ไซออนเนตหักหลังเธอและคงต้องส่งคนออกตามล่าหากรู้ว่านักฆ่าขององค์กรถูกเธอฆ่าทิ้ง สาวสวยลูกครึ่งไทย เวเนซูเอล่ามิได้ยินดีต่อการก่ออาชญากรรมใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เธอจำเป็นต้องป้องกันตัวเอง เธอก็เป็นแค่สายลับที่ตั้งใจทำงานให้องค์กรด้วยความสัตย์ซื่อเสมอมา อลินทิราไม่เคยทำงานพลาดและทุกคนให้การยอมรับเธอในฐานะของ ออโซลย่า สายลับสาวแห่งไซออนเนต ทว่านานเข้าความไม่ชอบมาพากลทำให้เธอต้องถอนตัวออกมา แม้จะรู้ว่าทุกอย่างอาจสายเกินไปก็ตาม
หญิงสาวตั้งความหวังไว้ว่าจะทำภารกิจสุดท้ายคือการจารกรรมข้อมูลจากห้องปฏิบัติการทดลองด้านฟิสิกส์ในคฤหาสน์ไพรซ์
เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรหากแต่สิ่งนั้นก็มีมูลค่าตอบแทนสูงถึงยี่สิบล้านดอลล่าห์และเพื่อแลกกับอิสรภาพจากการเป็นสายลับที่ทำงานให้องค์กรมาจนตอนนี้เธอมีอายุครบยี่สิบหกปี และเมื่อเหตุการณ์พลิกผันเธอจึงคิดได้อย่างเดียวเท่านั้นคือการมุ่งหน้ากลับไปหาแม่บุญธรรมที่รัฐยูทา
การเดินทางไกลกว่าพันเก้าร้อยไมล์จากท่าอาศยานนานาชาติ จอห์น เอฟ เคเนดี้ ในกรุงนิวยอร์คเพื่อมุ่งหน้าไปยังฝั่งตะวันตกของอเมริกาซึ่งที่หมายคือรัฐยูทาห์เป็นเรื่องง่ายดายสำหรับอลินทิราที่เปลี่ยนแปลงชื่อสกุลตัวเองในปฏิบัติการของสายลับสาว
ทว่าสิ่งที่ยากเย็นสำหรับเธอคืออนาคตที่ยังมองไม่เห็น ซองเอกสารที่รับมาจากเฟลรอฟยังคงถูกเก็บไว้ในกระป๋าเดินทางใบเล็ก เธอยังทำอะไรกับมันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินไปเมืองไทย เช็คเงินสดยี่สิบล้านดอลล่าห์ไม่ต่างจากแผ่นกระดาษไร้ค่าเพราะหากมีการเคลื่อนไหวธุรกรรมการเงินในบัญชีผ่านธนาคารทุกอย่างต้องจบเห่ สิ่งเดียวที่อลินทิราวาดหวังคือการกลับไปอยู่กับแม่บุญธรรมที่ยูทาห์ เธอจะถอดความเป็นตัวตนของออโซลย่าทิ้งเสียที กลายเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในดินแดนห่างไกลโดยไม่ให้คนขององค์กรลับเอื้อมถึง
“ต้องการซื้อรถเก่าหรือครับ คุณผู้หญิง?“
ชายผิวสีวัยกลางคนแต่งกายดูดีในชุดเสื้อโปโลกางเกงสแล็คถามขึ้นขณะก้าวออกมาจากสำนักงานเล็ก ๆ ในอู่ซึ่งมีรถเก่าจอดเรียงรายเพื่อประกาศขายหลายคัน เขาเดินมาหยุดข้าง ๆ รถคาดิลแล็ครุ่นเก่าสีน้ำเงินเข้มซึ่งร่างระหงของหญิงสาวผมยาวสีน้ำตาลหม่นในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายลายตารางยืนพินิจดูอยู่ก่อนแล้ว
“ค่ะ...ฉันอยากได้รถสักคันตอนนี้”
อลินทิราแย้มเรียวปากสีชมพูประกายออกขณะดวงตาคู่สวยกวาดไปถ้วนทั่วรถเก่าที่คิดว่ามันไม่เลวร้ายมากจนเกินไป พอลงจากเครื่องบินเธอก็ให้แท็กซี่พามาส่งแถบชานเมือง ซอลท์ เลค ซิตี้ ย่านที่เธอจะสามารถหาซื้อรถสักคันเพื่อเดินทางไปยัง โมอับ เมืองอันเป็นที่พำนักของแม่บุญธรรม เธอไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้เรื่องนี้ งานของเธออันตรายมากเกินกว่าจะเอาชีวิตของคนที่มีค่ามาเสี่ยงด้วย
“คาดิลแล็ครุ่นนี้ก็ไม่เลวนักหรอกนะครับ ว่าแต่คุณผู้หญิงกำลังจะไปไหนหรือครับ?”
“ฉันเพิ่งมาจากนิวยอร์คค่ะ อยากกลับมาเยี่ยมญาติที่นี่ ก็แค่อยากได้รถสักคันไว้ขับไปเรื่อย ๆ “
“คุณคงอยากจะเที่ยวยูทาห์ เมืองแห่งอินเดียนแดงทุกซอกทุกมุมว่างั้น”
เจ้าของอู่กล่าวพลางเลิกคิ้วบนใบหน้าเป็นมิตร อลินทิรายิ้มอีกครั้งก่อนหันไปมองถนนสายหลักซึ่งทอดยาวออกไปท่ามกลางพื้นที่กว้างใหญ่ไร้ตึกสูง
“ฉันมีจุดหมายเพียงแห่งเดียวเท่านั้นล่ะค่ะ”
หญิงสาวพูดราวกับรำพึงก่อนตกลงซื้อรถคันที่เธอหมายตาไว้และขับมันออกไปเพื่อมุ่งสู่จุดหมายซึ่งยังยาวไกลอีกสองร้อยกว่าไมล์จากเมืองหลวงของรัฐยูทาห์ อลินทิรารู้สึกสุขใจอย่างประหลาดเมื่อเพลง Home ดังออกมาจากวิทยุติดรถรุ่นเก่าแต่เสียงยังชัดเจนรื่นหู มันทำให้ความคิดนั้นประหวัดไปถึงบ้านที่จากมานานเมื่อเธอตัดสินใจทำงานให้กับไซออนเนต องค์กรลับซึ่งเธอเคยศรัทธา
อลินทิรากำพร้าพ่อแม่มาแต่เด็กและรู้เพียงตัวเองมีเชื้อสายของแม่ที่เป็นคนไทยและพ่อเป็นชาวเวเนซูเอล่าเท่านั้น หญิงสาวได้รับการเลี้ยงดูจากหญิงหม้ายคนหนึ่งซึ่งรับเธอไว้เป็นบุตรบุญธรรมและดูแลเธออย่างดี ทว่าเธอกลับละทิ้งชีวิตของคนสามัญเพื่อเข้าร่วมงานกับองค์กรลับในคราบจารชนด้วยความศรัทธาอย่างยิ่งยวด
เธอเชื่อมั่นในจุดยืนของไซออนเนตที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องการก่อการร้ายในโลกอันวุ่นวายและเต็มไปด้วยความขัดแย้ง สายลับสาวยังไม่เบื่องานที่ทำแต่มีบางสิ่งบอกเธอว่าไซออนเนตกำลังเก็บงำบางอย่างที่เธอไม่รู้ หญิงสาวกำลังจะล่าถอยก่อนถลำลึกประจวบกับที่ได้รับข่าวคราวว่าแม่บุญธรรมในวัยหกสิบกำลังไม่สบาย และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่อลินทิราอยากลบล้างความเป็นออโซลย่าออกจากตัวเองให้หมด
บทเพลงคันทรี่ที่ดังจากวิทยุตลอดเวลาทำให้คนขับรถคาดิลแล็ครุ่นเก่ามาตลอดเส้นทางซึ่งขนาบข้างด้วยทิวทัศน์ของทุ่งทรายปกคลุมด้วยหญ้าบนแผ่นดินกว้างและหุบผาแปลกตาไม่ได้รู้สึกอ้างว้างแต่อย่างใด หญิงสาวเต็มไปด้วยความหวังมากมายว่าเธอจะกลับไปดูแลหญิงอันเป็นที่รักในบั้นปลายชีวิตหากเธอไม่เห็นว่ามีรถเอสยูวีสีดำสนิทวิ่งตามมาห่าง ๆ นานนับชั่วโมงแล้ว“โอ...ให้ตายสิ!”อลินทิราอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อละสายตาจากถนนด้านหน้าไปยังกระจกมองหลัง สัญชาติญาณบอกเธอถึงความไม่ปกติ หากจำไม่ผิดรถคันนี้ก็วิ่งตามหลังเธอมาตลอดตั้งแต่ออกจากซอลท์เลคซิตี้หรืออาจเป็นคนของไซออนเนต? หรืออาจเป็นพวกเอฟบีไอตามแกะรอยเธอมาจากนิวยอร์ค? แต่ไม่ว่าจะเป็นใครเธอก็ต้องรีบปลีกห่างให้ไกลจากรถเจ้าปัญหาคั้นนั้น“ออโซลย่า...คิดสิ...เธอต้องทำอะไรสักอย่าง” หญิงสาวท่องเหมือนคนเสียสติ ความหวังกำลังละลายเหมือนน้ำแข็งด้วยความร้อนรุ่มที่รุมเร้าข้างใน และท้ายที่สุดเธอก็หักพวงมาลัยรถคาดิลแล็ครุ่นเก่าแล่นไปตามป้ายบอกทางCanyonlands National Parkอลินทิราเหยียบคันเร่งจนมิดเข็มไมล์เพื่อพารถของเธอมุ่งไปตามเส้นทางของอุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์ หญิงสาวสังเกตเห็
“ถ้าจับไอ้หัวขโมยนั่นได้ผมจะเค้นเอาชิปกลับมาและฆ่ามันทิ้งด้วยตัวผมเอง!” เสียงหนักลอดไรฟันจากใบหน้าที่กรามถูกขบจนนูนเป็นสันของร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสนิทดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดภายในห้องเล็กแคบที่เขายืนอยู่หัวโต๊ะรายล้อมด้วยชายอีกหกคนซึ่งก็มีสีหน้าเข้มเครียดพอกัน นัยน์ตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำจับจ้องผ่านกระจกนิรภัยไปยังอีกห้องที่เครื่องเร่งอนุภาคแบบไซโคลตรอนวางแน่นิ่งอยู่วันนี้ถือว่าเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้สำหรับแดเนียล นักธุรกิจหนุ่มอายุสามสิบห้าปีเจ้าของความสูง 185 เซ็นติเมตรทายาทตระกูลไพรซ์ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากขุนนางในตระกูลอันเก่าแก่และมั่งคั่งทางด้านอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในอเมริกาเขาต้องเรียกประชุมนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ทั้งหกมาพร้อมหน้ากันในห้องทำงานซึ่งอยู่ติดกับห้องปฏิบัติการที่ถูกสร้างขึ้นอย่างลับ ๆ ใต้คฤหาสน์ไพรซ์อันโอฬารที่กินเนื้อที่กว่าแปดร้อยเอเคอร์ย่านชานเมืองแถบซานตา โมนิกาของลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอเนียเพื่อจะรับรู้ว่าข้อมูลการค้นพบอะตอมของธาตุลำดับที่ 119 ซึ่งทั้งหมดร่วมกันทำการวิจัยและทดลองอย่างยิ่งยวดจนได้มานั้นถูกจารกรรมไปเมื่อคืนนี้ แดเนีย
“พระเจ้า! เออร์วิ่ง คุณรีบบอกพวกเรามาเถอะว่าไอ้หัวขโมยนั่นมันเป็นใครกันแน่”มอโรว์เป็นฝ่ายถามอย่างร้อนใจ เขาก็เหมือนกับอีกหลายคนในที่นั้นซึ่งนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ทว่าตรงข้ามกับแดเนียลที่แม้เคร่งเครียดมากกว่าใคร ๆ แต่เขากลับมีทีท่าเยือกเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด“เออร์วิ่ง...ผมไม่รู้ว่านี่เป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่เรายังไม่ได้แจ้งให้คณะกรรมาธิการร่วมของสหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศรู้เรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้คือเราโชคดีที่มีคุณ”“ผมตั้งใจกับงานทุกอย่างที่ได้รับอยู่แล้วครับ คุณแดเนียล”เออร์วิ่งกล่าวก่อนเคาะปลายนิ้วลงบนแล็ปท็อปให้หน้าจอมอนิเตอร์แสดงใบหน้าตรงของหญิงสาวผมยาวดำขลับตัดกับสีนัยน์ตาประกายน้ำตาลแกมเขียวสว่าง จมูกโด่งรั้นและริมฝีปากอิ่มเผยอเล็กน้อยบนโครงหน้ารูปไข่“ผู้หญิงคนนี้เป็นสายลับมือหนึ่งที่เข้ามาฉกข้อมูลลับของคุณถึงในคฤหาสน์ไพรซ์ เธอทำงานให้กับไซออนเนต...มันเป็นองค์กรลับที่มีเครือข่ายอยู่ในอเมริกาและยังเชื่อมโยงกับพวกผลิตอาวุธและนักค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ น่าแปลกที่ไซออนเนตเหมือนไม่มีความซับซ้อนอย่างองค์กรลับทั่วไป แต่กลับเข้าถึงได้ยาก เป็นองค์กรที่ดูสะอาดแต
“คุณมาช้าไปยี่สิบห้านาทีค่ะ เฟลรอฟ”หญิงสาวติติงด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบขณะบริกรเดินเข้ามาเพื่อรับออเดอร์“เอสเปรซโซ่ที่หนึ่ง...ขอเข้ม ๆ เลยนะ”เฟลรอฟ ชายร่างสูงใหญ่เชื้อสายรัสเซียสั่งก่อนหันมายังเจ้าของใบหน้ารูปไข่สวยคม โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลแกมเขียวใสสว่างที่จ้องเขาแทบไม่กระพริบ“ขอโทษทีที่ทำให้รอนาน ผมกำลังรับคำสั่งจากนายใหญ่ เขาตื่นเต้นมากที่ภารกิจของคุณประสบความสำเร็จ”เฟลรอฟกล่าวยิ้มแย้มขณะประสานมือหนาทั้งสองบนโต๊ะ เขามีท่าทีที่ดูเป็นมิตร แต่กลับมีอะไรบางอย่างที่อลินทิราเริ่มจับสังเกตุจากประกายตาคู่นั้นซึ่งไม่มีวันเก็บงำอารมณ์ได้เช่นรอยยิ้ม“ฉันทำตามหน้าที่ค่ะ และตอนนี้ทุกอย่างก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี”“น่าชื่นชม...ผมรู้สึกชื่นชมความสามารถของคุณมากจริง ๆ ออโซลย่า...ห้องปฏิบัติการด้านฟิสิกส์ในคฤหาสน์ไพรซ์มีระบบความปลอดภัยแน่นหนามาก แต่คุณก็ทำได้ คุณเข้าไปเอาข้อมูลที่นายใหญ่ของเราต้องการออกมาได้ ผมเคยพบกับแดเนียล ไพรซ์ เจ้าของคฤหาสน์ เขาเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทั้งหล่อเหลาและฉลาดหลักแหลม ไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังแดเนียลคือนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์มือฉกาจและเขาก็เก็บเรื่องนี