มือหนาปลดกางเกงคนตัวเล็กออกไปทางปลายเท้าก่อนจะคลึงเกสรเม็ดใหญ่ที่เด่นออกมาตอนที่เขาจับขานางแยกออก เขาเขี่ยไปมาจนร่างระหงที่หลับอยู่บิดไปมาเสิ่นเยี่ยนฟางกำลังฝันนางฝันรุนแรงกว่าทุกครั้ง ได้แต่ร้องอื้อๆเพื่อคลายความเสียวอยากตื่นก็ไม่ได้ จนกระทั่งนิ้วยาวเรียวเข้าไปด้านในที่อ่อนนุมของนางเมิ่งหย่งชวนเร่งจังหวะชักนิ้วเข้าออก มีเสียงครางแสนหวานไม่นานก็หวีดร้อง สะโพกงามที่ร่อนเด่นทิ้งลงที่นอน หน้าท้องกระตุกเกร็งแต่ครั้งนี้เสิ่นเยี่ยนฟางตื่นจนได้ เพราะนางสุขสมรุนแรงเกินไป เมิ่งหย่งชวนจ้องตา ให้ตายเขาลืมไปว่านางอาจคลายจุดได้เองหากนางถึงสวรรค์"เจ้า ไอเด็กบ้าเจ้าลักหลับข้าจริงๆด้วยเมิ่งหย่งชวนข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายเลย""ชู่ อย่าเสียงดังสิมีทั้งเด็ก ทั้งสตรีที่ยังไม่แต่งงานเดี๋ยวพวกเขาตื่นนะ""อย่ามาเจ้าเล่ห์เจ้ามัน อื้ออออ"เขาไม่ยอมให้นางพูดอะไรอีก ฉกริมฝีปากของตนลงมาแนบริมฝีปากนางบดขยี้ให้นางยอมรับเขา ไม่นานเสิ่นเยี่ยนฟางก็เผลออ้าปากในที่สุดลิ้นร้อนชื่้นของเมิ่งหย่งชวนก็กระหวัดรัดลิ้นเล็กไว้ ก่อนจะสำรวจทั่วทั้งโพรงปากกวาดเอาน้ำหวานมาทั้งหมดใบหน้าเลื่อนลงต่ำจับหัวเข่ามนแยกออก นางสะอาดจริงๆ สีชม
ยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางเพิ่งตื่นแต่นางลุกไม่ไหวเอวแทบหัก คนบ้านี่กินดุเหลือเกินนัก เจียงเสี่ยวฮวาลุกมาทำมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนนางไม่หลับเท่าไหร่เพราะแปลกที่ จึงได้ยินเสียงน้องสาวกับน้องเขยเช้าเลยรีบลุกมาทำอาหารเองเพราะคิดว่าน้องสาวคงตื่นไม่ไหว เสิ่นเยี่ยนฟางมานั่งข้างๆ พี่สาวก่อนจะนำเกี้ยวที่ห่อเมื่อคืนมาลวกเพื่อเป็นมือเช้า“พี่หญิง ข้าว่าจะขึ้นเขาสักหน่อย หาผักป่าหรือหัวมัน กินแต่ผักดองคงไม่ดีอาเจินกำลังโตต้องบำรุง ท่านพี่ก็ป่วยอยู่”“อืม พี่ไปด้วยดีไหมเผื่อจะได้ช่วยกันหา ฝนตกเมื่อคืนทางลื่นนัก”“อย่าเลย พี่อยู่เป็นเพื่อนอาเจินเถอะ ท่านพี่ไปตำบลข้างเคียงแต่เช้าแล้ว พวกข้าจะซื้ออิฐกับซื้อกระเบื้องใหม่น่ะ ว่าแต่ท่านเถอะเรื่องไปอยู่จวนท่านเจ้าเมืองท่านแน่ใจแล้วใช่ไหม อย่างน้อยเขาก็ปกป้องคนของตนเองได้”“อืม ข้าเกรงว่าอีกวันสองวันพวกเขาจะมาหาเรื่องที่นี่ สามีเจ้าเป็นซิ่วไฉ ชื่อเสียงสำคัญนักข้าอาจจะไปอยู่ที่จวนโจวเลยก็ได้ ช้าเร็วก็ต้องไปอยู่ดี”“ก็ดีเหมือนกัน ข้าเองไม่ได้อยากให้ท่านไปเลยเพราะว่าท่านพี่ต้องไปเมืองหลวงเพื่อลงสอบอีกครั้ง ข้าอยู่กับอาเจินสองคนก็คงเหงาน่ะ”สองพี่น้องช่วย
เสิ่นเยี่ยนฟางกำลังจะล้างตัวก็มีอ้อมแขนแข็งแรงมากอดจากทางด้านหลัง นางจำกลิ่นกายเขาได้ ก่อนจะเอี้ยวตัวมาหาริมฝีปากหยักได้รูปก้มลงมาประทับริมฝีปากอวบอิ่มของนางทันที“อื้อออ อั้นอี้ (ท่านพี่)เมิ่งหย่งชวนถอนริมฝีปากออกก่อนจะจับปอยผมที่หลุดรุ่ยทัดหูให้นางอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยดุนางเสียงเข้ม“เหตุใดขึ้นเขาคนเดียว หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับเจ้าพี่จะทำเช่นไร เสี่ยวฟางสัตว์ป่าดุร้าย ไม่เหมือนอันธพาลที่เจ้าทุบตีพวกนั้นนะคนดีของข้า”“ข้าไม่ได้เข้ามาลึกสักหน่อย ไม่เช่นนั้นท่านจะตามเจอหรือเจ้าคะ ข้าเสร็จแล้วพวกเรากลับบ้านกันเถอะ อื้อ”มือบางยันหน้าอกเขาไว้แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรคนตัวโตได้เลย เมิ่งหย่งชวนถอดเสื้อคลุมตนเองออกปูที่ริมลำธารก่อนจะจัดการลอกคราบนางจนเปลือยเปล่าจากนั้นก็หยอกล้อกับหน้าอกที่พุ่งชูล่อตาเขา ดูดเม้มหัวนมสีหวานเข้าอุ้งปากทันทีจนเสิ่นเยี่ยนฟางถึงกับเงยหน้า แอ่นหน้าอกให้เขาได้ดื่มกิน“อื้อ ท่านพี่กลางป่ากลางเขานะเจ้าคะ ท่านไม่กลัวคนมาเจอหรือไง”“เขาลูกนี้รกทึบ ไม่มีชาวบ้านมาหรอกเมียจ๋า ข้าอยากรักเจ้าเสี่ยวฟาง ครางดังๆนะพี่อยากได้ยินเสียงหวานๆเหลือเกิน เมื่อคืนพี่สาวเจ้านอนห้องข้างๆด้
เสิ่นเยี่ยนฟางเริ่งรับรู้แล้วว่าผู้ชายที่เดินเคียงข้างนางนี้ไม่ธรรมดา นางเป็นหน่วยซิลนะ หูตาต้องไวแต่เขาถึงตัวนางโดยที่นางไม่ได้ยินเสียง รู้อีกทีเขากอดนางแล้ว แม้แต่ลมหายใจยังเก็บซ่อนได้ เขาไม่ใช่แค่บัณฑิตแก่เรียนแน่ๆ แต่นางจะไม่หาคำตอบนั้น บางครั้งแววตาเขาดูอ่อนแอจนเหมือนอยากหาใครสักคนมาคอยปลอบโยน“พี่สั่งอิฐมาแล้ว กระเบื้องจะมาส่งตอนเย็นน่ะพรุ่งนี้”“กลับไปข้าจะโม่ถั่ว กล่องไม้มาส่งเมื่อเช้าแล้ว หากขายได้ข้าจะสั่งเพิ่ม ข้าอยากช่วยชาวบ้านอย่างน้อยก็ช่วยคนที่ขยันไม่ขี้เกียจให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว”“ไม่เหนื่อยเกินไปหรือ เจ้ามาจากที่อื่นพวกเขาอาจไม่เชื่อใจ”“ไม่เป็นไรค่อยๆ ทำไป ทุกอย่างมีค่าตอบแทนข้าไม่ได้ทำเปล่าๆ ได้ทั้งเงินได้ทั้งชื่อเสียง อนาคตชื่อเสียงเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ท่านต้องการใช้ในการรับราชการเป็นขุนนาง”เมิ่งหย่งชวนหยุดเดินก่อนจะรั้งนางมากอดแล้วกดจมูกกับเรือนผมของนาง น้ำเสียงสั่นเครือของบุรุษบอกรักคนในอ้อมกอด“เสี่ยวฟางข้ารักเจ้า อย่ากังวลเลยอย่าลำบากเพื่อข้า ทุกอย่างต้องเป็นหน้าที่ข้าทำให้เจ้าสุขสบาย”“อืม ข้าเชื่อท่าน”ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงบ้านเชิงเขา แขกไม่ได้รับเชิญนั่
พูดจบนางก็เข้าไปในครัวต้อง นำไก่มาเชือดคอ รองเลือดไก่เอาไว้ด้วย เครื่องในถูกผ่าออกมาล้างด้วยแป้งสาลี เดิมทีใช้ขี้เถ้าก็ไม่สิ้นเปลือง แต่ว่ามีขุนนางคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วยแบบนั้นจะดูถูกเขาเกินไปเสิ่นเยี่ยนฟางสับไก่เป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ต้มน้ำเดือดใส่เกลือเล็กน้อยก่อนจะนำไก่ที่ได้มาลวกเพื่อเวลาตุ๋นน้ำจะได้ใส จากนั้นก็นำเครื่องตุ๋นที่พอจะหาได้มาใส่โถดินเผา นำโสมต้นเล็กที่ได้มาวันนี้ฝานเป็นแผ่น ตุ๋นให้สองพี่น้องบำรุงเสิ่นเยี่ยนฟางอยากคุยเรื่องสำคัญกับใต้เท้าเจ้าเมือง นางมีของอันตรายอยู่กับตัวต้องหาทางนำออกไป จึงเดินไปหาทั้งสองคนที่กำลังปรึกษากันอยู่“ท่านพี่ ข้าขอเวลารบกวนใต้เท้าโจวสักครู่นะเจ้าคะ”โจวหยวนมองหน้าเมิ่งหย่งชวน เขาพยักหน้าเบาๆ ให้ จากนั้นโจวหยวนจึงเอ่ยกับนาง“เชิญฮูหยินกล่าวเถิด”“เอ่อ ใต้เท้าโจวเจ้าคะ ข้าอยากทราบว่าโสมมีราคาอย่างไรเจ้าคะ”“โสมหรือ ถ้าอายุร้อยปีขึ้นไปรับซื้อที่สองร้อยตำลึงขึ้นราคาไปเรื่อยๆ ตามอายุของมันถ้าพันปีขึ้นไปรับซื้อที่สามหมื่นตำลึง แต่ตอนนี้หายากหากมีใครหาได้ราคาน่าจะอยู่ที่ห้าหมื่นตำลึง โสมหายาก แค่อายุ50-60ปียังหาแทบไม่ได้ ว่าแต่ฮูหยินคิดจะบำรุงร่างกายเ
ไม่นานเมิ่งลู่เจินเดินมาตามทั้งสองให้ไปกินมื้อเย็นก่อนใต้เท้าโจวบจะกลับเข้าในเมือง เจียงเสี่ยวฮวาขอยืมชุดเสิ่นเยี่ยนฟางก่อนสองชุดเพราะนางไม่มีเสื้อผ้า มีแต่ชุดที่ถูกปะชุน ไม่กล้าใส่ทำงานเกรงจะทำให้ใต้เท้าอับอายที่บ่าวไพร่ดูไม่ดีอาหารที่เสิ่นเยี่ยนฟางทำดูแปลกตา ไข่ตุ๋นใส่เห็ด เครื่องในไก่ผัดพริก น้ำแกงกระดูกหมูที่ซื้อมาแช่ไว้ในโอ่งเมื่อวานนี้ต้มกับหน่อไม้ที่นางได้มาตอนขึ้นเขา โจวหยวนไม่ใช่คนเรื่องมาก เขากินอาหารอย่าเอร็ดอร่อย เสิ่นเยี่ยนฟางตักน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมส่งให้เมิ่งหย่งชวนกับเมิ่งลู่เจินคนละถ้วย ตักให้โจวหยวนด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ขาดแคลนอาหารการกิน แต่โสมหายากมีเงินก็ใช่ว่าจะหากินได้ง่ายๆ"เมิ่งซิ่วไฉ ฮูหยินของท่านช่างมีพรสวรรค์มากนนัก ไม่ว่านางจะทำอาหารจานไหนข้ารู้สึกว่ามันอร่อยอย่างยิ่ง อีกทั้งน้ำแกงบำรุงถ้วยนี้ ข้ารู้สึกเกรงใจท่านจริงๆนี่คือของที่หามาอย่างลำบากเพื่อบำรุงสามีท่าน""ใต้เท้าอย่าเกรงใจเลยเจ้าค่ะ เรื่องวันก่อนข้ายังไม่ได้ตอบแทนท่านเลย วันนี้แค่น้ำแกงถ้วยเดียวไม่ถือว่ามากเกินไป ยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำเจ้าคะ่"" อืม ว่าแต่ได้ยินว่าท่านจะซ่อมแซมบ้านหรือท่านซิ่วไฉ""ขอรับใต้เ
เสิ่นเยี่ยนฟางมองค้อนเขาก่อนจะแยกชิ้นส่วนของหมูป่า จากนั้นก็เลือกเอาตรงเนื้อติดมันมาหมักเครื่องเทศเอาไว้ พรุ่งนี้เช้านางจะนำมาย่างไป เนื้อหมูป่าค่อนข้างเหนียวเสิ่นเยี่ยนฟางนำบางส่วนที่จะทำอาหารเช้าไปตุ๋นเพื่อให้นิ่ม พรุ่งนี้จะผัดกับเห็ด อยากได้พริกแต่ไม่ทันได้หาเมิ่งหย่งชวนก็มาจับนางกินจนหมดแรงหมดเวลาต้องลงจากเขาสองสามีภรรยากำลังช่วยกันทำงานโดยไม่รู้เลยว่าความยุ่งยากกำลังเดินทางมาหาพวกเขา ทั้งคู่ชำแหละหมูเรียบร้อยแล้วก็จัดเก็บไว้ในบ้านพวกบ้านใหญ่ถูกเสิ่นเยี่ยนฟางทุบจนลุกไม่ไหว แต่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วนอกจากเมิ่งซานที่ไหล่หลุด คนอื่นๆน่าจะเริ่มดีขึ้นแล้ว ต้องเก็บให้ดีไม่เช่นนั้นจะยกโขยงกันมาเอาเปรียบอีก"ไปอาบน้ำเถอะ ข้าผสมน้ำอุ่นให้ท่านเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวข้าขอไปดูเนื้อหมูที่ตุ๋นไว้สักหน่อย จะถอนฟืนออกเดี๋ยวน้ำแห้งจะไหม้เอา""พี่ไปช่วยดีกว่าจะได้เสร็จไวๆ นี่ก็ดึกมากแล้วจะได้ไปอาบน้ำให้พี่ด้วย ชำแหละหมูนี่เหนื่อยมากนักต้องออกแรง หมูป่าหนังเหนียวมากเพราะว่ามันตัวใหญ่"เมิ่งหย่งชวนเอ่ยกับเสิ่นเยี่ยนฟาง สายตากรุ้มกริ่มมากจนเสิ่นเยี่ยนฟางรู้ทันทีคนตรงหน้าหิวอีกแล้ว คืนนั้นไม่น่าพลาดให้เขาเล
เสิ่นเยี่ยนฟางเดินออกไปหาเมิ่งหลงก็เห็นเขาพาคนกลุ่มหนึ่งมาด้วย พวกเขาล้วนแต่งตัวดีใส่เสื้อผ้าราคาแพง สตรีอายุน่าจะไม่เกิน40แต่งกายด้วยไหมชั้นดี ชายชราวัยเดียวกับเมิ่งหลงมองเหยียดมายังนาง เสิ่นเยี่ยนฟางปัดมือที่เปื้อนดินก่อนจะไปหา"คารวะท่านปู่ใหญ่เจ้าค่ะ ท่านพี่ไม่อยู่เข้าเมืองไปกับอาเจิน มิทราบว่าท่านปู่มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ""เอ่อ เมียอาชวนนี่คือมารดาของสามีเจ้า นางมาเยี่ยมอาชวนกับอาเจินน่ะ พวกเขาจะกลับมาตอนไหนหรือ""ข้าตอบไม่ได้เจ้าค่ะ ท่านพี่ไปหาซื้ออาหารมาเลี้ยงคนที่จะมาช่วยซ่อมแซมรั้ว ถ้าเช่นนั้นก็ให้พวกเขานั่งรอเถอะเจ้าค่ะ"ลู่หานหนวดกระตุก บ้านโสโครกซอมซ่อเช่นนี้เกล้าเรียกเขานั่งหรือ จึงเอ่ยปากออกไป"นี่เจ้าเป็นผู้นำหมู่บ้าน มีที่ไหนให้ข้าได้นังพักดีกว่าเรือนโสโครกนี้บ้าง"ลู่ซินที่เพิ่งเห็นหน้าลูกสะใภ้ก็ถอนหายใจ บุตรขายเขารูปงามมากนัก เด็กสาวตรงหน้าก็งดงามเพียงแต่ฐานะของอาชวนกับนางนั้นแตกต่าง คงให้เป็นได้เพียงอนุเท่านั้น"ท่านพ่อ เราอย่าทำให้คนอื่นลำบากใจเลยเจ้าค่ะ นางเป็นภรรยาอาชวนอย่างไรเสียไว้หน้านางบ้าง""หึ เขาต้องแต่งกับท่านหญิงจะได้พ้นฐานะชาวนา ยังไงเสียนางก็เป็นได้แ
นางทะลุมิติมาอยู่ที่นี่สี่เดือนกว่าแล้ว ทุกครั้งที่เมิ่งหย่งชวนจะเดินทางก็มีเหตุให้ชะงักมาหลายครั้ง นางอยากให้เขาเจอบิดาโดยไวนางอยากให้เด็กๆได้เกิดเป็นบุตรของนางจริง เสิ่นเยี่ยนฟางตัดสินใจจะถอนเข็มที่นางฝังไว้ออก ช่วงระยะสิบวันนี้หากมีสัมพันธ์ผัวเมียกันนางมีโอกาสตั้งครรภ์ เขาดีเพียงนี้นางอยากมีบุตรให้เขาจริงๆที่ไม่ใช่เด็กในอุปถัมภ์"ท่านพี่ ข้าต้มน้ำเก็กฮวยไว้ท่านรับสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ"ขาสั้นๆดุ๊กดิ๊กของเสี่ยวเฟิงเดินที่ถือเอาน้ำมาให้บิดา ส่วนเสี่ยวฮวาถืออีกถ้วยมาให้ท่านอาที่ตามท่านพ่อมา เสี่ยวเย่าจุงมือเสี่ยวเหอถือจานขนมมา เด็กๆเอ่ยเรียกบิดาเมิ่งหย่งชวนมองภาพตรงหน้าแล้วอบอุ่นนัก หากเขามีลูกจริงๆคงดี เด็กเหล่านี้หากไม่เจอครอบครัวเขาจะเลี้ยงไว้เอง ว่าไปก็แปลก เด็กทั้งหกคนนี้ยิ่งใกล้ชิดรู้สึกว่าหน้าตาเหมือนเขากับเมียแทบจะคัดลอกกันออกมา เสียงหวานๆของเสี่ยวเฟิงเรียกเขา เมิ่งหย่งชวนยิ้มให้เจ้าตัวน้อย"ท่านพ่อน้ำเก็กฮวยหวานๆชื่นใจเจ้าค่ะ""ท่านอา น้ำเก็กฮวยหวานๆเจ้าค่ะ""ท่านพ่อ ขนมขอรับ"เมิ่งหย่งชวนรับขนมมาก่อนจะค่อยๆกินทีละนิด จางเหมิ่นถึงกับเอ่ยปากชม ขนมนี่อร่อยมากนัก"อาจารย์หญิงนับว่
ยามเซินเมิ่งหย่งชวนจ้างรถม้าจากในตำบลกลับมา ทันทีที่รถม้าจอดสนิทเมิ่งหย่งชวนก็ลงจากรถม้า ตามด้วยจางเหมิ่นทันทีที่เห็นพี่ชายจางลี่ก็หน้างอกันที จะมาจับผิดอะไรกันอีกมาลำมากขนาดนี้ยัง ไม่พอใจอีกหรือ เสิ่นเยี่ยนฟางเห็นสามีกลับมาก็แปลกใจไหนเขาบอกว่าจะไปสิบวัน"ท่านพี่ ไหนว่าไปสิบวันไงเจ้าคะ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือเปล่า หรือว่าอาการป่วยของท่านกำเริบ"เสิ่นเยี่ยนฟางรีบไปดูเขาทันที มือบางอังหน้าผากกว้างเมื่อเห็นว่าตัวไม่ร้อน ก็จับมือหนามากุมเกรงว่าอาการป่วยกลับมาเขาจะหนาวสั่นอีก เมิ่งหย่งชวนรั้งนางมากอดเอาไว้กดปลายคางกับเรือนผมงามก่อนจะเอ่นถามด้วยความกังวล" เสี่ยวฟาง.. ที่บ้านเกิดเรื่องอันใดหรือไม่นกเหยี่ยวของอาเจินคาบปิ่นเงินของเจ้าไปตามพี่ที่บ้านเศรษฐีจาง""หืม.. นกเหยี่ยวของอาเจินหรือเจ้าคะ"สิ่นเยี่ยนฟางนึกถึงลูกนกที่เมิ่งลู่เจินเลี้ยงเอาไว้ยังผลัดขนไม่เต็มเลยจะบินไปได้อย่างไรกัน ดูท่าดงเป็นบุตรชายคนเล็กมากกว่า เด็กๆ ที่ตอนนี้ท่านอาจารย์หม่ากลับไปแล้ว เหลือเพียงหวงหย่งเหนียนที่ยังสอนเมิ่งสู่เจินอยู่ และเพิ่งไปไม่นานรถม้าน่าจะสวนกันกับสามี เด็กทั้งสี่รีบวิ่งมาหาก่อนจะพักทายบิดา"คารวะท่
ทางด้านของเมิ่งอี้ที่ได้เห็นหน้าตาของเด็กๆ ทั้งหกคนก็คิดที่จะอุ้มเด็กๆ ไปขายทันที หน้าตาน่ารักขายได้คนหนึ่งไม่น่าต่ำกว่าห้าร้อยตำลึงแน่ๆ เขารู้จักพวกชอบเด็กวัยนี้หน้าตาเช่นนี้ราคาดี ต้องวางแผนดีๆ เมิ่งอี้ไม่รู้ว่าตนเองชะตาขาดแล้วนับแต่คิดจับเด็กๆไปขายวันนี้จากคนที่ไม่เคยหยิบทำสิ่งใดกลับมาหาเสิ่นเยี่ยนฟางแต่เช้าเพื่อขอช่วยงาน"พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าเองเมิ่งอี้ท่านอยู่หรือไม่ขอรับ"เสิ่นเยี่ยนฟางที่ตอนนี้กำลังเกล้าผมให้เสี่ยวอิงอยู่ เพราะเขายังเล็กจึงไม้ได้เรียนหนังสือไม่เช่นนั้นจะถูกสงสัยได้ ก็ชะโงกหน้าออกมาตามเสียงเรียก เห็นเมิ่งอี้ยืนอยู่นอกรั้ว หืมพ่อบัณฑิตรูปงามสะโอดสะองเหลือเกินเขาเก็บกันจนจะไถกลบปลูกใหม่เพิ่งจะโผล่หัว ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆมาทำไมกัน เสี่ยวเย่าส่งข้อความผ่านมารดาทางจิต"ท่านแม่ คนนิสัยเลวคนนี้ต้องการจับพวกเราพี่น้องไปขายขอรับ""หืม เมิ่งอี้กล้าคิดขายลูกข้าหรือ เสี่ยวเย่าลูกจัดการได้เลยอย่าให้แปลกปะหลาดจนชาวบ้านตกใจก็พอ แล้วตั้งแต่เช้าเสี่ยวเถาไปไหนกันนอนอีกแล้วหรือ""พี่ห้าหลับขอรับท่านแม่ พี่ห้าจะนอนอะไรนักหนาเก้าหมื่นปียังนอนไม่พอหรือไงกันเฮ้อ""หุบปากไปเลยนะ ไม่งั้นข
เมิ่งหย่งซินนำโจวหยวนกับหวงหย่งเหนียนไปพบคนด้านใน ทันทีที่เห็นหน้าโจวหยวนก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับเมิ่งหย่งซิน"แม่นางเมิ่ง รบกวนท่านช่วยออกไปก่อนสักครู่ เขาคือน้องชายคนเล็กของข้าโจวหยางน่ะ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับน้องชายนิดหน่อยขออภัยแม่นางเมิ่งด้วยที่เสียมารยาท""อ้อ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ที่แท้ก็คนกันเองถ้าเช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว เชิญใต้เท้าทั้งสองตามสบายเจ้าคะ"เมิ่งหย่งซินออกไปแล้ว หวงหย่งเหนียนก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้าม รอฟังสองพี่กับน้องคุยกัน"เห็นอาซ้อเมิ่งบอกว่าเจ้าหนีหมาป่าจนตกเขา หยางเอ๋อร์ อย่างเจ้านะหรือจะหนีหมาป่า ฝีมือเช่นเจ้ามิใช่หมาป่าต้องวิ่งหนีหรอกหรือ""ข้าหนีคนขององค์ชายรอง บังเอิญไปเจอพวกเขาสมคบศัตรูแอบค้าขายแร่เหล็กกับแร่เงินเข้า แต่โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าแกล้งเป็นคนตาบอดเดินคลำทาง พวกเขาไม่ไว้ใจจึงพยายามไล่ล่าข้าจึงแกล้งตกเขาลงมา แต่ไม่คิดว่าด้านล่างจะมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ ข้าเลยกระแทกอย่างแรง กระดูกร้าวน่ะไม่ถึงกับหัก เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนขององค์ชายรองยังอยู่ไหมเลยต้องอยู่แต่ในบ้านไปก่อน ไม่อยากให้คนบ้านนี้เดือดร้อนเพราะช่วยข้านะขอรับพี่รอง"โจวหยางเอ่
ยามเฉินเสิ่นเยี่ยนฟางที่นั่งหน้าบ้านรอจางลี่ก็ยังไม่มา คิดจะลองดีกับนางหรือ หากยามซื่อไม่มาข้าจะไปลากถึงที่นอนเลยเชียว ปลายยามซื่อรถม้าก็วิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน เลยมาทางด้านท้ายหมู่บ้านเศรษฐีจางลากบุตรชายลงมา จางลี่หน้าเง้าหน้างอพอเห็นเสิ่นเยี่ยนฟางก็ถลึงตาใส่ จากนั้นจางหมิ่นก็พูดคุยกับนาง"ข้าพาเขามาส่ง อาจารย์หญิงท่านจะเปลี่ยนใจหรือไม่บุตรชายข้าดื้อด้านนัก""ช่างเถอะ ท่านลุงหกมาพาคนงานใหม่ไปเก็บดอกฝ้ายในไร่ด้วยเจ้าค่ะ"ทันทีที่นางเอ่ยจบก็มีชายฉกรรจ์อายุประมาณสี่สิบเดินมาก่อนจะนำทางจางลี่ไป แต่เขาอิดออดจนบิดาต้องดุ จางหมิ่นเดินตามเสิ่นเยี่ยนฟางไปที่แปลงฝ้าย ทันทีที่เห็นผักในแปลงดินก็ตกตะลึงก่อนจะเอ่ยปากขอซื้อ"อาจารย์หญิงผักสดนี่ครั้งก่อนที่อาจารย์เมิ่งนำไปฝากรสหวานยิ่งนัก ครั้งนี้ท่านช่วยขายให้ข้าได้หรือไม่เล่า""ข้าเก็บไว้ให้แล้ว สามีข้าเพิ่งซื้อที่ดินเพิ่มข้าจะขยายแปลงผักอีกหน่อยเราอาจเป็นคู่ค้ากันก็ได้ อ้อถึงแปลงฝ้ายแล้วเชิญท่านดูเถอะ"จางหมิ่นทันทีที่เห็นดอกฝ้ายที่คุณภาพนับว่าดียิ่งนัก เขาไม่เคยเจอฝ้ายที่ดอกหนาสีขาวบริสุทธิ์เช่นนี้มาก่อนจึงเผยสีหน้ายินดีออกมา จางลี่ไม่ยอมทำงานยื
เสิ่นเยี่ยนฟางมองไปที่จางลี่จากนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้าย จางลี่เห็นรอยยิ้มนางถึงกับขนลุกทันที ได้ยินนางเอ่ยวาจาที่ทำให้เขาถึงกับโมโหเป็นอย่างมาก"ท่านจาง ข้ามิอาจอวดเก่งต่อหน้าพ่อค้าใหญ่เช่นท่านได้ แต่มีเรื่องหนึ่งข้าช่วยท่านได้นะเจ้าค่ะ""เมิ่งฮูหยินเชิญกล่าวมาเถอะ""บุตรชายของท่านจางลี่ หากท่านไม่รังเกียจข้าที่เป็นสตรี ข้ายินดีเป็นอาจารย์ให้เขาเอง ตั้งแต่พรุ่งนี้ให้เขาเข้าไร่เก็บดอกฝ้าย จากนี้ท่านห้ามให้เงินเขา หากวันใดเขาทำงานข้าจะจ่ายค่าแรงเอง หากไม่ทำก็ให้เขาอดข้าว เขากินดีอยู่ดีเกินไปไม่รับรู้ความลำบากของบิดามารดาที่ต้องทำงานหาเลี้ยงเขา""เอ่อเมิ่งฮูหยินคือเรื่องนี้ข้าว่า.....""นังตัวดีเจ้ากล้าหรือ ท่านพ่อนางถือว่าสามีเป็นอาจารย์ของพี่ใหญ่ก็เลยอยากทำให้ข้าอับอายนะขอรับ ท่านอย่าหลงกลนางสารเลวนี่เชียว"เมิ่งหย่งชวนมองหน้าภรรยาอย่างหาคำตอบ แต่เสิ่นเยี่ยนฟางแค่เพียงยิ้มหวานให้เขาก่อนจะเอ่ย"ท่านจาง ดอกฝ้ายเหล่านั้นข้าจะส่งมอบให้ท่าน บุตรชายท่านหากข้าสั่งสอนเขาให้เป็นผู้เป็นคนไม่ได้ภายในหนึ่งเดือนข้ายินดีไม่รับเงินค่าดอกฝ้ายสักอีแปะเจ้าค่ะ หากข้าทำได้ท่านก็แค่จ่ายค่าฝ้ายข้า
เสิ่นเยี่ยนฟางนำหมั่นโถวกับซาลาเปาใส่กะละมังไม้หลายใบก่อนจะเข็นเดินไปทั่วหมู่บ้านเพื่อแจกซาลาเปากับหมั่นโถว"ทุกท่านนี่คือบุตรชายบุตรสาวของข้า ทั้งหกคน เด็กๆคารวะท่านปู่ท่านย่าท่านลุงท่านอาทั้งหลายสิ ยังมีพี่สาวพี่ชายท่านน้าอีกด้วย""พวกเราคารวะทุกท่านเจ้าค่ะ/ขอรับ"ชาวบ้านต่างยิ้มให้เด็กหกคนนี้น่ารักเสียจริงๆ"นี่ภรรยาซิ่วไฉ หากบอกว่าเป็นบุตรชายบุตรสาวของเจ้าข้าเชื่อสนิทใจเชียวล่ะ""ใช่ๆ หน้าตาถอดเจ้ากับเมิ่งซิ่วไฉมาเชียว""ขอบคุณพวกท่านมาก ฝากเอ็นดูลูกๆข้าด้วยนะเจ้าคะ"เสิ่นเยี่ยนฟางทยอยแจกอาหารจนครบทุกหลังคาเรือนจากนั้นก็เข็นรถพาลูกๆกลับบ้าน เมิ่งหย่งชวนเตรียมตัวกินข้าวแล้วจะไปค้างคืนที่จวนจางสิบคืน"ท่านพ่อพวกเรากลับมาแล้วเจ้าค่ะ"เสี่ยวฮวาวิ่งนำหน้าถลามากอดขาเมิ่งหย่งชวนก่อนจะเงยหน้าส่งสายตาไร้เดียงสามาให้ เมิ่งหย่งชวนก้มลงอุ้มนางขึ้นมาก่อนจะดุ"วันหลังอย่าวิ่งแบบนี้อีก หากหกล้มลูกจะเจ็บได้ วันนี้พ่อไม่อยู่อย่าดื้อกับท่านแม่เข้าใจหรือไม่""ท่านพ่อเสี่ยวฮวาไม่ดื้อเจ้าค่ะ เสี่ยวฮวาอยากมีท่านพ่อเสี่ยวฮวาอยากมีท่านแม่"เมิ่งหย่งชวบบีบจมูกโด่งที่ถอดแบบเขามาไม่ผิดเพี้ยน นี่ถ้าเขามีลูกเ
เมิ่งซุนยื่นมือไปขออุ้ม เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเสี่ยวอิงบุตรชายคนที่หกที่เกินจากข้อตกลงมา เสี่ยวอิงกางแขนหาท่านปู่ทวดทันที"อืม ไหนเรียกท่านปู่ทวดสิ""ท่านปู่ทวด ท่านปู่ทวดขอรับ"เมิ่งซุนยืนมือเหี่ยวย่นไปลูบศรีษะ จากนั้นเมิ่งหย่งซินก็ไปจัดห้องให้เด็กๆ ต้นยามเหมาแล้ว นางกับเสิ่นเยี่ยนฟางไม่นอนต่อแต่ติดไฟนวดแป้งทำซาลาเปา นึ่งหมั่นโถว ต้มไก่ทำกับข้าวไปไหว้บิดามารดาของท่านปู่"อาเล็ก ทำเยอะหน่อยเถอะพรุ่งนี้จะไปแจกในหมู่บ้านด้วย พาเด็กๆไปแนะนำกับคนในหมู่บ้านด้วย""อืม เจ้าไปพักเถอะเสี่ยวฟางงานตรงหน้าอาเล็กทำได้""ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาเล็กช่วยกันทำงานเสร็จเร็วจะได้มีเวลาพัก"เมิ่งลู่เจินที่ตอนนี้เป็นท่านอาแล้วก็มีหน้าที่พาหลานๆไปเดินเล่นระหว่างที่ผู้ใหญ่ทำงาน"อย่ามาเล่นแถวนี้อันตราย เจ้าชื่ออะไรนะ""ข้าชื่อเสี่ยวเฟิงเจ้าค่ะท่านอา อีกอย่างข้าไม่ซนเจ้าค่ะข้าอยากช่วยงาน""อืมๆๆ อาเล็กรู้แต่ว่าในครัวมีฟืนไฟต้องระวัง เสี่ยวเย่าเจ้าเป็นพี่คนโตใช่หรือไม่"เสี่ยวเย่าเดินมาหาเมิ่งลู่เจินเขาก้มลงอุ้มหลานชายตัวน้อยขึ้นมาก่อนจะมองหน้าแล้วเอ่ย"เสี่ยวเย่า เจ้าเป็นพี่ต้องดูแลน้องๆ ห้ามเข้าใกล้เตาไฟ ห้าม
เสิ่นเยี่ยนฟางใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่เมิ่งหย่งชวนยังคงไขว่คว้าสองเต้าอย่างไม่ยอมแพ้ เสิ่นเยี่ยนฟางจับมือเขาไว้ก่อนจะส่งสายตาดุไปให้ คนตัวโตต้องยอมปล่อยเพราะเมียเริ่มดุแล้ว"นอนนะเจ้าคะ พรุ่งนี้ต้องไปสอนหนังสืออีก ท่านคึกทุกคืนเช่นนี้ร่างกายจะแย่เอา""เมียจ๋า อีกครึ่งเดือนต้องเดินทางแล้วนะ""ท่านพี่นอนเจ้าค่ะ"เมิ่งหย่งชวนยอมนอนเสิ่นเยี่ยนฟานนอนหนุนแขนเขาจนกระทั่งปลายยมอิ๋นเสียงเรียกของเสี่ยวเย่าดังขึ้นมา"ท่านแม่ขอรับน้องตื่นแล้วขอรับ""ท่านแม่เจ้าขาเสี่ยวเหอกับเสี่ยเถาตื่นแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวอิงด้วย"เสิ่นเยี่ยนฟางหูผึ่งทันที เสี่ยวอิงหรือคือใครกันมาจากไหนอีกเล่า ไหนว่าห้าคนไง ก่อนจะค่อยๆเอาแขนของสามีออกจากนั้นก็ลุกขึ้นมาสวมเสื้อคลุม เนื่องจากชาติก่อนนางเป็นหน่วยซีลเก่าการเคลื่อนไหวจึงนับว่าเบามาก เสิ่นเยี่ยนฟางห่มผ้าให้เมิ่งหย่งชวนก่อนจะจุมพิตแก้มสากจากนั้นก็เปิดประตูออกไปเมิ่งหย่งชวนที่นอนอยู่ลืมตาทันที ภรรยาลุกไปกลางดึกอีกทั้งสวมเสื้อคลุม ใส่มิดชิดเพียงนี้คงมิได้ไปสุขาแน่ๆ เสียงเดินไปทางป่าท้อ เมิ่งหย่งชวนลุกขึ้นก่อนเดินออกมาเห็นหลังนางไวๆ เสิ่นเยี่ยนฟางที่มาถึงก็เห็นสามคนรออยู