ทางด้านเสิ่นเยี่ยนฟางเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ เกลือขึ้นราคาอย่างมากเช่นนี้ราษฎรคงลำบากไม่น้อ้ย ได้ยินว่าเกลือขาดแคลน ราชสำนักควบคุมราคาเกลืออยู่ตอนนี้ เสี่ยวเย่ามองถังหูลู่ตาละห้อยเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นบุตรชายยืนมองก็เดินมาถาม“กินได้หรือ มิใช่ว่าเจ้าเป็นจิตวิญญาณหรือ”“ท่านแม่ลืมแล้วหรือขอรับว่าข้ามีกายสังขารแล้ว ที่คนอื่นไม่เห็นข้าเพราะข้าไม่ต้องการให้พวกเขาเห็นเท่านั้น”“อืม เช่นนั้นเจ้าจะเอากี่ไม้ เดี๋ยวซื้อไปฝากท่านอาเจ้าสักสามไม้ท่านพ่อเจ้าสองไม้”“ขอบคุณขอรับท่านแม่ ข้าชอบท่านแม่ที่สุดเลย”“ไปหาผลซานจามาให้แม่สิ แล้วแม่จะทำให้กินจนเบื่อเลย”เสิ่นเยี่ยนฟางสั่งหมั่นโถวร้อยลูก ขาหมูตุ๋นสามขา ซาลาเปาอีกร้อยลูก ก่อนจะนำขึ้นรถม้าของเย่วฝางไปส่งที่หมู่บ้านก่อนเพราะเกรงว่าคนงานจะหิว เมิ่งหย่งซิน ไปกับเย่วฝางส่วนเสิ่นเยี่ยนฟางพาเมิ่งลู่เจินไปสำนักศึกษา ไม่นานก็เดินมาถึงสำนักศึกษา คุณธรรมค้ำใต้หล้า ของอาจารย์สุยกว่างโจวท่านนั้น เสิ่นเยี่ยนฟางยืนรอหน้าสำนักศึกษาก็เห็นอาจารย์คนหนึ่งเดินมาทางนี้จึงเอ่ยปากถามไถ่"เอ่อ ท่านอาจารย์เจ้าคะ ที่นี่คือสำนักศึกษาคุณธรรมค้ำใต้หล้าใช่หรือไม่เจ้าคะ"อาจารย์
เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเมิ่งลู่เจินเขาพยักหน้าก่อนจะก้าวมาข้างหน้าคารวะหวงหย่งเหนียนด้วยท่าทีที่บุตรขุนนางชั้นสูงเท่านั้นจะทำเช่นนี้หวงหย่งเหนียนเอ่ยถามความรู้จากที่เขาเรียนมาเมิ่งลู่เจินตอบได้อย่างไม่ขัดเขิน คนในสำนักศึกษาไม่รู้ว่าเขาเป็นใครจึงเอ่ย"แหม่ มาอวดความรู้อยู่ที่หน้าโรงเรียนมิอายผู้คนจริงๆหรือ นี่พี่ชายท่านนั้นคิดว่าตนเองเป็นใครกัน อาจารย์สุยของพวกเรานับว่ารอบรู้ที่สุด หากเจ้าอยากได้ความรู้ มิสู้มาถามอาจารย์สุยเล่า ฮ่าๆๆๆ""ฮ่าๆๆๆ นี่เมิ่งอี้หรือว่าพี่ชายลูกพี่ลูกน้องเจ้าจะจ้างคนมาเล่นละครกัน"องครักษ์ทำท่าจะเข้าไปสั่งสอน แต่หวงหย่งเหนียนห้ามเอาไว้ก่อนจะถามเมิ่งลู่เจิน"ผู้ใดสอนบทเรียนเหล่านี้ให้เจ้าหรือ""เป็นพี่ชายขอรับ""อืมนับว่าเจ้ามีอาจารย์ที่เก่งนัก เอาล่ะรองเจ้าเมืองข้าได้คนแล้ว ลูกศิษย์ส่วนตัวที่จะได้ไปเป็นสหายร่วมเรียนรัชทายาทคนสุดท้ายนับว่าข้าเจอแล้ว เมิ่งฮูหยิน ตั้งแต่พรุ่งนี้รถม้าของจวนเจ้าเมืองจะไปรับส่งน้องสามีท่านทุกวัน ข้าจะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามเดือน เพื่อสอนคนที่ข้าเลือก สุดท้ายแล้วเขาต้องไปร่ำเรียนต่อที่เมืองหลวง พวกเรากลับกันเถอะ กลับเถอะ"หวงหย่งเหนียนเ
ทันทีที่หวงหย่งเหนียนกลับถึงจวนหยางซิงเหยียนก็นั่งหน้างอหงิกบนเตียงก่อนจะเอ่ยออกมา"ท่านอา ท่านยกเลิกการรับเมิ่งลู่เจินเป็นศิษย์สายตรงเถอะเจ้าค่ะ"ขอเหตุผลหน่อยได้ไหมเมียจ๋าคนดี"ปากก็พูดแต่มือกลับอยู่ไม่สุกปลดสายรัดเอวหยางซิงเหยียนก่อนจะฝังใบหน้ากับเต้าอวบอิ่ม ครอบครองดูดดื่มสลับทั้งสองจนเปียกแฉะไปด้วยน้ำลายของเขา มือหนาปลดกระโปรงนางออก ตามด้วยชุดตนเองจับเข่าตั้งชันขึ้นฝังใบหน้ากลางร่อยหลืบที่เริ่มมีน้ำหวานหลั่งชโลมออกมา"อื้อ เสียวเหลือเกินเจ้าค่ะ แต่ท่านอาเจ้าขาขอคุยเรื่องสำคัญก่อนนะเจ้าคะ อ่าห์""อืม จ๊วบๆๆ อืมหวาน" หวงหย่งเหนียนยอมละใบหน้าจากร่องรักของนางก่อนจะเลื่อนมาดูดเม็ดทับทิมสองข้างฟังนางพูดคุย"ว่ามาเถอะเมียจ๋า พี่รอฟังอยู่ อืมนุ่มหวาน อยากนอนดูดทั้งวันจริงๆเหยียนเอ๋อร์ของข้า""อืม เสียวจัง ท่านอา จ เจ้า คะ คือว่า อื้อ อูย ล ลู่ซิน ฮู หยิน ฮูหยินจางเป็นมารดาแท้ๆของเมิ่งซิ่วไฉ อ่าห์ ท่านอาหย่งเหยียนท่านรักข้าเถอะเดี๋ยวค่อยคุย ข้าต้องการท่านแล้ว อ๊าย ล ลึกไปแล้ว อืม จ จุก""เจ้าแน่นขนาดนี้ อาจะไม่ไหวเอานะคนดี โอ้วเสียวมากนักด้ามพู่กันของข้าแทบหักค่าร่องเจ้า เหตุใดเสียวเยี่ยง
หยางซิงเหยียนรีบวิ่งไปหาอาเจินทันที อาเจินที่ตอนนี้กำลังนั่งสานเก้าอี้รูปกวางอยู่ พี่สะใภ้สอนเข้าแค่ครั้งเดียวก็จำได้ หยางซิงเหยียนจับมือของเขามาลูบ จากนั้นก็นำน้ำมันที่ตนเองนำติดตัวมาทานวดให้เขาหวงหย่งเหนียนยอมรับเขาหึงเด็กเก้าขวบจริงๆ กำลังจะเดินไปหา แต่โจวหยวนกางแขนกั้นเขาเสียก่อน หลานเขยกับน้าเมียจ้องหน้ากันก่อนจะสะบัดไปคนละทาง เสิ่นเยี่ยนฟางกับเจียงเสี่ยวฮวาอมยิ้ม ได้ยินหยางซิงเหยียนเอ่ยกับเขา"อาเจิน มือของเจ้าเหมาะที่จะจับพู่กันมากกว่ามานั่งทำงานเช่นนี้นะ""ไม่เป็นไรขอรับพี่ซิงเหยียน ข้าชอบทำมันจะได้มีสมาธิ""อืม ข้าชอบเจ้านะอาเจิน หากข้ากับท่านอาหย่งเหนียนมีบุตรด้วยกันขอแค่น่ารักแบบเจ้า เก่งได้สักครึ่งพี่ชายเจ้า ส่วนหน้าตาสวยเหมือนข้ารูปงามเหมือนสามีข้าก็พอ เรื่องเรียนต่อที่เมืองหลวงอย่าไปเลยนะ ตระกูลท่านตาเจ้ามีแต่คนเลว พี่ชายเจ้าเคยถูกพวกเขาวางยาพิษเพื่อกำจัดหลักฐานไม่ให้พี่ชายเจ้ามีตัวตนมาแล้ว"เมิ่งลู่เจินกำมือแน่น เขาจะสอบทั่นฮวาให้ได้อันดับหนึ่ง เขาจะยืนอยู่จุดสูงสุด เขาจะเป็นคนปลดป้ายตระกูลลู่ด้วยมือตนเอง กล้าทำร้ายพี่ชายกับบิดาของเขา ท่านแม่เป็นบุตรชายท่านข้ายังเซ่นไห
เมื่อเห็นเมียอยากเลี้ยงเด็กแปลว่านางอยากมีบุตรหรือ แต่เขาทำสีหน้ากังวลท่านพ่ออย่าได้เปลี่ยนที่อยู่เล่า เขาอยากกลับมาทำลูกกับเมีย อยากมีลูกของตนเอง เสิ่นเยี่ยนฟางรู้ดีว่าเขาไม่ขัดใจนาง หากไม่คิดเข้าข้างตัวเองเกินไๆปเขารักนางมากนั่นแหละ นางรู้จุดฝังเข็มคุมกำเนิด เป็นศาสตร์โบราณที่น้อยคนจะเรียนได้ มิเช่นนั้นป่านนี้นางท้องแล้ว รอเขากลับมาจากตามหาบิดานางพร้อมจะมีลูกกับเขา นางเพิ่งจะสิบหกย่างสิบเจ็ดร่างนี้ยังไม่ควรคลอดบุตร รออีกสักปีครึ่งนางจะตั้งครรภ์ลูกของเขาแน่นอน เมิ่งหย่งชวนตามใจภรรยา หากนางทำแล้วมีความสุขเขาก็ไม่ขัดใจ อีกอย่างจวนแม่ทัพกว้างขวาง ถึงเวลานั้นนางอยากรับเลี้ยงกี่คนเขาก็จะไม่บ่นเลย"ได้ พี่ตามใจเจ้า เข้าบ้านเถอะพรุ่งนี้ต้องไปทำความสะอาดสุสานอีก""ท่านพี่ หากข้าทำอะไรลงไปหวังว่าท่านจะไม่ต่อว่าข้าภายหลังนะเจ้าคะ อีกอย่างช่วยซื้อที่ดินที่ติดกับบ้านเราให้หน่อย ข้าอยากค้าขายสมุนไพรกับสินค้าบรรณาการเจ้าค่ะ""ทุกอย่างที่เจ้าทำพี่เชื่อว่าเจ้าคิดดีแล้ว ทุกอย่างที่เจ้าทำพี่ถือว่าพี่เห็นชอบด้วยแล้ว ไม่ว่าจะรู้ก่อนหรือเจ้าทำก่อนแล้วบอกทีหลังพี่จะไม่โกรธทั้งสิ้น เข้าบ้านกันพี่กินข้าวอิ
จวนสกุลจางบรรดาบ่าวในเรือนกำลังวิ่งวุ่น วันนี้นายท่านจางจะเซ่นไหว้เทพเซียนเพื่อขอพรให้บุตรชายคนโตจางเหมิ่นสอบติดซิ่วไฉ เขาเป็นพ่อคั้าแม้มีเงินทองมากมายก็ยังเป็อาชีพที่ต่ำต้อยกว่าชาวนาเสียอีก แม้ว่าจะมีคนไม่น้อยจะก้มหัวให้เพราะเงินทองของเขาแต่หากอยากเจรจาการค้ากับราชสำนักก็ต้องมีขุนนางคอยช่วยเหลือ ค่าใช้จ่ายที่คนเหล่านั้นร้องขอบางครั้งก็เกินกว่าผลประโยชน์ที่เขาได้มาเสียอีก บุตรชายของภรรยารองวันๆงานการไม่ทำเอาแต่เกเรไปวันๆจนเข้าระอาท้อใจ อยากหาคนมาปราบจริงจัง ไม่รู้ว่าเมิ่งซิ่วไฉมิวิธีหรือไม่อาจารย์ที่เขาจ้างมาคือซิ่วไฉคนแรกของเมืองก็ว่าได้ที่ได้รับพระราชทานใบประกาศจากพระหัตถ์ฮ่องเต้ทรงชื่นชมอย่างมาก แม้จะมีเหตุให้เขาป่วยจนร่วมสอบจี่เหรินและทั่นฮวาไม่ได้แต่อย่างน้อยเขาก็ถือว่ามีความรู้เทียบกับสุยกว่างโจวที่ตั้งท่ารังเกียจพ่อค้าวานิชย์เช่นเขา เมิ่งซิ่วไฉถือว่ารู้กาลเทศะมากกว่า บนโต๊ะพิธีอาหารถูกจัดวางเตรียมไว้ในครัวเรียบร้อยแล้ว"นี่ๆๆเจ้าน่ะไปดูแม่ครัวผัดหมี่ได้หรือยัง""เจ้าก็ด้วยไปดูสิว่าผลไม้ได้ครบแปดอย่างหรือไม่""ส่วนเจ้าไปทำ ....."เสียงสั่งงานของท่านป้าคนนี้วุ่นวายดีจัง เมิ่ง
เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้กำลังหย่าศึกใหญ่หลวงระหว่างเสี่ยวเย่ากับเสี่ยฮวาน้อย"ถังหุลู่ที่ท่านแม่ซื้อให้ข้าหายไปไหนกัน เจ้าขโมยหรือ""อี้ใอ้ อ่านอินเออะแอ้วอ้าอิ๋ว (พี่ใหญ่ท่านกินเยอะแล้วข้าหิว) " เจ้าแมวขโมยพูดทั้งที่หลักฐานเต็มปาก"เสี่ยวฮวาเจ้าเด็กตะกละ"เสี่ยวเย่าสะบัดหน้าเชิดใส่น้องสาว มือกอดอกนั่งขัดสามธิลอยอยู่เหนือพื้นบ้านปากน้อยๆคว่ำลง มารดาต้องกอดเขาปลอบใจ"เอาล่ะ ไปย้ายต้นซานจามาใกล้ๆ บ้านเดี๋ยวแม่ทำให้ดีไหมน้ำตาลบ้านเรามีเยอะ เสีั่ยวเย่าอย่าโกรธน้องเลยลูกเป็นพี่ใหญ่ต่อไปต้องช่วยแม่ดูแลน้องอีก เสี่ยวเฟิงหรือลูกหอบเอามาดี ลูกเป็นภูติสายลมนี่""เจ้าค่ะท่านแม่ ก็แค่ถังหูลู่สองไม้ทะเลาะกันทำไม ข้ากินซาลาเปาเนื้อยี่สิบลูกไม่เห็นมีใครมาโวยวายเลย"จวนจางต้องวุ่นวาย ซาลาเปาที่วันนี้จะเซ่นไว้ขอพรให้คุณชายสอบผ่านซิ่วไฉหายไปยี่สิบลูก ร้านที่สั่งทำก็ขายหมดแล้ว บ่าวไพร่ต้องวิ่งวุ่น สุดท้ายก็ไม่ได้ โต๊ะเซ่นไหว้จึงขาดซาลาเปานายท่านจางหัวเสียอย่างมากนี่มันลางร้าย ลางร้ายชัดๆ"เสี่ยวเฟิงลูกไปเอาซาลาเปามาจากที่ใดกัน เหตุใดมากมายนักยังมีน้ำตาลปั้นรูปปลาหลีฮื้อนี่อีก มันเหมือนของบูชาเซ่นไหว้เทพเ
ทันทีที่บุตรสาวพุดจบสองแม่ลูกก็จากไป เสี่ยวเย่าลอยมาหามารดาก่อนจะบอกว่าพวกนางพูดอะไรกัน เสิ่นเยี่ยนฟางกำมือแน่นแต่ยังไม่บอกกับอาสามีแต่มิวายกำชับเด็กๆ"ดูแลย่าเล็กให้ดีตอนที่แม่ทำงาน"ทั้งสองคนออกเดินทางไปยังชายป่าตีนเขาอีกฟากของหมู่บ้าน มันไกลผู้คนมากนักเสิ่นเยี่ยนฟางกำลังก้มๆเงยถอนหญ้า เมิ่งหย่งซินเองก็ขึดหลุมปลูกดอกไม้เพื่อเพิ่มความสวยงาม ท่านปู่ท่านย่ารักนางยิ่งนักเสียดายพวกท่านจากไปเร็วเกินไปเมิ่งจื่อที่ตอนนี้พาคนที่จะมาเอาตัวเสิ่นเยี่ยนฟางกับเมิ่งหย่งซินมาดูตัว สิ่งที่พวกเขาเห็นคือสตรีอัปลักษณ์สองคนคนหนึ่งหน้ามีปานแดงขนาดครึ่งฝ่ามือ อีกคนหน้าปุ่มป่ำเต็มไปหมด"ไหนเจ้าบอกว่างดงามไง เพ้ย อัปลักษณ์ที่สุด"จากนั้นเศรษฐีเหวินก็กลับไปแต่อยู่ๆก็นึกได้ว่าเหตุใดจะมาเสียเที่ยว หันไปหาลูกน้องทุกคนรู้ว่าเจ้านายต้องการสิ่งใด ไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อยบนเตียงกว้างสตรีร่างบางกำลังถูกชายแก่วัยกลางคนหัวเถิกพุงพลุ้ยกำลังอยู่หว่างขากระแทกร่องของนางอยู่ เสียงครวญครางปนเสียงเสียงร้องไปดังออกมาเรื่อยๆเพียะ!! เพียะ!! เสียงมือตบที่เต้านมอวบอิ่มจนแดงเป็นรอย ทั้งเต้านมมีแต่รอยกัด หัวนมมีเลือดซิบออกมา ช่
เมื่อถึงมื้อค่ำผู้ใหญ่ก็มีเรื่องคุยกัน หวงหย่งเหนียนเจรจาสู่ขอจางจื่อเหยียนกับจางลี่ให้หวงมู่เหวิน กลับเมืองหลวงแต่งงานทันทีเพราะเด็กทั้งสองนั้นไปไกลแล้ว หากเกิดจางจื่อเหยียนตั้งครรภ์ขึ้นมาก่อนจะไม่ดีจากนั้นซูหยางก็สู่ขอเมิ่งหานเซียงกับเมิ่งหย่วงชวน ส่วนเมิ่งหย่งชวนก็เจรจาสู่ขอหวงเฟยเซียนให้บุตรชายคนโตเช่นกัน ตวนอ๋องเอ่ยกับเมิ่งหย่งชวนว่าเขาจะแต่งงานกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงทำเอาทุกคนอ้าปากค้าง แต่เสิ่นเยี่ยนฟางและเมิ่งหย่งชวนรู้ดีว่าบุตรสาวมีใจให้เสด็จอาสิบสองมานานแล้ว ในเมื่อเป็นความสุขของบุตรสาวทั้งคู่จึงส่งเสริม สรุปทุกคู่หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้วจะแต่งงานกันในอีกครึ่งเดือนเจ็ดเดือนต่อมาเสิ่นเยี่ยนฟางก็คลอดฝาแฝดชายหญิงให้เมิ่งหย่งชวนอีกหนึ่งคู่ ตอนนี้นางกำลังอยู่เดือน บุตรชายและบุตรสาวแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เมิ่งเสี่ยวเถาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายารัชทายาท คนอื่นๆ ก็เป็นฮูหยินน้อยของจวนต่างๆเมิ่งหานเซียงตั้งครรภ์คนแรก หากไม่นับจางจื่อเหยียนที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานไปแล้ว จากนั้นก็ตามด้วยโจวจื่อหราน ส่วนที่เหลือสามียังคงตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจปั๊มบุตรอย่างไม่ย่อท้อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในที่
เมิ่งเสี่ยวเถาลืมตาขึ้นมา นางฝันอะไรเนี่ยถึงนางจะชอบจ้าวตงหยางแต่ไม่ควรเก็บเขามาฝันลามกเช่นนี้ได้นะ เขาเรียกนางมหาเทวี ส่วนนางก็เรียกเขาว่าท่านตาเจ้าที่ นี่มันเรื่องอะไรกัน อีกทั้งเขากับนางยังเข้าหอกันในศาลเจ้า นี่มันบ้าไปแล้วหรือนอกจากเมิ่งเสี่ยวเถาจะฝันประหลาดจ้าวตงหยางก็ไม่ต่างกัน เขาฝันเช่นเดียวกับนาง ในความฝันนางช่างหอมหวานยิ่งนัก นึกถึงวันที่ได้ชิมความหวานจากนางเมืองหลายวันก่อนยังตราตรึง อีกทั้งในฝันเสมือนจริงเหลือเกิน หากเขาแหวกม่านประเพณีเข้าหอกับนางก่อนได้ก็คงดีนางจะเป็นพระชายาและจะเป็นแม่ของแผ่นดินคนต่อไป คืนวันแต่งงานหากพิสูจน์ความบริสุทธิ์ไม่ได้นางจะใช้ชีวิตที่เหลือลำบาก เขาจึงจำต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ในความฝันนางช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาไม่เข้าใจเหตุใดฝันเช่นนั้นได้แต่ละเมอออกมาไม่รู้ตัว"เทวีของข้า เสี่ยวเถาเด็กดีข้าคิดถึงเจ้าคนงาม"หลังจากมาถึงฮวาป๋ายทุกคนก็พักผ่อนกันเต็มที่ กระทั่งยามซื่อทุกคนก็มารวมตัวกันไปบ้านท่านปู่ทวด เด็กๆให้สาวใช้และบ่าวในจวนขนของขวัญมากมายไปที่บ้านท่านอาหญิง จางจื่อเหยียนจูงมือเหลนเขยไปเยี่ยมท่านตาทวดของนางอย่างอารมณ์ดีเมิ่งซุนที่กำ
หลายเหตุการณ์ผ่านไปถึงเวลาที่ทั้งหมดต้องเดินทางกลับฮวาป๋าย รุ่งสางทุกคนก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทาง จ้าวตงหยางพาเมิ่งเสี่ยวเถาขี่ม้าไปด้วยกัน จ้าวไห่เฉิงกับเมิ่งเสี่ยวเฟิงก็ขี่ม้าไปล่วงหน้าแล้ว นางชอบขี่ม้าที่สุด เสด็จอาสิบสองจึงตามใจนางบรรดาสตรีที่เหลือนั่งรถม้าสามคัน จากเมืองลั่วเหอไปฮวาป๋ายใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น แต่เด็กๆจะแวะไปเมืองเหลยเพื่อเยี่ยมท่านย่าลู่ซินก่อน เดินทางมาได้หนึ่งวันก็ถึงเมืองเหลย ทั้งหมดเข้าที่พักที่ท่านอาเขยเตรียมไว้ให้ หวังจิ่วมารับเด็กๆและอารักขาด้วยตนเอง หวังซูหรานก็ตามบิดามาด้วย นางคิดถึงพี่ๆมากนัก หวังซูหนีว์เห็นหน้าน้องสาวก็รีบทักทาย"ซูหราน เจ้ามาแล้ว""พี่หญิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย"คนที่เหลือเปิดม่านออกมาก่อนจะส่งเสียงทักทาย หวังซูหรานควบม้ามาใกล้ๆก่อนจะขี่ม้าขนาบข้างแล้วคุยไปด้วย หวังจิ่วต้องรีบกลับเพราะตอนมานั้นเขามาคนเดียว ใครจะรู้เจ้าตัวดีแอบตามมาด้วย หากกลับไปเมียจัดการเขาแน่นอนกระทั่งถึงที่พักเรียบร้อยก็เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็เข้าที่พัก เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยก็พากันมากินมื้อเย็น ต่า
จางจื่อเหยียนยอมรับสัมผัสจากหวงมู่เหวิน นางลืมไปแล้วว่านางกำลังโกรธเขา ลืมไปแล้วว่าเขามาเพื่อให้นางยกโทษให้ กระทั่งผิวกายต้องอากาศเย็นนางจึงรับรู้ว่าอาภรณ์ถูกเขาปลดออกแล้ว แผ่นหลังแตะที่นอนโดยมีร่างไร้อาภรณ์ของคนตัวโตทาบทับเกยนางเอาไว้ ดอกบัวตูมเบ่งบานชูช่อ ปลายถันแข็งชันล่อลวงให้คนด้านบนตกอยู่ในมนต์เสน่หา หวงมู่เหวินสบตากับนางจางจื่อเหยียนไม่กล้าสบตาเขาเอ่ยตะกุกตะกัก"คุณชายรอง""เรียกพี่มู่เหวินเหมือนเดิมได้หรือไม่ จื่อเหยียนของพี่ เจ้างามนัก"จางจื่อเหยียนผวา ร่างงามถูกเขานวดเฟ้น ปากหยักครอบครองความหวานตรงหน้า ดรุณีน้อยยกแขนคู่เรียวโอบรั้งท้ายทอยหนาแอ่นอกงามให้เขาเชยชม ใจนางมีเขาอยู่จึงไม่ไตร่ตรองในสิ่งที่กำลังทำ แค่คืนนี้เท่านั้น แค่ครั้งนี้ขอให้นางได้เป็นผู้หญิงของเขา หลังจากคืนนี้ไปนางจะออกจากหนานเป่ยไปใช้ชีวิตที่อื่น"อื้อ พี่มู่เหวิน อาเหยียน สะเสียว""อืม หวานเจ้าหวานมากอาเหยียน"ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปหาดอกไม้บอบบางก่อนเริ่มสำรวจน้ำหวาน ไม่นานคนใต้ร่างก็กระตุกเกร็ง นางแตะสวรรค์จนต้องกลั้นเสียงครางเอาไว้ เกรงว่าจะเล็ดลอดออกไป หวงมู่เหว
จางจื่อเหยียนนอนละเมอทั้งคืน หวงมู่เหวินนั่งเฝ้าอยู่ด้านนอก เขารู้สึกผิดเขาเพิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขารักนาง หากว่าวันนี้ไม่เกือบเสียนางไปเขาก็คงไม่รู้หัวใจตัวเองและเป็นเขาเองที่เกือบทำนางหายไป เมิ่งเสี่ยวหว่านออกมาจากห้องเห็นบุตรชายคนรองของมหาราชครูก็ถอนหายใจคนหนึ่งก็พยายามหนีหัวใจตัวเอง อีกคนก็ปากแข็งจนก่อเรื่องร้ายแรง จางลี่ออกมาจากห้องบุตรสาวเห็นคนก่อเรื่องนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องก็ประคองฮูหยินของตนเดินมาหา "คุณชายรอง....ท่านไปพักก่อนเถอะอาเหยียนนางยังมีไข้และเพ้อเป็นบางครั้ง รอนางดีขึ้นท่านค่อยมาดีกว่า""ท่านอาจาง..ข้าสำนึกผิดแล้วข้าอยากเข้าไปหานาง ท่านอาท่านอนุญาตเถอะขอรับ""คุณชายรอง..มีใช่ว่าพวกเรากีดกันท่าน แต่ให้เวลานางสักหน่อย บุตรสาวข้านางเพิ่งเสียขวัญ อีกทั้งเกือบจมน้ำตาย ตอนนี้หากเห็นหน้าท่านนางอาจทรุดหนักกว่าเดิม"จางลี่โกรธมากเรื่องนี้เมิงเสี่ยวหว่านรู้ดี เขารักบุตรสาวคนนี้ที่สุด จางเหิงบุตรชายคนโตที่เป็นผู้สืบสกุล สามีนางยังมิเอ็นดูเท่ากับบุตรสาวเลย แต่อย่างไรเล่า คนที่คุกเขาอยู่ตรงหน้าคือบุตรชายมหาราชครูเชียวนะ เมิ่งเสี่ยวหว่านถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสามีของนาง
ทุกคนปรับความเข้าใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงเมิ่งลู่เหลียนกับหานมู่เฉินเท่านั้น ตอนนี้ดรุณีน้อยกำลังโมโหเขาอยู่ หานมู่เฉินที่เดิมทีเคยถูกนางทุบตีประจำมาวันนี้เขากลับตรึงนางเสียอยู่หมัด ยามนี้รน่างงามอยู่ใต้ร่างแกร่งเขากดข้อมือนางเอาไว้ ปล้ำจูบนางอย่าเอาแต่ใจ เมิ่งลู่เหลียนที่ถูกเขาหลอกมาตลอดว่าเขาไร้วรยุทธ ยามนี้นางต่างหากที่ห่างไกลคำว่ายอดฝีมือ"ปล่อยข้านะเจ้าบ้าหานมู่เฉิน ไอ้คนโกหกหลอกลวง เจ้าหลอกข้าหรือ อย่าให้ข้ารอดไปได้นะ บอกให้ปล่อยไง""ปล่อยหรือ นี่เมิ่งลู่เหลียนข้าจะบอกให้นะ ทั้งชีวิตข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน""เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาควบคุมข้า หานมู่เฉินไอ้คนเลว อื้ออออ"เด็กคนนี้ต้องสั่งสอน เขาต้องปราบนางให้ได้ ดื้อด้านนักทุบตีเขาอยู่เรื่อย ถ้าไม่ใช่ว่าเขารักนางคงจับนางฟาดเสียหลายทีแล้ว ทำตัวเกเรยิ่งนัก เมิ่งลู่เหลียนที่กำลังเสียเปรียบเขาอยู่ ก็หาทางออกให้ตัวเอง ทันทีที่เขาถอนจุมพิตออกนางก็เปลี่ยนเป็นไม้อ่อนทันที"พะ พี่มู่เฉิน เหลียนเอ๋อร์เจ็บมือเจ้าค่ะ ปล่อยเหลียนเอ๋อร์ได้ไหมเจ้าคะ""หืม..อ่อนหวานก็เป็น เอาตัวรอดสิท่าแม่ตัวดี""เปล่านะเจ้าคะ เหลียนเอ๋อร
หนุ่มสาวออกเดินทางไปหลังเขา ซึ่งไม่ได้ไกลจากจวนมากนัก เดินเท้าไปใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ไม่นานทั้งหมดก็มาถึง จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถาไปด้านหนึ่ง จ้าวไห่เฉิงก็จูงมือเมิ่งเสี่ยวเฟิงไปอีกด้าน ส่วนซูหยางรวบเอวบางของเมิ่งหานเซียงไปนั่งเล่นบนโขดหินริมลำธาร องครักษ์ที่ตามมามีมากกว่าสิบคนต่างก็ดูแลรอบนอกเผื่อมีคนนอกหลงเข้ามาเมิ่งเสี่ยวเย่ากับเมิ่งซีฮวนไปหาไก่ป่า ส่วนหวงมู่เหวินไปเก็บฟืนกับหานมู่เฉิน ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน มารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ทั้งคู่ สาวๆที่เหลือต่างก็กวดจับกระต่ายป่า โจวจื่อหรานไม่อยากทำร้ายมันจึงปล่อยไป บรรดาบิดามารดาของเด็กๆเหล่านี้ปวดหัวมากนัก เมื่ออยู่กันครบทีไรสร้างเรื่องใหญ่โตทุกที โจวหยวนปวดหัวแต่ต้องยอมตามใจ เจียงเสี่ยวฮวาเองก็ไม่อยากดุแต่จำต้องเข้มงวดเมื่อได้ไก่ป่ามาแล้วบุรุษก็จัดการ ให้บรรดาสตรีนั่งรอ จางจื่อเหยียนสายตาซุกซนนางมองเห็นดอกไม้สีแดงอยู่ลิบๆ แน่นอนว่าใช่ดอกโสมนางต้องไปเอามันกลับให้ได้ เอาไปขายให้ท่านพ่อคงได้หลายร้อยตำลึง ดรุณีน้อยมีหัวการค้ายิ่งนัก แต่ลูกค้าของนางกลับเป็นบิดาอย่างจางลี่ แล
ปลายยามอิ๋นเมิ่งหานเซียงขยับตัว นางนึกขึ้นได้ว่าข้างๆมีคนนอนด้วยก่อนจะขยับร่างบางเข้าหาซุกใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง กลิ่นกายซูหยางทำเอาสาวน้อยหวั่นไหว นางกับเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา เป็นเพราะเขาไม่เคยใส่ใจนางเลย แต่กับคุณหนูคนอื่นๆเขากลับดูแลอย่างดี บางคนถึงกับยอมสอนพวกนางให้ส่วนตัว เมิ่งหานเซียงกลัวเขาจะตื่น แต่ก็รวบรวมความกล้าจุมพิตลูกกระเดือกคนตัวโตเบาๆ ไล่จุมพิตไปจนถึงปลายคาง ก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากคนนอนหลับซูหยางตื่นนานแล้ว เขาไม่ขยับอยากรู้ว่านางจะทำอะไร คนตัวโตยิ้มในความมืดมือหนาลูบหลังนางเบาๆเป็นสัญญาว่าเขาตื่นแล้ว เมิ่งหานเซียงเขินอาย เขาตื่นตอนไหนนะ นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ท่านอา..เช้าแล้วมิกลับห้องหรอกหรือเจ้าคะ""อยากนอนกอดเจ้าอีกหน่อยเด็กดีของอา เซียงเอ๋อร์คนงาม อารักเจ้ายิ่งนัก แล้วเจ้าล่ะรักอาบ้างไหม"ดรุณีน้อยมิตอบคำถาม แต่แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนตัวโตแทนคำตอบทั้งหมด ซูหยางยิ้มในความมืดก่อนจะพลิกร่างบางลงใต้ร่างแกร่ง เขาพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม"อยากเข้าหอกับเจ้าจัง ได้ไหมหื้ม""ท่านอา..อย่ารุ่มร่ามเข้าหออะไรของท่าน อยากถูกเส
จ้าวตงหยางจูงมือเมิ่งเสี่ยวเถามาทางสวนท้อด้านหลังจวน เจ้าตัวยุ่งของเขาชอบดอกท้อที่สุด เขาแปลกใจเหมือนกันนางร่ายรำใต้ต้นท้อยามใด ดอกท้อพร้อมใจกันบานเต็มไปหมด ดูเหมือนบุตรสาวจวิ้นอ๋องแต่ละคนคงเป็นเทพธิดามากำเนิดเสียกระมัง เมิ่งเสี่ยวฮวาเดินไปทางใดก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เมิ่งเสี่ยวเฟิงเพียงแค่โบกมือเบาๆก็ราวกับควบคุมสายลมได้ ดินแดนตะวันออกไม่เคยแห้งแล้ง เมิ่งเสี่ยวเหอเด็กคนนั้นว่ายน้ำเก่งเสียยิ่งกระไร ทะเลสาบกว้างใหญ่ ราวกับนั่นคือบ้านอีกหลังของนาง ชาวประมงที่หากินกับแม่น้ำยังไม่สามารถว่ายไปกลางทะเลสาบได้เมิ่งเสี่ยวเถาที่เดินตามร่างสูงมาก็หน้างอง้ำ นางไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากเจรจากับเขา กระทั่งมาหยุดลงที่ม้านั่งหินใต้ต้นท้อที่ดอกบานสะพรั่งที่สุด จ้าวตงหยางจับให้เมิ่งเสียวเถานั่งลง ส่วนตัวเขานั้นนั่งลงเรียบร้อยก็นอนหนุนตักนางหน้าตาเฉย จนดรุณีน้อยต้องดุเขาเบาๆ"ไท่จื่อ เป็นถึงรัชทายาทเหตุใดไม่สำรวมสักนิดเพคะ อีกอย่างหม่อมฉันหนัก"มือหนาคว้ามือบางเอามากุมไว้แนบอก ก่อนจะหลับตาลงเอ่ยกับนาง"เสี่ยวเถา เหตุใดไม่เรียกพี่ตงหยางเช่นเมื่อก่อน เจ้าห่างเหินหมางเมิ