เสิ่นเยี่ยนฟางนำโสมสองต้นมาให้เมิ่งหย่งชวนดู ทันทีที่เขาเห็นก็ตะลึงตาค้างนางคิดถูกแล้วที่ไม่เอาออกมาก่อนหน้า แม้ว่าโจวหยวนจะเป็นขุนนางซื่อสัตย์ภักดี แต่ในสถานการณ์ที่โสมขาดแคลนเช่นนี้จะทำให้โจวหยวนเองก็มีอันตรายไปด้วย ดูเหมือนวันก่อนโจวหยวนจะเอ่ยเรื่องนี้กับเขา"เฮ้อ ท่านแม่ทัพ โสมที่ฮูหยินของท่านนำมาให้นั้นใช้รักษาไทเฮาไปหมดแล้ว ตอนนี้ไท่ซ่างหวงทรงประชวร พวกเขาถามหาโสมว่ายังหาเจอหรือไม่ หาได้จากที่ใด ข้าเกรงว่าจะนำความเดือดร้อนมาให้ท่านกับนางจึงบอกว่าเจอกับคนหาสมุนไพรที่เมืองเหลยเป่าพอดีเขาไม่อยากเข้าเมืองอยากได้เงินไปตามหาบิดาเขาเลยขายข้าน่ะ""เสี่ยวฟาง ข้าจะหาทางติดต่อโรงประมูล โสมนี้น่าจะเกือบหมื่นปีราคาไม่อาจคาดเดา หากประมูลอาจเริ่มต้นที่สองล้านตำลึง""ท่านพี่ ท่านคิดว่ามันจะนำภัยมาสู่คนครอบครองใช่หรือไม่เจ้าคะ""อืม ใต้เท้าโจวเองแม้ว่าจะไม่เกรงใครแต่ในยุทธภพนี้ราชสำนักไม่อาจสอดมือได้ทั่ว บางทีอาจมีเสือซ่อนมังกรหมอบอยู่ทั่วไป อีกอย่างน้ำในเมืองหลวงลึกนัก สกุลโจวเองแม้จะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งก็ใช่ว่าไม่มีศัตรู ดูอย่างที่ลู่หานมาครั้งนี้พาคุณหนูหลี่มาด้วยก็หวังใช้นางเป็นเครื่องมือคว
เสิ่นเยี่ยนฟางหันขวับทันที เขารู้ว่านางมาจากที่อื่นเป็นวิญญาณที่มาจากอีกที่หรือ เสี่ยวเย่างอนมารดาจึงกอดอกนั่งขัดสมาธิลอยอยู่เหนือลำธาร เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นภาพนี้ถึงกับกลืนน้ำลายจะวิ่งหนีก็ก้าวขาไม่ออก เอางี้จริงสิ"เจ้าไม่ใช่ผีใช่ไหม จ จ เจ้าลอยได้ด้วยหรือ""หึ เมื่อตอนสายท่านก็เอ่ยเช่นนี้ท่านแม่ ข้าเสียใจนะ"หนุ่มน้อยสะบัดหน้าหนีมารดา เขาคือปราณฟ้าดินเชียวนะ มารดากลับหาว่าเขาเป็นผีเร่ร่อน"เอาล่ะๆ ข้าสับสนเล่ามาให้ะเอียด ข้าอยากรู้""ข้าคือปราณฟ้าดิน ก่อกำเนิดเป็นจิตวิญญาณแห่งปัฐพี ถูกแดนเซียนจับไปใช้เป็นอัศนีบาศคอยฟาดเหล่าเซียนที่อยากเลื่อนขั้น หรือลงโทษเวลาที่เซียนทำผิด ข้าเบื่อเลยหนีออกมาข้าอยากเที่ยวเล่นไปเรื่อยๆ แต่กลับหลงไปในแดนปีศาจเกือบถูกจับได้ ท่านพ่อคือคนที่แดนเซียนส่งมาตามล่าข้า เราสองคนอยู่ๆก็พลัดลงมาอยู่โลกมนุษย์ เขาเวียนว่ายตายเกิดหลายภพชาติแล้ว ข้าสถิตอยู่ที่โสมต้นนั้น จนกระทั่งท่านไปขุดพวกมันมา โลหิตของท่านหยดลงที่ข้าทำให้ข้าได้กำเนิดกายสังขารของมนุษย์ เท่ากับว่าท่านเป็นคนคลอดข้าออกมา"เสิ่นเยี่ยนฟางอ้าปากค้าง เสี่ยวเย่าค่อยๆลอยมาหานางก่อนจะใช้มือดันคางที่ค้างเติ่งของ
เสิ่นเยี่ยนฟางยกน้ำอุ่นไปให้สามีในห้อง เมิ่งหย่งชวนรับน้ำมาก่อนจะวางลง นางนำผ้ามาให้เขา คนตัวโตรั้งก็เข้าหาก่อนจะจูบนางดูดดื่ม เมื่อคืนเขายังไม่อิ่มเลย อยากต่ออีกสักหน่อยเหลือเกิน เสิ่นเยี่ยนฟางผลักเขาออกเบาๆก่อนจะเอ่ย"ท่านพี่ พอแล้วท่านนี่นะตะกละเสียจริงๆ รีบล้างหน้าเถอะเจ้าค่ะรถม้าเตรียมของเรียบร้อยแล้วยามเฉินจะได้ออกเดินทาง เอ่อท่านพี่ โสมสองต้นนั้นข้าจะบอกว่าไม่ขายแล้ว ข้าจะปลูกเอาไว้ในห้องเราท่านว่าอย่างไรดีเจ้าคะ""อืม ตามใจเจ้าฮูหยินว่าอย่างไรพี่จะกล้าขัดใจได้หรือหื้ม""สามีของข้าน่ารักยิ่งนัก ข้าไปเตรียมมื้อเช้าก่อนนะเจ้าค่ะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนไม่ยอมปล่อยเมียรักมิหนำซ้ำยังอุ้มนางขึ้นเตียงก่อนจะปลดอาภรณ์นางออก ริมฝีปากหยักหนาได้รู้ครอบครองเม็ดทับทิมสีหวานสองหข้างสลับไปมา เสิ่นเยี่ยยนฟางต้องเลยตามเลยไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ปล่อยนางแน่ ใบหน้าคมเลื่อนขึ้นมาสบตาดวงตาคู่โต นัยน์ตาสีน้ำหมึกฉายแววรักใคร่นางออกมา"เสี่ยวฟางของพี่ เพิ่งจะยามเหมาเองอีกสักรอบนะคนดี ลองจับดูสิมันตื่นแล้ว จะออกไปทั้งอย่างนี้ได้อย่างไรกันทูนหัว ความผิดเจ้านะที่งามมากนัก งามจนพี่ลุ่มหลงเจ้าไม่ไหวแล้วหื้ม""คนบ้า
เมิ่งหย่งชวนยิ้มหวานให้นางแต่เมียสาวไม่สนใจ นางไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะมาเตรียมมื้อเช้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็นั่งลงกินข้าว"อาหารวันนี้อร่อยมากนัก เสี่ยวฟางเจ้าทำตอนไหนหรือ ขาหมูตุ๋นนี้เนียนลิ้น ยังมีผัดหมี่นี่เนื้อหมูบ้านเรามิใช่หมดไปแล้วหรือ"เสิ่นเยี่ยนฟางอมยิ้มบุตรชายของนางน่ารักเหลือเกิน ทำอาหารก็เก่งมิหนำซ้ำยังอร่อยอีกด้วย ไว้วันหลังนางจะบอกสูตรอาหารให้บุตรชายเยอะๆ สามีช่างสังเกตเกินไป ทั้งสามคนกินมื้อเช้าอย่างเอร็ดอร่อยเสิ่นเยี่ยนฟางกินอาหารก็รู้สึกว่ารสชาติคล้ายๆเหลาอาหารที่สามีเคยพาไปนั่งกิน เสี่ยวเย่านับว่ามีฝีมือ แต่มารดาคนงามไม่รู้เลยว่าตอนนี้ขาหมูตุ๋นที่นายอำเภอสั่งจองไว้กับทางเหลาอาหารเพื่อนำมาร่วมงานเลี้ยงท่านเจ้าเมืองหายไปจากรถเสบียง ยังมีผัดหมี่อายุยืนของหัวหน้ามือปราบชิวที่เตรียมไว้อีกก็หายไปเช่นกัน รวมถึงขนมงาอีกด้วยเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็พากันออกเดินทาง ก่อนจะไปเสิ่นเยี่ยนฟางนำโสมน้อยสองต้นใส่กระถางปลูกเอาไว้ในห้องนอน เป็นห้องที่นางซ่อมแซมให้แข็งแรงแต่แรก ก่อนจะไปหลังบ้านเรียกหาเจ้าตัวน้อย"เสี่ยวเย่า เฝ้าบ้านให้แม่ดูแลน้องสาวเจ้าด้วย ระวังคนบ้านใหญ่ของท่านพ่อเจ้
เสิ่นกว่างผิงโกรธจนหน้าคล้ำยกมือขึ้นตบหน้าเสิ่นเยี่ยนฟางทันที แต่มือยังไม่ถึงใบหน้างามข้อมือเขากลับถูกมือหนาแข็งแกร่งบีบจนต้องนิ่วหน้า เสิ่นเว่ยรีบลุกมาทันทีเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน"ท่านพี่หย่งชวนเจ้าคะ ท่านพ่อแค่อยากสั่งสอนสตรีคนนี้เป็นเพราะนางทำชื่อเสียงตระกูลเสื่อมเสีย ปีนเตียงอาเขยตนเองไม่พอ ขนาดแต่งงานมาแล้วยังไปให้ท่าบุตรชายเศรษฐีจางอีก ท่านพี่หย่งชวนอย่าถูกใบหน้าจิ้งจอกของนางหลอกลวงนะเจ้าคะ"เสิ่นเยี่ยนฟางมองออกเสแสร้งเหรอ มาดูกันใครเก่งกว่า น้ำตามาแล้วผัวรักผัวหลงขนาดนี้หล่อนจะเอาอะไรมาสู้ฉัน จะแย่งผัวเจ๊หรือนังหนูไหล่บอบบางสั่นเท่า น้ำตารินไหลหันไปทางเสิ่นกว่างผิงกับหลิวหงที่ยืนยิ้มมองดูนางอยู่ก่อนจะเอ่ยวาจา"ท่านพ่อ นางเป็นน้องสาวข้าจริงๆหรือว่านางเป็นลูกติดท่านน้าหลิวหงกัน""เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าพูดอะไร เสี่ยวเว่ยเป็นบุตรสาวข้ากับท่านพี่ เจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ ตนเองไม่สะอาดก็อย่ามาสาดน้ำโคลนผู้อื่น" หลิวหงรีบแก้ต่างทันที ใครจะรู้เสิ่นเยี่ยนฟางกลับคุกเข่านั่งลงมือบางกุมหน้าอกตนเองก่อนจะทุบมันอย่างอัดอั้นตันใจ ร้องไห้ปานจะขาดใจ"ฮือๆๆๆ ท่านแม่ท่านดูนี่ นางคือบุตรสาวของท่านพ่อก
ยามเหมาเสิ่นเยี่ยนฟางตื่นแล้ว นางเข้าครัว เอะ!! ฟืนมาจากไหนเนี่ย เสี่ยวเย่าคงจัดการให้ เสิ่นเยี่ยนฟางติดไฟเพื่อต้มน้ำร้อนให้สามีกับน้องชาย ก่อนจะนวดแป้งวันนี้จะทำแป้งย่างเค้กต้นหอม เห็ดที่อยู่ในตะกร้าไม่เหี่ยวเฉาสักนิด เสิ่ยเยี่ยนฟางเก็บไข่ไก่จากไก่ป่าที่นางจับได้มาสิบห้าตัวครั้งก่อน นางทำเล้าไก่ขังเอาไว้ กำลังเล็งๆว่าจะซื้อที่ดินที่ติดกับบริเวณบ้านเพิ่ม เนื่องจากที่ดินสามีก็อยู่ติดกัน เมิ่งหย่งชวนไม่เคยทำนา ที่ดินเพาะปลูกไม่ดีเขาเลือกที่จะรับใช้ราชสำนักเพื่อผ่อนปรนภาษีของครอบครัว น่าเสียดายที่บรรดาญาติเหมือนผีตายซากทั้งนั้นเสียงกุกกักๆอยู่หน้ารั้วบ้าน เสิ่นเยี่ยนฟางเดินออกมาดูก็เห็นชายชรามายืนด้อมๆมองๆ สองมือถูกกันไปมา เสิ่นเยี่ยนฟางเดินมาหาก่อนจะถาม"ตาเฒ่าเมิ่ง มาบ้านข้าทำไมอยากถูกทุบอีกหรือ""ไม่ๆๆ หลานสะใภ้เจ้าพอมีอาหารไหม คือว่าข้าอยากจะขอยืมสักหน่อย ที่บ้านไม่มีอะไรกินแล้ว เห็นว่าเจ้าไปช่วยงานใต้เท้าโจวพอจะมีของกินเหลือหรือไม่""หึ" เสิ่นเยี่ยนฟางเป่าปอยผมที่ปรกหน้าออกก่อนจะเอ่ย"ข้านี่นะไม่ใช่คนใจดำ แต่คนบ้านใหญ่เจ้าสิใจดำ มาขอข้าวข้ากินข้าย่อมให้อยู่แล้ว ตาเฒ่าเมิ่งหากเช้านี
"เมื่อเช้าท่านปู่ท่านมาขออาหาร ไปอาบน้ำนะเจ้าคะคนดี วันนี้เขานอนเร็วก็ได้ข้าจะตามใจท่าน""อืม กี่ชั่วยามดีเมียข้า""ท่านนี่นะ ไปเถอะเจ้าค่ะอาเจินตื่นสายทุกวันเลย คงต้องคุยกันแล้วเขาชอบเรียนหนังสือข้าก็ดีใจ แต่อ่านหนังสือดึกทุกคืนย่อมไม่ดีแน่ สายตาจะแย่เอาได้"เมิ่งหย่งชวนแต่งตัวให้เมียสาวก่อนจะอุ้มนางลงจากเตียงพาไปห้องอาบน้ำด้วย ก่อนจะไม่ยอมให้นางฉวยโอกาสหนีเมิ่งหย่งชวนจับนางกินในอ่างจนได้ เขาสุขสมไปถึงสองครั้งจึงยอมปล่อยนาง เสิ่นเยี่ยนฟางงับจมูกเขาอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะแต่งตัวให้เขาแล้วพากันออกมาข้างนอก เมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้ตั้งโต๊ะเตรียมมื้อเช้าเรียบร้อยแล้วทั้งสามนั่งกินข้าว ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดต่างมุ่งอยู่กับความคิดตนเอง จนกระทั่งเสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยขึ้น"เมื่อเช้าปู่ของพวกเจ้ามาขออาหาร ข้าบอกว่าหากเมิ่งอี้มาขอโทษอาเจินวันนี้พวกเขาจะมีข้าวกินหนึ่งวัน หากขอโทษและยอมรับผิดเรื่องที่เขาใส่ร้ายอาเจิน พวกเขาจะมีข้าวกินสิบวัน""อืม พี่ใหญ่มิใช่ว่าเงินเดือนซิ่วไฉเดือนละสองตำลึงใกล้จะถึงวันจ่ายแล้วหรือขอรับ ท่านจะให้พวกเขาหรือไม่""เราแยกบ้านมาแล้ว แต่ว่าอนาคตเจ้าต้องเรียนเพื่อสอบจอหงวน จะละเล
เมื่ออาเล็กสามีกล่าวจบ เสิ่นเยี่ยนฟางสำลักน้ำลายทันที โดนเตะขนาดนั้นยังไม่ตายนับว่าทนมือทนเท้านางนัก เมื่อเช้ามาขออาหารเพื่อให้บุตรสาวหรอกหรือ ก่อนนางจะหันไปเอ่ยกับบรรดาพ่อค้าที่เจอเมื่อคืนในงานเลี้ยงเจ้าเมือง"พวกท่านมาบ้านข้าเพราะเหตุใด วันนี้สามีข้ามีญาติมาหาไม่สะดวกรับแขกเชิญกลับไปก่อน""เอ่อ เมียอาชวนคนเหล่านี้บอกว่าจะมาซื้อเต้าหู้นะ" ทันทีที่เมิ่งหลงพูดจบชาวบ้านที่มามุงดูก็มองหน้ากันไปมา"สูตรเต้าหู้หรือ ข้าไม่ขาย""ข้าให้เจ้าสองร้อยตำลึง หึยังมีอีกข้าจะให้สินเดิมแก่เจ้าเพิ่มร้อยตำลึง แต่งงานออกมาไม่มีสินเดิมไม่มีบ้านเดิมยังคิดจะยืนหยัดที่บ้านสามีอีกหรือ""โอ้ว เศรษฐีเสิ่นช่างใจกว้างนัก ท่านพี่ข้าต้องมีสินเดิมเท่าไหร่กันถึงพอเจ้าคะ ว่ากันว่าแต่กับขุนนางต้องสินเดิมยาวสิบลี้ บิดาข้าอยากให้ข้าได้มีที่ยืนในบ้านสามี งั้นสักหนึ่งหมื่นตำลึง กับทองคำหนึ่งพันชั่งพอไหมเจ้าคะท่านพี่"เสิ่นกว่าผิงหน้าดำนางเด็กนี่เห็นๆว่าอยากให้เขาโมโหตาย"มันจะมากไปแล้วนะ เจ้าเป็นสตรีแบบใดมีค่าคู่ควรกับเงินมากมายขนาดนั้นหรือ ท่านพ่อข้าอุตส่าห์ลดตัวมาคุยกับเจ้านับว่าให้เกียรติมากแล้ว" เสิ่นเว่ยเว่ยเอ่ยปากตวา
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ