“ทีตอนที่ไปคลินิกแล้วขึ้นขาหยั่งไม่คิดจะอายบ้างเหรอ แล้วถ้าวันนี้คนที่ตรวจคุณเป็นผู้ชายคนอื่นล่ะคุณจะทำยังไง” เธอคอยส่งทั้งขนม กาแฟและมักจะเดินมาให้เขาเห็นบ่อย ๆ แต่เขาไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่เพราะไม่ต่างกับพวกโรคจิต ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับผู้หญิงคนอื่นที่ห้องไหน ทำไมต้องเจอกับเธอทุกทีสิน่า!! ** นิยายเรื่องนี้พระเอกเริ่มแรกไม่ใช่คนดีนะคะ ปากร้ายและเอาแต่ใจ นิยายเป็นแนว 18+ มีฉากอีโรติกค่อนข้างละเอียด ควรใช้วิจารณญาณในการเสพ ** สำคัญโปรดอ่าน ** นิยายของไรต์อาจจะถูกจริตกับบางคน เพราะเป็นแนวรักโรแมนติก อีโรติก มีการพูดจารุนแรง
더 보기ห้องวีไอพี DND ผับ
“ซี๊ดด…อ๊า คินน์คะ อ๊า…”
คุณหมอหนุ่มที่มักจะแวะมาสังสรรค์กับพวกเพื่อนสนิทซึ่งเป็นเจ้าของผับชื่อดัง แต่วันนี้เพื่อนของเขาไม่ได้เข้ามาดังนั้น “คณาธิป” จึงแก้เบื่อด้วยการหาผู้หญิงสักคนมาผ่อนคลายอารมณ์ หลังจากเจอเรื่องเครียดที่โรงพยาบาลมาทั้งวัน
“ถอดชุดออกสิ จะได้เสียวมากกว่านี้”
หญิงสาวที่ถกเพียงชุดเดรสขึ้นมานั่งคร่อมเขาอยู่รีบจัดการเดรสหรูสีน้ำเงินออกไปทันที เธอรีบดึงบราไร้สายที่ปกปิดหน้าอกที่ผ่านมีดหมอเพื่อเพิ่มขนาดมาแล้ว และเมื่อคณาธิปเห็นก็หมดอารมณ์ทันที
“พอแล้ว ลงไปเถอะ”
“อะไรนะคะ วิกกี้ทำอะไรผิดคะคินน์ มาสนุกกันดีกว่านะคะ”
“นมปลอม ช่องคลอดก็หลวมอีกอย่างผมไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมเลยสักนิด รีบออกไปเถอะ”
“แต่ว่า…”
คณาธิปยกมือถือมาและกดไปเรื่อย ๆ
“คุณใช้เบอร์นี้ใช่ไหม”
“คะ เบอร์นั้น...”
“ติ๊ด!”
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นที่มือถือของอีกฝ่าย วิกกี้ซึ่งเป็นนักท่องราตรีเซ็กซี่ประจำผับแห่งนี้ เธอรอคอยเวลานี้มานานที่จะทำให้หมอหนุ่มซึ่งเป็นทายาทนักธุรกิจดังมาสนใจ ในที่สุดเขาก็พาเธอขึ้นมาห้องพิเศษแห่งนี้แต่เมื่อเธอแค่เริ่มต้นก็ถูกเขาเบรกเสียจนทำอะไรไม่ถูก
“นี่มันอะไรกันคะ”
“ถือว่าผมให้ค่าเสียเวลาคุณก็แล้วกันนะ อีกอย่างค่าเหล้าวันนี้ไม่ต้องจ่ายผมจัดการเอง”
“แต่ว่าคินน์คะ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยวิกกี้สักหน่อย วิกกี้ยังอยาก…”
“ผมไม่มีอารมณ์ อีกอย่างคุณก็เห็นว่ามันอ่อนยวบลงไปแล้วนั่นแสดงว่าต่อให้คุณแก้ผ้ามันก็ไม่แข็งอีก ออกไปเถอะ”
คณาธิปลุกขึ้นและดึงเครื่องป้องกันออกก่อนจะค่อย ๆ ดึงซิบกางเกงขึ้นและจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น วิกกี้กัดขอบปากด้วยความเสียดายเพราะหากว่าเธอต้องออกไปแบบนี้แล้วคนข้างล่างถาม เธอคงอายจนไม่กล้ามาเที่ยวผับนี้อีกหลายเดือน
“ผมจะให้คนไปส่งคุณหลังผับถ้าคุณไม่อยากจะลงไปข้างล่าง”
“ขอบคุณค่ะ”
เธอพูดก่อนจะค่อย ๆ สวมชั้นในตัวจิ๋วและสวมเดรสตัวสวยที่บรรจงเลือกมาเพื่อให้เขาสะดุดตา แต่ใครจะรู้ว่าวันนี้เขาจะไม่สนใจกันล่ะ เมื่อเสียงประตูเปิดออกมาอีกครั้งหนุ่มหล่อสองคนที่เดินเข้ามาก็หันมาสนใจเธอทันที
“เอ๊ะ ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ ว้าวแล้วยัง…”
“ฉัน…”
“อ้อ พี่หมอไม่สนใจงั้นเหรอ เอาแบบนี้สิไปสนุกกับพวกเราดีกว่าไหมแต่ว่าคุณจะรับไหวหรือเปล่า”
วิกกี้หันมามองที่หมอคินน์ที่กำลังยกแก้วขึ้นมากระดกโดยที่ไม่ได้สนใจเธอด้วยซ้ำ เขากำลังมองหาเหยื่อคนต่อไป และตอนนี้หากเธอเดินลงไปหรือให้คนไปส่งที่ด้านหลังก็ดูจะเสียเชิงสักหน่อย ส่วนคนที่พึ่งเข้ามาก็เป็นถึงลูกนักการเมืองชื่อดังกับอีกคนก็หนุ่มไฮโซนักเรียนนอกที่พึ่งมีข่าวดังในแวดวงไฮโซ อีกทั้งตอนนี้เธอเองก็ยังไม่อยากกลับ
“พวกคุณสองคนว่างเหรอคะ”
“แน่นอน พี่คินน์ผมขอนะ”
คณาธิปแค่หันมามองแต่เมื่อเห็นว่าฝ่ายหญิงไม่ได้ขัดขืน อีกทั้งยังโผเข้าจูบเพื่อนรุ่นน้องของเขาอีกคนหนึ่งแล้ว เขาจึงแค่ยกมือส่งสัญญาณให้เท่านั้น ไม่นานทั้งสามคนก็หายเข้าไปในห้องวีไอพีข้าง ๆ ส่วนเขากำลังมองลงไปที่บาร์
“มาอีกแล้วเหรอเนี่ย”
เขามองไปที่สาวน้อยคนหนึ่งที่อยู่ด้านล่าง เธอเป็นเด็กเรียบร้อยและกำลังฝึกงานที่โรงพยาบาลของเขาซึ่งเรียนอยู่คณะบริหาร เธอได้ขึ้นไปฝึกงานที่ชั้นผู้บริหารและงานเอกสารชั้นบน ซึ่งไม่ค่อยได้เกี่ยวข้องกับส่วนของโรงพยาบาล จะมีโอกาสพบกันบ้างก็เวลาที่พักทานข้าวเท่านั้น
“ทำไมถึงดื้อขนาดนี้นะ”
ด้านล่าง
“ไม่ค่ะฉันแค่มาดื่มกับเพื่อน ไม่ค่ะไม่ต้อง”
“จิล! ฉันมาแล้วเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรฉันเองก็พึ่งจะมา ทำไมมาช้านักล่ะ”
“รถติดน่ะ แกก็รู้ว่าช่วงวันศุกร์ถนนเส้นนี้รถติดขนาดไหน สั่งอะไรหรือยังล่ะ”
“ยังเลย”
“ชมชนก” หันมาบอกเพื่อนสนิทที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดจนคนเริ่มมองมาที่เธอ ส่วน “จิล” นั้นนอกจากจะไม่สะดุดตาแล้ว เธอยังเป็นคนที่ค่อนข้างไม่แต่งตัวจึงดูเด็กอยู่ตลอด หากว่าไม่ยื่นบัตรประชาชนให้คนคุมผับดูเพื่อยืนยันอายุพวกเขาคงไม่ยอมให้เข้ามา
“เอาล่ะไหนว่ามาสิ นี่แกอย่าบอกนะว่าตกหลุมรักคุณหมอคนนั้นจริง ๆ แต่ทำไมถึงชวนฉันมาที่นี่ล่ะ”
“ก็ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดว่าคงตามตื๊อเขามากเกินไป”
“ทำไมล่ะแกบอกว่าชอบเขามาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ อีกอย่างแค่ส่งของไปให้ก็เท่านั้นแค่นี้ตามตื๊อแล้วเหรอ”
“อืม ก็ใช่แต่ฉันพอแล้วดีกว่าเขาคงมีแฟนแล้ว อีกอย่างคงไม่ชอบคนอย่างฉันด้วยน่ะ วันนี้ฉันพึ่งเห็น…”
ชมชนกไม่กล้าเล่าให้เพื่อนสนิทของเธอฟัง “มิ้นท์” เป็นเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมต้น และตอนนี้ยังมาเรียนด้วยกันที่มหาวิทยาลัยและเรียนคณะเดียวกัน ทั้งคู่จึงได้กลับมาสนิทกันอีกครั้ง
“อย่าอึกอักสิ ไหนเล่ามาสิไปเจออะไรเข้า”
“ชมชนก” ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มีโอกาสพบกับรุ่นพี่ที่เธอชื่นชอบตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เมื่อรู้ว่าเขาสอบติดแพทย์มหาวิทยาลัยดังเธอก็มุ่งมั่นจะสอบให้ติดที่เดียวกัน แต่เมื่อผลสอบออกมาเธอกลับติดคณะแพทย์ที่อื่นแต่ติดคณะบริหารที่เดียวกับเขา
ดังนั้นจิลจึงไม่ลังเลที่จะเลือกเรียนที่นี่ทันที แต่เธอเรียนได้เพียงปีเดียวเขาก็เรียนจบและมาทำงานที่โรงพยาบาลของที่บ้าน ตอนนี้เธออยู่ปีสามแล้วและเขาก็เป็นหมอมาได้สองปีกว่า
โรงพยาบาล
“ยินดีต้อนรับนักศึกษาฝึกงานทุกคน ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดการฝึกงานนี้นะครับ”
ครั้งนั้นคุณหมอคณาธิปเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลขึ้นไปพูดต้อนรับพวกเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่องานเลี้ยงต้อนรับเริ่มเธอจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมดเดินไปบอกเขา
“สวัสดีค่ะคุณหมอ คุณเป็นรุ่นพี่ที่ฉันชื่นชมดีใจที่ได้พบคุณที่นี่”
“ขอบคุณครับขอให้มีความสุขในการฝึกงาน ผมไปก่อนนะ”
“เอ่อ…”
นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้คุยกับเขา ซึ่งคณาธิปไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ เมื่อพูดจบก็เดินออกจากห้องที่จัดเลี้ยงไปทันทีโดยไม่ได้บอกลาใครเลย เธอรู้ว่าเขาเป็นหมอสูติฯ จึงได้ถือโอกาสนำเอกสารไปที่นั่นบ่อย ๆ บางครั้งก็ซื้อกาแฟและขนมที่ทำเองไปวางให้เขาที่โต๊ะทำงาน ซึ่งเธอไม่เคยรู้เลยว่าคณาธิปไม่แม้แต่จะกินของพวกนั้นสักครั้ง
“อีกแล้ว นี่ของใครกัน”
“เอ่อ…ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”
“รบกวนคุณเอาไปทิ้งให้ผมที ช่วงบ่ายมีเคสอีกไหม”
“กชกร” ซึ่งเป็นเลขาที่แม่ของคณาธิปส่งมาให้ช่วยดูแลเรื่องการทำงานและคอยเป็นหูเป็นตาแทนคุณนาย “ธิดารัตน์” นั่นเอง
“มีนัดตรวจครรภ์อีกสองเคสช่วงบ่ายสองค่ะ”
“ได้ ผมของีบหน่อยบ่ายโมงค่อยมาตาม”
“ค่ะ”
กชกรเดินออกมาจากห้องของเขาทันที พร้อมกับกาแฟและขนมที่เธอมักจะเดินออกมาทิ้งหรือไม่ก็ให้พยาบาลที่อยู่เคาน์เตอร์กินแทนทุกวัน
“พี่กชวันนี้คุณหมออารมณ์ไม่ดีเหรอ”
“ไม่รู้สิสงสัยไม่ได้เจอหน้าแฟนมั้ง”
“คุณหมอมีแฟนด้วยเหรอ คนไหนล่ะ”
“อย่าถามมาก เอานี่ไปปิดปากเถอะ”
กชกรยื่นน้ำและขนมให้พวกเธอ พยาบาลที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์จึงได้หยุดถามและไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนเอามาให้คุณหมอคาสโนว่าของพวกเธอ คณาธิปที่บอกว่าจะงีบสักครึ่งชั่วโมงเมื่อเข้ามาในห้องได้ก็เปิดคอมพิวเตอร์และตรวจสอบดูและเขาก็เห็นเหตุการณ์ซ้ำ ๆ ที่คิดเอาไว้แล้ว
“เป็นเธออีกแล้วเหรอ โรคจิตหรือยังไงกันนะ”
“พรีเวดดิ้งเหรอคะ”“มาเถอะน่า มีอีกหลายคนที่รอถ่ายอยู่นะ”“ออ ค่ะ ๆ”“เดินระวังหน่อย”หมอคินน์ค่อย ๆ จับตัวจิลเข้าไปถ่ายรูปในฉากที่โรงแรมจัดเอาไว้ให้ ทั้งคู่ถ่ายรูปไปเยอะมากและถ่ายในหลาย ๆ มุมของโรงแรมเหมือนกับช่างภาพถูกจ้างมา แต่คณาธิปก็ไม่ได้ขัดใจเพราะวันนี้คู่หมั้นของเขาสวยเหมือนกับเจ้านางทางเหนือและเขาเองก็ไม่เคยแต่งชุดแบบนี้เลยสักครั้ง“อร่อยไหม”“อาหารของโรงแรมวันนี้อร่อยทุกอย่างเลยนะคะ หรือเป็นเพราะว่าเทศกาล ดูสิคะคนเริ่มมาลอยกระทงกันแล้ว”“อยากไปลอยหรือเปล่า”“อืม รอให้แขกคนอื่นลอยไปก่อนก็ได้ค่ะคนยังเยอะอยู่เลย”“แต่ช่วงสามทุ่มเห็นบอกว่าจะมีจุดประทีปลอยแม่น้ำปิง ที่จริงจะมีปล่อยโคมที่เรียกว่างานอะไรนะ...”“ประเพณียี่เป็ง[1]ค่ะแต่เห็นบอกว่าตอนนี้งดปล่อยโคมกันแล้ว ให้จุดไฟแล้วลอยโคมสายในน้ำแทนค่ะ”“ก็ดีนะ แบบนี้ไม่อันตรายด้วย”ทางโรงแรมมีจัดงานลอยกระทงแบบย่อม ๆ แขกที่มาพักที่นี่มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ทุกคนต่างสวมชุดล้านนาที่ทางโรงแรมมีจัดเตรียมไว้ให้ แต่เท่าที่จิลเริ่มสังเกต ทุกคนล้วนแต่จ้องมองพวกเขาทั้งสองคนเพราะชุดที่เธอและหมอคินน์ใส่เหมือนจะไม่เหมือนกับชุดพื้นเมืองที่คนอื่
จิลค่อย ๆ ขยับช่วงเอวตามจังหวะและเริ่มรุนแรงขึ้นเพราะเธอทนไม่ไหว ความเสียวที่เขากระตุ้นเริ่มทำให้เธอลืมตัว“อ๊าา ที่รักคะช่วยด้วย!!”“มาแล้ว...อาา แน่นฉิบหายเลย โอยจิลผมเสียวมาก…อาา”คณาธิปดึงเธอลงมากอดเขาเอาไว้และเป็นฝ่ายเด้งตอบเธอไป ความแรงและความถี่ของเขาทำได้ดีกว่าเธอ ไม่นานจิลก็เริ่มร้องดังมากขึ้น ร่างบางเกร็งสุดตัวและร้องสุดเสียงเมื่อถึงฝั่งไปก่อน หมอคินน์เองก็ไม่อยากรอ เขาจึงได้เร่งตามเธอไปทันที“อาา…ไม่คิดว่าจะน่ากินขนาดนี้”“ต่อสิคะที่รัก”“ให้ตายเถอะ ทำไมคืนนี้คุณเร่าร้อนขนาดนี้”จิลลุกขึ้นและหันหลังพร้อมกับก้มบั้นท้ายรอเขา เธอถอดชั้นในออกไปแล้วโดยไม่รอให้เขาทำ หมอคินน์แค่เห็นบั้นท้ายขาวกลมตรงหน้ามีเหรอที่จะทนไหว เพียงแค่จังหวะเดียวเขาก็สอดเข้าไปจนสุดและแช่เอาไว้เพื่อซึมซับความอบอุ่นและการบีบรัดตรงหน้า มือหนาเอื้อมไปขย้ำบั้นท้ายจนเกิดรอย“เฮือก!! อ๊าา…ฮึก!! อ๊าา…หมอคะ แรงอีกค่ะ อ๊าา แบบนั้นแหละค่ะ อ๊าา”จิลเสร็จไปไม่รู้กี่รอบในคืนนี้แต่เขาก็ยังปรนเปรอเธอไม่หยุด ดูเหมือนว่าเธอจะยอมตามใจเขามากกว่าเดิม คิดถูกแล้วที่ไม่ทำข้างนอกเพราะหมอคินน์ค่อนข้างจะหวงแฟนสาวเอามาก ๆ แต่ต่อให้เ
เทียนที่ลอยอยู่ในสระน้ำโดยมีโคมอันเล็กใส่อยู่ อีกทั้งริมสระที่เต็มไปด้วยกุหลาบ จิลคิดว่าหมอคินน์คงให้คนที่โรงแรมแอบเตรียมไว้ให้ในช่วงที่ทั้งคู่ออกไปเที่ยวข้างนอก“ชอบไหมครับ”“สวยจังเลยค่ะ”“คุณก็สวยมาก มานี่สิ ได้เวลาที่เสือจะล่ากวางแล้วนะ”“หมอคะ แต่ว่า…”“ตอนนี้มืดแล้ว ผมป้องกันอย่างดีคุณไม่ต้องห่วงหรอก ที่สำคัญตึกนี้สูงกว่าตึกอื่น ๆ และไม่มีใครมารบกวนพวกเรา”จิลหันไปมองรอบ ๆ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวและชมพูบานสะพรั่ง เทียนหอมที่ถูกจุดอยู่ในสระน้ำเพื่อเพิ่มบรรยากาศทำให้จิลรู้สึกเคลิ้มไปกับบรรยากาศ“หมอคะ ต้องถอดด้วยเหรอ”“ตอนนี้ยังไม่ต้อง เดี๋ยวผมไม่มีสมาธิ”คณาธิปหันมามองหน้าแฟนสาวและจับมือเธอเอาไว้แน่นเพื่อรวบรวมสมาธิ จิลรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะบรรยากาศและคนที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่รู้ว่าเขาอยากจะทำอะไรกันแน่ แต่หัวใจของเธอพองโตจนอดยิ้มออกมาไม่ได้“ผมเป็นคนพูดไม่เก่งเท่าไหร่แต่ว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอคุณ ผมไม่ชอบคุณเลย ไม่ชอบนิสัยของคุณที่ทำเหมือนพวกโรคจิตที่คอยเอาแต่ตามมองผม เอาของโน่นนี่มาให้ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ชอบ ผมเกลียดการกระทำแบบนั้น”“หมอคะ นี่หมอเรียกจิลมาต่อว่าเหรอค
“อ๊าา… หมอคะ มันเสียวมาก อื้อ….”แอลกอฮอล์ที่เธอดื่มเข้าไปไม่กี่แก้วเริ่มออกฤทธิ์ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เธอจะมีแรงตื่นไปเที่ยวกับเขาไหวหรือเปล่า แต่ตอนนี้จิลแทบจะไม่สนอะไรอีกนอกจากลิ้นของหมอคินน์ที่ไต่อยู่ยอดอกของเธอ และมือที่ช่วยเธอขยับที่เอวให้สอดเข้าไปลึกขึ้น“อ๊าา หมอคะ ในน้ำไม่ไหวแล้ว”“ก็ได้ ๆ รอบนี้จบก็ไปที่เตียงกันนะ”“อึ๊ยย!! เสียวมาก อ๊าา….”“เสียงของคุณเซ็กซี่มาก เมียจ๋า ผมทนไม่ไหวแล้ว อาา….”นับว่าไม่เสียเที่ยวที่อุตส่าห์ตามมาง้อเธอถึงเชียงใหม่ เพราะนอกจากอากาศจะดีแล้วสถานที่พักก็จัดว่ายอดเยี่ยม อีกอย่างจิลเองก็มีความสุขและมีรอยยิ้มมากกว่าตอนที่อยู่ที่กรุงเทพ แต่นั่นคงเป็นเพราะเขาและเรื่องราวก่อนหน้านั้นที่ไม่ชัดเจน อีกทั้งข่าวลือมากมายและยังผู้หญิงหลาย ๆ คนที่พยายามเคลียร์ออกไปจนหมด วันถัดมา“อือ หมอคะนี่กี่โมงแล้ว”“พึ่งจะแปดโมงเช้า ไม่ต้องรีบคุณตื่นแล้วเหรอ”“เมื่อยมาก ๆ เลย”“เอาไว้กลับมาค่อยมาสปาที่ชั้นล่าง ผมถามเขาแล้วว่ามีบริการนวดด้วยเผื่อว่าคุณอยากนวด”“จริงเหรอคะ วันที่มาเช็คอินน์ก็ไม่ทันได้ถามเพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับงานลอยกระทงที่พวกเขากำลังจัด แต่อีกตั้งสองวันมั้งคะ
จิลตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบบ่ายสี่โมงแล้ว แต่ข้าง ๆ ไม่มีหมอคินน์อยู่จึง ลุกขึ้นก็มองไปทั่วห้อง เสียงประตูเปิดเข้ามาจึงรีบมุดลงไปใต้ผ้าห่มอีกครั้งเพราะตัวของเธอยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า“คุณตื่นแล้วเหรอ หิวหรือเปล่าผมไปถามผู้จัดการโรงแรมมาบอกว่าแถวตลาดกลางคืนมีร้านน่ากินอยู่เยอะเลย อยากออกไปเที่ยวสักหน่อยไหม”“คุณหมอไปไหนมาเหรอคะ”“ออกไปจัดการเรื่องห้องของคุณมายังไงล่ะ เขาบอกว่าจะย้ายห้องให้ อีกอย่างผมก็ไปเก็บของของคุณมาแล้ว เหลือแค่ให้พวกเขายกเข้ามาให้”“หมอคะ! ทำไมหมอต้องไปเก็บของของจิลมาด้วย”“ทำเหมือนไม่เคยทำไปได้ อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้แล้ว”“ไม่เกินไปหน่อยเหรอคะแบบนี้”“ตกลงจะไปกินข้าวข้างนอกไหม คืนนี้มีตลาดไนซ์พลาซ่าด้วย”“ไปสิคะ!”“งั้นก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำ เดี๋ยวผมจะไปเอากระเป๋ามาให้”“ก็ได้ค่ะ”จิลหันไปมองรอบ ๆ หมอคินน์รู้ว่าเธอมองหาผ้าเช็ดตัวหรือไม่ก็ชุด คลุมอาบน้ำ เขาจึงเดินไปเอาชุดคลุมในตู้มาให้เธอ“นี่ครับคุณผู้หญิง ลุกไหวหรือเปล่าให้ผมช่วยอุ้มไปอาบหรือว่าจะให้อาบให้ดี”“ไม่เอา! ถ้าหมออาบให้คงไม่ได้ไปง่าย ๆ แน่ คุณอาบแล้วไม่ใช่เหรอคะ”“อาบแล้วก็อาบอีกได้นี่นา”“ไม่ค่ะ เดี๋ยวจะเสียเ
จิลหน้าแดงก่ำขึ้นมาในทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจบอกรักเธอ แม้ว่าจะพูดเพราะต้องการง้อแต่ก็ทำให้คนที่ได้ฟังเริ่มใจอ่อนยวบลงไป ใช่ว่าเธอจะตัดใจจากเขาได้เสียเมื่อไหร่ ที่หนีมาถึงที่นี่ก็เพราะอยากจะพักหัวใจและอยู่ไกล ๆ จากข่าวคราวของเขาเท่านั้นเอง“คุณหมอพูดอะไรคะ จิลไม่…อ๊ะ!”เขาดึงเธอเข้ามากอดจนได้ จิลดันตัวออกแต่ก็สู้แรงของเขาไม่ได้“คุณหมอปล่อยจิลนะคะ”“ผมตามมาง้อเมียตัวเองไกลถึงเชียงใหม่ ถึงยังไงวันนี้ผมก็จะต้องง้อจนกว่าคุณจะยอม”“ปล่อยก่อนเรายังคุยกันไม่จบนะ แล้วเรื่องคุณนิราล่ะคะ”คณาธิปปล่อยเธอแต่ก็ยังจับมือเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย รู้ดีว่าในเมื่อมีโอกาสพูดแล้วก็ต้องพูดให้หมด เขาได้บทเรียนมาแล้วก่อนหน้านี้ว่าจิลใจแข็งมากขนาดไหนขนาดไปช่วยเขาแท้ ๆ เธอยังไม่ให้โอกาสเขาได้อธิบาย อีกครั้งก็งานเลี้ยงรุ่นที่ได้ไปรู้มาว่าเธอแอบชอบเขามานานมาก จิลอยู่ในทุก ๆ ช่วงชีวิตของเขามาโดยตลอดโดยที่คณาธิปไม่รู้ตัวเลย แต่ตอนนี้เมื่อรู้แล้วจะไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดมือไปอีกแน่นอน“ผมกับนิรารู้จักกันมาก่อนก็จริง แต่ว่าตอนที่เธอกลับมาเรื่องการหมั้นก็เป็นเรื่องที่แม่ผมพูดอยู่ฝ่ายเดียว นิราไม่ค่อยมีความสุ
สนามบินเชียงใหม่ คณาธิปลางานหนึ่งสัปดาห์เต็มเพื่อมาที่เชียงใหม่ มิ้นท์บอกว่าจิลมาพักผ่อนกับครอบครัวที่นี่ แต่ตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอก็บินไปเที่ยวต่อที่ภูเก็ต จิลไม่อยากไปจึงให้พ่อแม่ไปแค่สองคนเพราะยังอยากเที่ยวงานลอยกระทงต่อที่เชียงใหม่“อากาศเริ่มเย็นแล้ว ยัยลูกกวางนั่นขี้หนาวเสียด้วยจะทนได้เหรอ”หมอคินน์ตัดสินใจเช่ารถเพื่อจะได้สะดวกในการเดินทาง เขารู้จักเมืองนี้ดีเพราะมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนสนิทบ่อย ๆ และสมัยเรียนก็มักจะมาเที่ยวที่นี่ช่วงเทศกาลโรงแรม AA“ที่นี่สินะ”เขาเข้ามาที่โรงแรมซึ่งมิ้นท์บอกว่าเป็นที่พักของจิล แม้ว่าจะอยู่ไม่ห่างไกลจากตัวเมืองและค่อนข้างสงบ แต่เขาค่อนข้างชอบแบบนี้มากกว่าความวุ่นวายในเมือง อีกอย่างหากจะไปเที่ยวก็ขับรถไม่ไกลมาก“เช็คอินครับ”เขารับกุญแจห้องพักมาและเดินเอากระเป๋าไปเก็บ หลังจากนั้นก็เริ่มเดินสำรวจที่พัก ไม่นานก็พบกับคนที่เขาตามหามานานกว่าสองสัปดาห์ ทั้งคอนโดที่เคยอยู่ด้วยกันหอพักเพื่อนสนิทของเธอทุกคนรวมถึงมหาวิทยาลัยและคณะที่เธอเรียน เขาไปตามหามาทุกที่ที่คิดว่าจิลจะไป แต่กลับคว้าน้ำเหลวจนได้ความช่วยเหลือจากหมอจักรภพ“หนีมาไกลถึงนี่ หนีหัวใจต
“เรื่องนี้คงต้องเริ่มจากก่อนหน้านั้น ในเมื่อหนูนิราพูดชัดเจนว่าจะไม่หมั้นกับแก เรื่องการหมั้นนี้ก็คงไม่ต้องคุยอีก”“แล้วก่อนหน้านั้นละครับ เกิดอะไรขึ้นแล้วทำไมนิราถึงบอกว่าคุณแม่กีดกันผมกับจิล หรือว่า… มีอะไรที่ผมยังไม่รู้”คุณธิดารัตน์ถอนหายใจและเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา “ตอนที่แกไปสิงคโปร์ ครั้งนั้นแม่ไปหาเด็กที่ชื่อชมชนกที่คอนโดของแก และบอกให้เด็กคนนั้นออกไปจากชีวิตแกเพื่อหลีกทางให้นิรา”“อะไรนะครับ!! ทำไมคุณแม่ทำแบบนี้ละครับ แม่รู้ไหมว่าเรื่องนี้ทำให้จิล… ไม่สิ จิลไม่มีทางยอมรับง่าย ๆ แบบนี้ คุณแม่เอาอะไรไปข่มขู่เธอ ทำไมเธอถึงได้ยอมเลิกกับผมง่าย ๆ ถึงกับไม่ยอมติดต่อกับผมอีกเลย”“ตอนนั้นแม่คิดว่าแม่อยากเลือกคนที่ดีที่สุดให้แก พอมีเรื่องฟ้องร้องเกิดขึ้นหนูนิราก็กลับมาจากต่างประเทศพอดี แม่เลยคิดว่านิราจะช่วยแกได้ อีกอย่างทั้งฐานะทางสังคมและความรู้ของเธอ ก็เหมาะสมกับแกมากกว่าเด็กฝึกงานคนนั้นแม่ก็เลย…”“แม่ครับ แม่ขู่อะไรจิล”“แม่ก็แค่… ยื่นเงื่อนไขกับเธอว่าถ้าหากเลิกยุ่งกับลูก แม่จะไม่เอาเรื่องเพื่อนของเธอที่ชกลูกครั้งก่อน แต่ถ้าไม่ยอมเลิกแม่จะไม่เซ็นเอกสารผ่านการฝึกงานให้ และจะเอาเรื่องใ
จิลเดินหันหลังไปแล้ว เขาได้แต่มองเธอเดินขึ้นรถไปเงียบ ๆ โดยพูดไม่ออกเลยสักคำ สิ่งที่เธอพูดมาเป็นเรื่องที่เขาปฏิเสธไม่ได้ แม้ว่าจะนอนด้วยกันทุกคืนและตื่นมาพร้อมกับเธอ ตลอดสามเดือนที่มีเธอดูแล เขาไม่เคยบอกว่า “รัก” เธอออกไปเลยจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ารู้สึกยังไง“แกมันโง่ ทำไมแค่คำเดียวก็พูดออกไปไม่ได้ ก็สมควรแล้วที่ถูกทิ้ง”DND ผับ “อะไรนะ! แค่ไม่บอกว่ารักเนี่ยเหรอวะถึงกับทิ้งมึงไปเลย”“ไอ้หมาต้วน เบาได้เบาไอ้คินน์มันกำลังเครียด”“เชี่ย! มึงจะหาผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ได้นี่หว่า คนนี้ช่วยมึงได้คนอื่นก็น่าจะไม่มีปัญหาแล้ว ใช่ไหม”ศิลาหันไปมองต้วนและทำหน้าดุใส่ ต้วนจึงเงียบและยกแก้วขึ้นมาดื่มแทนเพราะรู้ตัวว่าเริ่มพูดมากเกินไปแล้ว ศิลาหันมามองหน้าหมอคินน์อีกครั้ง“ไอ้คินน์ นี่มึงจริงจังเหรอ”“ทำไมกูรู้ตัวช้าขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ทำไมไม่บอก แค่คำ ๆ เดียวถึงกับทิ้งกูเลยเหรอวะ มันสำคัญกว่าการกระทำของกูมากเลยเหรอ”“พี่คินน์บางทีผู้หญิงก็ไม่ได้ต้องการอะไรที่ยุ่งยากอย่างที่พี่คิดหรอกนะ เธอเคยเรียกร้องอะไรกับพี่เหมือนคนอื่น ๆ บ้างไหมละ”คินน์หันมามองหน้าอี้เฉิน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอี้เฉินจะรู้
댓글