ส่วนทางด้านของหยางซิงเหยียนที่ได้มาถึงบ้านของเมิ่งหย่งชวนก็กระโดดลงจากเกวียนทันที เสิ่นเยี่ยนฟางจุงมือนางให้เดินตามาที่ท้ายหมู่บ้าน บรรยากาศดักว่าที่โรงเตี้ยมนั่นเสียอีก"นี่บัณฑิตเมิ่ง ฮุหยินบ้านของพวกท่านน่าอยู่มากเลย ข้าชอบที่นี่ข้าไม่กลับเมืองหลวงแล้ว ไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้ายหวงหย่งเหนียน""ท่านหญิง ที่นี่ไม่มีข้าทาสบริวาร ทุกอย่างท่านต้องช่วยเหลือตนเอง ท่านแน่ใจหรือว่าจะอยู่ได้"เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยขึ้น แต่หยางซิงเหยียนไม่ได้สนใจ นางกำลังเห็นลำธารหลังบ้าน ข้าไปหน่อยเป็นภูเขาสูง ต้นไม่มากมายเลย มีดอกไม้ป่าเต็มไปหมด หยางซิงเหยียนวิ่งเล่นเจอดอกไม้ก็เก็บมาแซมผม เมิ่งหย่งชวนมองตามร่างน้อยที่วิ่งไปมา เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นเขามองนางไม่วางตาก็อยากรู้ว่าเพราะอะไรสายตาของเขาไม่ได้บ่งบอกว่าชื่นชอบสตรีหรืออย่างไร แต่มันบ่งบอกถึงความหนักใจ เสิ่นเยี่ยนฟางจึงเดินไปหาจับมือเขาแล้วมองหน้"เจ้ากำลังคิดว่าพี่คิดสิ่งใดอยู่หรือเสี่ยวฟาง""ข้าเห็นท่านมองนางไม่วางตา ท่านกำลังคิดว่าที่พานางมาอยู่บ้านเรานั้นเป็นเรื่องผิดหรือถูกใช่หรือไม่เจ้าคะ""เสี่ยวฟาง พี่มีเรื่องต้องคุยกับเจ้าสักหน่อย หลังมือเย็นอาเจินล่ะ
หยางซิงเหยียนร้องไห้จนหลับ เสิ่นเยี่ยนฟางที่หูดีได้ยินเสียงสะอื้นก็นอนฟัง พอหลังจากที่นางหลับเมิ่งหย่งชวนจึงไปเรียกน้องชายมาคุยเมิ่งลู่เจินนั่งลง เมิ่งหย่งชวนจึงเอ่ยกับเสิ่นเยี่ยนฟางและน้องชาย"เสี่ยวฟาง อาเจิน หลังจากงานเลี้ยงใต้เท้าแล้วพี่จะเร่งซ่อมรั้วบ้านทันที เปลี่ยนหลังคาพรุ่งนี้วันเดียวก็เสร็จ""ท่านต้องไปสอบ เรื่องบ้านข้าทำเองก็ได้เจ้าค่ะ""เสี่ยวฟางหากพี่ไม่ได้เข้าสอบ ไม่ได้เป็นขุนนางเจ้ายังจะรักพี่หรือไม่""ข้าแต่งให้ท่าน ต่อให้ต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยงท่านก็ต้องทำ หรือว่าท่านเต็มใจให้ข้ามีสามีใหม่เล่า ว้าย"เมิ่งหย่งชวนไม่สนใจน้องชาย จับนางมานั่งตักทันทีแล้วประคองใบหน้างามให้จ้องหน้าเขา สบตาสุกใสของนาง ดวงตาสีน้ำหมึกของเมิ่งหย่งชวนทำเอาเสิ่นเยี่ยนฟางอยากจูบเขาจริงๆ ติดที่น้องสามีนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยนี่แหละ"นี่ฉันหื่นกาม ลามกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ"เสิ่นเยี่ยนฟางถามตัวเองในใจ ก่อนจะได้ยินเสียงเมิ่งหย่งชวนพูดด้วยน้ำเสียงเข้มดุนาง"กล้าหรือ ใครมาใกล้เจ้าหรือเจ้าแต่งงานใหม่พี่จะส่งพวกมันลงปรโลกให้หมดเลย""คนทึ่ม ท่านรูปงามเพียงนี้จะให้ข้าเอาตาไปมองใครเล่า ว่าแต่วันนี้ท่านถอนหายใ
หยางชิงเหยียนนอนหลับไปอีกครั้ง อากาศเชิงเขานับว่าหนาวนัก ด้านนอกฝนลงเม็ดอีกแล้ว มีผ้านวมผืนหนา กลิ่นฟางที่เปียกฝนทำให้ผ่อนคลายกว่ากลิ่นกำยานในเมืองหลวงเสียอีกหยางซิงเหยียนหลับไปโดยไม่รู้เลยว่าอีกด้านของโรงเตี้ยมกำลังเกิดเรื่องวุ่นวาย ยามเว่ยแล้วเสียงสายฝนดังกระทบกระเบื้องของโรงเตี้ยม หวงหย่งหนียนที่เพิ่งจะเข้านอนได้ยินเสียงเคาะประตูจึงจำใจต้องลุกขึ้นมาทันทีที่เปิดประตูก็เห็นสาวใช้ข้างกายของหยางซิงเหยียนยืนอยู่หน้าห้อง เขาปิดประตูใส่หน้านางทันที เด้กบ้านคนนั้นวันๆหาแต่เรื่องน่ารำคาญเสียจริงก๊อกๆๆๆ"ท่านราชครูได้โปรดเถอะเจ้าค่ะ ท่านหญิงหายไปท่านได้โปรดช่วยตามหานางด้วย""อย่ามาลูกไม้ นางจะไปไหนได้ เล่นแมวจับหนูกับข้าหรือ เป็นท่านหญิงไม่เคยสำรวม อยากแต่งงานก็มาแล้วพรุ่งนี้ก็ไปเจอหน้าคนที่นางอยากแต่งแล้วบอกนางรีบเข้านอน""ท่านราชครู ท่านหญิงหายไปจริงเจ้าค่ะฮือๆๆๆ นางให้ขอทานมาส่งจดหมายจนป่านนี้ยังไม่กลับเลยเจ้าค่ะ"สาวใช้ร้องไห้อยู่หน้าประตู หวงหย่งเหนียนไม่ใส่ใจ เด็กคนนี้นับวันยิ่งเจ้าแผนการ อยากขึ้นเตียงเขาขนาดนั้นเชียวหรือ ไร้ยางอายเต็มทน เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ทำตัวต่ำนัก หวงหย่งเหนียนไ
หวงหย่งเหนียน อยากจะเข้าไปกระชากเจ้าเด็กบ้านี่มาทุบเสียจริงๆ ที่แท้ไอ้เด็กบ้านี่รู้อยู่แต่แรกเหตุใดไม่ให้คนไปแจ้งกับเขา โจวหยวนให้อาเฉิงนำทางไปห้องพักโจวหยวนกลับเข้ามาในห้อง เจียงเสี่ยวฮวาหลับไปแล้ว น่าจะเพราะบาดแผลทำให้นางเริ่มมีไข้ โจวหยวนปลุกนางกินยา ก่อนจะให้นางนอนหลับเขานอนข้างๆกอดนางเอาไว้ เด็กคนนี้บอบบางเหลือเกิน ผิดกับคนที่กำลังก่อเรื่อง ไอ้เด็กบ้านั่นวันๆจ้องแต่จะแต่งกับตาเฒ่าหย่งเหนียนให้ได้ ไม่เห็นเขาจะมีดีตรงไหนสักนิดยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังเตรียมอาหารให้คนงานที่มาเปลี่ยนกระเบื้องก็เห็นรถม้าของจวนเจ้าเมืองมาแต่เช้า หืม นี่มาทำไมแต่ไก่โห่หวงหย่งเหนียบนลงมา เขามีไข้เพราะตากฝนเดินเคาะประตูบ้านตามหาตัวต้นเรื่องครึ่งคืน โจวหยวนลงจากรถม้าก่อนจะเดินตรงมาหานาง"เมิ่งฮูหยินมารบกวนท่านแต่เช้า มิทราบว่าหลานสาวตัวดีของข้าอยู่หรือไม่""ท่ายหมายถึงซิงเหยียนหรือเจ้าคะ นางไปกับอาหลี่ไล่กวดจับกุ้งมังกรเล็กกันแต่เช้าแล้ว""อะไรคือไปแต่เช้า เด็กนี่ตื่นเช้าเป็นด้วยหรือ แม่นางมิทราบว่านางอยู่ที่ใดกัน"เสิ่นเยี่ยนฟางชี้มือไปที่นาบัวสุดลูกหูลูกตา นางทำอาหารจากกุ้งมังกรจิ๋วให้ผู้นำหมู่บ้า
หยางซิงเหยียนดันใบหน้าที่โน้มมาหานางอีกครั้งออก แต่ครั้งนี้นางสัมผัสที่แปลกไป เหตใดตัวร้อนนัก ใบหน้าเขาแดงกล่ำ"ท่านป่วยหรือ เหตใดตัวร้อนนัก""อย่าใส่ใจมาต่อเถอะ วันนี้เจ้าต้องเข้าหอกับข้าแม่ตัวดีอย่าเปลี่ยนเรื่อง""อื้อ ท่านไม่สบายเดี๋ยวข้าติดไข้จากท่านนะ หวงหย่งเหนียน ตาเฒ่า อื้อ พอแล้วนมข้าเหลวหมดแล้ว อย่าบีบแรงสิ"คนตัวโตไม่สนใจยังคงดูดดื่มบีบเคล้น หยางซิงเหยียนจึงนอนนิ่งให้เขาทำตามใจ หวงหย่งเหนียนเห็นนางแปลกไปจึงละจากเต้าสองข้างมองหน้าคนใต้ร่าง"หืม อยากนอนเป็นท่อนไม้ คิดว่าข้าทำให้เจ้าครวญครางใต้ร่างข้าไม่ได้จริงๆหรือเหยียนเหยียน หื้ม""อยากทำก็ทำ ในเมื่อห้ามท่านไม่ได้นี่"นิ้วร้ายเขี่ยเม็ดทับทอมเล่นไปมา บางครั้งก็บี้จนมันชูชัน คนตัวเล็กเริ่มบิดกายเล็กน้อย หวงหย่งเหนียนอมยิ้ม จะเล่นบทท่อนไม่แข็งทื่อ เขาจะปลุกความเร่าร้อนในกายนางเองมาดูกันแม่ตัวดี"ถ้าข้าทำให้เจ้าครางเรียกชื่อข้าไม่ได้ภายในครึ่งเข่อข้าจะปล่อยเจ้าดีไหมทูนหัว""ไม่มีทาง ข้าไม่ชอบท่านแล้ว เมิ่งหลี่อ่อนโยน ใส่ใจข้า เป็นห่วงเป็นใยทั้งที่เพิ่งเจอกัน แต่ว่าท่านที่ผ่านมามีแต่ความแล้งน้ำใจ ข้าเริ่มคิดว่าข้าชอบเขาแล้ว อ่าห
เมิ่งหย่งชวนไปกับโจวหยวนแต่เช้า คนของทางการและชาวบ้านในหมู่บ้านก็มาช่วยกันซ่อมแซมหลังคา เปลี่ยนจากหญ้าคาเป็นกระเบื้อง ชาวบ้านในหมู่บ้านร่มใจกันเสิ่นเยี่ยนฟางทำอาหารเลี้ยงพวกเขา เนื่องจากมีหมูป่าอีกตัวที่ยังไม่ได้เชือดนางจึงขอให้ท่านลุงในหมู่บ้านเชือดให้ เพื่อนำมาทำอาหารเลี้ยงคนที่มาซ่อมแซมบ้านวันนี้หมูป่าถูกนำมาย่างทาด้วยน้ำผึ้ง อีกทั้งกระดูกหมูถูกนำมาเคี่ยวไฟอ่อนๆจนกระทั่งน้ำแกงที่ได้ใส เสิ่นเยี่ยนฟางนำเห็ดเยื่อไผ่มาตุ๋นกับกระดูกหมู เก๋ากี้ที่เก็บมาจากบนเขาเมื่อครั้งก่อนนำมาใส่ในน้ำแกง เห็ดสนที่เก็บมาได้นำมาตุ๋นกับไข่ เสิ่นเยี่ยนฟางแปลกใจ เห็ดเก็บมาหลายวันแล้ว อีกทั้งฝนตกตากแดดไม่ได้แต่กลับสดใหม่เหมือนเพิ่งจะถอนมาจากดินหน่อไม้ที่ดองไว้วันก่อนนำมาผัดได้แล้ว เสิ่นเยี่ยนฟางผัดหน่อไม้เส้นกับหอยขม นางเก็บหอยขมมาลวกแคะเนื้อด้านในออก ผัดใส่พริก อาหารทำเสร็จแล้ว คนงานต่างก็กินข้าวกลางวันที่ปกติพวกเขาไม่ได้กินมื้อเที่ยง เพราะว่ามันสิ้นเปลืองพวกเขามิได้มีเงินทองมากมายนัก แค่สองมื้อยังลำบากเลย แต่บ้านเมิ่งซิ่วไฉกลับมีอาหารกินครบสามมื้อ ช่างดีเหลือเกินการเป็นคนรู้หนังสือนับว่ามีทางรอดเยอะกว่า
เสิ่นเยี่ยนฟางนำโสมสองต้นมาให้เมิ่งหย่งชวนดู ทันทีที่เขาเห็นก็ตะลึงตาค้างนางคิดถูกแล้วที่ไม่เอาออกมาก่อนหน้า แม้ว่าโจวหยวนจะเป็นขุนนางซื่อสัตย์ภักดี แต่ในสถานการณ์ที่โสมขาดแคลนเช่นนี้จะทำให้โจวหยวนเองก็มีอันตรายไปด้วย ดูเหมือนวันก่อนโจวหยวนจะเอ่ยเรื่องนี้กับเขา"เฮ้อ ท่านแม่ทัพ โสมที่ฮูหยินของท่านนำมาให้นั้นใช้รักษาไทเฮาไปหมดแล้ว ตอนนี้ไท่ซ่างหวงทรงประชวร พวกเขาถามหาโสมว่ายังหาเจอหรือไม่ หาได้จากที่ใด ข้าเกรงว่าจะนำความเดือดร้อนมาให้ท่านกับนางจึงบอกว่าเจอกับคนหาสมุนไพรที่เมืองเหลยเป่าพอดีเขาไม่อยากเข้าเมืองอยากได้เงินไปตามหาบิดาเขาเลยขายข้าน่ะ""เสี่ยวฟาง ข้าจะหาทางติดต่อโรงประมูล โสมนี้น่าจะเกือบหมื่นปีราคาไม่อาจคาดเดา หากประมูลอาจเริ่มต้นที่สองล้านตำลึง""ท่านพี่ ท่านคิดว่ามันจะนำภัยมาสู่คนครอบครองใช่หรือไม่เจ้าคะ""อืม ใต้เท้าโจวเองแม้ว่าจะไม่เกรงใครแต่ในยุทธภพนี้ราชสำนักไม่อาจสอดมือได้ทั่ว บางทีอาจมีเสือซ่อนมังกรหมอบอยู่ทั่วไป อีกอย่างน้ำในเมืองหลวงลึกนัก สกุลโจวเองแม้จะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งก็ใช่ว่าไม่มีศัตรู ดูอย่างที่ลู่หานมาครั้งนี้พาคุณหนูหลี่มาด้วยก็หวังใช้นางเป็นเครื่องมือคว
เสิ่นเยี่ยนฟางหันขวับทันที เขารู้ว่านางมาจากที่อื่นเป็นวิญญาณที่มาจากอีกที่หรือ เสี่ยวเย่างอนมารดาจึงกอดอกนั่งขัดสมาธิลอยอยู่เหนือลำธาร เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นภาพนี้ถึงกับกลืนน้ำลายจะวิ่งหนีก็ก้าวขาไม่ออก เอางี้จริงสิ"เจ้าไม่ใช่ผีใช่ไหม จ จ เจ้าลอยได้ด้วยหรือ""หึ เมื่อตอนสายท่านก็เอ่ยเช่นนี้ท่านแม่ ข้าเสียใจนะ"หนุ่มน้อยสะบัดหน้าหนีมารดา เขาคือปราณฟ้าดินเชียวนะ มารดากลับหาว่าเขาเป็นผีเร่ร่อน"เอาล่ะๆ ข้าสับสนเล่ามาให้ะเอียด ข้าอยากรู้""ข้าคือปราณฟ้าดิน ก่อกำเนิดเป็นจิตวิญญาณแห่งปัฐพี ถูกแดนเซียนจับไปใช้เป็นอัศนีบาศคอยฟาดเหล่าเซียนที่อยากเลื่อนขั้น หรือลงโทษเวลาที่เซียนทำผิด ข้าเบื่อเลยหนีออกมาข้าอยากเที่ยวเล่นไปเรื่อยๆ แต่กลับหลงไปในแดนปีศาจเกือบถูกจับได้ ท่านพ่อคือคนที่แดนเซียนส่งมาตามล่าข้า เราสองคนอยู่ๆก็พลัดลงมาอยู่โลกมนุษย์ เขาเวียนว่ายตายเกิดหลายภพชาติแล้ว ข้าสถิตอยู่ที่โสมต้นนั้น จนกระทั่งท่านไปขุดพวกมันมา โลหิตของท่านหยดลงที่ข้าทำให้ข้าได้กำเนิดกายสังขารของมนุษย์ เท่ากับว่าท่านเป็นคนคลอดข้าออกมา"เสิ่นเยี่ยนฟางอ้าปากค้าง เสี่ยวเย่าค่อยๆลอยมาหานางก่อนจะใช้มือดันคางที่ค้างเติ่งของ
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ