ทั้งสามคนไปหาผักป่า เมิ่งลู่เจินเจอเข้ากับเด็กอันธพาลประจำหมู่บ้าน เด็กเหล่านั้นแย่งผักป่าในตะกร้าขอเขาแล้วผลักเมิ่งลู่เจินจนหกล้มเข่าแตก เมิ่งลู่เจินสะพายตะกร้ามาหาเสิ่นเยี่ยนฟาง ใบหน้าบวมช้ำเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นจึงตรงมาหาทันที"อาเจินใครทำเจ้าบอกพี่สะใภ้มาสิ""ไม่มีขอรับข้าหกล้มเองขอรับ""อย่าโกหกบอกพี่มาว่าใครทำ"เมิ่งลู่เจินจำต้องบอก แต่เขากลัวพี่สะใภ้จะไปเอาคืนเหมือนบ้านใหญ่แต่ว่าพ่อแม่ของหวงเฉา ไม่เหมือนท่านปู่ท่านย่าพวกเขาร้ายกาจกว่า"เป็นหวงเฉาขอรับ เขาแย่งผักป่ากับข้าๆกับเขาเลยลงมือทะเลาะกันขอรับพี่สะใภ้ แต่ว่าบิดาของเขาท่านลุงหวงเป็นคนฆ่าหมู พี่สะใภ้ปล่อยเขาไปเถอะขอรับ""หืม ไปกลับบ้านไปอาบน้ำทายาก่อน ส่วนเรื่องเอาคืนหรือไม่พี่จัดการเอง"ทั้งสามคนกลับมาที่บ้าน ยังไม่ทันถึงบ้านรั้วโย้เย้อยู่แล้วก็ถูกคนทำลายจนพัง ข้าวของในบ้านถุกรื้อค้น เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสองผัวเมียแซ่หวงขโมยข้าวของๆนางก็ยืนข่มอารมณ์พักนึงก่อนจะเดินเข้าไปจับสะใภ้หวงทุ่มลงกับพื้นทันที"โอ๊ยยย ฆ่าคนแล้วตาแก่นังแพศยายั่วยวนอาเขยตัวเองนางโสเภณีนี่ฆ่าคนแล้ว มาจัดการมันให้ข้าที""เจ้าๆๆ กล้าทำเมียข้าหรือนังแพศยา"หวงเฉิ
หลังจากที่เสิ่นเยี่ยนฟางจัดการสองผัวเมียแซ่หวงเรียบร้อยแล้วก็จัดการนำผักป่ามาจัดการ ได้ผักป่ามามากมาย ชาวบ้านไม่รู้จักหลายชนิดเลยไม่มีใครมาแย่งพวกนาง เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่เคยรู้จักได้แต่ช่วยน้องสาว ก่อนจะเอ่ยถามนาง"เสี่ยวฟาง บุรุษที่ข้าเจอเมื่อเช้าคือสามีเจ้าใช่หรือไม่""อ้อเจ้าค่ะ เขาชื่อเมิ่งหย่งชวน ว่าแต่พี่หญิงคู่หมั้นของท่านเขายอมให้ทางบ้านบิดาท่านส่งท่านไปเป็นอนุผู้อื่นหรือเจ้าคะ""เฮ้อ พอท่านแม่จากไปคู่หมั้นข้าก็กลายเป็นคู่หมั้นน้องสาวลูกแม่เลี้ยงข้าทันที ข้าเองก็เพิ่งจะรู้ว่าท่านพ่อแอบเลี้ยงดูนางมานานแล้ว บุตรสาวของนางก็คือบุตรสาวอีกคนของท่านพ่อ นางอายุสิบห้ากำลังน่ารักสมวัย คู่หมั้นข้าคงพึงใจมากกว่าที่ได้แต่งกับนาง"น่ารักสมวัย เฮ้อนี่นังหนูอายุขนาดพวกหล่อนนี่ยังไม่พ้นมัธยมต้นเลยนะ คงต้องหาทางให้พี่สาวคนนี้มีที่อยู่แต่จะให้อยู่ด้วยไม่ได้ มิใช่ว่านางหึงหวงแต่พี่สาวคนนี้จะถูกคนนินทาเอาได้ เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้ล้างผักป่าเรียบร้อยก็นำมาผึ่ง คว้าจอบเล็กมาถางหญ้าบริเวณบ้าน บ้านนี้มีพื้นที่หลายหมู่พอให้ปลูกผักกิน เมื่อเช้าเมิ่งหย่งชวนบอกนางว่าจะไปเอาที่ดินคืน ที่ดินของเขามีกี่หม
เมิ่งหลงไม่ได้ยินสองผัวเมียปรึกษากันแต่เขาเองก็เห็นใจเมิ่งหย่งชวนจริงๆ บ้านน้องรองช่างละโมบไม่รู้จักพอจริงๆทั้งห้าคนเดินไปที่แปลงนาฝั่งตรงข้ามบ้านของเมิ่งหย่งชวน มีหญ้าขึ้นรกทึบเพราะบ้านใหญ่ไม่ใส่ใจดูแลและทำกิน พวกเขาจ้องจะขายมันให้เศรษฐีวั่น แต่บังเอิญเมิ่งหย่งชวนกลับมาพอดีจึงไม่สามารถขายได้ ยิ่งเขามีตำแหน่งซิ่วไฉยิ่งยากขึ้นไปอีกที่ดินตรงนี้เสิ่นเยี่ยนฟางเพิ่งเดินสำรวจเมื่อเช้านี้ มีของดีอยู่ไม่น้อย แต่ชาวบ้านไม่รู้จักในพืชผักเหล่านั้น ในเมื่อเป็นที่ดินของเมิ่งหย่งชวนนางก็มีสิทธิ์ เงินจ๋ารอเจ๊ก่อนนะ ฉันอยากค้าขายหาเงินแล้วแต่ผัวมันหวงไม่ให้ออกนอกบ้านเดี๋ยวให้มันไม่อยู่ก่อนแม่จะขุดทองให้เกลี้ยงเลยฮ่าๆๆๆเมื่อสำรวจเรียบร้อยทุกคนก็พูดคุยกันเล็กน้อย จนกระทั่งเมิ่งหย่วชวนหันมาถามภรรยาก็เห็นนางยืนตาลอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จึงเข้าไปหาพร้อมกับกระซิบถาม"เสี่ยวฟางดีในอะไรหรือบอกข้าได้ไหม""อ้อ ไม่มีอะไรแค่ดีใจที่จะมีที่ดินไว้ปลุกผักกิน เออนี่ท่านพี่ข้าอยากปรึกษาเรื่องพี่เสี่ยวฮวาสักหน่อยน่ะ นางถูกบ้านบิดาขายจะให้ไปเป็นอนุขุนนาง แต่นางหนีมาได้ข้าเกรงว่าพวกเขาจะมาตามนางกลับไป มีวิธีให้นางไม่ต้องถ
สุดท้ายพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ดินแปดสิบหมู่จึงคืนกลับไปยังเมิ่งหย่งชวน ทั้งหมดกลับไปแล้วเมิ่งอี้กัดฟันแน่น มองตามเมิ่งหย่งชวนไปด้วยแววตาอาฆาตแค้น ก่อนจะเอ่ยกับท่านปู่ของตน บิดาเขาเมิ่งซานที่ตอนนี้นอรักษาหัวไหล่อยู่ เสิ่นเยี่ยนฟางมือหนักจริงๆ"ท่านปู่ รอมันไปเรียนที่เมืองหลวงก่อนเราค่อยเอาคืนจากนังเมียแก้ชงมัน""หึ มันมีเงินไปเรียนหรือแต่ไม่เคยเอามากตัญญูข้ากับบ้านใหญ่สักอีแปะ ไอ้สารเลว ช่างเหมือนบิดามันเหลือเกินหายจากบ้านไปหลายปีกลับมาแค่มีเงินซื้อที่ดินผืนเดียว"เมิ่งหลงเสร็จเรื่องก็กลับบ้านทันที ส่วนโจวหยวนไม่อยากกลับเขาอยากเห็นหน้าเจียงเสี่ยวฮวาอีกเลยหาเรื่องตามกลับมาด้วย เมื่อมาถึงบ้านเห็นเสิ่นเยี่ยนฟางกับเมิ่งลู่เจินกำลังทำผักดอง เจียงเสี่ยวฮวากำลังนวดแป้งเพราะน้องสาวบอกว่าจะห่อเกี๊ยวแฮ่มๆๆ!!แค่กๆ!! อะหึ่มๆ!! เมิ่งหย่งชวนนั่งลงกระแอมไม่หยุดสักทีจนเสิ่นเยี่ยนฟางเงยหน้ามามองเขาก่อนจะก้มหน้าทำงานในมือต่อ คนตัวโตงอนที่เมียไม่สนใจจึงลุกเดินเข้าห้องแสร้งไอหนักๆ จนเมิ่งลู่เจินเป็นห่วงพี่ชาย"พี่สะใภ้พี่ใหญ่คงเจออากาศเย็นเพราะไปข้างนอกมากระมังขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางวางงานในมือก่อนจะพยักห
เสิ่นเยี่ยนฟางที่เดินออกมาจากบ้านพร้อมกับเมิ่งหย่งชวนก็มานั่งลงที่แคร่หน้าบ้าน คนติดตามของโจวหยวนถูกสั่งให้กลับไปก่อน ตอนเย็นค่อยมารับเขาอีกที"ใต้เท้าโจว ท่านดูคล่องแล้วเสียจริงๆนะเจ้าคะ""อ้อฮูหยิน สมัยตอนเด็กข้าเคยช่วยท่านแม่บ่อยๆน่ะ อีกอย่างที่ผ่านมาชีวิตไม่ใช่ว่าสบายนักต้องขยันถึงจะสามารถอยู่รอดได้""ท่านให้เกียรติเกินไปแล้วเจ้าค่ะ เรียกข้าน้อยว่าเยี่ยนฟางเฉยๆก็ได้"มีบางคนเริ่มไม่พอใจเสียแล้วทั้งคู่สบตากันไปมา เอ่ยวาจาเชือดเฉือนกันทางสายตา"อย่ามาทำสนิทกับเมียข้านะตาแก่โจว หึชีวิตไม่สบายอะไรของเจ้า มิใช่ว่าเจ้าเป็นคุณชายรองบุตรของเสนาบดีโจวหยางชุ่นหลานรักของอัครเสนาบดีโจวเผยหรอกหรือ หลอกลวงผู้ใดกันตาเฒ่า""รองแม่ทัพ ท่านจะหวงฮูหยินเกินไปไหม ข้าบอกชีวิตไม่ง่ายแต่ไม่ได้บอกว่าข้ายากจนนี่""หึตาแก่ อย่ามาเจ้าเล่ห์ ท่านต้องการอะไรจากเมียข้า"โจวหยวนไม่สนใจคนที่กำลังหน้าบึ้ง แต่หันไปเอ่ยกับเจียงเสี่ยวฮวา"แม่นางเจียง เจ้ายังไม่มีที่ไปใช่หรือไม่หากข้าอยากช่วยเหลือเจ้า ไม่ทราบว่าเจ้าจะว่าอย่างไร""ใต้เท้า ท่านหมายความว่าอย่างไรเจ้าค่ะ""คือข้าเพิ่งย้ายมาจากเมืองหลวงมารับตำแหน่งเจ้าเมือง
เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยเสิ่นเยี่ยนฟางก็ลงมือทำมื้อเย็น นางห่อเกี๊ยวแม้ว่าไม่มีผักสด แต่นางเดินตามหาผักป่าเมื่อเช้าได้ผักจี้ฉ่ายมาหลายกำ อีกทั้งยังเจอต้นหอมป่าตอนที่ดายหญ้าหน้าบ้านอีกด้วย ลำธารตีนเขานางจับปลาได้สามตัวจึงนำหมักเกลือกับเครื่องเทศแล้วไปเด็ดใบบัวมาห่อก่อนจะพอกด้วยดินเหนียวนำไปซุกในกองถ่านโจวหยวนอยู่กินมื้อค่ำด้วย คนบ้านเมิ่งไม่กล้ามาหาเรื่องเพราะได้ยินว่าท่านเจ้าเมืองสนิทกับเมิ่งหย่งชวนมากนัก เพราะเขาเป็นซิ่วไฉจึงทำให้หมู่บ้านสี่สิบลี้มีชื่อเสียงไปด้วย เมิ่งหลงผู้นำหมู่บ้านถูกเชิญมากินมื้อค่ำพร้อมกับหิ้วสุรามาด้วยสองไห ท่านปู่เก้าเอาโม่หินมาส่งแล้ว เสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งกินข้าวกับเจีงเสี่ยวฮวาและเมิ่งลู่เจินนั่งฟังบุรุษสนทนากันเงียบๆ เมิ่งหย่งชวนดื่มมากนักจนนางต้องเดินไปหา คว้าจอกเหล้าออกจากมือเขา"ขออภัยที่เสียมารยาทเจ้าค่ะ ใต้เท้า ท่านปู่หลงแต่ว่าท่านพี่ป่วยอยู่ข้าไม่อยากให้เขาดื่มสุรามากนัก อีกสามเดินต้องไปเมืองหลวงถึงเวลานั้นหากอาการกำเริบป่วยเรื้อรังจะทำให้พลาดการเข้าสอบอีก ข้าไม่อยากให้การทุ่มเทของเขาเสี่ยเปล่าไปอีกครั้งเจ้าค่ะ ""อืม ถ้าเช่นนั้นพวกเรากลับกันเถอะ อ้อ
มือหนาปลดกางเกงคนตัวเล็กออกไปทางปลายเท้าก่อนจะคลึงเกสรเม็ดใหญ่ที่เด่นออกมาตอนที่เขาจับขานางแยกออก เขาเขี่ยไปมาจนร่างระหงที่หลับอยู่บิดไปมาเสิ่นเยี่ยนฟางกำลังฝันนางฝันรุนแรงกว่าทุกครั้ง ได้แต่ร้องอื้อๆเพื่อคลายความเสียวอยากตื่นก็ไม่ได้ จนกระทั่งนิ้วยาวเรียวเข้าไปด้านในที่อ่อนนุมของนางเมิ่งหย่งชวนเร่งจังหวะชักนิ้วเข้าออก มีเสียงครางแสนหวานไม่นานก็หวีดร้อง สะโพกงามที่ร่อนเด่นทิ้งลงที่นอน หน้าท้องกระตุกเกร็งแต่ครั้งนี้เสิ่นเยี่ยนฟางตื่นจนได้ เพราะนางสุขสมรุนแรงเกินไป เมิ่งหย่งชวนจ้องตา ให้ตายเขาลืมไปว่านางอาจคลายจุดได้เองหากนางถึงสวรรค์"เจ้า ไอเด็กบ้าเจ้าลักหลับข้าจริงๆด้วยเมิ่งหย่งชวนข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายเลย""ชู่ อย่าเสียงดังสิมีทั้งเด็ก ทั้งสตรีที่ยังไม่แต่งงานเดี๋ยวพวกเขาตื่นนะ""อย่ามาเจ้าเล่ห์เจ้ามัน อื้ออออ"เขาไม่ยอมให้นางพูดอะไรอีก ฉกริมฝีปากของตนลงมาแนบริมฝีปากนางบดขยี้ให้นางยอมรับเขา ไม่นานเสิ่นเยี่ยนฟางก็เผลออ้าปากในที่สุดลิ้นร้อนชื่้นของเมิ่งหย่งชวนก็กระหวัดรัดลิ้นเล็กไว้ ก่อนจะสำรวจทั่วทั้งโพรงปากกวาดเอาน้ำหวานมาทั้งหมดใบหน้าเลื่อนลงต่ำจับหัวเข่ามนแยกออก นางสะอาดจริงๆ สีชม
ยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางเพิ่งตื่นแต่นางลุกไม่ไหวเอวแทบหัก คนบ้านี่กินดุเหลือเกินนัก เจียงเสี่ยวฮวาลุกมาทำมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนนางไม่หลับเท่าไหร่เพราะแปลกที่ จึงได้ยินเสียงน้องสาวกับน้องเขยเช้าเลยรีบลุกมาทำอาหารเองเพราะคิดว่าน้องสาวคงตื่นไม่ไหว เสิ่นเยี่ยนฟางมานั่งข้างๆ พี่สาวก่อนจะนำเกี้ยวที่ห่อเมื่อคืนมาลวกเพื่อเป็นมือเช้า“พี่หญิง ข้าว่าจะขึ้นเขาสักหน่อย หาผักป่าหรือหัวมัน กินแต่ผักดองคงไม่ดีอาเจินกำลังโตต้องบำรุง ท่านพี่ก็ป่วยอยู่”“อืม พี่ไปด้วยดีไหมเผื่อจะได้ช่วยกันหา ฝนตกเมื่อคืนทางลื่นนัก”“อย่าเลย พี่อยู่เป็นเพื่อนอาเจินเถอะ ท่านพี่ไปตำบลข้างเคียงแต่เช้าแล้ว พวกข้าจะซื้ออิฐกับซื้อกระเบื้องใหม่น่ะ ว่าแต่ท่านเถอะเรื่องไปอยู่จวนท่านเจ้าเมืองท่านแน่ใจแล้วใช่ไหม อย่างน้อยเขาก็ปกป้องคนของตนเองได้”“อืม ข้าเกรงว่าอีกวันสองวันพวกเขาจะมาหาเรื่องที่นี่ สามีเจ้าเป็นซิ่วไฉ ชื่อเสียงสำคัญนักข้าอาจจะไปอยู่ที่จวนโจวเลยก็ได้ ช้าเร็วก็ต้องไปอยู่ดี”“ก็ดีเหมือนกัน ข้าเองไม่ได้อยากให้ท่านไปเลยเพราะว่าท่านพี่ต้องไปเมืองหลวงเพื่อลงสอบอีกครั้ง ข้าอยู่กับอาเจินสองคนก็คงเหงาน่ะ”สองพี่น้องช่วย
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ