หลังจากที่เสิ่นเยี่ยนฟางกวดตีลู่หานกับลู่ซินจนกระเจิงก็มานั่งพรวนดินยกร่องผักของนางต่อ เมิ่งลู่เจินกำลังช่วยเสิ่นเยี่ยนฟางเก็บเศษวัชพืชที่พรวนขึ้นมา โจวหยวนกำลังคุยกับเมิ่งหย่งชวนอยู่ที่ลานหน้าบ้าน ชาดอกเก๊กอวยที่นางตากแล้วคั่ว ว่าจะลองไปเสนอขายดูสักหน่อย ตอนนี้มีเงินในมือกว่าห้าหมื่นตำลึง เช่าร้านค้าขายดีไหม อาเจินจะได้เรียนหนังสือด้วย นางชอบเด็กใฝ่เรียนใฝ่รู้เมิ่งลู่เจินเป็นเด็กหัวไว แต่บางอย่างต้องคุยกันให้รู้เรื่อง"อาเจิน อยากเรียนหนังสือไหม พี่สะใภ้อยากค้าขาย เจ้าจำเป็นต้องรู้หนังสือจะได้ช่วยพี่คุมบัญชีร้าน""ข้าทำได้หรือขอรับ ข้าเป็นคนโง่เขลา เมิ่งอี้มักด่าข้าว่าไอ้โง่เสมอ""เจ้าท่องตำราพันอักษรที่พี่ชายเจ้าสอนได้แล้ว ปราชขงจื๊อ คัมภีร์อี้หลุนเจ้าก็ท่องได้ อีกทั้งลายมือก็นับว่ามีระเบียบแบบแผน เจ้าจะใส่ใจคำพูดคนที่เรียนมา6ปีเพิ่งสอบผ่านถงเซิ่งอย่างเมิ่งอี้หรือ แปลว่าเจ้าดูถูกพี่ชายตนเอง หากเจ้าโง่เขลากแปลว่าพี่ชายเจ้าไม่ได้เรื่องเพราะเขาเป็นคนสอนเจ้า หากศิษย์ไม่ดีแปลว่าอาจารย์ไม่ได้เรื่อง""พี่สะใภ้ ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นขอรับ ข้าอยากเรียนแต่เรื่องเอ่อ""ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูด
ทางด้านโจวหยวนฝนตกหนักมากจนล้อรถม้าของเขาติดหล่ม นี่ยามห้ายแล้ว(21.00-22.59) เขายังไม่เข้าเมืองเลยจนกระทั่งทหารยามที่ให้คนขับรถม้าไปตามมาถึง จึงเข็นรถม้าขึ้นจากหล่มได้ หากไม่ติดว่าฝนตกหนักเขาคงเดินกลับจวนแล้วโจวหยวนมาถึงจวนเกือบปลายยามห้าย บ่าวเตรียมน้ำร้อนให้เขาเรียบร้อย เขาคิดถึงคนตัวเล็กจึงเรียกหาแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงเดินถือวิสาสะเข้าไปในห้อง เห็นนางนอนหลับอยู่ เสียงสะอื้นเบาๆดังออกมาโจวหยวนเอื้อมมือไปปลุกเจียงเสี่ยงฮวาจึงลืมตา พอเห็นเป็นเขาก็รีบลุกขึ้น มือปาดน้ำตาก่อนจะก้มหน้า โจวหยวนโบกมือทีเดียว ตะเกียงก็สว่างขึ้นมา เขารั้งนางเข้ามาหาถามไถ่สาเหตุ"ร้องไห้ทำไม่ เจ้าไม่อยากอยู่ที่นี่หรือ เจ้ารังเกียจข้าหรือเสี่ยวฮวาน้อย""เปล่าเจ้าค่ะ""เงยหน้าสิ เหตุใดเอาแต่ก้มหน้ากัน" เจียงเสี่ยวฮวาไม่กล้ามองหน้าเขา โจวหยวนเชยคางนางขึ้นมา ทันทีที่เห็นใบหน้าด้านซ้ายบวมเขาถึงกับกัดฟัน"ฝีมือใครเสี่ยวฮวา""ไม่มีเจ้าค่ะ ใต้เท้าท่านมาเหนื่อยๆให้ข้าอาบน้ำให้นะเจ้าคะ ข้าจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้"เจียวเสี่ยวฮวาทำท่าจะลุก แต่เขารั้งไว้ช้อนนางมานั่งบนตัก ก่อนจะจุมพิตข้างที่ถูกคนตบมา เจียงเสี่ยวฮวามองหน้าเขา"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้กำลังทายาให้พี่สาวอยู่ ในใจอยากไปตบสั่งสอนนังผู้หญิงคนนั้นจริง เจียงเสี่ยวฮวานิ่วหน้า"เจ็บมากไหมพี่หญิง""ไม่เป็นไร เสี่ยวฟางเจ้าจะมาช่วยงานเลี้ยงใต้เท้าโจวหรือ""ใช่เจ้าค่ะ เมื่อคืนต้มปลามาให้ท่านคงไม่ได้กินสักคำ ข้าเอาเต้าหู้มาด้วยเดี๋ยวจะทำให้ท่านกิน พี่หญิงข้าเลี้ยงท่านได้ หากคนสกุลเจียงมาหาเรื่องข้าจะกวดตีพวกเขากลับไป ท่านกลับไปอยู่กับข้าดีกว่าไหม ใต้เท้าโจวป้องกันคนนอกได้แต่ป้องกันคนในไม่ได้ข้าเป็นห่วงท่านน่ะ"โจวหยวนที่เพิ่งมาถึงก็หน้าดำเป็นก้นหม้อ ฮูหยินนี่ยังไงกันนะ กว่าเขาจะเอานางไว้ข้างกายไม่ง่ายเลย อยู่ๆจะมาแย่งก่อนจะหันไปหาเมิ่งหย่งชวน"นี่ท่านแม่ทัพ เมียท่านจะแย่งว่าที่เมียข้าแล้วไปจัดการคนของท่านหน่อย ตอบแทนที่ข้าเล่นงานลู่หานให้ท่านวันนี้""หึ เล่นงานลูหานให้ข้าหรือว่าท่านเล่นงานหลี่เสี่ยวเหม่ยกันแน่ ตาเฒ่าโจว"ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าห้องก็เอ่ยเรียกคนด้านใจ เสิ่นเยี่ยนฟางที่ได้ยินเสียงสามีก็รีบออกมาหา จากนั้นก็เบี่ยงตัวให้พวกเขาเข้ามา เจียงเสี่ยวฟางนอนอยู่บนเตียง แต่ว่าม่านถูกรูดปิดเรียบร้อยแล้ว เมิ่งหย่งชวนเอ่ยไถ่ถามอาการ"ท่านพี่ภรรยา ท่านเป็นอย่
"พวกท่านเป็นใครกัน ข ข้าขอบคุณมาก" ดรุณีน้อยที่เพิ่งหายตกใจเอ่ยตะกุกตะกักขอบคุณเสิ่นเยี่ยนฟางกับเมิ่งหย่งชวน"ข้ากำลังจะมาดูหน้าสตรีที่คิดแย่งสามีข้าพอดี อืม เจ้าคือท่านหญิงคนนั้นที่ต้องการแต่งงานกับสามีข้าเมิ่งหย่งชวนหรือ ใบหน้างดงามราวเทพธิดาเชียว แต่ยังสวยไม่พอหรอก คนสวยต้องมีสามีของตัวเองไม่ใช่แย่งสามีคนอื่น""อะไรนะ?!! บัณฑิตท่านนั้นมีภรรยาแล้วหรือ ข ข้าไม่รู้ใต้เท้าลู่บอกว่าบ้านเขายากจน เป็นเพียงชาวนาแต่ว่ากลับเรียนเก่งและมีความสามารถอนาคตก้าวหน้า แต่งกับเขาข้าจะไม่ถูกคนดูหมิ่น"หยางซิงเหยียนเอ่ยแก่เสิ่นเยี่ยนฟาง นางตกใจจนลืมสังเกตบุรุษที่ยืนอยู่ข้างๆสตรีงดงามที่ช่วยนางไว้ จนกระทั่งเขาเอ่ยขึ้น"ท่านหญิง ตัวข้าเมิ่งหย่งชวนมีภรรยาแล้ว ชาตินี้ไม่แต่งภรรยาเพิ่ม ไม่รับอนุ ขอท่านตัดใจเถอะอย่าให้คนทั้งเมืองก่นดาว่าท่านเป็นถึงบุตรสาว ท่านอ๋องแต่กลับแย่งสามีชาวบ้าน"หยางซิงเหยียน นั่งลงร้องไห้สะอื้นจะตัวโยน เสิ่นเยี่ยนฟางเข้าใจนางทุกอย่างจึงเอ่ยขึ้น"ข้าได้ยินบทสนทนาเหล่านั้นแล้ว นี่ท่านหญิงท่าจะแต่งงานประชดบุรุษเช่นนี้ไม่ได้ หากเมื่อถึงเวลาแล้วเขาไม่ใส่ใจท่านจริงๆท่านต้องแต่งงานไปกับคนท
ส่วนทางด้านของหยางซิงเหยียนที่ได้มาถึงบ้านของเมิ่งหย่งชวนก็กระโดดลงจากเกวียนทันที เสิ่นเยี่ยนฟางจุงมือนางให้เดินตามาที่ท้ายหมู่บ้าน บรรยากาศดักว่าที่โรงเตี้ยมนั่นเสียอีก"นี่บัณฑิตเมิ่ง ฮุหยินบ้านของพวกท่านน่าอยู่มากเลย ข้าชอบที่นี่ข้าไม่กลับเมืองหลวงแล้ว ไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้ายหวงหย่งเหนียน""ท่านหญิง ที่นี่ไม่มีข้าทาสบริวาร ทุกอย่างท่านต้องช่วยเหลือตนเอง ท่านแน่ใจหรือว่าจะอยู่ได้"เสิ่นเยี่ยนฟางเอ่ยขึ้น แต่หยางซิงเหยียนไม่ได้สนใจ นางกำลังเห็นลำธารหลังบ้าน ข้าไปหน่อยเป็นภูเขาสูง ต้นไม่มากมายเลย มีดอกไม้ป่าเต็มไปหมด หยางซิงเหยียนวิ่งเล่นเจอดอกไม้ก็เก็บมาแซมผม เมิ่งหย่งชวนมองตามร่างน้อยที่วิ่งไปมา เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นเขามองนางไม่วางตาก็อยากรู้ว่าเพราะอะไรสายตาของเขาไม่ได้บ่งบอกว่าชื่นชอบสตรีหรืออย่างไร แต่มันบ่งบอกถึงความหนักใจ เสิ่นเยี่ยนฟางจึงเดินไปหาจับมือเขาแล้วมองหน้"เจ้ากำลังคิดว่าพี่คิดสิ่งใดอยู่หรือเสี่ยวฟาง""ข้าเห็นท่านมองนางไม่วางตา ท่านกำลังคิดว่าที่พานางมาอยู่บ้านเรานั้นเป็นเรื่องผิดหรือถูกใช่หรือไม่เจ้าคะ""เสี่ยวฟาง พี่มีเรื่องต้องคุยกับเจ้าสักหน่อย หลังมือเย็นอาเจินล่ะ
หยางซิงเหยียนร้องไห้จนหลับ เสิ่นเยี่ยนฟางที่หูดีได้ยินเสียงสะอื้นก็นอนฟัง พอหลังจากที่นางหลับเมิ่งหย่งชวนจึงไปเรียกน้องชายมาคุยเมิ่งลู่เจินนั่งลง เมิ่งหย่งชวนจึงเอ่ยกับเสิ่นเยี่ยนฟางและน้องชาย"เสี่ยวฟาง อาเจิน หลังจากงานเลี้ยงใต้เท้าแล้วพี่จะเร่งซ่อมรั้วบ้านทันที เปลี่ยนหลังคาพรุ่งนี้วันเดียวก็เสร็จ""ท่านต้องไปสอบ เรื่องบ้านข้าทำเองก็ได้เจ้าค่ะ""เสี่ยวฟางหากพี่ไม่ได้เข้าสอบ ไม่ได้เป็นขุนนางเจ้ายังจะรักพี่หรือไม่""ข้าแต่งให้ท่าน ต่อให้ต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยงท่านก็ต้องทำ หรือว่าท่านเต็มใจให้ข้ามีสามีใหม่เล่า ว้าย"เมิ่งหย่งชวนไม่สนใจน้องชาย จับนางมานั่งตักทันทีแล้วประคองใบหน้างามให้จ้องหน้าเขา สบตาสุกใสของนาง ดวงตาสีน้ำหมึกของเมิ่งหย่งชวนทำเอาเสิ่นเยี่ยนฟางอยากจูบเขาจริงๆ ติดที่น้องสามีนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยนี่แหละ"นี่ฉันหื่นกาม ลามกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ"เสิ่นเยี่ยนฟางถามตัวเองในใจ ก่อนจะได้ยินเสียงเมิ่งหย่งชวนพูดด้วยน้ำเสียงเข้มดุนาง"กล้าหรือ ใครมาใกล้เจ้าหรือเจ้าแต่งงานใหม่พี่จะส่งพวกมันลงปรโลกให้หมดเลย""คนทึ่ม ท่านรูปงามเพียงนี้จะให้ข้าเอาตาไปมองใครเล่า ว่าแต่วันนี้ท่านถอนหายใ
หยางชิงเหยียนนอนหลับไปอีกครั้ง อากาศเชิงเขานับว่าหนาวนัก ด้านนอกฝนลงเม็ดอีกแล้ว มีผ้านวมผืนหนา กลิ่นฟางที่เปียกฝนทำให้ผ่อนคลายกว่ากลิ่นกำยานในเมืองหลวงเสียอีกหยางซิงเหยียนหลับไปโดยไม่รู้เลยว่าอีกด้านของโรงเตี้ยมกำลังเกิดเรื่องวุ่นวาย ยามเว่ยแล้วเสียงสายฝนดังกระทบกระเบื้องของโรงเตี้ยม หวงหย่งหนียนที่เพิ่งจะเข้านอนได้ยินเสียงเคาะประตูจึงจำใจต้องลุกขึ้นมาทันทีที่เปิดประตูก็เห็นสาวใช้ข้างกายของหยางซิงเหยียนยืนอยู่หน้าห้อง เขาปิดประตูใส่หน้านางทันที เด้กบ้านคนนั้นวันๆหาแต่เรื่องน่ารำคาญเสียจริงก๊อกๆๆๆ"ท่านราชครูได้โปรดเถอะเจ้าค่ะ ท่านหญิงหายไปท่านได้โปรดช่วยตามหานางด้วย""อย่ามาลูกไม้ นางจะไปไหนได้ เล่นแมวจับหนูกับข้าหรือ เป็นท่านหญิงไม่เคยสำรวม อยากแต่งงานก็มาแล้วพรุ่งนี้ก็ไปเจอหน้าคนที่นางอยากแต่งแล้วบอกนางรีบเข้านอน""ท่านราชครู ท่านหญิงหายไปจริงเจ้าค่ะฮือๆๆๆ นางให้ขอทานมาส่งจดหมายจนป่านนี้ยังไม่กลับเลยเจ้าค่ะ"สาวใช้ร้องไห้อยู่หน้าประตู หวงหย่งเหนียนไม่ใส่ใจ เด็กคนนี้นับวันยิ่งเจ้าแผนการ อยากขึ้นเตียงเขาขนาดนั้นเชียวหรือ ไร้ยางอายเต็มทน เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ทำตัวต่ำนัก หวงหย่งเหนียนไ
หวงหย่งเหนียน อยากจะเข้าไปกระชากเจ้าเด็กบ้านี่มาทุบเสียจริงๆ ที่แท้ไอ้เด็กบ้านี่รู้อยู่แต่แรกเหตุใดไม่ให้คนไปแจ้งกับเขา โจวหยวนให้อาเฉิงนำทางไปห้องพักโจวหยวนกลับเข้ามาในห้อง เจียงเสี่ยวฮวาหลับไปแล้ว น่าจะเพราะบาดแผลทำให้นางเริ่มมีไข้ โจวหยวนปลุกนางกินยา ก่อนจะให้นางนอนหลับเขานอนข้างๆกอดนางเอาไว้ เด็กคนนี้บอบบางเหลือเกิน ผิดกับคนที่กำลังก่อเรื่อง ไอ้เด็กบ้านั่นวันๆจ้องแต่จะแต่งกับตาเฒ่าหย่งเหนียนให้ได้ ไม่เห็นเขาจะมีดีตรงไหนสักนิดยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังเตรียมอาหารให้คนงานที่มาเปลี่ยนกระเบื้องก็เห็นรถม้าของจวนเจ้าเมืองมาแต่เช้า หืม นี่มาทำไมแต่ไก่โห่หวงหย่งเหนียบนลงมา เขามีไข้เพราะตากฝนเดินเคาะประตูบ้านตามหาตัวต้นเรื่องครึ่งคืน โจวหยวนลงจากรถม้าก่อนจะเดินตรงมาหานาง"เมิ่งฮูหยินมารบกวนท่านแต่เช้า มิทราบว่าหลานสาวตัวดีของข้าอยู่หรือไม่""ท่ายหมายถึงซิงเหยียนหรือเจ้าคะ นางไปกับอาหลี่ไล่กวดจับกุ้งมังกรเล็กกันแต่เช้าแล้ว""อะไรคือไปแต่เช้า เด็กนี่ตื่นเช้าเป็นด้วยหรือ แม่นางมิทราบว่านางอยู่ที่ใดกัน"เสิ่นเยี่ยนฟางชี้มือไปที่นาบัวสุดลูกหูลูกตา นางทำอาหารจากกุ้งมังกรจิ๋วให้ผู้นำหมู่บ้า
นางทะลุมิติมาอยู่ที่นี่สี่เดือนกว่าแล้ว ทุกครั้งที่เมิ่งหย่งชวนจะเดินทางก็มีเหตุให้ชะงักมาหลายครั้ง นางอยากให้เขาเจอบิดาโดยไวนางอยากให้เด็กๆได้เกิดเป็นบุตรของนางจริง เสิ่นเยี่ยนฟางตัดสินใจจะถอนเข็มที่นางฝังไว้ออก ช่วงระยะสิบวันนี้หากมีสัมพันธ์ผัวเมียกันนางมีโอกาสตั้งครรภ์ เขาดีเพียงนี้นางอยากมีบุตรให้เขาจริงๆที่ไม่ใช่เด็กในอุปถัมภ์"ท่านพี่ ข้าต้มน้ำเก็กฮวยไว้ท่านรับสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ"ขาสั้นๆดุ๊กดิ๊กของเสี่ยวเฟิงเดินที่ถือเอาน้ำมาให้บิดา ส่วนเสี่ยวฮวาถืออีกถ้วยมาให้ท่านอาที่ตามท่านพ่อมา เสี่ยวเย่าจุงมือเสี่ยวเหอถือจานขนมมา เด็กๆเอ่ยเรียกบิดาเมิ่งหย่งชวนมองภาพตรงหน้าแล้วอบอุ่นนัก หากเขามีลูกจริงๆคงดี เด็กเหล่านี้หากไม่เจอครอบครัวเขาจะเลี้ยงไว้เอง ว่าไปก็แปลก เด็กทั้งหกคนนี้ยิ่งใกล้ชิดรู้สึกว่าหน้าตาเหมือนเขากับเมียแทบจะคัดลอกกันออกมา เสียงหวานๆของเสี่ยวเฟิงเรียกเขา เมิ่งหย่งชวนยิ้มให้เจ้าตัวน้อย"ท่านพ่อน้ำเก็กฮวยหวานๆชื่นใจเจ้าค่ะ""ท่านอา น้ำเก็กฮวยหวานๆเจ้าค่ะ""ท่านพ่อ ขนมขอรับ"เมิ่งหย่งชวนรับขนมมาก่อนจะค่อยๆกินทีละนิด จางเหมิ่นถึงกับเอ่ยปากชม ขนมนี่อร่อยมากนัก"อาจารย์หญิงนับว่
ยามเซินเมิ่งหย่งชวนจ้างรถม้าจากในตำบลกลับมา ทันทีที่รถม้าจอดสนิทเมิ่งหย่งชวนก็ลงจากรถม้า ตามด้วยจางเหมิ่นทันทีที่เห็นพี่ชายจางลี่ก็หน้างอกันที จะมาจับผิดอะไรกันอีกมาลำมากขนาดนี้ยัง ไม่พอใจอีกหรือ เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสามีกลับมาก็แปลกใจไหนเขาบอกว่าจะไปสิบวัน"ท่านพี่ ไหนว่าไปสิบวันไงเจ้าคะ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือเปล่า หรือว่าอาการป่วยของท่านกำเริบ"เสิ่นเยี่ยนฟางรีบไปดูเขาทันที มือบางอังหน้าผากกว้างเมื่อเห็นว่าตัวไม่ร้อน ก็จับมือหนามากุมเกรงว่าอาการป่วยกลับมาเขาจะหนาวสั่นอีก เมิ่งหย่งชวนรั้งนางมากอดเอาไว้กดปลายคางกับเรือนผมงามก่อนจะเอ่นถามด้วยความกังวล" เสี่ยวฟาง.. ที่บ้านเกิดเรื่องอันใดหรือไม่นกเหยี่ยวของอาเจินคาบปิ่นเงินของเจ้าไปตามพี่ที่บ้านเศรษฐีจาง""หืม.. นกเหยี่ยวของอาเจินหรือเจ้าคะ"สิ่นเยี่ยนฟางนึกถึงลูกนกที่เมิ่งลู่เจินเลี้ยงเอาไว้ยังผลัดขนไม่เต็มเลยจะบินไปได้อย่างไรกัน ดูท่าดงเป็นบุตรชายคนเล็กมากกว่า เด็กๆ ที่ตอนนี้ท่านอาจารย์หม่ากลับไปแล้ว เหลือเพียงหวงหย่งเหนียนที่ยังสอนเมิ่งสู่เจินอยู่ และเพิ่งไปไม่นานรถม้าน่าจะสวนกันกับสามี เด็กทั้งสี่รีบวิ่งมาหาก่อนจะพักทายบิดา"คารวะท่
ทางด้านของเมิ่งอี้ที่ได้เห็นหน้าตาของเด็กๆ ทั้งหกคนก็คิดที่จะอุ้มเด็กๆ ไปขายทันที หน้าตาน่ารักขายได้คนหนึ่งไม่น่าต่ำกว่าห้าร้อยตำลึงแน่ๆ เขารู้จักพวกชอบเด็กวัยนี้หน้าตาเช่นนี้ราคาดี ต้องวางแผนดีๆ เมิ่งอี้ไม่รู้ว่าตนเองชะตาขาดแล้วนับแต่คิดจับเด็กๆไปขายวันนี้จากคนที่ไม่เคยหยิบทำสิ่งใดกลับมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางแต่เช้าเพื่อขอช่วยงาน"พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าเองเมิ่งอี้ท่านอยู่หรือไม่ขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้กำลังเกล้าผมให้เสี่ยวอิงอยู่ เพราะเขายังเล็กจึงไม้ได้เรียนหนังสือไม่เช่นนั้นจะถูกสงสัยได้ ก็ชะโงกหน้าออกมาตามเสียงเรียก เห็นเมิ่งอี้ยืนอยู่นอกรั้ว หืมพ่อบัณฑิตรูปงามสะโอดสะองเหลือเกินเขาเก็บกันจนจะไถกลบปลูกใหม่เพิ่งจะโผล่หัว ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆมาทำไมกัน เสี่ยวเย่าส่งข้อความผ่านมารดาทางจิต"ท่านแม่ คนนิสัยเลวคนนี้ต้องการจับพวกเราพี่น้องไปขายขอรับ""หืม เมิ่งอี้กล้าคิดขายลูกข้าหรือ เสี่ยวเย่าลูกจัดการได้เลยอย่าให้แปลกปะหลาดจนชาวบ้านตกใจก็พอ แล้วตั้งแต่เช้าเสี่ยวเถาไปไหนกันนอนอีกแล้วหรือ""พี่ห้าหลับขอรับท่านแม่ พี่ห้าจะนอนอะไรนักหนาเก้าหมื่นปียังนอนไม่พอหรือไงกันเฮ้อ""หุบปากไปเลยนะ ไม่งั้นข
เมิ่งหย่งซินนำโจวหยวนกับหวงหย่งเหนียนไปพบคนด้านใน ทันทีที่เห็นหน้าโจวหยวนก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับเมิ่งหย่งซิน"แม่นางเมิ่ง รบกวนท่านช่วยออกไปก่อนสักครู่ เขาคือน้องชายคนเล็กของข้าโจวหยางน่ะ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับน้องชายนิดหน่อยขออภัยแม่นางเมิ่งด้วยที่เสียมารยาท""อ้อ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ที่แท้ก็คนกันเองถ้าเช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว เชิญใต้เท้าทั้งสองตามสบายเจ้าคะ"เมิ่งหย่งซินออกไปแล้ว หวงหย่งเหนียนก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้าม รอฟังสองพี่กับน้องคุยกัน"เห็นอาซ้อเมิ่งบอกว่าเจ้าหนีหมาป่าจนตกเขา หยางเอ๋อร์ อย่างเจ้านะหรือจะหนีหมาป่า ฝีมือเช่นเจ้ามิใช่หมาป่าต้องวิ่งหนีหรอกหรือ""ข้าหนีคนขององค์ชายรอง บังเอิญไปเจอพวกเขาสมคบศัตรูแอบค้าขายแร่เหล็กกับแร่เงินเข้า แต่โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าแกล้งเป็นคนตาบอดเดินคลำทาง พวกเขาไม่ไว้ใจจึงพยายามไล่ล่าข้าจึงแกล้งตกเขาลงมา แต่ไม่คิดว่าด้านล่างจะมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ ข้าเลยกระแทกอย่างแรง กระดูกร้าวน่ะไม่ถึงกับหัก เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนขององค์ชายรองยังอยู่ไหมเลยต้องอยู่แต่ในบ้านไปก่อน ไม่อยากให้คนบ้านนี้เดือดร้อนเพราะช่วยข้านะขอรับพี่รอง"โจวหยางเอ่
ยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งหน้าบ้านรอจางลี่ก็ยังไม่มา คิดจะลองดีกับนางหรือ หากยามซื่อไม่มาข้าจะไปลากถึงที่นอนเลยเชียว ปลายยามซื่อรถม้าก็วิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน เลยมาทางด้านท้ายหมู่บ้านเศรษฐีจางลากบุตรชายลงมา จางลี่หน้าเง้าหน้างอพอเห็นเสิ่นเยี่ยนฟางก็ถลึงตาใส่ จากนั้นจางหมิ่นก็พูดคุยกับนาง"ข้าพาเขามาส่ง อาจารย์หญิงท่านจะเปลี่ยนใจหรือไม่บุตรชายข้าดื้อด้านนัก""ช่างเถอะ ท่านลุงหกมาพาคนงานใหม่ไปเก็บดอกฝ้ายในไร่ด้วยเจ้าค่ะ"ทันทีที่นางเอ่ยจบก็มีชายฉกรรจ์อายุประมาณสี่สิบเดินมาก่อนจะนำทางจางลี่ไป แต่เขาอิดออดจนบิดาต้องดุ จางหมิ่นเดินตามเสิ่นเยี่ยนฟางไปที่แปลงฝ้าย ทันทีที่เห็นผักในแปลงดินก็ตกตะลึงก่อนจะเอ่ยปากขอซื้อ"อาจารย์หญิงผักสดนี่ครั้งก่อนที่อาจารย์เมิ่งนำไปฝากรสหวานยิ่งนัก ครั้งนี้ท่านช่วยขายให้ข้าได้หรือไม่เล่า""ข้าเก็บไว้ให้แล้ว สามีข้าเพิ่งซื้อที่ดินเพิ่มข้าจะขยายแปลงผักอีกหน่อยเราอาจเป็นคู่ค้ากันก็ได้ อ้อถึงแปลงฝ้ายแล้วเชิญท่านดูเถอะ"จางหมิ่นทันทีที่เห็นดอกฝ้ายที่คุณภาพนับว่าดียิ่งนัก เขาไม่เคยเจอฝ้ายที่ดอกหนาสีขาวบริสุทธิ์เช่นนี้มาก่อนจึงเผยสีหน้ายินดีออกมา จางลี่ไม่ยอมทำงานยื
เสิ่นเยี่ยนฟางมองไปที่จางลี่จากนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้าย จางลี่เห็นรอยยิ้มนางถึงกับขนลุกทันที ได้ยินนางเอ่ยวาจาที่ทำให้เขาถึงกับโมโหเป็นอย่างมาก"ท่านจาง ข้ามิอาจอวดเก่งต่อหน้าพ่อค้าใหญ่เช่นท่านได้ แต่มีเรื่องหนึ่งข้าช่วยท่านได้นะเจ้าค่ะ""เมิ่งฮูหยินเชิญกล่าวมาเถอะ""บุตรชายของท่านจางลี่ หากท่านไม่รังเกียจข้าที่เป็นสตรี ข้ายินดีเป็นอาจารย์ให้เขาเอง ตั้งแต่พรุ่งนี้ให้เขาเข้าไร่เก็บดอกฝ้าย จากนี้ท่านห้ามให้เงินเขา หากวันใดเขาทำงานข้าจะจ่ายค่าแรงเอง หากไม่ทำก็ให้เขาอดข้าว เขากินดีอยู่ดีเกินไปไม่รับรู้ความลำบากของบิดามารดาที่ต้องทำงานหาเลี้ยงเขา""เอ่อเมิ่งฮูหยินคือเรื่องนี้ข้าว่า.....""นังตัวดีเจ้ากล้าหรือ ท่านพ่อนางถือว่าสามีเป็นอาจารย์ของพี่ใหญ่ก็เลยอยากทำให้ข้าอับอายนะขอรับ ท่านอย่าหลงกลนางสารเลวนี่เชียว"เมิ่งหย่งชวนมองหน้าภรรยาอย่างหาคำตอบ แต่เสิ่นเยี่ยนฟางแค่เพียงยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเอ่ย"ท่านจาง ดอกฝ้ายเหล่านั้นข้าจะส่งมอบให้ท่าน บุตรชายท่านหากข้าสั่งสอนเขาให้เป็นผู้เป็นคนไม่ได้ภายในหนึ่งเดือนข้ายินดีไม่รับเงินค่าดอกฝ้ายสักอีแปะเจ้าค่ะ หากข้าทำได้ท่านก็แค่จ่ายค่าฝ้ายข้า
เสิ่นเยี่ยนฟางนำหมั่นโถวกับซาลาเปาใส่กะละมังไม้หลายใบก่อนจะเข็นเดินไปทั่วหมู่บ้านเพื่อแจกซาลาเปากับหมั่นโถว"ทุกท่านนี่คือบุตรชายบุตรสาวของข้า ทั้งหกคน เด็กๆคารวะท่านปู่ท่านย่าท่านลุงท่านอาทั้งหลายสิ ยังมีพี่สาวพี่ชายท่านน้าอีกด้วย""พวกเราคารวะทุกท่านเจ้าค่ะ/ขอรับ"ชาวบ้านต่างยิ้มให้เด็กหกคนนี้น่ารักเสียจริงๆ"นี่ภรรยาซิ่วไฉ หากบอกว่าเป็นบุตรชายบุตรสาวของเจ้าข้าเชื่อสนิทใจเชียวล่ะ""ใช่ๆ หน้าตาถอดเจ้ากับเมิ่งซิ่วไฉมาเชียว""ขอบคุณพวกท่านมาก ฝากเอ็นดูลูกๆข้าด้วยนะเจ้าคะ"เสิ่นเยี่ยนฟางทยอยแจกอาหารจนครบทุกหลังคาเรือนจากนั้นก็เข็นรถพาลูกๆกลับบ้าน เมิ่งหย่งชวนเตรียมตัวกินข้าวแล้วจะไปค้างคืนที่จวนจางสิบคืน"ท่านพ่อพวกเรากลับมาแล้วเจ้าค่ะ"เสี่ยวฮวาวิ่งนำหน้าถลามากอดขาเมิ่งหย่งชวนก่อนจะเงยหน้าส่งสายตาไร้เดียงสามาให้ เมิ่งหย่งชวนก้มลงอุ้มนางขึ้นมาก่อนจะดุ"วันหลังอย่าวิ่งแบบนี้อีก หากหกล้มลูกจะเจ็บได้ วันนี้พ่อไม่อยู่อย่าดื้อกับท่านแม่เข้าใจหรือไม่""ท่านพ่อเสี่ยวฮวาไม่ดื้อเจ้าค่ะ เสี่ยวฮวาอยากมีท่านพ่อเสี่ยวฮวาอยากมีท่านแม่"เมิ่งหย่งชวบบีบจมูกโด่งที่ถอดแบบเขามาไม่ผิดเพี้ยน นี่ถ้าเขามีลูกเ
เมิ่งซุนยื่นมือไปขออุ้ม เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเสี่ยวอิงบุตรชายคนที่หกที่เกินจากข้อตกลงมา เสี่ยวอิงกางแขนหาท่านปู่ทวดทันที"อืม ไหนเรียกท่านปู่ทวดสิ""ท่านปู่ทวด ท่านปู่ทวดขอรับ"เมิ่งซุนยืนมือเหี่ยวย่นไปลูบศรีษะ จากนั้นเมิ่งหย่งซินก็ไปจัดห้องให้เด็กๆ ต้นยามเหมาแล้ว นางกับเสิ่นเยี่ยนฟางไม่นอนต่อแต่ติดไฟนวดแป้งทำซาลาเปา นึ่งหมั่นโถว ต้มไก่ทำกับข้าวไปไหว้บิดามารดาของท่านปู่"อาเล็ก ทำเยอะหน่อยเถอะพรุ่งนี้จะไปแจกในหมู่บ้านด้วย พาเด็กๆไปแนะนำกับคนในหมู่บ้านด้วย""อืม เจ้าไปพักเถอะเสี่ยวฟางงานตรงหน้าอาเล็กทำได้""ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาเล็กช่วยกันทำงานเสร็จเร็วจะได้มีเวลาพัก"เมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้เป็นท่านอาแล้วก็มีหน้าที่พาหลานๆไปเดินเล่นระหว่างที่ผู้ใหญ่ทำงาน"อย่ามาเล่นแถวนี้อันตราย เจ้าชื่ออะไรนะ""ข้าชื่อเสี่ยวเฟิงเจ้าค่ะท่านอา อีกอย่างข้าไม่ซนเจ้าค่ะข้าอยากช่วยงาน""อืมๆๆ อาเล็กรู้แต่ว่าในครัวมีฟืนไฟต้องระวัง เสี่ยวเย่าเจ้าเป็นพี่คนโตใช่หรือไม่"เสี่ยวเย่าเดินมาหาเมิ่งลู่เจินเขาก้มลงอุ้มหลานชายตัวน้อยขึ้นมาก่อนจะมองหน้าแล้วเอ่ย"เสี่ยวเย่า เจ้าเป็นพี่ต้องดูแลน้องๆ ห้ามเข้าใกล้เตาไฟ ห้าม
เสิ่นเยี่ยนฟางใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่เมิ่งหย่งชวนยังคงไขว่คว้าสองเต้าอย่างไม่ยอมแพ้ เสิ่นเยี่ยนฟางจับมือเขาไว้ก่อนจะส่งสายตาดุไปให้ คนตัวโตต้องยอมปล่อยเพราะเมียเริ่มดุแล้ว"นอนนะเจ้าคะ พรุ่งนี้ต้องไปสอนหนังสืออีก ท่านคึกทุกคืนเช่นนี้ร่างกายจะแย่เอา""เมียจ๋า อีกครึ่งเดือนต้องเดินทางแล้วนะ""ท่านพี่นอนเจ้าค่ะ"เมิ่งหย่งชวนยอมนอนเสิ่นเยี่ยนฟานนอนหนุนแขนเขาจนกระทั่งปลายยมอิ๋นเสียงเรียกของเสี่ยวเย่าดังขึ้นมา"ท่านแม่ขอรับน้องตื่นแล้วขอรับ""ท่านแม่เจ้าขาเสี่ยวเหอกับเสี่ยเถาตื่นแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวอิงด้วย"เสิ่นเยี่ยนฟางหูผึ่งทันที เสี่ยวอิงหรือคือใครกันมาจากไหนอีกเล่า ไหนว่าห้าคนไง ก่อนจะค่อยๆเอาแขนของสามีออกจากนั้นก็ลุกขึ้นมาสวมเสื้อคลุม เนื่องจากชาติก่อนนางเป็นหน่วยซีลเก่าการเคลื่อนไหวจึงนับว่าเบามาก เสิ่นเยี่ยนฟางห่มผ้าให้เมิ่งหย่งชวนก่อนจะจุมพิตแก้มสากจากนั้นก็เปิดประตูออกไปเมิ่งหย่งชวนที่นอนอยู่ลืมตาทันที ภรรยาลุกไปกลางดึกอีกทั้งสวมเสื้อคลุม ใส่มิดชิดเพียงนี้คงมิได้ไปสุขาแน่ๆ เสียงเดินไปทางป่าท้อ เมิ่งหย่งชวนลุกขึ้นก่อนเดินออกมาเห็นหลังนางไวๆ เสิ่นเยี่ยนฟางที่มาถึงก็เห็นสามคนรออยู