สุดท้ายพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ดินแปดสิบหมู่จึงคืนกลับไปยังเมิ่งหย่งชวน ทั้งหมดกลับไปแล้วเมิ่งอี้กัดฟันแน่น มองตามเมิ่งหย่งชวนไปด้วยแววตาอาฆาตแค้น ก่อนจะเอ่ยกับท่านปู่ของตน บิดาเขาเมิ่งซานที่ตอนนี้นอรักษาหัวไหล่อยู่ เสิ่นเยี่ยนฟางมือหนักจริงๆ"ท่านปู่ รอมันไปเรียนที่เมืองหลวงก่อนเราค่อยเอาคืนจากนังเมียแก้ชงมัน""หึ มันมีเงินไปเรียนหรือแต่ไม่เคยเอามากตัญญูข้ากับบ้านใหญ่สักอีแปะ ไอ้สารเลว ช่างเหมือนบิดามันเหลือเกินหายจากบ้านไปหลายปีกลับมาแค่มีเงินซื้อที่ดินผืนเดียว"เมิ่งหลงเสร็จเรื่องก็กลับบ้านทันที ส่วนโจวหยวนไม่อยากกลับเขาอยากเห็นหน้าเจียงเสี่ยวฮวาอีกเลยหาเรื่องตามกลับมาด้วย เมื่อมาถึงบ้านเห็นเสิ่นเยี่ยนฟางกับเมิ่งลู่เจินกำลังทำผักดอง เจียงเสี่ยวฮวากำลังนวดแป้งเพราะน้องสาวบอกว่าจะห่อเกี๊ยวแฮ่มๆๆ!!แค่กๆ!! อะหึ่มๆ!! เมิ่งหย่งชวนนั่งลงกระแอมไม่หยุดสักทีจนเสิ่นเยี่ยนฟางเงยหน้ามามองเขาก่อนจะก้มหน้าทำงานในมือต่อ คนตัวโตงอนที่เมียไม่สนใจจึงลุกเดินเข้าห้องแสร้งไอหนักๆ จนเมิ่งลู่เจินเป็นห่วงพี่ชาย"พี่สะใภ้พี่ใหญ่คงเจออากาศเย็นเพราะไปข้างนอกมากระมังขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางวางงานในมือก่อนจะพยักห
เสิ่นเยี่ยนฟางที่เดินออกมาจากบ้านพร้อมกับเมิ่งหย่งชวนก็มานั่งลงที่แคร่หน้าบ้าน คนติดตามของโจวหยวนถูกสั่งให้กลับไปก่อน ตอนเย็นค่อยมารับเขาอีกที"ใต้เท้าโจว ท่านดูคล่องแล้วเสียจริงๆนะเจ้าคะ""อ้อฮูหยิน สมัยตอนเด็กข้าเคยช่วยท่านแม่บ่อยๆน่ะ อีกอย่างที่ผ่านมาชีวิตไม่ใช่ว่าสบายนักต้องขยันถึงจะสามารถอยู่รอดได้""ท่านให้เกียรติเกินไปแล้วเจ้าค่ะ เรียกข้าน้อยว่าเยี่ยนฟางเฉยๆก็ได้"มีบางคนเริ่มไม่พอใจเสียแล้วทั้งคู่สบตากันไปมา เอ่ยวาจาเชือดเฉือนกันทางสายตา"อย่ามาทำสนิทกับเมียข้านะตาแก่โจว หึชีวิตไม่สบายอะไรของเจ้า มิใช่ว่าเจ้าเป็นคุณชายรองบุตรของเสนาบดีโจวหยางชุ่นหลานรักของอัครเสนาบดีโจวเผยหรอกหรือ หลอกลวงผู้ใดกันตาเฒ่า""รองแม่ทัพ ท่านจะหวงฮูหยินเกินไปไหม ข้าบอกชีวิตไม่ง่ายแต่ไม่ได้บอกว่าข้ายากจนนี่""หึตาแก่ อย่ามาเจ้าเล่ห์ ท่านต้องการอะไรจากเมียข้า"โจวหยวนไม่สนใจคนที่กำลังหน้าบึ้ง แต่หันไปเอ่ยกับเจียงเสี่ยวฮวา"แม่นางเจียง เจ้ายังไม่มีที่ไปใช่หรือไม่หากข้าอยากช่วยเหลือเจ้า ไม่ทราบว่าเจ้าจะว่าอย่างไร""ใต้เท้า ท่านหมายความว่าอย่างไรเจ้าค่ะ""คือข้าเพิ่งย้ายมาจากเมืองหลวงมารับตำแหน่งเจ้าเมือง
เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยเสิ่นเยี่ยนฟางก็ลงมือทำมื้อเย็น นางห่อเกี๊ยวแม้ว่าไม่มีผักสด แต่นางเดินตามหาผักป่าเมื่อเช้าได้ผักจี้ฉ่ายมาหลายกำ อีกทั้งยังเจอต้นหอมป่าตอนที่ดายหญ้าหน้าบ้านอีกด้วย ลำธารตีนเขานางจับปลาได้สามตัวจึงนำหมักเกลือกับเครื่องเทศแล้วไปเด็ดใบบัวมาห่อก่อนจะพอกด้วยดินเหนียวนำไปซุกในกองถ่านโจวหยวนอยู่กินมื้อค่ำด้วย คนบ้านเมิ่งไม่กล้ามาหาเรื่องเพราะได้ยินว่าท่านเจ้าเมืองสนิทกับเมิ่งหย่งชวนมากนัก เพราะเขาเป็นซิ่วไฉจึงทำให้หมู่บ้านสี่สิบลี้มีชื่อเสียงไปด้วย เมิ่งหลงผู้นำหมู่บ้านถูกเชิญมากินมื้อค่ำพร้อมกับหิ้วสุรามาด้วยสองไห ท่านปู่เก้าเอาโม่หินมาส่งแล้ว เสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งกินข้าวกับเจีงเสี่ยวฮวาและเมิ่งลู่เจินนั่งฟังบุรุษสนทนากันเงียบๆ เมิ่งหย่งชวนดื่มมากนักจนนางต้องเดินไปหา คว้าจอกเหล้าออกจากมือเขา"ขออภัยที่เสียมารยาทเจ้าค่ะ ใต้เท้า ท่านปู่หลงแต่ว่าท่านพี่ป่วยอยู่ข้าไม่อยากให้เขาดื่มสุรามากนัก อีกสามเดินต้องไปเมืองหลวงถึงเวลานั้นหากอาการกำเริบป่วยเรื้อรังจะทำให้พลาดการเข้าสอบอีก ข้าไม่อยากให้การทุ่มเทของเขาเสี่ยเปล่าไปอีกครั้งเจ้าค่ะ ""อืม ถ้าเช่นนั้นพวกเรากลับกันเถอะ อ้อ
มือหนาปลดกางเกงคนตัวเล็กออกไปทางปลายเท้าก่อนจะคลึงเกสรเม็ดใหญ่ที่เด่นออกมาตอนที่เขาจับขานางแยกออก เขาเขี่ยไปมาจนร่างระหงที่หลับอยู่บิดไปมาเสิ่นเยี่ยนฟางกำลังฝันนางฝันรุนแรงกว่าทุกครั้ง ได้แต่ร้องอื้อๆเพื่อคลายความเสียวอยากตื่นก็ไม่ได้ จนกระทั่งนิ้วยาวเรียวเข้าไปด้านในที่อ่อนนุมของนางเมิ่งหย่งชวนเร่งจังหวะชักนิ้วเข้าออก มีเสียงครางแสนหวานไม่นานก็หวีดร้อง สะโพกงามที่ร่อนเด่นทิ้งลงที่นอน หน้าท้องกระตุกเกร็งแต่ครั้งนี้เสิ่นเยี่ยนฟางตื่นจนได้ เพราะนางสุขสมรุนแรงเกินไป เมิ่งหย่งชวนจ้องตา ให้ตายเขาลืมไปว่านางอาจคลายจุดได้เองหากนางถึงสวรรค์"เจ้า ไอเด็กบ้าเจ้าลักหลับข้าจริงๆด้วยเมิ่งหย่งชวนข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายเลย""ชู่ อย่าเสียงดังสิมีทั้งเด็ก ทั้งสตรีที่ยังไม่แต่งงานเดี๋ยวพวกเขาตื่นนะ""อย่ามาเจ้าเล่ห์เจ้ามัน อื้ออออ"เขาไม่ยอมให้นางพูดอะไรอีก ฉกริมฝีปากของตนลงมาแนบริมฝีปากนางบดขยี้ให้นางยอมรับเขา ไม่นานเสิ่นเยี่ยนฟางก็เผลออ้าปากในที่สุดลิ้นร้อนชื่้นของเมิ่งหย่งชวนก็กระหวัดรัดลิ้นเล็กไว้ ก่อนจะสำรวจทั่วทั้งโพรงปากกวาดเอาน้ำหวานมาทั้งหมดใบหน้าเลื่อนลงต่ำจับหัวเข่ามนแยกออก นางสะอาดจริงๆ สีชม
ยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางเพิ่งตื่นแต่นางลุกไม่ไหวเอวแทบหัก คนบ้านี่กินดุเหลือเกินนัก เจียงเสี่ยวฮวาลุกมาทำมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนนางไม่หลับเท่าไหร่เพราะแปลกที่ จึงได้ยินเสียงน้องสาวกับน้องเขยเช้าเลยรีบลุกมาทำอาหารเองเพราะคิดว่าน้องสาวคงตื่นไม่ไหว เสิ่นเยี่ยนฟางมานั่งข้างๆ พี่สาวก่อนจะนำเกี้ยวที่ห่อเมื่อคืนมาลวกเพื่อเป็นมือเช้า“พี่หญิง ข้าว่าจะขึ้นเขาสักหน่อย หาผักป่าหรือหัวมัน กินแต่ผักดองคงไม่ดีอาเจินกำลังโตต้องบำรุง ท่านพี่ก็ป่วยอยู่”“อืม พี่ไปด้วยดีไหมเผื่อจะได้ช่วยกันหา ฝนตกเมื่อคืนทางลื่นนัก”“อย่าเลย พี่อยู่เป็นเพื่อนอาเจินเถอะ ท่านพี่ไปตำบลข้างเคียงแต่เช้าแล้ว พวกข้าจะซื้ออิฐกับซื้อกระเบื้องใหม่น่ะ ว่าแต่ท่านเถอะเรื่องไปอยู่จวนท่านเจ้าเมืองท่านแน่ใจแล้วใช่ไหม อย่างน้อยเขาก็ปกป้องคนของตนเองได้”“อืม ข้าเกรงว่าอีกวันสองวันพวกเขาจะมาหาเรื่องที่นี่ สามีเจ้าเป็นซิ่วไฉ ชื่อเสียงสำคัญนักข้าอาจจะไปอยู่ที่จวนโจวเลยก็ได้ ช้าเร็วก็ต้องไปอยู่ดี”“ก็ดีเหมือนกัน ข้าเองไม่ได้อยากให้ท่านไปเลยเพราะว่าท่านพี่ต้องไปเมืองหลวงเพื่อลงสอบอีกครั้ง ข้าอยู่กับอาเจินสองคนก็คงเหงาน่ะ”สองพี่น้องช่วย
เสิ่นเยี่ยนฟางกำลังจะล้างตัวก็มีอ้อมแขนแข็งแรงมากอดจากทางด้านหลัง นางจำกลิ่นกายเขาได้ ก่อนจะเอี้ยวตัวมาหาริมฝีปากหยักได้รูปก้มลงมาประทับริมฝีปากอวบอิ่มของนางทันที“อื้อออ อั้นอี้ (ท่านพี่)เมิ่งหย่งชวนถอนริมฝีปากออกก่อนจะจับปอยผมที่หลุดรุ่ยทัดหูให้นางอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยดุนางเสียงเข้ม“เหตุใดขึ้นเขาคนเดียว หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับเจ้าพี่จะทำเช่นไร เสี่ยวฟางสัตว์ป่าดุร้าย ไม่เหมือนอันธพาลที่เจ้าทุบตีพวกนั้นนะคนดีของข้า”“ข้าไม่ได้เข้ามาลึกสักหน่อย ไม่เช่นนั้นท่านจะตามเจอหรือเจ้าคะ ข้าเสร็จแล้วพวกเรากลับบ้านกันเถอะ อื้อ”มือบางยันหน้าอกเขาไว้แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรคนตัวโตได้เลย เมิ่งหย่งชวนถอดเสื้อคลุมตนเองออกปูที่ริมลำธารก่อนจะจัดการลอกคราบนางจนเปลือยเปล่าจากนั้นก็หยอกล้อกับหน้าอกที่พุ่งชูล่อตาเขา ดูดเม้มหัวนมสีหวานเข้าอุ้งปากทันทีจนเสิ่นเยี่ยนฟางถึงกับเงยหน้า แอ่นหน้าอกให้เขาได้ดื่มกิน“อื้อ ท่านพี่กลางป่ากลางเขานะเจ้าคะ ท่านไม่กลัวคนมาเจอหรือไง”“เขาลูกนี้รกทึบ ไม่มีชาวบ้านมาหรอกเมียจ๋า ข้าอยากรักเจ้าเสี่ยวฟาง ครางดังๆนะพี่อยากได้ยินเสียงหวานๆเหลือเกิน เมื่อคืนพี่สาวเจ้านอนห้องข้างๆด้
เสิ่นเยี่ยนฟางเริ่งรับรู้แล้วว่าผู้ชายที่เดินเคียงข้างนางนี้ไม่ธรรมดา นางเป็นหน่วยซิลนะ หูตาต้องไวแต่เขาถึงตัวนางโดยที่นางไม่ได้ยินเสียง รู้อีกทีเขากอดนางแล้ว แม้แต่ลมหายใจยังเก็บซ่อนได้ เขาไม่ใช่แค่บัณฑิตแก่เรียนแน่ๆ แต่นางจะไม่หาคำตอบนั้น บางครั้งแววตาเขาดูอ่อนแอจนเหมือนอยากหาใครสักคนมาคอยปลอบโยน“พี่สั่งอิฐมาแล้ว กระเบื้องจะมาส่งตอนเย็นน่ะพรุ่งนี้”“กลับไปข้าจะโม่ถั่ว กล่องไม้มาส่งเมื่อเช้าแล้ว หากขายได้ข้าจะสั่งเพิ่ม ข้าอยากช่วยชาวบ้านอย่างน้อยก็ช่วยคนที่ขยันไม่ขี้เกียจให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว”“ไม่เหนื่อยเกินไปหรือ เจ้ามาจากที่อื่นพวกเขาอาจไม่เชื่อใจ”“ไม่เป็นไรค่อยๆ ทำไป ทุกอย่างมีค่าตอบแทนข้าไม่ได้ทำเปล่าๆ ได้ทั้งเงินได้ทั้งชื่อเสียง อนาคตชื่อเสียงเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ท่านต้องการใช้ในการรับราชการเป็นขุนนาง”เมิ่งหย่งชวนหยุดเดินก่อนจะรั้งนางมากอดแล้วกดจมูกกับเรือนผมของนาง น้ำเสียงสั่นเครือของบุรุษบอกรักคนในอ้อมกอด“เสี่ยวฟางข้ารักเจ้า อย่ากังวลเลยอย่าลำบากเพื่อข้า ทุกอย่างต้องเป็นหน้าที่ข้าทำให้เจ้าสุขสบาย”“อืม ข้าเชื่อท่าน”ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงบ้านเชิงเขา แขกไม่ได้รับเชิญนั่
พูดจบนางก็เข้าไปในครัวต้อง นำไก่มาเชือดคอ รองเลือดไก่เอาไว้ด้วย เครื่องในถูกผ่าออกมาล้างด้วยแป้งสาลี เดิมทีใช้ขี้เถ้าก็ไม่สิ้นเปลือง แต่ว่ามีขุนนางคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วยแบบนั้นจะดูถูกเขาเกินไปเสิ่นเยี่ยนฟางสับไก่เป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ต้มน้ำเดือดใส่เกลือเล็กน้อยก่อนจะนำไก่ที่ได้มาลวกเพื่อเวลาตุ๋นน้ำจะได้ใส จากนั้นก็นำเครื่องตุ๋นที่พอจะหาได้มาใส่โถดินเผา นำโสมต้นเล็กที่ได้มาวันนี้ฝานเป็นแผ่น ตุ๋นให้สองพี่น้องบำรุงเสิ่นเยี่ยนฟางอยากคุยเรื่องสำคัญกับใต้เท้าเจ้าเมือง นางมีของอันตรายอยู่กับตัวต้องหาทางนำออกไป จึงเดินไปหาทั้งสองคนที่กำลังปรึกษากันอยู่“ท่านพี่ ข้าขอเวลารบกวนใต้เท้าโจวสักครู่นะเจ้าคะ”โจวหยวนมองหน้าเมิ่งหย่งชวน เขาพยักหน้าเบาๆ ให้ จากนั้นโจวหยวนจึงเอ่ยกับนาง“เชิญฮูหยินกล่าวเถิด”“เอ่อ ใต้เท้าโจวเจ้าคะ ข้าอยากทราบว่าโสมมีราคาอย่างไรเจ้าคะ”“โสมหรือ ถ้าอายุร้อยปีขึ้นไปรับซื้อที่สองร้อยตำลึงขึ้นราคาไปเรื่อยๆ ตามอายุของมันถ้าพันปีขึ้นไปรับซื้อที่สามหมื่นตำลึง แต่ตอนนี้หายากหากมีใครหาได้ราคาน่าจะอยู่ที่ห้าหมื่นตำลึง โสมหายาก แค่อายุ50-60ปียังหาแทบไม่ได้ ว่าแต่ฮูหยินคิดจะบำรุงร่างกายเ
ห้าวันต่อมาจ้าวเหลียนซินเดินเล่นหมู่บ้านนั้นเข้าออกหมู่บ้านนี้จนกระทั่งวันนี้นางเห็นทหารเริ่มจัดตกแต่งจวนด้วยผ้าแพรสีแดง โคมไปถูกประดับสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ดรุณีน้อยวิ่งมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่ นางมาถึงก็นั่งลงข้างๆ"พระชายาข้าอยากกินหม้อไฟอีก ท่านทำอร่อยที่สุดเลย""ได้เพคะ เอาไว้หม่อมฉันจะทำถวายเย็นนี้ดีหรือไม่เพคะ""อืม..ได้ว่าแต่งานแต่งของท่านกับจวิ้นอ๋องอีกห้าวันใช่หรือไม่""เพคะ..องค์หญิงเก้าอยู่ที่นี่ทรงมีอันใดขัดข้องหรือไม่เพคะ สะดวกสบายดีหรือเปล่า""เหอะ ดีทุกอย่างแหละ ยกเว้นท่านอาจารย์จอมงี่เง่าขี้บ่นของข้านั่นแหละ หึ น่าเบื่อ"เสิ่นเยี่ยนฟางหัวเราะเบาๆ นางส่งเมิ่งเสี่ยวเย่าให้กับสาวใช้ก่อนจะรับเมิ่งฮ่าวเฉินมา เจ้าตัวน้อยอ้าปากกินโจ๊กที่มารดาป้อนอย่างอร่อย จ้าวหลานขออุ้มเมิ่งเสี่ยวเย่า สาวใช้มองหน้าพระชายาของตน เสิ่นเยี่ยนฟางพยักหน้าให้สาวใช้จึงส่งเสี่ยวเย่าให้กับจ้าวเหลียนซิน นางเล่นกับเมิ่งเสี่ยวเย่า หยอกล้อเขา จนเสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสีหน้านางเศร้าลงเล็กน้อย อดไม่ได้จึงเอ่ยถาม"องค์หญิงเก้า ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ เหตุใดทำหน้าเศร้านัก""เฮ้อ พระชายา ข้าไม่ขอปิดบังข้าเหงา ข
เมิ่งลู่เจินที่นั่งอยู่ไม่ได้ยินพี่ชายเดินมาหา เมิ่งหย่งชวนเดินจนมาถึงตัวเขาถึงรับรู้ เมิ่งลู่เจินเอ่ยปากขึ้นก่อน"พี่ใหญ่...ข้า..เอ่อ..ข้า""เจ้าไปหานางใช่หรือไม่อาเจิน ตอบพี่มาเถอะ""ขอรับ ข้าเป็นห่วงนาง อีกอย่างอยากไปส่งข่าวเรื่องซีฮวนกับหานเซียงด้วย ว่าพวกเขาสบายดี""ช่วงนี้พี่ต้องใกล้ชิดเด็กสองคนนั้นมากหน่อย มิเช่นนั้นพี่สะใภ้ของเจ้าจะเหนื่อเอาได้ ซีฮวนเองก็เอาแต่พี่สะใภ้เจ้า ดีที่ยอมนอนกับเสี่ยวอิง แต่ไม่ยอมเรียกบิดาพวกเราว่าท่านพ่อทั้งสองคนกลายมาเป็นบุตรชายบุตรสาวข้ากับพี่สะใภ้เจ้าแทน""กว่าจะกลับเมืองหลวงอีกสามเดือน ข้าจะช่วยท่านแบ่งเบาเองขอรับพี่ใหญ่""อืม อีกสิบวันข้าจะจัดงานแต่งงานของข้ากับพี่สะใภ้เจ้า"เมิ่งลู่เจินยิ้มให้พี่ชาย พี่สะใภ้ของเขาสมควรได้รับสิ่งดีๆ นางทำเพื่อเขาสองคนพี่น้องมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจนกระทั่งวันนี้ นางเป็นคนอ่อนโยนเสมอต้นเสมอปลายยิ่งนัก เว้นแต่ใครทำให้นางโกรธ เพราะว่าผลลัพภ์หากนางโกรธมักจบไม่ดีสักคน"องค์หญิงเก้าอยากไปเที่ยวเล่น ในฐานะอาจารย์เจ้าควรไปดูแลนาง อาเจินนางเพิ่งอายุสิบสี่เท่านั้น อาจซุกซนไปบ้าง เจ้าก็อย่าได้บึ้งตึงใส่นางนักเลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางที่กำลังทำบัญชีอยู่ในห้องก็วางลูกคิดลงก่อนจะออกมา นางอุ้มเมิ่งหานเซียงออกมาด้วย คู่แฝดอยู่กับสาวใช้ เจ้าตัวน้อยเมิ่งเสียวเถาตื่นลืมตามามอง หึ ภูตินกยูงกับภูติจิ้งจอกกำลังจะมา พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิด แต่นางต้องอยู่กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นนั่นอีกเป็นปี เฮอะ รู้เช่นนี้ยังไม่กลายร่างก็ดีเห็นหน้าบุตรสาวบอกบุญไม่รับก็ได้แต่แปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม"เป็นอะไรไปเสี่ยวเถาคนเก่งของแม่หื้ม""พวกพี่ๆกำลังจะได้ไปเกิดในครรภ์เสด็จแม่แล้ว แต่ลูกยังต้องรออีกเจ้าค่ะ"" ก็ยังมีพี่เสี่ยวเฟิงกับพี่เสี่ยวเหอและเสี่ยวอิงอยู่กับลูกไง เอาล่ะๆเด็กดีของแม่ ท่านอามาแล้วลูกจะตื่นนอนสักนิดแล้วไปหาท่านอาหรือไม่ ทำหน้าห่อเหี่ยวเช่นนี้""เฮ้อ..ท่านตาเจ้าที่ไปไหนกันแน่ ลูกไม่มีคนทะเลาะด้วยมันรู้สึกเบื่อเพคะ""เสี่ยวเถาเด็กดี เป็นเด็กต้องเคารพผู้ใหญ่ หากท่านตากลับมาลูกต้องหัดอ่อนหวานเป็นสตรีมากว่านนี้ จะเอ่ยวาจารุนแรงหรือตั้งท่ามีเรื่องตลอดเวลามิได้ รู้หรือไม่ แม่ออกไปหาท่านอาก่อน ลูกไม่อยากไปก็นอนต่อเถอะ"มารดาเดินออกจากห้องไปแล้ว สาวใช้อุ้มหานเซียงแต่นางกอดคอมารดาแน่นจนในที่สุดเสิ่นเยี่ยนฟางก็ต้องอุ้มไปด้วย เมิ่
ตอนนี้เมิ่งลู่เจินเข้าเขตหมู่บ้านสี่สิบลี้เรียบร้อยแล้ว เขาตื่นก่อนคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่ข้างๆเมิ่งลู่เจินที่พยายามจะลุก แต่กลับถูกแขนและขาเพรียวเล็กกอดก่ายเขาเอาไว้ทั้งตัว เขาพยายามที่จะแกะออก แต่พอเขาแกะออกนางก็กลับมากอดเขาอีกเมิ่งลู่เจินถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจปลุกจ้าวเหลียนซิน"องค์หญิงเก้า....ทรงตื่นได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ'"อืม....รำคาญจะปลุกอะไรนักหนาคนจะนอน""องค์หญิง.....จะทรงนอนต่อกระหม่อมไม่ว่า แต่ทรงปล่อยกระหม่อมก่อน จะทรงกอดกระหม่อมอีกนานไหมพ่ะย่ะค่ะ"ได้ผลทันทีที่สิ้นคำว่านอนกอดเขา จ้าวเหลียนซินก็ลืมตาทันที นางจึงรู้ว่าแขนเรียวกอดเขาเอาไว้ ส่วนขาก็ก่ายเขาไม่อีกเช่นกัน นางหน้าแดงจนถึงใบหู น่าอายจริงๆเลย ก่อนจะทำโมโหกลบเกลื่อนคนตัวโต"หมะ มะ เมิ่งลู่เจิน...นี่มันรถม้าของข้านี้ จำได้ว่าเจ้าจับข้าโยนใส่รถม้าคันเล็กเท่ารูหนู เหตุใดข้ามาอยู่รถม้าตนเอง เจ้าๆๆ เจ้าล่วงเกินอะไรข้าบอกมานะ""องค์หญิง..กระหม่อมเห็นว่าทรงบรรทมไม่สบายพระวรกายจึงอุ้มมานอนที่นี่เพราะปลุกก็แล้วเขย่าก็แล้วมิทรงตื่น หลังจากมาถึงก็กอดก่ายกระหม่อมเอาไว้ จนไปไหนไม่ได้ พระองค์ว่าเช่นนี้ใครล่วงเกินผู้ใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ
ขบวนของเขาเดินทางมาเรื่อยๆในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาต้องรอคนเจ้าปัญหาที่นี่ นัดกับคนของนางไว้อีกสามวัน ช่วงเวลานี้เขาเดินสำรวจหาอะไรฆ่าเวลาจนกระทั่งมาถึงที่คนกำลังเล่นพนันขันต่ออยู่ เสียวลั่นและหนึ่งในเสียงนั้นเขาจำได้ดี องค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน"เฮ้ๆๆ..ข้าบอกแล้วว่าเจ้าตัวนี้ลักษณะดีอย่างไรก็ชนะพวกเจ้าไม่เชื่อข้าเอง มาๆข้าชนะพนันครั้งนี้จ่ายมาๆ"เฮ้ย..ไอ้คนต่างถิ่นกล้ามาล้วงคอข้าถึงที่นี่เลยหรือไม่จ่ายโว้ย พวกเราจัดการให้ไอ้หน้าอ่อนนี่มันรู้สิว่ามาหาเรื่องในถิ่นข้าจะเป็นอย่างไร""เว้ๆๆ..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า สุนัขของพวกเจ้าแพ้พนันไม่ยอมจ่ายเงินตำลึงยังจะมาหาเรื่องคนอีก อากวนจัดการพวกมันสิเอาให้หมอบเลย"อัธพาลคุมบ่อนสุนัขตรงรี่เข้ามาจัดการกับจ้าวเหลียนซินแต่นางไม่สนใจนางสั่งองครักษ์เงาของท่านอารองของนางให้จัดการพวกมัน กระทั่งคนคุมบ่อนนอนร้องโอดโอย จ้าวเหลียนซินก็คว้าแส้ขึ้นมาก่อนจะหวดลงไปที่ร่างของพวกมัน แต่ยังไม่ทันที่แส้จะถึงตัวก็มีคนมาจับปลายแส้เอาไว้ จ้าวเหลียนซินที่เหวี่ยงแส้ไม่ได้ก็หันกลับมาหาคนที่กล้ามากระตุกหนวดนางพอเห็นเว่าเป็นใครหน้าจึงงอง้ำกว่าเดิมก่อนจะเอ่ยออกมา"นี่เมิ่งลู
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเมิ่งลู่เจินพร้อมกับหวังเฉิงและหวังจิ่วรวมถึงองครักษ์อีกหกนายก็เดินทางไปเมืองเหยียนเพื่อรับองค์หญิงเก้าจ้าวเหลียนซิน นางจะมาใช้ชีวิตที่นี่สามเดือนเพื่อเรียนรู้วิถีชาวบ้าน โจวหยวนให้เหตุผลกับโจวกุ้ยเฟยว่า อนาคตจะต้องแต่งงานกับเมิ่งลู่เจิน ควรมาเรียบนรู้นิสัยกันและกัน และวิถีชีวิตหากท้ายที่สุดเด็กสองคนมิอาจคล้อยตามกันได้ก็อาจจะให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องคู่ครองเองเมิ่งลู่เจินขึ้นบนหลังม้าเขามิได้นั่งรถม้าแต่อย่างใด ในเมื่อนางอยากมาลำบากก็ให้ลำบากเสียให้พอ เสิ่นเยี่ยนฟางมองดูน้องสามีที่ควบม้าออกจากตำหนักไปก็ถอนหายใจจนเมิ่งหย่งชวนเดินมาถึงเขาสวมกอดนางก่อนจะเอ่ยถาม"น้องหญิงเจ้าถอนหายใจเรื่องอันใด หากเป็นอาเจินอย่ากังวลเลยเขาไม่เป็นอันใดหรอก""ท่านอ๋อง..ทรงเชื่อเรื่องเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นหรือไม่เพคะ""หืม..หมายความว่าอย่างไรกัน""ก็น้องชายของเราเกลียดองค์หญิงเก้าหนักหนา หม่อมฉันจะรอดูว่าคนที่ปากบอกรำคาญ รังเกียจอนาคตจะเดินตามเมียต้อยๆหรือไม่ เหมือนคนแถวนี้เมื่อก่อนไงหล่ะเพคะ อื้อ"เมิ่งหย่งชวนรั้งร่างบางมาหาก่อนจะจับปลายคางมนแล้วก้มลงมาจุมพิตนาง เสิ่นเยี่ยนฟางต
เสิ่นเยี่ยนฟางหันหลับมาหาคนที่เอ่ยกับนางก่อนจะช่วยรับเสื้อคลุมที่เขาถอดออก เมิ่งหย่งชวนรั้งเอวบางมากอด ก่อนจะโน้มตัวลงมาจุมพิตแก้มชมพูระเรื่อของนาง เสิ่นเยี่ยนฟางโอบเอวหนาสามีไว้ นางซบหน้ากับแผงอกของเขาก่อนจะเอ่ย"ท่านอ๋อง...เมิ่งซีฮวนใบหน้าคล้ายอาเจินมากนักเพคะ""อาเจินเหมือนกับนาง ซีฮวนกับเซียงเอ๋อร์ก็คล้ายนาง เด็กสองคนจึงมีหน้าตาคล้ายกับอาเจิน ส่วนตัวพี่เหมือนท่านพ่อไม่เหมือนนาง""สามีของหม่อมฉัน ทรงอภัยนางได้หรือยังเพคะ ท่านอ๋องหากยังทรงคิดแค้นใจคนที่จะเจ็บปวดเป็นทุกข์ก็คือพระองค์เองนะเพคะ"เมิ่งหย่งชวนจับไหล่บางดันออกเบาๆ นิ้วยาวแตะปลายคางมนให้เงยหน้ามองสบตากับเขา ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตนางจนพอใจเมื่อถอนจุมพิตออกมาจึงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เสี่ยวฟางของพี่ ..เรื่องทุกอย่างพี่ล้วนฟังเจ้า ยามนี้พี่ไม่ติดใจใดๆกับนางแล้ว พี่เองไม่อยากทุกข์ใจและที่สำคัญพี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมาคอยกังวลเกี่ยวกับพี่จนตัวเองทุกข์ใจไปด้วยเช่นนี้""ดีแล้วเพคะ หากยังทรงปล่อยวางไม่ได้จะทำให้พระองค์ต้องหม่นหมอง ท่านพ่อเองก็ด้วย อาเจินแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่รู้สึก หากพระองค์ทรงปล่อยวางได้ก็เท่ากั
หลังจากปฏิบัติการปั๊มลูกของเสิ่นเยี่ยนฟางเรียบร้อยแล้วนางก็นอนหมดแรง กระทั่งสามวันผ่านไปจางลี่กลับมาทำงานอีกครั้งโรงงานผลไม้อบแห้งเปิดแล้ว เมิ่งวหย่งชวนสั่งให้สร้างตำหนักเพิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางหลายๆคน ขณะที่เขากำลังยืนคุมงานน้องชายก็เดินมาหา"พี่ใหญ่ขอรับ""อืม..ว่าอย่างไรอาเจิน เหตุใดทำหน้าตาเหมือนมีเรื่องหนักใจ""องค์หญิงเก้ากำลังเดินทางมา ข้าต้องไปรับนางที่ตำบลหยาง ไม่รู้ว่านางจะมาวุ่นวายทำไม แค่นี้ยังสร้างปัญหาให้คนอื่นไม่พอหรืออย่างไร"เมิ่งหย่งชวนยกมือหนาลูบศีรษะน้องชายเบาๆ เขายังไม่รู้ตัวเองว่าถูกเลือกให้เป็นสามีองค์หญิงเก้า และเมื่อนางปักปิ่นครบหนึ่งปี ทั้งคู่ก็ถึงเวลาแต่งงานกัน ดูท่าใต้เท้าโจวคงแนะนำโจวกุ้ยเฟยให้บุตรสาวนางเดินทางมา เพื่อได้ใช้ชีวิตและศึกษานิสัยใจคอกันและกัน เมิ่งหย่งชวนเอ่ยแกน้องชาย"อาเจิน..องค์หญิงนางคงเหงา เจ้าลองดูสิฝ่าบาทมีสนมมากมายเท่าไหร่ มีโอรสธิดามากมายเพียงไร นางมีพี่น้องมากมายแต่กลับหาจริงใจได้สักกี่คน""พี่ใหญ่ขอรับคือว่าข้า...""เอาเถอะ เจ้าแก่กว่านางหนึ่งปีถือเป็นพี่ชายนางก็แล้วกัน เอ็นดูนางสักหน่อยก็ไม่เสียหาย อีกไม่นานพวกเจ้าก็..... อะแฮ่ม เอ
เมิ่งหย่งชวนจูบนางอ้อยอิ่งอีกครั้งก่อนจะจ้องตา คนตัวเล้กรู้ดีว่าเขายังไม่อิ่มจึงพยักหน้าให้ บทรักเริ่มอีกครั้ง เสียวครางแสนหวานดังทั่วห้อง จนกระทั่งสองชั่วยามผ่านไปทั้งคู่จึงได้นอนกอดกัน พอดีกับคู่แฝดได้เวลาให้นมพอดี ทางด้านอีกห้องแรงดึงดูดส่งมาถึงเสี่ยวฮวา เสี่ยวเฟิงและเสี่ยวเหอ ทั้งสามลุกขึ้นมามองหน้ากันพวกนางกำลังจะได้ไปเกิดแล้ว เสี่ยวเถาเบ้ปากก่อนจะบ่น"พวกพี่จะได้ไปเกิดพร้อมกัน หึ ทิ้งข้าไว้กับไอ้นกแร้งตัวเหม็นสองคน""น้องหก..เจ้าอย่างอแงไปเลย ท่านแม่คลอดพวกพี่ได้หกเดือนก็จะตั้งครรภ์เจ้าเช่นกัน รออักนิดเถอะ"เสี่ยวเหอเอ่ยแก่น้องสาว เสี่ยวเถาล้มตัวลวงนอน เมิ่งหานเซียงที่ตอนนี้ตีกรรเชียงไปทั่วเตียงจนพี่ๆทั้งสี่อ่อนใจ นอนดิ้นอะไรขนาดนั้นกันนะเจ้าตัวน้อยเช้าแล้วเช้าแล้วเข้าปลายยามเฉินจะต้องไปจวนสกุลจางเพื่อเก็บของกลับบ้าน ยังมีของขวัญที่ต้องนำไปให้ฮูหยินน้อยอีกด้วย ตอนนี้เมิ่งเสี่ยวหว่านคือฮูหยินน้อยแล้ว เหลียนซิ่วเอ๋อร์เดินไปเรือนหลังเก่าเพื่อเรียกอาหญิงของนางให้ไปด้วยกัน แต่กลับเจอเพียงหวังเฉิงที่ยืนอยู่หน้าเรือน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะใต้เท้าหวัง""อ้อ หลานภรรยาเจ้ามีเรื่องอันใดหรือ