เสิ่นเยี่ยนฟางกำลังจะล้างตัวก็มีอ้อมแขนแข็งแรงมากอดจากทางด้านหลัง นางจำกลิ่นกายเขาได้ ก่อนจะเอี้ยวตัวมาหาริมฝีปากหยักได้รูปก้มลงมาประทับริมฝีปากอวบอิ่มของนางทันที“อื้อออ อั้นอี้ (ท่านพี่)เมิ่งหย่งชวนถอนริมฝีปากออกก่อนจะจับปอยผมที่หลุดรุ่ยทัดหูให้นางอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยดุนางเสียงเข้ม“เหตุใดขึ้นเขาคนเดียว หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับเจ้าพี่จะทำเช่นไร เสี่ยวฟางสัตว์ป่าดุร้าย ไม่เหมือนอันธพาลที่เจ้าทุบตีพวกนั้นนะคนดีของข้า”“ข้าไม่ได้เข้ามาลึกสักหน่อย ไม่เช่นนั้นท่านจะตามเจอหรือเจ้าคะ ข้าเสร็จแล้วพวกเรากลับบ้านกันเถอะ อื้อ”มือบางยันหน้าอกเขาไว้แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรคนตัวโตได้เลย เมิ่งหย่งชวนถอดเสื้อคลุมตนเองออกปูที่ริมลำธารก่อนจะจัดการลอกคราบนางจนเปลือยเปล่าจากนั้นก็หยอกล้อกับหน้าอกที่พุ่งชูล่อตาเขา ดูดเม้มหัวนมสีหวานเข้าอุ้งปากทันทีจนเสิ่นเยี่ยนฟางถึงกับเงยหน้า แอ่นหน้าอกให้เขาได้ดื่มกิน“อื้อ ท่านพี่กลางป่ากลางเขานะเจ้าคะ ท่านไม่กลัวคนมาเจอหรือไง”“เขาลูกนี้รกทึบ ไม่มีชาวบ้านมาหรอกเมียจ๋า ข้าอยากรักเจ้าเสี่ยวฟาง ครางดังๆนะพี่อยากได้ยินเสียงหวานๆเหลือเกิน เมื่อคืนพี่สาวเจ้านอนห้องข้างๆด้
เสิ่นเยี่ยนฟางเริ่งรับรู้แล้วว่าผู้ชายที่เดินเคียงข้างนางนี้ไม่ธรรมดา นางเป็นหน่วยซิลนะ หูตาต้องไวแต่เขาถึงตัวนางโดยที่นางไม่ได้ยินเสียง รู้อีกทีเขากอดนางแล้ว แม้แต่ลมหายใจยังเก็บซ่อนได้ เขาไม่ใช่แค่บัณฑิตแก่เรียนแน่ๆ แต่นางจะไม่หาคำตอบนั้น บางครั้งแววตาเขาดูอ่อนแอจนเหมือนอยากหาใครสักคนมาคอยปลอบโยน“พี่สั่งอิฐมาแล้ว กระเบื้องจะมาส่งตอนเย็นน่ะพรุ่งนี้”“กลับไปข้าจะโม่ถั่ว กล่องไม้มาส่งเมื่อเช้าแล้ว หากขายได้ข้าจะสั่งเพิ่ม ข้าอยากช่วยชาวบ้านอย่างน้อยก็ช่วยคนที่ขยันไม่ขี้เกียจให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว”“ไม่เหนื่อยเกินไปหรือ เจ้ามาจากที่อื่นพวกเขาอาจไม่เชื่อใจ”“ไม่เป็นไรค่อยๆ ทำไป ทุกอย่างมีค่าตอบแทนข้าไม่ได้ทำเปล่าๆ ได้ทั้งเงินได้ทั้งชื่อเสียง อนาคตชื่อเสียงเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ท่านต้องการใช้ในการรับราชการเป็นขุนนาง”เมิ่งหย่งชวนหยุดเดินก่อนจะรั้งนางมากอดแล้วกดจมูกกับเรือนผมของนาง น้ำเสียงสั่นเครือของบุรุษบอกรักคนในอ้อมกอด“เสี่ยวฟางข้ารักเจ้า อย่ากังวลเลยอย่าลำบากเพื่อข้า ทุกอย่างต้องเป็นหน้าที่ข้าทำให้เจ้าสุขสบาย”“อืม ข้าเชื่อท่าน”ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงบ้านเชิงเขา แขกไม่ได้รับเชิญนั่
พูดจบนางก็เข้าไปในครัวต้อง นำไก่มาเชือดคอ รองเลือดไก่เอาไว้ด้วย เครื่องในถูกผ่าออกมาล้างด้วยแป้งสาลี เดิมทีใช้ขี้เถ้าก็ไม่สิ้นเปลือง แต่ว่ามีขุนนางคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วยแบบนั้นจะดูถูกเขาเกินไปเสิ่นเยี่ยนฟางสับไก่เป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ต้มน้ำเดือดใส่เกลือเล็กน้อยก่อนจะนำไก่ที่ได้มาลวกเพื่อเวลาตุ๋นน้ำจะได้ใส จากนั้นก็นำเครื่องตุ๋นที่พอจะหาได้มาใส่โถดินเผา นำโสมต้นเล็กที่ได้มาวันนี้ฝานเป็นแผ่น ตุ๋นให้สองพี่น้องบำรุงเสิ่นเยี่ยนฟางอยากคุยเรื่องสำคัญกับใต้เท้าเจ้าเมือง นางมีของอันตรายอยู่กับตัวต้องหาทางนำออกไป จึงเดินไปหาทั้งสองคนที่กำลังปรึกษากันอยู่“ท่านพี่ ข้าขอเวลารบกวนใต้เท้าโจวสักครู่นะเจ้าคะ”โจวหยวนมองหน้าเมิ่งหย่งชวน เขาพยักหน้าเบาๆ ให้ จากนั้นโจวหยวนจึงเอ่ยกับนาง“เชิญฮูหยินกล่าวเถิด”“เอ่อ ใต้เท้าโจวเจ้าคะ ข้าอยากทราบว่าโสมมีราคาอย่างไรเจ้าคะ”“โสมหรือ ถ้าอายุร้อยปีขึ้นไปรับซื้อที่สองร้อยตำลึงขึ้นราคาไปเรื่อยๆ ตามอายุของมันถ้าพันปีขึ้นไปรับซื้อที่สามหมื่นตำลึง แต่ตอนนี้หายากหากมีใครหาได้ราคาน่าจะอยู่ที่ห้าหมื่นตำลึง โสมหายาก แค่อายุ50-60ปียังหาแทบไม่ได้ ว่าแต่ฮูหยินคิดจะบำรุงร่างกายเ
ไม่นานเมิ่งลู่เจินเดินมาตามทั้งสองให้ไปกินมื้อเย็นก่อนใต้เท้าโจวบจะกลับเข้าในเมือง เจียงเสี่ยวฮวาขอยืมชุดเสิ่นเยี่ยนฟางก่อนสองชุดเพราะนางไม่มีเสื้อผ้า มีแต่ชุดที่ถูกปะชุน ไม่กล้าใส่ทำงานเกรงจะทำให้ใต้เท้าอับอายที่บ่าวไพร่ดูไม่ดีอาหารที่เสิ่นเยี่ยนฟางทำดูแปลกตา ไข่ตุ๋นใส่เห็ด เครื่องในไก่ผัดพริก น้ำแกงกระดูกหมูที่ซื้อมาแช่ไว้ในโอ่งเมื่อวานนี้ต้มกับหน่อไม้ที่นางได้มาตอนขึ้นเขา โจวหยวนไม่ใช่คนเรื่องมาก เขากินอาหารอย่าเอร็ดอร่อย เสิ่นเยี่ยนฟางตักน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมส่งให้เมิ่งหย่งชวนกับเมิ่งลู่เจินคนละถ้วย ตักให้โจวหยวนด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ขาดแคลนอาหารการกิน แต่โสมหายากมีเงินก็ใช่ว่าจะหากินได้ง่ายๆ"เมิ่งซิ่วไฉ ฮูหยินของท่านช่างมีพรสวรรค์มากนนัก ไม่ว่านางจะทำอาหารจานไหนข้ารู้สึกว่ามันอร่อยอย่างยิ่ง อีกทั้งน้ำแกงบำรุงถ้วยนี้ ข้ารู้สึกเกรงใจท่านจริงๆนี่คือของที่หามาอย่างลำบากเพื่อบำรุงสามีท่าน""ใต้เท้าอย่าเกรงใจเลยเจ้าค่ะ เรื่องวันก่อนข้ายังไม่ได้ตอบแทนท่านเลย วันนี้แค่น้ำแกงถ้วยเดียวไม่ถือว่ามากเกินไป ยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำเจ้าคะ่"" อืม ว่าแต่ได้ยินว่าท่านจะซ่อมแซมบ้านหรือท่านซิ่วไฉ""ขอรับใต้เ
เสิ่นเยี่ยนฟางมองค้อนเขาก่อนจะแยกชิ้นส่วนของหมูป่า จากนั้นก็เลือกเอาตรงเนื้อติดมันมาหมักเครื่องเทศเอาไว้ พรุ่งนี้เช้านางจะนำมาย่างไป เนื้อหมูป่าค่อนข้างเหนียวเสิ่นเยี่ยนฟางนำบางส่วนที่จะทำอาหารเช้าไปตุ๋นเพื่อให้นิ่ม พรุ่งนี้จะผัดกับเห็ด อยากได้พริกแต่ไม่ทันได้หาเมิ่งหย่งชวนก็มาจับนางกินจนหมดแรงหมดเวลาต้องลงจากเขาสองสามีภรรยากำลังช่วยกันทำงานโดยไม่รู้เลยว่าความยุ่งยากกำลังเดินทางมาหาพวกเขา ทั้งคู่ชำแหละหมูเรียบร้อยแล้วก็จัดเก็บไว้ในบ้านพวกบ้านใหญ่ถูกเสิ่นเยี่ยนฟางทุบจนลุกไม่ไหว แต่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วนอกจากเมิ่งซานที่ไหล่หลุด คนอื่นๆน่าจะเริ่มดีขึ้นแล้ว ต้องเก็บให้ดีไม่เช่นนั้นจะยกโขยงกันมาเอาเปรียบอีก"ไปอาบน้ำเถอะ ข้าผสมน้ำอุ่นให้ท่านเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวข้าขอไปดูเนื้อหมูที่ตุ๋นไว้สักหน่อย จะถอนฟืนออกเดี๋ยวน้ำแห้งจะไหม้เอา""พี่ไปช่วยดีกว่าจะได้เสร็จไวๆ นี่ก็ดึกมากแล้วจะได้ไปอาบน้ำให้พี่ด้วย ชำแหละหมูนี่เหนื่อยมากนักต้องออกแรง หมูป่าหนังเหนียวมากเพราะว่ามันตัวใหญ่"เมิ่งหย่งชวนเอ่ยกับเสิ่นเยี่ยนฟาง สายตากรุ้มกริ่มมากจนเสิ่นเยี่ยนฟางรู้ทันทีคนตรงหน้าหิวอีกแล้ว คืนนั้นไม่น่าพลาดให้เขาเล
เสิ่นเยี่ยนฟางเดินออกไปหาเมิ่งหลงก็เห็นเขาพาคนกลุ่มหนึ่งมาด้วย พวกเขาล้วนแต่งตัวดีใส่เสื้อผ้าราคาแพง สตรีอายุน่าจะไม่เกิน40แต่งกายด้วยไหมชั้นดี ชายชราวัยเดียวกับเมิ่งหลงมองเหยียดมายังนาง เสิ่นเยี่ยนฟางปัดมือที่เปื้อนดินก่อนจะไปหา"คารวะท่านปู่ใหญ่เจ้าค่ะ ท่านพี่ไม่อยู่เข้าเมืองไปกับอาเจิน มิทราบว่าท่านปู่มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ""เอ่อ เมียอาชวนนี่คือมารดาของสามีเจ้า นางมาเยี่ยมอาชวนกับอาเจินน่ะ พวกเขาจะกลับมาตอนไหนหรือ""ข้าตอบไม่ได้เจ้าค่ะ ท่านพี่ไปหาซื้ออาหารมาเลี้ยงคนที่จะมาช่วยซ่อมแซมรั้ว ถ้าเช่นนั้นก็ให้พวกเขานั่งรอเถอะเจ้าค่ะ"ลู่หานหนวดกระตุก บ้านโสโครกซอมซ่อเช่นนี้เกล้าเรียกเขานั่งหรือ จึงเอ่ยปากออกไป"นี่เจ้าเป็นผู้นำหมู่บ้าน มีที่ไหนให้ข้าได้นังพักดีกว่าเรือนโสโครกนี้บ้าง"ลู่ซินที่เพิ่งเห็นหน้าลูกสะใภ้ก็ถอนหายใจ บุตรขายเขารูปงามมากนัก เด็กสาวตรงหน้าก็งดงามเพียงแต่ฐานะของอาชวนกับนางนั้นแตกต่าง คงให้เป็นได้เพียงอนุเท่านั้น"ท่านพ่อ เราอย่าทำให้คนอื่นลำบากใจเลยเจ้าค่ะ นางเป็นภรรยาอาชวนอย่างไรเสียไว้หน้านางบ้าง""หึ เขาต้องแต่งกับท่านหญิงจะได้พ้นฐานะชาวนา ยังไงเสียนางก็เป็นได้แ
หลังจากที่เสิ่นเยี่ยนฟางกวดตีลู่หานกับลู่ซินจนกระเจิงก็มานั่งพรวนดินยกร่องผักของนางต่อ เมิ่งลู่เจินกำลังช่วยเสิ่นเยี่ยนฟางเก็บเศษวัชพืชที่พรวนขึ้นมา โจวหยวนกำลังคุยกับเมิ่งหย่งชวนอยู่ที่ลานหน้าบ้าน ชาดอกเก๊กอวยที่นางตากแล้วคั่ว ว่าจะลองไปเสนอขายดูสักหน่อย ตอนนี้มีเงินในมือกว่าห้าหมื่นตำลึง เช่าร้านค้าขายดีไหม อาเจินจะได้เรียนหนังสือด้วย นางชอบเด็กใฝ่เรียนใฝ่รู้เมิ่งลู่เจินเป็นเด็กหัวไว แต่บางอย่างต้องคุยกันให้รู้เรื่อง"อาเจิน อยากเรียนหนังสือไหม พี่สะใภ้อยากค้าขาย เจ้าจำเป็นต้องรู้หนังสือจะได้ช่วยพี่คุมบัญชีร้าน""ข้าทำได้หรือขอรับ ข้าเป็นคนโง่เขลา เมิ่งอี้มักด่าข้าว่าไอ้โง่เสมอ""เจ้าท่องตำราพันอักษรที่พี่ชายเจ้าสอนได้แล้ว ปราชขงจื๊อ คัมภีร์อี้หลุนเจ้าก็ท่องได้ อีกทั้งลายมือก็นับว่ามีระเบียบแบบแผน เจ้าจะใส่ใจคำพูดคนที่เรียนมา6ปีเพิ่งสอบผ่านถงเซิ่งอย่างเมิ่งอี้หรือ แปลว่าเจ้าดูถูกพี่ชายตนเอง หากเจ้าโง่เขลากแปลว่าพี่ชายเจ้าไม่ได้เรื่องเพราะเขาเป็นคนสอนเจ้า หากศิษย์ไม่ดีแปลว่าอาจารย์ไม่ได้เรื่อง""พี่สะใภ้ ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นขอรับ ข้าอยากเรียนแต่เรื่องเอ่อ""ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูด
ทางด้านโจวหยวนฝนตกหนักมากจนล้อรถม้าของเขาติดหล่ม นี่ยามห้ายแล้ว(21.00-22.59) เขายังไม่เข้าเมืองเลยจนกระทั่งทหารยามที่ให้คนขับรถม้าไปตามมาถึง จึงเข็นรถม้าขึ้นจากหล่มได้ หากไม่ติดว่าฝนตกหนักเขาคงเดินกลับจวนแล้วโจวหยวนมาถึงจวนเกือบปลายยามห้าย บ่าวเตรียมน้ำร้อนให้เขาเรียบร้อย เขาคิดถึงคนตัวเล็กจึงเรียกหาแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงเดินถือวิสาสะเข้าไปในห้อง เห็นนางนอนหลับอยู่ เสียงสะอื้นเบาๆดังออกมาโจวหยวนเอื้อมมือไปปลุกเจียงเสี่ยงฮวาจึงลืมตา พอเห็นเป็นเขาก็รีบลุกขึ้น มือปาดน้ำตาก่อนจะก้มหน้า โจวหยวนโบกมือทีเดียว ตะเกียงก็สว่างขึ้นมา เขารั้งนางเข้ามาหาถามไถ่สาเหตุ"ร้องไห้ทำไม่ เจ้าไม่อยากอยู่ที่นี่หรือ เจ้ารังเกียจข้าหรือเสี่ยวฮวาน้อย""เปล่าเจ้าค่ะ""เงยหน้าสิ เหตุใดเอาแต่ก้มหน้ากัน" เจียงเสี่ยวฮวาไม่กล้ามองหน้าเขา โจวหยวนเชยคางนางขึ้นมา ทันทีที่เห็นใบหน้าด้านซ้ายบวมเขาถึงกับกัดฟัน"ฝีมือใครเสี่ยวฮวา""ไม่มีเจ้าค่ะ ใต้เท้าท่านมาเหนื่อยๆให้ข้าอาบน้ำให้นะเจ้าคะ ข้าจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้"เจียวเสี่ยวฮวาทำท่าจะลุก แต่เขารั้งไว้ช้อนนางมานั่งบนตัก ก่อนจะจุมพิตข้างที่ถูกคนตบมา เจียงเสี่ยวฮวามองหน้าเขา"
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ