⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆
‘ป๋า’ เดินออกไปจากร้าน ควบมอเตอร์ไซค์ไปทางร้านน้ำ พิลลามองจนลับสายตาก่อนส่ายหัวน้อยๆ ป๋าอะไรกัน คนที่ขายนกทอดตลาดทั้งๆ ที่เพิ่งเลยกำหนดมาวันเดียวน่ะ หรือจะขอผ่อนก็แสนจะเรื่องมาก สารินมันเค็มยิ่งกว่าน้ำทะเลเสียอีก
ช่วงเที่ยงๆ แบบนี้ ร้านน้ำของปาริฉัตรมีลูกค้าหนาตาทีเดียว หนึ่งในนั้นคืออรอนงค์
บ้านของอรอนงค์ประกอบกิจการซัก อบ รีด ตั้งแต่เขาย้ายมาดูแลตาที่นี่ ก็ได้บ้านนี้ในการจัดการส่วนของเสื้อผ้าอาภรณ์ ไม่ต้องลำบากซักตากเองให้เหนื่อย หลังจากตาถึงแก่กรรม เขาก็ไม่คิดจะย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ เพราะหลงรักกำแพงแสนเสียแล้ว
นอกจากส่งเสื้อผ้าซักกับบ้านของอรอนงค์ สาวเจ้ายังอาสาเข้ามาดูแลความสะอาดของบ้านทุกสัปดาห์อีกด้วย เขามีหน้าที่จ่าย และก็ยินดีจ่าย เพราะเธอทำมันได้ดีไร้ที่ติ
“ไปไงมาไงเนี่ยพี่เสือใหญ่”
สารินระบายยิ้มให้แม่ค้าร้านน้ำ “มาซื้อน้ำน่ะ”
“แหม อยากลัดคิวให้สุดหล่อจริงๆ แต่เดี๋ยวโดนคนอื่นเขม่นเอา เพราะงั้นนั่งรอก่อนนะ”
เขาเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดียวกับอรอนงค์และกีรติ ซึ่งเป็นสองสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี
“มาซื้อน้ำเหรอพี่” ชายหนุ่มพยักหน้าเป็นคำตอบ “พรุ่งนี้เดี๋ยวฝ้ายเข้าไปที่บ้านนะ”
“อ้อ พรุ่งนี้วันเสาร์นี่”
“ช่าย” อรอนงค์ว่ายิ้มๆ “วันนี้อากาศร้อนอบอ้าวมาก แต่เดี๋ยวเย็นๆ ฝนคงตกอีก พรุ่งนี้อาจจะเหมือนกัน ฝนเล่นตกทุกวัน งั้นฝ้ายจะเข้าไปเช้าหน่อยละกัน จะได้เสร็จไวๆ เดี๋ยวฝนตกก่อน”
“เธอสะดวกตอนไหนก็ตอนนั้นแหละ”
ขณะเดียวกัน เสียงของปาริฉัตรก็ดังขึ้น “ไอ้เด็กหน้าเต้าหู้ยังไม่มาอีกเรอะ”
ลูกจ้างร้านน้ำที่ยืนอยู่ข้างกันชำเลืองสายตาไปทางถนน “ยังไม่เห็นมาเลย ให้หนูเอาไปส่งก็ได้”
“แต่ชีบอกชีจะมาเอง”
สารินรู้อยู่แล้วว่าบุคคลที่ตกเป็นหัวข้อการสนทนาคือใคร นอกจากแก้วชาเขียวที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ เจ้าของร้าน ก็ยังถูกตอกย้ำด้วย ‘ไอ้เด็กหน้าเต้าหู้’ แต่เขาก็เลือกที่จะฟังเงียบๆ เท่านั้น
ถ้ายายหมวยผีมาได้ยิน หัวจะลุกเป็นไฟหรือเปล่า
แต่พิลลาก็หน้าเต้าหู้ยี้จริงๆ
“เดี๋ยวหนูเอาไปให้ก็ได้ กลัวละลาย เดี๋ยวไม่อร่อย”
อรอนงค์พูดอะไรกับเขาสักอย่าง มันลอยเข้าหู แต่ไม่ทันได้จับใจฟัง เขาเพียงหยัดยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วก้าวเดินไปที่คนทั้งสอง
“ชาเขียวนี่ของพุดจีบหรือเปล่า”
สองสาวที่ยังคิดไม่ตกว่าจะไปเองหรือรอลูกค้ามารับ ก็หันไปตามเสียงของคนมาใหม่
ปาริฉัตรว่า “ของเด็กนั่นแหละ เห็นว่าจะ-” หล่อนงับปาก เอียงคอมอง “ทำไมพี่ถึงรู้”
“กี่บาท”
เจ้าของร้านยังนิ่งงัน ไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์
“มันแก้วละกี่บาทล่ะ พี่จะได้รีบไป เดี๋ยวคุณนายเขารอนานแล้วจะกินหัวพี่อีก”
เมื่อเรียกสติกลับมาได้ ปาริฉัตรก็เอ่ยบอกถึงราคา รับเงิน ทอนเงิน และมองดูรถของสารินแล่นไปทางร้านของพิลลา ก่อนจะเคลื่อนสายตามาหาลูกจ้างของตน แล้วเลยไปที่สองสาว
หล่อนว่า “พี่เสือใหญ่กับพุดจีบนี่ยังไง”
ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากปากใคร พร้อมกับที่สายตาของคนอื่นๆ จะมองไปที่อรอนงค์เป็นจุดเดียว
“ฝ้าย โอเคปะ”
ลูกสาวร้านซักอบรีดจนคำพูดจะตอบเพื่อนสนิท เธอเพียงแค่มองไปยังทางที่สารินเคลื่อนตัวไปเท่านั้น พร้อมกับที่ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ถูกเล่นซ้ำอย่างกับใครตั้งโปรแกรมไว้
“แก้ม” กีรติครางรับในลำคอ นัยน์ตาหม่นแสงเคลื่อนมาสบกับเจ้าของชื่อ เอ่ยถามปากคอสั่น “เมื่อ...เมื่อกี้ พี่เสือใหญ่เขาเรียกพุดจีบว่าอะไรนะ”
“...”
“แก้ม”
“คุณนาย”
ที่ผ่านมาสารินไม่ได้คบหากับใคร เขาครองโสดมาจนอายุสามสิบ เหตุเพราะไม่อยากผูกมัด ชีวิตของเขาจึงมีแค่การเล่นสนุกเกอร์ ตั้งวงก๊งเหล้าเบียร์กับแก๊งเพื่อน เลี้ยงนกกรงหัวจุกเพื่อนำไปประกวดชิงเงินรางวัล มีแค่นั้น
อรอนงค์จึงถือเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับสาริน แม้จะเป็นเพียงคนที่ทำหน้าที่ทำความสะอาดบ้านให้เขาก็ตาม แต่ก็สนิทกว่าผู้หญิงหน้าไหนที่จ้องจะงาบเขา
เธอพยายามใกล้ชิดชายอันเป็นที่รักเพื่อรอวันที่สารินจะลงใจกับ ‘ใคร’ สักคน
‘ใคร’ ที่ควรเป็นเธอ เธอที่แอบรักเขามามากกว่าสี่ปี
แล้วเหตุใด ‘ใคร’ ต้องเป็นมัน เป็นพิลลา...คนที่เธอไม่เคยชอบหน้ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร!
รออยู่ครู่หนึ่งสารินก็กลับมาพร้อมชาเขียวปั่นวิปปิ้งครีมของเธอ
ของเธอนะ เขาดูดทำไม...?
“ใครอนุญาตให้กินมิทราบ”
“ชิมๆ ไม่มียาพิษ กินได้” ก่อนส่งมันมาให้ พร้อมลากเก้าอี้ที่เคยอยู่ข้างๆ เจ้าของร้านมาไว้ที่เดิม ทิ้งตัวนั่งลงคนหน้าบูด พูดลอยๆ “ตอนแรกมันอยู่ตรงนี้”
“เก้าอี้มันมีขา มันก็เดินไปเองได้”
โมโห โมโหไอ้คนที่ชอบล้ำเส้นความเป็นส่วนตัว ตอนเขาเดินออกไป ถึงได้ใช้ฝ่าเท้าระบายอารมณ์ไปกับเก้าอี้ แต่พอถีบไปแล้วเพิ่งนึกได้ว่ามันเป็นทรัพย์สินของตัวเอง พังไป เธอก็ต้องซื้อใหม่ จึงไม่ถีบซ้ำสอง
สารินไม่ต่อความยาวสาวความยืด เลือกจะเปิดกล่องข้าวแล้วตักเข้าปากอย่างสบายอารมณ์ ต่างกับอาหมวยที่ทำหน้ายุ่งอยู่ตลอดทั้งๆ ที่กำลังดูดน้ำหวานเข้าปากแท้ๆ
ว่ากันว่าน้ำตาลช่วยให้อารมณ์ดี แต่คงช่วยอาหมวยผีรายนี้ไม่ได้
ระหว่างทานมื้อเที่ยง ไร้บทสนทนาระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว ทั้งสองเพียงแค่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารเงียบๆ เท่านั้น และเพราะเขาไม่ได้กวนประสาทอะไร หัวคิ้วจึงคลายปมโดยอัตโนมัติ มีบ้างที่รู้รำคาญลูกตาที่ต้องเห็นสาริน แต่มันก็ดีที่แค่เห็น ไม่ได้ยินเสียงพูดให้ระแคะระคายหู
หลังทานเสร็จ สารินเป็นฝ่ายอาสาเก็บกล่องข้าวให้
พิลลาแค่นหัวเราะในลำคอ “ช่วงโปร”
คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน “อะไร”
“พวกผู้ชายก็งี้ แรกๆ ทำให้หมด พอหลวมตัวไปเท่านั้น แทบจะเป็นขี้ข้ามันอยู่ละ”
เธอจะไม่แต่งงาน จะไม่มีสามี คนอย่างพิลลาไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น เธอไม่เคยวาดฝันว่าตนจะเป็นแม่บ้าน มีหน้าที่เลี้ยงลูก ตื่นเช้านอนดึกกว่าใครในบ้านเพื่อมาทำตัวเป็นศรีภรรยาที่ดี เธอไม่ชอบทำอาหาร ไม่ชอบล้างจาน เวลาทานข้าวกล่องถึงทานในกล่อง ไม่เทใส่จานให้ยุ่งยากมากความ
พิลลาไม่อยากสูญเสียตัวตนเพื่อผู้ชายที่ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะทิ้งกันหรือไม่
ผู้ชายมันเลวทุกตัว ยิ่งไอ้ตัวข้างๆ ยิ่งแล้วใหญ่
ความฝันของเธอคือเป็นคนรวย ถึงได้ลงทุนทุกวันที่หนึ่งและสิบหกของทุกๆ เดือน แม้แต่ผัวรวยก็ไม่เคยคิดจะมีกับเขา เพราะคนอื่นที่จะมาอยู่ในชีวิตล้วนเป็นภาระไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อยู่คนเดียวกับเงินทองเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“พี่ทำให้ได้”
สาวเจ้าหายใจพรืด “แรกๆ ตอนยังไม่ได้ พอได้ก็ทิ้ง”
ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย ไว้ใจไม่ได้สักคน
“จีบไม่ใช่พวกหัวโบราณก็จริง พันธะทางกายมันก็แค่กาย เข้าใจได้ แต่เรื่องจะให้นอนกับใครไปทั่วน่ะ จีบก็ไม่ทำ” สายตาที่มองมายังสารินไร้แววล้อเล่น “โดยเฉพาะกับพี่”
“ทำไม”
เธอไหวไหล่ “เจ้าชู้ รักสนุก ไม่ชอบคนแบบนี้”
“ไม่เจ้าชู้” เขาค้านหัวชนฝา ด่าอะไรเขาก็ได้ แต่อย่าใส่ร้ายว่าเป็นคนเจ้าชู้ประตูดิน สารินไม่เข้าข่ายคำนั้นเลยสักนิด “สาบาน ไม่เจ้าชู้ ไม่เคยชอบหรือจีบใครไปทั่ว”
เธอแค่ปรายตามอง
“ที่จริงนอกจากจีบ พี่ก็ไม่เคยจีบใครนะ”
“...”
“เพราะงั้นให้พี่จีบเถอะ แล้วจีบจะชอบแค่พี่จนไปชอบใครไม่ได้อีกเลย”
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สารินกลับไปแล้ว หลังจากนั่งๆ นอนๆ อยู่หลังโต๊ะทำงานของเธออยู่หลายชั่วโมง ที่จริงเขายังไม่คิดจะกลับ ถ้าไม่ติดที่เธอไล่ตะเพิดเพราะลัลนากำลังจะมาที่ร้าน เพื่อนสนิทเดินมาทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ “คืนนี้ออกไหม” “ถ้าหล่อนกับเมลฟี่ไป ฉันก็ไป” “เป็นไร” พิลลาหันไปมุ่นคิ้วใส่เพื่อน “เห็นทำหน้าเซ็งๆ” เป็นอย่างที่ลัลนาว่า เธอเซ็งมากๆ ที่คนอย่างสารินเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิต ยิ่งเขาพยายามล้ำเส้นที่ตกลงกันไว้ ไม่ยอมให้มันหยุดที่การจูบ แต่คิดจะจีบ เธอก็เกิดอาการอึดอัดคับแน่นในใจ ครั้นจะให้จ่ายเงินก็มีไม่พอ กว่าจะได้แต่ละบาทนั้นไม่ใช่ง่ายๆ ยิ่งต้องจำนำข้าวของสำคัญหรือเลือกหยิบยืมเพื่อนสนิท เธอทำไม่ได้ เนื้อนมไข่คบกันได้นานเพราะไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครเคยยืมเงินกันให้ต้องผิดใจ ไม่ร่วมธุรกิจกันในหมู่เพื่อน ทานข้าวก็หารเท่า ดื่มเหล้าไม่เคยเอาเปรียบ มาครั้งนี้เธอก็ไม่มีความกล้ามากพอจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แม้จะรู้ว่าเพื่อนต้องช่วย แต่มันจะเป็นปมในใจว่าครั้งหนึ่งเธอเคยหยิบยืมเงินคนสนิท แค่ยอมให้ไอ้หน้าวัวจูบไม่กี่ครั้ง เปลืองตัวแค่นี้ สบาย ก็ถ้ามันทำแค่นั้น เธอค
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ Pudjeeb Philla: พี่ลืมของไว้ที่ร้าน เธอกำลังจะถ่ายรูปกระเป๋าสตางค์ส่งไปให้ หลังเปิดดูแล้วพบสารพัดบัตร รวมถึงบัตรประชาชนที่มีหน้าเขาแปะหราไว้ พร้อมกับชื่อ ‘สาริน อัศวกมล’ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลัลนารีบต่อสายหามัทรีอย่างเร่งด่วน ทว่าข้อความของเขาก็ถูกส่งเข้ามาเสียก่อน Sarin Asawakamol: หัวใจ?? จากตั้งใจจะถ่ายรูป เธอก็เปลี่ยนมาโต้ตอบกับเขาแทน เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากหยุมหัวคน Pudjeeb Philla: ใช่จ้า กำลังจะเอาไปต้มให้หมากิน Sarin Asawakamol: หมาในปากหรือเปล่าครับ Sarin Asawakamol: เลี้ยงดีจังเลยนะ ถึงว่า ขยันทำงานเหลือเกิน Pudjeeb Philla: อ๋อค่ะ คนที่จีบเพิ่งยกพวกไปรุมกระทืบก็พูดแบบนี้แหละ Sarin Asawakamol: อยากโดนจังSarin Asawakamol: โคตรอยาก เธอด่าเขาในใจ แต่ไม่พิมพ์ด่าให้เรื่องยืดยาว เลือกที่จะตัดบทด้วยการส่งรูปกระเป๋าสตางค์ไปให้ Pudjeeb Philla: จะให้เอาไปให้หรือจะมาเอาเอง Pudjeeb Philla: ร้านปิดห้าโมง ถ้ามาก็อย่าเกินนี้ แต่ถ้ารอจีบเอาไปให้ก็ค่ำๆ Pudjeeb Philla: แต่ของพี่นั่นแหละ มีบัตรประชาชน ส่วนเงินไม่ได้นับ แต่ไม่ได้ยุ่งอะไร ถ้าหายก็ไม่เกี่ยวกับจีบ
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ บ้านทั้งหลังมืดสนิท พิลลาจึงเปิดไฟจนพอมีแสงสว่าง คงจะเป็นอย่างที่เด็กวัยรุ่นหน้าบ้านบอก สารินอยู่หลังบ้าน และเธอก็ไม่ได้พกมือถือติดตัวมาด้วย หากต้องเดินออกไปเรียกอย่างไรก็คงต้องเจอกับคนที่อยู่ด้านหลัง จึงหวังว่าความเปลี่ยนไปในบ้านจะเรียกสายตาของเขาได้ ไฟในบ้านเปิดเอง เจ้าของบ้านจะไม่สงสัยแล้วเข้ามาดูหน่อยหรือ แต่ผ่านมาห้านาทีเห็นจะได้ ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาด้านใน และวันนี้เธอก็ไม่ได้ว่างมารอเขานานๆ ด้วย เพราะอยากกลับให้ถึงบ้านก่อนที่สองสาวจะมาถึง ไม่อย่างนั้นต้องปั้นน้ำเป็นตัวอีกเช่นเคย พิลลาเดินไปที่ประตู แนบหูไปกับบานไม้เพื่อฟังความเคลื่อนไหวรอบนอก ที่ก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกวัยรุ่นที่มารวมตัวกัน บางครั้งก็มีเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูดังเข้าโสตประสาท ร่างระหงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ยื่นมือไปแตะที่ลูกบิดแล้วออกแรงหมุนช้าๆ จนมันถูกเปิดในที่สุด ไม่รู้ว่ากี่สายตากันแน่ที่มองมา แต่เธอตวัดตาไปมองเพียงสารินคนเดียว อย่างน้อยการมองแค่เขาก็ลดความอายลงไปได้มากโข “มีธุระจะคุยด้วยค่ะ” ว่าจบก็ปิดประตูลงทันที ก่อนสับเท้าเดินไปนั่งที่โซฟาทั้งใบหน้าบึ้งตึง เธอโกรธตัวเองที่เลือก
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ช่วยไอ้เสือกำพร้าแม่ตัวนี้หน่อยได้ไหมครับ” ร่างระหงบนตักแกร่งอาศัยจังหวะนี้ในการพุ่งตัวไปหาชายหนุ่ม แตะริมฝีปากไปที่ปากหยักติดคล้ำ แล้วจึงผละออกมาก่อนที่สารินจะทันตั้งตัว นอกจากริมฝีปาก ร่างแน่งน้อยก็ผละออกจากตักแกร่งในเวลาถัดมา “สอง” เธอหอบหายใจราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน “สองครั้งแล้ว เหลืออีกแค่แปดครั้ง” นัยน์ตาคมจ้องมองไปยังผู้พูด ยกมุมปากขึ้นจนกลายเป็นรอยยิ้ม เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้น “อ้อ เมื่อกี้เรียกจูบ?” “ก็ใช่ ของวันนี้ถือว่าเรียบร้อยแล้ว” “ไม่เอาน่า ใครมันจูบกันแบบนี้ เด็กน้อยมาก โคตรรับไม่ได้” “รับไม่ได้ก็เรื่องของพี่ จีบจะกลับบ้านแล้ว” “พุดจีบ” เสียงเข้มๆ เอ่ยเรียกชื่อของเธอ สีหน้าและแววตาไร้แววล้อเล่น ทำให้เธอคาดเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ พิลลาจึงค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่าง “มานี่” “ไม่ จะกลับบ้าน” “มา” สารินยันกายลุกขึ้นยืน พร้อมกับที่ก้าวเท้ามาทางนี้ “แบบนี้มันไม่เรียกว่าจูบ อย่ามาโกง” พิลลาไม่อยู่ฟัง รีบสับเท้าวิ่งออกจากบ้าน ก่อนตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์แล้วบิดสุดแรงเกิด เธอไม่เคยหมดท่าขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแพ้ย่อยยับจนม
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “อีนม” มือที่ตั้งท่าจะคว้าผ้าขนหนูเป็นอันชะงัก ก่อนหันกลับมาเลิกคิ้วใส่มัทรี “หล่อนได้กับพี่เสือใหญ่ยัง” ลมหายใจของพิลลาสะดุดกึก นัยน์ตาเบิกโต ภาพความทรงจำที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผุดมาอย่างกับมีใครไปตั้งโปรแกรมไว้ สัมผัสนั้นคล้ายว่ายังติดอยู่ที่มือ ทำให้พิลลาแข็งทื่อไปทั้งตัว กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นนาที “ยัง ไม่ใช่ ใช่นั่นแหละ แต่หมายถึงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน จะได้กับเขาได้ไง” สองเสียงประสานกัน “เหรอ / เหรอ” “ใช่ ฉันเคยโกหกอะไรพวกหล่อนหรือ-” “เยอะแยะ” “แต่เรื่องนี้พูดจริง” พิลลายืนยันหนักแน่น หลังได้ผ้าขนหนูมาไว้ในมือ เธอก็โพล่งขึ้นเพื่อตัดบท “ไปอาบน้ำละ” บรรยากาศในร้าน PEEK A BEER เป็นอย่างที่เคยเป็น มีเสียงเพลงจากนักร้องที่เคล้าไปกับเบียร์เย็นๆ เหล้าที่แสนบาดคอ และกับแกล้มที่ขาดไม่ได้ ช่วงหัวค่ำมักเป็นเช่นนี้ แต่พอดึกเข้าหน่อย ผีเสื้อราตรีก็ออกโรง และพวกเธอสามคนไม่เคยแผ่ว “ใครพอจะทราบข่าวบ้างว่าช่วงนี้ยายฟายมันตีกับใคร” ประโยคนั้นเรียกสายตาของสองสาวต่างขั้วได้เป็นอย่างดี ‘ยายฟาย’ ของมัทรีคืออรอนงค์ เพราะเป็นคู่ปรับกันมานาน เห็นว่าชื่อฝ้าย เลยเปล
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ ก็นานแล้วที่พิลลาไม่ได้เลือดขึ้นหน้าถึงเพียงนี้ อย่างน้อยก็สามวันที่แล้ว จนกระทั่ง... “แปดพัน!?” “ครับ แปดพัน” ผู้เป็นพี่พยายามสูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอด แล้วค่อยๆ ผ่อนออกเพื่อทำสมาธิ หายใจเข้าพุทธ หายใจออก... “อยากตายเหรอ” เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่พลั้งมือฉีกร่างของ ‘น้องชายแท้ๆ’ ออกเป็นชิ้นๆ หลังจากเด็กหนุ่มวัยสิบหกปีนำข่าวร้ายมาแจ้งให้ทราบ หากไม่มีโต๊ะคอมพิวเตอร์ขวางอยู่ หญิงสาววัยเบญจเพสคงได้กระชากคอเสื้อไอ้ลูกหลงของพ่อและแม่เพื่อระบายอารมณ์ไปแล้ว พิรภพเพียงแค่ก้มหน้าก้มตาเพื่อน้อมรับความผิด “เมื่อไรจะเลิกสร้างเรื่องให้ต้องเสียเงินเสียทอง ฮะ คิดว่าพ่อมึงเป็นสุลต่านหรือไง” ใบหน้าละอ่อนเงยขึ้นมาสบตากับพี่สาวหน้าเต้าหู้ยี้ “พ่อตายแล้ว อย่าพาดพิงพ่อเลยครับ” นิ้วถูกชี้ไปที่เด็กหนุ่มในชุดนักเรียน “ระวังตัวไว้ให้ดี เดี๋ยวจะได้ไปอยู่กับพ่อ” “...ขอโทษครับ” เจ้าของร้านถ่ายเอกสารใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีในการสลัดโทสะทิ้ง เอ่ยถามเข้าประเด็น “เรื่องโทรศัพท์ จัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” “ครับ ซื้อเครื่องใหม่ให้เขาแล้ว” “ซ่อมไม่ได้?” “โธ่พี่ มันจมน้ำ” “ทำ
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ พิลลาจำเป็นต้องถอยทัพ เรไรมีความสำคัญกับครอบครัวมากก็จริง แต่บัญชีเธอร่อยหรอพอประมาณเมื่อจ่ายสารพัดค่าใช้จ่ายไป ไหนวันที่ยี่สิบยังต้องจ่ายค่าเช่าร้านถ่ายเอกสารอีก ที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีปัญหาผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ว่าอะไรก็จ่ายตรงวันตลอด เดือนนี้ก็ตั้งใจจะจ่ายให้ตรงวัน และต่อให้ยืมเงินในส่วนนี้มาไถ่ตัวเรไร มันก็ไม่พอ ในบัญชีเธอมีสองหมื่นต้นๆ หรือถึงมีพอสี่หมื่นแปดพัน เธอก็ทำใจจ่ายไม่ได้อยู่ดี สารินโกงกันชัดๆ เขาว่า ขายไปสามหมื่น ซื้อคืนสี่หมื่น แต่เธอต้องจ่ายส่วนที่พิรภพนำมาจำนำด้วย แปลว่านอกจากเงินทุนแปดพันของเขาจะอยู่ ยังได้กำไรอีกสามหมื่น ส่วนคนที่ซื้อไปก็รับเงินหมื่นไปนอนกก ในขณะที่เธอเข้าเนื้อเกือบห้าหมื่น ไอ้หน้าขนนี่แม่งไม่อยากตายดีจริงๆ สินะ ถึงได้ริอ่านโกงคนอย่างพิลลา “พี่จีบ พี่เสือเขาขายไปแล้วจริงๆ เหรอ” เธอปรายตามองน้องชายที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือ “อือ เห็นมันว่างั้น เลยแค่วันเดียวมันยังทำได้ลงคอ เลวจริงๆ” ด่าคนหน้าเลือดไม่พอ ยังพาดพิงน้องชายต่ออีกหน่อย “ก็ดูไว้นะว่าพี่ชายที่รักนักรักหนามันมีไรดีให้นับถือ จำบ้างว่ามันทำไรกับมึง พี่ที่ไหนกล้าเอาของสำคัญของน้อ
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ว่าไงนะ!?” “ครับ เขาบอกว่าอย่างพี่จีบจะไปช่วยอะไรผมได้” เธอมันฆ่าได้หยามไม่ได้เสียด้วย “พี่เสือบอกว่ายังไงก็ต้องจ่ายสดทีเดียว ช้ากว่านี้คนที่ซื้อไปก็คงเอาไปขายต่อ” ผู้เป็นยายได้ยินเช่นนั้นก็ใจไม่ดี “จีบ เอาทองยายไปจำนำเถอะลูก” ปฏิกิริยาตอบรับของพิลลายังคงไม่ต่างจากครั้งก่อน เธอยันปลายเท้าไปที่พื้นแล้วหยัดยืนเต็มความสูง แบมือเพื่อขอกุญแจรถมอเตอร์ไซค์จากน้องชาย ที่อีกฝ่ายก็ส่งมาให้แต่โดยดี กัลยาเอ่ยถามลูกสาวคนโต “พุดจีบ นั่นลูกจะไปไหน” “ไปถลกหนังเสือ” สิ้นประโยค ร่างแน่งน้อยก็ออกจากบ้านในเวลามืดค่ำ เพื่อที่จะไปคุยกับคนที่กล้าหยามเกียรติเธอให้รู้เรื่อง แล้วเขาจะได้รู้ว่าคนอย่างเธอทำอะไรได้ ไอ้ที่เห็นว่าหนีกลับบ้านนั่นเพราะกลับมาตั้งหลักเฉยๆ ถอยหลังหนึ่งก้าว เวลากระโดดถีบจะได้มีแรงเยอะๆ ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเธอก็พาตัวเองมาถึงที่หมาย ไฟถูกเปิดจนสว่างโร่ หน้าบ้านมีรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายนับสิบ ทั้งยังมีวัยรุ่นจับกลุ่มคุยกันอยู่ด้านหน้าอีกด้วย หนึ่งในกลุ่มจำได้ว่าเมื่อเย็นสาวหน้าหมวยมาที่นี่ไปครั้งหนึ่งแล้ว เขาเอิ้นบอกอย่างหวังดี “พี่เสืออยู่ที่โต๊ะครับ” พิลลา
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “อีนม” มือที่ตั้งท่าจะคว้าผ้าขนหนูเป็นอันชะงัก ก่อนหันกลับมาเลิกคิ้วใส่มัทรี “หล่อนได้กับพี่เสือใหญ่ยัง” ลมหายใจของพิลลาสะดุดกึก นัยน์ตาเบิกโต ภาพความทรงจำที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผุดมาอย่างกับมีใครไปตั้งโปรแกรมไว้ สัมผัสนั้นคล้ายว่ายังติดอยู่ที่มือ ทำให้พิลลาแข็งทื่อไปทั้งตัว กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นนาที “ยัง ไม่ใช่ ใช่นั่นแหละ แต่หมายถึงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน จะได้กับเขาได้ไง” สองเสียงประสานกัน “เหรอ / เหรอ” “ใช่ ฉันเคยโกหกอะไรพวกหล่อนหรือ-” “เยอะแยะ” “แต่เรื่องนี้พูดจริง” พิลลายืนยันหนักแน่น หลังได้ผ้าขนหนูมาไว้ในมือ เธอก็โพล่งขึ้นเพื่อตัดบท “ไปอาบน้ำละ” บรรยากาศในร้าน PEEK A BEER เป็นอย่างที่เคยเป็น มีเสียงเพลงจากนักร้องที่เคล้าไปกับเบียร์เย็นๆ เหล้าที่แสนบาดคอ และกับแกล้มที่ขาดไม่ได้ ช่วงหัวค่ำมักเป็นเช่นนี้ แต่พอดึกเข้าหน่อย ผีเสื้อราตรีก็ออกโรง และพวกเธอสามคนไม่เคยแผ่ว “ใครพอจะทราบข่าวบ้างว่าช่วงนี้ยายฟายมันตีกับใคร” ประโยคนั้นเรียกสายตาของสองสาวต่างขั้วได้เป็นอย่างดี ‘ยายฟาย’ ของมัทรีคืออรอนงค์ เพราะเป็นคู่ปรับกันมานาน เห็นว่าชื่อฝ้าย เลยเปล
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ช่วยไอ้เสือกำพร้าแม่ตัวนี้หน่อยได้ไหมครับ” ร่างระหงบนตักแกร่งอาศัยจังหวะนี้ในการพุ่งตัวไปหาชายหนุ่ม แตะริมฝีปากไปที่ปากหยักติดคล้ำ แล้วจึงผละออกมาก่อนที่สารินจะทันตั้งตัว นอกจากริมฝีปาก ร่างแน่งน้อยก็ผละออกจากตักแกร่งในเวลาถัดมา “สอง” เธอหอบหายใจราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน “สองครั้งแล้ว เหลืออีกแค่แปดครั้ง” นัยน์ตาคมจ้องมองไปยังผู้พูด ยกมุมปากขึ้นจนกลายเป็นรอยยิ้ม เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้น “อ้อ เมื่อกี้เรียกจูบ?” “ก็ใช่ ของวันนี้ถือว่าเรียบร้อยแล้ว” “ไม่เอาน่า ใครมันจูบกันแบบนี้ เด็กน้อยมาก โคตรรับไม่ได้” “รับไม่ได้ก็เรื่องของพี่ จีบจะกลับบ้านแล้ว” “พุดจีบ” เสียงเข้มๆ เอ่ยเรียกชื่อของเธอ สีหน้าและแววตาไร้แววล้อเล่น ทำให้เธอคาดเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ พิลลาจึงค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่าง “มานี่” “ไม่ จะกลับบ้าน” “มา” สารินยันกายลุกขึ้นยืน พร้อมกับที่ก้าวเท้ามาทางนี้ “แบบนี้มันไม่เรียกว่าจูบ อย่ามาโกง” พิลลาไม่อยู่ฟัง รีบสับเท้าวิ่งออกจากบ้าน ก่อนตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์แล้วบิดสุดแรงเกิด เธอไม่เคยหมดท่าขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแพ้ย่อยยับจนม
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ บ้านทั้งหลังมืดสนิท พิลลาจึงเปิดไฟจนพอมีแสงสว่าง คงจะเป็นอย่างที่เด็กวัยรุ่นหน้าบ้านบอก สารินอยู่หลังบ้าน และเธอก็ไม่ได้พกมือถือติดตัวมาด้วย หากต้องเดินออกไปเรียกอย่างไรก็คงต้องเจอกับคนที่อยู่ด้านหลัง จึงหวังว่าความเปลี่ยนไปในบ้านจะเรียกสายตาของเขาได้ ไฟในบ้านเปิดเอง เจ้าของบ้านจะไม่สงสัยแล้วเข้ามาดูหน่อยหรือ แต่ผ่านมาห้านาทีเห็นจะได้ ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาด้านใน และวันนี้เธอก็ไม่ได้ว่างมารอเขานานๆ ด้วย เพราะอยากกลับให้ถึงบ้านก่อนที่สองสาวจะมาถึง ไม่อย่างนั้นต้องปั้นน้ำเป็นตัวอีกเช่นเคย พิลลาเดินไปที่ประตู แนบหูไปกับบานไม้เพื่อฟังความเคลื่อนไหวรอบนอก ที่ก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกวัยรุ่นที่มารวมตัวกัน บางครั้งก็มีเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูดังเข้าโสตประสาท ร่างระหงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ยื่นมือไปแตะที่ลูกบิดแล้วออกแรงหมุนช้าๆ จนมันถูกเปิดในที่สุด ไม่รู้ว่ากี่สายตากันแน่ที่มองมา แต่เธอตวัดตาไปมองเพียงสารินคนเดียว อย่างน้อยการมองแค่เขาก็ลดความอายลงไปได้มากโข “มีธุระจะคุยด้วยค่ะ” ว่าจบก็ปิดประตูลงทันที ก่อนสับเท้าเดินไปนั่งที่โซฟาทั้งใบหน้าบึ้งตึง เธอโกรธตัวเองที่เลือก
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ Pudjeeb Philla: พี่ลืมของไว้ที่ร้าน เธอกำลังจะถ่ายรูปกระเป๋าสตางค์ส่งไปให้ หลังเปิดดูแล้วพบสารพัดบัตร รวมถึงบัตรประชาชนที่มีหน้าเขาแปะหราไว้ พร้อมกับชื่อ ‘สาริน อัศวกมล’ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลัลนารีบต่อสายหามัทรีอย่างเร่งด่วน ทว่าข้อความของเขาก็ถูกส่งเข้ามาเสียก่อน Sarin Asawakamol: หัวใจ?? จากตั้งใจจะถ่ายรูป เธอก็เปลี่ยนมาโต้ตอบกับเขาแทน เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากหยุมหัวคน Pudjeeb Philla: ใช่จ้า กำลังจะเอาไปต้มให้หมากิน Sarin Asawakamol: หมาในปากหรือเปล่าครับ Sarin Asawakamol: เลี้ยงดีจังเลยนะ ถึงว่า ขยันทำงานเหลือเกิน Pudjeeb Philla: อ๋อค่ะ คนที่จีบเพิ่งยกพวกไปรุมกระทืบก็พูดแบบนี้แหละ Sarin Asawakamol: อยากโดนจังSarin Asawakamol: โคตรอยาก เธอด่าเขาในใจ แต่ไม่พิมพ์ด่าให้เรื่องยืดยาว เลือกที่จะตัดบทด้วยการส่งรูปกระเป๋าสตางค์ไปให้ Pudjeeb Philla: จะให้เอาไปให้หรือจะมาเอาเอง Pudjeeb Philla: ร้านปิดห้าโมง ถ้ามาก็อย่าเกินนี้ แต่ถ้ารอจีบเอาไปให้ก็ค่ำๆ Pudjeeb Philla: แต่ของพี่นั่นแหละ มีบัตรประชาชน ส่วนเงินไม่ได้นับ แต่ไม่ได้ยุ่งอะไร ถ้าหายก็ไม่เกี่ยวกับจีบ
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สารินกลับไปแล้ว หลังจากนั่งๆ นอนๆ อยู่หลังโต๊ะทำงานของเธออยู่หลายชั่วโมง ที่จริงเขายังไม่คิดจะกลับ ถ้าไม่ติดที่เธอไล่ตะเพิดเพราะลัลนากำลังจะมาที่ร้าน เพื่อนสนิทเดินมาทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ “คืนนี้ออกไหม” “ถ้าหล่อนกับเมลฟี่ไป ฉันก็ไป” “เป็นไร” พิลลาหันไปมุ่นคิ้วใส่เพื่อน “เห็นทำหน้าเซ็งๆ” เป็นอย่างที่ลัลนาว่า เธอเซ็งมากๆ ที่คนอย่างสารินเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิต ยิ่งเขาพยายามล้ำเส้นที่ตกลงกันไว้ ไม่ยอมให้มันหยุดที่การจูบ แต่คิดจะจีบ เธอก็เกิดอาการอึดอัดคับแน่นในใจ ครั้นจะให้จ่ายเงินก็มีไม่พอ กว่าจะได้แต่ละบาทนั้นไม่ใช่ง่ายๆ ยิ่งต้องจำนำข้าวของสำคัญหรือเลือกหยิบยืมเพื่อนสนิท เธอทำไม่ได้ เนื้อนมไข่คบกันได้นานเพราะไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครเคยยืมเงินกันให้ต้องผิดใจ ไม่ร่วมธุรกิจกันในหมู่เพื่อน ทานข้าวก็หารเท่า ดื่มเหล้าไม่เคยเอาเปรียบ มาครั้งนี้เธอก็ไม่มีความกล้ามากพอจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แม้จะรู้ว่าเพื่อนต้องช่วย แต่มันจะเป็นปมในใจว่าครั้งหนึ่งเธอเคยหยิบยืมเงินคนสนิท แค่ยอมให้ไอ้หน้าวัวจูบไม่กี่ครั้ง เปลืองตัวแค่นี้ สบาย ก็ถ้ามันทำแค่นั้น เธอค
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ ‘ป๋า’ เดินออกไปจากร้าน ควบมอเตอร์ไซค์ไปทางร้านน้ำ พิลลามองจนลับสายตาก่อนส่ายหัวน้อยๆ ป๋าอะไรกัน คนที่ขายนกทอดตลาดทั้งๆ ที่เพิ่งเลยกำหนดมาวันเดียวน่ะ หรือจะขอผ่อนก็แสนจะเรื่องมาก สารินมันเค็มยิ่งกว่าน้ำทะเลเสียอีก ช่วงเที่ยงๆ แบบนี้ ร้านน้ำของปาริฉัตรมีลูกค้าหนาตาทีเดียว หนึ่งในนั้นคืออรอนงค์ บ้านของอรอนงค์ประกอบกิจการซัก อบ รีด ตั้งแต่เขาย้ายมาดูแลตาที่นี่ ก็ได้บ้านนี้ในการจัดการส่วนของเสื้อผ้าอาภรณ์ ไม่ต้องลำบากซักตากเองให้เหนื่อย หลังจากตาถึงแก่กรรม เขาก็ไม่คิดจะย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ เพราะหลงรักกำแพงแสนเสียแล้ว นอกจากส่งเสื้อผ้าซักกับบ้านของอรอนงค์ สาวเจ้ายังอาสาเข้ามาดูแลความสะอาดของบ้านทุกสัปดาห์อีกด้วย เขามีหน้าที่จ่าย และก็ยินดีจ่าย เพราะเธอทำมันได้ดีไร้ที่ติ “ไปไงมาไงเนี่ยพี่เสือใหญ่” สารินระบายยิ้มให้แม่ค้าร้านน้ำ “มาซื้อน้ำน่ะ” “แหม อยากลัดคิวให้สุดหล่อจริงๆ แต่เดี๋ยวโดนคนอื่นเขม่นเอา เพราะงั้นนั่งรอก่อนนะ” เขาเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดียวกับอรอนงค์และกีรติ ซึ่งเป็นสองสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี “มาซื้อน้ำเหรอพี่” ชายหนุ่มพยักหน้าเป็
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ขอปราบม้าพยศสักทีเหอะ จะควบให้ครางเป็นแต่ ‘พี่เสือใหญ่’ เลย” ทว่าสิ่งที่ออกจากปากของพิลลาคือ “ไอ้หน้าวัว อยากโดนกระทืบจริงๆ ใช่ไหม” การเรียกสารินว่าพี่ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงของพิลลา ที่ผ่านมาถึงจะไม่รู้สึกเคารพนับถือ เธอก็เรียกเขาว่า ‘พี่เสือใหญ่’ มาตลอด เพียงแต่วันนี้สถานการณ์มันต่างกันออกไป มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี! สารินทำเหมือนเธอเป็นพวกอ่อนปวกเปียกที่จะต้องยอมเขาไปเสียทุกอย่าง เขาทำเหมือนสามารถควบคุมเธอได้ ทั้งๆ ที่เรื่องระหว่างเธอและเขามันก็แค่จูบให้จบๆ ไปเท่านั้น อย่างวันนี้ที่เธอก็มาหาตามข้อตกลง ใช่ว่าจะเบี้ยวหรืออะไร และเธอก็ยอมให้เขาจูบไปแล้ว แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องมานอนให้เขาไซ้คออย่างตอนนี้ด้วย ชายหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ “หน้าวัว?” พิลลาเงียบ รวบรวมแรงทั้งหมดไปที่ฝ่ามือ ผลักอกสารินออกจนสุดแรง ซึ่งร่างกำยำก็เซถลาเล็กน้อย หญิงสาวอาศัยจังหวะนั้นในการถดตัวหนี ก่อนรีบเบี่ยงตัวลงจากเตียง ซึ่งเจ้าของห้องก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามแต่อย่างใด เพียงแค่มอง ปล่อยให้เธอยืนหอบหายใจอยู่ข้างๆ “พี่ทำผิดข้อตกลง” “หน้าวัวคืออะไร” “จีบแค่ยอมให้พี่จูบ พี่
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “หนูพุดจีบของพี่เสี้ยนมาก” พิลลาหน้าแดงก่ำด้วยโทสะ ยกมือไปผลักอกแกร่งจนร่างกำยำผละห่างจากกาย สาดสายตาเอาเรื่องใส่เจ้าของบ้านอย่างไม่คิดปิดบัง “เพราะจีบจะรีบกลับบ้านต่างหาก พี่นั่นแหละที่ลีลาจนจีบเสียเวลา ทั้งอาบน้ำนาน” เขาสวน “ผมก็รักสะอาดพอตัว” เธอไม่สนใจจะฟัง “แต่งตัวก็นาน” “สำอางนิดหนึ่ง” หนนี้คนโกรธหลุดหัวเราะ ก่อนจะรีบปั้นหน้าตึง พูดมาได้ไม่อายปากเลยหนอไอ้หน้าวัว เสื้อกล้ามคอย้วยเข้าคู่กับกางเกงบอลเก่าๆ อายุสามพันปี ผมเผ้าก็ไม่คิดจะหวี หน้านี่แค่ดูก็รู้ว่าไม่มีครีมบำรุงเจืออยู่เลยสักนิด คนอย่างเขาเอาความกล้าที่ไหนมาบอกว่าตัวเองเป็นหนุ่มสำอางกัน “ฝนหยุดแล้ว ถ้าเสร็จธุระจีบก็กลับบ้านได้” “ตามนั้น” เขานิ่ง เธอก็นิ่ง หญิงสาวทอดถอนลมหายใจทิ้ง “ก็ทำเร็วๆ จะได้กลับ” “ของแบบนี้มาเร่งกันมันก็พูดยาก” ลำพังตกเป็นรองก็น่าหงุดหงิดมากอยู่แล้ว ไหนยังเป็นรองคนพรรค์นี้อีก อย่างกับสวรรค์ต้องการทดสอบความอดทนกันอย่างนั้นแล ขีดความอดทนของเธอน่ะ อายุสั้นกว่าชีวิตลูกน้ำยุงลายเสียอีก “โอเค ไม่ต้องจูบ สี่หมื่นแปดใช่ปะ” จบคำของพิลลา สารินก็คว้าเข้าไปที่เอวคอดกิ่ว ออกแรงกร
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ เป็นไปไม่ได้หรอกที่สารินจะไม่หาเรื่องกวนประสาทเธอ อย่างน้อยๆ ก็ปล่อยให้เธอรอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ฝนยังไม่หยุด ซาบ้าง ตกหนักบ้าง สลับกันไป แต่ไม่ขาดเม็ดฝนสักที เพราะเธอรู้ว่าคนอย่างสารินมีความกล้าหาญมากพอที่จะทำตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ หากเธอหนีกลับก่อน เขาคงตามไปทวงสัญญาถึงบ้าน และเธอก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น จึงได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่บนโซฟา จะเปิดโทรทัศน์ก็เกรงว่าฟ้าจะผ่า โทรศัพท์ก็มีแต่ข้อความของสองสาวที่เหนื่อยจะอ่าน แต่ก็มีข้อความของน้องชายถูกส่งมาด้วย พิรภพเห็นว่าฝนตกแต่เธอยังไม่กลับเข้าบ้าน ซ้ำยังไม่ได้พาพิลลี่ไปด้วย จึงเกิดอาการเป็นห่วงพี่สาวขึ้นมาเสียอย่างนั้น ก็ถ้าไม่ใช่เพราะแกไปสร้างเรื่อง พี่อย่างฉันจะได้พบเจอกับวิบากกรรมแบบนี้ไหม พิลลาปดไปคำโตว่าติดฝนอยู่ที่ร้านของมัทรี และจะกลับตอนฝนหยุด คนทางบ้านจึงคลายกังวล สองขาถูกยกขึ้นมาบนโซฟา แผ่นหลังแนบไประนาบเดียวกัน ศีรษะถูกวางลงบนที่พักแขนเพื่อใช้เป็นหมอน เบนสายตาไปทางหลังบ้าน แต่ก็ไม่เห็นชายร่างสูงเดินเข้ามาอยู่ในครรลองสายตาสักที พอๆ กับที่เสียงน้ำจากฝักบัวยังไหลให้แขกอย่างเธอได้ยินไม่ขาดสาย ไอ้เสือกวนป