เสิ่นเยี่ยนฟางหันขวับทันที เขารู้ว่านางมาจากที่อื่นเป็นวิญญาณที่มาจากอีกที่หรือ เสี่ยวเย่างอนมารดาจึงกอดอกนั่งขัดสมาธิลอยอยู่เหนือลำธาร เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นภาพนี้ถึงกับกลืนน้ำลายจะวิ่งหนีก็ก้าวขาไม่ออก เอางี้จริงสิ"เจ้าไม่ใช่ผีใช่ไหม จ จ เจ้าลอยได้ด้วยหรือ""หึ เมื่อตอนสายท่านก็เอ่ยเช่นนี้ท่านแม่ ข้าเสียใจนะ"หนุ่มน้อยสะบัดหน้าหนีมารดา เขาคือปราณฟ้าดินเชียวนะ มารดากลับหาว่าเขาเป็นผีเร่ร่อน"เอาล่ะๆ ข้าสับสนเล่ามาให้ะเอียด ข้าอยากรู้""ข้าคือปราณฟ้าดิน ก่อกำเนิดเป็นจิตวิญญาณแห่งปัฐพี ถูกแดนเซียนจับไปใช้เป็นอัศนีบาศคอยฟาดเหล่าเซียนที่อยากเลื่อนขั้น หรือลงโทษเวลาที่เซียนทำผิด ข้าเบื่อเลยหนีออกมาข้าอยากเที่ยวเล่นไปเรื่อยๆ แต่กลับหลงไปในแดนปีศาจเกือบถูกจับได้ ท่านพ่อคือคนที่แดนเซียนส่งมาตามล่าข้า เราสองคนอยู่ๆก็พลัดลงมาอยู่โลกมนุษย์ เขาเวียนว่ายตายเกิดหลายภพชาติแล้ว ข้าสถิตอยู่ที่โสมต้นนั้น จนกระทั่งท่านไปขุดพวกมันมา โลหิตของท่านหยดลงที่ข้าทำให้ข้าได้กำเนิดกายสังขารของมนุษย์ เท่ากับว่าท่านเป็นคนคลอดข้าออกมา"เสิ่นเยี่ยนฟางอ้าปากค้าง เสี่ยวเย่าค่อยๆลอยมาหานางก่อนจะใช้มือดันคางที่ค้างเติ่งของ
เสิ่นเยี่ยนฟางยกน้ำอุ่นไปให้สามีในห้อง เมิ่งหย่งชวนรับน้ำมาก่อนจะวางลง นางนำผ้ามาให้เขา คนตัวโตรั้งก็เข้าหาก่อนจะจูบนางดูดดื่ม เมื่อคืนเขายังไม่อิ่มเลย อยากต่ออีกสักหน่อยเหลือเกิน เสิ่นเยี่ยนฟางผลักเขาออกเบาๆก่อนจะเอ่ย"ท่านพี่ พอแล้วท่านนี่นะตะกละเสียจริงๆ รีบล้างหน้าเถอะเจ้าค่ะรถม้าเตรียมของเรียบร้อยแล้วยามเฉินจะได้ออกเดินทาง เอ่อท่านพี่ โสมสองต้นนั้นข้าจะบอกว่าไม่ขายแล้ว ข้าจะปลูกเอาไว้ในห้องเราท่านว่าอย่างไรดีเจ้าคะ""อืม ตามใจเจ้าฮูหยินว่าอย่างไรพี่จะกล้าขัดใจได้หรือหื้ม""สามีของข้าน่ารักยิ่งนัก ข้าไปเตรียมมื้อเช้าก่อนนะเจ้าค่ะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนไม่ยอมปล่อยเมียรักมิหนำซ้ำยังอุ้มนางขึ้นเตียงก่อนจะปลดอาภรณ์นางออก ริมฝีปากหยักหนาได้รู้ครอบครองเม็ดทับทิมสีหวานสองหข้างสลับไปมา เสิ่นเยี่ยยนฟางต้องเลยตามเลยไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ปล่อยนางแน่ ใบหน้าคมเลื่อนขึ้นมาสบตาดวงตาคู่โต นัยน์ตาสีน้ำหมึกฉายแววรักใคร่นางออกมา"เสี่ยวฟางของพี่ เพิ่งจะยามเหมาเองอีกสักรอบนะคนดี ลองจับดูสิมันตื่นแล้ว จะออกไปทั้งอย่างนี้ได้อย่างไรกันทูนหัว ความผิดเจ้านะที่งามมากนัก งามจนพี่ลุ่มหลงเจ้าไม่ไหวแล้วหื้ม""คนบ้า
เมิ่งหย่งชวนยิ้มหวานให้นางแต่เมียสาวไม่สนใจ นางไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะมาเตรียมมื้อเช้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็นั่งลงกินข้าว"อาหารวันนี้อร่อยมากนัก เสี่ยวฟางเจ้าทำตอนไหนหรือ ขาหมูตุ๋นนี้เนียนลิ้น ยังมีผัดหมี่นี่เนื้อหมูบ้านเรามิใช่หมดไปแล้วหรือ"เสิ่นเยี่ยนฟางอมยิ้มบุตรชายของนางน่ารักเหลือเกิน ทำอาหารก็เก่งมิหนำซ้ำยังอร่อยอีกด้วย ไว้วันหลังนางจะบอกสูตรอาหารให้บุตรชายเยอะๆ สามีช่างสังเกตเกินไป ทั้งสามคนกินมื้อเช้าอย่างเอร็ดอร่อยเสิ่นเยี่ยนฟางกินอาหารก็รู้สึกว่ารสชาติคล้ายๆเหลาอาหารที่สามีเคยพาไปนั่งกิน เสี่ยวเย่านับว่ามีฝีมือ แต่มารดาคนงามไม่รู้เลยว่าตอนนี้ขาหมูตุ๋นที่นายอำเภอสั่งจองไว้กับทางเหลาอาหารเพื่อนำมาร่วมงานเลี้ยงท่านเจ้าเมืองหายไปจากรถเสบียง ยังมีผัดหมี่อายุยืนของหัวหน้ามือปราบชิวที่เตรียมไว้อีกก็หายไปเช่นกัน รวมถึงขนมงาอีกด้วยเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็พากันออกเดินทาง ก่อนจะไปเสิ่นเยี่ยนฟางนำโสมน้อยสองต้นใส่กระถางปลูกเอาไว้ในห้องนอน เป็นห้องที่นางซ่อมแซมให้แข็งแรงแต่แรก ก่อนจะไปหลังบ้านเรียกหาเจ้าตัวน้อย"เสี่ยวเย่า เฝ้าบ้านให้แม่ดูแลน้องสาวเจ้าด้วย ระวังคนบ้านใหญ่ของท่านพ่อเจ้
เสิ่นกว่างผิงโกรธจนหน้าคล้ำยกมือขึ้นตบหน้าเสิ่นเยี่ยนฟางทันที แต่มือยังไม่ถึงใบหน้างามข้อมือเขากลับถูกมือหนาแข็งแกร่งบีบจนต้องนิ่วหน้า เสิ่นเว่ยรีบลุกมาทันทีเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน"ท่านพี่หย่งชวนเจ้าคะ ท่านพ่อแค่อยากสั่งสอนสตรีคนนี้เป็นเพราะนางทำชื่อเสียงตระกูลเสื่อมเสีย ปีนเตียงอาเขยตนเองไม่พอ ขนาดแต่งงานมาแล้วยังไปให้ท่าบุตรชายเศรษฐีจางอีก ท่านพี่หย่งชวนอย่าถูกใบหน้าจิ้งจอกของนางหลอกลวงนะเจ้าคะ"เสิ่นเยี่ยนฟางมองออกเสแสร้งเหรอ มาดูกันใครเก่งกว่า น้ำตามาแล้วผัวรักผัวหลงขนาดนี้หล่อนจะเอาอะไรมาสู้ฉัน จะแย่งผัวเจ๊หรือนังหนูไหล่บอบบางสั่นเท่า น้ำตารินไหลหันไปทางเสิ่นกว่างผิงกับหลิวหงที่ยืนยิ้มมองดูนางอยู่ก่อนจะเอ่ยวาจา"ท่านพ่อ นางเป็นน้องสาวข้าจริงๆหรือว่านางเป็นลูกติดท่านน้าหลิวหงกัน""เสิ่นเยี่ยนฟางเจ้าพูดอะไร เสี่ยวเว่ยเป็นบุตรสาวข้ากับท่านพี่ เจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ ตนเองไม่สะอาดก็อย่ามาสาดน้ำโคลนผู้อื่น" หลิวหงรีบแก้ต่างทันที ใครจะรู้เสิ่นเยี่ยนฟางกลับคุกเข่านั่งลงมือบางกุมหน้าอกตนเองก่อนจะทุบมันอย่างอัดอั้นตันใจ ร้องไห้ปานจะขาดใจ"ฮือๆๆๆ ท่านแม่ท่านดูนี่ นางคือบุตรสาวของท่านพ่อก
ยามเหมาเสิ่นเยี่ยนฟางตื่นแล้ว นางเข้าครัว เอะ!! ฟืนมาจากไหนเนี่ย เสี่ยวเย่าคงจัดการให้ เสิ่นเยี่ยนฟางติดไฟเพื่อต้มน้ำร้อนให้สามีกับน้องชาย ก่อนจะนวดแป้งวันนี้จะทำแป้งย่างเค้กต้นหอม เห็ดที่อยู่ในตะกร้าไม่เหี่ยวเฉาสักนิด เสิ่ยเยี่ยนฟางเก็บไข่ไก่จากไก่ป่าที่นางจับได้มาสิบห้าตัวครั้งก่อน นางทำเล้าไก่ขังเอาไว้ กำลังเล็งๆว่าจะซื้อที่ดินที่ติดกับบริเวณบ้านเพิ่ม เนื่องจากที่ดินสามีก็อยู่ติดกัน เมิ่งหย่งชวนไม่เคยทำนา ที่ดินเพาะปลูกไม่ดีเขาเลือกที่จะรับใช้ราชสำนักเพื่อผ่อนปรนภาษีของครอบครัว น่าเสียดายที่บรรดาญาติเหมือนผีตายซากทั้งนั้นเสียงกุกกักๆอยู่หน้ารั้วบ้าน เสิ่นเยี่ยนฟางเดินออกมาดูก็เห็นชายชรามายืนด้อมๆมองๆ สองมือถูกกันไปมา เสิ่นเยี่ยนฟางเดินมาหาก่อนจะถาม"ตาเฒ่าเมิ่ง มาบ้านข้าทำไมอยากถูกทุบอีกหรือ""ไม่ๆๆ หลานสะใภ้เจ้าพอมีอาหารไหม คือว่าข้าอยากจะขอยืมสักหน่อย ที่บ้านไม่มีอะไรกินแล้ว เห็นว่าเจ้าไปช่วยงานใต้เท้าโจวพอจะมีของกินเหลือหรือไม่""หึ" เสิ่นเยี่ยนฟางเป่าปอยผมที่ปรกหน้าออกก่อนจะเอ่ย"ข้านี่นะไม่ใช่คนใจดำ แต่คนบ้านใหญ่เจ้าสิใจดำ มาขอข้าวข้ากินข้าย่อมให้อยู่แล้ว ตาเฒ่าเมิ่งหากเช้านี
"เมื่อเช้าท่านปู่ท่านมาขออาหาร ไปอาบน้ำนะเจ้าคะคนดี วันนี้เขานอนเร็วก็ได้ข้าจะตามใจท่าน""อืม กี่ชั่วยามดีเมียข้า""ท่านนี่นะ ไปเถอะเจ้าค่ะอาเจินตื่นสายทุกวันเลย คงต้องคุยกันแล้วเขาชอบเรียนหนังสือข้าก็ดีใจ แต่อ่านหนังสือดึกทุกคืนย่อมไม่ดีแน่ สายตาจะแย่เอาได้"เมิ่งหย่งชวนแต่งตัวให้เมียสาวก่อนจะอุ้มนางลงจากเตียงพาไปห้องอาบน้ำด้วย ก่อนจะไม่ยอมให้นางฉวยโอกาสหนีเมิ่งหย่งชวนจับนางกินในอ่างจนได้ เขาสุขสมไปถึงสองครั้งจึงยอมปล่อยนาง เสิ่นเยี่ยนฟางงับจมูกเขาอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะแต่งตัวให้เขาแล้วพากันออกมาข้างนอก เมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้ตั้งโต๊ะเตรียมมื้อเช้าเรียบร้อยแล้วทั้งสามนั่งกินข้าว ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดต่างมุ่งอยู่กับความคิดตนเอง จนกระทั่งเสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยขึ้น"เมื่อเช้าปู่ของพวกเจ้ามาขออาหาร ข้าบอกว่าหากเมิ่งอี้มาขอโทษอาเจินวันนี้พวกเขาจะมีข้าวกินหนึ่งวัน หากขอโทษและยอมรับผิดเรื่องที่เขาใส่ร้ายอาเจิน พวกเขาจะมีข้าวกินสิบวัน""อืม พี่ใหญ่มิใช่ว่าเงินเดือนซิ่วไฉเดือนละสองตำลึงใกล้จะถึงวันจ่ายแล้วหรือขอรับ ท่านจะให้พวกเขาหรือไม่""เราแยกบ้านมาแล้ว แต่ว่าอนาคตเจ้าต้องเรียนเพื่อสอบจอหงวน จะละเล
เมื่ออาเล็กสามีกล่าวจบ เสิ่นเยี่ยนฟางสำลักน้ำลายทันที โดนเตะขนาดนั้นยังไม่ตายนับว่าทนมือทนเท้านางนัก เมื่อเช้ามาขออาหารเพื่อให้บุตรสาวหรอกหรือ ก่อนนางจะหันไปเอ่ยกับบรรดาพ่อค้าที่เจอเมื่อคืนในงานเลี้ยงเจ้าเมือง"พวกท่านมาบ้านข้าเพราะเหตุใด วันนี้สามีข้ามีญาติมาหาไม่สะดวกรับแขกเชิญกลับไปก่อน""เอ่อ เมียอาชวนคนเหล่านี้บอกว่าจะมาซื้อเต้าหู้นะ" ทันทีที่เมิ่งหลงพูดจบชาวบ้านที่มามุงดูก็มองหน้ากันไปมา"สูตรเต้าหู้หรือ ข้าไม่ขาย""ข้าให้เจ้าสองร้อยตำลึง หึยังมีอีกข้าจะให้สินเดิมแก่เจ้าเพิ่มร้อยตำลึง แต่งงานออกมาไม่มีสินเดิมไม่มีบ้านเดิมยังคิดจะยืนหยัดที่บ้านสามีอีกหรือ""โอ้ว เศรษฐีเสิ่นช่างใจกว้างนัก ท่านพี่ข้าต้องมีสินเดิมเท่าไหร่กันถึงพอเจ้าคะ ว่ากันว่าแต่กับขุนนางต้องสินเดิมยาวสิบลี้ บิดาข้าอยากให้ข้าได้มีที่ยืนในบ้านสามี งั้นสักหนึ่งหมื่นตำลึง กับทองคำหนึ่งพันชั่งพอไหมเจ้าคะท่านพี่"เสิ่นกว่าผิงหน้าดำนางเด็กนี่เห็นๆว่าอยากให้เขาโมโหตาย"มันจะมากไปแล้วนะ เจ้าเป็นสตรีแบบใดมีค่าคู่ควรกับเงินมากมายขนาดนั้นหรือ ท่านพ่อข้าอุตส่าห์ลดตัวมาคุยกับเจ้านับว่าให้เกียรติมากแล้ว" เสิ่นเว่ยเว่ยเอ่ยปากตวา
กระทั่งรถม้าของเย่วฝางมาถึงในตำบล เสิ่นเยี่ยนฟางขอตัวไปหาพี่สาวที่จวนเจ้าเมืองก่อน เย่วฝานเห็นว่าไหนๆ ก็มาแล้วพบท่านเจ้าเมืองสักหน่อยก็ดี ทั้งสามมาถึงจวนท่านเจ้าเมือง เสิ่นเยี่ยนฟางคำนับโจวเฉิงพ่อบ้านที่ติดตามโจวหยวนโจวเฉิงคำนับกลับ ช่างเป็นสตรีที่กิริยามารยาทดีงามอะไรเช่นนี้ นี่ใช่สตรีที่แต่งงานมาแก้ชงของแม่ทัพเมิ่งจริงๆ หรือ"ท่านอาเฉิง ข้ามาขอพบพี่เสี่ยวฮวา มิทราบว่าจะรบกวนเกินไปหรือไม่เจ้าคะ""เอ่อ เมิ่งฮูหยินท่านรอสักครู่ได้ไหมขอรับ คุณชายรองกำลังสนทนากับเอ่อ ราชครูหวงอยู่ด้านใน พี่สาวท่านนางก็อยู่ในนั้นด้วย""อ้อ เช่นนั้นเดี๋ยวข้ามาใหม่จะดีกว่า พอดีจะพาอาหญิงของท่านพี่ไปซื้อของเซ่นไหว้นะเจ้าค่ะ ฝากใต้เท้าแจ้งแก่นางด้วย"เมิ่งลู่เจินจับมือพี่สะใภ้เขาได้ยินเสียงที่ดังลอดออกมาจากด้านใน พี่ชายฝึกยุทธให้เขามาสักพักแล้วจึงหูดี อีกอย่างพี่สะใภ้จับเขาวิ่งขึ้นลงภูเขาทุกวัน ตอนนี้เขาแข็งแรงกว่าเก่ามากนัก เมิ่งลู่เจินเอ่ยแก่เสิ่นเยี่ยนฟางเบาๆ"พี่สะใภ้ดูเหมือนว่าวันนี้เราคงมิได้พบหรอกขอรับ ดูท่าข้างในจะมีเรื่องกัน""(ท่านแม่ ใต้เท้าคนนั้นกำลังดุด่าสตรีนางหนึ่งอยู่ขอรับ มีบุรุษอีกคนกอดนางอ
นางทะลุมิติมาอยู่ที่นี่สี่เดือนกว่าแล้ว ทุกครั้งที่เมิ่งหย่งชวนจะเดินทางก็มีเหตุให้ชะงักมาหลายครั้ง นางอยากให้เขาเจอบิดาโดยไวนางอยากให้เด็กๆได้เกิดเป็นบุตรของนางจริง เสิ่นเยี่ยนฟางตัดสินใจจะถอนเข็มที่นางฝังไว้ออก ช่วงระยะสิบวันนี้หากมีสัมพันธ์ผัวเมียกันนางมีโอกาสตั้งครรภ์ เขาดีเพียงนี้นางอยากมีบุตรให้เขาจริงๆที่ไม่ใช่เด็กในอุปถัมภ์"ท่านพี่ ข้าต้มน้ำเก็กฮวยไว้ท่านรับสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ"ขาสั้นๆดุ๊กดิ๊กของเสี่ยวเฟิงเดินที่ถือเอาน้ำมาให้บิดา ส่วนเสี่ยวฮวาถืออีกถ้วยมาให้ท่านอาที่ตามท่านพ่อมา เสี่ยวเย่าจุงมือเสี่ยวเหอถือจานขนมมา เด็กๆเอ่ยเรียกบิดาเมิ่งหย่งชวนมองภาพตรงหน้าแล้วอบอุ่นนัก หากเขามีลูกจริงๆคงดี เด็กเหล่านี้หากไม่เจอครอบครัวเขาจะเลี้ยงไว้เอง ว่าไปก็แปลก เด็กทั้งหกคนนี้ยิ่งใกล้ชิดรู้สึกว่าหน้าตาเหมือนเขากับเมียแทบจะคัดลอกกันออกมา เสียงหวานๆของเสี่ยวเฟิงเรียกเขา เมิ่งหย่งชวนยิ้มให้เจ้าตัวน้อย"ท่านพ่อน้ำเก็กฮวยหวานๆชื่นใจเจ้าค่ะ""ท่านอา น้ำเก็กฮวยหวานๆเจ้าค่ะ""ท่านพ่อ ขนมขอรับ"เมิ่งหย่งชวนรับขนมมาก่อนจะค่อยๆกินทีละนิด จางเหมิ่นถึงกับเอ่ยปากชม ขนมนี่อร่อยมากนัก"อาจารย์หญิงนับว่
ยามเซินเมิ่งหย่งชวนจ้างรถม้าจากในตำบลกลับมา ทันทีที่รถม้าจอดสนิทเมิ่งหย่งชวนก็ลงจากรถม้า ตามด้วยจางเหมิ่นทันทีที่เห็นพี่ชายจางลี่ก็หน้างอกันที จะมาจับผิดอะไรกันอีกมาลำมากขนาดนี้ยัง ไม่พอใจอีกหรือ เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสามีกลับมาก็แปลกใจไหนเขาบอกว่าจะไปสิบวัน"ท่านพี่ ไหนว่าไปสิบวันไงเจ้าคะ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือเปล่า หรือว่าอาการป่วยของท่านกำเริบ"เสิ่นเยี่ยนฟางรีบไปดูเขาทันที มือบางอังหน้าผากกว้างเมื่อเห็นว่าตัวไม่ร้อน ก็จับมือหนามากุมเกรงว่าอาการป่วยกลับมาเขาจะหนาวสั่นอีก เมิ่งหย่งชวนรั้งนางมากอดเอาไว้กดปลายคางกับเรือนผมงามก่อนจะเอ่นถามด้วยความกังวล" เสี่ยวฟาง.. ที่บ้านเกิดเรื่องอันใดหรือไม่นกเหยี่ยวของอาเจินคาบปิ่นเงินของเจ้าไปตามพี่ที่บ้านเศรษฐีจาง""หืม.. นกเหยี่ยวของอาเจินหรือเจ้าคะ"สิ่นเยี่ยนฟางนึกถึงลูกนกที่เมิ่งลู่เจินเลี้ยงเอาไว้ยังผลัดขนไม่เต็มเลยจะบินไปได้อย่างไรกัน ดูท่าดงเป็นบุตรชายคนเล็กมากกว่า เด็กๆ ที่ตอนนี้ท่านอาจารย์หม่ากลับไปแล้ว เหลือเพียงหวงหย่งเหนียนที่ยังสอนเมิ่งสู่เจินอยู่ และเพิ่งไปไม่นานรถม้าน่าจะสวนกันกับสามี เด็กทั้งสี่รีบวิ่งมาหาก่อนจะพักทายบิดา"คารวะท่
ทางด้านของเมิ่งอี้ที่ได้เห็นหน้าตาของเด็กๆ ทั้งหกคนก็คิดที่จะอุ้มเด็กๆ ไปขายทันที หน้าตาน่ารักขายได้คนหนึ่งไม่น่าต่ำกว่าห้าร้อยตำลึงแน่ๆ เขารู้จักพวกชอบเด็กวัยนี้หน้าตาเช่นนี้ราคาดี ต้องวางแผนดีๆ เมิ่งอี้ไม่รู้ว่าตนเองชะตาขาดแล้วนับแต่คิดจับเด็กๆไปขายวันนี้จากคนที่ไม่เคยหยิบทำสิ่งใดกลับมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางแต่เช้าเพื่อขอช่วยงาน"พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าเองเมิ่งอี้ท่านอยู่หรือไม่ขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้กำลังเกล้าผมให้เสี่ยวอิงอยู่ เพราะเขายังเล็กจึงไม้ได้เรียนหนังสือไม่เช่นนั้นจะถูกสงสัยได้ ก็ชะโงกหน้าออกมาตามเสียงเรียก เห็นเมิ่งอี้ยืนอยู่นอกรั้ว หืมพ่อบัณฑิตรูปงามสะโอดสะองเหลือเกินเขาเก็บกันจนจะไถกลบปลูกใหม่เพิ่งจะโผล่หัว ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆมาทำไมกัน เสี่ยวเย่าส่งข้อความผ่านมารดาทางจิต"ท่านแม่ คนนิสัยเลวคนนี้ต้องการจับพวกเราพี่น้องไปขายขอรับ""หืม เมิ่งอี้กล้าคิดขายลูกข้าหรือ เสี่ยวเย่าลูกจัดการได้เลยอย่าให้แปลกปะหลาดจนชาวบ้านตกใจก็พอ แล้วตั้งแต่เช้าเสี่ยวเถาไปไหนกันนอนอีกแล้วหรือ""พี่ห้าหลับขอรับท่านแม่ พี่ห้าจะนอนอะไรนักหนาเก้าหมื่นปียังนอนไม่พอหรือไงกันเฮ้อ""หุบปากไปเลยนะ ไม่งั้นข
เมิ่งหย่งซินนำโจวหยวนกับหวงหย่งเหนียนไปพบคนด้านใน ทันทีที่เห็นหน้าโจวหยวนก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับเมิ่งหย่งซิน"แม่นางเมิ่ง รบกวนท่านช่วยออกไปก่อนสักครู่ เขาคือน้องชายคนเล็กของข้าโจวหยางน่ะ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับน้องชายนิดหน่อยขออภัยแม่นางเมิ่งด้วยที่เสียมารยาท""อ้อ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ที่แท้ก็คนกันเองถ้าเช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว เชิญใต้เท้าทั้งสองตามสบายเจ้าคะ"เมิ่งหย่งซินออกไปแล้ว หวงหย่งเหนียนก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้าม รอฟังสองพี่กับน้องคุยกัน"เห็นอาซ้อเมิ่งบอกว่าเจ้าหนีหมาป่าจนตกเขา หยางเอ๋อร์ อย่างเจ้านะหรือจะหนีหมาป่า ฝีมือเช่นเจ้ามิใช่หมาป่าต้องวิ่งหนีหรอกหรือ""ข้าหนีคนขององค์ชายรอง บังเอิญไปเจอพวกเขาสมคบศัตรูแอบค้าขายแร่เหล็กกับแร่เงินเข้า แต่โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าแกล้งเป็นคนตาบอดเดินคลำทาง พวกเขาไม่ไว้ใจจึงพยายามไล่ล่าข้าจึงแกล้งตกเขาลงมา แต่ไม่คิดว่าด้านล่างจะมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ ข้าเลยกระแทกอย่างแรง กระดูกร้าวน่ะไม่ถึงกับหัก เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนขององค์ชายรองยังอยู่ไหมเลยต้องอยู่แต่ในบ้านไปก่อน ไม่อยากให้คนบ้านนี้เดือดร้อนเพราะช่วยข้านะขอรับพี่รอง"โจวหยางเอ่
ยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งหน้าบ้านรอจางลี่ก็ยังไม่มา คิดจะลองดีกับนางหรือ หากยามซื่อไม่มาข้าจะไปลากถึงที่นอนเลยเชียว ปลายยามซื่อรถม้าก็วิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน เลยมาทางด้านท้ายหมู่บ้านเศรษฐีจางลากบุตรชายลงมา จางลี่หน้าเง้าหน้างอพอเห็นเสิ่นเยี่ยนฟางก็ถลึงตาใส่ จากนั้นจางหมิ่นก็พูดคุยกับนาง"ข้าพาเขามาส่ง อาจารย์หญิงท่านจะเปลี่ยนใจหรือไม่บุตรชายข้าดื้อด้านนัก""ช่างเถอะ ท่านลุงหกมาพาคนงานใหม่ไปเก็บดอกฝ้ายในไร่ด้วยเจ้าค่ะ"ทันทีที่นางเอ่ยจบก็มีชายฉกรรจ์อายุประมาณสี่สิบเดินมาก่อนจะนำทางจางลี่ไป แต่เขาอิดออดจนบิดาต้องดุ จางหมิ่นเดินตามเสิ่นเยี่ยนฟางไปที่แปลงฝ้าย ทันทีที่เห็นผักในแปลงดินก็ตกตะลึงก่อนจะเอ่ยปากขอซื้อ"อาจารย์หญิงผักสดนี่ครั้งก่อนที่อาจารย์เมิ่งนำไปฝากรสหวานยิ่งนัก ครั้งนี้ท่านช่วยขายให้ข้าได้หรือไม่เล่า""ข้าเก็บไว้ให้แล้ว สามีข้าเพิ่งซื้อที่ดินเพิ่มข้าจะขยายแปลงผักอีกหน่อยเราอาจเป็นคู่ค้ากันก็ได้ อ้อถึงแปลงฝ้ายแล้วเชิญท่านดูเถอะ"จางหมิ่นทันทีที่เห็นดอกฝ้ายที่คุณภาพนับว่าดียิ่งนัก เขาไม่เคยเจอฝ้ายที่ดอกหนาสีขาวบริสุทธิ์เช่นนี้มาก่อนจึงเผยสีหน้ายินดีออกมา จางลี่ไม่ยอมทำงานยื
เสิ่นเยี่ยนฟางมองไปที่จางลี่จากนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้าย จางลี่เห็นรอยยิ้มนางถึงกับขนลุกทันที ได้ยินนางเอ่ยวาจาที่ทำให้เขาถึงกับโมโหเป็นอย่างมาก"ท่านจาง ข้ามิอาจอวดเก่งต่อหน้าพ่อค้าใหญ่เช่นท่านได้ แต่มีเรื่องหนึ่งข้าช่วยท่านได้นะเจ้าค่ะ""เมิ่งฮูหยินเชิญกล่าวมาเถอะ""บุตรชายของท่านจางลี่ หากท่านไม่รังเกียจข้าที่เป็นสตรี ข้ายินดีเป็นอาจารย์ให้เขาเอง ตั้งแต่พรุ่งนี้ให้เขาเข้าไร่เก็บดอกฝ้าย จากนี้ท่านห้ามให้เงินเขา หากวันใดเขาทำงานข้าจะจ่ายค่าแรงเอง หากไม่ทำก็ให้เขาอดข้าว เขากินดีอยู่ดีเกินไปไม่รับรู้ความลำบากของบิดามารดาที่ต้องทำงานหาเลี้ยงเขา""เอ่อเมิ่งฮูหยินคือเรื่องนี้ข้าว่า.....""นังตัวดีเจ้ากล้าหรือ ท่านพ่อนางถือว่าสามีเป็นอาจารย์ของพี่ใหญ่ก็เลยอยากทำให้ข้าอับอายนะขอรับ ท่านอย่าหลงกลนางสารเลวนี่เชียว"เมิ่งหย่งชวนมองหน้าภรรยาอย่างหาคำตอบ แต่เสิ่นเยี่ยนฟางแค่เพียงยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเอ่ย"ท่านจาง ดอกฝ้ายเหล่านั้นข้าจะส่งมอบให้ท่าน บุตรชายท่านหากข้าสั่งสอนเขาให้เป็นผู้เป็นคนไม่ได้ภายในหนึ่งเดือนข้ายินดีไม่รับเงินค่าดอกฝ้ายสักอีแปะเจ้าค่ะ หากข้าทำได้ท่านก็แค่จ่ายค่าฝ้ายข้า
เสิ่นเยี่ยนฟางนำหมั่นโถวกับซาลาเปาใส่กะละมังไม้หลายใบก่อนจะเข็นเดินไปทั่วหมู่บ้านเพื่อแจกซาลาเปากับหมั่นโถว"ทุกท่านนี่คือบุตรชายบุตรสาวของข้า ทั้งหกคน เด็กๆคารวะท่านปู่ท่านย่าท่านลุงท่านอาทั้งหลายสิ ยังมีพี่สาวพี่ชายท่านน้าอีกด้วย""พวกเราคารวะทุกท่านเจ้าค่ะ/ขอรับ"ชาวบ้านต่างยิ้มให้เด็กหกคนนี้น่ารักเสียจริงๆ"นี่ภรรยาซิ่วไฉ หากบอกว่าเป็นบุตรชายบุตรสาวของเจ้าข้าเชื่อสนิทใจเชียวล่ะ""ใช่ๆ หน้าตาถอดเจ้ากับเมิ่งซิ่วไฉมาเชียว""ขอบคุณพวกท่านมาก ฝากเอ็นดูลูกๆข้าด้วยนะเจ้าคะ"เสิ่นเยี่ยนฟางทยอยแจกอาหารจนครบทุกหลังคาเรือนจากนั้นก็เข็นรถพาลูกๆกลับบ้าน เมิ่งหย่งชวนเตรียมตัวกินข้าวแล้วจะไปค้างคืนที่จวนจางสิบคืน"ท่านพ่อพวกเรากลับมาแล้วเจ้าค่ะ"เสี่ยวฮวาวิ่งนำหน้าถลามากอดขาเมิ่งหย่งชวนก่อนจะเงยหน้าส่งสายตาไร้เดียงสามาให้ เมิ่งหย่งชวนก้มลงอุ้มนางขึ้นมาก่อนจะดุ"วันหลังอย่าวิ่งแบบนี้อีก หากหกล้มลูกจะเจ็บได้ วันนี้พ่อไม่อยู่อย่าดื้อกับท่านแม่เข้าใจหรือไม่""ท่านพ่อเสี่ยวฮวาไม่ดื้อเจ้าค่ะ เสี่ยวฮวาอยากมีท่านพ่อเสี่ยวฮวาอยากมีท่านแม่"เมิ่งหย่งชวบบีบจมูกโด่งที่ถอดแบบเขามาไม่ผิดเพี้ยน นี่ถ้าเขามีลูกเ
เมิ่งซุนยื่นมือไปขออุ้ม เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเสี่ยวอิงบุตรชายคนที่หกที่เกินจากข้อตกลงมา เสี่ยวอิงกางแขนหาท่านปู่ทวดทันที"อืม ไหนเรียกท่านปู่ทวดสิ""ท่านปู่ทวด ท่านปู่ทวดขอรับ"เมิ่งซุนยืนมือเหี่ยวย่นไปลูบศรีษะ จากนั้นเมิ่งหย่งซินก็ไปจัดห้องให้เด็กๆ ต้นยามเหมาแล้ว นางกับเสิ่นเยี่ยนฟางไม่นอนต่อแต่ติดไฟนวดแป้งทำซาลาเปา นึ่งหมั่นโถว ต้มไก่ทำกับข้าวไปไหว้บิดามารดาของท่านปู่"อาเล็ก ทำเยอะหน่อยเถอะพรุ่งนี้จะไปแจกในหมู่บ้านด้วย พาเด็กๆไปแนะนำกับคนในหมู่บ้านด้วย""อืม เจ้าไปพักเถอะเสี่ยวฟางงานตรงหน้าอาเล็กทำได้""ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาเล็กช่วยกันทำงานเสร็จเร็วจะได้มีเวลาพัก"เมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้เป็นท่านอาแล้วก็มีหน้าที่พาหลานๆไปเดินเล่นระหว่างที่ผู้ใหญ่ทำงาน"อย่ามาเล่นแถวนี้อันตราย เจ้าชื่ออะไรนะ""ข้าชื่อเสี่ยวเฟิงเจ้าค่ะท่านอา อีกอย่างข้าไม่ซนเจ้าค่ะข้าอยากช่วยงาน""อืมๆๆ อาเล็กรู้แต่ว่าในครัวมีฟืนไฟต้องระวัง เสี่ยวเย่าเจ้าเป็นพี่คนโตใช่หรือไม่"เสี่ยวเย่าเดินมาหาเมิ่งลู่เจินเขาก้มลงอุ้มหลานชายตัวน้อยขึ้นมาก่อนจะมองหน้าแล้วเอ่ย"เสี่ยวเย่า เจ้าเป็นพี่ต้องดูแลน้องๆ ห้ามเข้าใกล้เตาไฟ ห้าม
เสิ่นเยี่ยนฟางใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่เมิ่งหย่งชวนยังคงไขว่คว้าสองเต้าอย่างไม่ยอมแพ้ เสิ่นเยี่ยนฟางจับมือเขาไว้ก่อนจะส่งสายตาดุไปให้ คนตัวโตต้องยอมปล่อยเพราะเมียเริ่มดุแล้ว"นอนนะเจ้าคะ พรุ่งนี้ต้องไปสอนหนังสืออีก ท่านคึกทุกคืนเช่นนี้ร่างกายจะแย่เอา""เมียจ๋า อีกครึ่งเดือนต้องเดินทางแล้วนะ""ท่านพี่นอนเจ้าค่ะ"เมิ่งหย่งชวนยอมนอนเสิ่นเยี่ยนฟานนอนหนุนแขนเขาจนกระทั่งปลายยมอิ๋นเสียงเรียกของเสี่ยวเย่าดังขึ้นมา"ท่านแม่ขอรับน้องตื่นแล้วขอรับ""ท่านแม่เจ้าขาเสี่ยวเหอกับเสี่ยเถาตื่นแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวอิงด้วย"เสิ่นเยี่ยนฟางหูผึ่งทันที เสี่ยวอิงหรือคือใครกันมาจากไหนอีกเล่า ไหนว่าห้าคนไง ก่อนจะค่อยๆเอาแขนของสามีออกจากนั้นก็ลุกขึ้นมาสวมเสื้อคลุม เนื่องจากชาติก่อนนางเป็นหน่วยซีลเก่าการเคลื่อนไหวจึงนับว่าเบามาก เสิ่นเยี่ยนฟางห่มผ้าให้เมิ่งหย่งชวนก่อนจะจุมพิตแก้มสากจากนั้นก็เปิดประตูออกไปเมิ่งหย่งชวนที่นอนอยู่ลืมตาทันที ภรรยาลุกไปกลางดึกอีกทั้งสวมเสื้อคลุม ใส่มิดชิดเพียงนี้คงมิได้ไปสุขาแน่ๆ เสียงเดินไปทางป่าท้อ เมิ่งหย่งชวนลุกขึ้นก่อนเดินออกมาเห็นหลังนางไวๆ เสิ่นเยี่ยนฟางที่มาถึงก็เห็นสามคนรออยู