⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆
มีไม่กี่คนในโลกที่เธอไม่ชอบขี้หน้า โอเค มีเยอะ แต่ต่อให้มีคนเดียว ก็ต้องมีชื่อสาริน
พิลลาตื่นเช้ามาพบว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความฝัน เธอเคยมั่นใจว่าชีวิตประจำวันของตัวเองที่วันๆ มีแค่อยู่บ้าน เฝ้าร้านถ่ายเอกสาร นัดรวมตัวทานอาหารที่ร้านสเต๊กของมัทรี จับกลุ่มแต่งสวยที่ห้องเสื้อของลัลนา และสังสรรค์กันทุกสุดสัปดาห์ที่ร้านเหล้า ชีวิตเธอควรเป็นแบบนั้นต่อไป ไม่ใช่ไปเกี่ยวข้องกับคนอันตรายเช่น ‘เสือใหญ่’
เธอจึงได้ตกตะกอนถึงสัจธรรมของชีวิต...ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน
คนที่เดินเข้าหาเขา ก็เป็นเธอ เบียร์ของเขา ก็คว้ามาดื่มเองจนหมด ตอนเขาจูบก็ไม่ยอมผลักไสให้สุดแรง กลับยอมโอนอ่อนและตอบสนองราวศิโรราบเหมือนพวกใจง่าย ไหนตอนเขาเข้าใกล้เกินความจำเป็น ก็ยังยอมให้ทำ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองเลย
หลังลืมตาตื่น สิ่งแรกที่อยู่ในความสนใจคือโทรศัพท์
ข้อความของเขาถูกส่งมาจริงๆ คำขอเป็นเพื่อนก็ไม่ใช่เรื่องลวงโลก
พิลลาไม่ได้กดรับคำขอของสาริน นอกจากนั้นยังลบทิ้งอีกต่างหาก เพราะตั้งใจไว้ว่าทันทีที่ครบกำหนดสิบวันตามข้อตกลง เธอและเขาจะถือเป็นคนอื่นต่อกันเหมือนอย่างเคย เขาก็มีชีวิตของเขาไป เธอก็จะกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมๆ
แค่สิบวันที่ต้องทนให้ผีเสื้อบินว่อนในท้องน้อย เธอย่อมรับได้
ประมาณหกโมงสี่สิบนาที สองพี่น้องแก้ววิพัฒน์ที่อายุห่างกันเกือบสิบปีก็โดยสารเจ้าพิลลี่เพื่อไปยังบ้านของสาริน ที่เมื่อไปถึงก็พบว่าประตูบ้านเปิดอ้าซ่าเพื่อบอกให้รู้ว่าเจ้าของบ้านตื่นแล้ว
หน้าบ้านเป็นพื้นที่โล่งไร้ยวดยานพาหนะ เพราะวัยรุ่นมักมาที่นี่ในช่วงบ่ายจนดึกดื่น เช้าๆ แบบนี้ไม่มีใครอยู่นอกจากเขา
รถมอเตอร์ไซค์ของพิรภพถูกจอดไว้ในส่วนของโรงจอดรถ ไม่ได้จอดระเกะระกะอย่างเมื่อคืน
กุญแจรถถูกส่งคืนเจ้าของ “ไปโรงเรียนเลยนะ แล้วเย็นๆ ก็มาพาเรไรกลับบ้านด้วย”
หนุ่มน้อยพยักหน้ารับ พนมมือแนบอกอย่างมีมารยาท “สวัสดีครับพี่จีบ”
ประตูรถถูกเปิดออก พิรภพวาดขาไปนอกรถจนหยัดยืนเต็มความสูง ทว่าประตูยังไม่ทันถูกปิด มันก็ถูกฝ่ามือหนารั้งไว้พร้อมชายร่างกำยำที่สอดตัวเข้ามานั่งแทนที่น้องชาย
ก่อนปิดประตู เขาหันไปพูดกับเด็กหนุ่ม “ใจ ไปโรงเรียนซะ”
“ฮะ ...ครับ สวัสดีครับพี่เสือ”
ประตูรถถูกปิดลงด้วยน้ำมือของคนมาใหม่ เธอละสายตาจากเขาเพื่อมองไปที่น้องชาย ครู่สั้นๆ พิรภพก็หายไปจากครรลองสายตาพร้อมกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ จึงเบือนหน้ามาทางคนข้างกาย พิลลาสะดุ้งเล็กน้อยที่เห็นว่านัยน์ตาคมกริบจ้องมองเธอคล้ายมีความขุ่นมัวอยู่ในใจ
แต่เมื่อตั้งสติได้ เธอก็ยิงคำถามใส่คนที่ทำอะไรหุนหันพลันแล่นไม่สมเป็นคนอายุสามสิบ “มีอะไรอีก”
ถ้าพิรภพแคลงใจขึ้นมาเดี๋ยวก็เป็นเรื่องเป็นราวไม่รู้จบ อยากทำก็ควรทำกันเงียบ จะต้องโพนทะนาไปทั่วเพื่ออะไร ในเมื่อมันเป็นแค่เวลาสั้นๆ ที่เขาและเธอจะแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ต่อกัน ครบสิบวันเมื่อไร ต่างก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตที่ปกติสุขของตน ยิ่งคนรู้เยอะ เรื่องก็ยุ่งเหยิง
“ไม่รับแอด”
“...”
“ลบพี่ทิ้ง”
“...”
“อ่านไม่ตอบ”
เธอมองเขาด้วยความรู้สึกที่ว่า ‘เหลือจะเชื่อ’ เพราะเรื่องนี้นั้น ต่อให้ตีลังกาคิดกี่ตลบมันก็เข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เธอจะรับเพื่อนคนไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับคนอื่น อยู่ที่ความพึงพอใจส่วนตัวล้วนๆ และเขาไม่ใกล้เคียงความพึงพอใจของเธอเลย หรือเธอจะตอบไม่ตอบใครมันก็ยังถือว่าอยู่ในขอบเขต ‘สิทธิ์’ ของตนเอง
เขาอยู่ตรงไหนในสมการนี้หรือ
เสนอหน้าเสียจริง
“เรียกชื่อผิดนิดเดียว ต้องงอนกันขนาดนี้เลยเหรอน้องพุดจูบ”
ค้อนวงใหญ่ถูกส่งไปให้คนปากพล่อย
สารินยิ้มกริ่ม “เอ๊ย พุดจีบสิ”
“ลงไปค่ะ จะไปเปิดร้านแล้ว”
“รับแอด” ชายหนุ่มต่อรอง เปิดปากเสริมคำพูดตัวเอง “เมื่อกี้แอดไปใหม่แล้ว”
“การที่จีบลบทิ้งก็แปลว่าไม่ได้อยากเป็นเพื่อนด้วยไงคะ”
โดนสวนจังๆ เช่นนั้น หากเป็นคนอื่นอาจจะหน้าแห้งไปแล้ว แต่ทำอะไรคนอย่างสารินไม่ได้
“ไม่อยากเป็นเพื่อน แล้วคนสวยอยากเป็นอะไรคะ”
พิลลาสบถเบาๆ “ไอ้คนหนังไข่เอ๊ย!” แต่มันลอยเข้าหูคนถูกกระทบกระเทียบอยู่ดี “ลงไป อย่ากวนให้มันมากนะคะ คนจะทำมาหากิน”
“ก็ตอบมาก่อนว่าไม่อยากเป็นเพื่อนแล้วอยากเป็นอะไร”
“ไม่ได้อยากเป็นอะไรทั้งนั้น”
สารินยืนกราน “รับแอดก่อน” ยังมีหน้ามาเร่งกันอีกว่า “เร็ว เดี๋ยวเปิดร้านสาย ขาดรายได้นะ เช้าๆ แบบนี้เด็กนักเรียนไปยืนออกันอยู่หน้าร้านเต็มแล้วมั้ง”
เจ้าของร้านถ่ายเอกสารที่ครอบคลุมไปถึงเครื่องเขียน และคอมพิวเตอร์ไว้ให้เหล่านักเรียนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมาทำงานเอกสารนั้น ได้ฟังที่สารินพูดก็เผลอกระแทกลมหายใจออกมาอย่างระเหี่ยใจ กดเสียงต่ำ “ลง-ไป”
“ได้เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กปั๊บ ลงปุ๊บ”
“...”
“งั้นก็ขับไปเลย เดี๋ยวพี่ไปช่วยงานที่ร้านจีบก็ได้”
สมาร์ตโฟนเครื่องบางถูกคว้าขึ้นมาถือไว้ กดเข้าไปที่แอปพลิเคชันยอดนิยมอย่างเฟซบุ๊ก แตะไปที่ปุ่มยืนยัน แม้ว่าใจจะอยากกดลบมากแค่ไหนก็ตาม ครบสิบวันเมื่อไรเธอจะบล็อกอย่างไม่รอช้าเลย
สารินที่เห็นว่า Pudjeeb Philla ยอมรับคำขอของตนแล้ว ก็ชำเลืองมองคนอวดดีพลางกดมุมปากจนก่อเกิดรอยยิ้ม
คนที่เล่นเกมเก่งมันผมต่างหากครับคุณพิลลา
ประตูรถถูกเปิดออก แต่ก่อนที่เขาจะลงไป เธอก็โพล่งขึ้นจนร่างกำยำชะงักแล้วเหลียวมองยังสาวเจ้าที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย “ถ้าไม่อยากให้มีปัญหาตามหลัง พี่ไม่ควรโจ่งแจ้งแบบนี้”
สารินดึงตัวกลับมานั่งตามเดิม “ต้องแอบกิน?”
ไม่ถึงขั้นกินกันด้วยซ้ำ... “ประมาณนั้น” เธอพรูลมหายใจออก “เมลฟี่เห็น”
“อ้อ อาย”
เธอใช้หางตามอง “แล้วพี่ก็ยังมาทำแบบนี้ต่อหน้าพอใจมันอีก เข้าใจคำว่าแอบๆ ทำไหมคะ”
“เข้าใจ” ไม่ว่าเปล่า ยังโน้มหน้ามาหาจนเธอต้องถดกายหนี ลมหายใจร้อนๆ รินรดใบหน้างามจนเผลอเม้มปากเป็นเส้นตรง “แต่ไม่ทำ”
ก่อนมือบางจะดันไปที่หน้าผากของเขาเพื่อผลักออก
“ทำเถอะค่ะ เวลาจบเรื่องนี้ไปจะได้มองหน้ากันติด ยังไงเราก็คนบ้านเดียวกัน ยังต้องเจอกันอีกอยู่แล้ว ให้คนอื่นรู้มันจะดีตรงไหน สู้รักษาความเป็นพี่น้อง...” ที่เธอไม่เคยนับถือเขาเป็นพี่เลยสักครั้ง “ของพวกเราไว้ไม่ดีกว่าเหรอคะ”
สารินส่ายหน้า “ไม่ดี”
“...”
“ตัดพี่ตัดน้องเหอะ”
นัยน์ตาคมเข้มที่เจือความจริงจังถูกส่งมาให้เธอ แม้ไม่อยากฟังสิ่งที่เขาจะกล่าว แต่ก็ไม่อาจละความสนใจไปไหนได้ ไม่แม้แต่จะเบือนหน้าไปทางอื่นราวว่าถูกชายหนุ่มสะกดไว้
“นี่อยากเป็นผัว”
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ อีกไม่นานนักหรอก สารินจะโดนเธอต่อยอีกครั้ง จนเที่ยงแล้ว แต่พอนึกไปถึงเรื่องเมื่อเช้าก็ยังฉุนไม่หาย เป็นบ้าอะไรของเขาถึงอาจหาญมาพูดจาเช่นนั้นกับเธอ ที่ยอมให้จูบก็เพราะไม่มีเงินมากพอจะไถ่ตัวเรไร และเธอก็เค็มยิ่งกว่าเกลือสมุทร แต่ไม่ได้คิดจะสานสัมพันธ์ไปถึงความเป็นคู่ผัวตัวเมียอะไรกับเขา อยากเป็นผัว...พูดมาได้ไม่อายฟ้าดิน ระหว่างนั่งทานข้าวอยู่ในร้าน เนื้อนมไข่ก็มีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง คุณหนูเมลฟี่: รวมพลหนึ่งทุ่มตรงนะคะสาวๆ คุณหนูเมลฟี่: เรามีภารกิจสำคัญต้องทำ อ่านข้อความของเพื่อนสนิทแล้วก็หนักใจขึ้นมาทันที หนึ่งทุ่ม...เธอมีนัดแล้ว คุณหนูเนสต์: ไก่และหมูพริกไทยดำอย่างละหนึ่งนะจ๊ะ คุณหนูเมลฟี่: แล้วนางนั่นล่ะ คุณหนูพุดจีบ: เหม็นขี้หน้าเจ้าของร้าน ไม่ไป คุณหนูเมลฟี่: ทำไม จะไปกกพี่เสือใหญ่ (ของฉัน) เรอะ คุณหนูเมลฟี่: ความร่านนี้ท่านได้แต่ใดมา พิลลาแทบกรี๊ด แค่เห็นเธอซ้อนท้ายสาริน เพื่อนยังด่ากันขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าเธอจูบไถ่ตัวเรไร ไม่โดนนางมัทรีขึ้นป้ายไวนิลด่าว่าเป็นอีตัวทั่วกำแพงแสนเลยหรือ คุณหนูพุดจีบ: หมูพริกไทยดำ เฟรนช์ฟรายส์เยอะๆ คุณหนูเมลฟี่: ก็แค่น
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สารินหลับจริงๆ หลับสนิทเลยด้วย แล้วมีหน้ามาว่าเธอเด็ก พิลลาหาใช่คนใจร้ายใจดำต่อเพื่อนมนุษย์ นอกจากจะเปิดแอร์ไว้ ยังเผื่อแผ่น้ำใจด้วยการหันพัดลมให้คนที่จมอยู่ในห้วงนิทรา ส่วนตัวเองก็นั่งไถหน้าจอไปเรื่อยเปื่อย มีลูกค้าเข้ามาประปราย ประมาณบ่ายสองห้าสิบ มีหญิงวัยกลางคนเข้ามาถ่ายเอกสาร เธอก็ลุกออกจากเก้าอี้เพื่อไปทำให้ เจ้าหล่อนชวนคุย “อากาศร้อนมากเลยเนอะ หน้าฝนแล้วแท้ๆ” เสียงเครื่องถ่ายเอกสารดังเข้าโสตประสาท “อบอ้าวแบบนี้ เผลอๆ อีกเดี๋ยวฝนก็ตกค่ะ เมื่อวานซืนร้อนแบบนี้แหละ พอช่วงโรงเรียนเลิกก็เทมาอย่างกับฟ้ารั่ว” “น่าจะตกกลางคืน จะได้นอนสบาย ตกกลางวันไปไหนมาไหนลำบาก” บทสนทนานั้นลอยเข้าหูบุคคลที่สามอย่างช่วยไม่ได้ เจ้าของร้านยิ้มพลางคว้ากระดาษมาถือ ก้าวเดินมาในส่วนที่ทำงานของตน เพื่อนำกระดาษที่ถ่ายเอกสารแล้วใส่ถุงให้ลูกค้า ปากก็ทำหน้าที่ขยับเพื่อตอบโต้บทสนทนากับอีกฝ่าย “จีบก็ชอบเวลาฝนตกตอนกลางคืนเหมือนกันค่ะ หลับไปกับเสียงฝน ฟินอย่าบอกใคร” “อากาศเย็นด้วยนะ น้าชอบมาก” สองมือขาวผ่องพนมเข้าหากัน “ถ้าจะตก เก็บไปตกคืนนี้ทีเถอะ เพี้ยง” คนอายุมากกว่าระบายยิ้มให้เด็กสา
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอสมาร์ตโฟนเรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี ก่อนจะลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ โต๊ะสนุกเกอร์ ข้างกันเป็นภูริกับปณัย เพื่อนซี้ร่วมสาบานตั้งแต่ฟันแท้ยังไม่ขึ้น ภูรินำเรไรมาคืนเขาแล้วดันอยู่ยาว ซ้ำยังชวนปณัยมาร่วมเค้นคอเขาเรื่อง ‘กกสาว’ ที่ก็ง้างปากไม่สำเร็จ ขี้คร้านจะโดนหมาเด็กงอน เลยเงียบไว้ หนุ่มๆ รวมตัวกันจะขาดเบียร์ก็ไม่ได้ ปณัยเอ่ยพลางลากสายตามองเจ้าของบ้าน “ไปไหน” “ผมจะไปทำธุระสำคัญครับคุณหนึ่ง” “ธุระอะไร” สารินแค่นหัวเราะ “มารยาทขั้นพื้นฐานคือ ‘ธุระ’ ไม่ต้องถามต่อ” “แล้วกูไม่มีด้วยไง มารยาทอะไรนั่นน่ะ” คำตอบของปณัยเรียกรอยยิ้มจากภูริได้อย่างดี และต่อให้เพื่อนไม่บอกว่าธุระที่ว่าคืออะไร เขาก็ใช่จะเดาไม่ออก ภูริกล่าว “ติดหญิงนะมึง เพื่อนอุตส่าห์มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา” “กระผมก็ขอน้อมรับคำติชมไว้แต่โดยดี” แม้จะโดนเพื่อนฝูงค่อนขอด แต่สารินก็ยังเลือกที่จะไปยัง ‘สเต๊กเลยอะ’ ของมัทรี เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวโพสต์รูปของแก๊งเพื่อนลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งเขาก็รู้อยู่แล้วว่าพิลลาจะนัดกับเพื่อนๆ ที่ไหน เพราะเป็นเพื่อนกับมัทรีบนเฟซบุ๊กมานาน เห็นเจ้
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “สวัสดีครับน้องพุดจูบ” ทั้งสามชีวิตนิ่งงัน ลัลนาอ้าปากค้างพลางเบิกตาโต หันไปมองมัทรีที่นั่งข้างกัน จึงได้เห็นว่าเพื่อนก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างกันนัก ก่อนสายตาสองคู่จะลากไปที่ ‘น้องพุดจูบ’ อย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “เอ๊ย น้องพุดจีบ แหม เรียกผิดซะได้” เมื่อตั้งสติได้ พิลลากัดฟันกรอด ปวดขมับตุบๆ พูดเสียงลอดไรฟัน “หุบ-ปาก” ตอนแกล้งพิมพ์ผิด เธอก็ฉุนมากแล้ว แต่อย่างน้อยมันก็ยังเป็นความลับระหว่างเขาและเธอ คนละกรณีกับตอนนี้ ที่เขาเรียกเธอผิดๆ ต่อหน้าเพื่อน “อีนม!” เจ้าของร้านโพล่งขึ้นด้วยความตกใจ “หล่อนไปพูดจาไม่มีมารยาทกับพี่เขาได้ไง นางนี่ นิสัยเสียใหญ่แล้ว” เธอหันไปขมวดคิ้วใส่เพื่อน แล้วที่สารินทำกับเธอเรียกว่ามีมารยาทตรงไหน เสียงถูกดัดอีกครั้งเมื่อคู่สนทนาเป็นผู้ชาย “พี่เสือใหญ่ก็อย่าไปแกล้งมันแบบนั้นเลยค่ะ นางนี่ยิ่งผีเข้าผีออกอยู่ อีกอย่างปากมันก็เสียแบบนี้แหละ อย่าไปถือสาเลยนะ” เขาเพียงระบายยิ้มอย่างคนใจกว้างให้กับสองสาวที่มองมา ก่อนเคลื่อนสายตาไปยังเต้าหู้ยี้ที่นั่งอยู่ข้างกัน พิลลาก้มหน้าก้มตายัดทุกอย่างเข้าปากจนแก้มป่อง หวังจะรีบทานให้หมดจะได้หนีไปจากตรงนี้
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ หน้าบ้านของสารินมีรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ละลานตา ทว่าไม่มีใครอยู่เลย ก็คงจะอยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์หลังบ้านกันหมด พิลลาจอดรถไว้ในมุมอับสายตา หรือก็คือข้างๆ รถยนต์ของเจ้าของบ้าน เพื่อป้องกันพวกหูตาสับปะรด ก่อนไขกุญแจเพื่อเข้าไปรออยู่ด้านใน ไฟถูกปิดจนมองอะไรไม่เห็น แต่เธอก็ไม่คิดจะเปิด ใช้เพียงแสงสว่างจากหน้าจอโทรศัพท์นำทางไปยังโซฟาเท่านั้น ร่างระหงทิ้งตัวนั่งลงพร้อมกับที่สายตาเหลือบไปเห็นข้อความของเพื่อนสนิท คุณหนูเมลฟี่: อีนม บ้านหล่อนอยู่ทางนั้นเหรอ คนโดนจับไต๋ได้ลอบถอนลมหายใจทิ้งอย่างเหนื่อยอ่อน อุตส่าห์ขี่ออกมาเนียนๆ แล้ว อีไข่ก็ยังสังเกตเห็นอีก มันควรเรียนโรงเรียนตำรวจแล้วโตไปเป็นหน่วยสืบสวนหรือเปล่า ช่างสังเกตเหลือเกิน คงจะช่วยทำคดีได้เยอะ คุณหนูเมลฟี่: แล้วพี่เสือใหญ่ก็ลุกต่อจากหล่อนอย่างกับจะตามไปนัดเจอกันแน่ะ คุณหนูเมลฟี่: คือยังไง แอบแซ่บ? คุณหนูพุดจีบ: อย่าหาเรื่องน่า เขาจะลุกตอนไหนมันเกี่ยวอะไรกับฉันตรงไหน คุณหนูเมลฟี่: เออๆ แล้วนั่นอยู่ที่ไหน พิลลาเลือกที่จะไม่ตอบ คุณหนูเนสต์: แล้วหล่อนจะให้พี่เขาจีบไหม คุณหนูพุดจีบ: ไม่ สำหรับคำถามนี้ เธอตอบได้อย่า
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ เป็นไปไม่ได้หรอกที่สารินจะไม่หาเรื่องกวนประสาทเธอ อย่างน้อยๆ ก็ปล่อยให้เธอรอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ฝนยังไม่หยุด ซาบ้าง ตกหนักบ้าง สลับกันไป แต่ไม่ขาดเม็ดฝนสักที เพราะเธอรู้ว่าคนอย่างสารินมีความกล้าหาญมากพอที่จะทำตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ หากเธอหนีกลับก่อน เขาคงตามไปทวงสัญญาถึงบ้าน และเธอก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น จึงได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่บนโซฟา จะเปิดโทรทัศน์ก็เกรงว่าฟ้าจะผ่า โทรศัพท์ก็มีแต่ข้อความของสองสาวที่เหนื่อยจะอ่าน แต่ก็มีข้อความของน้องชายถูกส่งมาด้วย พิรภพเห็นว่าฝนตกแต่เธอยังไม่กลับเข้าบ้าน ซ้ำยังไม่ได้พาพิลลี่ไปด้วย จึงเกิดอาการเป็นห่วงพี่สาวขึ้นมาเสียอย่างนั้น ก็ถ้าไม่ใช่เพราะแกไปสร้างเรื่อง พี่อย่างฉันจะได้พบเจอกับวิบากกรรมแบบนี้ไหม พิลลาปดไปคำโตว่าติดฝนอยู่ที่ร้านของมัทรี และจะกลับตอนฝนหยุด คนทางบ้านจึงคลายกังวล สองขาถูกยกขึ้นมาบนโซฟา แผ่นหลังแนบไประนาบเดียวกัน ศีรษะถูกวางลงบนที่พักแขนเพื่อใช้เป็นหมอน เบนสายตาไปทางหลังบ้าน แต่ก็ไม่เห็นชายร่างสูงเดินเข้ามาอยู่ในครรลองสายตาสักที พอๆ กับที่เสียงน้ำจากฝักบัวยังไหลให้แขกอย่างเธอได้ยินไม่ขาดสาย ไอ้เสือกวนป
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “หนูพุดจีบของพี่เสี้ยนมาก” พิลลาหน้าแดงก่ำด้วยโทสะ ยกมือไปผลักอกแกร่งจนร่างกำยำผละห่างจากกาย สาดสายตาเอาเรื่องใส่เจ้าของบ้านอย่างไม่คิดปิดบัง “เพราะจีบจะรีบกลับบ้านต่างหาก พี่นั่นแหละที่ลีลาจนจีบเสียเวลา ทั้งอาบน้ำนาน” เขาสวน “ผมก็รักสะอาดพอตัว” เธอไม่สนใจจะฟัง “แต่งตัวก็นาน” “สำอางนิดหนึ่ง” หนนี้คนโกรธหลุดหัวเราะ ก่อนจะรีบปั้นหน้าตึง พูดมาได้ไม่อายปากเลยหนอไอ้หน้าวัว เสื้อกล้ามคอย้วยเข้าคู่กับกางเกงบอลเก่าๆ อายุสามพันปี ผมเผ้าก็ไม่คิดจะหวี หน้านี่แค่ดูก็รู้ว่าไม่มีครีมบำรุงเจืออยู่เลยสักนิด คนอย่างเขาเอาความกล้าที่ไหนมาบอกว่าตัวเองเป็นหนุ่มสำอางกัน “ฝนหยุดแล้ว ถ้าเสร็จธุระจีบก็กลับบ้านได้” “ตามนั้น” เขานิ่ง เธอก็นิ่ง หญิงสาวทอดถอนลมหายใจทิ้ง “ก็ทำเร็วๆ จะได้กลับ” “ของแบบนี้มาเร่งกันมันก็พูดยาก” ลำพังตกเป็นรองก็น่าหงุดหงิดมากอยู่แล้ว ไหนยังเป็นรองคนพรรค์นี้อีก อย่างกับสวรรค์ต้องการทดสอบความอดทนกันอย่างนั้นแล ขีดความอดทนของเธอน่ะ อายุสั้นกว่าชีวิตลูกน้ำยุงลายเสียอีก “โอเค ไม่ต้องจูบ สี่หมื่นแปดใช่ปะ” จบคำของพิลลา สารินก็คว้าเข้าไปที่เอวคอดกิ่ว ออกแรงกร
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ขอปราบม้าพยศสักทีเหอะ จะควบให้ครางเป็นแต่ ‘พี่เสือใหญ่’ เลย” ทว่าสิ่งที่ออกจากปากของพิลลาคือ “ไอ้หน้าวัว อยากโดนกระทืบจริงๆ ใช่ไหม” การเรียกสารินว่าพี่ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงของพิลลา ที่ผ่านมาถึงจะไม่รู้สึกเคารพนับถือ เธอก็เรียกเขาว่า ‘พี่เสือใหญ่’ มาตลอด เพียงแต่วันนี้สถานการณ์มันต่างกันออกไป มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี! สารินทำเหมือนเธอเป็นพวกอ่อนปวกเปียกที่จะต้องยอมเขาไปเสียทุกอย่าง เขาทำเหมือนสามารถควบคุมเธอได้ ทั้งๆ ที่เรื่องระหว่างเธอและเขามันก็แค่จูบให้จบๆ ไปเท่านั้น อย่างวันนี้ที่เธอก็มาหาตามข้อตกลง ใช่ว่าจะเบี้ยวหรืออะไร และเธอก็ยอมให้เขาจูบไปแล้ว แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องมานอนให้เขาไซ้คออย่างตอนนี้ด้วย ชายหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ “หน้าวัว?” พิลลาเงียบ รวบรวมแรงทั้งหมดไปที่ฝ่ามือ ผลักอกสารินออกจนสุดแรง ซึ่งร่างกำยำก็เซถลาเล็กน้อย หญิงสาวอาศัยจังหวะนั้นในการถดตัวหนี ก่อนรีบเบี่ยงตัวลงจากเตียง ซึ่งเจ้าของห้องก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามแต่อย่างใด เพียงแค่มอง ปล่อยให้เธอยืนหอบหายใจอยู่ข้างๆ “พี่ทำผิดข้อตกลง” “หน้าวัวคืออะไร” “จีบแค่ยอมให้พี่จูบ พี่
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “อีนม” มือที่ตั้งท่าจะคว้าผ้าขนหนูเป็นอันชะงัก ก่อนหันกลับมาเลิกคิ้วใส่มัทรี “หล่อนได้กับพี่เสือใหญ่ยัง” ลมหายใจของพิลลาสะดุดกึก นัยน์ตาเบิกโต ภาพความทรงจำที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผุดมาอย่างกับมีใครไปตั้งโปรแกรมไว้ สัมผัสนั้นคล้ายว่ายังติดอยู่ที่มือ ทำให้พิลลาแข็งทื่อไปทั้งตัว กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นนาที “ยัง ไม่ใช่ ใช่นั่นแหละ แต่หมายถึงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน จะได้กับเขาได้ไง” สองเสียงประสานกัน “เหรอ / เหรอ” “ใช่ ฉันเคยโกหกอะไรพวกหล่อนหรือ-” “เยอะแยะ” “แต่เรื่องนี้พูดจริง” พิลลายืนยันหนักแน่น หลังได้ผ้าขนหนูมาไว้ในมือ เธอก็โพล่งขึ้นเพื่อตัดบท “ไปอาบน้ำละ” บรรยากาศในร้าน PEEK A BEER เป็นอย่างที่เคยเป็น มีเสียงเพลงจากนักร้องที่เคล้าไปกับเบียร์เย็นๆ เหล้าที่แสนบาดคอ และกับแกล้มที่ขาดไม่ได้ ช่วงหัวค่ำมักเป็นเช่นนี้ แต่พอดึกเข้าหน่อย ผีเสื้อราตรีก็ออกโรง และพวกเธอสามคนไม่เคยแผ่ว “ใครพอจะทราบข่าวบ้างว่าช่วงนี้ยายฟายมันตีกับใคร” ประโยคนั้นเรียกสายตาของสองสาวต่างขั้วได้เป็นอย่างดี ‘ยายฟาย’ ของมัทรีคืออรอนงค์ เพราะเป็นคู่ปรับกันมานาน เห็นว่าชื่อฝ้าย เลยเปล
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ช่วยไอ้เสือกำพร้าแม่ตัวนี้หน่อยได้ไหมครับ” ร่างระหงบนตักแกร่งอาศัยจังหวะนี้ในการพุ่งตัวไปหาชายหนุ่ม แตะริมฝีปากไปที่ปากหยักติดคล้ำ แล้วจึงผละออกมาก่อนที่สารินจะทันตั้งตัว นอกจากริมฝีปาก ร่างแน่งน้อยก็ผละออกจากตักแกร่งในเวลาถัดมา “สอง” เธอหอบหายใจราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน “สองครั้งแล้ว เหลืออีกแค่แปดครั้ง” นัยน์ตาคมจ้องมองไปยังผู้พูด ยกมุมปากขึ้นจนกลายเป็นรอยยิ้ม เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้น “อ้อ เมื่อกี้เรียกจูบ?” “ก็ใช่ ของวันนี้ถือว่าเรียบร้อยแล้ว” “ไม่เอาน่า ใครมันจูบกันแบบนี้ เด็กน้อยมาก โคตรรับไม่ได้” “รับไม่ได้ก็เรื่องของพี่ จีบจะกลับบ้านแล้ว” “พุดจีบ” เสียงเข้มๆ เอ่ยเรียกชื่อของเธอ สีหน้าและแววตาไร้แววล้อเล่น ทำให้เธอคาดเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ พิลลาจึงค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่าง “มานี่” “ไม่ จะกลับบ้าน” “มา” สารินยันกายลุกขึ้นยืน พร้อมกับที่ก้าวเท้ามาทางนี้ “แบบนี้มันไม่เรียกว่าจูบ อย่ามาโกง” พิลลาไม่อยู่ฟัง รีบสับเท้าวิ่งออกจากบ้าน ก่อนตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์แล้วบิดสุดแรงเกิด เธอไม่เคยหมดท่าขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแพ้ย่อยยับจนม
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ บ้านทั้งหลังมืดสนิท พิลลาจึงเปิดไฟจนพอมีแสงสว่าง คงจะเป็นอย่างที่เด็กวัยรุ่นหน้าบ้านบอก สารินอยู่หลังบ้าน และเธอก็ไม่ได้พกมือถือติดตัวมาด้วย หากต้องเดินออกไปเรียกอย่างไรก็คงต้องเจอกับคนที่อยู่ด้านหลัง จึงหวังว่าความเปลี่ยนไปในบ้านจะเรียกสายตาของเขาได้ ไฟในบ้านเปิดเอง เจ้าของบ้านจะไม่สงสัยแล้วเข้ามาดูหน่อยหรือ แต่ผ่านมาห้านาทีเห็นจะได้ ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาด้านใน และวันนี้เธอก็ไม่ได้ว่างมารอเขานานๆ ด้วย เพราะอยากกลับให้ถึงบ้านก่อนที่สองสาวจะมาถึง ไม่อย่างนั้นต้องปั้นน้ำเป็นตัวอีกเช่นเคย พิลลาเดินไปที่ประตู แนบหูไปกับบานไม้เพื่อฟังความเคลื่อนไหวรอบนอก ที่ก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกวัยรุ่นที่มารวมตัวกัน บางครั้งก็มีเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูดังเข้าโสตประสาท ร่างระหงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ยื่นมือไปแตะที่ลูกบิดแล้วออกแรงหมุนช้าๆ จนมันถูกเปิดในที่สุด ไม่รู้ว่ากี่สายตากันแน่ที่มองมา แต่เธอตวัดตาไปมองเพียงสารินคนเดียว อย่างน้อยการมองแค่เขาก็ลดความอายลงไปได้มากโข “มีธุระจะคุยด้วยค่ะ” ว่าจบก็ปิดประตูลงทันที ก่อนสับเท้าเดินไปนั่งที่โซฟาทั้งใบหน้าบึ้งตึง เธอโกรธตัวเองที่เลือก
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ Pudjeeb Philla: พี่ลืมของไว้ที่ร้าน เธอกำลังจะถ่ายรูปกระเป๋าสตางค์ส่งไปให้ หลังเปิดดูแล้วพบสารพัดบัตร รวมถึงบัตรประชาชนที่มีหน้าเขาแปะหราไว้ พร้อมกับชื่อ ‘สาริน อัศวกมล’ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลัลนารีบต่อสายหามัทรีอย่างเร่งด่วน ทว่าข้อความของเขาก็ถูกส่งเข้ามาเสียก่อน Sarin Asawakamol: หัวใจ?? จากตั้งใจจะถ่ายรูป เธอก็เปลี่ยนมาโต้ตอบกับเขาแทน เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากหยุมหัวคน Pudjeeb Philla: ใช่จ้า กำลังจะเอาไปต้มให้หมากิน Sarin Asawakamol: หมาในปากหรือเปล่าครับ Sarin Asawakamol: เลี้ยงดีจังเลยนะ ถึงว่า ขยันทำงานเหลือเกิน Pudjeeb Philla: อ๋อค่ะ คนที่จีบเพิ่งยกพวกไปรุมกระทืบก็พูดแบบนี้แหละ Sarin Asawakamol: อยากโดนจังSarin Asawakamol: โคตรอยาก เธอด่าเขาในใจ แต่ไม่พิมพ์ด่าให้เรื่องยืดยาว เลือกที่จะตัดบทด้วยการส่งรูปกระเป๋าสตางค์ไปให้ Pudjeeb Philla: จะให้เอาไปให้หรือจะมาเอาเอง Pudjeeb Philla: ร้านปิดห้าโมง ถ้ามาก็อย่าเกินนี้ แต่ถ้ารอจีบเอาไปให้ก็ค่ำๆ Pudjeeb Philla: แต่ของพี่นั่นแหละ มีบัตรประชาชน ส่วนเงินไม่ได้นับ แต่ไม่ได้ยุ่งอะไร ถ้าหายก็ไม่เกี่ยวกับจีบ
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สารินกลับไปแล้ว หลังจากนั่งๆ นอนๆ อยู่หลังโต๊ะทำงานของเธออยู่หลายชั่วโมง ที่จริงเขายังไม่คิดจะกลับ ถ้าไม่ติดที่เธอไล่ตะเพิดเพราะลัลนากำลังจะมาที่ร้าน เพื่อนสนิทเดินมาทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ “คืนนี้ออกไหม” “ถ้าหล่อนกับเมลฟี่ไป ฉันก็ไป” “เป็นไร” พิลลาหันไปมุ่นคิ้วใส่เพื่อน “เห็นทำหน้าเซ็งๆ” เป็นอย่างที่ลัลนาว่า เธอเซ็งมากๆ ที่คนอย่างสารินเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิต ยิ่งเขาพยายามล้ำเส้นที่ตกลงกันไว้ ไม่ยอมให้มันหยุดที่การจูบ แต่คิดจะจีบ เธอก็เกิดอาการอึดอัดคับแน่นในใจ ครั้นจะให้จ่ายเงินก็มีไม่พอ กว่าจะได้แต่ละบาทนั้นไม่ใช่ง่ายๆ ยิ่งต้องจำนำข้าวของสำคัญหรือเลือกหยิบยืมเพื่อนสนิท เธอทำไม่ได้ เนื้อนมไข่คบกันได้นานเพราะไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครเคยยืมเงินกันให้ต้องผิดใจ ไม่ร่วมธุรกิจกันในหมู่เพื่อน ทานข้าวก็หารเท่า ดื่มเหล้าไม่เคยเอาเปรียบ มาครั้งนี้เธอก็ไม่มีความกล้ามากพอจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แม้จะรู้ว่าเพื่อนต้องช่วย แต่มันจะเป็นปมในใจว่าครั้งหนึ่งเธอเคยหยิบยืมเงินคนสนิท แค่ยอมให้ไอ้หน้าวัวจูบไม่กี่ครั้ง เปลืองตัวแค่นี้ สบาย ก็ถ้ามันทำแค่นั้น เธอค
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ ‘ป๋า’ เดินออกไปจากร้าน ควบมอเตอร์ไซค์ไปทางร้านน้ำ พิลลามองจนลับสายตาก่อนส่ายหัวน้อยๆ ป๋าอะไรกัน คนที่ขายนกทอดตลาดทั้งๆ ที่เพิ่งเลยกำหนดมาวันเดียวน่ะ หรือจะขอผ่อนก็แสนจะเรื่องมาก สารินมันเค็มยิ่งกว่าน้ำทะเลเสียอีก ช่วงเที่ยงๆ แบบนี้ ร้านน้ำของปาริฉัตรมีลูกค้าหนาตาทีเดียว หนึ่งในนั้นคืออรอนงค์ บ้านของอรอนงค์ประกอบกิจการซัก อบ รีด ตั้งแต่เขาย้ายมาดูแลตาที่นี่ ก็ได้บ้านนี้ในการจัดการส่วนของเสื้อผ้าอาภรณ์ ไม่ต้องลำบากซักตากเองให้เหนื่อย หลังจากตาถึงแก่กรรม เขาก็ไม่คิดจะย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ เพราะหลงรักกำแพงแสนเสียแล้ว นอกจากส่งเสื้อผ้าซักกับบ้านของอรอนงค์ สาวเจ้ายังอาสาเข้ามาดูแลความสะอาดของบ้านทุกสัปดาห์อีกด้วย เขามีหน้าที่จ่าย และก็ยินดีจ่าย เพราะเธอทำมันได้ดีไร้ที่ติ “ไปไงมาไงเนี่ยพี่เสือใหญ่” สารินระบายยิ้มให้แม่ค้าร้านน้ำ “มาซื้อน้ำน่ะ” “แหม อยากลัดคิวให้สุดหล่อจริงๆ แต่เดี๋ยวโดนคนอื่นเขม่นเอา เพราะงั้นนั่งรอก่อนนะ” เขาเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดียวกับอรอนงค์และกีรติ ซึ่งเป็นสองสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี “มาซื้อน้ำเหรอพี่” ชายหนุ่มพยักหน้าเป็
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ขอปราบม้าพยศสักทีเหอะ จะควบให้ครางเป็นแต่ ‘พี่เสือใหญ่’ เลย” ทว่าสิ่งที่ออกจากปากของพิลลาคือ “ไอ้หน้าวัว อยากโดนกระทืบจริงๆ ใช่ไหม” การเรียกสารินว่าพี่ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงของพิลลา ที่ผ่านมาถึงจะไม่รู้สึกเคารพนับถือ เธอก็เรียกเขาว่า ‘พี่เสือใหญ่’ มาตลอด เพียงแต่วันนี้สถานการณ์มันต่างกันออกไป มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี! สารินทำเหมือนเธอเป็นพวกอ่อนปวกเปียกที่จะต้องยอมเขาไปเสียทุกอย่าง เขาทำเหมือนสามารถควบคุมเธอได้ ทั้งๆ ที่เรื่องระหว่างเธอและเขามันก็แค่จูบให้จบๆ ไปเท่านั้น อย่างวันนี้ที่เธอก็มาหาตามข้อตกลง ใช่ว่าจะเบี้ยวหรืออะไร และเธอก็ยอมให้เขาจูบไปแล้ว แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องมานอนให้เขาไซ้คออย่างตอนนี้ด้วย ชายหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ “หน้าวัว?” พิลลาเงียบ รวบรวมแรงทั้งหมดไปที่ฝ่ามือ ผลักอกสารินออกจนสุดแรง ซึ่งร่างกำยำก็เซถลาเล็กน้อย หญิงสาวอาศัยจังหวะนั้นในการถดตัวหนี ก่อนรีบเบี่ยงตัวลงจากเตียง ซึ่งเจ้าของห้องก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามแต่อย่างใด เพียงแค่มอง ปล่อยให้เธอยืนหอบหายใจอยู่ข้างๆ “พี่ทำผิดข้อตกลง” “หน้าวัวคืออะไร” “จีบแค่ยอมให้พี่จูบ พี่
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “หนูพุดจีบของพี่เสี้ยนมาก” พิลลาหน้าแดงก่ำด้วยโทสะ ยกมือไปผลักอกแกร่งจนร่างกำยำผละห่างจากกาย สาดสายตาเอาเรื่องใส่เจ้าของบ้านอย่างไม่คิดปิดบัง “เพราะจีบจะรีบกลับบ้านต่างหาก พี่นั่นแหละที่ลีลาจนจีบเสียเวลา ทั้งอาบน้ำนาน” เขาสวน “ผมก็รักสะอาดพอตัว” เธอไม่สนใจจะฟัง “แต่งตัวก็นาน” “สำอางนิดหนึ่ง” หนนี้คนโกรธหลุดหัวเราะ ก่อนจะรีบปั้นหน้าตึง พูดมาได้ไม่อายปากเลยหนอไอ้หน้าวัว เสื้อกล้ามคอย้วยเข้าคู่กับกางเกงบอลเก่าๆ อายุสามพันปี ผมเผ้าก็ไม่คิดจะหวี หน้านี่แค่ดูก็รู้ว่าไม่มีครีมบำรุงเจืออยู่เลยสักนิด คนอย่างเขาเอาความกล้าที่ไหนมาบอกว่าตัวเองเป็นหนุ่มสำอางกัน “ฝนหยุดแล้ว ถ้าเสร็จธุระจีบก็กลับบ้านได้” “ตามนั้น” เขานิ่ง เธอก็นิ่ง หญิงสาวทอดถอนลมหายใจทิ้ง “ก็ทำเร็วๆ จะได้กลับ” “ของแบบนี้มาเร่งกันมันก็พูดยาก” ลำพังตกเป็นรองก็น่าหงุดหงิดมากอยู่แล้ว ไหนยังเป็นรองคนพรรค์นี้อีก อย่างกับสวรรค์ต้องการทดสอบความอดทนกันอย่างนั้นแล ขีดความอดทนของเธอน่ะ อายุสั้นกว่าชีวิตลูกน้ำยุงลายเสียอีก “โอเค ไม่ต้องจูบ สี่หมื่นแปดใช่ปะ” จบคำของพิลลา สารินก็คว้าเข้าไปที่เอวคอดกิ่ว ออกแรงกร
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ เป็นไปไม่ได้หรอกที่สารินจะไม่หาเรื่องกวนประสาทเธอ อย่างน้อยๆ ก็ปล่อยให้เธอรอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ฝนยังไม่หยุด ซาบ้าง ตกหนักบ้าง สลับกันไป แต่ไม่ขาดเม็ดฝนสักที เพราะเธอรู้ว่าคนอย่างสารินมีความกล้าหาญมากพอที่จะทำตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ หากเธอหนีกลับก่อน เขาคงตามไปทวงสัญญาถึงบ้าน และเธอก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น จึงได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่บนโซฟา จะเปิดโทรทัศน์ก็เกรงว่าฟ้าจะผ่า โทรศัพท์ก็มีแต่ข้อความของสองสาวที่เหนื่อยจะอ่าน แต่ก็มีข้อความของน้องชายถูกส่งมาด้วย พิรภพเห็นว่าฝนตกแต่เธอยังไม่กลับเข้าบ้าน ซ้ำยังไม่ได้พาพิลลี่ไปด้วย จึงเกิดอาการเป็นห่วงพี่สาวขึ้นมาเสียอย่างนั้น ก็ถ้าไม่ใช่เพราะแกไปสร้างเรื่อง พี่อย่างฉันจะได้พบเจอกับวิบากกรรมแบบนี้ไหม พิลลาปดไปคำโตว่าติดฝนอยู่ที่ร้านของมัทรี และจะกลับตอนฝนหยุด คนทางบ้านจึงคลายกังวล สองขาถูกยกขึ้นมาบนโซฟา แผ่นหลังแนบไประนาบเดียวกัน ศีรษะถูกวางลงบนที่พักแขนเพื่อใช้เป็นหมอน เบนสายตาไปทางหลังบ้าน แต่ก็ไม่เห็นชายร่างสูงเดินเข้ามาอยู่ในครรลองสายตาสักที พอๆ กับที่เสียงน้ำจากฝักบัวยังไหลให้แขกอย่างเธอได้ยินไม่ขาดสาย ไอ้เสือกวนป