น้ำฟ้าต้องกลายเป็นเจ้าสาวโดยกะทันหัน เมื่อเธอโดนแฝดผู้น้องหลอกให้สลับตัวในวันแต่งงาน จนต้องกลายมาเป็นเมียของพ่อเลี้ยงบ้านไร่นามว่า ‘เหมันต์’ ชายผู้มีอายุมากกว่าเธอเป็นเท่าตัวแถมยังมีลูกติดอีกด้วย การแต่งงานอย่างจำยอมในครั้งนี้กลับทำให้หัวใจที่ไม่เคยมีผู้ใดจับจองของเธอ ต้องละลายไปกับรสสวาทของพ่อเลี้ยงบ้านไร่คนนี้จนเกินห้ามใจ
view moreบทนำ
‘น้ำฟ้า’ หรือ ‘ธารา ภัทรกุล’ สาวสวยผู้มองโลกในแง่ดีวัยยี่สิบปีเศษ กำลังนั่งแท็กซี่ตรงไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งด้วยความร้อนใจ ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ‘น้ำค้าง’ หรือ ‘ชลาลัย ภัทรกุล’ น้องสาวฝาแฝดได้โทรมาบอกว่ากำลังไม่สบายอย่างหนักอยากให้พี่สาวช่วยมาดูแล แต่เธองงเหลือเกินว่าทำไมต้องมาที่โรงแรมหรูนี้แทนที่จะเป็นโรงพยาบาล แถมยังบอกให้เข้าไปทางด้านหลังอีกด้วย
เมื่อมาถึงแล้วน้ำฟ้าก็รีบเดินเข้าไปด้านหลังโรงแรมด้วยความร้อนใจ ในระหว่างนั้นดวงตาคู่สวยก็สังเกตเห็นน้องสาวออกมายืนรออยู่ตรงประตู ท่าทีไม่ได้เหมือนคนป่วยเลยแม้แต่น้อย เจ้าหล่อนนึกฉงนในใจไหนบอกกับเธอว่าไม่สบายหนักมาก แล้วทำไมถึงได้มายืนตากลมอยู่อย่างนี้ เดินคิดไปด้วยในที่สุดเธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าน้องสาวแล้ว
“แกเป็นยังไงบ้างไหนบอกว่าไม่สบาย แล้วทำไมยังมายืนตากลมอยู่ตรงนี้ล่ะ” น้ำฟ้าเอื้อมมือเรียวไปสัมผัสเนื้อตัวน้องสาวเพื่อดูความผิดปกติ แต่ทว่าน้องสาวกลับทำทีท่าร้อนใจราวกับกลัวใครจะมาเห็นซะอย่างนั้น
“พี่รีบตามฉันมาก่อนเร็ว” น้ำค้างรีบจูงมือพี่สาวเข้าไปในโรงแรม เดินตรงไปยังห้องแต่งตัวแล้วล็อกประตูเอาไว้ หล่อนกลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า
จริง ๆ แล้ววันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอเอง แต่ทว่าน้ำค้างกลับคิดจะให้พี่สาวมาเป็นเจ้าสาวแทน จึงคิดอุบายให้มาหาถึงที่นี่ เหตุที่เป็นเช่นนั้นเธอได้หลอกเอาเงินจาก ‘พ่อเลี้ยงเหมันต์ วงศ์กิจไพศาล’ มาเป็นจำนวนมากพอ แถมยังมีค่าสินสอดที่เรียกไปอยู่มากโข พอที่จะไปตั้งตัวในต่างประเทศกับแฟนหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันได้อย่างสบาย หากเธอหนีไปเอาดื้อ ๆ กลัวว่าฝ่ายเจ้าบ่าวจะโกรธจนไปแจ้งความดำเนินคดีกับเธอก็เป็นได้ จึงคิดอุบายให้พี่สาวมาสวมรอยแทนตัวเธอ เพราะมันไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว
“สรุปแกไม่สบายเป็นอะไรกันแน่ ฉันก็เห็นว่าแกปกติดี” น้ำฟ้าจ้องจับผิดน้องสาวของตัวเอง
“พี่ฟังฉันก่อนนะ ฉันไม่สบายจริง ๆ ที่บอกให้พี่มาวันนี้ ก็เพราะ...อยากให้พี่สลับตัวเป็นเจ้าสาวแทนสักสองชั่วโมง ส่วนฉันจะไปหาหมอก่อน” น้ำค้างเอ่ยกับพี่สาวด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน เพราะกลัวว่าพี่สาวจะไม่เชื่อ
“อะไรนะ! นี่แกจะแต่งงานงั้นเหรอ ทำไมไม่เคยบอกฉันมาก่อนเลยน้ำค้าง แกก็รู้ว่าเรามีกันแค่สองคนพี่น้อง” น้ำฟ้าได้ยินก็หันขวับไปมองหน้าน้องสาวทันที เธอนึกไม่ถึงว่าน้ำค้างจะทำตัวอย่างนี้ จะแต่งงานทั้งทีกลับไม่เห็นหัวพี่สาวอย่างเธอเลย แถมยังมาให้ช่วยทำอะไรบ้า ๆ อย่างนี้อีกด้วย
“ฉันขอโทษจริง ๆ นะพี่แต่ฉันจำเป็นจริง ๆ อีกประมาณสิบนาทีช่างแต่งหน้าก็จะมาแล้ว พี่ช่วยเข้าพิธีแทนฉันหน่อยนะ ฉันไม่สบายจริง ๆ ต้องไปโรงพยาบาลตอนนี้เลย เจ้าบ่าวของฉันพ่อเลี้ยงเหมันต์ พี่จำชื่อนี้ไว้ให้ดีนะ แล้วถือจดหมายฉบับนี้เอาไว้ หากฉันกลับมาไม่ทันให้รีบเปิดมันอ่านทันที ฉันต้องไปแล้วฉันปวดท้องมากพี่” น้ำค้างแสร้งทำเป็นปวดท้องให้พี่สาวตนเองเห็นใจ
“แล้วใครจะพาแกไปล่ะเนี่ย” น้ำฟ้าเห็นอย่างนั้นก็เป็นห่วงน้องสาว และไม่อาจเอ่ยปฏิเสธคำขอร้องนั่นได้เลย
“เพื่อนฉันรออยู่หน้าโรงแรมแล้วอะพี่ ฉันต้องรีบไปก่อนนะแล้วอย่าลืมที่บอกล่ะ ถ้าหายดีแล้วฉันจะรีบกลับมา” เธอเอ่ยด้วยท่าทีร้อนใจ อยากออกไปจากห้องนี้เต็มทนแล้ว
“ให้ฉันเดินไปส่งแกไหมอะ”
“ไม่ต้อง! อยู่ที่นี่รอช่างแต่งหน้าเถอะ อ้อ..แล้วอย่าให้ใครรู้เด็ดขาดว่าเราเป็นฝาแฝดกันเข้าใจไหม” น้ำค้างเอ่ยย้ำพี่สาวอีกครั้งก่อนจะรีบวิ่งออกไป
น้ำฟ้านั่งอยู่ในห้องหรูอย่างงง ๆ น้องสาวกำลังเล่นตลกอะไรกับเธออยู่หรือเปล่านี่ เจ้าหล่อนรู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้
น้ำค้างรีบเดินไปหน้าโรงแรม เมื่อเห็นรถแฟนหนุ่มจอดรอก็ยิ้มออกมา แล้วเดินตรงไปเปิดประตูรถเข้าไปนั่งทันที
“เรียบร้อยแล้วค่ะที่รัก” เธอเอ่ยกับแฟนหนุ่มอย่างอารมณ์ดี ที่สามารถจัดการเรื่องทุกอย่างได้เรียบร้อย เธอนึกถึงแต่ความสุขของตัวเอง โดยไม่ได้นึกเห็นใจพี่สาวของตัวเองเลย
“คุณเก่งที่สุดเลย” ว่าแล้วธนากรก็โน้มตัวมาหอมแก้มคนรักทันที
“ออกรถเถอะค่ะเดี๋ยวจะตกเครื่องเอา” เธอหอมแก้มคนรักตอบแล้วก็ส่งยิ้มหวานให้
หลังจากหลอกเอาเงินก้อนโตจากพ่อเลี้ยงเหมันต์แล้ว น้ำค้างก็สัญญากับแฟนหนุ่มว่าจะไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ทว่าแฟนหนุ่มของเธอกลับเป็นผู้ชายที่ตัวเปล่าเล่าเปลือย ไม่ได้มีเงินทองติดตัวแม้แต่สักบาทเดียว หากจะเรียกว่าเป็นแมงดาก็ไม่เชิง เงินทุกบาทที่ใช้จ่ายล้วนก็มาจากเงินที่นำค้างหลอกมาจากพ่อเลี้ยงเหมันต์ทั้งนั้น ธนากรมีดีเพียงอย่างเดียวนั่นคือความหล่อที่สาว ๆ ต่างก็ตกหลุมพรางมาแล้วหลายต่อหลายคน
น้ำฟ้านั่งอยู่ในห้องได้ไม่นานช่างแต่งหน้าก็มาถึง เธอถูกช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองทั้งสามคนมารุมมาตุ้มช่วยกันรังสรรค์แต่งแต้มเครื่องสำอางบนใบหน้าขาวใสให้สวยมากยิ่งขึ้น แล้วช่วยกันสวมชุดเจ้าสาวสีขาวลายลูกไม้ให้กับเธอจนเสร็จสรรพ จากหญิงสาวธรรมดาถูกแปลงโฉมจนงดงามราวกับเจ้าหญิงในนิยาย ที่พร้อมรอเจ้าชายเข้ามาขอเต้นรำเลยทีเดียว
“ว้าว! สวยมากที่สุดเลยค่ะ” ช่างแต่งหน้ามองดูผลงานของตัวเอง แล้วเอ่ยชมพร้อมกับยิ้มอย่างภูมิใจ
“ขอบคุณค่ะพี่” น้ำฟ้าตอบกลับแล้วมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ มันเหมือนฝันมากเหลือเกิน ที่เธอได้ใส่ชุดแต่งงานราวกับเจ้าหญิงอย่างนี้ เสียอย่างเดียวที่งานวันนี้มันไม่ได้เป็นของเธอ กลับเป็นของน้องสาวฝาแฝดต่างหาก
“เจ้าบ่าวเห็นคงจะอึ้งแน่ ๆ เลยค่ะ” เมื่อได้ยินอย่างนั้นเจ้าหล่อนก็นึกภาพในหัวตามทันที เจ้าบ่าวของน้องสาวจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไงนะ เธอเองก็อยากเห็นจะแย่แล้วเหมือนกัน
“พวกพี่ขอตัวกลับก่อนนะคะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ ในวันแต่งงานนะคะ” ช่างแต่งหน้าทั้งสามคนเอ่ย ขณะเก็บอุปกรณ์แต่งหน้าที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะเข้าไปในกล่องดังเดิม
“ขอบคุณพวกพี่อีกครั้งนะคะ” น้ำฟ้ายกมือไหว้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เธอเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ต่างจากน้องสาวรายนั้นเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายและมีความทะเยอทะยานสูง
ระหว่างนั้นน้ำฟ้าก็หยิบซองจดหมายที่น้องสาวให้ไว้ขึ้นมาดู แม้ว่าน้ำค้างจะบอกให้อ่านหลังจากมั่นใจว่ามาไม่ทัน แต่เธอก็อยากจะรู้ว่าข้างในมันเขียนว่ายังไงบ้าง เพราะทุกอย่างที่น้องสาวทำมันมีความไม่ชอบมาพากลซะเหลือเกิน
น้ำฟ้ารีบเปิดซองจดหมายแล้วหยิบแผ่นกระดาษออกมาอ่าน เมื่อเห็นเนื้อหาในนั้นแล้ว ทำเอาถึงกับทรุดนั่งลงบนโซฟาทันที เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลลงมา ทำไมน้องสาวที่เธอรักถึงได้ทำอย่างนี้กับเธอได้ลงคอ
ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษพี่ด้วยนะแต่ฉันจำเป็นต้องทำอย่างนี้จริง ๆ พี่ช่วยเป็นเมียของพ่อเลี้ยงเหมันต์แทนฉันไปตลอดได้ไหม ฉันหลอกเอาเงินเขามาเยอะมาก ถ้าพ่อเลี้ยงรู้ความจริงเข้าฉันอาจจะโดนจับเข้าคุกแน่นอน ขณะพี่ที่อ่านจดหมายฉบับนี้ฉันคงจะขึ้นเครื่องไปอเมริกาแล้ว ฉันอยากไปใช้ชีวิตกับคนที่รัก พ่อเลี้ยงเป็นคนดีมากแต่ฉันคงไม่สามารถแต่งงานกับคนที่มีอายุมากขนาดนั้นได้ ฉันมั่นใจว่าพ่อเลี้ยงคงจะดูแลพี่ได้อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิตแน่นอน
รักพี่เสมอ
น้ำค้าง
“อา!! แม่งโคตรเสียว ตอดอย่างนี้ไม่รักได้ไงล่ะครับ” เหมันต์เอ่ยกับเจ้าหล่อนพร้อมกับจ้องมองใบหน้าสวยอย่างหื่นกระหาย“แรงๆ ได้ไหมคะฉันไม่ไหวแล้ว”“ได้เลยครับที่รัก”เหมันต์ไม่รอช้าเริ่มเร่งจังหวะกระเด้า กระแทกดุ้นใหญ่หัวบานเข้าไปในร่องสวาทไม่ยั้ง ห่างเรื่องอย่างว่าไปนานเขาไม่นึกเลยว่าน้ำฟ้าจะมีความกล้ามากขึ้นอย่างนี้ นั่นทำให้เขายิ่งพอใจในตัวเธอมากขึ้นไปอีกปับ! ปับ! ปับ!“อ๊ะๆ ๆ ๆ”แรงกระแทกทำให้หน้าอกกลมโตกระเพื่อมไปตามจังหวะ เหมันต์จึงหยุดมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง บีบคลึงไปด้วยกระเด้าไปด้วยอย่างสบายอารมณ์กลีบสวาทอวบอูมทั้งสองข้างเริ่มแดงช้ำ เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นอันฉ่ำแฉะเหนียวเป็นเส้น เจ้าหล่อนกระเด้งเอวรับจังหวะเด้าของเหมันต์ไปด้วยอย่างอัตโนมัติ“มะ...ไม่ไหวแล้วแม่งเอ้ย ซี๊ดดด” เหมันต์ทำหน้าเหยเกสูดปากเสียว บั้นท้ายยังคงกระเด้งเด้าไม่ยั้งจนคนที่อยู่ใต้ร่างแทบจะแหลกคาเตียง“พะ...พร้อมกันนะคะฉันก็ไม่ไหวแล้ว” น้ำฟ้าตอบรับสามีด้วยความรู้สึกไม่ต่างกันเมื่อใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วเหมันต์ก็กอดตัวภรรยาเอาไว้แน่น พรมจูบไปตามซอกคอขาวอย่างหื่นกระหาย พร้อมทั้งเร่งจังหวะกระเด้าให้แรงและเร็วขึ้น
เมื่อเคลียร์ทุกอย่างที่กรุงเทพเสร็จแล้วทั้งสามคนก็บินกลับเชียงรายทันที ตอนนี้ทุกคนต่างก็ตั้งตารอที่จะได้เห็นหน้าแม่เลี้ยงของไร่อีกครั้ง เหมันต์รับสาวใช้คนใหม่มาแทนคำปองแล้ว เธอเป็นสาวเหนืออายุราวสี่สิบปี สามารถเข้ากับป้าบัวคลี่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ความสุขของคนในบ้านหลังนี้ได้กลับคืนมาสมบูรณ์แบบอีกครั้งแล้ว“ป้าบัวครับทำไมคุณพ่อยังไม่มาอีก” คิมหันต์เอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าเพราะนั่งรอผู้เป็นพ่อมานานหลายชั่วโมงแล้ว“อีกแปบนึงค่ะคุณหนูเดี๋ยวคุณพ่อก็มา”“คุณแม่จะกลับมาด้วยไหมครับ”“ป้ามั่นใจว่าคุณแม่ต้องกลับมาด้วยแน่นอนค่ะ”พูดยังไม่ทันขาดคำทั้งหมดก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ทุกคนจึงรีบวิ่งออกไปรอต้อนรับผู้มาใหม่ทันที“คณแม่กลับมาแล้วเย้!!!”“น้องคิมลูกแม่”เมื่อเห็นเด็กชายที่เธอรักราวกับลูกแท้ๆ น้ำฟ้าก็รีบวิ่งเข้ามากอดทันที เจ้าหล่อนหอมแก้มนุ่มๆ ทั้งสองข้างด้วยความคิดถึง“น้องคิมคิดถึงคุณแม่ทุกวันเลยครับ”“แม่ก็คิดถึงหนูครับ ต่อไปนี้แม่จะไม่จากหนูไปไหนแล้วนะ”“เย้! น้องคิมดีใจที่สุดในโลกเลย”“อย่ามัวแต่ดีใจจนลืมไหว้เพื่อนแม่สิครับน้องคิม” เหมันต์เอ่ยกับลูกชาย“สวัสดีครับ”“สวัสดีค่
น้ำฟ้ากลับเข้ามาทำงานที่ภัตตาคารแห่งเดิม ส่วนเรื่องที่หลับที่นอนก็กลับมาพักอยู่กับมะเหมี่ยวเพื่อนรัก แต่ทว่าการกลับมาครั้งนี้ของเธอกลับลืมของสำคัญบางอย่างไว้ที่เชียงราย นั่นคือหัวใจและทำให้การใช้ชีวิตที่กรุงเทพไม่ได้มีความสุขเหมือนแต่ก่อน เธอเอาแต่นั่งเหม่อลอยคิดถึงชายหนุ่มผู้เป็นที่รักยิ่งอยู่ทุกวันเวลา จนมะเหมี่ยวเองก็สังเกตเห็นและพยายามถามไถ่ เธอจึงยอมเล่าความจริงทุกอย่างให้เพื่อนฟัง อย่างน้อยการได้ระบายให้ใครสักคนฟังมันก็รู้สึกดีขึ้นมากอยู่ไม่น้อยเมื่อลงจากรถเมล์สายประจำแล้วสองสาวก็เดินตรงไปยังที่ทำงาน ซึ่งเดินไปตามถนนเส้นนี้อีกไม่ไกลนัก“เร็วๆ แกเดี๋ยวเข้างานสายกันพอดี” มะเหมี่ยวเอ่ยกับเพื่อนรักขณะเร่งฝีเท้าเดินไปอย่างเร่งรีบ“ไม่สายหรอกน่าไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้แก” น้ำฟ้าบ่นให้เพื่อนขณะที่เจ้าหล่อนเดินเอ้อระเหอลอยชายอย่างไร้ชีวิตชีวา“ไม่รีบมีหวังนางยักษ์ขมูขีชี้หน้าด่าเราแน่” ที่พูดถึงนั่นคือหัวหน้าเชฟสาวใหญ่เจ้าระเบียบที่ใครๆ ต่างก็หวาดผวาเมื่อได้อยู่ใกล้“เออๆ รีบก็รีบวะ” น้ำฟ้าเอ่ยเสียงเอื่อยก่อนจะถูกเพื่อนดึงมือให้เดินตามไปเดินมาถึงหน้าภัตตาคารแล้วก็พบว่า มีชายหนุ่มหล่อสว
“ขอบคุณจ้ะป้า”เมื่อสาวใช้ทั้งสองเดินออกไปแล้ว ประจวบเหมาะว่าภูวดลก็เดินเข้ามาในบ้านพอดี“อ้าว! นึกว่าขึ้นข้างบนกันหมดแล้วซะอีก” ภูวดลเลิกคิ้วมองทุกคนก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างคิมหันต์ พร้อมทั้งกอดคอเอาไว้“รอมึงนั่นล่ะไปไหนมาวะ”“กู...ไปเดินเล่นในสวนมา” จริงๆ แล้วเขาคุยสายกับน้ำฟ้าต่างหาก รายงานให้เธอรู้ว่าตอนนี้เหมันต์ปลอดภัยดีและกลับมาที่บ้านเรียบร้อยแล้ว เธอจะได้สบายใจ“ยังมีอารมณ์สุนทรีย์อีกนะมึงอะ”“นิดหน่อยว่ะ” ภูวดลแค่นยิ้มออกมาเล็กน้อย“เอ่อ...เดี๋ยวฉันขึ้นไปข้างบนก่อนนะคะ คุยกันตามสบายค่ะ” น้ำค้างรู้สึกว่าทั้งสองคงอยากมีอะไรคุยกันเป็นการส่วนตัว“ไว้ค่อยคุยกันนะครับ” ภูวดลเอ่ยกับหญิงสาว“ค่ะ” น้ำค้างส่งยิ้มให้ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างภูวดล “น้องคิมขึ้นไปดูการ์ตูนข้างบนกันดีกว่าครับ”“ครับคุณแม่” คิมหันต์ตอบรับแล้วก็หันไปเอ่ยกับคนที่นั่งอยู่ข้างกัน “น้องคิมขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับอาภู”“ครับผม” ภูวดลเอื้อมมือไปจับแก้มลูกชายเพื่อนอย่างเอ็นดูหลังจากทั้งสองคนเดินไปแล้วภูวดลก็หันไปสนใจเพื่อนต่อทันที เขาอยากให้เพื่อนถามไถ่เรื่องน้ำฟ้าซะเหลือเกิน แต่ทว่าเหมันต์กลับนิ่งเ
ปัง!“คุณฉัตรชัย!”ลูกตะกั่วพุ่งจากปลายกระบอกปืนของเหมันต์เข้าไปที่กลางหลังฉัตรชัย ก่อนที่เขาจะลั่นไกฆ่าลูกเมียตนเอง เหมันต์ไม่อยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นเลยสักนิด หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่มีทางทำให้พ่อกับแม่ของฉัตรชัยต้องตายเด็ดขาด เพราะเขาเองก็ไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฆาตกร แต่ครั้งนี้เขาตั้งใจทำเพื่อให้เด็กในท้องคำปองได้เกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกคำปองรีบวิ่งเข้าไปพยุงตัวฉัตรชัยขึ้นไว้บนตักตนเอง แม้ว่าเธอจะไม่ได้รักฉัตรชัยแม้แต่น้อย แต่ทว่าเขาก็คือพ่อของลูก เธอเองก็อยากให้ลูกเกิดขึ้นมาแล้วมีพ่อเหมือนคนอื่น ๆ“คุณฉัตรชัย ฮือ ๆ”“ฉะ...ฉันขอโทษที่จะทำร้ายเธอ” ฉัตรชัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับลมหายใจใกล้จะหมดลงในอีกไม่ช้า“ฉันอภัยให้คุณทุกอย่าง ฮือๆ อย่าเป็นอะไรไปนะคะคุณต้องอยู่เพื่อลูกของเรา”เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉัตรชัยก็ยิ้มน้อยๆ ออกมา อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่าตนเองยังมีลูกชายไว้สืบสกุลก่อนจะตายไปจากโลกใบนี้“ลูก...ฉันกำลังจะมีลูก เฮือก!”“ใช่ค่ะเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน คุณต้องไม่เป็นไรนะ”“ดูแลลูกแทนฉันด้วยนะ อย่าให้ลูกรู้ว่ามีพ่อเลวๆ อย่างฉัน”“คุณคือพ่อของลูกฉันนะ คุณฉัตรชัย ฮือๆ ๆ” คำ
ทุกคนถูกนำตัวมานั่งรวมกันที่หน้าบ้าน ฉัตรชัยรอให้เหมันต์กลับมาที่นี่ หลังจากนั้นเขาจะจัดการฆ่าทุกคนให้ตายอย่างทรมาน“คุณแม่ครับน้องคิมกลัวฮือๆ ๆ”“ไม่ต้องกลัวนะลูกเดี๋ยวคุณพ่อก็มาช่วยเราแล้ว” น้ำฟ้ากอดปลอบใจคิมหันต์“ใช่! เดี๋ยวพ่อมึงก็จะมาช่วย กูจะได้จัดการพวกมึงไปพร้อมๆ กันยังไงล่ะฮ่าๆ ๆ” ฉัตรชัยเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงตัวคิมหันต์ออกจากอ้อมกอดของน้ำฟ้า“ไม่เอาน้องคิมไม่ไปด้วย น้องคิมเกลียดคนใจร้ายฮือๆ ๆ”“ปล่อยลูกฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้สารเลว”“ปล่อยแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้โว้ย!”“คุณแม่ช่วยน้องคิมด้วยฮือๆ ๆ” ตอนนี้ฉัตรชัยล็อกตัวคิมหันต์เอาไว้ ก่อนจะยิงปืนขึ้นบนฟ้าหนึ่งนัดเพื่อประกาศชัยชนะที่มีต่อเหมันต์“คุณฉัตรชัยปล่อยคุณหนูเถอะนะคะ” คำปองเอ่ยขอร้องด้วยน้ำตา“หุบปาก! เธอไม่มีสิทธิ์มาขอร้องอะไรทั้งนั้น สิทธิ์ของเธอหมดตั้งแต่ไม่ไปตามนัดฉันแล้ว” ฉัตรชัยหันมาตวาดใส่หน้าทันที คำปองกำลังจะเอ่ยปากบอกความจริงว่าเธอกำลังท้อง แต่ทว่าเหมันต์กลับเข้ามาถึงเสียก่อน“ปล่อยลูกกูเดี๋ยวนี้” เหมันต์เดินเข้ามาเพียงลำพัง ส่วนภูวดลและลูกน้องแอบซุ่มอยู่บริเวณรอบบ้านไม่ให้คนของฉัตรชัยเห็น เพื่อรอเข้าโจมตีเมื่อถึงเ
เมื่อขับรถเข้ามาภายในไร่ก็พบว่าทุกอย่างกำลังอยู่ในความโกลาหล มองไปทางไหนมีแต่กลุ่มควันไฟกำลังแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างให้มอดไหม้ ไม่เว้นแม้กระทั่งโซนที่พักอาศัยก็ยังโดนลอบวางเพลิง คนงานต่างกำลังขนของออกจากห้องพักหนีตายกันจ้าละหวั่น นั่นทำให้พวกเขาไม่ได้มีความสนใจเรื่องอื่นๆ เลยสักนิด“แม่งเอ๊ย! มันเล่นกูทุกที่เลยว่ะ” เหมันต์สบถออกมาเสียงดัง ขณะยืนมองทุกอย่างกำลังพังทลายลงไปในพริบตา“ใจเย็นๆ มึง ตามหาตัวไอ้ฉัตรชัยกันก่อนเถอะ กำจัดตัวต้นเหตุให้ได้ก่อน”ในขณะนั้นแคนก็รีบวิ่งเข้ามาหาทั้งสองคนในสภาพตัวเต็มไปด้วยฝุ่นควันจากไฟไหม้“พ่อเลี้ยงครับ!”“อ้าว! แคนเอ็งเป็นไงบ้างวะ”“ผมเพิ่งเข้ามาขนของในห้องเสร็จครับ เลยรีบมาหาพ่อเลี้ยงเผื่อว่าจะมีอะไรให้ช่วย”“เอ็งไปช่วยคนอื่นๆ ก่อนละกัน ของที่เสียหายก็ไม่ต้องไปสนเอาชีวิตคนให้รอดก่อน ส่วนเรื่องไฟไหม้ข้าโทรขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยของจังหวัดแล้วคงใกล้มาถึงแล้วล่ะ”“ครับพ่อเลี้ยง ถ้างั้นผมไปช่วยทางโน้นก่อนนะครับ”“ฝากด้วยนะคนที่ข้าพอจะไว้ใจได้ก็มีเอ็งคนเดียวเท่านั้นล่ะ”“ครับพ่อเลี้ยง”หลังจากแคนเดินไปแล้วทั้งสองก็กำลังจะขึ้นรถไปสำรวจรอบๆ ไร่อีกครั้ง เพื่
หลังจากคุยโทรศัพท์กับเพื่อนรักแล้ว เหมันต์ก็ขึ้นไปเอาปืนในห้องนอน นั่นทำให้น้ำค้างที่กำลังจะหลับต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นจากแสงไฟที่สว่างจ้าขึ้นในห้อง“พ่อเลี้ยง” เจ้าหล่อนงัวเงียลุกขึ้นนั่งบนเตียง จ้องมองเหมันต์ที่กำลังค้นหาอะไรบางอย่างในตู้อย่างเร่งรีบ“ไปนอนเป็นเพื่อนน้องคิมในห้องก่อนเร็ว ล็อกประตูเอาไว้อย่าออกมานอกห้องเด็ดขาด”“เกิดอะไรขึ้นคะ”“ไม่ต้องถามรีบทำตามที่ฉันบอกเร็ว”“ค่ะๆ”เหมันต์ยังไม่มีเวลาอธิบายอะไรให้เธอฟัง เพราะตอนนี้เขาต้องทำเวลาก่อนที่ฉัตรชัยจะเริ่มต้นทำสงครามในอีกไม่ช้านี้น้ำค้างรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้อง ก่อนจะเข้าไปในห้องนอนของคิมหันต์ ล็อกประตูเอาไว้ แล้วเดินไปที่หน้าต่างทันที“ไฟไหม้! เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นกลุ่มควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วท้องฟ้าตรงบริเวณกลางไร่ เจ้าหล่อนได้แต่ยืนมองอย่างกระวนกระวายใจอยู่ในห้องตามคำสั่งของเหมันต์เมื่อเหมันต์เดินลงมาด้านล่างแล้วเพื่อนรักก็มาถึงพอดี“ไอ้เหมมันเล่นมึงแล้วว่ะ ไฟเริ่มลามไปทั่วไร่แล้ว” ภูวดลวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาบอกกับเพื่อนป้าบัวคลี่และคำปองยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ไปไหน“กูกำลังจะออกไป
กลับมาถึงบ้านแล้วคำปองก็รีบเข้าไปในห้องนอน เก็บของใช้ส่วนตัวเข้ากระเป๋าเดินทางอย่างรีบร้อน พลางคิดในใจว่าตนเองทำถูกแล้วใช่หรือไม่ที่ตัดสินใจทำอย่างนี้ เธอจะปล่อยให้พ่อเลี้ยงเหมันต์ตกอยู่ในอันตรายจริงๆ อย่างนั้นเหรอ คิดได้อย่างนั้นก็หยุดการกระทำดังกล่าวตั้งใจจะไปบอกให้เหมันต์ระวังตัว แต่พอนึกถึงสิ่งที่น้ำค้างพูดกับเธอก็ทำให้เจ้าหล่อนต้องเปลี่ยนใจอีกครั้ง“ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นที่หนึ่งคนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน” คำปองรีบเก็บของต่อจนเสร็จ และนั่งรอให้ถึงเวลาที่ได้นัดหมายกับฉัตรชัยเอาไว้เหลือเวลาอีกประมาณยี่สิบนาทีก็จะถึงสามทุ่มตรง เจ้าหล่อนจึงถือกระเป๋าเดินทางย่องออกจากห้อง ตอนนี้ภายในบ้านมืดสนิทไร้ซึ่งแสงสว่างใดๆ ทำให้ทุกอย่างดูเป็นใจไปเสียหมด“ถ้าไม่ตายคงได้พบกันใหม่นะป้า” เธอหันไปมองที่ห้องนอนป้าบัวคลี่ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ แล้วรีบเดินออกจากบ้านไปแต่ทว่าเดินออกมายังไม่พ้นประตูบ้านไฟทุกดวงก็สว่างจ้าขึ้นเสียก่อน ทำให้คำปองถึงกับหยุดชะงักมองไปรอบตัวด้วยความตื่นตกใจ“มึงจะหนีไปไหนอีคำปอง!” ป้าบัวคลี่ยืนเท้าสะเอวจ้องมองด้วยแววตาที่แข็งกร้าว ข้างกันนั้นก็เป็นเหมันต์นั่นเอง“ปะ...ป้า! พ่อเลี
Mga Comments