชายคนนี้ แต่ก็คร้านจะเซ้าซี้ “งั้นก็จูบเลย จะได้จบๆ” “สิบวัน” “คะ” “นับจากนี้จีบต้องมาที่บ้านพี่อีกสิบวัน พี่จะจูบวันละครั้ง” ระหว่างพูด เขาก็ส่งโทรศัพท์คืนเจ้าของ “ไม่ต้องเดินอ้อมไปทางหลั
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ ในท้ายที่สุดก็ทนลูกตื้อไม่ไหว เดินนำเขาเข้าไปในบ้านที่สมาชิกทั้งสามยังปักหลักนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา ทันทีที่เห็นว่าเธอไม่ได้กลับมาคนเดียว ความประหลาดใจก็ฉายชัดบนใบหน้าของคนทั้งสามวัย ทว่าก็ยังยกมือมารับไหว้คนมาใหม่ เธอเปรย “เขามาขอข้าวกิน” กัลยาหน้าเจื่อน “จีบลูก จะไปพูดแบบนั้นกับพี่เขาได้ไงล่ะ” พิลลาไม่สนใจจะแก้ความเข้าใจผิดอะไร เพราะในมุมมองของเธอ สารินมาขอข้าวที่บ้านเธอทานจริงๆ ขาเรียวก้าวตรงไปยังห้องครัว สารินก็ค้อมหัวให้ญาติผู้ใหญ่ของหญิงสาวอย่างมีมารยาท “ขอรบกวนสักมื้อนะครับ” พ่อหนุ่มคนนี้จะคืนเรไรให้กับลูกชาย มารดาและหญิงชรามีหรือที่จะไม่ต้อนรับ “ตามสบายเลยพ่อเสือ แต่กับข้าวหมดแล้ว บอกพุดจีบให้ทำให้นะ” “ครับน้ายา” เพราะเขาก็ตั้งใจมา ‘ชิม’ ฝีมือลูกสาวบ้านนี้อยู่พอดี เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนจะพุ่งตัวไปหาคนที่ตนนับถือเป็นพี่ชาย “พี่ พรุ่งนี้ผมไปเอาเรไรนะ” “เออ เย็นๆ อะ มาได้เลย” สารินก้าวเดินเข้าไปทางห้องครัว แต่พิรภพก็ยังเดินตามมาติดๆ “แล้วสรุปต้องจ่ายเท่าไรอะครับ” “ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” ประโยคนั้นของสารินเรียกสายตาแม่ครั้วจำเป็นให้หันไปมอง “ผู้ใหญ่เขา
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ มีไม่กี่คนในโลกที่เธอไม่ชอบขี้หน้า โอเค มีเยอะ แต่ต่อให้มีคนเดียว ก็ต้องมีชื่อสาริน พิลลาตื่นเช้ามาพบว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความฝัน เธอเคยมั่นใจว่าชีวิตประจำวันของตัวเองที่วันๆ มีแค่อยู่บ้าน เฝ้าร้านถ่ายเอกสาร นัดรวมตัวทานอาหารที่ร้านสเต๊กของมัทรี จับกลุ่มแต่งสวยที่ห้องเสื้อของลัลนา และสังสรรค์กันทุกสุดสัปดาห์ที่ร้านเหล้า ชีวิตเธอควรเป็นแบบนั้นต่อไป ไม่ใช่ไปเกี่ยวข้องกับคนอันตรายเช่น ‘เสือใหญ่’ เธอจึงได้ตกตะกอนถึงสัจธรรมของชีวิต...ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน คนที่เดินเข้าหาเขา ก็เป็นเธอ เบียร์ของเขา ก็คว้ามาดื่มเองจนหมด ตอนเขาจูบก็ไม่ยอมผลักไสให้สุดแรง กลับยอมโอนอ่อนและตอบสนองราวศิโรราบเหมือนพวกใจง่าย ไหนตอนเขาเข้าใกล้เกินความจำเป็น ก็ยังยอมให้ทำ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองเลย หลังลืมตาตื่น สิ่งแรกที่อยู่ในความสนใจคือโทรศัพท์ ข้อความของเขาถูกส่งมาจริงๆ คำขอเป็นเพื่อนก็ไม่ใช่เรื่องลวงโลก พิลลาไม่ได้กดรับคำขอของสาริน นอกจากนั้นยังลบทิ้งอีกต่างหาก เพราะตั้งใจไว้ว่าทันทีที่ครบกำหนดสิบวันตามข้อตกลง เธอและเขาจะถือเป็นคนอื่นต่อกันเหมือนอย่างเคย เขาก็มีช
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ อีกไม่นานนักหรอก สารินจะโดนเธอต่อยอีกครั้ง จนเที่ยงแล้ว แต่พอนึกไปถึงเรื่องเมื่อเช้าก็ยังฉุนไม่หาย เป็นบ้าอะไรของเขาถึงอาจหาญมาพูดจาเช่นนั้นกับเธอ ที่ยอมให้จูบก็เพราะไม่มีเงินมากพอจะไถ่ตัวเรไร และเธอก็เค็มยิ่งกว่าเกลือสมุทร แต่ไม่ได้คิดจะสานสัมพันธ์ไปถึงความเป็นคู่ผัวตัวเมียอะไรกับเขา อยากเป็นผัว...พูดมาได้ไม่อายฟ้าดิน ระหว่างนั่งทานข้าวอยู่ในร้าน เนื้อนมไข่ก็มีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง คุณหนูเมลฟี่: รวมพลหนึ่งทุ่มตรงนะคะสาวๆ คุณหนูเมลฟี่: เรามีภารกิจสำคัญต้องทำ อ่านข้อความของเพื่อนสนิทแล้วก็หนักใจขึ้นมาทันที หนึ่งทุ่ม...เธอมีนัดแล้ว คุณหนูเนสต์: ไก่และหมูพริกไทยดำอย่างละหนึ่งนะจ๊ะ คุณหนูเมลฟี่: แล้วนางนั่นล่ะ คุณหนูพุดจีบ: เหม็นขี้หน้าเจ้าของร้าน ไม่ไป คุณหนูเมลฟี่: ทำไม จะไปกกพี่เสือใหญ่ (ของฉัน) เรอะ คุณหนูเมลฟี่: ความร่านนี้ท่านได้แต่ใดมา พิลลาแทบกรี๊ด แค่เห็นเธอซ้อนท้ายสาริน เพื่อนยังด่ากันขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าเธอจูบไถ่ตัวเรไร ไม่โดนนางมัทรีขึ้นป้ายไวนิลด่าว่าเป็นอีตัวทั่วกำแพงแสนเลยหรือ คุณหนูพุดจีบ: หมูพริกไทยดำ เฟรนช์ฟรายส์เยอะๆ คุณหนูเมลฟี่: ก็แค่น
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สารินหลับจริงๆ หลับสนิทเลยด้วย แล้วมีหน้ามาว่าเธอเด็ก พิลลาหาใช่คนใจร้ายใจดำต่อเพื่อนมนุษย์ นอกจากจะเปิดแอร์ไว้ ยังเผื่อแผ่น้ำใจด้วยการหันพัดลมให้คนที่จมอยู่ในห้วงนิทรา ส่วนตัวเองก็นั่งไถหน้าจอไปเรื่อยเปื่อย มีลูกค้าเข้ามาประปราย ประมาณบ่ายสองห้าสิบ มีหญิงวัยกลางคนเข้ามาถ่ายเอกสาร เธอก็ลุกออกจากเก้าอี้เพื่อไปทำให้ เจ้าหล่อนชวนคุย “อากาศร้อนมากเลยเนอะ หน้าฝนแล้วแท้ๆ” เสียงเครื่องถ่ายเอกสารดังเข้าโสตประสาท “อบอ้าวแบบนี้ เผลอๆ อีกเดี๋ยวฝนก็ตกค่ะ เมื่อวานซืนร้อนแบบนี้แหละ พอช่วงโรงเรียนเลิกก็เทมาอย่างกับฟ้ารั่ว” “น่าจะตกกลางคืน จะได้นอนสบาย ตกกลางวันไปไหนมาไหนลำบาก” บทสนทนานั้นลอยเข้าหูบุคคลที่สามอย่างช่วยไม่ได้ เจ้าของร้านยิ้มพลางคว้ากระดาษมาถือ ก้าวเดินมาในส่วนที่ทำงานของตน เพื่อนำกระดาษที่ถ่ายเอกสารแล้วใส่ถุงให้ลูกค้า ปากก็ทำหน้าที่ขยับเพื่อตอบโต้บทสนทนากับอีกฝ่าย “จีบก็ชอบเวลาฝนตกตอนกลางคืนเหมือนกันค่ะ หลับไปกับเสียงฝน ฟินอย่าบอกใคร” “อากาศเย็นด้วยนะ น้าชอบมาก” สองมือขาวผ่องพนมเข้าหากัน “ถ้าจะตก เก็บไปตกคืนนี้ทีเถอะ เพี้ยง” คนอายุมากกว่าระบายยิ้มให้เด็กสา
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอสมาร์ตโฟนเรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี ก่อนจะลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ โต๊ะสนุกเกอร์ ข้างกันเป็นภูริกับปณัย เพื่อนซี้ร่วมสาบานตั้งแต่ฟันแท้ยังไม่ขึ้น ภูรินำเรไรมาคืนเขาแล้วดันอยู่ยาว ซ้ำยังชวนปณัยมาร่วมเค้นคอเขาเรื่อง ‘กกสาว’ ที่ก็ง้างปากไม่สำเร็จ ขี้คร้านจะโดนหมาเด็กงอน เลยเงียบไว้ หนุ่มๆ รวมตัวกันจะขาดเบียร์ก็ไม่ได้ ปณัยเอ่ยพลางลากสายตามองเจ้าของบ้าน “ไปไหน” “ผมจะไปทำธุระสำคัญครับคุณหนึ่ง” “ธุระอะไร” สารินแค่นหัวเราะ “มารยาทขั้นพื้นฐานคือ ‘ธุระ’ ไม่ต้องถามต่อ” “แล้วกูไม่มีด้วยไง มารยาทอะไรนั่นน่ะ” คำตอบของปณัยเรียกรอยยิ้มจากภูริได้อย่างดี และต่อให้เพื่อนไม่บอกว่าธุระที่ว่าคืออะไร เขาก็ใช่จะเดาไม่ออก ภูริกล่าว “ติดหญิงนะมึง เพื่อนอุตส่าห์มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา” “กระผมก็ขอน้อมรับคำติชมไว้แต่โดยดี” แม้จะโดนเพื่อนฝูงค่อนขอด แต่สารินก็ยังเลือกที่จะไปยัง ‘สเต๊กเลยอะ’ ของมัทรี เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวโพสต์รูปของแก๊งเพื่อนลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งเขาก็รู้อยู่แล้วว่าพิลลาจะนัดกับเพื่อนๆ ที่ไหน เพราะเป็นเพื่อนกับมัทรีบนเฟซบุ๊กมานาน เห็นเจ้
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “อีนม” มือที่ตั้งท่าจะคว้าผ้าขนหนูเป็นอันชะงัก ก่อนหันกลับมาเลิกคิ้วใส่มัทรี “หล่อนได้กับพี่เสือใหญ่ยัง” ลมหายใจของพิลลาสะดุดกึก นัยน์ตาเบิกโต ภาพความทรงจำที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผุดมาอย่างกับมีใครไปตั้งโปรแกรมไว้ สัมผัสนั้นคล้ายว่ายังติดอยู่ที่มือ ทำให้พิลลาแข็งทื่อไปทั้งตัว กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นนาที “ยัง ไม่ใช่ ใช่นั่นแหละ แต่หมายถึงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน จะได้กับเขาได้ไง” สองเสียงประสานกัน “เหรอ / เหรอ” “ใช่ ฉันเคยโกหกอะไรพวกหล่อนหรือ-” “เยอะแยะ” “แต่เรื่องนี้พูดจริง” พิลลายืนยันหนักแน่น หลังได้ผ้าขนหนูมาไว้ในมือ เธอก็โพล่งขึ้นเพื่อตัดบท “ไปอาบน้ำละ” บรรยากาศในร้าน PEEK A BEER เป็นอย่างที่เคยเป็น มีเสียงเพลงจากนักร้องที่เคล้าไปกับเบียร์เย็นๆ เหล้าที่แสนบาดคอ และกับแกล้มที่ขาดไม่ได้ ช่วงหัวค่ำมักเป็นเช่นนี้ แต่พอดึกเข้าหน่อย ผีเสื้อราตรีก็ออกโรง และพวกเธอสามคนไม่เคยแผ่ว “ใครพอจะทราบข่าวบ้างว่าช่วงนี้ยายฟายมันตีกับใคร” ประโยคนั้นเรียกสายตาของสองสาวต่างขั้วได้เป็นอย่างดี ‘ยายฟาย’ ของมัทรีคืออรอนงค์ เพราะเป็นคู่ปรับกันมานาน เห็นว่าชื่อฝ้าย เลยเปล
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ช่วยไอ้เสือกำพร้าแม่ตัวนี้หน่อยได้ไหมครับ” ร่างระหงบนตักแกร่งอาศัยจังหวะนี้ในการพุ่งตัวไปหาชายหนุ่ม แตะริมฝีปากไปที่ปากหยักติดคล้ำ แล้วจึงผละออกมาก่อนที่สารินจะทันตั้งตัว นอกจากริมฝีปาก ร่างแน่งน้อยก็ผละออกจากตักแกร่งในเวลาถัดมา “สอง” เธอหอบหายใจราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน “สองครั้งแล้ว เหลืออีกแค่แปดครั้ง” นัยน์ตาคมจ้องมองไปยังผู้พูด ยกมุมปากขึ้นจนกลายเป็นรอยยิ้ม เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้น “อ้อ เมื่อกี้เรียกจูบ?” “ก็ใช่ ของวันนี้ถือว่าเรียบร้อยแล้ว” “ไม่เอาน่า ใครมันจูบกันแบบนี้ เด็กน้อยมาก โคตรรับไม่ได้” “รับไม่ได้ก็เรื่องของพี่ จีบจะกลับบ้านแล้ว” “พุดจีบ” เสียงเข้มๆ เอ่ยเรียกชื่อของเธอ สีหน้าและแววตาไร้แววล้อเล่น ทำให้เธอคาดเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ พิลลาจึงค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่าง “มานี่” “ไม่ จะกลับบ้าน” “มา” สารินยันกายลุกขึ้นยืน พร้อมกับที่ก้าวเท้ามาทางนี้ “แบบนี้มันไม่เรียกว่าจูบ อย่ามาโกง” พิลลาไม่อยู่ฟัง รีบสับเท้าวิ่งออกจากบ้าน ก่อนตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์แล้วบิดสุดแรงเกิด เธอไม่เคยหมดท่าขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแพ้ย่อยยับจนม
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ บ้านทั้งหลังมืดสนิท พิลลาจึงเปิดไฟจนพอมีแสงสว่าง คงจะเป็นอย่างที่เด็กวัยรุ่นหน้าบ้านบอก สารินอยู่หลังบ้าน และเธอก็ไม่ได้พกมือถือติดตัวมาด้วย หากต้องเดินออกไปเรียกอย่างไรก็คงต้องเจอกับคนที่อยู่ด้านหลัง จึงหวังว่าความเปลี่ยนไปในบ้านจะเรียกสายตาของเขาได้ ไฟในบ้านเปิดเอง เจ้าของบ้านจะไม่สงสัยแล้วเข้ามาดูหน่อยหรือ แต่ผ่านมาห้านาทีเห็นจะได้ ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาด้านใน และวันนี้เธอก็ไม่ได้ว่างมารอเขานานๆ ด้วย เพราะอยากกลับให้ถึงบ้านก่อนที่สองสาวจะมาถึง ไม่อย่างนั้นต้องปั้นน้ำเป็นตัวอีกเช่นเคย พิลลาเดินไปที่ประตู แนบหูไปกับบานไม้เพื่อฟังความเคลื่อนไหวรอบนอก ที่ก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกวัยรุ่นที่มารวมตัวกัน บางครั้งก็มีเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูดังเข้าโสตประสาท ร่างระหงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ยื่นมือไปแตะที่ลูกบิดแล้วออกแรงหมุนช้าๆ จนมันถูกเปิดในที่สุด ไม่รู้ว่ากี่สายตากันแน่ที่มองมา แต่เธอตวัดตาไปมองเพียงสารินคนเดียว อย่างน้อยการมองแค่เขาก็ลดความอายลงไปได้มากโข “มีธุระจะคุยด้วยค่ะ” ว่าจบก็ปิดประตูลงทันที ก่อนสับเท้าเดินไปนั่งที่โซฟาทั้งใบหน้าบึ้งตึง เธอโกรธตัวเองที่เลือก
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ Pudjeeb Philla: พี่ลืมของไว้ที่ร้าน เธอกำลังจะถ่ายรูปกระเป๋าสตางค์ส่งไปให้ หลังเปิดดูแล้วพบสารพัดบัตร รวมถึงบัตรประชาชนที่มีหน้าเขาแปะหราไว้ พร้อมกับชื่อ ‘สาริน อัศวกมล’ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลัลนารีบต่อสายหามัทรีอย่างเร่งด่วน ทว่าข้อความของเขาก็ถูกส่งเข้ามาเสียก่อน Sarin Asawakamol: หัวใจ?? จากตั้งใจจะถ่ายรูป เธอก็เปลี่ยนมาโต้ตอบกับเขาแทน เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากหยุมหัวคน Pudjeeb Philla: ใช่จ้า กำลังจะเอาไปต้มให้หมากิน Sarin Asawakamol: หมาในปากหรือเปล่าครับ Sarin Asawakamol: เลี้ยงดีจังเลยนะ ถึงว่า ขยันทำงานเหลือเกิน Pudjeeb Philla: อ๋อค่ะ คนที่จีบเพิ่งยกพวกไปรุมกระทืบก็พูดแบบนี้แหละ Sarin Asawakamol: อยากโดนจังSarin Asawakamol: โคตรอยาก เธอด่าเขาในใจ แต่ไม่พิมพ์ด่าให้เรื่องยืดยาว เลือกที่จะตัดบทด้วยการส่งรูปกระเป๋าสตางค์ไปให้ Pudjeeb Philla: จะให้เอาไปให้หรือจะมาเอาเอง Pudjeeb Philla: ร้านปิดห้าโมง ถ้ามาก็อย่าเกินนี้ แต่ถ้ารอจีบเอาไปให้ก็ค่ำๆ Pudjeeb Philla: แต่ของพี่นั่นแหละ มีบัตรประชาชน ส่วนเงินไม่ได้นับ แต่ไม่ได้ยุ่งอะไร ถ้าหายก็ไม่เกี่ยวกับจีบ
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สารินกลับไปแล้ว หลังจากนั่งๆ นอนๆ อยู่หลังโต๊ะทำงานของเธออยู่หลายชั่วโมง ที่จริงเขายังไม่คิดจะกลับ ถ้าไม่ติดที่เธอไล่ตะเพิดเพราะลัลนากำลังจะมาที่ร้าน เพื่อนสนิทเดินมาทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ “คืนนี้ออกไหม” “ถ้าหล่อนกับเมลฟี่ไป ฉันก็ไป” “เป็นไร” พิลลาหันไปมุ่นคิ้วใส่เพื่อน “เห็นทำหน้าเซ็งๆ” เป็นอย่างที่ลัลนาว่า เธอเซ็งมากๆ ที่คนอย่างสารินเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิต ยิ่งเขาพยายามล้ำเส้นที่ตกลงกันไว้ ไม่ยอมให้มันหยุดที่การจูบ แต่คิดจะจีบ เธอก็เกิดอาการอึดอัดคับแน่นในใจ ครั้นจะให้จ่ายเงินก็มีไม่พอ กว่าจะได้แต่ละบาทนั้นไม่ใช่ง่ายๆ ยิ่งต้องจำนำข้าวของสำคัญหรือเลือกหยิบยืมเพื่อนสนิท เธอทำไม่ได้ เนื้อนมไข่คบกันได้นานเพราะไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครเคยยืมเงินกันให้ต้องผิดใจ ไม่ร่วมธุรกิจกันในหมู่เพื่อน ทานข้าวก็หารเท่า ดื่มเหล้าไม่เคยเอาเปรียบ มาครั้งนี้เธอก็ไม่มีความกล้ามากพอจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แม้จะรู้ว่าเพื่อนต้องช่วย แต่มันจะเป็นปมในใจว่าครั้งหนึ่งเธอเคยหยิบยืมเงินคนสนิท แค่ยอมให้ไอ้หน้าวัวจูบไม่กี่ครั้ง เปลืองตัวแค่นี้ สบาย ก็ถ้ามันทำแค่นั้น เธอค
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ ‘ป๋า’ เดินออกไปจากร้าน ควบมอเตอร์ไซค์ไปทางร้านน้ำ พิลลามองจนลับสายตาก่อนส่ายหัวน้อยๆ ป๋าอะไรกัน คนที่ขายนกทอดตลาดทั้งๆ ที่เพิ่งเลยกำหนดมาวันเดียวน่ะ หรือจะขอผ่อนก็แสนจะเรื่องมาก สารินมันเค็มยิ่งกว่าน้ำทะเลเสียอีก ช่วงเที่ยงๆ แบบนี้ ร้านน้ำของปาริฉัตรมีลูกค้าหนาตาทีเดียว หนึ่งในนั้นคืออรอนงค์ บ้านของอรอนงค์ประกอบกิจการซัก อบ รีด ตั้งแต่เขาย้ายมาดูแลตาที่นี่ ก็ได้บ้านนี้ในการจัดการส่วนของเสื้อผ้าอาภรณ์ ไม่ต้องลำบากซักตากเองให้เหนื่อย หลังจากตาถึงแก่กรรม เขาก็ไม่คิดจะย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ เพราะหลงรักกำแพงแสนเสียแล้ว นอกจากส่งเสื้อผ้าซักกับบ้านของอรอนงค์ สาวเจ้ายังอาสาเข้ามาดูแลความสะอาดของบ้านทุกสัปดาห์อีกด้วย เขามีหน้าที่จ่าย และก็ยินดีจ่าย เพราะเธอทำมันได้ดีไร้ที่ติ “ไปไงมาไงเนี่ยพี่เสือใหญ่” สารินระบายยิ้มให้แม่ค้าร้านน้ำ “มาซื้อน้ำน่ะ” “แหม อยากลัดคิวให้สุดหล่อจริงๆ แต่เดี๋ยวโดนคนอื่นเขม่นเอา เพราะงั้นนั่งรอก่อนนะ” เขาเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดียวกับอรอนงค์และกีรติ ซึ่งเป็นสองสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี “มาซื้อน้ำเหรอพี่” ชายหนุ่มพยักหน้าเป็
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ขอปราบม้าพยศสักทีเหอะ จะควบให้ครางเป็นแต่ ‘พี่เสือใหญ่’ เลย” ทว่าสิ่งที่ออกจากปากของพิลลาคือ “ไอ้หน้าวัว อยากโดนกระทืบจริงๆ ใช่ไหม” การเรียกสารินว่าพี่ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงของพิลลา ที่ผ่านมาถึงจะไม่รู้สึกเคารพนับถือ เธอก็เรียกเขาว่า ‘พี่เสือใหญ่’ มาตลอด เพียงแต่วันนี้สถานการณ์มันต่างกันออกไป มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี! สารินทำเหมือนเธอเป็นพวกอ่อนปวกเปียกที่จะต้องยอมเขาไปเสียทุกอย่าง เขาทำเหมือนสามารถควบคุมเธอได้ ทั้งๆ ที่เรื่องระหว่างเธอและเขามันก็แค่จูบให้จบๆ ไปเท่านั้น อย่างวันนี้ที่เธอก็มาหาตามข้อตกลง ใช่ว่าจะเบี้ยวหรืออะไร และเธอก็ยอมให้เขาจูบไปแล้ว แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องมานอนให้เขาไซ้คออย่างตอนนี้ด้วย ชายหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ “หน้าวัว?” พิลลาเงียบ รวบรวมแรงทั้งหมดไปที่ฝ่ามือ ผลักอกสารินออกจนสุดแรง ซึ่งร่างกำยำก็เซถลาเล็กน้อย หญิงสาวอาศัยจังหวะนั้นในการถดตัวหนี ก่อนรีบเบี่ยงตัวลงจากเตียง ซึ่งเจ้าของห้องก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามแต่อย่างใด เพียงแค่มอง ปล่อยให้เธอยืนหอบหายใจอยู่ข้างๆ “พี่ทำผิดข้อตกลง” “หน้าวัวคืออะไร” “จีบแค่ยอมให้พี่จูบ พี่
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “หนูพุดจีบของพี่เสี้ยนมาก” พิลลาหน้าแดงก่ำด้วยโทสะ ยกมือไปผลักอกแกร่งจนร่างกำยำผละห่างจากกาย สาดสายตาเอาเรื่องใส่เจ้าของบ้านอย่างไม่คิดปิดบัง “เพราะจีบจะรีบกลับบ้านต่างหาก พี่นั่นแหละที่ลีลาจนจีบเสียเวลา ทั้งอาบน้ำนาน” เขาสวน “ผมก็รักสะอาดพอตัว” เธอไม่สนใจจะฟัง “แต่งตัวก็นาน” “สำอางนิดหนึ่ง” หนนี้คนโกรธหลุดหัวเราะ ก่อนจะรีบปั้นหน้าตึง พูดมาได้ไม่อายปากเลยหนอไอ้หน้าวัว เสื้อกล้ามคอย้วยเข้าคู่กับกางเกงบอลเก่าๆ อายุสามพันปี ผมเผ้าก็ไม่คิดจะหวี หน้านี่แค่ดูก็รู้ว่าไม่มีครีมบำรุงเจืออยู่เลยสักนิด คนอย่างเขาเอาความกล้าที่ไหนมาบอกว่าตัวเองเป็นหนุ่มสำอางกัน “ฝนหยุดแล้ว ถ้าเสร็จธุระจีบก็กลับบ้านได้” “ตามนั้น” เขานิ่ง เธอก็นิ่ง หญิงสาวทอดถอนลมหายใจทิ้ง “ก็ทำเร็วๆ จะได้กลับ” “ของแบบนี้มาเร่งกันมันก็พูดยาก” ลำพังตกเป็นรองก็น่าหงุดหงิดมากอยู่แล้ว ไหนยังเป็นรองคนพรรค์นี้อีก อย่างกับสวรรค์ต้องการทดสอบความอดทนกันอย่างนั้นแล ขีดความอดทนของเธอน่ะ อายุสั้นกว่าชีวิตลูกน้ำยุงลายเสียอีก “โอเค ไม่ต้องจูบ สี่หมื่นแปดใช่ปะ” จบคำของพิลลา สารินก็คว้าเข้าไปที่เอวคอดกิ่ว ออกแรงกร
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ เป็นไปไม่ได้หรอกที่สารินจะไม่หาเรื่องกวนประสาทเธอ อย่างน้อยๆ ก็ปล่อยให้เธอรอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ฝนยังไม่หยุด ซาบ้าง ตกหนักบ้าง สลับกันไป แต่ไม่ขาดเม็ดฝนสักที เพราะเธอรู้ว่าคนอย่างสารินมีความกล้าหาญมากพอที่จะทำตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ หากเธอหนีกลับก่อน เขาคงตามไปทวงสัญญาถึงบ้าน และเธอก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น จึงได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่บนโซฟา จะเปิดโทรทัศน์ก็เกรงว่าฟ้าจะผ่า โทรศัพท์ก็มีแต่ข้อความของสองสาวที่เหนื่อยจะอ่าน แต่ก็มีข้อความของน้องชายถูกส่งมาด้วย พิรภพเห็นว่าฝนตกแต่เธอยังไม่กลับเข้าบ้าน ซ้ำยังไม่ได้พาพิลลี่ไปด้วย จึงเกิดอาการเป็นห่วงพี่สาวขึ้นมาเสียอย่างนั้น ก็ถ้าไม่ใช่เพราะแกไปสร้างเรื่อง พี่อย่างฉันจะได้พบเจอกับวิบากกรรมแบบนี้ไหม พิลลาปดไปคำโตว่าติดฝนอยู่ที่ร้านของมัทรี และจะกลับตอนฝนหยุด คนทางบ้านจึงคลายกังวล สองขาถูกยกขึ้นมาบนโซฟา แผ่นหลังแนบไประนาบเดียวกัน ศีรษะถูกวางลงบนที่พักแขนเพื่อใช้เป็นหมอน เบนสายตาไปทางหลังบ้าน แต่ก็ไม่เห็นชายร่างสูงเดินเข้ามาอยู่ในครรลองสายตาสักที พอๆ กับที่เสียงน้ำจากฝักบัวยังไหลให้แขกอย่างเธอได้ยินไม่ขาดสาย ไอ้เสือกวนป