เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้กำลังทายาให้พี่สาวอยู่ ในใจอยากไปตบสั่งสอนนังผู้หญิงคนนั้นจริง เจียงเสี่ยวฮวานิ่วหน้า"เจ็บมากไหมพี่หญิง""ไม่เป็นไร เสี่ยวฟางเจ้าจะมาช่วยงานเลี้ยงใต้เท้าโจวหรือ""ใช่เจ้าค่ะ เมื่อคืนต้มปลามาให้ท่านคงไม่ได้กินสักคำ ข้าเอาเต้าหู้มาด้วยเดี๋ยวจะทำให้ท่านกิน พี่หญิงข้าเลี้ยงท่านได้ หากคนสกุลเจียงมาหาเรื่องข้าจะกวดตีพวกเขากลับไป ท่านกลับไปอยู่กับข้าดีกว่าไหม ใต้เท้าโจวป้องกันคนนอกได้แต่ป้องกันคนในไม่ได้ข้าเป็นห่วงท่านน่ะ"โจวหยวนที่เพิ่งมาถึงก็หน้าดำเป็นก้นหม้อ ฮูหยินนี่ยังไงกันนะ กว่าเขาจะเอานางไว้ข้างกายไม่ง่ายเลย อยู่ๆจะมาแย่งก่อนจะหันไปหาเมิ่งหย่งชวน"นี่ท่านแม่ทัพ เมียท่านจะแย่งว่าที่เมียข้าแล้วไปจัดการคนของท่านหน่อย ตอบแทนที่ข้าเล่นงานลู่หานให้ท่านวันนี้""หึ เล่นงานลูหานให้ข้าหรือว่าท่านเล่นงานหลี่เสี่ยวเหม่ยกันแน่ ตาเฒ่าโจว"ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าห้องก็เอ่ยเรียกคนด้านใจ เสิ่นเยี่ยนฟางที่ได้ยินเสียงสามีก็รีบออกมาหา จากนั้นก็เบี่ยงตัวให้พวกเขาเข้ามา เจียงเสี่ยวฟางนอนอยู่บนเตียง แต่ว่าม่านถูกรูดปิดเรียบร้อยแล้ว เมิ่งหย่งชวนเอ่ยไถ่ถามอาการ"ท่านพี่ภรรยา ท่านเป็นอย่
"พวกท่านเป็นใครกัน ข ข้าขอบคุณมาก" ดรุณีน้อยที่เพิ่งหายตกใจเอ่ยตะกุกตะกักขอบคุณเสิ่นเยี่ยนฟางกับเมิ่งหย่งชวน"ข้ากำลังจะมาดูหน้าสตรีที่คิดแย่งสามีข้าพอดี อืม เจ้าคือท่านหญิงคนนั้นที่ต้องการแต่งงานกับสามีข้าเมิ่งหย่งชวนหรือ ใบหน้างดงามราวเทพธิดาเชียว แต่ยังสวยไม่พอหรอก คนสวยต้องมีสามีของตัวเองไม่ใช่แย่งสามีคนอื่น""อะไรนะ?!! บัณฑิตท่านนั้นมีภรรยาแล้วหรือ ข ข้าไม่รู้ใต้เท้าลู่บอกว่าบ้านเขายากจน เป็นเพียงชาวนาแต่ว่ากลับเรียนเก่งและมีความสามารถอนาคตก้าวหน้า แต่งกับเขาข้าจะไม่ถูกคนดูหมิ่น"หยางซิงเหยียนเอ่ยแก่เสิ่นเยี่ยนฟาง นางตกใจจนลืมสังเกตบุรุษที่ยืนอยู่ข้างๆสตรีงดงามที่ช่วยนางไว้ จนกระทั่งเขาเอ่ยขึ้น"ท่านหญิง ตัวข้าเมิ่งหย่งชวนมีภรรยาแล้ว ชาตินี้ไม่แต่งภรรยาเพิ่ม ไม่รับอนุ ขอท่านตัดใจเถอะอย่าให้คนทั้งเมืองก่นดาว่าท่านเป็นถึงบุตรสาว ท่านอ๋องแต่กลับแย่งสามีชาวบ้าน"หยางซิงเหยียน นั่งลงร้องไห้สะอื้นจะตัวโยน เสิ่นเยี่ยนฟางเข้าใจนางทุกอย่างจึงเอ่ยขึ้น"ข้าได้ยินบทสนทนาเหล่านั้นแล้ว นี่ท่านหญิงท่าจะแต่งงานประชดบุรุษเช่นนี้ไม่ได้ หากเมื่อถึงเวลาแล้วเขาไม่ใส่ใจท่านจริงๆท่านต้องแต่งงานไปกับคนท
ส่วนทางด้านของหยางซิงเหยียนที่ได้มาถึงบ้านของเมิ่งหย่งชวนก็กระโดดลงจากเกวียนทันที เสิ่นเยี่ยนฟางจุงมือนางให้เดินตามาที่ท้ายหมู่บ้าน บรรยากาศดักว่าที่โรงเตี้ยมนั่นเสียอีก"นี่บัณฑิตเมิ่ง ฮุหยินบ้านของพวกท่านน่าอยู่มากเลย ข้าชอบที่นี่ข้าไม่กลับเมืองหลวงแล้ว ไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้ายหวงหย่งเหนียน""ท่านหญิง ที่นี่ไม่มีข้าทาสบริวาร ทุกอย่างท่านต้องช่วยเหลือตนเอง ท่านแน่ใจหรือว่าจะอยู่ได้"เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยขึ้น แต่หยางซิงเหยียนไม่ได้สนใจ นางกำลังเห็นลำธารหลังบ้าน ข้าไปหน่อยเป็นภูเขาสูง ต้นไม่มากมายเลย มีดอกไม้ป่าเต็มไปหมด หยางซิงเหยียนวิ่งเล่นเจอดอกไม้ก็เก็บมาแซมผม เมิ่งหย่งชวนมองตามร่างน้อยที่วิ่งไปมา เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นเขามองนางไม่วางตาก็อยากรู้ว่าเพราะอะไรสายตาของเขาไม่ได้บ่งบอกว่าชื่นชอบสตรีหรืออย่างไร แต่มันบ่งบอกถึงความหนักใจ เสิ่นเยี่ยนฟางจึงเดินไปหาจับมือเขาแล้วมองหน้"เจ้ากำลังคิดว่าพี่คิดสิ่งใดอยู่หรือเสี่ยวฟาง""ข้าเห็นท่านมองนางไม่วางตา ท่านกำลังคิดว่าที่พานางมาอยู่บ้านเรานั้นเป็นเรื่องผิดหรือถูกใช่หรือไม่เจ้าคะ""เสี่ยวฟาง พี่มีเรื่องต้องคุยกับเจ้าสักหน่อย หลังมือเย็นอาเจินล่ะ
หยางซิงเหยียนร้องไห้จนหลับ เสิ่นเยี่ยนฟางที่หูดีได้ยินเสียงสะอื้นก็นอนฟัง พอหลังจากที่นางหลับเมิ่งหย่งชวนจึงไปเรียกน้องชายมาคุยเมิ่งลู่เจินนั่งลง เมิ่งหย่งชวนจึงเอ่ยกับเสิ่นเยี่ยนฟางและน้องชาย"เสี่ยวฟาง อาเจิน หลังจากงานเลี้ยงใต้เท้าแล้วพี่จะเร่งซ่อมรั้วบ้านทันที เปลี่ยนหลังคาพรุ่งนี้วันเดียวก็เสร็จ""ท่านต้องไปสอบ เรื่องบ้านข้าทำเองก็ได้เจ้าค่ะ""เสี่ยวฟางหากพี่ไม่ได้เข้าสอบ ไม่ได้เป็นขุนนางเจ้ายังจะรักพี่หรือไม่""ข้าแต่งให้ท่าน ต่อให้ต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยงท่านก็ต้องทำ หรือว่าท่านเต็มใจให้ข้ามีสามีใหม่เล่า ว้าย"เมิ่งหย่งชวนไม่สนใจน้องชาย จับนางมานั่งตักทันทีแล้วประคองใบหน้างามให้จ้องหน้าเขา สบตาสุกใสของนาง ดวงตาสีน้ำหมึกของเมิ่งหย่งชวนทำเอาเสิ่นเยี่ยนฟางอยากจูบเขาจริงๆ ติดที่น้องสามีนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยนี่แหละ"นี่ฉันหื่นกาม ลามกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ"เสิ่นเยี่ยนฟางถามตัวเองในใจ ก่อนจะได้ยินเสียงเมิ่งหย่งชวนพูดด้วยน้ำเสียงเข้มดุนาง"กล้าหรือ ใครมาใกล้เจ้าหรือเจ้าแต่งงานใหม่พี่จะส่งพวกมันลงปรโลกให้หมดเลย""คนทึ่ม ท่านรูปงามเพียงนี้จะให้ข้าเอาตาไปมองใครเล่า ว่าแต่วันนี้ท่านถอนหายใ
หยางชิงเหยียนนอนหลับไปอีกครั้ง อากาศเชิงเขานับว่าหนาวนัก ด้านนอกฝนลงเม็ดอีกแล้ว มีผ้านวมผืนหนา กลิ่นฟางที่เปียกฝนทำให้ผ่อนคลายกว่ากลิ่นกำยานในเมืองหลวงเสียอีกหยางซิงเหยียนหลับไปโดยไม่รู้เลยว่าอีกด้านของโรงเตี้ยมกำลังเกิดเรื่องวุ่นวาย ยามเว่ยแล้วเสียงสายฝนดังกระทบกระเบื้องของโรงเตี้ยม หวงหย่งหนียนที่เพิ่งจะเข้านอนได้ยินเสียงเคาะประตูจึงจำใจต้องลุกขึ้นมาทันทีที่เปิดประตูก็เห็นสาวใช้ข้างกายของหยางซิงเหยียนยืนอยู่หน้าห้อง เขาปิดประตูใส่หน้านางทันที เด้กบ้านคนนั้นวันๆหาแต่เรื่องน่ารำคาญเสียจริงก๊อกๆๆๆ"ท่านราชครูได้โปรดเถอะเจ้าค่ะ ท่านหญิงหายไปท่านได้โปรดช่วยตามหานางด้วย""อย่ามาลูกไม้ นางจะไปไหนได้ เล่นแมวจับหนูกับข้าหรือ เป็นท่านหญิงไม่เคยสำรวม อยากแต่งงานก็มาแล้วพรุ่งนี้ก็ไปเจอหน้าคนที่นางอยากแต่งแล้วบอกนางรีบเข้านอน""ท่านราชครู ท่านหญิงหายไปจริงเจ้าค่ะฮือๆๆๆ นางให้ขอทานมาส่งจดหมายจนป่านนี้ยังไม่กลับเลยเจ้าค่ะ"สาวใช้ร้องไห้อยู่หน้าประตู หวงหย่งเหนียนไม่ใส่ใจ เด็กคนนี้นับวันยิ่งเจ้าแผนการ อยากขึ้นเตียงเขาขนาดนั้นเชียวหรือ ไร้ยางอายเต็มทน เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ทำตัวต่ำนัก หวงหย่งเหนียนไ
หวงหย่งเหนียน อยากจะเข้าไปกระชากเจ้าเด็กบ้านี่มาทุบเสียจริงๆ ที่แท้ไอ้เด็กบ้านี่รู้อยู่แต่แรกเหตุใดไม่ให้คนไปแจ้งกับเขา โจวหยวนให้อาเฉิงนำทางไปห้องพักโจวหยวนกลับเข้ามาในห้อง เจียงเสี่ยวฮวาหลับไปแล้ว น่าจะเพราะบาดแผลทำให้นางเริ่มมีไข้ โจวหยวนปลุกนางกินยา ก่อนจะให้นางนอนหลับเขานอนข้างๆกอดนางเอาไว้ เด็กคนนี้บอบบางเหลือเกิน ผิดกับคนที่กำลังก่อเรื่อง ไอ้เด็กบ้านั่นวันๆจ้องแต่จะแต่งกับตาเฒ่าหย่งเหนียนให้ได้ ไม่เห็นเขาจะมีดีตรงไหนสักนิดยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังเตรียมอาหารให้คนงานที่มาเปลี่ยนกระเบื้องก็เห็นรถม้าของจวนเจ้าเมืองมาแต่เช้า หืม นี่มาทำไมแต่ไก่โห่หวงหย่งเหนียบนลงมา เขามีไข้เพราะตากฝนเดินเคาะประตูบ้านตามหาตัวต้นเรื่องครึ่งคืน โจวหยวนลงจากรถม้าก่อนจะเดินตรงมาหานาง"เมิ่งฮูหยินมารบกวนท่านแต่เช้า มิทราบว่าหลานสาวตัวดีของข้าอยู่หรือไม่""ท่ายหมายถึงซิงเหยียนหรือเจ้าคะ นางไปกับอาหลี่ไล่กวดจับกุ้งมังกรเล็กกันแต่เช้าแล้ว""อะไรคือไปแต่เช้า เด็กนี่ตื่นเช้าเป็นด้วยหรือ แม่นางมิทราบว่านางอยู่ที่ใดกัน"เสิ่นเยี่ยนฟางชี้มือไปที่นาบัวสุดลูกหูลูกตา นางทำอาหารจากกุ้งมังกรจิ๋วให้ผู้นำหมู่บ้า
หยางซิงเหยียนดันใบหน้าที่โน้มมาหานางอีกครั้งออก แต่ครั้งนี้นางสัมผัสที่แปลกไป เหตใดตัวร้อนนัก ใบหน้าเขาแดงกล่ำ"ท่านป่วยหรือ เหตใดตัวร้อนนัก""อย่าใส่ใจมาต่อเถอะ วันนี้เจ้าต้องเข้าหอกับข้าแม่ตัวดีอย่าเปลี่ยนเรื่อง""อื้อ ท่านไม่สบายเดี๋ยวข้าติดไข้จากท่านนะ หวงหย่งเหนียน ตาเฒ่า อื้อ พอแล้วนมข้าเหลวหมดแล้ว อย่าบีบแรงสิ"คนตัวโตไม่สนใจยังคงดูดดื่มบีบเคล้น หยางซิงเหยียนจึงนอนนิ่งให้เขาทำตามใจ หวงหย่งเหนียนเห็นนางแปลกไปจึงละจากเต้าสองข้างมองหน้าคนใต้ร่าง"หืม อยากนอนเป็นท่อนไม้ คิดว่าข้าทำให้เจ้าครวญครางใต้ร่างข้าไม่ได้จริงๆหรือเหยียนเหยียน หื้ม""อยากทำก็ทำ ในเมื่อห้ามท่านไม่ได้นี่"นิ้วร้ายเขี่ยเม็ดทับทอมเล่นไปมา บางครั้งก็บี้จนมันชูชัน คนตัวเล็กเริ่มบิดกายเล็กน้อย หวงหย่งเหนียนอมยิ้ม จะเล่นบทท่อนไม่แข็งทื่อ เขาจะปลุกความเร่าร้อนในกายนางเองมาดูกันแม่ตัวดี"ถ้าข้าทำให้เจ้าครางเรียกชื่อข้าไม่ได้ภายในครึ่งเข่อข้าจะปล่อยเจ้าดีไหมทูนหัว""ไม่มีทาง ข้าไม่ชอบท่านแล้ว เมิ่งหลี่อ่อนโยน ใส่ใจข้า เป็นห่วงเป็นใยทั้งที่เพิ่งเจอกัน แต่ว่าท่านที่ผ่านมามีแต่ความแล้งน้ำใจ ข้าเริ่มคิดว่าข้าชอบเขาแล้ว อ่าห
เมิ่งหย่งชวนไปกับโจวหยวนแต่เช้า คนของทางการและชาวบ้านในหมู่บ้านก็มาช่วยกันซ่อมแซมหลังคา เปลี่ยนจากหญ้าคาเป็นกระเบื้อง ชาวบ้านในหมู่บ้านร่มใจกันเสิ่นเยี่ยนฟางทำอาหารเลี้ยงพวกเขา เนื่องจากมีหมูป่าอีกตัวที่ยังไม่ได้เชือดนางจึงขอให้ท่านลุงในหมู่บ้านเชือดให้ เพื่อนำมาทำอาหารเลี้ยงคนที่มาซ่อมแซมบ้านวันนี้หมูป่าถูกนำมาย่างทาด้วยน้ำผึ้ง อีกทั้งกระดูกหมูถูกนำมาเคี่ยวไฟอ่อนๆจนกระทั่งน้ำแกงที่ได้ใส เสิ่นเยี่ยนฟางนำเห็ดเยื่อไผ่มาตุ๋นกับกระดูกหมู เก๋ากี้ที่เก็บมาจากบนเขาเมื่อครั้งก่อนนำมาใส่ในน้ำแกง เห็ดสนที่เก็บมาได้นำมาตุ๋นกับไข่ เสิ่นเยี่ยนฟางแปลกใจ เห็ดเก็บมาหลายวันแล้ว อีกทั้งฝนตกตากแดดไม่ได้แต่กลับสดใหม่เหมือนเพิ่งจะถอนมาจากดินหน่อไม้ที่ดองไว้วันก่อนนำมาผัดได้แล้ว เสิ่นเยี่ยนฟางผัดหน่อไม้เส้นกับหอยขม นางเก็บหอยขมมาลวกแคะเนื้อด้านในออก ผัดใส่พริก อาหารทำเสร็จแล้ว คนงานต่างก็กินข้าวกลางวันที่ปกติพวกเขาไม่ได้กินมื้อเที่ยง เพราะว่ามันสิ้นเปลืองพวกเขามิได้มีเงินทองมากมายนัก แค่สองมื้อยังลำบากเลย แต่บ้านเมิ่งซิ่วไฉกลับมีอาหารกินครบสามมื้อ ช่างดีเหลือเกินการเป็นคนรู้หนังสือนับว่ามีทางรอดเยอะกว่า
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ